แนวข้อสอบเก่า กฎหมายแพ่ง 2 หนี้

39
กฎหมายแพง 2 : หนีละเมิด ขอ 1 นายสมบัติกับนายสํารวยเปนเพื่อนกัน นายสํารวยกูเงินนายสมบัติไป 4,000 บาท นาย สํารวยผิดนัดชําระหนี้มา 2 เดือนแลว นายสมบัติเปนชางซอมรถ นายสํารวยนํารถยนตราคา 600,000 บาท มาใหนายสมบัติซอม คิดคาซอม 2,000 บาท ตกลงชําระคาซอมเมื่อซอม เสร็จแลว เมื่อซอมรถเสร็จ นายสํารวยก็ไมชําระ นายสมบัติจึงยึดหนวงรถของนายสํารวยที่ตน ครองครองไว อางวาเปนประกันหนี้ที่นายสํารวยติดคางอยูรวมเปนเงิน 6,000 บาท จนกวาจะได รับชําระหนีนายสํารวยโตแยงวา ไมวาเปนหนี้เงินกูหรือหนี้คาซอมรถ นายสมบัติไมมีสิทธิยึด หนวงรถไว เพราะราคารถสูงกวาจํานวนหนี้มากนัก ทานเห็นดวยกับขอโตแยงของนายสํารวยหรือ ไม เฉลย ปพพ.มาตรา 241 วรรคแรกบัญญัติวา ผูใดเปนผูครองทรัพยสินของผูอื่น และมีหนี้อัน เปนคุณประโยชนแกตนเกี่ยวดวยทรัพยสินซึ่งครองนั้นไซร ทานวาผูนั้นจะยึดหนวงทรัพยสินนั้น ไวจนกวาจะไดชําระหนี้ก็ได แตความที่กลาวนี้ทานมิใหใชบังคับเมื่อหนี้นั้นยังไมถึงกําหนดตามปญหา แยกพิจารณาไดดังนี() หนี้เงินกูของนายสํารวยมิใชหนี้อันเปนคุณประโยชนแกนายสมบัติเกี่ยวดวย รถที่ตนครอบครองไว ดังนั้นนายสมบัติจะยึดหนวงรถไวไมได ขาพเจาเห็นดวยกับขอโตแยงของ นายสํารวยในผลที่วายึดไมได () สําหรับหนี้คาซอมรถ เปนหนี้อันเปนคุณประโยชนแกนายสมบัติเกี่ยว ดวยรถยนตของนายสํารวยที่นํามาใหนายสมบัติซอมและนายสมบัติครอบครองไวนั้น นายสมบัติ จึงมีสิทธิยึดหนวงรถยนตไวได จนกวาจะไดรับชําระหนี้คาซอม แมรถยนตจะมีราคาสูงกวาหนี้คา ซอมมากเพียงใดก็ตาม ทั้งหนี้ของนายสํารวยก็ถึงกําหนดชําระแลว ขาพเจาไมเห็นดวยกับขอโตแยง ของนายสํารวย
  • Upload

    -
  • Category

    Documents

  • view

    593
  • download

    83

description

แนวข้อสอบเก่าอัตนัยนิติมสธ. ไฟล์นี้ได้มาจากคุณต้อยมสธ .ครับ http://stou45.thaiparagliding.com/download/khuntoii.htm

Transcript of แนวข้อสอบเก่า กฎหมายแพ่ง 2 หนี้

Page 1: แนวข้อสอบเก่า กฎหมายแพ่ง 2  หนี้

กฎหมายแพง 2 : หนี้ ละเมิด

ขอ 1 นายสมบัติกับนายสํารวยเปนเพื่อนกัน นายสํารวยกูเงินนายสมบัติไป 4,000 บาท นายสํารวยผิดนัดชําระหนี้มา 2 เดือนแลว นายสมบัติเปนชางซอมรถ นายสํารวยนํารถยนตราคา 600,000 บาท มาใหนายสมบัติซอม คิดคาซอม 2,000 บาท ตกลงชําระคาซอมเมื่อซอมเสร็จแลว เมื่อซอมรถเสร็จ นายสํารวยก็ไมชําระ นายสมบัติจึงยึดหนวงรถของนายสํารวยที่ตนครองครองไว อางวาเปนประกันหนี้ที่นายสํารวยติดคางอยูรวมเปนเงิน 6,000 บาท จนกวาจะไดรับชําระหนี้ นายสํารวยโตแยงวา ไมวาเปนหนี้เงินกูหรือหนี้คาซอมรถ นายสมบัติไมมีสิทธิยึดหนวงรถไว เพราะราคารถสูงกวาจํานวนหนี้มากนัก ทานเห็นดวยกับขอโตแยงของนายสํารวยหรือไม เฉลย ปพพ.มาตรา 241 วรรคแรกบัญญัติวา “ผูใดเปนผูครองทรัพยสินของผูอ่ืน และมีหนี้อันเปนคุณประโยชนแกตนเกี่ยวดวยทรัพยสินซึ่งครองนั้นไซร ทานวาผูนั้นจะยึดหนวงทรัพยสินนั้นไวจนกวาจะไดชําระหนี้ก็ได แตความที่กลาวนี้ทานมิใหใชบังคับเมื่อหนี้นั้นยังไมถึงกําหนด”

ตามปญหา แยกพิจารณาไดดังนี้ (ก) หนี้เงินกูของนายสํารวยมิใชหนี้อันเปนคุณประโยชนแกนายสมบัติเกี่ยวดวยรถที่ตนครอบครองไว ดังนั้นนายสมบัติจะยึดหนวงรถไวไมได ขาพเจาเห็นดวยกับขอโตแยงของนายสํารวยในผลที่วายึดไมได (ข) สําหรับหนี้คาซอมรถ เปนหนี้อันเปนคุณประโยชนแกนายสมบัติเกี่ยวดวยรถยนตของนายสํารวยที่นํามาใหนายสมบัติซอมและนายสมบัติครอบครองไวนั้น นายสมบัติจึงมีสิทธิยึดหนวงรถยนตไวได จนกวาจะไดรับชําระหนี้คาซอม แมรถยนตจะมีราคาสูงกวาหนี้คาซอมมากเพียงใดก็ตาม ทั้งหนี้ของนายสํารวยก็ถึงกําหนดชําระแลว ขาพเจาไมเห็นดวยกับขอโตแยงของนายสํารวย

Page 2: แนวข้อสอบเก่า กฎหมายแพ่ง 2  หนี้

กฎหมายแพง 2 : หนี้ ละเมิด ขอ 2 นายดําใชไมตีบังคับลิงของนายแดงใหลักมะพราวจากตนของนายเขียวเพื่อนบานใกลเคียงมาใหนายดํา ลิงเกรงกลัว จึงทําตามที่ถูกนายดําบังคับ นายเขียวมาเรียกรองใหนายดําและนายแดงรวมกันคืนมะพราวหรือใชราคา ถาทานเปนนายดําหรือนายแดงจะโตแยงประการใดหรือไม เฉลย ปพพ. มาตรา 420 บัญญัติไวมีใจความสําคัญวา ผูใดจงใจหรือประมาทเลินเลอทําตอบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายใหเขาเสียหายแกทรัพยสิน….ผูนั้นทําละเมิด จําตองใชคาสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น ปพพ. มาตรา 433 บัญญัติไวมีใจความสําคัญวา ถาความเสียหายเกิดขึ้นเพราะสัตว เจาของสัตวหรือบุคคลผูรับเลี้ยงรับรักษาไวแทนเจาของสัตวจําตองใชคาสินไหมทดแทนใหแกฝายที่ตองเสียหายเพื่อความเสียหายอยางใด ๆ อันเกิดแตสัตวนั้น ตามมาตรา 420 เปนความรับผิดของบุคคลในการกระทําของตนเอง สวนตามมาตรา 433 เปนความรับผิดของบุคคลในความเสียหายที่เกิดขึ้นเพราะสัตว ตามปญหา เปนการที่นายดําใชลิงของนายแดงเปนเครื่องมือในการกระทําละเมิดโดยบังคับใหลิงลักมะพราวจากตนของนายเขียว เปนความรับผิดของนายดําในการกระทําของตนเอง มิใชความรับผิดในความเสียหายที่เกิดขึ้นเพราะสัตวซ่ึงเจาของสัตวจะตองรับผิดตามมาตรา 433 นายดําจึงตองรับผิดตอนายเขียวตามมาตรา 420 นายแดงเจาของลิงไมตองรับผิดตามมาตรา 433 ถาขาพเจาเปนนายดํา จะไมโตแยงกับนายเขียว แตถาเปนนายแดงจะโตแยงกับนายเขียวโดยนัยดังกลาว

Page 3: แนวข้อสอบเก่า กฎหมายแพ่ง 2  หนี้

กฎหมายแพง 2 : หนี้ ละเมิด ขอ 3 นายจันทรขายบานและที่ดินใหนายเสาร แตมิไดทําเปนหนังสือและจดทะเบียนตอพนักงานเจาหนาที่ตามกฎหมาย การซื้อขายตกเปนโมฆะเสียเปลา ตางก็เขาใจวาสัญญามีผลบังคับใชไดตามกฎหมาย นายจันทรไดสงมอบบานและที่ดินใหนายเสารครอบครอง ลูกจางของนายเสารรีดผาใหนายเสารตามหนาที่โดยประมาทเลินเลอ ทําใหไฟไหมบานเสียหายไปแถบหนึ่ง ดังนี้นายจันทรมีสิทธิเรียกบานและที่ดินคืนไดหรือไม และนายเสารและลูกจางของนายเสารตองรับผิดชดใชคาเสียหายใหแกนายจันทรหรือไม เฉลย

(ก) ในขอที่วานายจันทรจะเรียกบานและที่ดินคืนไดหรือไมนั้น ปพพ. มาตรา 406 วรรคแรก ตอนแรกบัญญัติวา บุคคลใดไดมาซึ่งทรัพยส่ิงใดเพราะการ

ที่บุคคลอีกคนหนึ่งกระทําเพื่อชําระหนี้ก็ดี หรือไดมาดวยประการอื่นก็ดี โดยปราศจากมูลอันจะอางกฎหมายได และเปนทางใหบุคคลอีกคนหนึ่งนั้นเสียเปรียบแลวไซร บุคคลนั้นจําตองคืนทรัพยใหแกเขา

และวรรค 2 ตอนแรกบัญญัติวา บทบัญญัติอันนี้ใหใชบังคับตลอดถึงกรณีที่ไดทรัพยมาเพราะเหตุอยางใดอยางหนึ่งซึ่งมิไดมีไดเปนขึ้นดวย

ตามปญหา การที่มิไดทําเปนหนังสือและจดทะเบียนตอพนักงานเจาหนาที่ตามกฎหมาย การซื้อขายตกเปนโมฆะเสียเปลาและนายจันทรไดสงมอบบานและที่ดินใหนายเสารครอบครองแลวนั้น เปนการไดทรัพยมาเพราะเหตุที่มิไดมีไดเปนขึ้นตาม ปพพ.มาตรา 406 วรรค 2 และทําใหนายจันทรเสียเปรียบ เปนการไดทรัพยมาโดยลาภมิควรได นายเสารจึงตองคืนบานและที่ดินใหนายจันทรตามมาตรา 406 วรรคแรก

(ข) ในขอที่วานายเสารและลูกจางนายเสารตองรับผิดชดใชคาเสียหายใหแกนายจันทรหรือไมนั้น

ปพพ.มาตรา 420 บัญญัติวา ผูใดจงใจหรือประมาทเลินเลอ ทําตอบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายใหเขาเสียหายแกทรัพยสิน ผูนั้นทําละเมิด จําตองใชคาสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น

มาตรา 425 บัญญัติวา นายจางตองรวมกันรับผิดกับลูกจางในผลแหงละเมิดซึ่งลูกจางไดกระทําไปในทางการที่จาง

ตามปญหา เมื่อการซื้อขายบานและที่ดินตกเปนโมฆะเสียเปลาตาม (ก) บานและที่ดินยังเปนของนายจันทรอยู การที่ลูกจางนายเสารรีดผาใหนายเสารตามหนาที่โดยประมาทเลินเลอทําให

Page 4: แนวข้อสอบเก่า กฎหมายแพ่ง 2  หนี้

ไฟไหมบานเสียหาย เปนการกระทําละเมิดตามมาตรา 420 ลูกจางนายเสารจึงตองรับผิดชดใชคาเสียหาย เหตุละเมิดไดเกิดขึ้นในทางการที่จางเพราะเกิดเหตุเมื่อลูกจางรีดผาใหตามหนาที่ นายเสารจึงตองรวมรับผิดกับลูกจางดวยตามมาตรา 425

กฎหมายแพง 2 : หนี้ ละเมิด

ขอ 4 ก ข และ ค รวมกันกูเงิน ง ไป 60,000 บาท เพื่อจะไปลงทุนกิจการคารวมกัน ตอมาหนี้ถึงกําหนดชําระ ทั้ง ก ข และ ค เพิกเฉยไมชําระหนี้ ง จึงฟอง ก และ ข ใหชําระหนี้ใหแกตน คนละ 30,000 บาท สวน ค นั้นเปนนักศึกษานิติศาสตร มสธ. ง สงสารไมอยากให ค เปนความในศาล จึงไมฟอง ค ก และ ข ตอสู ง วาตางรับผิดเปนจํานวนเทา ๆ กัน คือ คนละ 20,000 บาท ดังนี้ ก และ ข จึงรับผิดชอบรวมกันเพียง 40,000 บาท อีก 20,000 บาท ง ตองไปฟอง ค อีกตางหาก ดังนี้ ทานเห็นดวยกับขออางของ ก และ ข อยางไรหรือไมเพราะเหตุใด เฉลย หลักกฎหมาย มาตรา 291 บัญญัติวา “ถาบุคคลหลายคนจะตองทําการชําระหนี้โดยทํานองซึ่งแตละคนจําตองชําระหนี้โดยสิ้นเชิงไซร แมถึงวาเจาหนี้ชอบที่จะดรับชําระหนี้ส้ินเชิงไดแตเพียงครั้งเดียว (กลาวคือ ลูกหนี้รวม) ก็ดี เจาหนี้จะเรียกชําระหนี้จากลูกหนี้แตคนใดคนหนึ่งสิ้นเชิงหรือแตโดยสวนก็ไดตามแตจะเลือก แตลูกหนี้ทั้งปวงก็ยังคงตองผูกพันอยูทั่วทุกคนจนกวาหนี้นั้นจะใชชําระเสร็จสิ้นเชิง” มาตรา 296 บัญญัติวา “ในระหวางลูกหนี้รวมกันทั้งหลายนั้นทานวา ตางคนตางตองรับผิดชอบเปนสวนเทา ๆ กัน เวนแตจะไดกําหนดเปนอยางอื่น….” กรณีนี้เปนเรื่องลูกหนี้รวมซึ่งเปนบุคคลหลายคนซึ่งมีหนาที่รวมกันที่จะตองรับผิดตอเจาหนี้จะไดรับชําระหนี้โดยสิ้นเชิงหรือแตโดยสวนหรือจะเรียกรองเอาจากลูกหนี้รวมพรอมกันก็ได ดังนั้นจึงเปนสิทธิของ ง ซ่ึงสามารถที่จะเรียกรองให ก และ ข เทานั้นที่จะตองชําระหนี้ให ง ระหวางลูกหนี้รวมดวยกันแลว ลูกหนี้ตางตองรับผิดเปนสวนเทา ๆ กัน แมวา ก และ ข จะปฏิเสธไมชําระเกินสวนของตนไมไดก็ตาม เพราะตองผูกพันอยูจนกวาเจาหนี้จะไดรับชําระหนี้

Page 5: แนวข้อสอบเก่า กฎหมายแพ่ง 2  หนี้

โดยส้ินเชิง แตเมื่อ ก และ ข ไดชําระหนี้แก ง โดยครบถวนไวแลว ก็มีสิทธิที่จะไลเบี้ยสวนที่แตละคนไดออกเกินไปแทน ค ได ดังนั้น ขาพเจาไมเห็นชอบกับขออางของ ก และ ข โดยเห็นวา ก และ ข ตองชําระหนี้เงินกูคนละ 30,000 บาท ตามที่ ง ฟอง แตทั้ง ก และ ข ก็มีสิทธิจะไปไลเบี้ยเอาจาก ค ในสวนที่แตละคนไดจายเกินไป คือคนละ 10,000 บาท

