48 : February 2011

แฟรนไชส์น่าลงทุน เรื่อง : พูลังคน

จี่กินให้หายหิว จี่ขายให้หายจน....

“ข้าวจี่” ชื่อนี้หลายคนคงคิดว่ามันคือข้าวเหนียวปั้นเป็นก้อนกลมๆชุบด้วยไข่โรยด้วยเกลือเสียบด้วยไม้แล้วนำไปจี่(ย่าง)บนเตาถ่าน....

แตข่า้วจีพ่ะยีห่อ้ “ขา้วจี ่ กูด๊มอรน์ิง่” ที่มี คุณป้อม (ชัยพร ศรีวิโรจน์) เจ้าของแฟรนไชส์ไก่ย่างเขาสวนกวางอันโด่งดัง ที่หันมาจับธุรกิจใหม่ล่าสุดตัวนี้ บอกให้หายสงสัยว่า . . .ข้าวจี่ตัวนี้หมายถึงบั่นหมี่ ในภาษาเวียดนาม หรือขนมปังฝรั่งเศสมีลักษณะเรียวยาวคล้ ายลู กรั กบี้ ยั ดไส้ด้ วยกุน เชี ยง และหมูยอ ซึ่งเป็นอาหารแสนโอชา เป็นเมนูยอดฮิตของหมู่เฮาชาวอุดร ขอนแก่น อุบล หนองคาย นครพนม ส่ วนที่ ลาวและเวียดนามถือว่าเป็นอาหารหลัก เป็นอาหารสามัญประจำซอย เพราะหาซื้อหาทานได้ทั่วไป ถ้าเอ่ยชื่อถึง คุณป้อม หลายคนคงน้ำลายสอเพราะจะนึกถึงความแซ่บของส้มตำและไก่ย่างเขาสวนกวาง แห่งร้านสุดทางรัก

แต่การมาในครั้งนี้ เขาได้ซ่อนครกปิดเตา ย่างไก่ไปชั่วคราว แล้วหันมาสวมงอบปั้นแฟรนไชส์น้องใหม่ที่ชื่อว่า แฟรนไชส์ข้าวจี่ กู๊ดมอร์นิ่ง ที่ตอนนี้เขาพร้อมที่จะนำมาเสิร์ฟให้คุณได้ลองลิ้มชิมรสชาติ หรือจะนำไปจี่ ขายให้หายจนได้แล้ว “ ข้ า ว จี่ ห รื อ บั่ น ห มี่ เ ป็ น ข นมปั ง ที่ดัดแปลงมาจากขนมปังฝรั่งเศส ความเป็น มาอย่างคร่าวๆ ถึงต้นกำเนิดของข้าวจี่คงจะพอสันนิฐานได้ว่ าน่าจะเกิดขึ้นในสมัยที่ฝรั่งเศสเข้ามายึดครองประเทศเวียดนาม ฝรั่ ง เศสได้นำขนมปัง เข้ ามาเป็นเสบียง ซึ่งขนมปังฝรั่งเศสจะค่อนข้างแข็ง ผลิต มาจากข้าวโอ๊ต และนิยมทำขนาดใหญ่เหมือนท่อนไม้ พอคนเวียดนามได้มาทำขนมปังฝรั่งเศสเอง พวกเขาก็ได้ประยุกต์นำเอา

แฟรนไชส์น้องใหม่สุดแร็งส์...แปลกใหม่สไตล์เวียดนามส่งตรงจากต้นตำรับเสิร์ฟร้อนๆถึงคุณโดย“คุณป้อม”

คณุปอ้ม (ชยัพร ศรวีโิรจน)์

กุมภาพันธ์ 2554 : 49

วัตถุดิบที่สามารถหาได้ง่ ายนั้นก็คือแป้งข้าวเหนียวมาทำแทนแป้งข้าวโอ๊ตจึงกลายมาเป็นบั่นหมี่ที่ไม่แข็งแต่จะเหนียวนุ่ม ชาวเวียดนามจะนำบั่นหมี่มาผ่าตรงกลางแล้วยัดไส้ด้วยหมูยอ กุนเชียง ตับบด ราดด้วยซอสปรุงรส แล้วนำไปย่างบนเตาให้กรอบนอกนุ่มใน ด้วยความอร่อยอิ่มแบบประหยัดจึงทำให้บั่นหมี่กลายเป็นอาหารหลักของชาวเวียดนาม หลังจากนั้นบั่นหมี่ก็ ข้ามโขงมาโด่งดังที่ลาว และเข้าสู่ประเทศไทยในแถบลุ่มน้ำโขงอย่างมุกดาหาร นครพนม อุดร ขอนแก่น หนองคาย ซึ่งชาวอีสานจะเรียกกันว่าข้าวจี่ ส่วนชาวลาวจะรู้จักกันในชื่อแป้งจี่ ซึ่งคนอีสานมักกินข้าวจี่คู่กับไข่กระทะ หรือไม่ก็กาแฟ” คุณป้อมเล่าถึงความเป็น มาของข้าวจี่อย่างออกรส “คือผมมองว่าข้าวจี่ตัวนี้ที่กรุงเทพฯ หาทานค่อนข้างยาก ถ้าจะกินก็ต้องไปกินตามร้านอาหารเวียดนามซึ่งมันไม่สะดวก อาหารตัวนี้มันเหมาะกับวิถีชีวิตที่ เร่งรีบ ของคนกรุงเทพฯ และผมมองว่าตลาดของอาหารตัวนี้เป็นตลาดที่ใหญ่ และเหมาะกับคนกรุงเทพฯเพราะทำง่าย อร่อย อยู่ท้อง และยังมีคุณค่าทางอาหารมากกว่าปาท่องโก๋ที่เราเคยชิน” “และอีกอย่างผมมองว่ายังไม่มี ใครนำมาทำเป็นธุรกิจจริงๆจังๆ จากประสบการณ์ที่

