มงฟอร์ตฯ สารมกราคม-กุมภาพันธ์ - MCP ·...

Mini Concert 2013คนเก่ง MCP

4 23งานประกาศเกียรติคุณนักเรียนดีเด่น

16

MONTFORT BOYZ ’56GRADUATION PARTY 2013

www.mcp.ac.th โทร.0-5325-2565 แฟกซ์ 0-5327-4640จุลสารโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย แผนกประถม

ฉบับที่มกราคม-กุมภาพันธ์6มงฟอร์ตฯ สาร

ประจ�าปีการศึกษา 2556

MCP Smart Kids

ส า ร บั ญ C o n t e n t s

จิตตารมณ์นกับุญหลุยส์ฯ 6

ท�าดีไม่ต้องรอ 6

แนะน�าศิษย์เก่ามงฟอร์ตวิทยาลัย 8

งานประกาศเกียรติคุณนกัเรียนดีเด่น 17

MCPevents 18

สิ่งที่ควรปลูกฝังลูกเสือ 23

MiniConcert2013 25

MCP’sToon 30

แนะน�าครูใหม่ 31

ทักทายจากทีมงาน

วัตถุประสงค์

1. เพื่อเผยแพร่ข่าวสารและกิจกรรมภายในโรงเรียนให้นักเรียนและผู้ปกครองได้รับทราบ

2. เพื่อเป็นสื่อกลางระหว่างโรงเรียนและผู้ปกครองในการสร้างความสัมพันธ์อันดีต่อกัน

3. เพื่อเปิดโอกาสให้ครู นักเรียน และผู้ปกครองได้แสดงผลงานของตนเองอันเป็นการสร้างสรรค์คุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้น

74

คนเก่งMCP

26

มงฟอร์ตฯ โรงเรียนที่เรารัก

ที่ปรึกษา

ภราดาศุภนันท์ ขันธปรีชา

ครูศรีกุล ยอดชุมภู

มาสเตอร์มณี ครไชยศรี

มาสเตอร์วัฒนา แสงสินธุ์

ครูวิรัชดา เลิศรมยานันท์

มาสเตอร์ธันวา สุวรรณชื่น

มาสเตอร์ชินโชติ สุภารัตน์

บรรณาธิการ


คณะผู้จัดท�า

มาสเตอร์อนุรักษ์ ศรีไม้

มาสเตอร์จุมพฏ สืบจ้อน

T.Chuchi G. Agustilo

ครูสมหญิง ฟูปัญญา

มาสเตอร์ภาคภูมิ สิงห์สา

ครูอรกนก เลิศธนาผล

ครูฉวีวรรณ ศรีอุทัย

ครูศันสนีย์ อินทขีณี

ครูตมิสา วิบูลย์เกียนติ

ขอขอบคุณ

ชมรมครูอาวุโส

กรรมการบริหารงานระดับชั้น

กลุ่มสาระการเรียนรู้ 8 กลุ่มสาระ

งานอภิบาล

งานลูกเสือ

สวัสดีผู ้อ ่านทุกท่าน ฤดูหนาวได้ผ่านพ้นไป

และเริ่มเข้าสู่ฤดร้อน การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ

อย่างรวดเร็ว น�ามาซึ่งโรคภัยไข้เจ็บ โรคที่มักระบาดและ

ป่วยกันมากในหน้าร้อนมีหลายโรคด้วยกันอาทิ โรค

อุจจาระร่วง อาหารเป็นพิษ ไข้หวัดหน้าร้อน โรคผิวหนัง

โรคพิษสุนัขบ้าโรคเครียดและการเป็นลมจากอากาศร้อน

อย่าลมืรกัษาสขุภาพกนัด้วยนะคะผ่านฤดกูารสอบไล่ไปแล้ว

นักเรียนชั้นป.6 รุ่นนี้เป็นนักเรียนชายล้วนรุ่นสุดท้าย

(รุ่น Boyz) ซึ่งพิธีอ�าลาสถาบันได้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 28

กุมภาพันธ์2557ที่ผ่านมาบรรยายกาศมีทั้งหยดน�้าตา

รอยยิ้มและความประทับใจขอให้ทุกคนโชคดีค่ะ

Graduation Party 2013“A Big Thanks to MCP”

School Director’s Message สารจากผู้อ�านวยการโรงเรียน


ผู้อ�านวยการโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย แผนกประถม

ขอขอบคุณ

ชมรมครูอาวุโส

กรรมการบริหารงานระดับชั้น

กลุ่มสาระการเรียนรู้ 8 กลุ่มสาระ

งานอภิบาล

งานลูกเสือ

จึงจ�าเป็นที่ทุกคนต้องมีสติ มุ่งมั่น ค้นหาสัจธรรมความหมายที่แท้จริงของการเกิดมามีชีวิต

ท�าหน้าที่เป็นมโนธรรมให้กับสังคม แล้วจึงขยายคุณค่าที่ค้นพบสู่รอบข้างให้เกิดความยุติธรรม

สันติสุข และความเจริญของส่วนรวมโดยมีแก่นแท้ของศาสนาเป็นที่ตั้ง

ปีการศึกษา 2556 ก�าลังสิ้นสุดลง ขอแสดงความยินดีกับนักเรียนชั้น ป. 6 ทั้ง 351 คน และนักเรียรทุกชั้นที่จบการศึกษาในปีนี้

เราทุกคนก�าลังอยู่ในยุคที่กระแสเครือข่ายออนไลน์เป็นเรื่องง่ายให้เราสื่อสารออกไปอย่างรวดเร็ว เป็นวงกว้าง และปริมาณพ้นขีดจ�ากัดเดิมๆ

ท�าให้สังคมที่มีวัฒนธรรมที่ดีสอดคล้องกับนวัตกรรมการสื่อสาร ได้รับสิ่งที่ดียิ่งขึ้นในเวลาอันรวดเร็ว เป็นวงกว้าง แต่สังคมที่มีวัฒนธรรมและ

บรรทัดฐานต่างๆ ยังไม่พร้อม เมื่อเข้าสู่โลกนวัตกรรมการสื่อสารเช่นนี้ก็อาจให้ผลที่ตรงกันข้าม เช่นปรากฏการสร้างกระแสด้วยการรู้ก่อน

แล้วกระจายโดยไม่สามารถกลับมาแก้ไขและรับผิดชอบให้ถูกต้องอย่างที่ควรเป็นได้ มากกว่าการพยายามรู้จริงเพื่อร่วมสร้างสังคมให้ดีขึ้น

สิ่งที่โรงเรียนมงฟอร์ตเน้นย�้าให้ครูและนักเรียนพร้อมเผชิญยุคของการถ่ายทอดพฤติกรรม ความคิดข้ามพรมแดนอย่างรวดเร็วเป็นวงกว้างนี้

คือการปลูกฝังความมีสติ คิดวิเคราะห์ บนพื้นฐานมโนธรรมตามหลักค�าสอนของศาสนา โดยเชื่อว่าเมื่อพื้นฐานทางจิตใจหนักแน่นและฝักใฝ่

ในความดี ก็สามารถต่อยอดในการใช้สารพัดความรู้ ทักษะ และท�าหน้าที่ให้เกิดความก้าวหน้าเจริญงอกงามเป็นมงคลแห่งชีวิต และเป็นคุณ

แก่สังคม

ดังนั้นในยุคที่คนแข่งกันรู้ก่อนแล้วกระจาย มีเป้าหมายขยายผลในสิ่งที่เพียงทราบมา หรือมีผลประโยชน์ทางการตลาด (Marketing)

จึงจ�าเป็นที่ทุกคนต้องมีสติ มุ่งมั่น ค้นหาสัจธรรมความหมายที่แท้จริงของการเกิดมามีชีวิต ท�าหน้าที่เป็นมโนธรรมให้กับสังคม แล้วจึงขยาย

คุณค่าที่ค้นพบสู่รอบข้างให้เกิดความยุติธรรม สันติสุข และความเจริญของส่วนรวมโดยมีแก่นแท้ของศาสนาเป็นที่ตั้ง

Montfort College Primary Section 3

Top 100

Out

stan

ding

Stu

dent

s

คณิตศาสตร์ ล�าดับที่ 1 ภาษาอังกฤษ ล�าดับที่ 1

คนเก่ง : MCP

ล�าดับ 1 ผลการสอบวัดคุณภาพนักเรียนในเครือมูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทย

โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย แผนกประถม ปีการศึกษา 2556

ผลการสอบวัดคุณภาพนักเรียนในเครือมูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทย

โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย แผนกประถม ปีการศึกษา 2556

คะแนนรวมสูงสุดติดอันดับ Top 100

ของมูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทย

ด.ช.ภัทรวรรธน์ กิจศักดิ์ ได้คะแนน 97.50% รายวิชา

คณิตศาสตร์ ล�าดับที่ 1 ของมูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียล

แห่งประเทศไทยจาก จ�านวนนักเรียน 3,484 คน

ด.ช.ธนกร ศิริพิพัฒนมงคล ได้คะแนน 96.25% รายวิชา

ภาษาอังกฤษ ล�าดับที่ 1 ของมูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียล

แห่งประเทศไทยจาก จ�านวนนักเรียน 3,468 คน

4 Montfort College Primary Section

ผลการสอบ ร้อยละ ล�าดับในโรงเรียน ล�าดับในคณะฯ

ด.ช.ภัทรวรรธน์ กิจศักดิ์ ป.3/1 220 78.57% 1 24

ด.ญ.นนทภร ศิรบรรจงกราน ป.3/9 219 78.21% 2 27

ด.ญ.พรลภัส อินทร์ฐานะ ป.3/1 214 76.43% 3 48

ด.ญ.ศิรพัชร ทองประไพ ป.3/1 212 75.71% 4 55

ด.ญ.กิรณา จ�าปาวัลย์ ป.3/4 211 75.36% 5 65

ด.ช.ชยุตพงศ์ การคนซื่อ ป.3/3 209 74.64% 6 79

ด.ช.นาอิ่ม ตยุติวุฒิกุล ป.6/7 280 75.68% 1 9

ด.ช.ปวเรศ ดิลกวุฒิสิทธิ์ ป.6/2 270 72.97% 2 29

ด.ช.ภูบดี กิตติวรรณ ป.6/1 266 71.89% 3 42

ด.ช.ธนดล ระงับพิษ ป.6/1 260 70.27% 4 59

ด.ช.ธนภัทร สีมาขจร ป.6/1 257 69.46% 5 79

ด.ช.กัญจณภัทร ใสสุข ป.6/5 255 68.92% 6 92

ด.ช.พุทธสถิตย์ ทุนประเสริฐ ป.6/4 254 68.65% 7 96

ด.ช.ปวริศ ดิลกวุฒิสิทธิ์ ป.6/4 253 68.38% 8 99

การแข่งขันงานศิลปหัตถกรรมนักเรียนครั้งที่ 63 ประจ�าปีการศึกษา 2556 เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี

การแข่งขันทางวิชาการระดับนานาชาติประจ�าปี พ.ศ. 2557

รางวัลเหรียญทองระดับประเทศการแข่งขันคิดเลขเร็ว ป.4-6

เด็กชายชยุต ระวังงาน ป.4/1 เลขที่ 54

รางวัลเหรียญทองวิทยาศาสตร์ระดับประถมศึกษา

เด็กหญิงณัฐวศา กล่อมแก้ว ป.5/2 เลขที่ 4

8 อาชีพสุดฮอตใน ASEAN คู่มือเอาตัวรอด AEC : ตอนที่ 3

การส�ารวจ

ทันตแพทย์ แพทย์

ความต้องการแพทย์ ความต้องการพยาบาล

สถาปัตยกรรม

รองรับการย้ายไปท�างานในประเทศอาเซียนได้ทันที

พยาบาล

ภาครัฐต้องการพยาบาล

ภาครัฐต้องการแพทย์

พยาบาลที่ผลิตได้ใน1ปีแพทย์ที่

ผลิตได้ใน1ปี

บัญชี บริการและการท่องเที่ยว

วิศวกรรม

พยาบาลรองรับอาเซียน

แพทย์รองรับอาเซียน

หนึ่งวิสัยทัศน์หนึ่งเอกลักษณ์หนึ่งประชาคม

ก า ร ร ว ม ตั ว กั น เ ป ็ น

ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน

หรือ AEC ในปี 2558 จะท�าให้

เกิดการเคลื่อนย้ายแรงงาน

ฝีมืออย่างเสรีระหว่างกันใน

อาเซียน โดย 8 กลุ่มอาชีพสุด

ฮอตต้อนรับ AEC.