กฎหมายแพง 2 : หนี้ ละเมิด ขอ 5 ข กูเงิน ก ไป 100,000 บาท ในขณะเดียวกัน ค ก็เปนลูกหนี้ของ ข โดยเปนหนี้เงินคาซื้อของเชื่อที่ซื้อไปจาก ข 50,000 บาท ตอมา ข กลายเปนบุคคลที่มีหนี้สินลนพนตัว ไมมีทรัพยสินใดเหลืออยูเลย และ ข ก็ไมยอมฟองเรียกคาซื้อของเชื่อจาก ค ดังนี้ ก ไดมาปรึกษาทาน ทานจะใหคําปรึกษาแก ก อยางไร เพื่อ ก จะไดรับชําระหนี้ จาก ข เฉลย หลักกฎหมาย มาตรา 233 บัญญัติวา “ถาลูกหนี้ขัดขืนไมยอมใชสิทธิเรียกรอง หรือเพิกเฉยเสียไมใชสิทธิเรียกรองเปนเหตุใหเจาหนี้ตองเสียประโยชนไซร ทานวาเจาหนี้จะใชสิทธิเรียกรองนั้นในนามของตนเองแทนลูกหนี้ เพื่อปองกันสิทธิของตนในมูลหนี้นั้นก็ได เวนแตในขอที่เปนการของลูกหนี้สวนตัวโดยแท” มาตรา 234 บัญญัติวา “เจาหนี้ผูใชสิทธิเรียกรองของลูกหนี้นั้นจะตองขอหมายเรียกลูกหนี้มาในคดีนั้นดวย” กรณีนี้เปนเรื่องการใชสิทธิเรียกรองของลูกหนี้ซึ่งเปนวิธีการที่เจาหนี้สามารถควบคุมกองทรัพยสินของลูกหนี้ รวมทั้งใหเจาหนี้ใชวิธีการที่จะใหไดมาซึ่งทรัพยสินที่บุคคลภายนอกตองชําระแกลูกหนี้ดวย

Page 6: แนวข้อสอบเก่า กฎหมายแพ่ง 2  หนี้

ก สามารถใชสิทธิเรียกรองของลูกหนี้คือ ข ฟอง ค ในนามของตนเอง เพราะการที่ ข เพิกเฉยไมใชสิทธิเรียกรองของตนโดยไมฟองรอง ค นั้น เปนเหตุใหเจาหนี้คือ ก เสียประโยชนเพราะ ข เองไมมีทรัพยสินที่จะชําระหนี้ไดครบถวน ในการฟองคดีที่จะเรียกให ค ชําระหนี้นั้น ก จะตองขอหมายเรียก ข ลูกหนี้เขามาในคดีดวย ตาม ม.234 ทั้งนี้เพื่อใหการพิจารณาพิพากษาคดีมีผลผูกพัน ข ซึ่ง ข จะปฏิเสธไมรับรูผลของคดีไมได ดังนั้น ขาพเจาจึงแนะนําให ก ใชสิทธิเรียกรองของ ข ฟอง ค ในนามของตน ให ค ชําระหนี้ และหมายเรียก ข เขามาในคดีดวย

กฎหมายแพง 2 : หนี้ ละเมิด ขอ 6 ก มาเยี่ยม ข ที่บานซึ่งเปนบานที่ ข เปนเจาของและครอบครองอยูอาศัย ก สูบบุหร่ีแลวขวางกนบุหร่ีไปที่ทางเทาหนาบานโดยประมาทเลินเลอ ทําใหกนบุหร่ีถูก ค ซึ่งเดินอยูที่ทางเทาเสียหาย ค มาเรียกรองให ก ในฐานะที่เปนผูขวางกนบุหร่ีและ ข ในฐานะที่เปนผูอยูในโรงเรือนชดใชคาเสียหาย หากทานเปน ก หรือ ข จะโตแยงกับ ค ประการใดบางหรือไม เฉลย ปพพ.มาตรา 420 บัญญัติวา ผูใดจงใจหรือประมาทเลินเลอ ทําตอบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายใหเขาเสียหายถึงแกชีวิตก็ดี แกรางกายก็ดี ผูนั้นทําละเมิดจําตองใชคาสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น มาตรา 436 บัญญัติวา บุคคลผูอยูในโรงเรือนตองรับผิดชอบในความเสียหาย อันเกิดเพราะของตกหลนจากโรงเรือนนั้น หรือเพราะทิ้งขวางของไปตกในที่อันมิควร

ตามปญหา แยกพิจารณาไดดังนี้

Page 7: แนวข้อสอบเก่า กฎหมายแพ่ง 2  หนี้

1. การที่ ก ขวางบุหร่ีไปที่ทางเทาถูก ค ซึ่งเดินอยูที่ทางเทาเสียหายเปนการกระทําโดยประมาทเลินเลอ ก ผูเดียวจึงตองรับผิดตอ ค ตามมาตรา 420 หากขาพเจาเปน ก จะไมโตแยงกับ ค แตประการใด 2. ข เปนผูครอบครองอยูอาศัยในบาน ซึ่งตามปกติถามีของตกหลนหรือทิ้งขวางไปตกในที่อันมิควรจากบานที่ ข ครอบครองอยูอาศัยโดยที่ไมจงใจหรือประมาทเลินเลอ ข จะตองรับผิดตามมาตรา 436 แตกรณีที่เกิดขึ้นนี้ ก ผูมาเยี่ยม ข ไดกระทําโดยประมาทเลินเลอโดยขวางกนบุหร่ีไปถูก ค ที่ทางเทาเสีย แลว ก จึงเปนผูกระทําละเมิดและรับผิดตามมาตรา 420 ดังกลาวมา ข จึงไมตองรับผิดตามมาตรา 436

หากขาพเจาเปน ข จะโตแยงกับ ค โดยอาศัยเหตุผลดังกลาว

กฎหมายแพง 2 : หนี้ ละเมิด ขอ 7 นายสวาทเขาไปกินอาหารเย็นและดื่มสุราที่รานของโอชาเมามายจนดึกดื่น ไดเวลาปดราน นายโอชาไมสามารถปดรานได ไดขอรองใหนายสวาทออกไปแตโดยดี นายสวาทก็ไมปฏิบัติตาม นายโอชากับลูกจางจึงชวยกันฉุดลากนายสวาทออกไปจากราน นายโอชาจึงปดรานได รุงข้ึนเชานายสวาทสรางเมา จึงเรียกรองใหนายโอชาและลูกจางชดใชคาเสียหายฐานรวมกันทําละเมิด นายโอชานําความมาปรึกษาทาน ทานจะใหคําปรึกษาแกนายโอชาวาอยางไร เฉลย ตาม ปพพ. มาตรา 420 ผูใดจงใจหรือประมาทเลินเลอ ทําตอบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมาย ใหเขาเสียหายถึงแกชีวิตก็ดี แกรางกายก็ดี….ผูนั้นทําละเมิดจําตองใชคาสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น และตามมาตรา 451 บุคคลใชกําลังเพื่อปองกันสิทธิของตน ถาตามพฤติการณจะขอใหศาลหรือเจาหนาที่ชวยเหลือใหทันทวงทีไมได และถามิไดทําในทันใด ภัยมีอยูดวยการที่ตนจะไดสม

Page 8: แนวข้อสอบเก่า กฎหมายแพ่ง 2  หนี้

ดังสิทธินั้น จะตองประวิงไปมากหรือถึงแกสาปสูญได บุคคลนั้นหาตองรับผิดใชคาสินไหมทดแทนไม ตามปญหา นายโอชาจะปดราน เพราะดึกดื่นไดเวลาแลว นายโอชายอมไมสามารถจะขอใหเจาหนาที่ชวยเหลือใหทันทวงทีได ถาหากไมฉุดลากนายสวาทออกไป ก็ยอมปดรานไมได นายโอชากับลูกจางมีสิทธิกระทําการดังกลาว กรณีตองดวยมาตรา 451 นายโอชากับลูกจางมิไดกระทําโดยผิดกฎหมายตามมาตรา 420 มิไดกระทําละเมิดตอนายสวาท ขาพเจาจะใหคําปรึกษาแกนายโอชาตามบทกฎหมายดังกลาว หมายเหตุ ตอนแรก เพียงนักศึกษาอางใจความสําคัญตามดวยตัวบทมาตรา 451 วรรคแรกไมตองอางมาตรา 420 ดวย ก็อาจให 10 คะแนนเต็มได เพราะมิไดถามตามมาตรา 420 เปนขอสําคัญ ตองการถามตามมาตรา 451 ซึ่งเปนนิรโทษกรรมมากกวา

กฎหมายแพง 2 : หนี้ ละเมิด ขอ 8 ในวันที่ 1 มกราคม 2534 นายเดชไดตกลงทําสัญญาจะซื้อบานพรอมที่ดิน เนื้อที่ 100 ตารางวาจากบริษัทเมืองสวรรคจํากัด ในราคา 2 ลานบาท โดยบานยังสรางไมเสร็จเรียบรอย นายเดชไดชําระเงินมัดจําจํานวน 5 แสนบาทในวันทําสัญญา ในสัญญาดังกลาวกําหนดวา บริษัทเมืองสวรรคจํากัดจะสรางบานใหเสร็จเรียบรอยภายในวันที่ 1 กรกฎาคม 2534 และจะจดทะเบียนโอนบานและที่ดินดังกลาวใหแกนายเดช โดยนายเดชตองชําระเงินที่เหลืออีก 1 ลาน 5 แสนบาท แกบริษัทเมืองสวรรคจํากัดในวันที่จดทะเบียนโอนบานนั้น หากนายเดชไมรับการจดทะเบียนโอนและชําระเงินตามกําหนดจะตองชําระดอกเบี้ยในอัตรารอยละ 5 ของเงินที่คางชําระแกบริษัทเมืองสวรรคจํากัดจนกวาจะไปรับโอน คร้ันถึงวันที่ 1 กรกฎาคม 2534 บริษัทเมือง

Page 9: แนวข้อสอบเก่า กฎหมายแพ่ง 2  หนี้

สวรรคจํากัดไดบอกกลาวใหนายเดชไปรับการจดทะเบียนโอนบานและชําระเงิน 1 ลาน 5 แสนบาท นายเดชไดเตรียมเงินมาชําระแลวแตนายเดชตรวจพบวาบานที่ซื้อนั้นผนังราวไปทั่วบาน ประตูหนาตางปดไมสนิทจึงปฏิเสธไมรับโอน บริษัทเมืองสวรรคจํากัดจึงเรียกใหชําระดอกเบี้ยรอยละ 5 เนื่องจากนายเดชผิดนัด นายเดชมาปรึกษาทานวาจะตองชําระดอกเบี้ยดังกลาวหรือไมและจะเรียกรองบริษัทเมืองสวรรคจํากัดไดอยางไรหรือไม ทานจะใหคําปรึกษาแกนายเดชอยางไรจงอธิบายพรอมทั้งยกหลักกฎหมายประกอบ เฉลย มาตรา 205 ตราบใดการชําระหนี้นั้นยังมิไดกระทําเพราะพฤติการณอันใดอันหนึ่งซึ่งลูกหนี้ไมตองรับผิดชอบ ตราบนั้นลูกหนี้ยังหาไดชื่อวาผิดนัดไม มาตรา 210 ถาลูกหนี้ จําตองชําระหนี้สวนของตนตอเมื่อเจาหนี้ชําระหนี้ตอบแทนดวยไซร แมถึงวาเจาหนี้จะไดเตรียมพรอมที่จะรับชําระหนี้ตามที่ลูกหนี้ขอปฏิบัตินั้นแลวก็ดี หากไมเสนอที่จะทําการชําระหนี้ตอบแทนตามที่จะพึงตองทําเจาหนี้ก็เปนอันไดชื่อวาผิดนัด มาตรา 215 เมื่อลูกหนี้ไมชําระหนี้ใหตองตามความประสงคอันแทจริงแหงมูลหนี้ไซรเจาหนี้จะเรียกเอาคาสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายอันเกิดแตการนั้นก็ได มาตรา 221 หนี้เงินอันตองเสียดอกเบี้ยนั้น ทานวาจะคิดดอกเบี้ยในระหวางที่เจาหนี้ผิดนัดหาไดไม จากอุทาหรณ นายเดชทําสัญญาจะซื้อบานพรอมที่ดินจากบริษัทเมืองสวรรคจํากัดกอใหเกิดหนี้ตางตอบแทนดังกลาวคือบริษัทเมืองสวรรคจํากัดตองสงมอบบานที่สรางเสร็จเรียบรอยในสภาพที่ไมชํารุดบกพรองใหแกนายเดช สวนนายเดชตองชําระราคาคาบานใหแกบริษัทเมืองสวรรคจํากัด ดังนั้นเมื่อบริษัทเมืองสวรรคจํากัดไมไดปฏิบัติการชําระหนี้ใหตองตามความประสงคอันแทจริงแหงมูลหนี้คือการสงมอบบานในสภาพที่ดีใหแกนายเดช นายเดชก็ยังไมตองชําระราคา ทั้งนี้เพราะการชําระหนี้จะใหสําเร็จเปนผลอยางใดลูกหนี้จะตองขอปฏิบัติการชําระหนี้ตอเจาหนี้เปนอยางนั้นโดยตรง กลาวคือบริษัทเมืองสวรรคตองสงมอบบานที่ดีการสงมอบบานผนังราวจึงเปนการปฏิบัติการชําระหนี้ที่ไมถูกตอง และแมบริษัทเมืองสวรรคจํากัดจะพรอมที่จะรับชําระหนี้แตไมชําระหนี้ตามที่พึงตองทําดังกลาวแลวจึงถือวาเปนเจาหนี้ผิดนัดตามมาตรา 210 เมื่อเจาหนี้ผิดนัดจึงไมมีสิทธิจะคิดดอกเบี้ยในระหวางที่เจาหนี้ผิดนัดตามมาตรา 221 สวนนายเดชยังไมผิดนัด

Page 10: แนวข้อสอบเก่า กฎหมายแพ่ง 2  หนี้

แมจะไมรับโอนบานตามสัญญาเพราะบานราว ทําใหนายเดชยังไมรับโอนบานไดซึ่งเปนพฤติการณอันลูกหนี้ไมตองรับผิดชอบตามมาตรา 205 ในทางตรงกันขามบริษัทเมืองสวรรคจํากัดไมชําระหนี้ใหตองตามความประสงคอันแทจริงแหงมูลหนี้ เจาหนี้คือนายเดชยังสามารถเรียกเอาคาสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายอันเกิดแตการนั้นไดตามมาตรา 215 เชน ไมไดรับโอนบานในเวลาที่กําหนดทําใหตองไปเชาบานอยูเปนตน ดังนั้น ขาพเจาจะใหคําปรึกษาวานายเดชไมตองชําระดอกเบี้ยเพราะไมไดเปนฝายผิดนัดแตเจาหนี้คือบริษัทเมืองสวรรคจํากัด เปนฝายผิดนัดจึงไมอาจเรียกดอกเบี้ยได นอกจากนั้นหากนายเดชมีความเสียหายอยางใด ๆ จาการที่บริษัทเมืองสวรรคจํากัดชําระหนี้ไมตองตามความประสงคอันแทจริง คือ สงมอบบานที่ชํารุดเสียหาย นายเดชยังมีสิทธิเรียกคาสินไหมทดแทนได

กฎหมายแพง 2 : หนี้ ละเมิด ขอ 9 นายแจง นายแจม และนายแจว รวมกันกูเงินจากนายโต นายแตง และนายตน ซ่ึงรวมกันใหกูเงินแกบุคคลทั้งสามดังกลาว จํานวน 3 ลานบาทโดยตกลงวาจะชําระหนี้ใหเสร็จส้ินภาย

