ATOM structure

By Ploysudsuy

The source• Atom แปลว่�าสิ่�งที่�เล�กที่�สิ่�ด ซึ่�งนั�กปราชญ์�ชาว่กร�กโบราณที่�ช�อ 

 

ล!ซึ่�พป�สิ่ (Leucippus) ด�โมคร�ตุ�สิ่ (Democritus)ฟิ'สิ่�กสิ่�ระด�บจุ�ลภาค

microscopic

Atom Structure

ม�นั�ว่เคล�ยสิ่อย!�ตุรงกลางภายในัประกอบ

ด-ว่ยอนั�ภาคของนั�ว่ตุรอนัและโปรตุอนัอย!� อาจุเร�ยกว่�า นั�ว่คล�ออนั (Nucleon) ม�อ�เล�กตุรอนัเคล�อนัที่�ไปรอบๆนั�ว่เคล�ยสิ่

Dalton (early 1800s)• เก�ดที่ฤษฎี�อะตุอมข�4นัมา จุากแนัว่คว่ามค�ดของ จุอห์�นั ดาลตุ�นั (John Dalton)

DALTON'S ATOMIC THEORY

cathode ray ได-จุากการที่ดลองของนั�กว่�ที่ยาศาสิ่ตุร�ช�อ Julius Plicker ซึ่�งใช-ห์ลอดแก-ว่ที่�สิ่!บอากาศออก และม�อ�เล�กโตุรด 2 อย!�ที่�4งข-าง (และแคโที่ดเป7นัข�4ว่ไฟิฟิ8าลบ และ แอโนัดเป7นัข�4ว่ไฟิฟิ8าบว่ก )

Joseph John Thomson

Joseph John Thomson

In 1897

ค-นัพบว่�าม�อนั�ภาค

ที่�ม�ประจุ�ไฟิฟิ8าลบ

ซึ่�งตุ�อมาเร�ยกว่�า"อ�เล�กตุรอนั"

อะตุอมโดยปกตุ�อย!�ในัสิ่ภาพเป7นักลางที่าง  ไฟิฟิ8า ซึ่�งที่9าให์-ที่�4งสิ่องประจุ�นั�4ม�จุ9านัว่นัเที่�าก�นัและ

 กระจุายอย!�ที่�ว่ไป ในัอะตุอม โดยม�การจุ�ดเร�ยงที่�ที่9าให์-อะตุอมม�สิ่ภาพเสิ่ถี�ยรมากที่�สิ่�ด

Ernest Rutherford

In 1910

Ernest Rutherford

จุากการที่ดลอง Alpha emissions

อะตุอมม�ล�กษณะโปร�ง ประกอบด-ว่ยประจุ�ไฟิฟิ8าบว่กที่�รว่มก�นัอย!�ที่�บร�เว่ณ นั�ว่เคล�ยสิ่ โดยม�อ�เล�กตุรอนั เคล�อนัที่�

รอบๆนั�ว่เคล�ยสิ่ด-ว่ยระยะห์�างจุากนั�ว่เคล�ยสิ่มาก เม�อเที่�ยบก�บขนัาดของนั�ว่เคล�ยสิ่ และระห์ว่�างนั�ว่เคล�ยสิ่ก�บ

อ�เล�กตุรอนัเป7นัที่�ว่�างเปล�า"

•Two Picture Page LayoutNiels Bohr

ยกเล�ก

ยกเล�ก ยกเ

ล�กยกเล�ก

ยกเล�กยกเ

ล�ก

ยกเล�ก

ยกเล�ก

ยกเล�ก

??????????????

?????????????? ถี!กยกเล�กไปเพราะตุอบค9าถีามไม� ได-แตุ�สิ่ามารถีตุอบได-    โดยเสิ่นัอแนัว่ค�ดด�งนั�4   1.  อ�เล�กตุรอนัที่�โคจุรในัว่งโคจุรพ�เศษจุะไม�ม�

การสิ่!ญ์เสิ่�ย พล�งงานั จุ�งไม�ตุกลงในันั�ว่เคล�ยสิ่   2. อ�เล�กตุรอนัในัว่งโคจุรพ�เศษจุะม�โมเมนัตุ�ม

 เช�งม�มเป7นัจุ9านัว่นัเตุ�มเที่�าของ     ค�าคงที่�ห์นั�ง ด�งสิ่มการ mvR   =   n 

    3.  ธาตุ�จุะม�การปลดปล�อยพล�งงานัออกมา เม�ออ�เล�กตุรอนัเปล�ยนัว่ง โคจุรจุากว่งที่�ม�ระด�บ