“Top 10 ASEAN Universities in the 2013” 1. National University of Singapore

2. Nanyang Technological University

3. University of Malaya

4. Mahidol University

5. Chulalongkorn University

6. University of Kabangsaan Malaysia

7. University of Indonesia

8. University of Sains Malaysia

9. University of the Philippines

10. Universiti Teknologi Malaysia

ที่มา : h

ttps://w

ww.fa

cebo

ok.com

/infogr

aphic. th

ailand

The free movement of skilled labors and professionals will be starting when the AEC is completely

established on 2015. 8 occupations standard for ASEAN community are Medicine, Dentistry, Nursing,

Engineering, Accounting, Architecture, Surveying and Hospitality & Tourism.

Are y

ou r

eady

for

the A

EC o

n 2

015?

ผลการแข่งขัน กีตาร์ รางวัลชนะเลิศอันดับที่ 1 ด.ช.กันต์ เก่งสกุล ระดับชั้น

ป.6/6 รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 ด.ช.ธนกร นาฏงามข�า ระดับชั้น ป.5/6

ผลการแข่งขัน เปียโน รางวัลชนะเลิศอันดับที่ 1 ด.ญ.กนกรดา ช่างฝั้น ระดับ

ชั้น ป.5/4 รางวัลชมเชย ด.ช.พัชรพงษ์ จินดามณีพิทักษ์ ระดับชั้น ป.6/6

ผลการแข่งขัน ระนาดเอก เหรียญเงิน ด.ช.ภูบดี กิตติวรรณ ระดับชั้น ป.6/1

ผลการแข่งขัน ขิม เหรียญเงิน ด.ญ.กมลลักษณ์ เทพวงค์ ระดับชั้น ป.5/1

ผลการแข่งขันดนตรีรายการ ACT MUSIC FESTIVAL 2013จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 13 - 17 มกราคม 2557 ณ โรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี


ผลการสอบ ร้อยละ ล�าดับในโรงเรียน ล�าดับในคณะฯ

ด.ช.ภัทรวรรธน์ กิจศักดิ์ ป.3/1 220 78.57% 1 24

ด.ญ.นนทภร ศิรบรรจงกราน ป.3/9 219 78.21% 2 27

ด.ญ.พรลภัส อินทร์ฐานะ ป.3/1 214 76.43% 3 48

ด.ญ.ศิรพัชร ทองประไพ ป.3/1 212 75.71% 4 55

ด.ญ.กิรณา จ�าปาวัลย์ ป.3/4 211 75.36% 5 65

ด.ช.ชยุตพงศ์ การคนซื่อ ป.3/3 209 74.64% 6 79

ด.ช.นาอิ่ม ตยุติวุฒิกุล ป.6/7 280 75.68% 1 9

ด.ช.ปวเรศ ดิลกวุฒิสิทธิ์ ป.6/2 270 72.97% 2 29

ด.ช.ภูบดี กิตติวรรณ ป.6/1 266 71.89% 3 42

ด.ช.ธนดล ระงับพิษ ป.6/1 260 70.27% 4 59

ด.ช.ธนภัทร สีมาขจร ป.6/1 257 69.46% 5 79

ด.ช.กัญจณภัทร ใสสุข ป.6/5 255 68.92% 6 92

ด.ช.พุทธสถิตย์ ทุนประเสริฐ ป.6/4 254 68.65% 7 96

ด.ช.ปวริศ ดิลกวุฒิสิทธิ์ ป.6/4 253 68.38% 8 99

จิตตารมณ์นักบุญหลุยส์ฯ

ท�ำดี ไม่ต้องรอDO YOUR BEST NOW

เครียด-stress (v.) ประมาท-careless (n.) นักกีฬา-athlete (n.) ละอาย-shame (n.)

นักเรียนที่รักทุกคน นักเรียนคงจะคุ้นกับค�าว่า สติ แทบทุกครั้ง ที่อ่านบทความ

หรือ ฟังการอบรมหน้าแถว มาสเตอร์มักจะเน้นย�้ากับนักเรียนทุกคนว่า ไม่ว่าเราจะท�า

อะไรอยู่ก็ตาม เช่น เข้าแถว เดินแถวขึ้นห้องเรียน หรือไปเรียนวิชาต่างๆ เรียนหนังสือ

ทานอาหาร เล่น อ่านหนังสือ ดู TV ฯลฯ หากว่าเรามีสติ ในเวลานั้นๆ รู้ตัวว่าเราก�าลัง

ท�าอะไรอยู่ ใจจดจ่ออยู่กับสิ่งที่เราก�าลังท�าอยู่ เราก็จะท�าสิ่งนั้น ได้ดี เกิดความสุขกับ

สิ่งที่ได้ท�า และสุดท้าย ก็จะได้รับประโยชน์ ในสิ่งที่เราท�าอย่างเต็มที่ เช่น เข้าแถว เดินแถว

เราก็จะฝึกตัวเรา ให้เป็นคนมีระเบียบวินัย ทั้งในขณะที่เราเป็นนักเรียน และโตเป็นผู้ใหญ่

ในวันหน้า เรียนหนังสือในและนอกห้องเรียน เราก็จะเกิดความรู้ มีสติปัญญาที่ดี เล่นกีฬา

เราก็จะเป็นนักกีฬาที่ดี เก่ง พัฒนาความสามารถตลอดเวลา มีน�้าใจเป็นนักกีฬา รู้จักเป็น

ผู้ชนะที่ดี และผู้แพ้ที่ดี ฯลฯ

ท�าหน้าที่ด้วยสติและปัญญา เป็นอย่างไร ตัวอย่าง

ง่ายๆ ที่ใกล้ตัวเรามากที่สุดอย่างหนึ่ง ก็คือ การท�า

หน้าที่เป็นนักเรียน ถ้าหากเราคิดว่า เราเป็นนักเรียน

โดยเพียงแต่ แต่งเครื่องแบบนักเรียน แล้วมาโรงเรียน

ได้เงินจากผู้ปกครอง น�ามาซื้อข้าว ซื้อขนม ฯลฯ

ถึงเวลาเรียนก็เข้าห้องเรียน ท�างานตามที่ครูมอบหมาย

ให้เสร็จ ดีไม่ดี ถูกไม่ถูกไม่รู้ ขอให้มีส่งครู เพื่อให้พ้น

จากการถูกต�าหนิ ถูกหักคะแนน หรือจะได้ไม่อาย

เพื่อน..... ถ้าเป็นแบบนี้ ก็เรียกว่า ท�าหน้าที่อย่างไม่มี

สติและมีปัญญา

การท�าหน้าทีน่กัเรยีนอย่างมสีตแิละปัญญา อย่างแรก

เรารู้ว่าการเป็นนักเรียนนั้น เพื่ออะไร ควรจะท�าอะไรบ้าง

รู้ว่าเป็นเพื่อฝึกฝนตัวเองให้มีความรู้ รู้จักวิธีหาความรู้

น�าความรู้มาใช้ประโยชน์ เป็นคนดี มีระเบียบวินัย

รักเพื่อน เคารพพ่อแม่ ครู ท�าสิ่งที่ดีดี

ปฎิบัติได้ง่ายๆ เลย ถ้าเราแต่งเครื่องแบบนักเรียน

มาโรงเรียน และรับผิดชอบในหน้าที่ การเป็นนักเรียน

ด้วยสติ และ ปัญญา เราก็จะบรรลุเป้าหมายในการเป็น

นักเรียนของเรา และท�าหน้าที่ด้วยความสุข

ท�ำหน้ำที่ ด้วยสติและปัญญำ

นักรบพเนจร

คุณเป็นคนหนึ่งใช่มั้ย ที่ชอบคิดว่า มีเวลาเหลือเฟือในการท�าสิ่งต่างๆ ให้เสร็จ แทนที่จะท�าทันที ก็ขอเลื่อน

ออกไปก่อน มักจะบอกกับตัวเองอยู่เสมอว่า “ยังมีเวลา” และท้ายที่สุดก็ต้องมานั่งท�างานภายใต้แรงกดดัน เพื่อให้

เสร็จทันภายในเวลาที่เหลือน้อยนิด หรือ ควรใช้เวลาคิดเรื่องงานที่ต้องแก้ปัญหา แต่ก็ผลัดไปเรื่อยๆ บอกตัวเองว่า

ไม่รู้จะเริ่มอย่างไร เมื่อไรดี ถ้าคุณเป็นเช่นนี้ คุณก็คือคนที่ชอบ... ผัดวันประกันพรุ่ง.. นั่นเอง พฤติกรรมเช่นนี้ส่งผล

ต่อการด�าเนินชีวิตมาก เพราะเป็นการเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ ซึ่งเท่ากับก�าลังหลอกตัวเอง เพราะมันไม่

ได้ช่วยให้หลุดพ้นจากความจริงที่ว่า ต้องท�างานนั้นให้เสร็จ แต่มันยิ่งจะท�าให้เครียดหนักกว่าเดิม เพราะบางครั้งมี

งานรออยู่อีกมากมายที่ต้องท�าให้เสร็จ และบางทีก็ไม่อาจคาดเดาได้ว่า จะมีอุปสรรคอะไรเกิดขึ้นบ้างที่จะท�าให้งาน

ไม่เสร็จตามระยะเวลาที่ก�าหนด และมีบ่อยครั้งซึ่งเป็นเรื่องที่ตนเองอยากท�ามาก เพราะรู้ว่ามันจะช่วยให้บรรลุ

เป้าหมายหลักในชีวิตได้ แต่ก็ยังเลื่อน จนกระทั่งเลือน และลืมไปในที่สุด

ท่านนกับญุหลยุส์เป็นแบบอย่างของ การใช้ชวีติที่ไม่ประมาท เหน็คณุค่าของเวลา ช่วงนัน้ท่านต้องศกึษาเล่าเรยีน

เกิดข้าวยากหมากแพง หาเงินส�าหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการเล่าเรียน ท่านได้ไปรับจ้างเฝ้าศพอาทิตย์ละสามหรือสี่คืน

คืนละแปดชั่วโมง โดยท่านได้แบ่งเวลาออกเป็นดังนี้ สี่ชั่วโมงแรกท่านได้สวดภาวนาให้กับผู้ตาย สองชั่วโมงต่อมา

ท่านได้อ่านหนังสือบ�ารุงศรัทธา และสองชั่วโมงสุดท้ายท่านใช้เวลาในการเรียนหนังสือ หลังจากนั้นท่านก็ปฏิบัติ

หน้าที่ของท่านตามปกติในตอนกลางวันโดยไม่บกพร่องต่อหน้าที่ของตนเลย จากสิ่งที่นักบุญหลุยส์ได้ท�า ท่านได้

เป็นแบบอย่างและแสดงให้เรารู้จักใช้เวลาที่มีให้คุ้มค่ามากที่สุด ดีกว่าที่จะปล่อยเวลาสูญเปล่าไปเรื่อยๆ ทุกวัน

ดังนั้น เวลาที่เรามีอยู่ ... ทุกนาทีต่างก็มีความส�าคัญกับเราทั้งสิ้น เรามีแบบอย่างให้ดูแล้ว แต่ขึ้นอยู่กับว่าเรา

จะเลือกใช้เวลาของเราอย่างไร?....

เวลากับชีวิตของเราเองโดยงานอภิบาล ฝ่ายกิจการนักเรียน


ความรู้-knowledge (n.) ขาดแคลน-scarce (adj.) แบบอย่าง-exemplar (n.)