Page 11: แนวข้อสอบเก่า กฎหมายแพ่ง 2  หนี้

ใน 1 ป คร้ันครบกําหนดชําระหนี้ นายแจง นายแจม และนายแจว ก็ไมชําระหนี้ นายโต จึงบอกกลาวใหนายแจงนําเงินมาชําระหนี้เพราะถึงกําหนดชําระแลว สวนนายแตงเปนเพื่อนรักกับนายแจม จึงปลดหนี้ใหนายแจม 1 ลานบาท สําหรับนายแจวไดกลายเปนทายาทคนเดียวของนายตนซึ่งประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ดังนี้ นายแจง นายแจม และนายแจวจะตองชําระหนี้รายนี้อยางไร จงอธิบายพรอมทั้งยกหลักกฎหมายมาประกอบดวย เฉลย มาตรา 204 วรรค 2 ถาไดกําหนดเวลาชําระหนี้ไวตามวันแหงปฏิทิน และลูกหนี้มิไดชําระหนี้ตามที่กําหนดไซร ทานวาลูกหนี้ตกเปนผูผิดนัดโดยมิทักตองเตือนเลย วิธีเดียวกันนี้ทานใหใชบังคับแกกรณีที่ตองบอกกลาวลวงหนากอนการชําระหนี้ ซึ่งไดกําหนดเวลาลงไวอาจคํานวณนับไดโดยปฏิทินนับแตวันที่ไดบอก กลาว มาตรา 293 การปลดหนี้ใหแกลูกหนี้รวมกับคนหนึ่งนั้นยอมเปนไปเพื่อประโยชนแกลูกหนี้คนอื่น ๆ เพียงเทาสวนที่ลูกหนี้ที่ไดปลดให เวนแตจะไดตกลงกันเปนอยางอื่น มาตรา 299 วรรค 2 ถาสิทธิเรียกรองและหนี้สินนั้นเปนอันเกลื่อนกลืนกันไปในเจาหนี้รวมกันคนหนึ่ง สิทธิของเจาหนี้คนอื่น ๆ อันมีตอลูกหนี้ก็ยอมเปนอันระงับส้ันไป ตามอุทาหรณนายแจง นายแจม และนายแจว เปนลูกหนี้รวมเพราะผูกพันตนรวมกันในหนี้ซึ่งกูจากนายโต นายแตง และนายตน ซึ่งเปนเจาหนี้รวมที่ไดรวมกันใหเงินกู 3 ลานบาทและการกําหนดชําระหนี้ภายใน 1 ปนั้น ถือวาเปนหนี้มีกําหนดเวลาแนนอน เมื่อลูกหนี้ไมชําระหนี้เมื่อครบกําหนดจึงถือวาผิดนัดโดยมิทักตองเตือนเลยตามมาตรา 204 วรรค 2 สวนนายแตงปลดหนี้ใหนายแจม 1 ลานบาทยอมเปนประโยชนแกลูกหนี้รวมคนอื่น ๆ ดวย ตามมาตรา 293 หนี้รายนี้จึงเหลือแคเพียง 2 ลานบาทที่ลูกหนี้รวมจะตองรับผิดรวมกันเพราะสวนที่ปลดหนี้ตกเปนพับแกเจาหนี้ไป แตเมื่อนายแจวไดกลายเปนทายาทของนายตนสิทธิเรียกรองและหนี้สินจึงเกลื่อนกลืนกันไปในเจาหนี้รวมคือนายตน สิทธิของเจาหนี้คนอื่น ๆ อันมีตอลูกหนี้จึงระงับส้ินไปตามมาตรา 299 วรรค 2

กฎหมายแพง 2 : หนี้ ละเมิด ขอ 10

Page 12: แนวข้อสอบเก่า กฎหมายแพ่ง 2  หนี้

นายสีดาเชาบานนางสําลีอยูอาศัย และบริเวณบานนางสําลีมีตนไมใหญรมคร้ึมปลูกอยูเกาแกหลายป นางสีดาเปนคนรักตนไมจึงหมั่นดูแลอยูเสมอ ตลอดจนนํากระถางตนไมไปวางเรียงรายอยูตามมุมบาน และนําไปตั้งอยูริมหนาตางใหสวยงามดวย ขณะที่นายซวยเดินผานมา กระถางตนไมที่วางอยูริมหนาตางหลนมาถูกศรีษะนายซวยแตก สวนนายแสงที่เดินอยูริมร้ัวบานหลังนี้ถูกตนไมใหญที่ปลูกอยูในบริเวณบาน ซึ่งอายุมากแลวโคนลงมาลมทับขานายแสงจนขาหัก ทั้งนายซวยและนายแสง จึงเรียกรองใหนางสีดาและนางสําลีรับผิดชดใชคาเสียหาย นางสีดาปฏิเสธอางวานางสําลีเปนเจาของบานตองรับผิดเอง สวนนางสําลีโตแยงวานางสีดาเปนผูครองโรงเรือนในขณะเกิดเหตุตองเปนผูรับผิด ดังนี้ ใหทานวินิจฉัยวานางสีดาและนางสําลีจะตองรับผิดอยางไรหรือไมเพราะเหตุใด โดยยกกฎหมายมาอธิบายประกอบดวย เฉลย มาตรา 434 ถาความเสียหายเกิดขึ้นเพราะเหตุที่โรงเรือนหรือส่ิงปลูกสรางอยางอื่น กอสรางไวชํารุดบกพรองก็ดี หรือบํารุงรักษาไมเพียงพอก็ดี ทานวาผูครอบครองโรงเรือนหรือส่ิงปลูกสรางนั้น ๆ จําตองใชคาสินไหมทดแทน แตถาผูครองไดใชความระมัดระวังตามสมควรเพื่อปดปองมิใหเกิดเสียหายฉะนั้นแลว ทานวาผูเปนเจาของจําตองใชคาสินไหมทดแทน บทบัญญัติที่กลาวมาในวรรคกอนนั้นใหใชบังคับไดตลอดถึงความบกพรองในการปลูกหรือคํ้าจุนตนไมหรือกอไผดวย มาตรา 436 บุคคลผูอยูในโรงเรือนตองรับผิดชอบในความเสียหายอันเกิดเพราะของตกหลนจากโรงเรือนนั้น หรือเพราะทิ้งขวางของไปตกในที่อันมิควร ขอเท็จจริงจากอุทาหรณ นางสีดาเชาบานนางสําลีอยูจึงเปนผูครอบครองโรงเรือน ในกรณีที่กระถางตนไมที่วางอยูริมหนาตางตกหลนลงมาถูกศรีษะนายซวย ไมไดเกิดจากการกระทําโดยจงใจหรือประมาทเลินเลอก็ตาม แตเมื่อมีของตกหลนจากโรงเรือนผูอยูในโรงเรือนจึงตองรับผิด ดังนั้นนางสีดาผูอยูในโรงเรือนจึงตองรับผิดตอนายซวยที่ไดรับความเสียหายจากการที่มีของตกหลนจากโรงเรือน ตามมาตรา 436 ในกรณีที่สอง นางสีดาไดหมั่นดูแลรักษาตนไมอยูเสมอโดยไดระมัดระวังตามควรแลวจึงไมตองรับผิดตามมาตรา 434 ซึ่งในมาตราดังกลาววรรคสองใหรวมถึงการรับผิดในความบกพรองของการปลูกตนไมหรือคํ้าจุนตนไม กอไผดวย เมื่อผูครองโรงเรือนไมตองรับผิด เพราะไดระมัดระวังตามสมควรแลว เจาของตนไมจึงตองรับผิดในการชําระคาสินไหมทดแทนและความเสียหายที่นายแสงไดรับจากการที่ถูกตนไมลมทับขา สรุป 1. นางสีดาตองรับผิดตอนายซวย เพราะของตกหลนจากโรงเรือนที่นางสีดาอยู 2. นางสําลีตองรับผิดตอนายแสงในฐานะเจาของตนไมในความเสียหายที่เกิดจากความบกพรองในการปลูกตนไม

Page 13: แนวข้อสอบเก่า กฎหมายแพ่ง 2  หนี้

กฎหมายแพง 2 : หนี้ ละเมิด ขอ 11 แดงกูเงินดําไปในวันที่ 1 เมษายน 2535 จํานวน 100,000 บาท โดยทําสัญญาถูกตอง กําหนดชําระหนี้เงินกูในวันที่ 13 เมษายน 2536 แตปรากฏวาในวันที่ 13 เมษายน 2536 เปนวันสงกรานต แดงจึงนําเงินไปชําระใหดําในวันรุงขึ้น ระหวางทางถูกคนรายจี้เอาเงินไปทั้งหมด แดงจึงปฏิเสธไมชําระเงินจํานวนดังกลาวแกดํา เพราะการไมชําระหนี้นั้นเกิดจากเหตุสุดวิสัย และไมใชความผิดของแดง ดังนี้ ดําจะเรียกรองใหแดงชําระหนี้เงินกูนั้นแกตนไดหรือไม เพราะเหตุใด เฉลย หลักกฎหมาย 1. มาตรา 204 วรรค 2 “ถาไดกําหนดเวลาชําระไวตามวันแหงปฏิทินและลูกหนี้มิไดชําระหนี้ตามกําหนดไซร ทานวาลูกหนี้ตกเปนผูผิดนัดโดยมิทักตองเตือนเลย…” 2. มาตรา 215 เมื่อลูกหนี้ไมชําระหนี้ใหตองตามความประสงคอันแทจริงแหงมูลหนี้ไซร เจาหนี้จะเรียกเอาคาสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายอันเกิดแตการนั้นก็ได 3. มาตรา 221หนี้เงินนั้นทานใหคิดดอกเบี้ยระหวางเวลาผิดนัดรอยละเจ็ดครึ่งตอป 4. มาตรา 217 ลูกหนี้จะตองรับผิดชอบในความเสียหายบรรดาที่เกิดแตความประมาทเลินเลอในระหวางที่ตนผิดนัดทั้งจะตองรับผิดชอบในการที่การชําระหนี้กลายเปนพนวิสัยเพราะอุบัติเหตุอันเกิดขึ้นระหวางผิดนัดนั้นดวย 5. มาตรา219การชําระหนี้กลายเปนพนวิสัยเพราะพฤติการณอันใดอันหนึ่งซึ่งไดเกิดขึ้นภายหลังกอหนี้และซึ่งลูกหนี้ไมตองรับผิดชอบนั้นไซรทานวาลูกหนี้เปนอันหลุดพนจากการชําระหนี้นั้น ตามปญหา แดงกูเงินดําและกําหนดชําระหนี้วันที่ 13 เมษายน 2536 เปนการกําหนดชําระหนี้ไวตามวันแหงปฏิทิน ดังนั้นเมื่อถึงกําหนดลูกหนี้คือแดงไมชําระ แดงก็ตกเปนผูผิดนัดโดยมิทักตองเตือนเลย และถึงวันที่ 13 เมษายน 2536 จะเปนวันสงกรานตก็เปนเพียงวันหยุดของราชการเทานั้น ยังไมอาจถือไดวาเปนประเพณีงดเวนการงานในการชําระหนี้ดวยจึงไมอาจนับวันเริ่มทํางานใหมเขาดวย เมื่อแดงตกเปนผูผิดนัดชําระหนี้แลว แดงก็ตองรับผิดในความเสียหายอยาง ๆ อันเกิดแตการผิดนัดชําระหนี้นั้นตามมาตรา 215 และกรณีนี้เปนหนี้เงินลูกหนี้ตองรับผิดในดอกเบี้ยรอยละเจ็ดครึ่งตอปนับแตผิดนัดอีกดวย

Page 14: แนวข้อสอบเก่า กฎหมายแพ่ง 2  หนี้

แมเมื่อแดงนําเงินมาชําระหนี้ในวันรุงขึ้นระหวางทางถูกคนรายจี้เอาเงินไปทั้งหมด การชําระหนี้ก็ยังไมกลายเปนพนวิสัย เพราะเงินนั้นมิใชทรัพยเฉพาะสิ่ง แดงจึงจะอางวาการชําระหนี้กลายเปนพนวิสัยตนเองไมตองรับผิดตามมาตรา 219 นั่นไมได และถึงแมวาการชําระหนี้จะกลายเปนพนวิสัย ก็เปนการพนวิสัยในระหวางผิดนัดลูกหนี้ก็ยังคงตองรับผิดอยูตามมาตรา 217 ดังนั้น ดําจึงมีสิทธิเรียกรองใหแดงชําระหนี้เงินกูรวมทั้งดอกเบี้ยและความเสียหายใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นแกตนเองได

กฎหมายแพง 2 : หนี้ ละเมิด ขอ 12 ศาลพิพากษาใหเขียวและฟารวมกันชดใชคาสินไหมทดแทนแกมวง ในกรณีที่เขียวและฟารวมกันทํารายมวงจนไดรับบาดเจ็บเปนเงิน 10,000 บาท มวงซึ่งเปนเจาหนี้ในหนี้มูลละเมิด เห็นวาเขียวมีฐานะทางการเงินดีกวาฟามาก จึงเรียกรองเอาจากเขียวคนเดียว เขียวยอมชดใชใหมวงเพียงครึ่งหนึ่งคือ 5,000 บาท อางวาความจริงตนเปนผูชกตอยมวงเทานั้น สวนฟาเปนผูแทงทํารายมวงจนมวงไดรับบาดเจ็บหนัก ทั้งตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย มาตรา 432 วรรคสาม ก็บัญญัติไววา ในระหวางบุคคลทั้งหลายซึ่งตองรับผิดรวมกันใชคาสินไหมทดแทนตองรับผิดเปนสวน ๆ เทากัน จึงขอใหมวงไปเรียกรองเงินที่เหลืออีกครึ่งหนึ่ง 5,000 บาท จากฟาโดยตรง ทานเห็นดวยกับขออางของเขียวหรือไม เฉลย ปพพ.มาตรา 291 วางหลักวา ลูกหนี้รวมกันนั้นจะเรียกชําระหนี้จากลูกหนี้แตคนใดคนหนึ่งสิ้นเชิงหรือแตโดยสวนก็ไดตามแตจะเลือกแตลูกหนี้ทั้งปวงยังคงตองผูกพันอยูทั่วทุกคนจนกวาหนี้นั้นจะชําระสิ้นเชิงไดตาม ปพพ.มาตรา 291 ตามปญหา เขียวและฟาเปนลูกหนี้รวมกับในมูลละเมิด มวงเจาหนี้จึงชอบที่จะเรียกรองใหเขียวหรือฟา ลูกหนี้คนใดคนหนึ่งชําระหนี้โดยสิ้นเชิงหรือแตโดยสวนก็ได และเขียวกับฟาก็ยังคงผูกพันอยูจนกวาหนี้รวมกันจะไดชําระสิ้นเชิงตาม ม.291 การที่เขียวยอมชดใชใหมวงเพียงครึ่งเดียวคือ 5,000 บาท และอางมาตรา 432 วรรค 3 นั้น ฟงไมข้ึน เพราะมาตรา 432 วรรค 3 เปนเรื่องระหวางลูกหนี้รวมกันที่จะไปใชสิทธิไลเบี้ยกัน จะยกมาตอสูมวงซึ่งเปนเจาหนี้ไมได ดังนั้นแมเขียวจะชําระไปแลว 5,000 บาท เขียวก็ยังคงผูกพันตองชําระอยูจนกวาหนี้จะไดชําระสิ้นเชิง คือ ตองชําระอีก 5,000 บาท ขออางของเขียวฟงไมข้ึน

Page 15: แนวข้อสอบเก่า กฎหมายแพ่ง 2  หนี้

กฎหมายแพง 2 : หนี้ ละเมิด ขอ 13 แดงยกปนจะยิงดํา กอนที่แดงจะลั่นไก ดําก็ใชไมตีปนของแดง หลุดจากมือแดง แดงไดรับบาดเจ็บ ดังนี้ แดงจะเรียกคาสินไหมทดแทนจากดําไดหรือไม เฉลย ตาม ปพพ.มาตรา 420 “ผูใดจงใจหรือประมาทเลินเลอ ทําตอบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายใหเขาเสียหายถึงแกชีวิตก็ดี แกรางกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพก็ดี ทรัพยสินหรือสิทธิอยางใดอยางหนึ่งก็ดี ทานวาผูนั้นทําละเมิด จําตองใชคาสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น”

