“เล่าสู่กันฟัง” -...
Transcript of “เล่าสู่กันฟัง” -...
ดร.คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา ประธานคณะกรรมการกำกับทิศทาง โครงการว�จัยปฏิบัติการโรงเร�ยนพัฒนาคุณภาพ
ติดตอจดหมายขาว “เรียนสุข สนุกสอน” จดหมายขาวเพื่อโรงเรียนพัฒนาคุณภาพตอเนื่อง ไดที่
สำนักงานสงเสริมสังคมแหงการเรียนรูและคุณภาพเยาวชน (สสค.)
เลขที่ 388 อาคารเอส.พี. (อาคารเอ) ชั้น 13 ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 โทรศัพท : 02-619-1811
เขาชมฉบับอิเล็กทรอนิกสและติดตามขาวสาร จาก สสค. ไดที่ www.QLF.or.th email: [email protected]
“ดิฉันไมไดคาดหวังใหเกิดผลสัมฤทธิ์
ที่พุงเปาไปที่โรงเรียน และคุณครูเพียงประการเดียว
แตทายที่สุดคาดหวังใหเกิด ‘กรอบวิธีคิดใหมๆ’
ที่ไดจากการเรียนรูรวมจากเครือขาย sQip รุนแรก
อันจะเปนประโยชนในการขยายผลตอเพื่อนครูในรุนตอๆ ไป”
สนุกสอนโครงการว�จัยปฏิบัติการโรงเร�ยนพัฒนาคุณภาพตอเนื่อง (School Quality Improvement Program : sQip)
เรียนสุข
-News
สะทอนคิดการทำงานโรงเรียนพัฒนาคุณภาพตอเนื่อง
กับครูสุธีระ ประเสริฐสรรพ
เปดหองเรียน sQipคิดคนพบจากชุมชน PLC
เมื่อคุณครูมุงมั่น นักเรียนยิ่งเปลงประกาย
สาเหตุและการเปลี่ยนแปลงสำคัญที่เกิดขึ้นกับนักเรียนในโรงเรียน sQip
ภาคการศึกษาตน ปการศึกษา 2560
7ฉบับ
เมษายน2561
เรื่องเดนในฉบับ
นายนคร ตังคะพิภพ หัวหน้า Q-Coach โครงการวิจัยปฏิบัติการโรงเรียนพัฒนาคุณภาพต่อเนื่อง
“เล่าสู่กันฟัง” ถ้อยแถลงของจดหมายข่าว“เรียนสุขสนุกสอน”ฉบับ
นี้มี4เรื่องราวที่ขอน�ามาบอกกล่าวเล่าสู่กันฟังดังนี้
เรื่องที่ 1 : ดร.บุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะ
กรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ได้อนุมัติการ
สนบัสนนุงบประมาณจ�านวน2,000,000บาท(สองล้านบาท)
ให้กับโรงเรียนsQipในสังกัดเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายเข้าร่วมแลก
เปลี่ยนเรียนรู้กิจกรรมต่างๆ ในโครงการsQip โรงเรียนละ
9,000 บาท รวมทั้งสนับสนุนงบประมาณจ�านวนหนึ่งให้แก่
ศกึษานเิทศก์ในเขตพืน้ทีก่ารศึกษาทีร่บัผดิชอบดูแลโรงเรยีน
ในโครงการ sQip ได้เข้าร่วมกิจกรรมการจัดการเรียนรู ้
แลกเปลี่ยนประสบการณ์และให้ค�าแนะน�ากับโรงเรียนsQip
ในความรบัผดิชอบแต่ละเขตพ้ืนที่จึงนบัเป็นการเสรมิแรงและ
สร้างความร่วมมือทุกระดับอย่างน่ายินดียิ่ง
เรื่องที่2:คณะกรรมการก�ากับทิศทางโครงการsQip
น�าโดยคุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยาพร้อมด้วยทีม
ผู้ทรงคุณวุฒิสสค.,สกว.,ผู้แทนสพฐ.และQ-Coach
หัวหน้าโหนด ได้ลงพื้นที่เยี่ยมชมระบบข้อมูลQ-Info ของ
เทศบาลนครภูเก็ต และการด�าเนินงานQ-Network ของ
โรงเรยีนsQipจงัหวดัภเูกต็โดยม ีคณุสมใจ สวุรรณศภุพนา
นายกเทศมนตรีนครภูเก็ตรวมทั้งโรงเรียนในสังกัดเทศบาล
ทุกโรงเรียนให้การต้อนรับและได้แสดงวิสัยทัศน์ที่เทศบาล
นครภูเก็ตให้ความส�าคัญต่อระบบข้อมูลนักเรียนรายบุคคล
ท้ังหมดทุกคนของโรงเรียนในสังกัดเพื่อตั้งเป้าหมายการ
พฒันาคณุภาพการจดัการศกึษาสามารถมองเหน็เป็นรปูธรรม
ซึ่งโครงการsQipก็ก�าลังด�าเนินการขยายผลการด�าเนินงาน
ระบบQ-Info ใน200 โรงเรียน โดยใช้ระบบที่พัฒนาจาก
คณะวศิวกรรมศาสตร์ม.นเรศวรเช่นเดยีวกนัจงึนบัได้ว่าเป็น
ประสบการณ์ที่ได้รบัประโยขน์มากนอกจากน้ียงัมข้ีอคดิเหน็
ค�าแนะน�าและการแลกเปล่ียนเรียนรู ้เพิ่มเติมท่ีน่าสนใจ
จากท่านประธานคณะกรรมการก�ากับทิศฯและผู้ทรงคุณวุฒิ
ที่ร่วมคณะเดินทางอีกหลายประเด็น หลังจากนั้น คณะ-
กรรมการฯ และผู้ทรงคุณวุฒิ จึงเดินทางต่อไปศึกษาดูงาน
2 | เรียนสุข สนุกสอน
การบริหารจัดการเครือข่าย(Q-Network)ของ8โรงเรียน
ในโครงการ sQip โหนด7 จังหวัดภูเก็ต ณ โรงเรียน
บ้านสะป�า โดยมี ผอ.สพป. ภูเก็ต นายสายัณห์ ไกรนรา
ให้การต้อนรับและร่วมกิจกรรมด้วยความสนใจในอนาคตอาจ
จะขยายระบบQ-Infoไปให้เตม็พืน้ทีโ่รงเรยีนในจงัหวดัภเูกต็
ก็ได้
เรื่องที่ 3 : เชิญชวนติดตามอ่านบทความที่เขียน
เรื่องราวของโครงการsQip ใน น.ส.พ.มติชน สุดสัปดาห์
คอลัมน์ไทยมองไทย: เรียนสุข สนุกสอน กับsQip โดย
คณุสมหมายปารจิฉตัต์นกัหนงัสือพมิพ์อาวโุสทีม่ปีระสบการณ์
มายาวนานซึง่คณุสมหมายได้เขยีนถงึโครงการsQipมาแล้ว
3 ตอน และจะมีอีกต่อๆ ไป เป็นseries สมาชิกสามารถ
ติดตามได้ท่ีFacebookFanpageเรยีนสขุสนกุสอนhttps://
www.facebook.com/sQipth/ ทั้งน้ีในช่วงของการจัด
กจิกรรมเวทีแลกเปลีย่นเรียนรูร้ะดับโหนด(KM-โหนด)สสค.