มงฟอร์ตฯโดย ม.เสน่ห์ ค�าวินิจ

ประธานชมรมครูอาวุโส

โรงเรียนที่เรารัก

ครั้งนี้ผมจึงใคร่ขอเขียนสรุปข้อมูลจากจดหมายของเด็กๆ ที่เคยเขียนถึงผม และผู้ปกครองบางคนให้ค�าแนะน�า (สมัยที่ผมเคยปฏิบัติหน้าที่เป็น

ครูใหญ่ของโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัยมาระยะหนึ่ง) ทั้งเด็กเล็กเด็กโตที่บอกว่า เขาอยากได้คุณครูแบบไหน ซึ่งก็ขอสรุปเขียนเป็นข้อๆ จะได้ง่าย

ต่อการเข้าใจ

1. มีความพอใจที่อยากเป็นครู คือต้องพอใจในอาชีพนี้ พอใจที่จะ

สอนให้ทั้งความรู้และสอนคนให้เป็นคนดี ไม่ใช่พอเข้าห้องเรียนทีไรก็บ่น

ทุกที “เกลียดชะมัดเลยเรื่องสอนเธอ...เบื่อ.....เบื่อ และพวกเธอนี่แหละ

ตัวยุ่ง ท�าให้ครูต้องปากเปียกปากแบะอยู่นี่ทุกวี่ทุกวัน... “เด็กไม่อยาก

ได้ยินครูบ่น”

2. มีความรู้ คอือย่างน้อยรูเ้รือ่งทีจ่ะสอน ไม่หวงัถงึเป็นถงึพหสูตูร

หรือแสนรู้ไปทั่วทุกเรื่อง หรือถ้าอะไรก็ไม่รู้ก็ไม่เป็นไร ยังไงๆ ก็ขอให้

รู้จักไปค้นหามาบอกเด็ก ไม่ใช่ท�าลืมตลอดปี (อย่างน้อยก็แนะให้ไปเปิด

Google หรือเว็บไซด์อื่นที่ให้ความกระจ่างผลงานวิจัย เรียนรู้เพิ่มเติมได้

เอาเอง)

3. มีคุณธรรม คือมีความพร้อมครบชุดทั้งจรยิธรรม ศลีธรรม

มโนธรรม และใจต้องกว้างไม่มองอะไรแคบๆ หรอืเข้าข้างตนเองจนเกนิไป

ทีส่�าคญัต้องให้ความส�าคญักบัเดก็ทกุคนเท่าเทยีมกนั ไม่ล�าเอยีง เลอืกทีร่กั

มักที่ชังไม่ใช่คนไหนประจบก็รัก คนไหนกระด้างก็เกลียดไม่คิดแก้ไขให้

เด็กเป็นคนอ่อนโยน ต�าหนิอย่างเดียวแล้วใครจะอยากให้สอน

4. รู้จักเด็กที่สอน โดยยอมรับว่าเด็กทุกคนไม่เท่าเทียม ไม่ว่าจะ

ด้านสติปัญญา อารมณ์ ร่างกาย จิตใจและฐานะทางครอบครัว อาชีพ

ของบิดามารดา ซึ่งแตกต่างกันทั้งกรรมพันธุ์และโอกาส เป็นการ

ยอมรับตามสภาพของเด็กแต่ละคน และพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือ

ไม่ว่าเด็กจะมั่งมีล้นฟ้า หรือยากจนขาดแคลน มีความหม่นหมอง

เสื้อผ้าเก่าๆ พ่อแม่มีอยู่ไม่ครบ ครอบครัวแตกแยก เคยพบการจาก

พรากที่สุดแสนล�าเค็ญ หรือฉลาดเป็นเซียน หรือโง่เป็นตุ่น ฯลฯ

5. ครูต้องไม่เอาปมด้อยของลูกศิษย์ไปวิพากษ์วิจารณ์ หรือน�า

ข่าวไปเที่ยวไล่บอกใครต่อใคร ยกเว้นเป็นกรณีปรึกษาหารือเพื่อช่วย

เหลือเด็ก หรือเข้าสอนทีไรพูดแต่เรื่องส่วนตัวความส�าเร็จของครอบครัว

อวดแต่ลูกของตัวครูเอง

6. มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีกับเด็ก ครูต้องรู้จักเอาใจเด็กมาใส่ใจครู

เคยสมมตคิรเูป็นเดก็แล้วชอบครแูบบไหน ครทูีด่จีงึควรจะรูจ้กัตงึบ้าง

หย่อนบ้างไม่ดเุหมอืนเสอื แต่ก็ไม่ใช่ใจดเีกนิเหตจุนดเูหมอืนหม ู อย่างน้อย

ก็อย่าถือตัวเกินไปเป็นกันเองกับเด็กบ้าง เข้าหาง่ายเพื่อสอบถามความ

รู้ความเข้าใจ เรียกว่าใช้พรหมวิหารเป็นหลัก

7. มีความสามารถในการถ่ายทอดวิชา ข้อนี้ส�าคัญกับเด็กมาก

ถ้าครูสอนเด็กไม่รู้เรื่องเด็กจะเบื่อและพาลเกลียดวิชานั้น ครูพึงรู้จัก

พูดจาให้ชัดเจนไม่คลุมเครือ สอนไปแบบมั่วๆ ไม่ร�าคาญต่อการที่เด็ก

ซักถาม สอนผิดต้องขอโทษและแก้ไขทันที (อย่าให้เด็กต้องไปถาม

ผู้ปกครองและได้ค�าตอบคนละอย่าง ความศรัทธาน่าเชื่อถือจะลดลง

ทันที)

8. มีบุคลิกดีแต่งตัวดูดีแบบคุณครูดูสุภาพเรียบร้อยไม่ตามแฟชั่น

จนเกินไปให้เด็กวิจารณ์ ท่าทางต้องดี มีท่าทีที่เด็กอยากเข้าใกล้ไม่ใช่

เห็นแล้วอยากวิ่งหนีให้สุดขอบโลก เหมือนเจอแดรกคูล่า

9. มีวินัย รู้จักบังคับตนเองในด้านการพูดการกระท�าเช่นตรง

ต่อค�าพูด ตรงต่อเวลาเคารพกฎเกณฑ์ไม่ละเมิดโดยไร้เหตุผล อย่าเห็น

แก่ประโยชน์ส่วนตนจนลืมความเป็นธรรมส�าหรับเด็ก

10. เป็นแบบอย่างที่ดี ทั้งในด้านความคิด รสนิยมความประหยัด

นิสัยใจคอร่าเริงแจ่มใส ถ้าเปรียบครูเหมือนตลาดก็ต้องเป็นตลาดระดับ

ซุปเปอร์มาร์เก็ต คือมีแต่สินค้าคุณภาพให้เลือกซื้อเลือกหา

11. สุขภาพดี ไม่ใช่ต้องหาหมออาทิตย์ละสามสี่วันหรือเวลาสอน

ก็นั่งไอแค้กๆ หรือสั่งขี้มูกยังกับลอดช่องแล้วป้ายลงข้างตัวเพื่อให้เด็ก

ได้มีโอกาสคลื่นเหียนเวียนหัวโดยทั่วหน้ากัน หรือพูดทีน�้าลายแตกฟอง

เป็นละอองน�้าพุแถมเหม็นอีกต่างหาก

12. ทันต่อเหตุการณ์ ไมใช่ทันต่อแฟชั่น ใส่กระโปรงแบบสาวร�าวง

ต้องเรียนรู้เท่าทันกับวิชาการที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งปัญหาทางเศรษฐกิจ

การเมืองและสังคม การปฏิรูปการเรียนเปลี่ยนวิธีการสอนรู้และเข้าใจ

การใช้เทคโนโลยีอุปกรณ์ประกอบการสอน ฯลฯ

13. รู้จักประยุกต์วิชาการให้เข้ากับการปฏิบัติ เป็นการสอนสภาพ

ความเป็นจริงของชีวิตให้เข้ากับวิชาการ เช่นชายหญิงทุกคนเท่าเทียม

กัน แต่ผู้หญิงควรอยู่ในกรอบ จะไปไหนมืดๆ ค�่าๆ คนเดียวไม่ได้ เพราะ

จะมีอันตราย

14. มีเหตุผล ที่ส�าคัญต้องสอนให้ลูกศิษย์รู้จักคิดวิเคราะห์ มีเหตุ

มีผลใช้ปัญญาประกอบความรู้ในการตัดสินแยกแยะดีออกจากชั่ว ใช้ค�า

พูดที่เป็นมิตรไม่ก้าวร้าว เป็นการพูดจาภาษาดอกไม้ไม่ใช่ดอกหมามุ่ย

ฟังแต่ละทีแสบเข้าไปถึงกระดองใจ

ถ้าคุณครูและลูกศิษย์ได้อยู่ในบรรยากาศการเรียนการสอนเช่นนี้

ทั้งคุณครูมาสเตอร์และเด็กคงจะมีแต่ความสุขในการเรียนการสอน

ตลอดไป สอนทั้งเจ็ดวันยังได้ไม่มีเบื่อ

เ ส น ่ ห ์ ข อ ง คุ ณค รู อาชีพครูอาจารย์หรือมาสเตอร์ไม่ใช่เป็นกันได้ทุกคน เพราะเป็นอาชีพที่ต้องใช้ความสามารถ ความอดทนพอควรเนื่องจากเป็นอาชีพที่ต้องคลุกคลีกับเด็กทุกระดับ อายุ เพศ สติปัญญาแตกต่างกันนั่นเอง


MONTFORT COLLEGE ALUMNI

แนะน�ำศิษย์เก่ำมงฟอร์ตวิทยำลัย

ความประทับใจต่อศิษย์เก่าโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย

ในวารสารฉบับล่าสุด ได้เขียนถึงศิษย์เก่าที่ประทับใจและได้สร้างคุณงามความดี จนประสบความส�าเร็จในการประกอบอาชีพ

ในหน้าที่การงาน ในวงสังคมระดับภูมิภาค ระดับประเทศและระดับนานาชาติให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง ท่านทั้งหลายที่ได้เคยแนะน�า

ไว้ในวารสารฉบับก่อนนั้น ได้ช่วยท�าคุณประโยชน์ให้แก่โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัยหลายอย่างที่ไม่สามารถน�ามาเอ่ยอ้างได้ทั้งหมด

และยังมีศิษย์เก่าอีกหลายท่านที่จะต้องแนะน�าให้เป็นที่รู้จักในวารสารฉบับต่อๆ ไป

ส่วนในวารสารฉบับนี้ จะขอแนะน�าคณะบุคคลผู้ที่เคยด�ารงต�าแหน่งเป็นนายกสมาคมศิษย์เก่ามงฟอร์ตวิทยาลัย ตั้งแต่เริ่มต้นการ

ก่อตั้งสมาคมศิษย์เก่ามาจนถึงปัจจุบันขณะนี้ เพื่อแนะน�าให้คนรุ่นหลังได้รู้จัก ได้ส�านึกในคุณงามความดี และความเสียสละของท่าน

ทั้งด้านก�าลังกาย ก�าลังทรัพย์อีกทั้งท่านยังได้เสียสละเวลามาท�าหน้าที่ร่วมกับคณะกรรมการท่านอื่นๆ ในสมัยที่ด�ารงต�าแหน่งนายก

สมาคม เพื่อด�าเนินกิจการบริหารสมาคม ท่านเป็นผู้น�าศิษย์เก่ามงฟอร์ตวิทยาลัยรุ่นแล้วรุ่นเล่าต่อเนื่องกันมาจนถึงปัจจุบัน ดังมีราย

นามต่อไปนี้

ด ้วยการปลูกฝ ังให ้ลูกศิษย ์ขยันหมั่นเพียรในด ้านการเรียน การท�างานความรักเพื่อนสนิทมิตรสหาย ความเสียสละและ

ความกตัญญูต่อโรงเรียน การใช้ชีวิตอยู่ในโรงเรียนอย่างมีความสุข สนุกสนานของบรรพชนคนรุ่นก่อนๆ ซึ่งมีคณะภราดาเซนต์คาเบรียล

ที่ได้หมุนเวียนกันมาบริหารจัดการ เรื่องหลักสูตรการเรียนการสอนการจัดกิจกรรมของโรงเรียน การอบรมสั่งสอนของมาสเตอร์

และคุณครู จึงท�าให้โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัยเป็นที่ยอมรับของผู้ปกครอง ของนักเรียนและสังคมทุกระดับได้อย่างกว้างขวางมั่นคงตลอดมา