กรณีตามปญหา การที่แดงยกปนจะยิงดํา ดําจึงใชไมตีปนของแดงนั้นเปนการปองกันโดยชอบดวยกฎหมาย ดังนั้นแมวาจะเกิดความเสียหายแกแดงคือทําใหแดงบาดเจ็บ ดําก็หาตองรับผิดชดใชคาสินไหมทดแทนไม

เมื่อการกระทําของดําเปนการปองกันโดยชอบดวยกฎหมายเปนนิรโทษกรรมแลว จึงไมเปนการละเมิดตาม มาตรา 420

Page 16: แนวข้อสอบเก่า กฎหมายแพ่ง 2  หนี้

กฎหมายแพง 2 : หนี้ ละเมิด ขอ 14 นายแดงทําสัญญาจะขายที่ดินใหนายดํา โดยนายแดงตกลงจะแบงแยกโฉนดและไปโอนใหนายดําภายใน 4 เดือน นับแตวันทําสัญญา มิฉะนั้นจะคืนเงินมัดจําที่นายแดงรับไวจํานวน 200,000 บาท และใหปรับอีก 2 เทาของเงินมัดจํา ปรากฏวาถึงกําหนดนายแดงไมสามารถไปโอนใหไดเพราะรังวัดแบงแยกไมเสร็จเนื่องจากน้ําทวมรังวัดไมได นายดําฟองใหนายแดงคืนเงินมัดจําและเรียกเบี้ยปรับตามสัญญา ทานเปนศาลจะวินิจฉัยคดีนี้อยางไร เฉลย หลักกฎหมาย มาตรา 204 วรรค 2 บัญญัติวาถาไดกําหนดเวลาชําระหนี้ไวตามวันแหงปฏิทินและลูกหนี้มิไดชําระหนี้ตามกําหนดไซร ทานวาลูกหนี้ตกเปนผูผิดนัดโดยมิทักตองเตือนเลย… มาตรา 205 ตราบใดการชําระหนี้นั้นมิไดกระทําลงเพราะพฤติการณอันใดอันหนึ่งวึ่งลุกหนี้ไมตองรับผิดชอบ ตราบนั้นลูกหนี้ยังหาไดชื่อวาผิดนัดไม ประเด็นมีวาลูกหนี้ผิดนัดหรือไม การที่แดงและดําทําสัญญาจะขายที่ดินและกําหนดไปโอนภายใน 4 เดือน นับแตวันทําสัญญานั้น ถือไดวาไดเกิดหนี้ข้ึนระหวางแดงและดําและเปนหนี้ซึ่งไดกําหนดเวลาชําระหนี้ไวตามวันแหงปฏิทินคือภายใน 4 เดือนนับแตวันทําสัญญา

Page 17: แนวข้อสอบเก่า กฎหมายแพ่ง 2  หนี้

ดังนั้นโดยหลักแลวเมื่อถึงกําหนด 4 เดือนตามสัญญาแลวแดงไมสามารถโอนที่ดินใหดําถือวาแดงผิดนัดทันทีโดยไมตองเตือน แตการที่แดงไมสามารถจะชําระหนี้ไดนั้นเกิดจากน้ําทวมมิไดเกิดจากความผิดของแดงเปนพฤติการณซึ่งลูกหนี้ไมตองรับผิดชอบ ดังนั้นในชวงที่น้ําทวมจึงรังวัดแบงแยกไมเสร็จนี้จึงยังไมถือวา ลูกหนี้คือแดงผิดนัดในชวงนี้ เมื่อแดงยังไมผิดนัดนั้น ดําจะฟองแดงใหคืนเงินมัดจําและเรียกเบี้ยปรับตามสัญญาไมได (ฎีกา 750/2518) ถาขาพเจาเปนศาลจะวินิจฉัยวาแดงยังไมผิดนัดจึงไมตองคืนเงินมัดจํา และไมตองเสียเบี้ยปรับ

กฎหมายแพง 2 : หนี้ ละเมิด ขอ 15 ก เปนลูกหนี้ซื้อของเงินเชื่อ ข อยู 6 แสนบาท ตอมากิจการของ ก ตองขาดทุนลง ก มีทรัพยสินอยูเพียงอยางเดียวคือบานของตนเอง ก เกรงวา ข จะมาบังคับชําระหนี้ จึงไดโอนบานใหแกมารดาซึ่งไมมีที่พักอาศัยเปนของตนเอง โดยมิไดบอกเรื่องหนี้สินของตนเอง เพราะเกรงวามารดาจะเสียใจ เมื่อ ก ทําการโอนบานใหแกมารดาไปแลว 2 ป ข จึงไดรูวาบานไมไดเปนของ ก เสียแลว ข มาปรึกษาทานเพื่อจะบังคับชําระหนี้รายนี้ทานจะใหคําปรึกษา ข อยางไร เฉลย มาตรา 237 วรรคแรก เจาหนี้ชอบที่จะรองขอใหศาลเพิกถอนเสียไดซึ่งนิติกรรมใด ๆ อันลูกหนี้ไดกระทําลงนั้นรูอยูวาจะเปนการใหเจาหนี้เสียเปรียบ แตความขอนี้ทานมิไดใชบังคับ ถาปรากฎวาในขณะที่ทํานิติกรรมนั้นบุคคลซึ่งเปนผูไดลาภงอกแตการนั้นมิไดรูเทาถึงขอความจริงอันเปนทางใหเจาหนี้ตองเสียเปรียบนั้นดวย แตหากกรณีเปนการทําโดยเสนหาทานวาเพียงแตลูกหนี้เปนผูรูฝายเดียวเทานั้นก็พอแลวที่จะขอเพิกถอนได

Page 18: แนวข้อสอบเก่า กฎหมายแพ่ง 2  หนี้

มาตรา 240 การเรียกรองขอเพิกถอนนั้น ทานหามมิใหฟองรองเมื่อพนปหนึ่งนับแตเวลาที่เจาหนี้ไดรูตนเหตุอันเปนมูลใหเพิกถอน หรือพนสิบปนับแตไดทํานิติกรรม ตามปญหา เปนกรณีการเพิกถอนฉอฉล เพราะเมื่อ ก เปนหนี้ ข อยู และไมมีทรัพยสินอ่ืนเหลืออยูในการชําระหนี้ใหแก ข เลย มีแตเพียงบานหลังเดียวและไดโอนไปใหมารดาของตนนั้นถือไดวาการโอนใหโดยเสนหานั้นเปนนิติกรรมและ ก ทําลงโดยรูอยูแลววาเปนทางให ข ซึ่งเปนเจาหนี้เสียเปรียบเพราะไมมีทรัพยสินอื่นเหลือพอชําระหนี้ แตนิติกรรมใหโดยเสนหานั้นเพียงแต ก ลูกหนี้ฝายเดียวรูวาเจาหนี้เสียเปรียบก็เปนเหตุเพียงพอใหเจาหนี้ฟองขอเพิกถอนการใหซึ่งเกิดจากการฉอฉลนั้นไดแลว ซึ่งตามปญหาแมวามารดาของ ก จะไมรูวาการโอนใหนั้นทําให ข เสียเปรียบก็ตาม ข ก็สามารถฟองศาลใหเพิกถอนนิติกรรม การใหโดยเสนหานี้ได อีกทั้งนิติกรรมการโอนใหนี้ทําขึ้นเพียง 2 ป เทานั้นกฎหมายใหสิทธิเจาหนี้ที่จะขอเพิกถอนไดภายในสิบปนับแตวันทํานิติกรรม เพราะภายใน 1 ปนับแตเวลาที่เจาหนี้รูถึงการโอนให ดังนั้นขาพเจาจะใหคําแนะนําให ข ฟองศาลขอเพิกถอนการฉอฉลเสียภายใน 1 ป หลังจากที่ ข รูถึงการโอนนั้นแลว เมื่อฟองขอเพิกถอนแลวทรัพยสินที่โอนก็กลับคืนสู ก ผูโอนทําให ข สามารถ บังคับชําระหนี้จากทรัพยสินนั้นได

กฎหมายแพง 2 : หนี้ ละเมิด ขอ 16 บานของนายอาจอยูติดกับสวนของนายเอิบ ซึ่งนายเอิบครอบครองอยู ลิงของนายอาจหลุดเขามาลักกลวยในสวนของนายเอิบกินหมดไปแลวหลายหวี นายเอิบจึงจับลิงขังไวเพื่อจะเรียกเอาคาเสียหายจากนายอาจ นายอาจติดตามหาลิงมาตอวานายเอิบ โดยอางวานายเอิบไมมีสิทธิที่จะจับลิงของตนขังไว มีสิทธิแตเพียงขับไลลิงออกจากสวนของตนและเรียกคากลวยที่ลิงกินไปเทานั้น การจับลิงขังไวเปนการละเมิดตอนายอาจ ขอใหนายเอิบคืนลิงและชดใชคาสินไหมทดแทน ทานเห็นดวยกับขออางของนายอาจหรือไม นายเอิบตองคืนลิงแกนายอาจ และนายอาจกับนายเอิบจะเรียกคาสินไหมทดแทนจากกันและกันไดหรือไม เฉลย

Page 19: แนวข้อสอบเก่า กฎหมายแพ่ง 2  หนี้

ตาม ปพพ.มาตรา 420 ผูใดจงใจหรือประมาทเลินเลอทําตอบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายใหเขาเสียหายถึงแกทรัพยสินหรือสิทธิอยางหนึ่งอยางใด ผูนั้นทําละเมิด จําตองใชคาสินไหมทดแทน และตามมาตรา 433 ถาความเสียหายเกิดขึ้นเพราะสัตว เจาของสัตวจําตองใชคาสินไหมทดแทนใหแกฝายที่ตองเสียหายเพื่อความเสียหายอยางใด ๆ อันเกิดแตสัตวนั้น ฯลฯ นอกจากนี้ตามมาตรา 452 ผูครองอสังหาริมทรัพยชอบที่จะจับสัตวของผูอ่ืนอันเขามาทําความเสียหายในอสังหาริมทรัพยนั้นและยึดไวเปนประกันคาสินไหมทดแทนอันจะพึงตองใชแกตนได ฯลฯ แยกพิจารณาไดดังนี้ (ก) ลิงของนายอาจหลุดเขามาลักกลวยในสวนของนายเอิบกิน นายอาจเจาของลิงจึงตองรับผิดใชคาสินไหมทดแทนแกนายเอิบผูเสียหายตามปพพ.มาตรา 433 (ข) นายเอิบเปนเจาของสวนซึ่งเปนอสังหาริมทรัพย เมื่อลิงของนายอาจเขามาทําความเสียหายในสวนโดยลักกลวยกิน นายเอิบจึงมีสิทธิจับลิงของนายอาจไวเปนประกัน คาสินไหมทดแทนเปนนิรโทษกรรมตามมาตรา 452 นายเอิบจึงไมไดกระทําผิดกฎหมายการจับลิงขังไวไมละเมิดตามมาตรา 420 นายเอิบไมตองคืนลิงแกนายอาจจนกวาจะไดคาสินไหมทดแทน ขาพเจาไมเห็นดวยกับขออางของนายอาจ และนายอาจไมมีสิทธิเรียกคาสินไหมทดแทนจากนายเอิบ

กฎหมายแพง 2 : หนี้ ละเมิด ขอ 17

มี น าอยู ที่ จั งห วั ด ป ทุ ม ธานี ตกล งทํ าสัญ ญ าซื้ อ รถยนต ห ม าย เล ข 9ช .999 กรุงเทพมหานคร จากเมษา ณ รานจําหนายรถยนตของเมษาที่กรุงเทพมหานคร ชําระราคาครบถวนแลวและตกลงจะไปโอนทะเบียนกันอีก 1 สัปดาหขางหนา เมษาไดมอบกุญแจรถใหมีนาขับไป แตมีนาไมยอมบอกวาจะไปธุระตางจังหวัด แลวไดมอบกุญแจใหกับเมษาขับไปสงใหที่บานของมีนาดวย แตเมษาบอกวาไมมีคนขับ มีนาบอกวาไมเปนไร อีก 2 วันก็ได ปรากฎวาในวันรุงข้ึนตอนกลางดึก เกิดไฟไหมจากบานขางเคียงและไดไหมรานของเมษารวมถึงรถยนตคันดังกลาวดวย เมื่อมีนากลับจากตางจังหวัดรูวารถคันดังกลาวไหมใชการไมไดเลย จึงมาขอเงินคารถคืน แตเมษา

Page 20: แนวข้อสอบเก่า กฎหมายแพ่ง 2  หนี้

ไมให อางวาการชําระหนี้เปนพนวิสัย ไมใชความผิดตน ดังนี้ ทั้ง 2 ไดมาปรึกษาทาน ทานเห็นดวยกับขออางของเมษาหรือไม เพราะเหตุใด เฉลย หลักกฎหมาย ปพพ. มาตรา 324 บัญญัติวา “เมื่อมิไดแสดงเจตนาไวโดยเฉพาะเจาะจงวาจะพึงชําระหนี้ ณ สถานที่ใดไซร หากจะตองสงมอบทรัพยเฉพาะสิ่ง ทานวาจะตองสงมอบกัน ณ สถานที่ซึ่งทรัพยนั้นไดอยูในเวลาเมื่อกอใหเกิดหนี้นั้น สวนการชําระหนี้โดยประการอื่นทานวาตองชําระ ณ สถานที่ซึ่งเปนภูมิลําเนาปจจุบันของเจาหนี้ มาตรา 219 วรรค 1 บัญญัติวา ถาการชําระหนี้กลายเปนพนวิสัยเพราะพฤติการณอันใดอันหนึ่ง ซึ่งเกิดขึ้นภายหลังที่ไดกอหนี้ และซึ่งลูกหนี้ไมตองรับผิดชอบนั้นไซร ทานวาลูกหนี้เปนอันหลุดพนจากการชําระหนี้นั้น กรณีเปนเรื่องการชําระหนี้โดยชอบแลวหรือไม ซึ่งตามขอเท็จจริงเปนปญหาวาการชําระหนี้ คือ การสงมอบรถยนตนั้นเมื่อคูกรณีทั้ง 2 คือ ทั้ง มีนาและเมษาไมไดตกลงกันมากอนวาจะตองชําระหนี้คือสงมอบรถยนต ณ ที่ใด และทรัพยที่จะตองสงมอบนั้นก็เปนทรัพยเฉพาะสิ่งคือตองเปนรถยนตคันหมายเลขทะเบียน 9ช 9999 เทานั้น ดังนั้นโดยนัยแหงมาตรา 324 ดังกลาวตองสงมอบกัน ณ สถานที่ซึ่งทรัพยนั้นไดต้ังอยูในเวลาที่กอการนั้น ซึ่งเมื่อเมษาไดสงมอบกุญแจใหมีนาแลวนั้นถือวาไดชําระหนี้ คือสงมอบรถยนตโดยชอบดวยกฎหมายแลวไมตองขับไปสงใหมีนาที่จังหวัดปทุมธานี เมื่อการสงมอบเปนทรัพยเฉพาะสิ่งและไดสงมอบถูกตองแลว กรรมสิทธิ์ในรถยนตโอนไปเปนของผูซื้อแลวถึงแมวารถยนตนั้นจะยังอยูในความครอบครองของผูขายก็ตาม แตเมื่อมีนาไดมอบกุญแจใหเมษาขับรถไปสงที่บานของมีนาดวย โดยเมื่อเมษายอมรับกุญแจไปแลวนั้น เทากับวามีการตกลงกันใหมวาเมษายังคงมีหนาที่ตองชําระหนี้ที่บานของมีนา ดังนั้นเมื่อเกิดเหตุไฟไหมเปนเหตุซึ่งสุดวิสัยที่จะปองกันไดการที่รถยนตคันดังกลาวไหมใชการไมไดนั้นเปนพฤติการณซึ่งเกิดข้ึนภายหลังที่กอหนี้ข้ึนและลูกหนี้คือผูขายไมตองรับผิดชอบ คือไมไดเกิดเพราะความผิดของผูขายดังนั้น ผูขายคือเมษา ไมตองรับผิดชดใชคารถยนตใหแกมีนาแตอยางไร ขาพเจาเห็นดวยกับขออางเมษา เพราะการชําระหนี้เปนพนวิสัยไมใชความผิดของเมษา จึงไมตองชําระเงินคารถยนตคืนใหแกมีนา ตามนัยมาตรา 219