ได้เรียนเชิญคุณสมหมาย ปาริจฉัตต์ ร่วมลงพื้นที่เวทีKM
ระดับโหนดเพื่อเก็บข้อมูลสาระแนวคิดแนวทางตลอดจน
ผลการด�าเนินงานของโรงเรียนsQipที่ผ่านมาแล้วอีกด้วย
เรื่องที่ 4 : เวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ (KM-ระดับโหนด)
ได้เริ่มเวทีแรกแล้วที่ โหนด7ณจ.ภูเก็ตมีข้อสะท้อนคิดที่
เกิดประโยชน์มากมาย ซ่ึงท่าน ผอ.ประภาศรี อุยยามฐิติ
Q-Coach หัวหน้าโหนด7 ผอ.สดศรี ตันสุธัญลักษณ์ ผอ.
ณชัยเขมนิพัทธ์Q-Coachโหนด7และอาจารย์ศิริกัญญา
วัฒนเชือ้ผูป้ระสานงานโหนด7ได้ร่วมกันสงัเคราะห์ประเดน็
ต่างๆ ท่ีผู้เข้าร่วมเวทีKM ทุกกิจกรรมได้น�าเสนอไว้อย่าง
น่าสนใจซึ่งเวทีKM โหนดอื่นๆสามารถน�าไปประยุกต์การ
บริหารจัดการให้ดียิ่งขึ้นอาทิ
เทคนิคการท�าเป้าหมาย (Q-Goal) โดยเขียนแนวทาง
และตัวบ่งชี้ที่ชัดเจนโดยGoalต้องมาจากผลการสังเคราะห์
ความเห็นที่มาจากผู้มีส่วนร่วม3 กลุ่มคือ กลุ่มผู้บริหารและ
ครูกลุ่มนักเรียนและกลุ่มผู้ปกครองและชุมชนซึ่งQ-Goal
ที่ได้แต่ละวงรอบ จะมีการปรับได้ตลอดตามวงจรคุณภาพ
DALI
Q-Info เป็นระบบที่อ�านวยความสะดวกให้ครูและ
ผู้บริหารโรงเรียนน�าข้อมูลสารสนเทศไปใช้ประโยชน์ได้จริง
แต่หากสามารถท�าให้สพฐ.ไม่ต้องมีหลายระบบเพื่อโรงเรียน
จะได้ไม่ต้องท�างานซ�้าซ้อนจะดีมาก และข้ันต่อไปจะได้น�า
ข้อมูลที่ได้จากระบบไปใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น
ประทบัใจเรือ่งเล่าเร้าพลงัของคณุครแูต่ละท่าน มคีวาม
รู้สึกว่ามีความสุขเกิดขึ้น จากการท�าให้เด็กแม้เพียง 1 คน ได้
รบัการมองเหน็จากครแูละจะได้รบัโอกาสชีวติในอนาคตทีด่ขีึน้
จากการใส่ใจของคุณครู ไม่ปล่อยให้เด็กถูกทิ้งให้ผจญต่อ
สถานการณ์เสี่ยงโดยล�าพัง และได้เทคนิคการดูแลนักเรียน
และการแก้ปัญหาของครูในต่างโรงเรียนน�าไปปรับใช้หรือ
เตือนใจขยายผลต่อครูในโรงเรียนเมื่อกลับไปได้
Q-PLC เป็นสิ่งจ�าเป็นมากในการท�างานอย่างมืออาชีพ
และการท�างานอย่างมเีป้าหมายชืน่ชมการพฒันางานQ-PLC
ผอ.ศักดิ์เดช กองสูงเนิน โรงเรียนเทศบาล4(เพาะช�า)
วิทยากรที่มาจากนครราชสีมาท�าให้เห็นความส�าเร็จจากการ
กระท�าที่มีประสบการณ์มาแล้วหลายปี
ข้อมูลที่ได้รับการสะท้อนความคิดเห็น เป็นการจัดให้
ผู้ร่วมประชุมทุกท่านให้ความเห็นไว้ในทุกช่วงเวลา มีค�าถาม
ให้เป็น4 ประเด็น ได้แก่ ประเด็น “ความคิด ความรู้สึก”,
ประเดน็“ความรูใ้หม่ที่ได้รบัเพิม่ขึน้”,ประเดน็“สิง่ทีจ่ะน�าไป
ใช้กับตนเองกลุม่และโรงเรยีน”และประเดน็“อืน่ๆทีอ่ยาก
บอก/ข้อเสนอแนะ” ซึ่งจากผลการสะท้อนความคิดเห็น
เหล่านี้ จะท�าให้การจัดประชุมเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ (KM)
แต่ละโหนด ได้รับข้อมูลไปสังเคราะห์น�าไปสู่การพัฒนางาน
โครงการ sQip ได้ตรงประเด็นที่โรงเรียนต้องการมากขึ้น
พบกนัใหม่ในจดหมายข่าวฉบับหน้า จะได้น�าเรือ่งราวดีๆ
มาเล่าสู่กันฟัง ให้รู ้สึกร่วมชื่นชมยินดีกับพัฒนาการของ
โรงเรียนsQipท่ีก้าวรดุหน้าค่อนข้างเรว็มากกว่าท่ีคาดคดิครบั
เรียนสุข สนุกสอน | 3
สะท้อนคิดการทำ งานโรงเรียนพัฒนาคุณภาพต่อเนื่องกับครูสุธีระ ประเสริฐสรรพ์
“……เด็กจะเปิดรับการเรียนรู้ เมื่อห้องเรียนคือพ้ืนที่
ปลอดภยั นีถื่อเป็นหลักใหญ่ของความสมัพนัธ์ของครแูละเดก็
โดยครูจะเป็นผู้เปิดพื้นที่นี้ อย่างไรก็ตามในขณะนี้สิ่งที่ยังเป็น
ปัญหาของการเรียนการสอนคือการใช้ระบบอ�านาจ ซึ่งจะ
ท�าให้เกดิพืน้ทีแ่ห่งความหวาดกลวั เกิดเป็นความห่างเหนิ จาก
ความสัมพนัธ์เป็นความเบือ่หน่าย การต่อต้านในการเรยีน….”