ปี พ.ศ.ด�ารงต�าแหน่งนายกสมาคม

1 นายธรรม ชุติมา 2490 - 2510

- สมาคมฯไม่มีการด�าเนินกิจกรรม 2511 - 2514

2 นายประวิทย์ ตันตรานนท์ 2515 - 2516

3 นายแพทย์สมโภช นิมากรณ์ 2517 - 2520

4 นายธวัชวงศ์ ณ เชียงใหม่ 2521 - 2522

5 นายจุลทัศน์ กิติบุตร 2523 - 2524

6 นายศรีสวัสดิ์ อาวิพันธ์ุ 2525 - 2528

7 นายธัญ การวัฒนานนท์ 2529 - 2532

8 นายไพศาล จันเตยูร 2533 - 2534

9 นายรงคฤทธิ์ ญานวุฒิ 2535 - 2536

10 นายอนุสรณ์ วงศ์วรรณ 2537 - 2540

11 นายศิริพงษ์ ไชยวงศ์ 2541 - 2544

12 นายวีระพล สุริยะศักดิ์ 2545 - 2546

13 นายศุรพงศ์ พงศ์เดชขจร 2547 - 2548

14 นายดนุชา สุจริตรักษ์ 2549 - 2552

15 นายณรงค์ คองประเสริฐ 2553 - 2554

16 นายสราวุธ แซ่เตี๋ยว 2555 - 2556

17 นายอาคม สุภางค์เผ่า ปัจจุบัน

1 2 3 4

5 6 7 8

13 14 15 16

17

ต่อจากวารสารฉบับที่แล้ว

9 10 11 12


โดย...มาสเตอร์เสน่ห์ ค�าวินิจ

ประธานชมรมครูอาวุโสโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย

เกร็ดความรู้ MCP

10n คือ 10 หรือ 100 หรือ 1,000 ... ตัวเลขเหล่านี้ถ้าน�าไปเป็นตัวหาร จะได้ผลหารเป็นตัวเลขชุดเดียวกับตัวตั้งแต่ต�าแหน่งทศนิยมถูกเลื่อนไปทางซ้าย เท่ากับจ�านวนเลข 0 ของตัวหาร เช่น

เทคนิคการหารด้วย

หารด้วย 10 ตัวหารมีเลข 0 หนึ่งตัว ได้ผลหารเป็นเลขชุดเดียวกับตัวตั้งแต่ต�าแหน่งทศนิยมถูกเลื่อนไป

ทางซ้าย 1 ต�าแหน่ง

หารด้วย 100 ตัวหารมีเลข 0 สองตัว ได้ผลหารเป็นเลขชุดเดียวกับตัวตั้งแต่ต�าแหน่งทศนิยมถูกเลื่อนไป

ทางซ้าย 2 ต�าแหน่ง

หารด้วย 1,000 ตัวหารมีเลข 0 สามตัว ได้ผลหารเป็นเลขชุดเดียวกับตัวตั้งแต่ต�าแหน่งทศนิยมถูกเลื่อน

ไปทางซ้าย 3 ต�าแหน่ง ถ้าจ�านวนหลักของตัวตั้งไม่พอให้เติม 0

หารด้วย 10,000 ตัวหารมีเลข 0 สี่ตัว ได้ผลหารเป็นเลขชุดเดียวกับตัวตั้งแต่ต�าแหน่งทศนิยมถูกเลื่อนไป

ทางซ้าย 4 ต�าแหน่ง ถ้าจ�านวนหลักของตัวตั้งไม่พอให้เติม 0

เนื่องจากการหารด้วยตัวเลขในกลุ่ม 10n นั้นหาผลหารได้ง่าย เราจึงพยายามแปลงตัวหารให้เข้ามาอยู่ใน

กลุ่ม 10n โดยอาศัยคุณสมบัติที่ว่า เมื่อคูณตัวตั้งและตัวหารด้วยเลขคงที่ตัวเดียวกัน ผลหารจะไม่เปลี่ยนแปลง

ตัวอย่างที่ 1 ตัวหารเป็น 50 สามารถแปลงให้เป็น 100 โดยคูณด้วย 2 ถ้าคูณ 2

ที่ตัวหาร ต้องคูณ 2 ที่ตัวตั้งด้วยเพื่อให้ผลหารไม่เปลี่ยนแปลง

ตัวหารกลายเป็น 100 ท�าให้หาผลหารได้ง่าย

723 x 2 = 1,446 เมื่อหารด้วย 100 จะได้ผลหารเป็นเลขชุดนี้ แต่

ต�าแหน่งทศนิยมถูกเลื่อนไปทางซ้าย 2 ต�าแหน่ง

ตัวอย่างที่ 2 ตัวหารคือ 25 สามารถแปลงให้เป็น 100 โดยคูณด้วย 4 ต้องคูณทั้งตัวตั้ง

และตัวหารเพื่อให้ผลหารไม่เปลี่ยนแปลง

น�า 4 ไปคูณ 312 หาค�าตอบได้ง่ายกว่า น�า 25 ไปหาร 312

ค�าตอบของการหารด้วย 100 คือใส่ทศนิยม 2 ต�าแหน่ง

แม้ว่าจะไม่สามารถแปลงตัวหารให้อยู่ในรูป 10n แต่ถ้าสามารถแปลงให้ตัวท้าย

เป็น 0 ก็ได้ประโยชน์จากคุณสมบัติของ 10n เพราะถ้าตัวท้ายเป็น 0 แสดงว่ามี

10 เป็นตัวประกอบ

น�า 2 ไปคูณ 15 เพื่อแปลงตัวหารให้ลงท้ายด้วย 0 เนื่องจาก 15 x 2 = 30

เมื่อคูณ 2 ที่ตัวหารแล้ว ต้องคูณ 2 ที่ตัวตั้งด้วยเพื่อให้ผลหารไม่เปลี่ยนแปลง

น�า 30 มาแยกตัวประกอบจะได้ 3 x 10

น�า 10 ไปหาร 696 ได้ 69.6

น�า 3 ไปหาร 69.6 ได้ผลหารคือ 23.2

กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ฝ่ายวิชาการMontfort College Primary Section 9

เมล็ดต้อยติ่ง : เม็ดเป๊าะแป๊ะของเด็กไทยหลายคน โดย

เฉพาะเด็กบ้านทุ่ง จะหัวมุงกันทีเดียว ในเวลาที่เอาเมล็ด

ต้อยติ่งมาใส่ในกาละมังใส่น�้า เพราะมันจะแตกดังเป๊าะแป๊ะ

สร้างความบันเทิงใจได้ดีเลยล่ะค่ะ แต่บางคนก�าไว้นานๆ

ระเบิดใส่มือให้เจ็บๆ คันๆ ก็มี

ตุ๊กตากระดาษ : ชิ้นนี้เหมาะส�าหรับเด็กหญิงตัวน้อย พบได้

ทั่วไปตามหน้าโรงเรียน บรรดาคนขายจะคัดสรรแบบใหม่ๆ

มาแขวนขายยั่วยวนใจ เมื่อซื้อไปเล่นแล้ว นอกจากจะมีชุด

ใหม่มาอวดกัน ยังมีสารพัดบทบาท จะต้องเล่นเป็นพ่อแม่

หรือเพื่อน หรือเป็นดาราในละครดังช่วงนั้นๆ

กระโดดยาง : เป็นของเล่นที่มีกันทุกโรงเรียน ชนิดที่ว่าถ้า

บรรจุในโอลิมปิกเกมส์ ประเทศเราจะมีนักโดดยางทีมชาติ

จ�านวนมาก การเล่นมีกันหลายแบบ แต่ส่วนใหญ่จะเล่น

กระโดดข้าม ตั้งแต่ขั้น อีตุ่ม อีเข่า ขอบตูด บั้นเอว ดุม

หนึ่ง (หน้าอก) และสูงสุดยกสุดแขน ซึ่งต้องใช้ลีลาตีลังกา

เอาปลายหัวแม่โป้งเกี่ยวยางลงมาให้ได้ ส่วนใหญ่นักเรียน

หญิงจะเล่นเก่ง

เป่ากบ : ของเล่นบ้านๆ เอายางวง เลือกตัวสวยๆ แล้วเอา

มาเป่าแข่งกัน มีทั้งเป่าเดี่ยวดวลตัวๆ ให้กินกันก็ชนะ หรือ

เป่ากอง ใครชนะก็กวาดยางไปร้อยข้อมือ ระดับเซียนต้องมี

ยางวงร้อยข้อมือยันข้อศอก

เป่ารางดินน�้ามัน : อันนี้สร้างจินตนาการสุดยอด และยัง

ต้องปั้นรางเนียนๆ อาจมีเนิน มีหลุมบ้าง เพื่อสร้างความ

เร้าใจของรางดินน�้ามัน แล้วใครเป่าผ่านด่านเข้าเป้าได้ก่อน

ก็ชนะไปค่ะ

หมากเก็บ : สมัยก่อนโน้นคงเป็นการเก็บก้อนหินเนียนๆ

มาเล่นกันแบบธรรมดา วัสดุหาได้ไม่ยาก แต่สมัยนี้เล่น

เป็นโซ่ที่น�ามาต่อกันให้ได้ครบ ๕ ห่วง ล้อมวงกันใน

ห้องเรียนก็สนุกดีค่ะ

ของเล่นเก่าแต่เก๋าย้อนวัยกับ

ของเด็กไทยสมัยก่อน นักเรียนเคยเล่นบ้างหรือเปล่า?

ดีดลูกแก้ว : เชื่อว่าเด็กๆ หลายคนคงต้องเคยเล่นกัน

อย่างแน่นอนค่ะ กติกาง่ายๆ คือต้องหาหลุม แล้วดีดลูก

แก้วให้ลงหลุม ใครลงก่อนก็สามารถดีดให้คนอื่นตายได้

ใครตายก็อาจโดนกินลูกแก้วไป แต่กติกาก็มีการ

เปลี่ยนแปลงไปบ้างแล้วแต่จะตกลงกันค่ะ

หน้ากาก : จ�าได้ว่าสมัยก่อนเคยฮิตมากๆ เด็กบางคน

ถึงกับพกมาโรงเรียน เพื่อมาเล่นสวมบทบาทเป็นตัว

ละครนั้นจริงๆ เช่นหน้ากากเซเลอร์มูน ก็จะมาแสดง

ท่าทาง ปราบเหล่าร้าย เมื่อมองกลับไปสมัยนั้นก็ฮาตัว

เองไม่น้อยเลยล่ะค่ะ

ตุ๊กตุ่น : จ�าได้ว่าสมัยก่อนจะขายแบบใส่โหลไว้ เป็น

ที่นิยมอย่างมากในหมู่เด็กผู้ชาย มีหลากหลายแบบ

หลากหลายสีให้เลือกสะสมกัน และน�ามาแข่งกันตาม

กติกาที่ก�าหนดขึ้น

เขี่ยไพ่ : ไพ่ที่เห็นกันนี้เป็นสติ๊กเกอร์ที่แถมมาจากขนม

ไม่รู้ว่าท�าไมถึงเรียกว่า “เขี่ยไพ่” กติกาเกมนี้จะแตกต่าง

กันไปไม่ว่าจะต้องเขี่ยให้ไพ่ทับกัน หรือตบให้ไพ่คว�่า

ใครแพ้ก็โดนกินไพ่ไป

เด็กๆ คนไหนยังจ�าสิ่งของเหล่านี้ได้บ้าง หรือรู้จัก

ทั้งหมดเลย นับว่าไม่ธรรมดาจริงๆ แต่ตอนนี้ของเล่น

พวกนี้ใกล้จะหายไปหมดแล้วเพราะการมาแทนที่ของ

เทคโนโลยี ซึ่งก็ท�าให้บรรดาของเล่นสมัยเก่ากลายเป็น

ความทรงจ�าที่ติดตราตรึงใจในความทรงจ�าวัยเด็กตลอด

ไป

ส่วนสมัยนี้ก็คงอยู่แต่หน้าคอมล่ะมั๊งว่ามั๊ย!!!!!!!

ที่มา www.teenee.com

วนันีม้เีรือ่งราวทีน่่าสนใจมาบอกกนัอกีแล้ว กบัเรือ่งราวของของเล่นต่างๆ ช่วงวยัเดก็

ไม่รู้ว่าจะเกิดทันกันหรือเปล่า บางคนก็อาจคุ้นเคย และเล่นกันจนเซียนแล้ว จะมีอะไรบ้าง

ลองไปดูกันเลยนะคะ....