กฎหมายแพง 2 : หนี้ ละเมิด ขอ 18 คลองกูเงินทะเลไป 2 แสนบาท ในขณะเดียวกันแมน้ําก็เปนลูกหนี้คลองคารับเหมากอสราง เปนเงิน 6 หมื่นบาท ตอมาคลองกลายเปนบุคคลที่มีหนี้สินลนพนตัว ไมมีทรัพยสินพอที่จะ

Page 21: แนวข้อสอบเก่า กฎหมายแพ่ง 2  หนี้

ชําระหนี้ ดังนี้ ทะเลมาปรึกษาทานเพื่อจะหาทางใหคลองชําระหนี้ ทานจะใหคําปรึกษาแกทะเลอยางไร เฉลย หลักกฎหมาย ปพพ. มาตรา 233 บัญญัติวา “ถาลูกหนี้ขัดขืนไมยอมใชสิทธิเรียกรองหรือเพิกเฉยเสียไมใชสิทธิเรียกรองเปนเหตุใหเจาหนี้ตองเสียประโยชน เจาหนี้จะใชสิทธิเรียกรองนั้นในนามของตนเองแทนลูกหนี้ เพื่อปองกันสิทธิของตนในมูลหนี้นั้นก็ได เวนแตในขอที่เปนการของลูกหนี้สวนตัวโดยแท” มาตรา 234 บัญญัติวา “เจาหนี้ผูใชสิทธิเรียกรองของลูกหนี้นั้นจะตองขอหมายเรียกลูกหนี้มาในคดีนั้นดวย” กรณีนี้เห็นไดวาลูกหนี้ไมมีทรัพยสินที่จะชําระหนี้ใหแกเจาหนี้เพราะคลองลูกหนี้เปนบุคคลที่มีหนี้สินลนพนตัว ดังนั้นวิธีที่เจาหนี้จะสามารถรวบรวมทรัพยสินของลูกหนี้มาเพื่อชําระหนี้แกตนไดนั้น คือตองใหคลองนั้นฟองเรียกเงินคารับเหมากอสรางจากแมน้ําซึ่งเปนลูกหนี้ของตนเสียกอน หากคลองนั้นเพิกเฉยหรือขัดขืนไมยอมที่จะบังคับชําระหนี้คารับเหมากอสรางจากแมน้ําแลว ทะเลสามารถที่ใชสิทธิเรียกรองของลูกหนี้คือ คลองนั้นฟองแมน้ําไดในนามของตนเอง ตามนัยมาตรา 233 เพราะการที่คลองไมยอมใชสิทธิเรียกรองของตนนั้นทําใหทะเลซึ่งเปนเจาหนี้นั้นเสียประโยชน เพราะคลองไมมีทรัพยสินพอที่จะชําระหนี้ได ในการฟองคดีโดยใชสิทธิเรียกรองของลูกหนี้นี้ ทะเลตองขอหมายเรียกใหคลองลูกหนี้ของตนเขามาในคดีนี้ดวยตามนัย มาตรา 234 ทั้งนี้ เพื่อใหการพิจารณาพิพากษาคดีนี้มีผลผูกพัน คลองซึ่งจะปฏิเสธไมรับรูผลของคดีนี้ไมได ดังนั้นจึงแนะนําใหทะเลใชสิทธิเรียกรองของคลองในนามของตนเองฟองแมน้ําใหชําระหนี้และขอหมายเรียกคลองเขามาในคดีดวย

กฎหมายแพง 2 : หนี้ ละเมิด

Page 22: แนวข้อสอบเก่า กฎหมายแพ่ง 2  หนี้

ขอ 19 นายโดดลักรถยนตนั่งของนายทิพยไป นายทิพยจึงไมมีรถใชตองไปเชารถของบุคคลอื่นใช ขณะเดียวกันนายโดดก็นํารถของนายทิพยที่ตนลักมานั้นไปใช และขับรถชนเสาไฟฟาขางทางโดยอุบัติเหตุ รถเสียหายยับเยินทั้งคัน ดังนี้ นายโดดตองชดใชคาเสียหายในการที่นายทิพยตองไปเชารถบุคคลอื่นใชและที่รถพังยับเยินโดยอุบัติเหตุใหนายทิพยหรือไม เฉลย หลักกฎหมาย ปพพ. มาตรา 420 บัญญัติวา “ผูใดจงใจ หรือประมาทเลินเลอ ทําตอบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายใหเขาเสียหายถึงแกชีวิตก็ดี แกรางกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพก็ดี ทรัพยสินหรือสิทธิอยางอื่นอยางใดก็ดี ทานวาผูนั้นทําละเมิด จึงตองชดใชคาสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น” มาตรา 439 บัญญัติวา “บุคคลผูจําตองคืนทรัพย อันผูอ่ืนตองเสียไปเพราะละเมิดแหงตนนั้น ยังตองรับผิดชอบตลอดถึงการที่ทรัพยนั้นทําลายลงโดยอุบัติเหตุ หรือการคืนทรัพยตกเปนพนวิสัยเพราะเหตุอยางอื่นโดยอุบัติเหตุหรือทรัพยนั้นเสื่อมลงโดยอุบัติเหตุนั้นดวย…” จากการที่นายโดดลักรถยนตนั่งของนายทิพยไปนั้น เปนการกระทําละเมิดตอนายทิพย เพราะการลักรถยนตนั้นเปนการจงใจเอา ทรัพยของผูอ่ืนไป โดยผิดกฎหมายจึงทําใหนายทิพยเสียหาย เพราะนายทิพยไมมีรถใชจึงตองไปเชารถของบุคคลอื่นใช นายโดดจึงตองชดใชคาสินไหมทดแทนใหแกนายทิพยเปนคาเสียหาย เพราะการที่นายทิพยตองไปเชารถคนอื่น เปนผลโดยตรงจากการที่นายโดดลักรถยนตไปตามนัยมาตรา 420 การที่นายโดดขับรถไปชนเสาไฟฟาขางทางโดยอุบัติเหตุ รถเสียหายยับเยินทั้งคันนั้นก็เปนกรณีซึ่งทรัพยนั้นทําลายลงโดยอุบัติเหตุ แมนายโดดจะไมไดขับรถโดยจงใจหรือประมาทเลินเลอก็ตาม นายโดดก็ตองรับผิดชดใชคาเสียหายใหแกนายทิพยตามนัย มาตรา 439 เพระนายโดดมีหนาที่ตองคืนรถที่ตนไดโขมยมาโดยละเมิด จึงตองรับผิดแมวาเหตุจะเกิดจากอุบัติเหตุก็ตาม

Page 23: แนวข้อสอบเก่า กฎหมายแพ่ง 2  หนี้

กฎหมายแพง 2 : หนี้ ละเมิด ขอ 20 นายแดงเจาของรานคาไมอยู เด็กชายนอยอายุ 14 ป ผูเยาวซึ่งเปนเด็กซุกซน เขาจัดการรานโดยตั้งใจทําแทนนายแดงและโดยที่นายแดงมิไดวาขานวานใช โดยปราศจากความระมัดระวัง เด็กชายนอยทําใหจานที่วางขายแตกไปหลายใบ นอกจากนี้ยังขายผงซักฟอกต่ํากวาราคาที่กําหนดไวโดยรูดีวาตองขายในราคาเทาใด ดังนี้เด็กชายนอยตองรับผิดตอนายแดงเจาของรานในการที่ทําใหจานแตกหรือไม และยังตองรับผิดในราคาผงซักฟอกที่ยังขาดไปหรือไม เฉลย หลักกฎหมาย ปพพ. มาตรา 420 บัญญัติวา “ผูใดจงใจ หรือประมาทเลินเลอ ทําตอบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายใหเขาเสียหายถึงทรัพยสินหรือสิทธิอยางหนึ่งอยางใด ผูนั้นทําละเมิดจําตองใชคาสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น” ปพพ. มาตรา 429 บัญญัติวา “บุคคลใดแมไรความสามารถ เพราะเหตุเปนผูเยาว ก็ตองรับผิดในผลที่ตนทําละเมิด…”

ตามปญหา การที่เด็กชายนอย ซุกซนเขาไปจัดการรานโดยปราศจากความระมัดระวังทําใหจานที่วาง

ขายแตกไปหลายใบนั้น เนนไดวาเด็กชายนอยนั้น กระทําโดยประมาทเลินเลอ โดยทําใหเกิดความเสียหายตอทรัพยสินของนายแดง คือ จานที่วางขายอยูหลายใบ เด็กชายนอยจึงกระทําละเมิดตอนายแดง

นอกจากนี้เด็กชายนอยยังขายผงซักฟอกต่ํากวาราคาที่กําหนดไว โดยรูดีวาตองขายใน

ราคาเทาใด จึงเปนการที่เด็กชายนอยกระทําโดยจงใจโดยทําใหเกิดความเสียหายตอนายแดง เพราะขายต่ํากวาราคาทําใหนายแดงไดเงินนอยลง เด็กชายนอยจึงกระทําละเมิดตอนายแดง (มาตรา 420)

Page 24: แนวข้อสอบเก่า กฎหมายแพ่ง 2  หนี้

เด็กชายนอยอายุ 14 ป เปนผูเยาวจริง แตวัยของเด็กชายนอยนั้นสามารถที่จะรูจักผิดชอบในการกระทําของตนไดแลว แมเด็กชายนอยจะเปนผูเยาวก็ตามก็ตองรับผิดในผลที่ตนทําละเมิดของตน (มาตรา 429)

เมื่อเด็กชายนอยทําละเมิดและตองรับผิดในผลละเมิดนั้นคือตองชดใชคาสินไหมทดแทน

เปนคาเสียหายซึ่งทําใหจานแตก และยังตองชดใชราคาคาผงซักฟอกที่ยังขาดอยูแกนายแดงเจาของรานดวย

กฎหมายแพง 2 : หนี้ ละเมิด ขอ 21 ตุลาเปนคนหนี้สินลนพนตัว วันหนึ่งไดขับรถจักรยานยนตโดยประมาทเลินเลอชนธันวาไดรับบาดเจ็บ ตุลาไมมีเงินจายคารักษาพยาบาล จึงถอดสรอยคอทองคําหนัก 1 บาทใหธันวาไป โดยธันวาเองก็รูวาตุลาเปนคนหนี้สินลนพนตัว สิงหาซึ่งเปนเจาของหนี้คนหนึ่งของตุลา รูถึงการชําระหนี้นั้น ไดฟองศาลขอใหเพิกถอนการชําระหนี้นั้น เพราะตนเปนเจาของหนี้คนแรกและหนี้ถึงกําหนดแลวตองชําระใหตนกอน จะชําระใหแกธันวากอนไมได หากทานเปนผูพิพากษา ทานเห็นดวยกับขออางของสิงหาหรือไมเพราะเหตุใด เฉลย หลักกฎหมาย ปพพ. มาตรา 237 บัญญัติวา “เจาหนี้ชอบที่จะรองขอใหศาลเพิกถอนเสียไดซึ่งนิติกรรมใด ๆ อันลูกหนี้ไดกระทําลงทั้งรูอยูวาจะเปนทางใหเจาหนี้เสียเปรียบ แตความขอนี้ทานมิใหใชบังคับถาปรากฏวาในขณะที่ทํานิติกรรมนั้น บุคคลซึ่งเปนผูไดลาภงอกแตการนั้นมิไดรูเทาถึงขอความจริงอันเปนทางใหเจาหนี้ตองเสียเปรียบนั้นดวย…” ตามปญหา นี้เปนกรณีซึ่งเจาหนี้ใชสิทธิเพิกถอนการฉอฉลหลักเกณฑการเพิกถอน การฉอฉลของลูกหนี้นั้นตองเปนกรณีซึ่งเปนนิติกรรม ซึ่งลูกหนี้รูอยูวานิติกรรมที่ตนทําลงนั้นทําใหเจาหนี้ของตนเสียเปรียบ และคูกรณีอีกฝายหนึ่งก็ตองรูถึงขออันเจาหนี้จะเสียเปรียบดวย เจาหนี้จะขอเพิกถอนนิติกรรมนั้นได ความขอเท็จนั้น การที่ตุลาเปนคนมีหนี้สินลนพนตัวนั้นก็แสดงอยูในตัววาไมมีทรัพยสินพอที่จะชําระหนี้ไดอยูแลว การที่ถอดสรอยคอทองคําใหธันวาไปแทนคารักษาพยาบาลนั้น ธันวาเองก็รูวาตุลาเปนคนหนี้สินลนพนตัว ดังนั้นการชําระหนี้ของตุลายอมทําใหสิงหาซึ่งเปนเจาหนี้อีก

Page 25: แนวข้อสอบเก่า กฎหมายแพ่ง 2  หนี้

คนหนึ่งเสียเปรียบเพราะจะไมสามารถบังคับชําระหนี้ของตน จากตุลาไดเพราะตุลาไมมีทรัพยสินพอ แตอยางไรก็ตาม มูลหนี้ที่เกิดขึ้นอันเปนเหตุใหตุลาตองชําระหนี้นั้นไมใชมูลหนี้ที่เกิดจากนิติกรรม แตเปนมูลหนี้ซึ่งเกิดจากละเมิด ซึ่งตามหลักเกณฑ มาตรา 237 นั้น ตองเปนนิติกรรม ดังนี้กรณีการชําระหนี้ของตุลาจึงไมตองดวยหลักเกณฑการเพิกถอนการฉอฉลดังกลาว ดังนั้นขาพเจาไมเห็นดวยกับขออางของสิงหา สิงหาไมสามารถฟองขอเพิกถอนการชําระหนี้จากมูลละเมิดได

กฎหมายแพง 2 : หนี้ ละเมิด ขอ 22 เมื่อวันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2538 แกวโดยความประมาทเลินเลอไดขับรถขวดไดรับบาดเจ็บ ตอมาอีก 2 เดือน เมื่อขวดมีอาการดีข้ึนแลว ไดมาพบแกวเรียกคาเสียหาย ซึ่งขวดตองเสียไปในการรักษาตัวเปนเงิน 50,000 บาท แตแกวอางวามากไป ถาอยากไดใหไปฟองเอง ขวดจึงฟองเรียกคาเสียหาย 50,000 บาท พรอมทั้งดอกเบี้ยรอยละเจ็ดครึ่งตอป นับแตวันที่ถูกรถชนไปจนกวาแกวจะชําระ แกวอางวาหนี้นี้ไมมีกําหนดเวลาชําระหนี้ ขวดไมไดเตือนตน หนี้จึงยังไมถึงกําหนดชําระ และดอกเบี้ยก็ไมไดมีการตกลงไวจะเรียกรองกันไมได ดังนี้ทานเห็นดวยกับขออางของแกวหรือไม เพราะเหตุใด เฉลย หลักกฎหมาย ปพพ. มาตรา 206 บัญญัติวา “ในกรณีหนี้อันเกิดแตมูลละเมิด ลูกหนี้ไดชื่อวาผิดนัดมาแตวันทําละเมิด” ปพพ. มาตรา 224 บัญญัติวา “หนี้เงินนั้น ทานใหคิดดอกเบี้ยในระหวางผิดนัดรอยละเจ็ดครึ่งตอป…” ตามปญหา การที่แกวขับรถชนขวดจนไดรับบาดเจ็บนั้น เปนกรณีซึ่งเกิดหนี้ข้ึนแลว โดยเปนหนี้อันเกิดจากมูลละเมิด ซึ่งแกวเปนลูกหนี้ตองชดใชคาสินไหมทดแทนใหแกขวดเจาหนี้ตามมาตรา 206 หนี้ซึ่งเกิดจากมูลละเมิดนั้น ลูกหนี้ไดชื่อวาผิดนัดนับแตวันทําละเมิดแลว คือ ผิดนัด