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ส�านักงานส่งเสริมสังคมแห่งการ
เรียนรู้และคุณภาพเยาวชน(สสค.) และ ส�านักงานกองทุน
สนับสนุนการวิจัย(สกว.) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและ
มหาวิทยาลัยนเรศวรจัดประชุมปฏิบัติการเปลี่ยนแปลงที่เกิด
ข้ึนกับโรงเรียนในโครงการวิจัยปฏิบัติการโรงเรียนพัฒนา
คุณภาพต่อเนื่องหรือsQipผู้อ�านวยการครูและนักเรียน
จ�านวน10แห่งจ�านวน50คนเข้าร่วมโดยที่ประชุมยังได้รับ
เกยีรติจากท่ีปรกึษาและคณะกรรมการก�ากับทิศทางโดยหนึง่
ในน้ัน ได้แก่ รศ.ดร.สุธีระ ประเสริฐสรรพ์ อาจารย์คณะ
วิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ หัวหน้า
โครงการเพาะพันธุ์ปัญญาของสกว.ได้เข้าร่วมประชุมและ
ได้ร่วมแลกเปลี่ยนและสะท้อนประเด็นส�าคัญในการพัฒนา
ห้องเรียนและโรงเรียนให้เป็นแหล่งเรียนรู ้ที่มีความสุข
จึงขอสรุป4ประเด็นส�าคัญเพื่อเป็นประโยชน์ต่อการท�างาน
ของผู้บริหารและครูต่อไปดังนี้
1) การให้เด็กและเยาวชนเป็นเจ้าของการเรียนรู้แทน
การสอน คือหลักการใหญ่ที่ส�าคัญที่จะท�าให้การพัฒนาการ
นางสาวธันว์ธิดา วงศ์ประสงค์ นักวิชาการสสค.
เรียนรู้ของเด็กได้ดี โดยครู
สธุรีะได้แนะน�ากระบวนการ
ที่จะท�าให้เด็กเป็นเจ้าของการ
เรยีนรูที้เ่รยีกว่าการบรูณาการสาระ
การเรียนรู้เข้าสู่ประสบการณ์ กล่าวคือ ครูควรกระตุ้นให้
นักเรียนลงมือปฏิบัติก่อนการเรียนทฤษฎี เนื่องจากการ
เรียนรู้ในลักษณะน้ีเป็นส่ิงท่ีสอดคล้องกับวิถีชีวิตเด็กมากกว่า
การให้และการป้อนทฤษฎี ซึ่งเป็นส่ิงท่ีเด็กจะเบื่อหน่ายและ
ไม่สามารถเชื่อมโยงได้การที่เด็กได้ลงมือปฏิบัติเด็กจะตั้งใจ
ฟัง เกิดเป็นความสนุกในการเรียนรู้ การที่จะให้เด็กและ
เยาวชนเป็นเจ้าของการเรียนรู้ได้ นอกจากนี้ครูจ�าเป็นต้องมี
ทักษะและความสามารถในการบูรณาการสาระการเรียนรู้
เข้าสูป่รากฏการณ์ทีเ่หน็จากการปฏิบตัด้ิวยโดยมคีวามเข้าใจ
ในสาระวชิาและอธบิายปรากฏการณ์ทีเ่กดิขึน้ได้และกระตุน้
ให้เด็กถ่ายทอดความรู้ที่เรียนออกมา
2) หัวใจของการเรียนรู้คือการสร้างความสัมพันธ์ที่ดี
ระหว่างครแูละนกัเรยีนงานวจิยัระดบันานาชาตริะบุปัจจยัที่
มีผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนมากที่สุดคือ
ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างครูและนักเรียน โดยเฉพาะการที่ครู
เปิดโอกาสให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการประเมินตนเอง และ
การสร้างให้ห้องเรียนเป็นพื้นที่ปลอดภัย เด็กจะเปิดรับการ
เรียนรู้อย่างเต็มที่ครูจึงเป็นผู้ที่มีบทบาทที่ส�าคัญมากในการ
สร้างบรรยากาศในห้องเรยีนให้เดก็กล้าคดิ เปลีย่นจากพืน้ท่ี
4 | เรียนสุข สนุกสอน
หวาดกลัวเป็นพื้นที่ปลอดภัย อย่างไรก็ตามในขณะนี้สิ่งที่ยัง
เป็นปัญหาของการเรียนการสอนคือการใช้ระบบอ�านาจซึง่จะ
ท�าให้เกดิพืน้ท่ีแห่งความหวาดกลวัเกิดเป็นความห่างเหนิจาก