10 Antique toys never die

เกร็ดความรู้ MCPกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โดยครูฉวีวรรณ ศรีอุทัย

เมล็ด-seed (n.) กาละมัง-basin (n.) ฮิต-popular (adj.)


นอกจากจะท�าให้นิ้วมือหนาขึ้น ยืดหยุ่นขึ้นเพื่อป้องกันปลายนิ้วมือจาก

การบาดเจ็บ ฉีกขาด รวมถึงใช้เก็บความชื้นและดูดซึมได้ดีแล้ว ในทาง

นิติวิทยาศาสตร์ ลายนิ้วมือเหล่านี้ช่วยในการจับหาคนผิดได้ด้วย หลาย

คนคงสงสัยว่าแค่ลายนิ้วมืออย่างเดียวถึงกับจับคนผิดมาลงโทษได้ยังไง

ก็เพราะลายนิ้วมือของแต่ละคนไม่เหมือนกันเลยนั่นเอง ดังนั้นถ้าตรวจ

สอบลายนิ้วมือได้ก็หาตัวคนร้ายได้ไม่ยากเหมือนกัน

มาถึงตรงนี้ สิ่งหนึ่งที่น้องๆ คงอยากรู้แล้วล่ะว่าจะเป็นไปได้จริง

หรือเปล่าที่ลายนิ้วมือคนทั้งโลกจะไม่เหมือนกันเลย อย่างนี้ก็แสดงว่า

คนทั้งโลกมี 7,000 พันกว่าล้านคน นิ้วมือคนละ 10 นิ้ว ก็จะมีลายนิ้วมือ

70,000 กว่าล้านลายเลยหรอ อ๊ะๆ เรื่องนี้ เป็นยังไงลองมาดูกันเลยค่ะ

หากแบมือออกก็จะเห็นว่าบนมือของเราเต็มไปด้วยเส้น และที่

ปลายนิ้วของเราก็จะมีเส้นเล็กๆ นูนๆ พาดผ่านอยู่ทุกนิ้ว ส่วนนี้แหละ

ค่ะคือลายนิ้วมือ ลายนิ้วมือเกิดขึ้นตั้งแต่ตอนเป็นทารกในท้องแม่เลย

และจะเป็นแบบนั้นไม่เปลี่ยนแปลงไปจนกว่าเราจะตาย มีสิ่งเดียวที่อาจ

จะเปลี่ยนได้คือ ขนาด ที่จะเปลี่ยนตามขนาดร่างกายของเรานั่นเอง

ลายนิ้วมือของคนเราแบ่งเป็น 4 แบบหลักๆ คือ แบบพับหวาย

แบบก้นหอย แบบโค้ง และแบบผสม โดยแบบพับหวายจะพบมาก

ที่สุด คือ ประชากรประมาณ 60-70% ทีเดียวค่ะ และ

คุณสมบัติอีกข้อที่น่าทึ่งคือ แต่ละคนจะมีลายนิ้วมือ

ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว แต่ละคนจะมีลายนิ้วมือ

ต่างกันแม้กระทั่งจะเป็นฝาแฝด หรือ พ่อแม่ญาติพี่

น้องก็ตาม หลายประเทศจึงมีการบันทึกลายนิ้วมือ

ของประชาชนเอาไว้เพื่อเป็นประวัติส่วนกลางด้วย

อย่างเช่นประเทศเกาหลี อายุครบ 18 ปีเมื่อไรต้องท�า

บัตรประชาชนและถูกเก็บลายนิ้วมือทั้ง 10 นิ้วไว้ในแฟ้ม

ข้อมูล

สาเหตุที่ทุกคนมีลายนิ้วมือต่างกัน เป็นผลมาจากรหัส

พันธุกรรมที่ซับซ้อนจึงท�าให้โอกาสที่จะมีลายนิ้วมือตรงกันน้อยมาก

หรือแทบไม่มีเลย จากที่เคยมีการศึกษาพบว่าจะเกิดขึ้นซ�้ากันประมาณ

1 ใน 6 หมื่นล้านคน ซึ่งมากกว่าจ�านวนประชากรของโลกอีกแน่ะ ดังนั้น

โอกาสที่พบคนลายนิ้วมือเหมือนกันเรียกได้ว่าต้องเกิดแล้วตายประมาณ

8 รอบถึงจะเจอคนที่ลายนิ้วมือตรงกันได้

ด้วยเหตุผลนี้เองกระบวนการหาลายนิ้วมือในพื้นที่เกิดเหตุทั้งจาก

สิ่งของ ผนังก�าแพงต่างๆ จึงเป็นวิธีส�าคัญของการพิสูจน์หลักฐานหา

คนร้าย เพราะปกตินิ้วมือของเราจะมีทั้งเหงื่อ ฝุ่น สะสมอยู่ เวลาเอานิ้ว

ไปจับสิ่งของก็จะปรากฎลายนิ้วขึ้นมา เช่น จับแก้ว บนแก้วใบนั้นก็จะมี

ลายนิ้วมือแฝงที่บอกได้ว่าใครเป็นคนจับ ดังนั้นถ้าเอาไปเทียบในแฟ้ม

ประวัติก็จะจับคนร้ายได้อย่างไม่ผิดตัวค่ะ

ส�าหรับวิธีการตรวจสอบลายนิ้วมือ เจ้าหน้าที่จะใช้ผงฝุ่น เช่น

อะลูมิเนียมหรือผงคาร์บอน โรยไปที่บริเวณที่อยากตรวจสอบ แล้วใช้

แปรงพู่กันปัดออกเบาๆ รอยนิ้วที่ชื้นๆ จะดูดจับผงที่โรยเอาไว้ที่ให้มอง

เห็นเป็นรอยค่ะ หลังจากนั้นก็เอาเทปใสไปแปะแล้วลอกขึ้นมา หาเทป

หรือผ้าเทปประกบอีกด้านไม่ให้รอยหลุดออก เพียงเท่านี้ก็ได้ลายมือนั้น

ไปตรวจสอบได้เลย สุดยอดมากๆ

กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ฝ่ายวิชาการเกร็ดความรู้ MCP

นิ้วมือ -finger (n.) ลายนิ้วมือ-finger print (n.) ฝาแฝด-twin (n.)

ทราบหรือเปล่าว่า “ลายนิ้วมือ” ที่ขดไปขดมาบนนิ้วมีประโยชน์อะไรบ้าง?...

คนบนโลกนี้ ไม่มีลายมือซ�้ากัน

เชื่อหรือไม่!Believe it or not ?

if finger print

is not in this world


ความงาม-beauty (n.) แรงดลใจ -impulsion (n.) จิตรกรรม-painting (n.) ประติมากรรม-sculpture (n.)

กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปศึกษา ฝ่ายวิชาการ เกร็ดความรู้ MCP

แห่งความงาม

1. ความงามที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เป็นความงามที่ปรากฏขึ้นเอง

ตามธรรมชาติของสิ่งต่างๆ เช่น ความงามของดวงอาทิตย์ยามรุ่งอรุณ

และยามอัสดง ความงามของดวงจันทร์ในคืนวันเพ็ญ ความงามของ

ภูเขา ต้นไม้ ดอกไม้ ที่สัมพันธ์กลมกลืนกับบรรยากาศ ความงามของ

สัตว์และพืชใต้ทะเลที่มีรูปร่างและสีสันสดสวย ความงามของนกยูงเวลา

ร�าแพน ความงามของลักษณะสีขนไก่หรือขนนก ความงามในลวดลาย

และสีสันของแมลง เป็นต้น

แสดงความงามของดวงอาทิตย์ยามรุ่งอรุณและยามอัสดง

แสดงความงามของดวงจันทร์ในคืนวันเพ็ญ

ความงามของภูเขา ต้นไม้ ดอกไม้ ที่สัมพันธ์กลมกลืนกับ

บรรยากาศ

แสดงความงามของสัตว์และพืชใต้ทะเลที่มีรูปร่างและสีสันสดสวย

แสดงความงามของนกยูงเวลาร�าแพน ความงามของลักษณะสีขน

ไก่หรือขนนก

ความงามในลวดลายและสีสันของแมลง

2. ความงามที่เกิดขึ้นจากการสร้างสรรค์ของมนุษย์ เป็นความงามที่มี

ผลมาจากธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นแรงดลใจในการสร้างสรรค์และ

ถ่ายทอดออกมาเป็นผลงานศิลปะที่มีความงาม เช่น งานจิตรกรรม งาน

ประติมากรรม และงานสถาปัตยกรรม เป็นต้น

ผลงานจิตรกรรมของ 2 ศิลปิน ประเทือง เอมเจริญ “รุ้งแม่โพสพ

หมายเลข 4, 2538” และ ไพรวัลย์ ดาเกลี้ยง “ชีวิตชนบทไทย ด้วยน�้าใจ

จงรักภักดี”

ผลงานประติมากรรม ของ เขียน ยิ้มศิริ “ขลุ่ยทิพย์” และ

ชิต เหรียญประชา “ร�ามะนา”

ศิลปะ

จากแนวคิดในเรื่องค�านิยามของความงามของนักปรัชญา

ดังกล่าว พอสรุปได้ว่า “ความงามเป็นความพอดีของสัดส่วน

ความเป็นเอกภาพของทัศนธาตุ มีองค์ประกอบศิลป์สมบูรณ์

ลงตัวของสรรพสิ่งทั้งหลายที่มนุษย์สัมผัสรับรู้ได้ แล้วเกิดความ

พึงพอใจและมีความสุข” โดยแบ่งประเภทความงามออกเป็น

สองประเภทใหญ่ๆ คือ ความงามที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ

และความงามที่เกิดขึ้นจากการสร้างสรรค์ของมนุษย์

ความงามแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ได้แก่ ความงามที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ และความงามที่เกิดขึ้นจากการสร้างสรรค์ของมนุษย์

สถาปัตยกรรม “เรือนทับขวัญ” และ “พระที่นั่งชาลีมงคลอาสน์”

พระราชวังสนามจันทร์ นครปฐม

Art of Beauty


Capitalization

A B C D E F G H

1) ใช้กับชื่อคนและสถานที่ เช่น Mary Jane, London, Elizabeth Street,

New South Wales, the Great Barrier Reef, the Botanic Garden

2) ชื่อที่ใช้เรียกคนและภาษาของประเทศต่างๆ หรือบางค�าที่เกี่ยวข้องที่

ดึงมาจากค�าเหล่านั้น เช่น Australian, Greek, Mandarin, Englishman,

Americanize

3) ชื่อของสถาบัน สมาคม องค์กร และ สมาพันธ์

เช่น the Institutional of TAFE, the Royal Embassy, the Department

of Agriculture, the Arts Museum

4) ชื่อของสถาบันทางศาสนา ส�านัก นิกาย หรือ บุคคลที่เลื่อมใส

เช่น Catholic, Islam, Judaism, Taoism

5) องค์กรหรือสถาบันทางสังคม เช่น the Polo Club, the Japanese

Student Societies

6) ชื่อของเดือนและวันส�าคัญต่างๆ เช่น September, Songran Day,

Boxing Day

7) ชื่อในรูปแบบที่ปรากฏออกมาเป็นนามธรรม เช่น the Proof of Life,

Oh Dear

8) ฉายาหรือสมญานาม เช่น a Blue in University sport

9) ชื่อของสิ่งอื่นๆ ที่ไม่เป็นส่วนตัว เช่น the Flying Scotsman

10) ค�าโบราณ หรือค�าที่เกี่ยวข้องกับประเพณีในสมัยเก่า

เช่น Chauvinistic, Guillotine

11) ชื่อที่เป็นเครื่องหมายทางการค้า เช่น Hoover, Xerox, Sony หรือ

ชื่อที่มีความสัมพันธ์กับผู้ผลิต เช่น Jaguar, Spitfire

ศัพท์เฉพาะบางค�า เช่น ชื่อ ที่เป็นกรรมสิทธิ์หรือเจ้าของกิจการ

ซึ่งปัจจุบันจะขึ้นต้นด้วยอักษรตัวพิมพ์เล็ก เช่น baby, buggy, biro, jeep

12) ใช้กับค�าขึ้นต้นที่เป็นต�าแหน่ง เช่น His Royal Highness the Prince

of Wales, President Carter, Sir John Smith, Lord Chief Justice,

Lieutenant-Colonel, Vice-President

13) ใช้กับบุรุษสรรพนาม “ I ” และ ค�าอุทาน Oh.

