TNSC 25th Anniversary Exclusive Dinner Talk...อาหารอ นๆ 617 -4.2%...

Issue 10/2019 | ตุลาคม 2562

สภาผู�ส�งสินค�าทางเร�อแห�งประเทศไทย (สภาผู�ส�งออก) | Thai National Shippers’ Council

www.tnsc.com

TNSC 25th AnniversaryExclusive Dinner TalkShift Economic Landscape : Challenges and Turnaround Opportunities25 November 2019, 05.00 – 09.30 pm.

2 | TNSC Newsletter, Issue 10/2019 : ตุลาคม 2562

“EXPORT YOUR VALUE” THAI NATIONAL SHIPPERS’ COUNCIL

TNSC Newsletter, Issue 10/2019 : ตุลาคม 2562Copyright © 2016 by สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย1168/97 อาคารลุมพินีทาวเวอร์ ชั้น 32 โซน C ถนนพระราม 4 แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ 10120 โทรศัพท์ : +66 (0) 2679 7555 โทรสาร : +66 (0) 2679 7500-2E-mail : [email protected]

สนใจลงโฆษณา กรุณาติดต่อ : สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สภาผู้ส่งออก) For advertising, please contact : Thai National Shippers’ Council Tel. : +66 (0) 2679 7555 ext. 503 E-mail : [email protected]

ผลิตและจัดพิมพ์โดย บริษัท บิซ แอ็บโซลูท จำากัดแม่พิมพ์สี-ขาวดำาโดย บริษัท สุนทรฟิล์ม จำากัดพิมพ์ที่ บริษัท ไซเบอร์พริ้นท์กรุ๊ป จำากัด กรุงเทพฯ, ประเทศไทย All right reserved reproduction of the Directory, in whole or some part, is prohibited without the prior written consent, not unreasonably withheld, of the publisher.

Thailand Economic Outlook : ภาพรวมสถานการณ์ส่งออกรายเดือนระหว่างปี 2015-2019

สถานการณ์การส่งออกสินค้าสำาคัญ เดือนสิงหาคม 2562 สินค้าส่งออกสำาคัญ มูลค่า Aug/19 Forecast (ล้านเหรียญสหรัฐ) 2019 2020

กลุ่มสินค้าส่งออก “เกษตร” ข้าว 276 -44.6% -24% 0% ยางพารา 343 -7.2% -2.3% 0% ผลิตภัณฑ์มันสำาปะหลัง 187 -25.3% -12.7% 0% น้ำาตาลทราย 287 15.3% -6.1% 0%กลุ่มสินค้าส่งออก “อาหาร” ผักและผลไม้สดแช่แข็งและแปรรูป 786 26.8% อาหารอื่นๆ 617 -4.2% อาหารทะเลแช่แข็งกระป๋อง และแปรรูป(ไม่รวมกุ้ง) 365 -8.4% ไก่สดแช่แข็งและแปรรูป 303 5.6% กุ้งสดแช่แข็งและกุ้งแปรรูป 10 -10.8%กลุ่มสินค้าส่งออก “ยานพาหนะ” ยานพาหนะ 1,722 -10.9% อุปกรณ์และส่วนประกอบ 1,264 -16.4%กลุ่มสินค้าส่งออก “ไฟฟ้า-อิเล็กทรอนิกส์” เครื่องคอมพิวเตอร์อุปกรณ์ 1,354 -10.5% และส่วนประกอบ HardDiskDrive 968 -6.5% แผงวงจรไฟฟ้า 640 -14.3% เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ 366 -10.2% เครื่องรับวิทยุโทรทัศน์และส่วนประกอบ253 0.9%กลุ่มสินค้าส่งออก “พลังงาน” ผลิตภัณฑ์ยาง 969 -0.1% 2.9% 5.0% เคมีภัณฑ์ 601 -22.3% -15.2% 3.0% น้ำามันสำาเร็จรูป 531 -40.0% -15.7% 3.0% เม็ดพลาสติก 773 -18.4% ผลิตภัณฑ์พลาสติก 376 -4.8%กลุ่มสินค้าส่งออก “อื่นๆ” อัญมณีและเครื่องประดับ 2,428 177.8% 49.1%-22.0% สิ่งทอ 370 -5.7% 4-5% 3.0%

-8.4%3.0%

5%5%

-6.7%3%

-9.2%2%

TNSC Newsletter, Issue 10/2019 : ตุลาคม 2562 | 3

THAI NATIONAL SHIPPERS’ COUNCIL “EXPORT YOUR VALUE.”

สถานการณ์ความเคลื่อนไหวอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 29 ก.ย. 62 : 30.62 บาท/เหรียญสหรัฐ(แข็งค่า 4.65% Year-to-Date และแข็งค่า 56.45%Year-on-Year)

EXPORT Corner

ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกไทย 2019Forecast -1.5% growth in 2019Forecast 0-1% growth in 2020 Positive Factors :1. ราคาทองคำาเป็นปัจจัยหลักในช่วยในการส่งออกเนื่องจาก

ถูกพิจารณาว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยโดยมีการขยายตัวของการส่งออกในเดือนส.ค.กว่า300%

2. สถานการณ์ที่คลี่คลายของสงครามการค้า• สหรัฐ:เลื่อนการขึ้นภาษีอัตราร้อยละ30มูลค่า250,000

ดอลลาร์สรอ.จากวันที่1ต.ค.เป็น15ต.ค.และเลื่อนขึ้นภาษีสินค้าจีนกว่า400ชนิดซึ่งเป็นสินค้าในวงเงิน250,000ล้านดอลลาร์สรอ.แต่ยังไม่ชัดเจนว่าภาษีทั้งหมดที่ได้รับยกเว้นมีสัดส่วนมากเพียงไร

• จีน:ประกาศงดเว้นภาษีสินค้าสหรัฐในกลุ่มยาน้ำามันหล่อลื่นเครื่องยนต์มูลค่ากว่า1.65พันล้านดอลลาร์สรอ.โดยจะมีผลบังคับใช้1ปีนับตั้งแต่วันที่17ก.ย.62

Negative Factors / Risks1. บาทที่แข็งค่าอย่างต่อเนื่องจากการดำาเนินนโยบายของธนาคาร

กลางต่างประเทศซึ่งส่งผลกระทบอย่างมากต่อความสามารถในการแข่งขันด้านราคาของสินค้าเกษตร

2. การโจมตีโรงกลั่นน้ำามัน 2 แห่ง ของบริษัทพลังงานแห่งชาติประเทศซาอุดิอาระเบียซึ่งกระทบต่อปริมาณอุปทานของน้ำามันดิบทั่วโลกถึงร้อยละ5และทำาให้ราคาน้ำามันเพิ่มขึ้น8%