ความสมัพนัธ์เป็นความเบือ่หน่ายการต่อต้านในการเรยีนเมือ่
พื้นท่ีปลอดภัยเกิดขึ้น การเปลี่ยนแปลงของเด็กท่ีจะเกิดขึ้น
และเป็นตัวบ่งชี้ได้ดีคือพฤติกรรมเด็กที่กล้าคิดกล้าพูด เป็น
ตัวของตนเองสะท้อนถึงการมีทักษะด้านการสื่อสารซึ่งเป็น
ทักษะในศตวรรษที่21 ซึ่งการท่ีเด็กจะสามารถมีทักษะนี้ได้
บรรยากาศและสภาพแวดล้อมจ�าเป็นต้องเอื้อ นอกจากนี้อีก
วิธกีารเรยีนรูห้นึง่ทีค่รูสธีุระแนะน�าคอืการเปิดโอกาสให้เด็ก
ช่วยเหลือกัน ซึ่งเป็นวิธีการเรียนรู้ที่เด็กจะได้เรียนรู้มากที่สุด
เพราะเด็กได้มีโอกาสดึงความรู้ออกมาใช้และช่วยเหลือเพ่ือน
ตามหลักการของBloom’sTaxanomyและถือเป็นระดับการ
เรียนรู้ที่สูง
3) การเรยีนอย่างมีความสขุจะท�าให้เดก็เกดิการเรยีนรู้
การเรยีนสนกุทีโ่รงเรยีนภายใต้โครงการโรงเรยีนพฒันาคณุภาพ
ต่อเน่ืองได้สะท้อนผลการท�างาน ถือเป็นการตอบสนองขั้น
พืน้ฐานของเดก็เพือ่ยกระดบัให้สงูขึน้วธิทีีด่กีว่าคอืการเรยีน
แล้วมีความสุข หน้าที่ของครูจึงเป็นการกระตุ้นให้เด็กได ้
เรียนรู้ท่ีรู้สึกสนุก อยากเรียน และเมื่อเรียนแล้วมีความสุข
เด็กจะเรียนได้ด้วยตัวเขาเองการเรียนรู้ด้วยตนเองเป็นเรื่อง
ส�าคัญที่เด็กจะสามารถประเมินตนเองได้ตลอดเวลา หรือ
FormativeAssessment วิธีการหน่ึงที่ครูสุธีระได้เสนอแนะ
เพื่อให้เกิดกระบวนการเปลี่ยนแปลงภายในและเกิดการ
เรียนรู้คือการใช้กระบวนการจิตปัญญาโดยเริ่มจากครูเพื่อ
ให้เกิดความสัมพันธ์แบบใหม่ของครูต่อเด็ก
4) กระบวนการให้ข้อมูลย้อนกลับ (Feedback) เป็น
มาตรการที่ส�าคัญที่จะยกระดับผลการเรียนรู้ของนักเรียน
จากการสะท้อนผลการท�างานของโรงเรยีนทีเ่ข้าร่วมโรงเรยีน
ได้เริ่มกระบวนการการให้ข้อมูลย้อนกลับแล้วแต่ยังอยู่ใน
ระดับกระบวนการ ยังไม่ใช่การให้ข้อมูลย้อนกลับแก่เด็กซึ่ง
ส�าคัญมากกว่า ตวัอย่างการท�างานของโรงเรียนในโครงการ
เพาะพนัธ์ุปัญญา สามารถสรุปหลักคิดส�าคัญได้คือ ถามคือ
สอน เขียนคือคิด สะท้อนคิดคือเรียนซึ่งถือเป็นกระบวนการ
ของครทูี่ให้ข้อมลูย้อนกลบัแก่นักเรยีนโดยการต้ังค�าถามหรอื
ปจุฉาวปัิสสนาการถามสามารถสรปุได้2ทศิทางคือการถาม
ทีท่�าให้เดก็กล้าหรอืไม่กล้าตอบโดยธรรมชาตเิดก็จะพยายาม
ปรึกษาครูตลอดเวลาเพื่อให้ครูตอบว่าท�าได้หรือไม่ ท�าอะไร
ต่อและขอข้อเสนอแนะส�าเร็จรูปในการท�างาน
“การท�าโครงการ แทนท่ีครูจะบอก1234 ครูควร
ตั้งค�าถามกลับเช่นหากจะท�าแบบนี้อะไรควรมาก่อนมาหลัง
อะไรท�าแล้วเสียหายท�าไมถึงท�าไม่ได้โดยครเูป็นฝ่ายตัง้ค�าถาม
เพื่อให้เด็กกล้าคิดกล้าท�าเอง นอกจากการท�าให้เด็กกล้าคิด
กล้าท�าแล้วการท�าให้เด็กเก่งเป็นโจทย์ที่ท้าทายซึ่งหมายถึง
การทีค่รสูามารถเอาความรูจ้ากตวัผูเ้รยีนออกมาแล้วท�าความ
เข้าใจกับปรากฏการณ์ใหม่ได้ โดยใช้สาระวิชามาสนับสนุน
หากท�าแบบนี้ได้เดก็จะเข้าใจว่าเรยีนไปท�าไมและเดก็จะเก่งขึน้”
ครูสุธีระได้ให้หลักของการถามของครูคือ การเป็น