14) ใช้กับค�าที่เกี่ยวกับพระเจ้า เข่น God, Father, Allah, Almighty

15) ใช้กับค�าๆ แรกหรือค�าอื่นๆ ที่มีความส�าคัญของชื่อหนังสือ

หนังสือพิมพ์ ละครภาพยนตร์ และรายการทางโทรทัศน์ ชื่อหัวข้อ และ

บทความต่างๆ เช่น The Catcher in the Rye, Sense and Sensibility,

Book of Common Prayer, New Testament, The Courier Mail, Guide

to the Use of the Dictionary

16) ใช้กับยุคสมัยและเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ เช่น the Golden

Ages, Early Minoan, the Renaissance, the Second World War

17) การแบ่งเวลาตามภูมิศาสตร์ ที่ไม่ใช่ตามแบบยุคทางโบราณคดี

เช่น Devonian, Palaeozoic (ไม่ใช้ใน neolithic)

18) ใช้ในการเขียนค�าย่อที่มีหรือไม่มีเครื่องหมายมหัพภาค (Full stop)

ก�ากับก็ได้ เช่น ASP, FAM., LCD

19) ใช้กับค�าย่อที่บอกทิศทาง เช่น N., SE, NE หรือเมื่อต้องการบ่งชี้ถึง

ภูมิภาค เช่น unemployment in the North

20) ใช้ขึ้นต้นบรรทัดของการเขียนกลอนในภาษาอังกฤษ

21) ใช้กับค�าหรือชื่อเฉพาะอื่นๆ ได้ เช่น McDonald, O’Reilly

เครื่องหมายการค้าและค�าบางค�าในภาษาต่างประเทศ

กลุ่มสาระความรู้ภาษาต่างประเทศ โดยครูตมิสา วิบูลย์เกียรติเกร็ดความรู้ MCP

หลักการใช ้อักษรตัวพิมพ์ใหญ่


โฆษณา-advertise (v.) ภาพยนตร์ -movies (n.) ฝึกฝน-train (v.) เชี่ยวชาญ-professional (adj.)

โดย ครูพิมพิมล มณีวรรณ์ งานส่งเสริมศักยภาพพิเศษผู้เรียน ฝ่ายกิจการนักเรียน เกร็ดความรู้ MCP

เรื่องของความคิดสร้างสรรค์ (Creativity) ในอดีตมักเป็นเรื่องที่ถูกจ�ากัดวงอยู่กับอาชีพที่เกี่ยวข้องเฉพาะวงการศิลปะ อาทิ การ

ท�าโฆษณา การท�าภาพยนตร์ ศิลปิน ฯลฯ แต่ส�าหรับเด็กที่ต้องเติบโตขึ้นมาในยุคศตวรรษที่ 21 การใช้ความคิดสร้างสรรค์ก�าลังเป็น

เรื่องส�าคัญ แม้แต่คนที่ท�างานในอาชีพซึ่งเน้นเรื่องความรู้เฉพาะ อาทิ แพทย์ ต�ารวจ ครู ทนายความ นักบัญชี ฯลฯ ก็ต้องใช้เรื่องของ

ความคิดสร้างสรรค์เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการท�างาน

ในยุคหนึ่งการรับสมัครคนเข้าท�างาน มีความจ�าเป็นต้องรับสมัครคนที่เรียนเก่ง สามารถท่องจ�าความรู้ได้มากๆ เข้าไปปฏิบัติงาน

แต่เมื่อเรามีเครื่องคอมพิวเตอร์ใช้งานในทุกองค์กร ความจ�าเป็นที่จะต้องท่องจ�าเนื้อหาต่างๆ ก็หมดไป เพราะเราสามารถให้เครื่อง

ค�านวณค่าบัญชีชั้นสูงแทนการจ้างนักบัญชีที่มีสูตรค�านวณแม่นๆ ได้ เราสามารถค้นหาความรู้ที่มีอยู่ทุกมุมโลกได้ภายในเวลาเพียงแค่

ไม่กี่นาที ฯลฯ แต่ความเชี่ยวชาญที่เครื่องมือต่างๆ จะเข้ามาแทนที่ไม่ได้ คือการน�าองค์ความรู้เหล่านั้นมาสรรค์สร้างให้เหมาะสมกับ

การใช้งาน ดังนั้นการพัฒนา “ความคิดสร้างสรรค์” จึงเป็นสิ่งที่เราควรฝึกฝน และสามารถสร้างขึ้นมาได้ด้วยแนวทางบางอย่างตั้งแต่

วัยเด็ก โดยมีหลักการที่ได้รวบรวมมาจากนักคิดท่านต่างๆ ดังนี้

1. ฝึกการตั้งเป้าหมายใหญ่ไว้ก่อน แม้ว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ดูจะไม่มีวี่แววว่าจะเป็นไปได้ เช่น การเข้าร่วมกิจกรรมมินิมาราธอน

ในขณะที่เราและลูกมีอาการภูมิแพ้ การเข้าร่วมประกวดการเล่านิทานในขณะที่เราและลูกขี้อายมาก ฯลฯ ซึ่งทักษะเรื่อง “การตั้งเป้า

หมาย” จะทรงพลังจนท�าให้เราและลูกพยายามไปสู่ความส�าเร็จได้ด้วยวินัย และการฝึกคิดแบบสร้างสรรค์ ที่จะจัดเวลา วิธีการ กลยุทธ์

ใดๆ เพื่อไปสู่เป้าหมายในที่สุดค่ะ ดังนั้นโจทย์ต้องยาก และท้าทายนะคะ

2. ฝึกให้ลูกมองอุปสรรคเป็นโอกาสเสมอ เมื่อไรที่มีอุปสรรคเข้ามาเราควรแสดงตนเป็นผู้ให้ก�าลังใจ และร่วมวิเคราะห์แนวทางใน

การก้าวข้ามอุปสรรคไปกับลูก ไม่ควรใช้วิธีการหลบเลี่ยงปัญหา เพราะนอกจากจะไม่เป็นการส่งเสริมแนวคิดที่สร้างสรรค์แล้ว ยังท�าให้

ลูกมีภูมิต้านทานในการใช้ชีวิตต�่า น�าไปสู่เรื่องปัญหาของความยืดหยุ่นในการใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นอีกด้วย

กระตุ้นลูกให้มีความคิดสร้างสรรค์ Kids Creative Artwork


American and BritishEnglish Usage

กลุ่มสาระความรู้ภาษาต่างประเทศ โดยครูตมิสา วิบูลย์เกียรติเกร็ดความรู้ MCP

part II กลับมาเจอกันอีกครั้งนะคะ กับภาษาอังกฤษแบบ British และ

แบบ American คราวนี้เขียนต่างกันแต่ความหมายเหมือนกัน ใช้ได้ทั้ง

สองแบบเลยค่ะ มาดูกันเลยค่ะ

American British ความหมาย

American British ความหมายairplane aeroplane เครื่องบิน antenna aerial เสาอากาศ apartment flat อพาร์ทเม้นต์ attorney lawyer ทนายความ bar pub ร้านจ�าหน่ายเครื่องดื่ม bathrobe dressing gown เสื้อคลุมอาบน�้า bill note ธนบัตร busy signal engaged tone ไม่ว่าง (โทรศัพท์) cafeteria canteen โรงอาหาร candy sweet ลูกกวาด carousel merry-go-round ม้าหมุน cart trolley รถเข็นของช้อปปิ้ง cell phone, mobile phone โทรศัพท์มีอถือ บางที่เรียก “the mobile” ในอังกฤษ cellular phonecheck cheque เช็ค chips crisps มันฝรั่งทอดบางๆ กินเป็นของว่าง cookie biscuit (sweet) คุ้กกี้ crackers biscuits ขนมปังกรอบ ใน British English ค�าว่า “cracker” หมายถึงขนมปังกรอบ บางชนิดที่กินกับชีส crosswalk pedestrian crossing ทางข้ามม้าลาย dead end cul-de-sac ทางตัน ไม่มีทางไปหรืออาจมีวงเวียนให้กลับรถ desk clerk receptionist โต๊ะรีเซปชั่น เช่นในโรงแรม diaper nappy ผ้าอ้อมเด็ก drug store pharmacy, chemists ร้านขายยาและขายผลิตภัณฑ์ส่วนตัวด้วย เช่น สบู่ ยาสีฟันเป็นต้น. elementary school primary school โรงเรียนประถม elevator lift ลิฟท์ eraser rubber ยางลบ fall autumn ฤดูใบไม้ร่วง faucet tap ก๊อกน�้า flashlight torch ไฟฉาย french fries chips มันฝรั่งทอด. garbage, trash rubbish, refuse ขยะ garbage can dustbin ถังขยะ gas petrol น�้ามันเชื้อเพลิงรถยนต์ . British ใช้ค�าว่า “gas” ในความหมายของแกสที่เป็นเปลวไฟ เช่นแก๊สหุงต้ม. girl scouts US girl guides เนตรนารี intersection cross roads สี่แยก janitor caretaker ภารโรง คนท�าความสะอาด mail post โดยทางไปรษณีย์ mall shopping centre ศูนย์การค้า mass transit public transport การขนส่งมวลชน

เป็นยังไงบ้างคะ หลังจากเรียนรู้ถึงความแตกต่างระหว่าง ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน American และแบบบริทริช British หวังว่านักเรียนคงได้ทราบถึงค�าศัพท์ใหม่ๆ หลายค�านะคะ อย่าลืมน�าไปฝึกใช้ในชีวิตประจ�าวันกันบ่อยๆ นะคะจะได้จ�าขึ้นใจ ท้ายสุดนี้ ขอฝากไว้นิดนึงนะคะว่า...ภาษาอังกฤษง่ายนิดเดียว!


Graduation Party 2013 สมาคมผู ้ปกครองและครู โรง

เรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย แผนกประถม

จัดงาน Graduation Party 2013 : “A

Big Thanks to MCP” ของนักเรียน

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 วันที่ 27

กุมภาพันธ์ 2557 ณ Green Dome

“A Big Thanks to MCP”


โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย แผนกประถม จัดงานประกาศเกียรติคุณนักเรียนดีเด่น

ปีการศึกษา 2556 วัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและสร้างขวัญก�าลังใจให้แก่นักเรียน

และส่งเสริมให้นักเรียนสนใจในการเรียน ตลอดจนกิจกรรมต่างๆ ที่เป็นประโยชน์

ต่อการพัฒนาตนเองและสังคม ซึ่งจะเป็นแบบอย่างที่ดีแก่นักเรียนทั่วไป โดยงานจัดขึ้น

ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 08.00-12.00 น. ณ โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย

แผนกประถม

2013 Academic Year

Awards Ceremony for Outstanding Students


MCP Events

วันเด็กเเห่งชาติ

โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย เเผนกประถม จัดกิจกรรม “วันเด็กเเห่งชาติ”

ประจ�าปี 2557 ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้เด็กได้รู้ถึงบทบาท เเละความ

ส�าคัญของตน ในเรื่องสิทธิ หน้าที่ ความรับผิดชอบ ระเบียบวินัยที่มีต่อตนเอง

เเละสังคม มีความยึดมันต่อสถาบัน ชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ ในระบอบ

ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เเละจะได้รับความสนุกสนาน

จากกิจกรรมต่างๆ โดยกิจกรรมจัดขึ้น เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2557

ค่ายลูกเสือ เนตรนารีสามัญประจ�าปี ป.4

งานลูกเสือ ฝ่ายกิจการนักเรียน โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย แผนกประถม

จัดการเข้าค่ายลูกเสือ เนตรนารีสามัญประจ�าปี ของนักเรียนระดับชั้นประถม

ศึกษาปีที่ 4 ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้ในการอยู่ค่ายลูก

เสือและสามารถน�าความรู้ที่ได้ไปปรับในชีวิตประจ�าวันได้ โดยกิจกรรมจัดขึ้น

เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2557 ณ โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย เเผนกประถม