3. เศรษฐกิจโลกชะลอตัวจากผลของสงครามการค้าและความไม่แน่นอนของสถานการณ์Brexitคำาสั่งซื้อจึงชะลอตัวลง

4. เหตุอุทกภัย ณ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งสร้างความเสียต่อผลผลิตเพื่อการเกษตรและการผลิตเพื่อการส่งออก

ข้อเสนอแนะจากสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย 1.ต่อยอดการเจรจาธุรกิจจากการเปิดตลาดศักยภาพระดับรอง(อินเดีย)ตลาดอินเดียเป็นตลาดที่มีศัพภาพและยังสามารถรองรับการลงทุนภาคอุตสาหกรรมและสินค้าของไทยที่มีความพร้อมในการเปิดตลาด

2.เร่งเจรจาเปิดเสรีทางการค้าเพิ่มเพื่อช่วยสนับสนุนให้ผู้ประกอบการสามารถส่งออกสินค้าไปยังกลุ่มประเทศคู่ค้าหลักและคู่ค้ารองกับไทยเพิ่มมากขึ้นเช่นไทย-อียูไทย-สหราชอาณาจักรRCEPและไทย-อินเดีย

3.ลดต้นทุนโลจิสติกส์ในประเทศเพื่อลดภาระต้นทุนของผู้ประกอบการส่งออกของไทยจากสถานการณ์ของความผันผวนของเศรษฐกิจโลกสงครามทางการค้าและค่าเงินบาทที่ปัจจุบันไทยยังคงแข็งค่ากว่าคู่ค้าและคู่แข่ง

India Market’s Size เพื่อรองรับกลุ่มสินค้าที่ สรท. เสนอให้มีส่งเสริมการส่งออก1.แนวโน้มตลาดและการเติบโตของสินค้าอุปโภคบริโภค(Fast-moving consumergoods(FMCG))ตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคเป็นตลาดที่ใหญ่อันดับ4 ของเศรษฐกิจอินเดียรัฐบาลอินเดียตั้งเป้าตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคจะมีมูลค่า1.1ล้านล้านเหรียญสหรัฐในปี2020คาดว่าตลาดสินค้าปลีกจะเติบโตขึ้นประมาณ20%-25%ต่อปีในช่วงเดือนJul-Sep18ตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคมีการเติบโตขึ้น16.5%เป็นผลมาจาก1)อัตราเงินเฟ้อในระดับปานกลาง2)การบริโภคภาคเอกชน3)รายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในอินเดียส่งผลให้ประชาชนมีกำาลังซื้อมากขึ้น

2.แนวโน้มตลาดและการเติบโตของสินค้าคงทน(GrowthofConsumer DurableIndustry)ปี2018อินเดียมีการนำาเข้าสินค้าอิเล็กทรอนิกส์มูลค่า53,000ล้านเหรียญสหรัฐโดยในปี2017ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์มีมูลค่า31,480ล้านเหรียญสหรัฐอินเดียเป็นตลาดอิเล็กทรอนิกส์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกและคาดว่าตลาดอิเล็กทรอนิกส์ของอินเดียระหว่างปี2017-2020จะอัตราเติบโตเฉลี่ย41%มีมูลค่ากว่า4แสนล้านเหรียญสหรัฐประกอบด้วยคือเครื่องซักผ้าตู้เย็นและเครื่องปรับอากาศตามลำาดับ

3.แนวโน้มตลาดและการเติบโตของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์(Realestate)

• อินเดียตั้งเป้าการขยายตัวของภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่1ล้านล้านเหรียญสหรัฐภายในปี2030กว่า80%ของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์คือ ที่อยู่อาศัยในปี2018เติบโตกว่า75%ใน8เมืองหลัก

• ในปี2015รัฐบาลอินเดียอนุมัติโครงการSmartCityมากกว่า100โครงการและอนุญาตให้ขยายการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศหรือFDI100%สำาหรับเขตเมืองเช่นโครงการอสังหาริมทรัพย์ในเขตเศรษฐกิจพิเศษ(RealestateprojectswithintheSpecialEconomicZone(SEZ))

• เมื่อวันที่5พฤษภาคม2019อินเดียได้อนุมัติโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษ(theSpecialEconomicZone(SEZ))จำานวน416โครงการอย่างเป็นทางการโดยโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มไอที(IT)


“EXPORT YOUR VALUE” THAI NATIONAL SHIPPERS’ COUNCILTN

SC M

ovem

ent

สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทยได้มีโอกาสเข้าร่วมงานCSCMPEdge2019AnnualConferenceซึ่งเป็นการประชุมประจำาปีของCouncilofSupplyChainManagementProfessionals(CSCMP)องค์กรศูนย์รวมผู้ประกอบวิชาชีพด้านการบริหารจัดการซัพพลายเชนชั้นนำาของโลกที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปีคศ.1963เพื่อศึกษาวิจัยและพัฒนาวิชาชีพการจัดการซัพพลายเชนปัจจุบันCSCMPมีสมาชิกประมาณ9,000รายที่มาจากทั้งภาครัฐภาคธุรกิจและภาคการศึกษาจากกว่า62ประเทศทั่วโลกสำาหรับงานในปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่15-18กันยายน2562ณเมืองAnaheimLosAngelesประเทศสหรัฐอเมริกามีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาวิชาชีพและสร้างมืออาชีพรุ่นใหม่ในด้านการบริหารจัดการซัพพลายเชนโดยการจัดงานในปีนี้มุ่งให้ความสำาคัญกับเรื่องของแนวโน้มปัจจัยแวดล้อมที่จะส่งผลกระทบต่อsupplyChainในภาพรวมประเด็นสำาคัญSupplyChainEducationSessionโดยสรุปดังนี้

Supply Versus the World Geopolitics Impact in 2020 and Beyondในสภาพแวดล้อมปัจจุบันความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นความท้าทายของห่วงโซ่อุปทานนอกเหนือจากการหามาตรการประหยัดต้นทุนแล้วธุรกิจจะต้องสร้างความเติบโตและต้องติดตามความเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีที่เป็นประโยชน์สำาหรับการหาลูกค้าใหม่ความท้าทายที่สำาคัญของห่วงโซ่อุปทานระหว่างประเทศและสิ่งที่จะเกิดผลกระทบทางความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ในห่วงโซ่อุปทานกับธุรกิจโลกในยุคปัจจุบันอีกทั้งความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ทางธรรมชาติมีอยู่ซึ่งเป็นปัจจัยที่ยากต่อการควบคุมสามารถนำาไปสู่ผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานหากการเชื่อมโยงในห่วงโซ่อุปทานได้รับผลกระทบจากความเสี่ยงดังกล่าวจึงต้องมีการติดตามสถานการณ์เพื่อจำากัดความเสี่ยงธุรกิจระดับโลกที่อาจเกิดขึ้นจากความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ในห่วงโซ่อุปทานโดยแบ่งออกเป็นแต่ละด้าน

ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมสังคมการเงินสภาพอากาศที่มีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลสภาพอากาศการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและสังคมเป็นความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์สำาหรับห่วงโซ่อุปทานอย่างไรก็ตามการเปลี่ยนแปลงทางการค้าระหว่างประเทศทำาให้เกิดห่วงโซ่คุณค่ารุ่นใหม่ทำาให้ธุรกิจข้ามชาติต้องเผชิญกับความท้าทายมากมายที่ต้องสร้างความสามารถในการแข่งขันได้ในสภาพแวดล้อมระดับโลกการคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงครั้งสำาคัญต้องมีความยืดหยุ่นการรองรับต่อสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนรองรับห่วงโซ่อุปทานที่มีความซับซ้อนมากขึ้น

Supply Chain Security Policyจากที่ห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกนั้นมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลารวมถึงการมีขนาดและความซับซ้อนเพิ่มขึ้นและมีความเสี่ยงที่จะเกิดภัยคุกคามและอันตรายเช่นภัยธรรมชาติอุบัติเหตุหรือแม้แต่เหตุจากการก่อการร้ายและภัยสงครามผู้มีส่วนได้เสียที่มีบทบาทและความรับผิดชอบในห่วงโซ่อุปทานรวมถึงเครือข่ายการขนส่งและเส้นทางการขนส่งสินค้าทั่วโลกและโครงสร้างพื้นฐาน(รวมถึงการสื่อสารและโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูล)รัฐบาลสหรัฐอเมริกาและระบุลำาดับความสำาคัญต่อผู้มีส่วนได้เสียที่ต้องร่วมมือกันในอนาคตโดยการดำาเนินกลยุทธ์กำาหนดเป้าหมายไว้2ประการคือการส่งเสริมการเคลื่อนย้ายสินค้าที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยและการส่งเสริมระบบโซ่อุปทานทั่วโลกให้สามารถป้องกันการคุกคามและอันตรายและสามารถแก้ไขปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้นกับโซ่อุปทานได้อย่างรวดเร็วและปรับปรุงความพยายามในการบริหารความเสี่ยงการดำาเนินการในทันทีเกี่ยวกับวิธีการปรับปรุงนโยบายและกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง

ผู้กำาหนดนโยบายทั่วโลกมีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับความปลอดภัยของห่วงโซ่อุปทานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ICT)ในขณะที่รัฐบาลทั่วโลกพึ่งพาICTมากขึ้นความกังวลเกี่ยวกับการเพิ่มจำานวนของสินค้าปลอมและรหัสที่เป็นอันตรายรวมถึงจำานวนเทคโนโลยีที่เพิ่มขึ้นของระบบICTภายในบริบทนี้รัฐบาลต้องการให้ผู้ขายปรับปรุงความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ICTที่ขายให้กับรัฐบาลโดยเน้นเฉพาะในห่วงโซ่อุปทานของผู้ขายรัฐบาลมีการพึ่งพาเทคโนโลยีในเชิงพาณิชย์มากขึ้นเพื่อใช้งานของรัฐบาลสำาหรับการเก็บข้อมูลในเวลาเดียวกันเทคโนโลยีสารสนเทศมีความซับซ้อนมากขึ้นและอาจจะมีความเสี่ยงต่อภัยคุกคามทางเทคโนโลยีที่เพิ่มมากขึ้น

สรุปสาระสำาคัญจากการประชุม CSCMP EDGE 2019ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับความปลอดภัยในโซ่อุปทาน

1.รัฐบาลมีความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงในการจัดหาผลิตภัณฑ์ICTหรือผลิตภัณฑ์ปลอมที่มีโปรแกรมที่สร้างความเสียหายของระบบคอมพิวเตอร์(Malware)

2.เนื่องจากโซ่อุปทานมีความซับซ้อนมากขึ้นบริษัทจึงใช้โปรแกรมที่ไม่ใช่ของแท้เพื่อลดค่าใช้จ่ายทำาให้ไม่สามารถจัดการความเสี่ยงและภัยคุกคามได้อย่างสมบูรณ์

3.ปัจจุบันซึ่งผู้จัดส่งวัตถุดิบหลายร้อยรายในหลายประเทศจัดหาฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์สำาเร็จรูป

ภายในบริบทนี้ผู้กำาหนดนโยบายของสหรัฐอเมริกาได้เสนอหรือประกาศนโยบายเกี่ยวกับความปลอดภัยทางเทคโนโลยีในห่วงโซ่อุปทานของผู้ขายมีบทบัญญัติและบทบัญญัติเกี่ยวกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องหลายฉบับรวมถึงพระราชบัญญัติการอนุญาตให้ใช้สิทธิแห่งชาติสำาหรับการแก้ปัญหาต่อเนื่องเช่นกระทรวงกลาโหม(DOD)กระทรวงความมั่นคงสถาบันมาตรฐานและเทคโนโลยีแห่งชาติ(NIST)สำานักงานการจัดการและงบประมาณและการบริหารงานบริการทั่วไปที่เกี่ยวข้องกับด้านความมั่นคงปลอดภัยในห่วงโซ่อุปทานกำาหนดมาตรการการพัฒนามาตรฐานการควบคุมความปลอดภัยการจัดการห่วงโซ่อุปทานเพื่อป้องกันช่องโหว่ด้านความปลอดภัยและผลกระทบทจากโปรแกรมที่ส่งผลต่อความเสียหายของระบบคอมพิวเตอร์โดยมีข้อกำาหนดองค์กรต้องพัฒนาจัดทำาเอกสารที่เป็นปัจจุบันเป็นระยะและใช้แผนความปลอดภัยสำาหรับระบบข้อมูลขององค์กรที่อธิบายการควบคุมความปลอดภัยในสถานที่หรือมีการวางแผนไว้ระบบข้อมูลและกฎของพฤติกรรมสำาหรับบุคคลที่เข้าถึงข้อมูลระบบเพื่อจัดการความเสี่ยงในห่วงโซ่อุปทานระบุประเมินและจัดลำาดับความสำาคัญของความพยายามในการจัดการความเสี่ยงโดยใช้การป้องกันแบบลำาดับขั้นและปรับตามการเปลี่ยนแปลงความปลอดภัยและสภาพแวดล้อมในการปฏิบัติการทั้งนี้เพื่อตอบสนองต่อกฎระเบียบด้านความปลอดภัยของห่วงโซ่อุปทานที่มีอยู่สหรัฐอเมริกาได้เริ่มดำาเนินการด้านความปลอดภัยของห่วงโซ่อุปทานกลุ่มบริษัทและทำางานร่วมกับเจ้าหน้าที่การค้าความปลอดภัยและศุลกากรโลกเพื่อให้มั่นใจว่ากฎระเบียบและกฎหมายด้านความปลอดภัยใหม่นั้นคำานึงถึงความต้องการทางเศรษฐกิจเพื่ออำานวยความสะดวกทางการค้าที่ถูกกฎหมายและทำาให้มั่นใจได้ว่าอุปสรรคด้านความปลอดภัยและศุลกากรจะไม่เป็นอุปสรรคสำาหรับการค้าอย่างเสรีโดยผู้กำาหนดนโยบายจะประกอบด้วยกระทรวงความมั่นคงกระทรวงพาณิชย์กรมการขนส่งกระทรวงคมนาคมทำาเนียบขาวรัฐสภาและประชาคมระหว่างประเทศที่ต้องเผชิญกับความปลอดภัยห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก

แนวโน้มปัจจุบัน

ปัจจุบันนโยบายICTไม่ได้กำาหนดไว้เพียงแค่ประเทศอเมริกาเท่านั้นประเทศอินเดียยังได้มีนโยบายสำาหรับการเข้าสู่ตลาดโดยผู้เสนอระบบICTต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลอินเดียและประเทศจีนกำาหนดให้ธนาคารของรัฐบาลต้องใช้ระบบICTที่ผลิตจากจีนเท่านั้นให้มีความปลอดภัยและสามารถควบคุมโดยไม่พึ่งพาระบบICTจากต่างประเทศและดำาเนินการให้แล้วเสร็จภายในปี2019

ข้อกำาหนดประเทศแหล่งกำาเนิดข้อกำาหนดของเลียนแบบหรือการตอบโต้เพิ่มอุปสรรคทางการตลาดสำาหรับทุกบริษัทเพิ่มความท้าทายให้กับบริษัทในสหรัฐอเมริกาเช่นกันที่ต้องเผชิญกับตลาดต่างประเทศเนื่องจากนโยบายด้านความมั่นคงแห่งชาติการสั่งการตรวจสอบเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ICTที่เชื่อมต่อกับจีนทั้งที่บริษัทสหรัฐต่างพยายามขายสินค้าไปยังประเทศจีนแนวนโยบายของสหรัฐยังทำาให้รัฐบาลอื่นๆสร้างความต้องการห่วงโซ่อุปทานในชาติทั้งรัฐบาลจีนได้ชี้กำาหนดนโยบายการเลือกปฏิบัติของตนเองเช่นกฎระเบียบของธนาคารที่“ปลอดภัยและสามารถควบคุมได้”และประเทศอินเดียใช้เป็นข้ออ้างสำาหรับนโยบายการเข้าถึงตลาด

Demand Driven Disruptionการเปลี่ยนแปลงความคาดหวังของผู้บริโภคต้องการลองสิ่งใหม่ๆทำาให้เกิดการคิดค้นและนำาสิ่งใหม่ๆออกสู่ตลาดและการจัดส่งที่แตกต่างกันในด้านขนาดและจำานวนผลิตภัณฑ์กำาลังส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมหีบห่อสินค้าเพื่อผู้บริโภคเป็นสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อนเทคโนโลยีที่มีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้และผลกระทบที่เกิดขึ้นมีผลต่อห่วงโซ่อุปทานของทั่วประเทศตอบสนองความคาดหวังของผู้บริโภคในขณะที่ยังคงรักษาห่วงโซ่อุปทานไว้หนึ่งในผลกระทบหลักของความคาดหวังของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นคือการขยายSKUในห่วงโซ่อุปทานผู้บริโภคต้องการความหลากหลายของผลิตภัณฑ์และความคุ้มค่าจากสินค้าที่มีอยู่เดิมส่งผลให้มีจำานวนสินค้าย่อยมากขึ้นการจัดการกับขนาดหีบห่อสำาหรับขนส่งโดยรถบรรทุก

จึงต้องมีการดำาเนินงานที่มีประสิทธิภาพโดยใช้เทคโนโลยีห่วงโซ่อุปทานใหม่เพื่อจัดการกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นและมุ่งหวังที่จะลดขนาดของบรรจุภัณฑ์โดยลดปริมาณการใช้พลาสติกให้น้อยลง


THAI NATIONAL SHIPPERS’ COUNCIL “EXPORT YOUR VALUE.”TNSC M

ovement

E-Commerceกำาลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากในด้านวิธีการบรรจุสินค้าของผู้บริโภคบริษัทใหญ่ที่ดำาเนินธุรกิจซื้อขายสินค้าออนไลน์เช่นอเมซอนและอาลีบาบามีการเติบโตอย่างมากมูลค่าสินค้าในอัตราที่สูงขึ้นถึง34%ในระยะเวลา5ปีกำาลังมีสำาคัญกับผู้บริโภคประเมินส่งสินค้าผลิตภัณฑ์อย่างไรให้กับผู้บริโภคอำานวยความสะดวกในการจัดส่งสินค้าโดยตรงไปที่บ้านของผู้บริโภคอเมซอนได้ร่วมมือกับProcter&Gambleเพื่อพัฒนาการขนส่งหลายรูปแบบผลิตภัณฑ์เช่นTide,DawnและOldSpiceสำาหรับล้างร่างกายตัวอย่างเช่น“TideEcoBox”ใช้พลาสติกน้อยกว่าการจัดส่ง60%ขวดTideเปลี่ยนจากแบบเดิมพื้นที่น้อยลงในรถบรรทุกส่งของไม่เพียงแค่สิ่งนี้ช่วยให้อเมซอนจัดส่งอย่างมีประสิทธิภาพสามารถขายผลิตภัณฑ์ทางออนไลน์ได้จำานวนมากขึ้นให้กับผู้ซื้อออนไลน์และช่วยP&Gเช่นกันในการลดต้นทุนในโซ่อุปทานเมื่อมีการจัดส่งโดยตรงไปยังผู้บริโภค

แนวโน้มที่ส่งผลต่อโซ่อุปทาน

oการสร้างฉลากสินค้าของผู้ค้าออนไลน์การแข่งขันที่สูงขึ้นทั้งทางออนไลน์และการจัดจำาหน่ายสินค้าชั้นวางของร้านค้ามากขึ้นกว่าเดิมการจัดทำาฉลากของผู้ขายออนไลน์ส่งผลกระทบต่อตราสินค้าบรรจุภัณฑ์แบบเดิมเทียบเท่าสินค้าที่มีการวางจำาหน่ายอยู่ทั้งทางออนไลน์และในร้านค้าและใช้การกำาหนดราคาเชิงรุกมากขึ้นบริษัทรายใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซอย่างอเมซอนกำาลังสร้างฉลากเองใช้ทางเว็บจำานวนมากเพื่อผลักดันผลิตภัณฑ์มากกว่าตราสินค้าเดิมเพื่อที่จะแข่งขันอย่างมีประสิทธิภาพกับการเพิ่มขึ้นของออนไลน์และในร้านค้า