Page 26: แนวข้อสอบเก่า กฎหมายแพ่ง 2  หนี้

ต้ังแตวันที่ขับรถชนขวด คือ วันที่ 10 มีนาคม 2538 ดังนั้น เมื่อกฎหมายใหผิดนัดนับแตวันทําละเมิดแลว เจาหนี้คือขวดก็ไมตองเตือนใหและหนี้นั้นตองชําระนับแตวันทําละเมิด จะอางวาหนี้ไมถึงกําหนดชําระไมได ในกรณีดอกเบี้ยนั้น แมไมไดตกลงกันก็สามารถเรียกรองไดตามกฎหมายถึง มาตรา 224 เพราะคาเสียหายในมูลละเมิดตองจายเปนเงินตามที่ขวดเรียกรอง เพื่อเปนหนี้เงินก็มีดอกเบี้ยตามที่กฎหมายกําหนด เมื่อขวดผิดนัดไมชําระหนี้ก็ตองเสียดอกเบี้ยซึ่งผิดนัดตามกฎหมาย แมจะมิไดตกลงกันไว เจาหนี้ก็เรียกรองได ขาพเจาไมเห็นดวยกับแกวทั้งสองกรณี เพราะวาขวดไมตองเตือน หนี้นั้นถึงกําหนดชําระแลวนับแตวันทําละเมิและสามารถเรียกดอกเบี้ยไดตามกฎหมายแมไมตกลงกันไว

กฎหมายแพง 2 : หนี้ ละเมิด ขอ 23 กอเมาสุราขับรถยนตชนเกิดไดรับบาดเจ็บ เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2540 เกิดตองเขารักษาพยาบาลในโรงพยาบาลอยู 3 วัน เมื่อออกจากโรงพยาบาลเสียคารักษาไป 5,000 บาท เกิดไปหากอที่บานเพื่อใหชําระคารักษาพยาบาล แตกอไมอยูจึงบอกกับขาว ซ่ึงเปนนองของกอเวลาผานไปอีก 2 เดือน กอก็ไมนําเงินมาชําระเกิดจึงฟองกอเรียกคารักษาพยาบาล และดอกเบี้ยตั้งแตวันที่ศาลพิพากษา ดังนี้ทานเห็นดวยกับขออางของกอหรือไม เพราะเหตุใด เฉลย หลักกม.ปพพ.ม.206 บัญญัติวาในกรณีหนี้อันเกิดจากมูลละเมิด ลูกหนี้ไดช่ือวาผิดนัดมาแตเวลาทําละเมิด ปพพ.บ.ม. 224 บัญญัติวาหนี้เงินนั้น ทานใหคิดดอกเบี้ยในระหวางผิดนัด กรณีนี้เปนเรื่องลูกหนี้ผิดนัดโดยการผิดนัดนี้เกิดจากกอขับรถชนเกิดในขณะเมาสุรา ดังนั้น มูลหนี้ที่เกิดเปนมูลหนี้อันเกิดจากการละเมิด เมื่อหนี้เกิดจากมูลละเมิดแลว กอซ่ึงเปนลูกหนี้นั้น ไดช่ือวาผิดนัดนับแตวันทําละเมิดคือวันที่ 1 มกราคม 2540

Page 27: แนวข้อสอบเก่า กฎหมายแพ่ง 2  หนี้

ที่กออางวาตนยังไมผิดนัดนั้นไมถูกตองเพราะหนี้อันเกิดแตมูลละเมิดนั้นผิดนัดทันทีนับแตวันที่เกิดละเมิดโดยผลของกฎหมายตาม ม.206 จึงไมตองมีการเตือนทั้งขาวไมไดบอกก็ไมเปนขออางแตอยางไร เมื่อเกิดหนี้เงินนั้นจากมูลละเมิดแลวกฎหมายใหคิดดอกเบี้ยไดในระหวางผิดนัด ฉะนั้นถือไดวากอผิดนัดนับแตวันทําละเมิดคือวันที่ 1 มกราคม 2540 ดังนั้นดอกเบี้ยตองคิดนับแตวันทําละเมิดตาม ม.224 มิใชคิดแตวันที่ศาลมีคําพิพากษา ดังนี้จึงไมเห็นดวยกับขออางของกอในทุกกรณี

กฎหมายแพง 2 : หนี้ ละเมิด ขอ 24 กอนใหเงินเขียดกูไป 2 แสนบาท ตอมากอนทําหนังสือโอนสิทธิการเปนเจาหนี้ของตนใหคลอง คลองไดโทรศัพทมาบอกเขียด เขียดโกรธมากและไมเชื่อวามีการโอนหนี้ดังกลาวไป เพราะกอนและเขียดตกลงหามโอนกันไวแตคลองบอกวาตนไมรู เขียดจึงโทรศัพทไปตอวากอน กอนจึงสงแฟกซมาถึงเขียดอีกวาไดโอนหนี้กันไปใหคลองจริง ดังนี้เขียดจะตองชําระหนี้ใหแกกอนหรือคลอง เพราะเหตุใด เฉลย ปพพ.ม.303 บัญญัติวา “สิทธิเรียกรองนั้นทานวาจะพึงกันไดเวนไวแตสภาพแหงสิทธิ์นั้นเองจะไมเปดชองใหโอนกันได” ความที่กลาวมานี้ยอมไมใชบังคับหากคูกรณีไดแสดงเจตนาเชนนี้ ทานหามมิใหยกขึ้นเปนขอตอสูบุคคลภายนอก ผูกระทําการโดยสุจริต ปพพ.ม.306 วรรคแรก บัญญัติวา “การโอนหนี้อันจะพึงตองชําระแกเจาหนี้คนหนึ่งโดยเฉพาะเจาะจงนั้น ถาไมทําเปนหนังสือ ทานวาไมสมบูรณ อนึ่งการโอนหนี้นั้นทานวาจะยกขึ้น

Page 28: แนวข้อสอบเก่า กฎหมายแพ่ง 2  หนี้

เปนขอตอสูลูกหนี้หรือบุคคลภายนอกไดแตเมื่อไดบอกกลาวการโอนไปยังลูกหนี้หรือลูกหนี้จะไดยินยอมดวยในการโอนนั้น คําบอกกลาวหรือความยินยอมเชนวานี้ทานวาตองทําเปนหนังสือ กรณีนี้เปนเรื่องการโอนสิทธิเรียกรอง การที่กอนไดโอนการเปนเจาหนี้ของตนที่มีตอเขียดไปใหคลองนั้นยอมทําได เพราะเปนสิทธิเรียกรองซึ่งไมตองหามโดยกฎหมายแตอยางใด อีกทั้งการโอนหนี้นั้นไดทําเปนหนังสือระหวางกอนและคลองแลว การโอนสิทธิเรียกรองนี้จึงสมบูรณ ถึงแมวาเขียดจะอางวาตนและกอนไดตกลงหามโอนสิทธิเรียกรองนี้ก็ตามกฎหมายหามยกขึ้นเปนขอตอสูบุคคลภายนอกผูสุจริต คลองเปนผูรับโอนสุจริตไมรูวามีขอตกลงหามโอนกันดังกลาวดังนั้น เขียดจะอางขอตกลงนี้ตอคลองไมได ทั้งตอมากอนไดแฟกซมาถึงเขียดแจงการโอนสิทธิเรียกรองดังกลาวใหคลองไปแลวซ่ึงก็เทากับวาแมในตอนแรกคลองเพียงแตโทรศัพทไปแจงใหเขียดทราบนั้นจะยกหนี้เปนขอตอสูเขียดไมไดก็ตาม แตตอมาไดมีการบอกกลาวเปนหนังสือทางแฟกซมายังเขียดแลวแมวากอนจะเปนผูแจงมาเอง ก็ถือวาการแจงนั้นสมบูรณทําเปนหนังสือแลวตามมาตรา 306 เขียดจะยินยอมหรือไม ไมเปนขอสําคัญเมื่อการโอนสิทธิเรียกรองสมบูรณเขียดตองชําระหนี้ใหคลองมิใชกอน

กฎหมายแพง 2 : หนี้ ละเมิด ขอ 25 แคลวไมชอบกูเมื่อเดินผานบานกูแคลวจึงแกลงแหยใหสุนัขกูโกรธอยูเสมอ ๆ วันหนึ่งแคลวเดินผานหนาบานกู และไดแหยสุนัขใหโกรธแลวก็เดินหนีไป กูออกมาพบจึงเปดประตูใหสุนัขของตนออกไปกัดแคลว แตแคลวใสกางเกงหนา สุนัขของกูตัวเล็กจึงกัดไมเขา ดังนี้กูตองรับผิดหรือไม เพราะเหตุใด เฉลย หลักกฎหมาย ปพพ.ม.420 “ผูใดจงใจหรือประมาทเลินเลอทําตอบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายใหเขาเสียหายถึงแกชีวิตก็ดี แกรางกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพก็ดี ทรัพยสินหรือสิทธิอยางใดก็คือทานวาผูนั้นทําละเมิด จึงตองชดใชคาสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น” ปพพ.ม. 433 วรรคแรก บัญญัติวา “ถาความเสียหายเกิดขึ้นเพราะสัตวทานวาเจาของสัตวหรือบุคคลผูรับเลี้ยงรับรักษาไวแทนเจาของ จําตองใชคาสินไหมทดแทนใหแกฝายที่ตองเสียหายเพื่อความเสียหายแตใด ๆ อันเกิดแตสัตวนั้น เวนแตจะพิสูจนไดวาตนไดใชความระมัดระวัง

Page 29: แนวข้อสอบเก่า กฎหมายแพ่ง 2  หนี้

อันสมควรแกการเลี้ยงรักษาตามชนิดและวิสัยของสัตว หรือตามพฤติการณอยางอื่นหรือพิสูจนไดวาความเสียหายนั้นยอมจะตองเกิดมีข้ึนทั้งที่ไดใชความระมัดระวังถึงเพียงนั้น กรณีนี้เปนเรื่องบุคคลใชสัตวเปนเครื่องมือในการทําละเมิดผูนั้นไดเปดประตูโดยปลอยใหสุนัขของตนไปกัดแคลวนั้นเปนการกระทําโดยจงใจ ใหบุคคลอื่น คือแคลวไดรับความเสียหาย โดยใชสุนัขเปนเครื่องมือในการทําละเมิด โดยสุนัขไดไปกัดแคลวตามเจตนาของตน ดังนี้กูตองรับผิดเพื่อละเมิดซึ่งตนไดกระทําไปโดยใชสุนัขคือสัตวในการทําละเมิด แมวากางเกงแคลวจะไมขาดก็ตามถือวากูไดทําละเมิดแลวเพราะการที่สุนัขไปกัดแคลวนั้น แมวากางเกงไมขาด แคลวไมไดรับบาดเจ็บก็เปนการละเมิดสิทธิของแคลวแลวกูจึงตองรับผิดชดใชคาสินไหมทดแทนตาม ม.420 กูไมตองรับผิดตาม ม.433 ในฐานะเจาของสุนัขเพราะกรณีนี้ไมใชเร่ืองที่เจาของบกพรองในการดูแลรักษาสัตวแตอยางไร แตเปนเรื่องจงใจทําละเมิด

กฎหมายแพง 2 : หนี้ ละเมิด ขอ 26 กองเปนหนี้ซ้ือของเชื่อจุนอยูเปนเงินหนึ่งแสนบาท โดยปกติจุนจะแจงใหกองทราบลวงหนาแลวสงพนักงานมาเก็บเงินที่คางชําระ ตอมาจุนพบกองที่รานอาหารแหงหนึ่งจึงแจงใหกองนําเงินคาซื้อของมาชําระใหตน กองบอกวาตนพรอมจะชําระแตใหจุนทําใบแจงหนี้เปนหนังสือมากอนแลวใหพนักงานมาเก็บเงินเหมือนเคย แตจุนไมปฏิบัติตาม ตอมาอีก 3 เดือน จุนฟองกองเรียกเงินหนึ่งแสนบาทพรอมดอกเบี้ยนับแตวันที่ตนทวง กองอางวาจุนไมบอกกลาวโดยชอบดวยกฎหมายเพราะไมมีทําเปนหนังสือทั้งตนยังไมผิดนัด เพราะเปนความผิดของเจาหนี้เองที่ผิดนัดไมสงพนักงานไปเก็บเงิน จุนเรียกดอกเบี้ยไมได จุนมาปรึกษาทาน ทานจะใหคําปรึกษาจุนอยางไร เฉลย หลักกฎหมาย

Page 30: แนวข้อสอบเก่า กฎหมายแพ่ง 2  หนี้

มาตรา 203 ถาเวลาอันจะพึงชําระหนี้มิไดกําหนดลงไว หรือจะอนุมานจากพฤติการณทั้งปวงก็ไมไดไซร ทานวาเจายอมจะเรียกใหชําระหนี้ไดโดยพลัน และฝายลูกหนี้ก็ยอมจะชําหนี้ของตนไดโดยฉับพลันดุจกัน มาตรา 224 หนี้เงินนั้น ทานใหคิดดอกเบี้ยในระหวางผิดนัดรอยละเจ็ดครึ่งตอป กรณีนี้เปนเรื่องหนี้ไมมีกําหนดเวลาชําระเพราะเปนหนี้ซ้ือของเชื่อ ทั้งไมสามารถที่จะอนุมานไดจากพฤติการณใด ๆ ก็ไมไดวาจะชําระหนี้กันเมื่อใด เพราะโดยปกติทางเจาหนี้จะเปนผูเรียกใหลูกหนี้ชําระหนี้เอง หนี้ไมมีกําหนดเวลาชําระนั้น หนี้ถึงกําหนดชําระเมื่อเกิดหนี้ขึ้น ซ่ึงเจาหนี้สามารถเรียกใหลูกหนี้ชําระหนี้โดยพลัน และฝายลูกหนี้ก็มีหนาที่ตองชําระใหกับเจาหนี้โดยพลันเชนกัน เมื่อจุนเรียกใหกองชําระหนี้แลวที่รานอาหารเพราะเปนหนี้ไมหนดเวลาชําระ กองมีหนาที่ที่จะตองชําระโดยพลันทั้งกองเองก็บอกวาตนพรอมที่จะชําระหนี้แลว และเวลาก็ลวงเลยมานานถึง 3 เดือนแลว กองจะอางวาจุนบอกกลาวไมชอบดวยกฎหมายเพราะไมทําเปนหนังสือไมได เพราะการบอกกลาวใหชําระหนี้ตามกําหมายไมไดกหนดใหตองทําเปนหนังสือ การที่จุนเรียกใหกองชําระหนี้ดวยวาจาจึงเปนการชอบแลว เมื่อกองไมชําระหนี้ เมื่อจุนเรียกใหชําระหนี้แลว กองผิดนัดนับแตเวลาที่จุนทวง การที่จุนไมสงพนักงานมาเก็บเงินไมทําใหกองหลุดพนจากการชําระหนี้ ดังนั้นเมื่อกองผิดนัดจึงตองชําระทั้งเงินคาซื้อของเชื่อจํานวนหนึ่งแสนบาทและยังตองเสียดอกเบี้ยในจํานวนเงินดังกลาวนับแตเลาที่ผิดนัดดวยรอยละ 7.5 ตอป

ดังนั้นขออางของกองฟงไมขึ้น กองผิดนัดนับแตวันที่จุนทวงถามใหชําระหนี้ และตองเสียดอกเบี้ยนับแตวันที่ผิดนัดนั้นดวย

กฎหมายแพง 2 : หนี้ ละเมิด ขอ 27

หนึ่งเปนเจาหนี้สองอยู 3 แสนบาท กิจการของสองขาดทุนมากไมมีทรัพยสินพอจะชําระหนี้ใหหนึ่ง สองจึงตกลงจางสามมาเปนผูจัดการกิจการแทนตน เพราะสามมีความสามารถในการบริหาร จึงจางในราคาแพง โดยสามเองก็รูวาสองเปนคนหนี้สินลนพนตัวแตก็รับจางทํางานนี้ ตอมาหนึ่งรูถึงนิติกรรมนี้เห็นวาสองตองจายเงินมากขึ้นทําใหตนเสียเปรียบเพราะจะไดรับชําระหนี้ไมเพียงพอ จึงฟองขอเพิกถอนสัญญาจางดังกลาว สองมาปรึกษาทาน ทานจะแนะนําสองอยางไร