มอบทุนจากมูลนิธิบราเดอร์ฮีแลร์

ผู้อ�านวยการมอบทุนการศึกษาและวุฒิบัตรแก่นักเรียนที่มี

คะแนนภาษาไทยเป็นอันดับ 1 ของโรงเรียน จากมูลนิธิบราเดอร์

ฮีแลร์ เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2557

เด็กดีเด่นเนือ่งในวันเด็กเเห่งชาติ

โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย แผนก

ประถม ขอแสดงความยินดี กับเด็ก

หญิงกมลลักษณ์ เทพวงค์ ที่ได้รับการ

คัดเลือกให้เป็นเด็กดีเด่น ของเทศบาล

นครเชียงใหม่ เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ

ประจ�าปี 2557

ประชุมเชิงปฏิบัติการ การจัดท�า

แผนพฒันาคณุภาพการศกึษา 2557-2559

ณห้องประชุมใหญ่ อาคารสามัคคีนฤมิต

เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2557

ร่วมพิธีบูชาพระคุณบูรพาจารย์ในกิจกรรมวันครู

คณะผู้ร่วมบริหาร โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย แผนกประถม ร่วมพิธีบูชาพระคุณบูรพาจารย์

ประจ�าปี 2557 เนื่องในกิจกรรมวันครู วันที่ 16 มกราคม 2557 และทางโรงเรียนขอแสดงความ

ยินดีกับคุณครูอัมพร พิมพิสาร ที่ได้รับรางวัลครูดีเด่นระดับประถมศึกษา ของสมาคมโรงเรียน

เอกชน จังหวัดเชียงใหม่ ณ วิทยาลัยเทคโนโลยีโปลิเทคนิคลานนาเชียงใหม่


MCP Events

งานวันกตัญญูครูอาวุโส

ภราดาศุภนันท์ ขันธปรีชา ผู้อ�านวยการ โรงเรียน

มงฟอร์ตวิทยาลัย แผนกประถม ร่วมงานวันกตัญญู และ

ร�าลึกถึงครูอาวุโสมงฟอร์ต เนื่องในวันครู ณ ศาลามารีย์

เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2557

“Winter Wonder Camp 2”

กลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ)

ฝ่ายวิชาการ จัดกิจกรรมค่ายภาษาอังกฤษ “Winter

Wonder Camp 2” ที่โบทานิค รีสอร์ท อ�าเภอแม่ริม

จังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 17-19 มกราคม พ.ศ.

2557

Day Camp ป.1

งานลูกเสือ ฝ่ายกิจการนักเรียน โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย แผนกประถม

จัดการเข้าค่ายลูกเสือ ของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ขึ้น โดยมี

วัตถุประสงค์เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้ในการเข้าค่ายลูกเสือและสามารถน�าความรู้ที่

ได้ไปปรับในชีวิตประจ�าวันได้ โดยกิจกรรมจัดขึ้น ในวันที่ 20 มกราคม 2557


MCP Events

Day Camp ป.2

งานลกูเสอื โรงเรยีนมงฟอร์ตวทิยาลยั แผนกประถม

จัดการเข้าค่ายลูกเสือ ของนักเรียนระดับชั้นประถม

ศึกษาปีที่ 2 ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้นักเรียน

ได้เรียนรู้ในการเข้าค่ายลูกเสือและ สามารถน�าความรู้

ที่ได้ไปปรับในชีวิตประจ�าวันได้ โดยกิจกรรมจัดขึ้น

ในวันที่ 21 มกราคม 2557

ต้อนรับคณะศึกษาดูงาน

โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย เเผนกประถม

ให้การต้อนรับ คณะผู ้บริหาร ครูผู ้ดูแลเด็ก

และบุคลากรทางการศึกษา เทศบาลต�าบลบาง

เมืองจังหวัดสมุทรปราการ ในศึกษาดูงานการ

จัดหลักสูตรสถานศึกษาของโรงเรียน วันที่ 20

มกราคม 2557

“ย่างพระบาทที่ยาตรา”

นักเรียนชมรมถ่ายภาพ ชมรม MC.TV. และชมรมเครื่องเสียง เข้าชมงาน

นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ “ย่างพระบาทที่ยาตรา” ที่สมาคมศิษย์เก่าสื่อสาร

มวลชน และคณะสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมกันจัดขึ้น ระหว่าง

วันที่ 22-28 มกราคม 2557 ณ ลานโปรโมชั่น ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล

เชียงใหม่ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและน้อมร�าลึกใน

พระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยอย่างหาที่สุดมิได้คณะอาจารย์ ประเทศเกาหลี เข้าศึกษาดูงาน

คณะอาจารย์ Gwangju National University

ประเทศเกาหลี เข้าศึกษาดูงาน เข้าศึกษาดูงานการ

จัดการเรียนการสอนของโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย

แผนกประถม วันที่ 7 มกราคม 2557


MCP Events

Day Camp ป.3

โรงเรียนมงฟอร ์ตวิทยาลัย

แผนกประถม จัดการเข้าค่ายลูกเสือ

ของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษา

ปีที่ 3 ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้

นักเรียนได้เรียนรู ้ในการเข้าค่ายลูก

เสือและ สามารถน�าความรู้ที่ได้ไป

ปรับในชีวิตประจ�าวันได้ โดยกิจกรรม

จัดขึ้น ในวันที่ 23 มกราคม 2557

รับเสด็จสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

ผู้ร่วมบริหารเเละครู โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย เเผนกประถม น�านักเรียนในพระราชานุเคราะห์ รับเสด็จ

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2557 ณ โรงเรียนรัปปาปอร์ต บ้านบ่อ

เกี๊ยะใน ต�าบลบ่อแก้ว อ�าเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่

ร่วมไว้อาลัยงานศพคุณพ่อเลิศ เทศวิศาล

คณะผู้บริหารและครูโรงเรียนมงฟอร์ต

วิทยาลัย แผนกประถม ร่วมไว้อาลัย

งานศพคุณพ่อเลิศ เทศวิศาล บิดาของครู

สมฤทัย เทศวิศาล ครูผู้สอนการงานอาชีพ

และเทคโนโลยีระดับชั้น ป.5 วันที่ 24

มกราคม 2557 ที่ วัดเจ็ดยอด


รวมพลังอาสาพัฒนาค่ายลูกเสือ

ลูกเสือกองร้อยพิเศษร่วมกิจกรรมลูก

เสือรวมพลังอาสาพัฒนาค่ายลูกเสือสุเทพ

เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2557

มอบฝาอลูมิเนียมให้กับมูลนิธิขาเทียม

โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย แผนกประถม ได้

รณรงค์ให้นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 ได้

ร่วมกันรวบรวมฝาอลูมิเนียม ตลอดปีการศึกษา

2556 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความช่วยเหลือ

ด้านสังคมแก่ผู้พิการ ซึ่งในวันที่ 27 มกราคม

2557 เวลา 08.15-10.30 น. ได้น�าตัวแทน

นักเรียนมอบฝาอลูมิเนียมให้กับมูลนิธิขาเทียมใน

สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ณ มูลนิธิ

ขาเทียม ต.ดอนแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

ประชุมสัญจร CGA

โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย เเผนกประถม

ให้การต้อนรับคณะกรรมการสมาพันธ ์สมาคม

ศิษย์เก ่าคณะเซนต์คาเบรียลเเห่งประเทศไทย

ในการประชุมสัญจร CGA ประจ�าปี 2557 วันที่

27 มกราคม 2557

เฝ้าระวังและควบคุมโรคติดต่อ

โรงเรยีนมงฟอร์ตวทิยาลยั เเผนกประถม จดัการ

เฝ้าระวงัและควบคมุโรคตดิต่อในโรงเรยีน โดยได้รบั

ความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลแมคคอร์มิค

เชยีงใหม่ คณุดษุฎ ีพงษ์อดุม หวัหน้างานส่งเสรมิสขุภาพ

และเภสชักรเอกพงษ์ ก้อนแก้ว มาให้ความรูแ้ก่นกัเรยีน

เกี่ยวกับการป้องกันและดูแลตนเองเมื่อเป็นโรคติดต่อ

อีสุกอีใส ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ พร้อมกันนี้คุณณัฐฐิญา

วัฒนดิลกพัฒน์ หัวหน้างานป้องกันโรคติดต่อเทศบาล

เชียงใหม่ ได้สนับสนุนเจลล้างมือ หน้ากากอนามัย

น�้ายาฆ่าเชื้่อท�าความสะอาด สบู่เหลวล้างมือ เมื่อวัน

ที่ 5-6 กุมภาพันธ์ 2557 ณ โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย

เเผนกประถม


ประมุข-chief (n.) พราน -woodsman (n.) ว่องไว-active (adj.) ผู้เสียสละ-sacrifice (n.)

สวัสดีครับ ในบทความฉบับนี้ ผู้เขียนมีความตั้งใจในการที่จะสื่อและสร้างความเข้าใจในมุมมองเกี่ยวกับลูกเสือใหม่ในโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย

แผนกประถม วันนี้เราได้ส่งเสริม “ลูกเสือท�าอะไร” แล้วบ้าง ผู้เขียนจึงขอยกค�ากล่าวของท่านลอร์ดเบเดน โพเอ็ลล์ (ท่าน B.P.) ซึ่งเป็นประมุขคณะ

ลูกเสือโลก ดังนี้ “มีสิ่งต่างๆ มากมายที่เด็กที่เป็นลูกเสือจะได้เรียนรู้เมื่อเข้ามาเป็นลูกเสือ นั้นคือการใช้ชีวิตอยู่ในที่แจ้ง ความรู้เชิงพราน ความกล้า

หาญ ความกตัญญู มีน�้าใจช่วยเหลือผู้อื่น มีจิตส�านึกที่ดี ปลูกฝังให้ลูกเสือรักชาติบ้านเมือง และเป็นคนดีในสังคม” ผู้เขียนขอขยายความเพิ่มเติม

นะครับ การใช้ชีวิตอยู่กลางแจ้ง ลูกเสือย่อมหากิจกรรมที่ตอบสนองความต้องการในแต่ละวัยแตกต่างกัน คือ การใช้ชีวิตท่ามกลางธรรมชาติ ป่าเขา

อยู่กับนกและสัตว์ป่า หุงหาอาหาร และหาที่ส�าหรับนอนเอง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ท�าให้เกิดการเรียนรู้ใหม่ๆ ในชีวิตมากมาย จะใช้ชีวิตอยู่ได้โดยไม่ต้องใช้

เครื่องอ�านวยความสะดวกใดๆ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นการฝึกให้เด็กเป็นลูกเสือ เพราะเขาสามารถมีความสุขได้อย่างเต็มที่ ซึ่งอาจจะไม่ได้รับเมื่ออยู่ใน

เมือง เพราะในเมือง มีสิ่งอ�านวยความสะดวกมากมาย มีอาหารพร้อมส�าหรับทุกๆ มื้อให้เขาโดยที่ไม่ต้องท�าเอง มีบ้านที่สะดวกสบาย มีเตียงที่นุ่มๆ

ส�าหรับนอน ถ้าเด็กไม่ฝึกที่จะใช้ชีวิตอยู่กลางแจ้ง เขาอาจจะพบว่า เขาไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ท่าน B.P. จะเรียกเด็กเล่านี้ว่า “ผู้อ่อนหัด”

จะเห็นได้ว่าการฝึกให้เด็กได้ใช้ชีวิตอยู่กลางแจ้งอย่างลูกเสือ นั้นมีประโยชน์เพียงใด ความรู้เชิงพราน ท่าน B.P. ไม่ได้ส่งเสริมให้ลูกเสือเป็นพราน

ล่าสัตว์นะครับ ท่านหมายถึง การฝึกให้ลูกเสือมีความรู้เกี่ยวกับธรรมชาติของสัตว์ ฝึกเป็นคนช่างสังเกต สิ่งที่ผิดปกติไปจากเดิม ลูกเสือที่ฝึก

จะต้องมีความว่องไวสังเกต และรู้ได้ว่ามีอะไรที่ผิดปกติ สามารถน�าความรู้ที่ได้ไปใช้ในชีวิตประจ�าวัน ความกล้าหาญ รักเกียรติ และช่วยเหลือผู้อื่น

ท่าน B.P. เปรียบเด็กที่เป็นลูกเสือเหมือนดั่ง “อัศวิน” ดังนั้นกฎของลูกเสือจึงแปลมาจากกฎของอัศวินนั้นเอง อัศวินถือว่าเกียรติเป็นสิ่งที่ต้องห่วง