oเจ้าของตราสินค้าจะต้องเพิ่มมูลค่าเพื่อการแข่งขันในขณะเดียวกันต้องลดต้นทุนตลอดห่วงโซ่อุปทานพร้อมกันไปด้วยซึ่งการแข่งขันในการสร้างตราสินค้าของสินค้าออนไลน์ส่งผลทำาให้เกิดการเปลี่ยนแปลงความภักดีในผลิตภัณฑ์ของลูกค้าเจ้าของตราสินค้าเดิมเน้นการขายตรงไปยังลูกค้ามากขึ้นในการเพิ่มมูลค่าตราสินค้าที่ผู้บริโภคบรรจุหีบห่อบางรายก็เลือกสร้างความแตกต่างด้วยการขายตรงไปยังผู้บริโภค(D2C)เพื่อให้สามารถป้องกันและควบคุมช่องทางทางการจัดจำาหน่ายของบริษัทได้มากขึ้นโดยต้องอาศัยการรวมกิจการกับธุรกิจที่มีความเชี่ยวชาญในการขายออนไลน์เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์ตั้งแต่กระบวนการสั่งซื้อออนไลน์ไปจนถึงวิธีการบรรจุและส่งมอบผลิตภัณฑ์รวมถึงกระบวนการส่งคืนผ่านการเข้าซื้อกิจการส่งผลให้ห่วงโซ่อุปทานกำาลังขยายออกไปและมีการจัดส่งตรงไปยังผู้บริโภคการขยายมาพร้อมกับเพิ่มเติมค่าใช้จ่ายและพื้นที่สำาหรับความท้าทายในการดำาเนินงานด้านปัญหาด้านต้นทุนโลจิสติกส์และโลจิสติกส์ย้อนกลับ

ความปลอดภัยด้านอาหารซึ่งครอบคลุมห่วงโซ่อุปทานตั้งแต่การติดตามผลิตภัณฑ์ที่แหล่งข้อมูลเพื่อตรวจสอบการขนส่งและการกระจายสินค้าในแต่ละขั้นตอนของห่วงโซ่อุปทานช่วยให้เป็นไปตามข้อกำาหนดFSMA/STFผลลัพธ์ที่ได้คือความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นประสิทธิภาพที่ดีขึ้นและการประหยัดต้นทุนให้แก่ผู้จัดจำาหน่ายซัพพลายเออร์และผู้ให้บริการทั้งขนส่งหมดในขณะที่ยังคงสามารถปฏิบัติตามข้อกำาหนดของFSMA/STFได้ทั้งนี้การกำาหนดให้แนวทางการขนส่งต้องไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของอาหารเนื่องจากระบุว่าการระบาดของโรคที่พบเป็นผลมาจากการปนเปื้อนในระหว่างการขนส่ง

Supply Chain Providing Safe & Compliant การระบาดของโรคที่เกิดจากอาหารข้อมูลจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคเกือบทุกปีประชาการ48ล้านคนจะติดโรคจากอาหารในจำานวนนั้นจะมี128,000ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลและ3,000จะตายสาเหตุของการเจ็บป่วยที่เกิดจากอาหารและส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อาหารทั้งหมดสาเหตุที่พบบ่อยได้แก่การบริโภคอาหารหรือเครื่องดื่มที่ปนเปื้อนที่เกิดจากการจัดการที่ไม่เหมาะสมการสัมผัสกับอาหารการไม่เคลื่อนย้ายอาหารเข้าและออกจากโกดังเร็วพอทำาให้เกิดการเน่าเสียผู้บริโภคใส่ใจเกี่ยวกับคุณภาพที่มาของส่วนผสมที่ใช้และการตรวจสอบย้อนกลับที่เป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคแต่ควรคำานึงถึงความปลอดภัยหรือคุณภาพของผลิตภัณฑ์ตรวจสอบย้อนกลับนี้ยังช่วยให้บริษัทติดตามปัญหาห่วงโซ่อุปทานและอำานวยความสะดวกในกระบวนการเรียกคืนอย่างรวดเร็วซึ่งสอดคล้องกับพระราชบัญญัติความปลอดภัยด้านอาหารขององค์การอาหารและยา(FoodSafetyModernizationAct:FSMA)กำาลังเปลี่ยนแปลงระบบความปลอดภัยด้านอาหารของประเทศโดยเปลี่ยนจุดสนใจจากการหาแนวทางในการรักษาเป็นให้ความสำาคัญกับที่มาของอาหารซึ่งเป็นต้นเหตุของการเกิดโรคหรือความเจ็บป่วยที่เกิดจากอาหาร

o ธุรกิจค้าปลีกจัดส่งโดยตรงไปยังผู้บริโภคต้องปรับแนวทางการดำาเนินงานที่ให้ความสำาคัญกับการใช้เวลา40-60%ของเวลาในการติดตามเนื่องจากผู้บริโภคที่ซื้อสินค้าออนไลน์คาดหวังความโปร่งใสเมื่อสินค้าจะถูกจัดส่งหรือส่งกลับคืน

ข้อกำาหนด FSMA สำาหรับผู้เกี่ยวข้อง

ในขณะที่องค์การอาหารและยายอมรับว่าภาคการขนส่งสร้างจำานวนมากไม่ได้ดำาเนินการทำาให้มีความเสี่ยงต่อความปลอดภัยของอาหารจากการละเลยแนวทางปฏิบัติที่ช่วยบรรเทาความเสี่ยงโดยกำาหนดให้บริษัทมีกระบวนการเอกสารเก็บในบริษัท

ความปลอดภัยจาการขนส่งจากฟาร์มสู่ผู้บริโภคลูกค้าคาดหวังและเชื่อมั่นว่าอาหารที่ซื้อและบริโภคนั้นปลอดภัยในการนำาไปบริโภคผู้เกี่ยวข้องกับการเพาะปลูก

การผลิตอุตสาหกรรมอาหารทั้งหมดต้องร่วมกันในการทำางานรวมถึงการขนส่งเป็นสิ่งสำาคัญการเชื่อมโยงในห่วงโซ่อุปทานต้องหาวิธีการที่จะแสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบและความน่าเชื่อถือโดยใช้เทคโนโลยีสามารถการตรวจสอบย้อนกลับการวางแผนเส้นทางที่มีประสิทธิภาพและการติดตามสถานะของสินค้าซึ่งเป็นองค์ประกอบสำาคัญในการสนับสนุนเป้าหมายในการนำาอาหารปลอดภัยไปยังผู้บริโภค