Page 31: แนวข้อสอบเก่า กฎหมายแพ่ง 2  หนี้

เฉลย หลักกฎหมายมาตรา 237 บัญญัติวา เจาหนี้ชอบท่ีจะรองขอใหศาลเพิกถอนเสียได ซ่ึงนิติกรรมใด ๆ อันลูกหนี้ไดกระทําลงทั้งรูอยูวาจะเปนทางใหเจาหนี้เสียเปรียบ แตความขอนี้ทานมิใหใชบังคับ ถาปรากฏวาในขณะที่ทํานิติกรรมนั้น บุคคลซึ่งเปนผูไดลาภงอกแตการนั้นมิไดรูเทาถึงขอความจริง อันเปนทางใหเจาหนี้ตองเสียเปรียบนั้นดวย แตหากกรณีเปนการทําใหโดยเสนหา ทานวาเพียงแตลูกหนี้เปนผูรูฝายเดียวเทานั้นก็พอแลวที่จะขอเพิกถอนได บทบัญญัติดังกลาวมาในวรรคกอนหนานี้ ทานมิใหใชบังคับแกนิติกรรมใด ๆ อันมิไดมีวัตถุเปนสิทธิในทรัพยสิน วินิจฉัย กรณีนี้เปนเรื่องการเพิกถอนการฉอฉลโดยเจาหนี้คือหนึ่ง การเพิกถอนการฉอฉลจะทําไดตอเมื่อลูกหนี้ทํานิติกรรมจําหนายจายโอนทรัพยสินของตนเองจนทําใหเจาหนี้เสียเปรียบคือไมมีทรัพยสินพอที่จะชําระหนี้ใหแกเจาหนี้ไดเพียงพอ ทั้งผูไดลาภงอกก็ตองรูอยูดวยวาเปนการทําใหเจาหนี้เสียเปรียบ สองเปนลูกหนี้กิจการของสองขาดทุนมากไมมีทรัพยสินพอชําระหนี้ใหหนึ่ง การที่สองไดตกลงจางสามมาเปนผูจัดการกิจการแทนตน เปนการทํานิติกรรม คือ สัญญาจาง โดยคาจางนั้นไดจางกันในราคาแพง ซ่ึงสามเองในที่นี้เปนผูไดลาภงอกโดยเปนผูที่เขาทํานิติกรรมกับลูกหนี้และไดประโยชนจากสัญญาจางนี้ ทั้งสองและสามตางคนตางก็รูอยูวา สองไมมีเงินพอชําระหนี้ใหกับเจาหนี้ คือ หนึ่ง แตสามก็ยังรับจาง คือยินยอมทํานิติกรรม ทั้งที่รูอยูวาจะเปนทางใหเจาหนี้ของสองเสียเปรียบ คือไมไดรับเงินเพียงพอเพื่อชําระหนี้นั่นเอง สัญญาจางนี้แมนเปนนิติกรรมที่สมบูรณจริง แตเจาหนี้คือ หนึ่งสามารถขอเพิกถอนนิติกรรมที่เกิดจากการฉอฉลนี้เสียได โดยตองฟองเปนคดีขอเพิกถอนสัญญาจางนี้เสีย ทําใหสัญญาจางไมมีผลบังคับ

กฎหมายแพง 2 : หนี้ ละเมิด ขอ 28 ขําเปนเจาของรถยนตและใหบุคคลอื่นเชารถเพื่อใชขับเปนรถรับจาง คุมเปนลูกจางขํามีหนาที่ทําบัญชีและดูแลจัดการความเรียบรอยของรถยนตที่ใหเชา และคุมมักจะขับรถยนตของขําไปรับลูกของตนกลับบานอยูเสมอ โดยขําก็ยินยอม วันหนึ่งระหวางทางคุมขับรถของขําไปรับลูกฝนตกถนนลื่น คุมรีบขับรถไป ปรากฏวารถเบรคไมอยูไปชนรถของงอ เสียหาย งอ จึงฟองเรียก

Page 32: แนวข้อสอบเก่า กฎหมายแพ่ง 2  หนี้

คาเสียหายจากขําซึ่งเปนนายจางและคุมลูกจาง ดังนี้ ขําและคุมตองชดใชคาเสียหายอยางไรหรือไม เพราะเหตุใด เฉลย หลักกฎหมายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพง 1. มาตรา 420 บัญญัติวา “ผูใดจงใจหรือประมาทเลินเลอทําตอบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายใหเขาเสียหายถึงแกชีวิตก็ดี แกรางกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพก็ดี ทรัพยสินหรือสิทธิอยางหนึ่งอยางใดก็ดีทานวาผูนั้นทําละเมิด จึงตองชดใชคาสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น” 2. มาตรา 425 บัญญัติวา “นายจางตองรวมรับผิดกับลูกจางในผลแหงละเมิด ซึ่งลูกจางไดกระทําไปในทางการที่จางนั้น” คุมเปนลูกจางขําเมื่อคุมขับรถยนตไปรับลูกของตน เมื่อฝนตกถนนลื่นรถเบรคไมอยูไปชนรถของ งอ เสียหาย นั่นคือคุมขับรถดวยความประมาทเพราะฝนตกถนนลื่น ถาไมขับดวยความเร็วเกินควรก็คงไมชนรถของ งอ เสียหาย ดังนั้นคุมทําละเมิดตามมาตรา 420 เพราะกระทําโดยประมาทเลินเลอทําใหเบรคของ งอ เสียหาย ใครผิดกฎหมาย ดังนั้น คุมกระทําละเมิดตามมาตรา 420 เปนความรับผิดในการกระทําของตนเอง ดังนั้นคุมตองรับผิดชดใชคาสินไหมทดแทนให งอ ในผลละเมิดที่ตนไดกระทํา สวนขําเปนนายจางคุม เมื่อลูกจางขําละเมิด แมวานายจางคือขําจะมิไดกระทําเองก็ตาม กฎหมายก็ใหนายจางตองรวมรับผิดดวย ซึ่งเปนความรับผิดในการกระทําของบุคคลอื่น ซึ่งความรับผิดนี้ตองเปนการละเมิดของลูกจางขํากระทําในทางการที่จางคือ ในระหวางปฏิบัติหนาที่ตามสัญญาจาง คุมแมจะเปนลูกจางของขําก็ตาม แตในขณะที่คุมทําละเมิดนั้น คุมไมไดทําละเมิดในทางการที่จางเพราะงานที่จาง ซึ่งคุมมีหนาที่ตองปฏิบัติตามสัญญาคือ มีหนาที่ทําบัญชีและดูแลจัดการความเรียบรอยของรถยนตที่ใหเชา แมวาขํานายจางจะยินยอมใหคุมใชรถยนตของตนก็ไมเปนเหตุใหขําตองรับผิดรวมกับคุม แตอยางใดเพราะการที่คุมขับรถยนตไปรับลูกเปนการทําไปนอกทางการที่จางเปนเรื่องสวนตัวของลูกจางเอง ดังนั้น ขํานายจางจึงไมตองรวมรับผิดดวย

กฎหมายแพง 2 : หนี้ ละเมิด ขอ 29

Page 33: แนวข้อสอบเก่า กฎหมายแพ่ง 2  หนี้

ก เชารถ ข ไปเที่ยวตางจังหวัด กําหนดสงคืนรถ วันที่ 1 กุมภาพันธ 2542 ปรากฏวาเม่ือ ก ขับรถไปเที่ยวนั้นน้ําทวมทางขาด ก กลับมาไมทันวันที่ 1 กุมภาพันธ 2542 คร้ันวันที่น้ําลดสามารถเดินทางได ก รีบกลับเพื่อจะนํารถมาคืนให ข เมื่อกลับมาถึงบานของ ก วันรุงขึ้นเปนวันอาทิตยที่ 7 กุมภาพันธ 2542 ก จึงพักผอน 1 วัน คร้ันวันที่ 8 กุมภาพันธ 2542 ซึ่งเปนวันจันทร ก จึงนํารถไปสงให ข ปรากฏวา ง ขับรถประมาทเลินเลอชนรถ ข ซึ่ง ก ขับอยูไฟไหมเสียหายทั้งคัน ก บาดเจ็บตองนอนพักรักษาตัวอยูโรงพยาบาลอยูหลายวัน ข จึงฟอง ก เรียกคาเสียหาย ก อางวาตนไมตองรับผิด เพราะวาเหตุเกิดจาก ง ซึ่งประมาทเลินเลอดังนั้นทานเห็นดวยกับขออางของ ก หรือไม เพราะเหตุใด หลักกฎหมาย มาตรา 204 วรรค 2 ถาไดกําหนดเวลาชําระหนี้ไวตามวันแหงปฏิทิน และลูกหนี้ไมไดชําระหนี้ตามกําหนดไซรทานวาลูกหนี้ตกเปนผูผิดนัด โดยมิพักตองเตือนเลย วิธีเดียวกันนี้ทานใหใชบังคับแกกรณีที่ตองบอกกลาวลวงหนากอนการชําระหนี้ซึ่งไดกําหนดเวลาลงไว อาจคํานวณนับไดโดยปฏิทินนับแตวันที่ไดบอกกลาว มาตรา 205 ตราบใดการชําระหนี้นั้นยังมิไดกระทําลง เพราะพฤติการณอันใดอันหนึ่งซึ่งลูกหนี้ไมตองรับผิดชอบ ตราบนั้นลูกหนี้ยังหาไดชื่อวาผิดนัดไม มาตรา 217 ลูกหนี้จะตองรับผิดชอบในความเสียหายบรรดาที่เกิดแตความประมาทเลินเลอในระหวางที่ตนผิดนัด ทั้งจะตองรับผิดชอบในการที่การชําระหนี้กลายเปนพนวิสัย เพราะอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในระหวางเวลาที่ผิดนัดนั้นดวย เวนแตความเสียหายนั้นถึงแมวาตนจะไดชําระหนี้ ทันเวลากําหนดก็คงจะตองเกิดมีอยูนั่นเอง วินิจฉัย ตามขอเท็จจริง เมื่อ ก เชารถ ข โดยมีกําหนดสงคืนรถวันที่ 1 กุมภาพันธ 2542 นั้นเปนกรณีที่หนี้นั้นมีกําหนดชําระแนนอนตามวันแหงปฏิทิน ซึ่งตามมาตรา 204 วรรค 2 หากวาเมื่อถึงกําหนดวันดังกลาวแลว ก ซึ่งเปนลูกหนี้ ไมนํารถที่เชามาคืน ข ซึ่งเปนเจาหนี้แลว ก ไดชื่อวาผิดนัดโดยที่ ข ไมตองเตือนเลย ตอมาปรากฎวาในขณะหนี้ยังไมถึงกําหนดชําระ น้ําทวมทางขาดซึ่งตามมาตรา 205 นั้นเปนกรณีซึ่งทําให ก ยังมาชําระหนี้ไมได เพราะทางขาด ซึ่งเปนพฤติการณซึ่งเกิดขึ้นโดยที่ ก ลูกหนี้ไมตองรับผิดชอบ ดังนั้นแมวาจะเลยกําหนดสงคืนรถไปแลว เพราะก ไมสามารถกลับบานได เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ 2542 ในขณะนั้นถือวา ก ก็ยังไมผิดนัด แตเมื่อ ก กลับมาถึงบานแลวยังไมรีบนํารถสงคืนรถให ข กลับรอไปจนถึงวันที่ 8 กุมภาพันธ 2542 แลวจึงคอยขับรถไปคืน ข ดังนี้เห็นไดวา ก นั้นผิดนั้น เพราะเลยกําหนดเวลาชําระหนี้ตามวันแหงปฏิทินแลวทั้งพฤติการณซึ่งทําใหลูกหนี้ไมผิดนัดก็ผานพนไปแลว แมวา การที่รถของ ข ไหมเสียหายทั้งคันทําใหการชําระหนี้เปนพนวิสัยซึ่งมิใชความผิดของ ก ก ลูกหนี้ก็ยังคงตองรับผิด เพราะเหตุเกิดในระหวางที่ ก ผิดนัดดวยตามมาตรา 217

Page 34: แนวข้อสอบเก่า กฎหมายแพ่ง 2  หนี้

ขาพเจาไมเห็นดวยกับขออางของ ก ก ตองรับผิดในการชําระหนี้กลายเปนพนวิสัย เพราะอุบัติเหตุซึ่งเกิดในระหวางที่ ก ผิดนัด ก ตองชดใชคาเสียหายให ข

กฎหมายแพง 2 : หนี้ ละเมิด ขอ 30 ก ข และ ค เปนลูกหนี้รวมกันกูเงิน ง ไป 30,000 บาท ตอมา ก ถูกศาลสั่งใหเปนคนไรความสามารถเมื่อหนี้ถึงกําหนดชําระ ง ฟอง ก ข และ ค ใหชําระหนี้แกตน ผูอนุบาลของ ก หาเปนโมฆียะ ข ค ก็อางวาตนหลุดพนจากความรับผิดชอบเชนกัน เพราะ ข ค เปนลูกหนี้รวมกับ ก เมื่อ ก มีสิทธิอยางใด ข ค ก็มีสิทธิเชนเดียวกับ ก ดังนี้ทานเห็นดวยกับขออางของ ก ข และ ค หรือไม เพราะเหตุใด หลักกฎหมาย มาตรา 291 ถาบุคคลหลายคนจะตองทําการชําระหนี้โดยทํานองซึ่งแตละคนจําตองชําระหนี้ส้ินเชิงไซร แมถึงวาเจาหนี้ชอบที่จะไดรับชําระหนี้เชิงไดแตเพียงครั้งเดียว(กลาวคือลูกหนี้รวมกัน)ก็ดี เจาหนี้จะเรียกชําระหนี้จากลูกหนี้แตคนใดคนหนึ่งสิ้นเชิง หรือแตโดยสวนก็ไดตามแตจะเลือก แตลูกหนี้ทั้งปวงก็ยังคงตองผูกพันอยูทั่วทุกคนจนกวาหนี้นั้นจะไดชําระเสร็จส้ินเชิง มาตรา 295 วรรคแรก ขอความจริงอื่นใด นอกจากที่ระบุไวในมาตรา 292 ถึง 294 นั้นเมื่อเปนเรื่องเทาถึงตัวลูกหนี้รวมกันคนใดก็ยอมเปนไปเพื่อคุณและโทษแตเฉพาะแกลูกหนี้คนนั้น เวนแตจะ ปรากฏวากับสภาพแหงหนี้นั้นเอง วินิจฉัย ก ข และ ค เปนลูกหนี้รวมกูเงิน ง ไป 30,000 บาท ตามมาตรา 291 เห็นไดวา ก ข ค รวมกันผูกพันในสัญญาเงินกูอันเดียวกัน บุคคลดังกลาวซึ่งเปนลูกหนี้หลายคนตองรวมผูกพันกันเปนลูกหนี้รวม ผลของการเปนลูกหนี้รวม คือ เจาหนี้สามารถเรียกใหลูกหนี้ชําระหนี้ไดโดยส้ินเชิง โดยลูกหนี้ทั้งปวงยังคงตองผูกพันกันอยูจนกวาหนี้นั้นจะไดชําระจนเสร็จส้ินแลว การที่ ก อางวาหลุดพนจากการชําระหนี้ เพราะหยอนความสามารถนั้น เปนกรณี ก อางเหตุสวนตัวเพื่อเปนขอยกเวนตามมาตรา 295 วรรค 1 ซึ่งใหถือวาเปนไปเพื่อคุณและโทษเฉพาะตัวลูกหนี้คนนั้นเทานั้น ก ถูกศาลสั่งใหเปนคนไรความสามารถหลังจาก ก ไดกอหน้ีแลวดังน้ัน ในขณะที่หนี้เกิดขึ้น ก ยังเปนบุคคลซึ่งมีความสามารถอยู ดังนี้ ระหวาง ก และ ง เปนหนี้ที่สมบูรณ ก ไมสามารถอางเหตุสวนตัวดังกลาวใหหลุดพนจากการชําระหนี้ นิติกรรมไมเปนโมฆียะ ก ยังคงตองชําระหนี้ ข และ ค ก็ไมหลุดพนจากการรับผิดเชนกัน เพราะ ขออางของ ก เปนเหตุสวนตัวเปนคุณและโทษเฉพาะตัวลูกหนี้คนใดคนหนึ่งลูกหนี้คนอื่น ๆ จะยกขึ้นกลาวอางไมได ข และ ค เปนลูกหนี้รวมไมหลุดพนความรับผิด