ผมเคยทำแฟรนไชส์ไก่ย่างเขาสวนกวางมา ก็ยิ่งมองเห็นตลาดว่าสามารถทำได้ เพราะวิธีทำก็ไม่ยุ่งยาก พื้นที่ไม่ต้องใหญ่โต ยิ่งถ้าใครมีที่ ขายกาแฟ น้ ำ เต้ าฮู้ หมูปิ้ ง ร้ านโจ๊ ก ร้านต้มเลือดหมู ร้านข้าวมันไก่อยู่แล้วยิ่งสะดวกสามารถนำเอาข้าวจี่ตัวนี้มาวางขายต่อยอดได้เลย” “ข้าวจี่ กู๊ดมอร์นิ่ง จะสอดไส้ด้วยกุนเชียงไก่ติดมัน และไก่ยอ ซึ่งผมจะเป็น ผู้ผลิตสินค้าเองทั้งหมด ถ้าใครสนใจก็แค่มีพื้นที่ ไม่ต้องใหญ่มากมาซื้อแฟรนไชส์ไป ขายได้เลย หรือผู้ที่มีหน้าร้านอยู่แล้วและต้องการนำข้าวจี่ไปขายก็ทำได้โดยสั่งซื้อข้าวจี่ 100 ชิ้น ขึ้นไป เราจัดส่งให้ฟรี ทั่วกรุงเทพฯและปริมณฑล” “เรื่องความอร่อย และคุณภาพของข้าวจี่ไม่ต้องเป็นห่วงเพราะของเราเป็นสูตรต้นตำรับอร่อยเหมือนกินอยู่อุดร ขอนแก่น

ใครที่เคยติดใจในรสชาติต่อจากนี้ก็ไม่ต้อง บินไปกินถึงอุดร ขอนแก่นแล้วอยู่กรุงเทพฯ ก็สามารถหาทานได้” “แฟรนไชส์ตัวนี้ผมคิดว่าไม่ใช่เรื่อง ยากเลยที่จะทำให้ประสบความสำเร็จ เพราะนอกจากผมจะมีประสบการณ์ ใน เรื่ อ งแฟรนไชส์มา และข้าวจี่ตัวนี้ยังมีจุดเด่นไม่ว่าจะเป็นเรื่องความแปลกใหม่ วิธีทำก็ง่าย ต้นทุนก็ไม่แพง ผมการันตีว่าแฟรนไชส์ตัวนี้สามารถคืนทุนได้เร็ว” ชุมทางอาชีพเชื่อแน่ว่าแฟรนไชส์ตัวนี้ต้องร้อนฉ่า เพราะแค่วันเปิดตัวแบบซอฟๆ ในงานวันเกษตรก้าวหน้าที่ธนาคารกรุงเทพฯ สำนักงานใหญ่ ถนนสีลมที่ผ่านมาข่าวจี่ กู๊ดมอร์นิ่ง ของคุณชัยพร ศรีวิโรจน์ นั้น โซลเอ้าท์ ขายเกลี้ยง 2,000 ชิ้นภายใน สิบนาที ต้องบอกว่าของเขาดีจริงๆ

สนใจตดิตอ่ไปที ่: ชยัพร ศรวีโิรจน ์(คณุปอ้ม) ขา้วจี ่กูด๊มอรน์ิง่ 38 ม. 10 ซ. เฉลมิพระเกยีรต ิ28 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กรุงเทพฯ 10250 โทร. 08-1544-5195

รูปแบบการลงทุนมี2รูปแบบ รูปแบบที่ 1 ค่าแฟรนไชส์ 9,999 บาท ลูกค้าจะได้รับคีออส1ตัวเตาอบไฟฟ้า1เครื่องที่คีบข้าวจี่1อันขวดใส่ซอสมะเขือเทศและซอสพริก2ขวดและซื้อข้าวจี่จำนวน100ชิ้นขึ้นไปในราคาพิเศษชิ้นละ7บาทเท่านั้น รูปแบบที่ 2 ซื้อเฉพาะข้าวจี่ในราคาขายส่ง โดยต้องสั่งซื้อจำนวน 100 ชิ้นขึ้นไปในราคาชิ้นละ 8 บาท สามารถนำไปขายได้ตั้งแต่ 12 บาทขึ้นไป ขึ้นอยู่กับทำเลที่นำไปขาย(ข้าวจี่สามารถเก็บรักษาได้นานถึง5วันถ้าเก็บไว้ในตู้เย็น)

งาน The Best SMEs Award ที่โรงแรมทาวน์ อิน ทาวน์ งานวันเกษตรก้าวหน้า ธ.กรุงเทพฯ สำนักงานใหญ่