“EXPORT YOUR VALUE” THAI NATIONAL SHIPPERS’ COUNCILTN

SC M

ovem

ent สาระสำาคัญจากการประชุม Global Liner Shipping Asia Conference 2019

สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทยได้เข้าร่วมการประชุมGlobalLinerShippingAsiaConference2019เมื่อวันที่17-19กันยายนที่ผ่านมาณประเทศสิงคโปร์ซึ่งภายในงานได้มีการนำาเสนอเกี่ยวกับสถานการณ์และทิศทางการขนส่งสินค้าทางทะเลระหว่างประเทศและแนวทางการพัฒนาการขนส่งสินค้าทางทะเลทั้งนี้การเข้าร่วมการประชุมดังกล่าวจะช่วยให้ผู้ประกอบการส่งออกและนำาเข้าได้รับทราบถึงทิศทางการดำาเนินงานของสายเรือและท่าเรือตลอดจน ปัจจัยที่จะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์การเดินเรือของโลกเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมของผู้ประกอบการส่งออกและนำาเข้าในการรับมือและปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของDigitalTransfor-mationและมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมทั้งในระยะสั้นและระยะยาวขององค์การทางทะเลระหว่างประเทศ(IMO)

ทิศทางอนาคตธุรกิจการขนส่งสินค้าทางทะเลในยุคดิจิทัล : The Next 50 Years

มุมมองต่อธุรกิจการขนส่งสินค้าทางทะเลในอนาคตบริษัทเดินเรือจะมีการลงทุนด้านเทคโนโลยีดิจิทัลมากยิ่งขึ้นเพื่อสร้างความแตกต่างของบริการและช่วยเพิ่มProductivityตลอดจนสามารถลดต้นทุนโดยมีความท้าทายที่สำาคัญคือการปรับตัวให้ทันต่อเทคโนโลยี(DigitalDisruption)นอกจากนี้จะมีการบูรณาการเพิ่มขึ้นระหว่างภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในValueChainเช่นมีการแชร์ข้อมูลการดำาเนินงานระหว่างสายเดินเรือและผู้ให้บริการเทอร์มินอลตัวอย่างคือการมีเรือขนาดใหญ่ขึ้นทำาให้เทอร์มินอลต้องมีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานให้สอดคล้องกันเป็นต้นรวมถึงการบูรณาการกันของผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ในลักษณะVertical Integrationตัวอย่างการร่วมมือกันระหว่างสายเรือกับForwarderเพื่อเพิ่มศักยภาพการให้บริการในรูปแบบที่ครบวงจรมากขึ้นจากที่สายเดินเรือให้บริการจากท่าเรือถึงท่าเรือทำาให้สามารถครอบคลุมการให้บริการในลักษณะDoortoDoorจากความเชี่ยวชาญของForwarderเป็นต้น

ทั้งนี้นับตั้งแต่วิกฤตการณ์ทางการเงินช่วงปี2008เป็นต้นมาการเติบโตทางการค้าและการขนส่งระหว่างประเทศยังคงมีอัตราการเติบโตแต่เป็นอัตราการเติบโตที่ช้าลง(รายละเอียดดังกราฟที่1)

สำาหรับแนวโน้มในอนาคตมองว่าความสามารถในการบรรทุกของเรือขนส่งสินค้าจะมีปริมาณมากขึ้นโดยจะมีการต่อเรือที่มีขนาดใหญ่ซึ่งยึดตามหลักการEconomyofScaleในปัจจุบันเรือขนาดใหญ่ที่สุดสามารถบรรทุกได้มากกว่า20,000TEUsทำาให้สามารถบริหารต้นทุนด้านเชื้อเพลิงต้นทุนด้านลูกเรือสามารถลดการปลดปล่อยมลภาวะต่อตู้ได้มากขึ้นซึ่งในอนาคตอีก50ปีข้างหน้ามีความเป็นไปได้ที่จะมีเรือขนาดใหญ่ถึง50,000TEUsนอกจากนี้มีแนวโน้มที่จะผลิตตู้คอนเทนเนอร์ที่มีขนาดใหญ่มากขึ้นโดยมีความเป็นไปได้ที่จะมีตู้ขนาดยาวถึง 60ฟุตในอนาคตเนื่องจากมีการพัฒนาโครงข่ายทางถนนทางรางและโหมดอื่นๆที่สามารถรองรับได้ทั้งนี้ มีความท้าทายที่ต้องให้ความสำาคัญคือเรื่องOversupplyที่สายเดินเรือต้องบริหารจัดการให้เหมาะสมทั้งนี้ช่วง5ปีที่ผ่านมาบริษัทเดินเรือได้รวมกันเป็นAlliancesหลัก3กลุ่มซึ่งช่วยให้บริษัทเรือในกลุ่มสามารถใช้เรือได้อย่างมีประสิทธิภาพและสร้างความสามารถในการจัดหาเรือเพื่อรองรับความต้องการของผู้ใช้บริการเป็นการยกระดับการให้บริการทำาให้เรือมีความถี่ในการวิ่งมากยิ่งขึ้นดังนั้นในอนาคตเรือจะดำาเนินการในลักษณะของLinerConsolidationมากขึ้น

Container Market Outlook 2019

จากมุมมองของที่ปรึกษาด้านการขนส่งสินค้าทางทะเลโดยภาพรวมการเติบโตของปริมาณการขนส่งสินค้าทางทะเล(FleetGrowthandGlobalDemandGrowth)ในปีนี้มีการเติบโตแต่เติบโตในอัตราที่ช้าลงสำาหรับเส้นทางหลักที่มีการพัฒนาในเชิงบวกได้แก่เส้นทางขาเข้าและขาออกจากยุโรปในขณะที่เส้นทางสหรัฐอเมริกา

และทรานส์แปซิฟิกมีทิศทางตรงข้ามคือปริมาณลดลงโดยคาดการณ์ว่าในอีก2-3เดือนข้างหน้าสถานการณ์จะยังคงไม่ดีขึ้นทั้งนี้คาดการณ์ว่าขนาดของเรือเฉลี่ยที่วิ่งในเส้นทางเอเชีย-ยุโรปจะมีแนวโน้มใหญ่ขึ้นโดยที่ปริมาณของการให้บริการจะลดลงนอกจากนี้สายเรือจะมีการปรับปริมาณการเดินเรือให้สอดคล้องกับตลาดมากขึ้นด้วยการทำาBlankSailingประกอบกับปัจจัยอีกหลายประการทั้งเรื่องของสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนที่นอกจากเป็นความตึงเครียดด้านการค้ายังเป็นความตึงเครียดด้านความปลอดภัยอีกด้วยซึ่งถือเป็นความท้าทายด้านการเมืองและก่อให้เกิดความไม่มั่นใจและความเปลี่ยนแปลงในซัพพลายเชนรวมถึงการออกจากสหภาพยุโรปหรือBREXITของสหราชอาณาจักรและมาตรการIMOLowSulphur2020 ที่สายเรือต้องปรับตัวและเตรียมความพร้อม ดังนั้นจะเห็นได้ว่าสายเรืออยู่ในสภาวะที่ค่อนข้าง ลำาบากในปัจจุบัน