   พล�งงานัสิ่!งมาสิ่!�ว่งโคจุรที่�ม�ระด�บพล�งงานัตุ9า โดยปล�อย ออกมาในัร!ปพล�งงานั-โฟิตุอนัห์ร�อ

     คล�นัแม�เห์ล�กไฟิฟิ8า ด�ง สิ่มการ E    =  Ei –

Ef                        2. อ�เล�กตุรอนัจุะร�บ ห์ร�อปล�อยพล�งงานัออกมาอย!�ในัร!ป

คล�นัแม�เห์ล�กไฟิฟิ8า จุร�งๆนัะT^T

• By Bohr

แม-บอร�จุะตุอบค9าถีามได-  แตุ�แบบ จุ9าลองของบอร�ก�ย�งถี�อว่�า บกพร�อง เพราะ

บอร�ที่�4งยอมร�บและปฏิ�เสิ่ธที่ฤษฎี�เก�ยว่ก�บ    ฟิ'สิ่�กสิ่� ค�อ บอร�ยอมร�บว่�าแรง สิ่!�ศ!นัย�กลาง

เที่�าก�บแรงระห์ว่�างประจุ�ของนั�ว่เคล�ยสิ่ก�บ   อ�เล�กตุรอนั แตุ�บอร� ปฏิ�เสิ่ธ ในัสิ่�ว่นัที่�

อ�เล�กตุรอนัที่�ว่�งว่นัรอบนั�ว่เคล�ยสิ่ตุ-องม�การ   ปลดปล�อยคล�นัแม� เห์ล�กไฟิฟิ8า โดยเสิ่นัอว่�า

ว่งโคจุรนั�4นัเป7นัว่งพ�เศษจุ�งไม�ม�การสิ่!ญ์เสิ่�ยพล�งงานั.

Niels Bohr

100 ป=

นั�กว่�จุ�ย

สิ่ร-างอะตุอม

ตุามที่ฤษฏิ�

อ�เล�กตุรอนั

เด�นัแบบคล�นั

นั�กว่�จุ�ยสิ่ร-างอะตุอมย�กษ�

Niels Bohr

ในัการที่ดลองของเขาสิ่ามารถีอธ�บายได-เฉพาะอะตุอมของ ไฮโดรเจุนั ที่�ม�อ�เล�กตุรอนัเพ�ยงตุ�ว่เด�ยว่  แตุ�ไม�สิ่ามารถีอธ�บายเสิ่-นัสิ่เปกตุร�มของอะตุอมที่�ม�ห์ลายอ�เล�กตุรอนัได- จุ�งได-ม�การศ�กษาเพ�มเตุ�มที่าง กลศาสิ่ตุร�คว่อนัตุ�ม แล-ว่สิ่ร-างสิ่มการสิ่9าห์ร�บใช-ค9านัว่ณโอกาสิ่ที่�จุะพบอ�เล�กตุรอนัในัระด�บพล�งงานัตุ�างๆ ข�4นัมาจุนัได-แบบจุ9าลองให์ม� ที่�เร�ยกว่�า แบบจุ9าลองอะตุอมแบบกล��มห์มอก

อ�เล�กตุรอนัไม�สิ่ามารถีว่�งรอบนั�ว่เคล�ยสิ่ด-ว่ยร�ศม�ที่�แนั�นัอนั  บางคร�4งเข-าใกล-บางคร�4งออกห์�าง จุ�งไม�สิ่ามารถีบอกตุ9าแห์นั�งที่�แนั�นัอนั

5

กล��มห์มอกองอ�เล�กตุรอนัในัระด�บพล�งงานัตุ�างๆจุะม� ร!ปที่รงตุ�างก�นัข�4นัอย!�ก�บจุ9านัว่นัอ�เล�กตุรอนั และระด�บ

พล�งงานัอ�เล�กตุรอนั

    อะตุอมม�อ�เล�กตุรอนัห์ลายๆระด�บพล�งงานั

  อ�เล�กตุรอนัแตุ�ละตุ�ว่ไม�ได-อย!�ในัระด�บพล�งงานัใดพล�งงานัห์นั�งคงที่�

กล��มห์มอกที่�ม�อ�เล�กตุรอนัระด�บพล�งงานัตุ9าจุะอย!�ใกล-นั�ว่เคล�ยสิ่สิ่�ว่นัอ�เล�กตุรอนัที่�ม�ระด�บพล�งงานัสิ่!งจุะอย!�ไกลนั�ว่เคล�ยสิ่

1

2

3

4

สิ่ร�ปกล��มห์มอก