แหน อัศวินจะยอมตายดีกว่าที่จะมีสิ่งใดมาท�าให้เสื่อมเกียรติ ดังที่พระบิดาแห่งลูกเสือไทย พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.6) ได้กล่าวไว้

ประโยคหนึ่งว่า “เสียชีพอย่าเสียสัตย์” ซึ่งพระองค์พระราชทานให้กับลูกเสือ มีความหมายเดียวกับอัศวินยุคแรกที่ผ่านมา การช่วยชีวิต มีน�้าใจช่วย

เหลือผู้อื่น มีจิตส�านึกที่ดี ลูกเสือย่อมเป็นผู้เสียสละในความหมายโดยรวมคือจิตอาสานั่นแหละครับ มีจิตส�านึกที่ดี เสียสละเวลาสักนิดที่จะหยุดหยิบ

ขยะที่อยู่ตรงหน้าไปทิ้ง ในภาวะฉุกเฉิน ลูกเสือต้องมีสติในการที่จะท�าในสิ่งที่ถูกต้อง ท่ามกลางความตระหนกตกใจของคนรอบข้าง ทุกสิ่งทุกอย่าง

ที่ท�าแล้วไม่หวังผลตอบแทนใดๆ ปลูกฝังให้ลูกเสือรักชาติบ้านเมือง และเป็นคนดีในสังคม ลูกเสือย่อมตระหนักเสมอว่าการเข้ามาสู่การเรียนรู้

ลูกเสือนั้นสิ่งที่ส�าคัญที่สุดคือสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์รักชาติบ้านเมืองทุกครั้งจะท�ากิจกรรมลูกเสือต้องมีการ เปิดประชุมกอง

เพื่อให้ลูกเสือระลึกอยู่เสมอในการที่จะเป็นคนดีโดยมี 3 สถาบันเป็นที่ตั้งตลอดมา

“ผู้ปลูก” ย่อมเป็นตัวเรา (ผู้อ่าน) วันนี้ท่านเตรียมสิ่งใดดั่งที่กล่าวมา “ปลูกฝัง” หรือ “ปลูก” ให้เขาเหล่านั้นเป็นลูกเสือบ้างแล้วหรือยัง

อย่าหวังผลมากกับตัวเรานะครับ ปลูกฝังมากๆ ผลจะเกิดขึ้นกับเด็กเองครับ ฉบับนี้ผู้เขียนขอลาด้วยค�ากล่าวของท่าน ภราดามีศักดิ์ ว่องประชานุกูล

ที่กล่าวว่า “หว่านหรือปลูกสิ่งใด ย่อมได้รับผลสิ่งนั้น”

สิ่ ง ที่ ค ว ร ป ลู ก ฝ ั ง

สวัสดีครับ

ผกก.ลูกเสือ ธนายุทธ


เกบ็เกีย่ว-harvest (v.) คุ้มครอง -safeguard (v.) บญุ-merit (n.)

วิถีล้านนาตอน ป๋าเวณีตานข้าวใหม่รวบรวมโดย ครูศันสนีย์ อินทขีณี

เมื่อฤดูหนาวมาถึงชาวเหนืออย่างเราต้องนึกถึงข้าวหลามอุ ่นๆ กลิ่นหอมละมุนของข้าวใหม่ และรสชาติที่กลมกล่อมหวานมัน ข้าวหลาม เป็นอาหารว่างชนิดหนึ่ง ที่ชาวล้านนานิยมท�ารับประทานกันในฤดูหนาว หรือเมื่อได้ข้าวใหม่ ป๋าเวณีตานข้าวจี่-ข้าวหลามเป็นประเพณีที่กระท�าหลงัจากทีช่าวนาได้เสรจ็สิน้ภารกจิจากไร่นาแล้ว หรอืในช่วงเดอืน สี ่ เหนอื โดยน�าข้าวใหม่ที่ได้จากการเกบ็เกีย่วมาท�าข้าวหลาม ข้าวจี ่(ข้าวเหนยีวป้ิง) ข้าวเม่า ข้าวต้ม เป็นต้น และน�าไปถวายพระสงฆ์ เรียกว่า “พิธีทานเข้าใหม่หรือทานข้าวใหม่” อีกทั้งยังถือโอกาสท�าทานขันข้าว ไปพร้อมๆ กันเลย การท�าทานขันข้าวคือ การท�าบุญอุทิศส่วนกุศล ไปให้ญาติพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้ว

ป๋าเวณีตานข้าวจี่-ข้าวหลาม วันเพ็ญเดือน สี่ เหนือ เดือนยี่ใต้ คือ เดือน มกราคม เป็นเดือนที่ชาวนาเก็บเกี่ยวข้าวแล้วน�าไปใส่ยุ ้งฉางชาวนาภาคเหนือนิยมท�าบุญ ท�าทานก่อนที่ตัวเองจะบริโภค เพื่ออุทิศส่วนบุญกุศลแก่เทพยดามี แม่โพสพเป็นต้น ให้ช่วยคุ้มครองดูแลข้าวเปลือกในยุ้งฉางหลอง้าวของตนมิให้สิ่งอื่นใดมารบกวน ท�าให้การกินข้าวเปลืองหมดเร็ว ในสมัยโบราณชาวเหนือนิยมการท�าอาหารให้สุกด้วยการจี่การเผา การปิ้ง การย่างเป็นส่วนมากไม่ใช่การทอดอย่างในปัจจุบัน ดังนั้นคน ในสมัยโบราณจึงมีอายุยืน เพราะไม่มีไขมันอุดตันเส้นเลือดอย่างคนสมัยปัจจุบัน การท�าบุญข้าวจี่นิยมกันในกลุ่มประชาชนที่รับประทานข้าวนึ่งเป็นอาหารหลัก คือ ไทยภาคเหนือไทยภาคอีสาน และประเทศลาว

คุณค่าของการถวายข้าวจี่ข้าวหลาม คณุค่าแห่งการท�าบญุทางข้าวจีข้่าวหลามนัน้ มมีากมายหลายประการ

ที่เกิดขึ้นแก่ตัวเอง และแก่สังคมดังนี้ 1. ท�าให้มีความสุข เบิกบานในที่ได้ท�าบุญด้วยน�้าพักน�้าแรงของตน 2. ท�าให้มีโอกาสแสดงกตัญญูกตเวทีต่อบรรพชนและเทพยดา 3. ท�าให้มีการปฏิบัติตามจารีตประเพณี 4. เป็นแบบอย่างแก่ลูกหลานเยาวชน 5. เป็นโอกาสที่ได้สังสรรค์กับเพื่อนบ้าน 6. ท�าให้เกิดความรักความผูกพันกับเพื่อนบ้าน 7. เป็นการบ�ารุงพระศาสนาอันเป็นที่เคารพสักการะของตน ประเพณีทานข้าวจี่ ข้าวหลามในวันเพ็ญเดือน สี่ เหนือหรือเดือนยี่ใต้นี้ยังประพฤติปฏิบัติต่อกันมาแต่โบราณจนกระทั่งทุกวันนี้

ป๋าเวณีตานข้าวใหม่ โบราณกล่าวสอนไว้ว่า เมื่อปลูกผลไม้ยืนต้นใดๆ เมื่อไม้เหล่านั้นออกลูกครั้งแรก ให้แจกแก่พี่น้องเพื่อนฝูงและน�าไปถวายพระในปีต่อไป ผลไม้นั้นจะผลิตออกลูกมาก ร่องรอยแห่งวัฒนธรรมนี้ยังคงเหลืออยู่ ในปัจจุบัน คือ การตานข้าวใหม่ หลังจากการเก็บข้าวใหม่ในนาน�ามาใส่ยุ้งฉาง แล้วก็น�าข้าวใหม่นั้นไปนึ่ง หรือหุงเมื่อสุกดีแล้วก็น�าไปถวายแด่พระสงฆ์พร้อมด้วยอาหาร ประเพณกีารตานข้าวใหม่ ส่วนมากจะตรงกบัวนัเพญ็เดอืนสี ่ (เหนอื) ซึ่งเป็นกลางฤดูหนาวในเช้ามืดของวันนั้น จะพบคนไปตานขันข้าวและน�าข้าวสารบ้าง ข้าวเปลือกบ้างไปวัดแล้วเอาไปกองรวมกันไว้ใน แต่ละประเภทที่เป็นข้าวสุกก็จะเอาไปใส่บาตร ปีใดชาวนาได้ข้าวดี มีผลมาก ทางวัดจะได้ข้าวเปลือกเป็นร้อยๆ ถังขึ้นไป ซึ่งทางวัดก็จะขายแล้วน�าเงินที่ได้มาบูรณะซ่อมแซมเสนาสนะต่างๆ


ตอน ป๋าเวณีตานข้าวใหม่

โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย แผนกประถม

จัดการแสดงผลงานทางด้านดนตรี ของนักเรียน

ประเภท กีตาร์ คีย์บอร์ด และเปียโน ประจ�าปี

การศึกษา 2556 มีวัตถุประสงค์เพื่อให้นักเรียน

มีโอกาสและมีประสบการณ์ตรงในการแสดง

ความรู้ความสามารถทางดนตรี ที่นักเรียนได้

เรียนรู้มาตลอดปีการศึกษา กิจกรรมจัดขึ้น ณ

Green Dome โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย แผนก

ประถม เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

MCP toon26 Montfort College Primary Section

แนะน�าครูใหม่MCP Welcomes New Teachers

ครูรสสริน มงคลเทพ (ครูอีฟ)

ต�าแหน่งครูผู้สอนวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยีชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 และ 6

ศึกษาศาสตร์บัณฑิต สาขาอุตสาหกรรมศึกษา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

ผลงานที่ภาคภูมิใจ

ประกวดเรียงความการอนุรักษ์โลกร้อน

ประธานการสัมมนากลุ่มสาขาวิชาอุตสาหกรรม

ผู้น�าโครงการช่วยเหลือและปรับปรุงสถานธรรมจิตปัญญา

ครูณัฏฐ์สิริ สงศิลาวัต (ครูไอซ์)

ศิลปศาสตร์บัณฑิต สาขาวิชาเอกไทยศึกษา

คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

ครูผู้ช่วยชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/4


เกียรติบัตรคณะกรรมการจัดงานชุมนุมลูกเสือ เนตรนารี ยุวกาชาดโรงเรียนเอกชนจังหวัด

เชียงใหม่ครั้งที่ 5

เกียรติบัตรโครงการเครือข่ายนวัตกรรมการเรียนรู้ทักษะชีวิตสื่อ ศึกษาจังหวัดเชียงใหม่ของ

ส�านักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย(สกว)และสถาบันรามจิตติ

รองชนะเลิศการแข่งขันแบดมินตันประเภทคู่งานกีฬามหาวิทยาลัยเชียงใหม่

ครูสุพัตรา วงค์ศิริ (ครูตั๊ก)

ครูผู้ช่วยชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/7

ศึกษาศาสตร์บัณฑิต สาขาวิชาภาษาไทย

คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่


หัวหน้าโครงการ “สัปดาห์วันภาษาไทยแห่งชาติ”

เชียร์หลีดเดอร์และแสดงละครเวที ในงาน ซ่าม

ซึ่งเป็นกิจกรรมของนักศึกษาแพร่ที่ศึกษา ณ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

พิธีกร เกียรติบัตรผู้ปฏิบัติงานฝึกประสบการณ์วิชาชีพครูกลุ่มสาระภาษาไทย ระดับดีเยี่ยม


โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย เเผนกประถม ให้ต้อนรับคณะกรรมการสมาพันธ์สมาคมผู้ปกครองและครูโรงเรียนในเครือ

มูลนิธิคณะเซนคาเบรียลแห่งประเทศไทย ในการประชุมคณะกรรมการบริหาร ครั้งที่ 4/2556 (สัญจร) และการประชุมใหญ่

สามัญประจ�าปี 2556 วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2557 ณ Green Dome

มงฟอร์ตฯ สารมกราคม-กุมภาพันธ์ - MCP ·...

Documents

Transcript of มงฟอร์ตฯ สารมกราคม-กุมภาพันธ์ - MCP ·...