Digital Transformation

สำาหรับธุรกิจการขนส่งสินค้าทางทะเลผู้ให้บริการรายใหญ่ๆมีการลงทุนมหาศาลในการนำาเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการดำาเนินงานตลอดช่วงปีที่ผ่านมา(DigitalShipping)ทั้งในเรื่องของการสร้างแพลตฟอร์มเชื่อมโยงสำาหรับผู้ใช้บริการและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องให้ใช้ระบบในการส่งผ่านข้อมูลเพื่อช่วยอำานวยความสะดวกและรวดเร็วในการขนส่งสินค้ามากยิ่งขึ้น ให้สอดคล้องกับการจัดการที่สำาคัญในยุค DigitalSupplyChainทั้งนี้Transformation Modelที่สำาคัญประการหนึ่งสำาหรับผู้ให้บริการหรือสายเดินเรือคือการพัฒนารูปแบบธุรกิจ และการนำาเสนอบริการใหม่ๆ (New Business Models and Offerings) ตัวอย่างคือEasyonlinebookingplatformลูกค้าทั้งเก่าและใหม่สามารถเข้าถึงได้โดยง่ายเพียงoneclickรวมถึงการให้บริการในAreaที่สร้างรายได้เพิ่มขึ้นเช่นการเป็นIntermodalandWarehousingSolutionเป็นต้นนอกจากนี้ การมีระบบติดตามสินค้าแบบRealtimetrackingตลอดจนสามารถติดตามสถานะของสินค้าระหว่างเรือเดินทางในลักษณะRemoteMonitoringเป็นต้นตัวอย่างจากสายเรือCMACGMที่มีบริการใหม่สำาหรับตู้Reefer(Reefer Solution)เพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้าเรียกว่า Reeflexซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ในลักษณะเป็นSingle-UseBagติดตั้งภายในตู้40’Reeferสามารถบรรจุสินค้าที่เป็นของเหลวได้24,000ลิตรบรรจุได้ภายใน30นาทีสามารถใช้ขนส่งน้ำาผลไม้นมหรือน้ำามันเป็นต้นถือเป็นเทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยในการขนส่งสินค้าประเภทของเหลวได้ดียิ่งขึ้นรวมถึงมีการนำาระบบติดตามที่เรียกว่าTRAXENSติดตั้งไว้กับsmartcontainerเพื่อใช้ในการติดตามสถานะของตู้สินค้าสามารถบอกได้ว่า ตู้สินค้ามีความเสียหายหรือถูกเปิดตลอดจนสามารถให้ข้อมูลการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิภายในตู้สินค้าได้ซึ่งลูกค้าสามารถทราบสถานะได้ตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทางตลอดการขนส่ง


THAI NATIONAL SHIPPERS’ COUNCIL “EXPORT YOUR VALUE.”TNSC M

ovement

สรท.เข้าพบ รมว.กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เมื่อวันที่19กันยายน2562คุณกัณญภัคตันติพิพัฒน์พงศ์ประธานสรท.คุณณัฐพลเดชวิทักษ์รองประธานฯและคุณคงฤทธิ์จันทริกผู้อำานวยการบริหารเข้าพบแสดงความยินดีรมว.กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(นายพุทธิพงษ์ปุณณกันต์)และมอบยุทธศาสตร์ส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศของสรท.พร้อมกับได้มีการหารือในประเด็น1)การส่งเสริมการพัฒนาแพลตฟอร์มการค้าระหว่างประเทศโครงการThailandNationalDigitalTradePlatform(NDTP)โดยความคืบหน้าล่าสุดครม.มีมติเห็นชอบแนวทางการพัฒนาแพลตฟอร์มการค้าดิจิทัลระหว่างประเทศของไทย(ThailandNationalDigitalTradePlatform)และได้มอบหมายให้สำานักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ(สำานักงานก.พ.ร.)เป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนและจัดตั้งคณะกรรมการฯเพื่อหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนต่อไป2)พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ทางกระทรวงดิจิทัลฯประกาศใช้ว่าจะต้องมีการหารือร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชนในส่วนของชั้นความลับในการเข้าถึงข้อมูลทั้งนี้วันที่10ต.ค.62ทางกระทรวงดิจิทัลฯจะเปิดเวทีภาคเอกชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อรับฟังแนวทางในการปฏิบัติในการคุ้มครองของมูลส่วนบุคคล

Source:WorldEconomicForum

จากภาพด้านบนคือแพลตฟอร์มที่ประกอบด้วยส่วนต่างๆที่เกี่ยวข้องตลอดการขนส่งสินค้าทางทะเลโดยสรุปของการพัฒนาDigitalTransformationคือต้องสร้างรูปแบบความเชื่อมโยงในลักษณะIntermodalHarmonization ให้เกิดขึ้นทั้งภาครัฐและภาคเอกชนซึ่งประเด็นเรื่องของข้อกำาหนดต่างๆ(Regulations)ถือเป็นประเด็นหนึ่งที่ท้าทายสำาหรับหัวใจหลักของการพัฒนาระบบนิเวศทางธุรกิจในยุคดิจิทัลคือทุกคนสามารถเข้าถึงข้อมูลเพื่อช่วยในการตัดสินใจอย่างไรก็ตามในแต่ละหน่วยของกิจกรรมต้องสร้างความเชื่อมั่นระหว่างกันด้วยการกำาหนดDigitalGlobalTradeIdentity(GTID)ร่วมกันซึ่งต้องมีระบบและมาตรฐานตลอดจนได้รับอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลโดยประโยชน์ที่ได้รับคือช่วยลดอุปสรรคในการขนส่งระหว่างประเทศและลดการใช้เอกสารได้

ความคืบหน้าการปฏิบัติตามข้อบังคับขององค์การทางทะเลระหว่างประเทศ (IMO) สำาหรับ IMO Low Sulphur 2020 และ GHG Protocol Decarbonisation Goals 2050

จากมาตรการIMOLowSulphur2020ในการลดการปลดปล่อยกำามะถันจากเชื้อเพลิงเรือให้ไม่เกิน0.5%m/mโดยจะมีผลบังคับตั้งแต่วันที่1มกราคม2563ซึ่งสายเดินเรือต่างได้ดำาเนินการเพื่อเตรียมความพร้อมสำาหรับEnergyTransitionตามมาตรการดังกล่าวโดยได้เตรียมมาตรการคือ1)การใช้น้ำามันLowSulphur0.5%2)การใช้เชื้อเพลิงLNG3)การติดตั้งScrubberนอกจากนี้ได้มีการทดสอบการใช้น้ำามันBiofuelและการศึกษาในเรื่องของModern,EfficientandInnovationFleetสำาหรับอนาคตทั้งนี้สายเรือแต่ละสายจะมีสูตรในการคำานวณค่าเชื้อเพลิงที่เกิดขึ้นโดยมีแนวทางคล้ายคลึงกันซึ่งผู้ใช้บริการสามารถตรวจสอบกับสายเรือแต่ละสายได้โดยตรง