Coachซึง่แตกต่างและยากกว่าการเป็นMentorหรอืพีเ่ลีย้ง
ซึ่งมีหน้าที่ให้ค�าแนะน�าช่วยเหลือ แต่การเป็นCoach คือ
การถามโดยครสูธุรีะได้ยกตวัอย่างการพฒันาห้องเรยีนแบบ
ActiveLearning“การให้เด็กน�าเสนอผลงานของตนเองแล้ว
ให้เด็กตั้งค�าถามหรือให้ความเห็นเมื่อเด็กยกมือครูก็จะให้
คะแนนตวัอย่างนีถ้อืว่าไม่ใช่เพราะครจูะต้องเข้าใจถงึคณุภาพ
ในการให้ความเหน็คณุภาพของค�าถามและคณุภาพของการ
ตอบ การให้คะแนนก็แตกต่างกัน ครูให้ข้อมูลย้อนกลับแก ่
ผูเ้รยีนว่าค�าถามแบบไหนทีม่คีณุภาพเมือ่เดก็จะคดิถามอะไร
เดก็จะค�านงึถงึคณุภาพก่อนไม่ใช่ทกุคนยกมอืแล้วได้คะแนน
หมด การค�านึงถึงคุณภาพในการถามจะกระตุ้นให้ท้ังห้อง
สร้างการเรียนรู้ การให้ข้อมูลย้อนกลับจึงเป็นกระบวนการที่
ส�าคัญของครูโดยการจับประเด็นคุณภาพของค�าถามโดยครู
ไม่ให้ค�าตอบ แต่เป็นการดึงสาระออกมา และถือเป็นทักษะ
ที่สุดยอดมากในการตั้งค�าถาม หากท�าได้การเรียนรู้จะสนุก
มากและเกิดการเรียนรู้ที่สูง”
สมาชกิท่ีสนใจสามารถตดิตามสาระและข้อมลูการเรยีนรู้
ดีๆ จากครสุูธรีะและครใูนโครงการเพาะพนัธุปั์ญญาท่ีเน้นการ
สร้างทักษะการคิดวิเคราะห์ได้ที่https://www.facebook.
com/kruvijai
เรียนสุข สนุกสอน | 5
“เม่ือก่อน เพือ่นคอืสิง่ทีท่�าให้อยากมาโรงเรยีน แต่ตอนนี้
วชิาทีเ่รยีนในแต่ละวัน คณุคร ูและกจิกรรมในโรงเรียน ท�าให้
อยากมาโรงเรียน เพราะสนุกและมีความสุขที่ได้เรียนค่ะ”
นี่คือค�าพูดจากหัวใจของ นางสาวสุนิสา เสรีรัตน์
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่6โรงเรียนไทรโยคน้อยวิทยาคม
ดวงตาของเธอนั้นเปล่งประกายฉายแววแห่งความสุขเมื่อ
ยามเล่าให้เราฟัง
แม้หลงับานประตูเก่าๆของห้องเรียนจะไม่ได้เตม็ไปด้วย
สื่อการเรียนการสอนที่ทันสมัย โต๊ะเก้าอี้ สีหม่นๆ ก็ไม่ได้มี
สีสันสวยงาม แต่ภายในห้องที่เราเห็น ชีวิตชีวาของคุณครู
1คนสามารถกุมหัวใจของเด็กๆทั้ง30กว่าคนภายในห้อง
เปิดห้องเรียน sQipคิดค้นพบจากชุมชน PLCเมื่อคุณครูมุ่งมั่น นักเรียนยิ่งเปล่งประกาย
ไว้ได้คุณครูให้เด็กๆแบ่งเป็นทีมแข่งกันตอบค�าถามแสดง
ท่าทางใบ้ค�าอย่างออกรส ต่างฝ่ายต่างยกมือแย่งกันตอบ
ค�าถามเกี่ยวกับค�าศัพท์ภาษาอังกฤษด้วยความกล้าไม่ม ี
เขินอายเสียงหัวเราะสดใสดังขึ้นเป็นระยะ
หากจะบอกว่าห้องเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้วิชาภาษา
อังกฤษ ของโรงเรียนไทยโยคน้อยวิทยาคม หนึ่งใน201
โรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการโรงเรียนพัฒนาคุณภาพต่อเนื่อง
(sQip)คือภาพฝันที่เป็นจริงของห้องเรียนในดวงใจของเด็กๆ
คงจะไม่ผดินกัด้วยระยะเวลาเพยีง1ภาคเรยีนนีเ่ป็นผลลพัธ์
จากความมุ่งมั่นของบุคลากรในสถานศึกษาอันประกอบด้วย
ผู้อ�านวยการและคุณครูที่มีหัวใจเดียวกัน พูดคุยและวางแผน
แก้ปัญหาร่วมกนัทัง้ยงัมกีารนเิทศตดิตามกระบวนการด�าเนนิ
ทีมสื่อสาร สสค.