Page 35: แนวข้อสอบเก่า กฎหมายแพ่ง 2  หนี้

ขาพเจาไมเห็นดวยกับขออางของ ก ข และ ค เพราะบุคคลทั้ง 3 เปนลูกหนี้รวม เมื่อหนี้ถึงกําหนดชําระ ก ข และ ค ตองชําระหนี้ใหแก ง

กฎหมายแพง 2 : หนี้ ละเมิด ขอ 31 ก ขับรถรับจางรับหนึ่งไปสงที่สถานีรถไฟหัวลําโพงโดยความประมาทเลินเลอของ ก ขับดวยความเรงรีบเลี้ยวออกจากซอย ข ขับรถรับจางอีกคันหนึ่งดวยความประมาทเลินเลอเลี้ยวเขาซอยดังกลาวดวยความเร็วเปนเหตุใหรถซึ่ง ก และ ข ขับชนกัน หนึ่งไดรับบาดเจ็บจากการที่รถทั้ง 2 ชนกัน หนึ่งฟองขอใหรับผิดตอตน ข อางวาตนไมตองรับผิดแตผูเดียว ก เองก็ตองรวมรับผิดตอ ข ดวย เพราะ ก เองก็ประมาท

หลักกฎหมาย มาตรา 420 ผูใดจงใจหรือประมาทเลินเลอทําตอบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายใหเขาเสีย

หายถึงแกชีวิตก็ดี แกรางกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพก็ดี ทรัพยสินหรือสิทธิอยางหนึ่งอยางใดก็ดีทานวาผูนั้นทําละเมิด จึงตองชดใชคาสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น

มาตรา 432 ถาบุคคลหลายคนกอใหเกิดเสียหายแกบุคคลอื่นโดยรวมกันทําละเมิด ทานวาบุคคลเหลานั้นจะตองรวมกันรับผิดชอบรวมกันใชคาสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายนั้น ความขอนี้ทานใหใชตลอด กรณีที่ไมสามารถสืบรูตัวไดแนวาในจําพวกที่ทําละเมิดรวมกันนั้น คนไหนเปนผูที่กอใหเกิดเสียหายนั้นดวย

อนึ่ง บุคคลผูยุยงสงเสริมหรือชวยเหลือในการทําละเมิด ทานก็ใหถือวาเปนผูกระทําละเมิดรวมกันดวย

ในระหวางบุคคลทั้งหลายซึ่งตองรับผิดรวมกันใชคาสินไหมทดแทนนั้น ทานวาตางตองรับผิดเปนสวนเทา ๆ กัน เวนแตโดยพฤติการณ ศาลจะวินิจฉัยเปนประการอื่น

วินิจฉัย การที่ ก และ ข ขับรถชนกันเปนเหตุใหหนึ่งไดรับบาดเจ็บนั้น ก และ ข ทําละเมิดตอตอหนึ่ง เพราะทั้ง ก และ ข ขับรถโดยความประมาทเลินเลอ เปนเหตุใหหนึ่งไดรับบาดเจ็บจากความประมาทเลินเลอขอ ก และ ข ซึ่งเปนกรณีทําใหหนึ่งเสียหายตอรางกาย ก และ ข ตองชดใชคาสินไหมทดแทนแกหนึ่ง ในการทําละเมิดนั้นตามมาตรา 420

ที่ ข อางวาตนไมตองรับผิดแตผูเดียว ก เองตองรวมรับผิดดวยเพราะ ก เองประมาทเลินเลอทําใหเกิดเหตุ การที่จะรวมกันรับผิดในกรณีรวมกันทําละเมิดนั้นตองไดความวาบุคคล

Page 36: แนวข้อสอบเก่า กฎหมายแพ่ง 2  หนี้

หลายคนนั้นรวมกันทําละเมิดจึงจะรวมกันรับผิดชดใชคาสินไหมทดแทนอยางลุกหนี้ตามมาตรา 432

แตกรณีนี้เปนกรณี ก และ ข ไดประมาทเลินเลอกอความเสียหายแกบุคคลอื่นในเหตุเดียวกัน แตไมไดรวมกันทําละเมิด จึงไมเขามาตรา 432 จึงไมตองรวมกันรับผิด

ทั้ง ก และ ข ตองรับผิดฐานละเมิด แตแยกกันรับผิด โดยรับผิดมากนอย แลวแตความรายแรงนั้น

ดังนั้น ขาพเจาจะแนะนําใหหนึ่งฟองทั้ง ก และ ข เรียกคาสินไหมทดแทนฐานละเมิดตอหนึ่ง แตไมใชรวมกันรับผิดคือ ตางคนตางรับผิดตาม มาตรา 420 ตามแตความรายแรงของผลการทําละเมิดของแตละฝาย

กฎหมายแพง 2 : หนี้ ละเมิด ขอ 32

กอยกูเงินของไป 50,000 บาท ตกลงกันวาใหใชเงินคืนภายใน 1 ป นับแตวันทําสัญญา หลังจากเงินกูไปได 11 เดือน กอยไดนําเงินที่กูไปคืนของ แตระหวางทางถูกรถยนตของคุดชนไดรับบาดเจ็บสาหัสตองนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล หลังจากรักษาตัวอยูที่โรงพยาบาลได 3 เดือน ของฟองกอยใหชําระหนี้เงินกูดังกลาว แตกอยอางวาตนยังไมผิดนัด เพราะประสบอุบัติเหตุอันเนื่องมาจากตนไดนําเงินไปคืนใหของนั่นเอง ทั้งของเองก็ยังไมไดเตือนตนใหชําระหนี้

ดังนั้นทานเห็นดวยกับขออางของกอยอยางไรหรือไม เพราะเหตุใด เฉลย ม. 204 วรรค 2 “ถาไดกําหนดเวลาชําระหนี้ไวตามวันแหงปฏิทิน และลูกหนี้มิไดชําระหนี้ตามกําหนดไซร ทานวาลูกหนี้ตกเปนผูผิดนัดโดยมิพักตองเตือนเลย…..” ม. 205 “ตราบใดการชําระหนี้ยังมิไดกระทําลงเพราะพฤติการณอันใดอันหนึ่งซึ่งลูกหนี้ไมตองรับผิดชอบ ตราบนั้นลูกหนี้ยังหาไดชื่อวาผิดนัดไม” วินิจฉัย กอยกูเงินของไปโดยมีขอตกลงวาจะใชเงินคืนภายใน 1 ปนับแตวันทําสัญญา ขอตกลงในสัญญานี้ถือวาการชําระหนี้สามารถจะกําหนดนับไดตามวันแหงปฏิทิน เพราะสามารถนับวันทําสัญญาไปครบ 1 ป เมื่อใดก็ตองชําระหนี้เมื่อนั้น ดังนี้จึงเปนหนี้ที่ไดกําหนดเวลาชําระหนี้ไวตามวันแหงปฏิทินแลว ตอมากอยถูกรถชนไดรับบาดเจ็บรักษาตัวอยูโรงพยาบาลนาน 3 เดือน แตกอยก็ยังคงมีหนาที่จะตองชําระหนี้เมื่อหนี้ถึงกําหนดคือ เมื่อครบ 1 ป นับแตวันสําสัญญา เมื่อกอยไมชําระหนี้

Page 37: แนวข้อสอบเก่า กฎหมายแพ่ง 2  หนี้

ตามกําหนด กอยจึงผิดนัดซึ่งตามกรณีตามมาตรา 204 วรรค 2 ถือวากอยตกเปนผูผิดนัดโดยที่ของไมจําเปนตองเตือนแตอยางใดเลย ดังนั้นขออางของกอยนั้นไมถูกตอง กอยอางวาตนประสบอุบัติเหตุตองนอนอยูที่โรงพยาบาลมาเปนขอแกตัวที่กอยจะยังไมชะระหนี้ไมไดเพราะเหตุหรือพฤติการณตาม ม . 205 ซึ่งลูกหนี้ไมตองรับผิดชอบตองเปนเหตุขัดขวางที่ไมอาจกาวลวงไปไดเลย แตกรณีตามขอเท็จจริงนี้เปนแตเพียงเหตุขัดของซึ่งอาจจะกาวลวงได คือสามารถใหบุคคลอื่นไปชําระหนี้แทนได ลูกหนี้จะถือเอาเปนพฤติการณอันขัดขวางตนไวมิใหตองรับผิดชอบไมได (ฎ166/2478) ดังนั้นจึงไมเห็นดวยกับขออางของกอย กอยเปนผูผิดนัดโดยตองชําระหนี้ ของไมตองเตือนและจะเอา ม. 205 เพื่อเปนขอแกตัวไมได

กฎหมายแพง 2 : หนี้ ละเมิด ขอ 33 แดง เหลือง เขียว รวมกันกูเงินเจริญไป 60,000 บาท ปรากฏวาเมื่อเวลาผานไป 9 ป แดงไดนําเงินมาผอนชําระใหเจริญบางสวน ตอมาเวลาลวงเลยมา 10 ปเศษ เจริญตองการเงินคืนจากลูกหนี้ทั้งสามคนนี้จึงฟองลูกหนี้ทั้ง 3 คนดังกลาว ใหชําระหนี้ที่รวมกันกูไปทั้ง แดง เหลือง เขียว จึงมาปรึกษาทาน ทานจะใหคําแนะนําแกเขาทั้ง 3 คนอยางไร เฉลย ม. 291 “ถาบุคคลหลายคน จะตองกระทําการชําระหนี้โดยกําหนดซึ่งแตละคนจําตองชําระหนี้สินแลวไซร แมถึงวาเจาหนี้ชอบที่จะไดรับชําระหนี้ส้ินเชิงไดแตเพียงครั้งเดียว (กลาวคือลูกหนี้รวมกัน) ก็ดี เจาหนี้จะเรียกชําระหนี้จากลูกหนี้แคคนใดคนหนึ่งสิ้นเชิงหรือโดยสวนก็ไดตามแตจะเลือก แตลูกหนี้ทั้งปวงยังคงตองผูกพันอยูทั่วทุกคนจนกวาหนี้นั้นจะไดชําระเสร็จส้ินเชิง ม. 295 ขอความจริงอื่นใด นอกจากที่ระบุไวในมาตรา 292 ถึง 294 นั้น เมื่อเปนเรื่องเทาตัวถึงลูกตัวหนี้รวมกันคนใดก็ยอมเปนไปเพื่อคุณและโทษเฉพาะแกลูกหนี้คนนั้น เวนแตจะปรากฏวาขัดกับสภาพแหงหนี้นั้นเอง ความที่วามานี้ เมื่อจะกลาวโดยเฉพาะก็คือวาใหใชแกการใหคําบอกกลาว การผิดนัด การที่หยิบยกอางความผิด การชําระหนี้อันเปนพนวิสัยแกฝายลูกหนี้รวมกันคนหนึ่งกําหนดอายุความหรือการที่อายุความสะดุดหยุดลง และการที่สิทธิเรียกรองเกลื่อนกลืนกันไปกับหนี้สิน วินิจฉัย

แดง เหลือง เขียว รวมกันกูเงินเจริญไป ดังนั้นบุคคลทั้ง 3 จึงเปนลูกหนี้รวม และตองผูกพันที่จะชําระหนี้ใหแกเจาหนี้โดยสิ้นเชิง ตอมาเมื่อเวลาผานไป 9 ป แดงแตผูเดียวไดนําเงินบาง

Page 38: แนวข้อสอบเก่า กฎหมายแพ่ง 2  หนี้

สวนมาผอนชําระหนี้ใหแกเจริญ จึงเปนกรณีซึ่งแดงรับสภาพหนี้โดยการชําระหนี้บางสวน เปนเหตุใหอายุความคือระยะเวลาที่ลวงไปแลวนี้ ไมนับเขาในอายุความ และใหเร่ิมนับอายุความขึ้นใหม แมตอมาเวลาจะลวงเลยมา 10 ปเศษแลวก็ตาม หนี้ของแดงก็ยังไมขาดอายุความ

เหลือง และเขียว แมจะเปนลูกหนี้รวมกันกับแดงแตมิไดมีสวนในการชําระหนี้บางสวนกับ

แดงแตอยางใด เพราะกรณีเปนเรื่องทาวถึงตัวลูกหนี้รวมคนใดก็ยอมเปนเพื่อคุณและโทษแตเฉพาะแกลูกหนี้คนนั้น กรณีเร่ืองอายุความนี้เปนคุณแกเหลืองและเขียว เหลือง เขียวจึงสามารถยกกําหนดอายุความมาเปนขอตอสู เจริญวาหนี้กูยืมนั้นขาดอายุความแลว เพราะไดกูยืมกันมาเกิน 10 ป แลว ตาม ม. 295 ดังนี้ เหลือง เขียว จึงหลุดพนไมตองชําระหนี้ใหแกเจริญ

แตแดงไมสามารถยกเรื่องอายุความในกรณีเหลืองกับเขียวมากลาวอางได เพราะตนไดรับ

สภาพหนี้ ซึ่งทําใหอายุความในสวนของตนสะดุดลงเปนโทษเฉพาะตัวของแดง แดงจึงยังคงตองผูกพันที่จะตองชําระหนี้ใหกับเจริญแตเพียงผูเดียว

กฎหมายแพง 2 : หนี้ ละเมิด ขอ 34 กอมาเยี่ยมของที่บานของของ ขณะนั่งคุยกันที่ระเบียง กอไดสูบบุหร่ีและถามของวาไมมีที่เขี่ยบุหร่ีหรือ ของบอกวาไมมีกอจึงดีดบุหร่ีทิ้งไปนอกบานไปถูกเสื้อของคดซึ่งเดินผานมาไหมเปนรู คดจึงฟองทั้งกอ และของ ใหรับผิดในความเสียหายที่เกิดขึ้นแกตน ดังนี้ของมาปรึกษาทาน ๆ จะใหคําแนะนําแกของอยางไร เฉลย

ม.420 “ผูใดจงใจหรือประมาทเลินเลอ ทําตอบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมาย ใหเขาเสียหายถึงแกชีวิตก็ดี แกรางกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพก็ดี ทรัพยสินหรือสิทธิอยางหนึ่งอยางใดก็ดี ทานวาผูนั้นทําละเมิด จําตองชดใชคาสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น”

ม.436 “บุคคลผูอยูในโรงเรือนตองรับผิดชอบในความเสียหาย อันเกิดเพราะของตกหลน

จากโรงเรือนนั้น หรือเพราะทิ้งขวางของไปตกในที่อันมิควร”

วินิจฉัย การที่กอมาอยูที่บานของ แลวดีดบุหร่ีไปนอกบานไปถูกเสื้อของคดไหมเปนรูนั้น เปนกรณี

ซึ่งกอไดกระทําโดยประมาทเลินเลอโดยผิดกฎหมายเปนเหตุใหบุหร่ีถูกเสื้อของคดเสียหายไหมเปน

Page 39: แนวข้อสอบเก่า กฎหมายแพ่ง 2  หนี้

รู ดังนั้นกอจึงกระทําละเมิดตอคด ตาม ม.420 ซึ่งเปนความรับผิดในการกระทําดวยตนเอง ตองชดใชคาสินไหมใหคดเพราะเหตุละเมิด ตาม ม.420 นี้

ของเปนเจาของบาน เปนผูครอบครองโรงเรือนก็จริงแตกรณีนี้ความเสียหายเกิดเพราะกอ

เปนผูทําละเมิดความเสียหายมิไดเกิดจากของตกหลนจากโรงเรือนหรือเพราะทิ้งขวางตกในที่อันมิควร แตเปนกรณีมีบุคคลประมาทเลินเลอทําละเมิด เพียงแตบุคคลผูทําละเมิดอยูในบานของของเทานั้น ดังนั้นของมิไดทําละเมิดจึงไมตองรับผิด