นอกจากนี้IMOยังได้กำาหนดมาตรการGHGProtocolDecarbonisationGoals2050ในการลด การปลดปล่อยGreenhouseGasesจากการเดินเรือระหว่างประเทศเพื่อป้องกันมลภาวะตามอนุสัญญา MARPOLโดยภายในปี2050เรือขนส่งระหว่างประเทศต้องสามารถลดการปลดปล่อยGHGต่อปีลงอย่างน้อยที่สุด50%(เทียบกับปี2008)โดยที่มีวัตถุประสงค์ระยะยาวในการปลอดการปลดปล่อยคาร์บอนจากการเดินเรือ(ZeroCarbonShippingIndustry)ภายในสิ้นศตวรรษนี้สำาหรับมาตรการนี้นอกเหนือจากการลดการปลดปล่อยคาร์บอน(CO2)ยังรวมถึงก๊าซอื่นๆที่เป็นGHGด้วยคือก๊าซmethane,nitrousoxide(NOx),hydrofluorocarbons,perfluorocarbonsและsulphurhexafluoride

โดยสรุปจากมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมที่กำาหนดขึ้นของIMOทั้งมาตรการระยะสั้นและระยะยาวบริษัทสายเดินเรือต่างมีแนวทางเดียวกันคือปฏิบัติตามมาตรการดังกล่าวทั้งนี้การเลือกใช้วิธีการหรือเชื้อเพลิงแต่ละชนิดของบริษัทเดินเรือจะมีต้นทุนและข้อจำากัดที่แตกต่างกันตัวอย่างเช่นการติดตั้งScrubber ที่มีลักษณะOpenLoopในบางประเทศ ไม่ยอมรับให้เข้าเทียบท่าเพราะมีความกังวลเร่ืองสิ่งปนเปื้อนที่อาจถูกปลดปล่อยลงน้ำาแทนทำาให้สายเรือบางสายเช่น Maersk มีการเลือกใช้ลักษณะ Hybridสามารถปรับเป็นClosedLoop ในบางพื้นที่ในส่วนของเชื้อเพลิงทางเลือกอย่างแอมโมเนียยังพบว่ามีปัญหาความปลอดภัยในการจัดเก็บในขณะที่LNGที่เป็นเชื้อเพลิงสะอาดมีความปลอดภัยในจัดเก็บแต่ปัจจุบันถ้าเป็นท่าเรือเล็กอาจยังไม่มีความพร้อมในการจัดหาเชื้อเพลิง LNGเป็นต้น

สำาหรับผู้ใช้บริการเห็นว่าการปรับตัวตามมาตรการดังกล่าวซึ่งส่งผลดีต่อสภาพแวดล้อมโดยรวมแต่ส่งผลต่อต้นทุนค่าใช้จ่ายในการขนส่งไปพร้อมกันโดยมีความคาดหวังว่าค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิงที่เพิ่มสูงขึ้นเพื่อประโยชน์โดยรวมควรมาพร้อมกับคุณภาพในการให้บริการของสายเรือทั้งเรื่องของตารางเรือและ ReliabilityServiceและอีกประการที่สำาคัญคือการสื่อสารของบริษัทสายเดินเรือต่อผู้ใช้บริการอยากให้เป็นในลักษณะของDatabaseDiscussionมีการสื่อสารหรือแจ้งข้อมูลล่วงหน้าให้ผู้ใช้บริการทราบเพื่อสร้างความเข้าใจและเตรียมพร้อมในการวางแผนทั้งด้านต้นทุนและการดำาเนินงาน

โดย: สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย

ณโรงแรมแกรนด์ไฮแอทเอราวัณราชดำาริ

ค่าลงทะเบียนสมาชิก2,000บาท

บุคคลทั่วไป3,500บาท

27 อบรม“เลือกวิธีการชำาระเงินและ INCOTERMSที่เหมาะสมเพื่อลดความเสี่ยง ในการทำาธุรกิจนำาเข้า-ส่งออก” (รวมหนังสือ1เล่ม) โดย: อ.บุญเลิศสุภาผาผู้เชี่ยวชาญด้านการค้า และการชำาระเงินระหว่างประเทศ ณโรงแรมในกรุงเทพฯ



DECEMBER14 อบรม“ความผิดพลาดทางศุลกากรของ ผู้นำาเข้า-ส่งออกที่ตรวจพบและการแก้ไข” โดย:อาจารย์วิชัยมากวัฒนสุข ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายกรมศุลกากร ณโรงแรมในกรุงเทพฯ



NOVEMBER14-15อบรม“เรียนรู้เจาะลึกค้าชายแดน:เทอมการค้าการชำาระเงิน พิธีการศุลกากรและการขนส่งข้ามแดน”Season2 โดย: อ.บุญเลิศสุภาผาผู้เชี่ยวชาญด้านการค้าและการชำาระเงินระหว่างประเทศ ผู้แทนจากสมาคมชิปปิ้งแห่งประเทศไทย คุณณัฐพลมีแสงกรรมการผู้จัดการบริษัทBIRDInterfreight (มูลนิธิพัฒนาผู้ส่งออกไทย) ณโรงแรมในกรุงเทพฯ



25 งานTNSC25thAnniversaryExclusive DinnerTalkภายใต้แนวคิดShiftEconomic Landscape:ChallengesandTurnaround Opportunities

“EXPORTYOURVALUE”THAI NATIONAL SHIPPERS’ COUNCIL

ปฏิทินกิจกรรมและการศึกษาดูงาน ประจำาปี 2562 (กำาหนดการอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสมค่าลงทะเบียนยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม7%)

ท่านสามารถสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายละเอียดแต่ละกิจกรรมและค่าธรรมเนียมการเข้าร่วมกิจกรรมได้ที่---------------------------------------------ฝ่ายสมาชิกสัมพันธ์ สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สภาผู้ส่งออก)

โทรศัพท์02-6797555ต่อ501,777(ติดต่อคุณสิริพรรณ,คุณภัทรพล)หรือที่อีเมลแอดเดรส[email protected],[email protected]

บริการจัดฝึกอบรมในหน่วยงานหรือองค์กร (In-House Training)หัวข้อและระยะเวลาการฝึกอบรมขึ้นอยู่กับความต้องการของบริษัทสมาชิกผู้ขอรับบริการ

TNSC 25th Anniversary Exclusive Dinner Talk...อาหารอ นๆ 617 -4.2%...

Documents

Transcript of TNSC 25th Anniversary Exclusive Dinner Talk...อาหารอ นๆ 617 -4.2%...