6 | เรียนสุข สนุกสอน
งานแก้ปัญหาและสะท้อนผลลัพธ์ร่วมกันอย่างสม�่าเสมอ
จนก่อเกิดเป็นรูปธรรมความส�าเร็จจากกระบวนการสร้าง
ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพหรือPLC
“เด็กในชนบทจะแอนตี้ภาษาอังกฤษ ไม่รู้ประโยชน ์
จะโดดเรยีนไม่ท�างานภาษาองักฤษเข้าถึงยากคร้ังแรกทีเ่จอ
เดก็ชัว่โมงแรกเด็กม.6ยงัเขยีนช่ือภาษาองักฤษไม่ได้เลยค่ะ
ขนาดชื่อของเขา เด็กยังไม่รู้เลยว่า ตัวอักษรตัวนี้
แทนอะไรในภาษาไทย เราจะท�ายังไงดี
ต้องหากิจกรรมอะไรก็ได้ที่จะมาแก้
ปัญหาตรงน้ี” นางณิชนันทน์ ศรี
วลีรัตน์ หนึ่งในอาจารย์PLCกลุ่ม
สาระภาษาต่างประเทศกล่าว
ไม่ง่ายเลยทีจ่ะเปล่ียนความคดิ
เด็กๆ แต่คุณครูก็ไม่ยอมแพ้ด้วย
ความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าว่า เด็กทุก
คนมีศักยภาพ สามารถพัฒนาให้เก่งและ
เป็นคนดีได้จึงน�ามาสูก่ารปรับเปลีย่นวธีิการสอนเพือ่ให้เดก็ๆ
เรียนอย่างมีความสุข และครูก็สนุกในการสอนไปด้วย จึงได้
ข้อสรุปว่าการเรียนผ่านการเล่น ยังคงเป็นกลยุทธ์ดึงดูดใจ
นักเรียนที่ดีที่สุด
อาจารย์ณิชนันทน์เล่าว่า“ในการสอนจะใช้เกมส์เรียก
ว่าminiwhiteboardโดยหาอปุกรณ์ง่ายๆใช้กระดาษreuse
แทนกระดาน น�ามาใส่แฟ้ม มีปากกาไวท์บอร์ด และใช้ทิชชู่
แทนแปรงลบกระดาน เด็กยุคนี้ชอบสิ่งท้าทาย สนุกสนาน
เร้าใจจึงกระตุ้นด้วยการแบ่งเป็นทีมช่วยกันคิดช่วยกันตอบ
ค�าถามเกี่ยวกับค�าศัพท์หมวดหมู่ต่างๆครบเครื่องทั้งพูดอ่าน
เขียนนักเรียนจะได้ฝึกการะดมความคิด รู้จักท�างานเป็นทีม
เพือ่นช่วยเพือ่นเรือ่งแพ้ชนะนัน้ไม่ส�าคญัแต่เป็นแรงผลกัดนั
ให้อยากเรียนรู้
ภายหลังจากเปลี่ยนแปลงการเรียนการสอนด้วย
กระบวนการPLCเพยีงหน่ึงภาคเรียนก็พบว่านกัเรียนมคีวาม
สามารถจดจ�าค�าศัพท์ภาษาอังกฤษได้มากขึ้นมีเจตคติที่ดีต่อ
การเรยีนภาษาองักฤษและมคีวามสขุในการเรยีนไม่เกดิความ
เบื่อหน่ายและกดดันเหมือนที่ผ่านมาบรรยากาศในการเรียน
สนุกสนานขึ้น
และนี่คือเสียงจากนักเรียนที่ยืนยันผลส�าเร็จที่เกิดขึ้น
“ถงึครจูะยงัสวยและสาวแต่เมือ่ก่อนช่องว่างระหว่างครู
นกัเรยีนยงัมอียูเ่ยอะค่ะวธิกีารสอนไม่ได้ท�าให้ใกล้ชิดขนาดนี้
รู้สึกเกร็งไม่สนิทพอครูสอนแบบใหม่รู้สึกสนุกสนิทขึ้นคุย
ได้มากขึ้น เวลาเจอหน้าคุณครูก็ไม่เครียดไม่อึดอัด ไม่ใช่
เฉพาะอังกฤษนะคะรู้สึกอย่างนี้ทุกวิชาในโรงเรียนเมื่อก่อน
เวลาเราสงสัยอะไรก็ไม่ถามครู ไม่ค่อยคุยกับครู คุยแค่ใน
ห้องเรยีนแต่พอตอนนี้อะไรก็ตามที่เราสงสัยไม่ใช่แค่เพื่อน
ท่ีเราจะถาม คุณครูจะคลายข้อสงสัยจริงๆ
เจอท่ีไหนกท็กัทายได้พดูคยุหนรููส้กึว่า
ไม่ได้เรยีนแค่ในโรงเรยีนแต่เรยีนได้
ทุกๆที่ค่ะ” นางสาวสุนิสา เสรีรัตน์
นักเรียนชั้ นมัธยมศึกษาป ีที่ 6
โรงเรียนไทรโยคน้อยวิทยาคม เล่า
ด้วยน�้าเสียงที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา
ต้องยอมรับว่า ยิ่งคุณครูเชื่อมั่นใน
นกัเรยีนของตนเองมากเท่าไหร่เดก็ๆทกุคนยิง่ส่องประกาย
ศกัยภาพออกมาได้มากมายเท่านัน้นบัเป็นแรงผลกัดนัทีส่ร้าง
ผลกระทบท่ียิง่ใหญ่เพราะผลลัพธ์ไม่ใช่แค่เกรดท่ีเพิม่ขึน้หาก
แต่เป็นการวางรากฐานชีวิตที่เข้มแข็ง เก่งและดีให้กับเด็กๆ
และทัง้หมดนีส้ะท้อนออกมาอย่างชดัเจนในแววตาและถ้อยค�า
ของเด็กๆของห้องเรียนภาษาอังกฤษโรงเรียนไทรโยคน้อย
วิทยาคม
“จากจติวญิญาณของความเป็นครูครกัูบเดก็ต้องมคีวาม
รักและความอาทร เป้าหมายต้องท�าให้เด็กได้ความรู้ แต่เรา
จะสอนอย่างไรสอดแทรกความรกัความเข้าใจเอือ้อาทรถ้า
เขาไม่ได้อย่ากดดันครูต้องหาแนวทางเปิดโลกทัศน์ให้เขา
เปิดใจเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง”คุณครูณิชนันทน์กล่าว
ผศ.ดร.ณัฏฐภรณ์ หลาวทอง ทีมวิจัย sQip คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เรียนสุข สนุกสอน | 7
เนือ่งจากการด�าเนินงานโครงการวิจัยปฏิบติัการโรงเรยีน
พัฒนาคุณภาพต่อเน่ือง(SchoolQualityImprovement
Program:sQip)โดยส�านักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้
และคุณภาพเยาวชน (สสค.) ได้ด�าเนินการในช่วงภาค
การศกึษาต้นปีการศกึษาพ.ศ.2560ทีผ่่านมาเป็นระยะเวลา
1 ภาคการศึกษา ด้วยการสนับสนุนการด�าเนินงานโดย
ส�านักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย(สกว.)โดยมีโรงเรียนใน
พื้นที่ 14 จังหวัดร่วมโครงการจ�านวน200 โรงเรียน
เป้าประสงค์ของโครงการคือ เพื่อส่งเสริมให้โรงเรียนมี
ขีดความสามารถในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาด้วยตนเอง
ปัจจุบันโครงการวิจัยปฏิบัติการโรงเรียนพัฒนาคุณภาพ
ต่อเนื่องได้ด�าเนินการในระยะที่2 ในภาคการศึกษาปลาย
ปีการศึกษาพ.ศ.2560หนึ่งในการด�าเนินการของโครงการ
sQipได้แก่ระบบสารสนเทศเพื่อส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพ
การศึกษา (Q-Info) ซึ่งก�าลังมุ่งพัฒนากรอบตัวบ่งชี้ ใน
การติดตามความก้าวหน้าของโรงเรียนรวมถึงติดตามการ
ด�าเนินงานของโครงการในระยะที่2 ในข้ันตอนน้ีจึงมีการ
จัดประชุมปฏิบัติการเมื่อวันที่16-17 กุมภาพันธ์2561 ณ
อาคารเอสพี โดยมีการเชิญที่ปรึกษาโครงการ นักวิชาการที่
เกี่ยวข้องกับโครงการ หัวหน้าโค้ช ผู้บริหารสถานศึกษา ครู
และนักเรียนจาก10โรงเรียนรวมจ�านวนผู้ร่วมประชุมกว่า
80 คน เพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับรูปธรรมการเปล่ียน
แปลงท่ีเกดิข้ึนกบันกัเรยีนในช่วงระยะเวลาตัง้แต่เร่ิมโครงการ
ถึงปัจจุบัน ท้ังนี้เพื่อสังเคราะห์ลักษณะการเปลี่ยนแปลงให้
สาเหตุและการเปลี่ยนแปลงสำ คัญที่เกิดขึ้นกับนักเรียนในโรงเรียน sQipภาคการศึกษาต้น ปีการศึกษา 2560
ประจักษ์ทีเ่กิดขึน้รวมถึงวิเคราะหห์าสาเหตุการเปลี่ยนแปลง
ท่ีเกิดขึ้นจากการด�าเนินโครงการดังกล่าว น�าไปสู่การพัฒนา
เป็นสารสนเทศและการได้มาซึ่งตัวบ่งชี้เพื่อเป็นกรอบใน
การศึกษาโครงการในระยะที่2ต่อไป
ผลการสังเคราะห์เนื้อหาจากการประชุมเกี่ยวกับ
การเปลี่ยนแปลงท่ีส�าคัญที่เกิดกับนักเรียน พบว่ามีความ
สอดคล้องระหว่างกลุ่มผู้บริหาร ครู และนักเรียน ประกอบ
ด้วย พฤติกรรมด้านการเรียน ความสัมพันธ์ระหว่างครูกับ
นกัเรยีนความสมัพนัธ์ระหว่างนกัเรยีนกบันกัเรยีนและเจตคติ
ต่อโรงเรียน โดยพฤติกรรมย่อยแต่ละด้านมีรายละเอียดดัง
ต่อไปน้ี พฤติกรรมด้านการเรียน ได้แก่ การที่นักเรียน
อยากมาโรงเรียนเข้าเรียนไม่มาสายหรือขาดเรียนมีความ
รับผิดชอบในการส่งงานและท�าการบ้าน มีส่วนร่วมในการ
เรียนท้ังการกล้าแสดงออก การตั้งค�าถาม การแสดงความ
คดิเหน็การตอบค�าถามและการแสวงหาความรูน้อกห้องเรยีน
นักเรียนมีความสนใจในการเรียน มีผลการเรียนที่เพ่ิมขึ้น
รวมถึงมีเป้าหมายในการเรียนท่ีชัดเจน ส่วนความสัมพันธ์
ระหว่างครูกับนักเรียนได้แก่การมีความศรัทธาในครูมีครู
ในดวงใจ การไว้ใจกล้าปรึกษาปัญหาอื่นนอกเหนือจากการ
เรียนกับครู อยากทักทายเข้าพบครู รู้สึกได้รับการเอาใจใส่
จากครู และช่องว่างระหว่างครูและนักเรียนลดลง ส�าหรับ
ความสัมพันธ์ระหว่างนักเรียนกับนักเรียน ได้แก่ ความ
สนิทสนมระหว่างเพื่อนในห้องเรียน มีกิจกรรมในชั้นเรียน
ระหว่างกันมากขึ้น พูดคุยซักถามบทเรียน เพื่อนสอนเพื่อน
“มอง sQip จากมุมวิจัย”
ติดต่อจดหมายข่าว “เรียนสุข สนุกสอน” โครงการวิจัยปฏิบัติการโรงเรียนพัฒนาคุณภาพต่อเนื่อง ได้ที่ส�านักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.)เลขที่ 388 อาคารเอส.พี. (อาคารเอ) ชั้น 13 ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 โทรศัพท์ : 02-619-1811เข้าชมฉบับอิเล็กทรอนิกส์และติดตามข่าวสาร จาก สสค. ได้ที่ www.QLF.or.th email: [email protected]
ช่วยกันเรียนจนเกิดความสามัคคีและการทะเลาะวิวาทลดลง
นอกจากนี้เจตคติต่อโรงเรียนหรือความรู้สึกต่อโรงเรียนเป็น
ไปในทิศทางบวก เช่น รู้สึกผูกพันกับการเรียนและโรงเรียน
มีความสุข สนุกกับการเรียนรู ้ ไม่เครียดในการมาเรียน
ซึ่งตัวแปรดังกล่าวมีความสอดคล้องกับตัวบ่งช้ีที่เก็บข้อมูล
จากแบบสอบถามของโครงการTIMSSและPISA2015ที่
เกี่ยวข้องกับตัวแปรบรรยากาศของโรงเรียน ความปลอดภัย
ในโรงเรียน การจัดการเรียนการสอน ความสัมพันธ์กับครู
ความสัมพันธ์กับครูในการเรียน การใฝ่เรียนรู้ (Student
engagement)และเจตคติของนักเรียนเป็นต้น
เ ม่ือวิเคราะห์ถึงสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงของ
นักเรียน พบว่ามีความสอดคล้องระหว่างกลุ่มผู้บริหาร และ
ครูประกอบด้วยปัจจัยเนื่องมาจากผู้บริหารครูผู้ปกครอง
และตวันกัเรยีนโดยพฤตกิรรมย่อยแต่ละปัจจยัมรีายละเอยีด
ดังต่อไปนี้ปัจจัยจากผู้บริหาร ได้แก่ การมีวิสัยทัศน์ในการ
ปรับเปลี่ยนการด�าเนินงานของโรงเรียน เพื่อมุ่งเป้าหมายใน
การพัฒนานักเรียนการเป็นแบบอย่างที่ดีในการท�างานการ
มีสัมพันธภาพที่ดีกับครูในโรงเรียน ความเชื่อมั่นในศักยภาพ
ครู การเปิดโอกาสให้ครูท�างานอย่างเป็นอิสระ ด้วยการลด
การใช้อ�านาจในการบริหาร การกระตุ้นให้เกิดกระบวนการ
ท�างานร่วมกนัระหว่างครูการรับฟังความคิดเหน็ในการด�าเนนิ
งานในโรงเรียนจากครูการเปิดโอกาสให้ผูป้กครองมส่ีวนร่วม
ในการก�าหนดการด�าเนินงานของโรงเรียน และการอ�านวย
ความสะดวกสื่ออุปกรณ์และงบประมาณต่างๆ ปัจจัยจาก
ครู ได้แก่ ความเชื่อมั่นในศักยภาพของตนเองในการจัดการ
เรียนการสอน การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การมีปฏิสัมพันธ์กับ
เพือ่นครใูนประเด็นเก่ียวกับการพฒันานกัเรยีนหรอืการจดัการ
เรียนการสอนจนกระทั่งเกิดการปรับเปลี่ยนเอาใจใส่ในการ
เรยีนการสอนแบบactivelearningการท�ากิจกรรมกลุม่เน้น
การลงมือปฏิบัติ การบูรณาการ การใช้กิจกรรมและส่ือ
การเรียนสอนที่หลากหลายกระตุ้นเปิดโอกาสให้นักเรียนมี
ส่วนร่วมในการเรียนการให้ข้อมูลป้อนกลับการติดตามการ
เรยีนรูข้องผูเ้รยีนและการลดการใช้อ�านาจในการเรยีน ปัจจยั
จากผู้ปกครอง ได้แก่ การมีส่วนร่วมในการก�าหนดและการ
ตดิตามการด�าเนนิงานของสถานศกึษาการตดิตามและเอาใจ
ใส่การเรียนของบุตรหลานการมีปฏิสัมพันธ์กับโรงเรียนและ
ช่องทางการส่ือสารกับครูและผู้บริหารโรงเรียนมากขึ้น การ
ให้การสนับสนุนในการเป็นวิทยากรภูมิปัญญาชาวบ้านและ
งบประมาณ รวมถึงมีความเชื่อมั่นในการท�างานของครูและ
ผู้บริหารโรงเรียนมากขึ้น สุดท้ายปัจจัยจากตัวผู้เรียน ได้แก่
การที่นักเรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนการสอนทั้งการ
ก�าหนดเป้าในการเรียน มีการลงมือท�ากิจกรรมการเรียนรู้
และทราบผลของการวดัประเมนิผลท�ากจิกรรมร่วมกนัในการ
ช่วยเหลือกันในการท�าการบ้านหรืองานในห้องเรียนมากขึ้น
จนกระทัง่ท�าให้มคีวามเชือ่มัน่ว่าตนเองมศีกัยภาพในการเรยีน
ของตนเองเพิ่มขึ้น
กล่าวโดยสรุป สาเหตุการเปล่ียนแปลงของพฤติกรรม
การเรยีนของนกัเรยีนเกดิจากการสอนทีห่ลากหลายเน้นการ
มส่ีวนร่วมของผูเ้รยีนเชือ่มัน่ในศกัยภาพของนกัเรยีนสามารถ
เปิดโอกาสให้เด็กมีส่วนร่วมรับผิดชอบการเรียนของตนเอง
ผูบ้รหิารเปิดโอกาสรบัฟังและเชือ่มัน่ในศกัยภาพครูดงึให้ครู
ร่วมคิดในการท�างานของโรงเรียน มีอิสระในการท�างาน
ลดทอนวัฒนธรรมอ�านาจท้ังในระดับโรงเรียนและชั้นเรียน
การมีสัมพันธภาพของนักเรียน ครู และผู้บริหารท่ีดีข้ึนจาก
การแลกเปลี่ยนเรียนรู้พูดคุยรับฟังและเคารพในความคิด
ของแต่ละฝ่าย โรงเรียนจึงน่าอยู่มากขึ้น ดังค�ากล่าวปิด
การประชุมของรศ.ดร.สุธีระประเสริฐสรรพ์ที่ว่า“เมื่อผู้สูง
ก้มลงมา ผู้ต�่าจึงกล้ายืนขึ้น” และ “การหาเหตุให้เจอ เพื่อ
สร้างเหตใุห้เกดิขึน้”ผลการประชมุครัง้นีจ้งึน�าไปสูส่ารสนเทศ
ทีเ่ป็นส่วนหนึง่ในการพฒันาตวับ่งชีต้ดิตามการด�าเนนิงานของ
โรงเรียนและโครงการวิจัยปฏิบัติการโรงเรียนพัฒนาคุณภาพ
ต่อเนื่องต่อไป