สรุป Ps 701 แนวทางการศึกษารัฐศาสตร์

Post on 29-May-2015

995 views 4 download

Transcript of สรุป Ps 701 แนวทางการศึกษารัฐศาสตร์

~ 1 ~

สรุ�ป Ps 701 แนวทางการุศึ�กษารุ�ฐศึาสตรุ�แนวคิ�ดส�าคิ�ญในทางรุ�ฐศึาสตรุ�รั�ฐศาสตรั หรั�อ Political Science มาจากคำ�าว่�า Politics

(การัเม�อง) + Science (ศาสตรั) แต�ที่��ใช้�ภาษาไที่ยว่�ารั�ฐศาสตรัเพรัาะในย$คำหน%�งน�กว่&ช้าการัเช้��อว่�าการัเม�องเป็(นเรั��องของรั�ฐ ศาสตรัที่��เก��ยว่ข�องก�บการัเม�องก+คำ�อศาสตรัที่��ว่�าด้�ว่ยเรั��องของรั�ฐ

การุเมื�องคิ�อ1. การุเมื�องเป�นเรุ��องรุาวท �เก �ยวข้#องก�บรุ�ฐ (State)

อรุ�สโตเต�ล เข�ยนหน�งส�อช้��อ Politics (มาจากคำ�าว่�า Polis แป็ลว่�ารั�ฐ) กล�าว่ว่�า รั�ฐเป็(นเง��อนไขที่��จ�าเป็(นส�าหรั�บช้�ว่&ตมน$ษย

น�กคำ&ด้ในย$คำหล�งอย�างศาสตรัาจารัยที่างรั�ฐศาสตรัช้��อ แฟรุงคิ� เจ.

ก)*ดนาว (Frank J. Goodnow) คำ.ศ. 1904 ได้�เสนอแนว่คำ&ด้ว่�า รั�ฐศาสตรัคำ�อศาสตรัซึ่%�งว่�าด้�ว่ยองคำกรัอ�นเป็(นที่��รั/ �จ�กก�นในนาม รั�ฐ “ ”

น�ยามืข้องรุ�ฐ 1. กล$�มคำนที่��รัว่มต�ว่ก�นเป็(นรัะเบ�ยบและอาศ�ยในอาณาเขตรั�ว่มก�น ม�

อ�านาจอธิ&ป็ไตยส/งส$ด้ในอาณาเขตน�2น ๆ (Harold Lasswell และ Abraham Caplan)

2. องคำกรัที่��ม�อ�านาจผู/กขาด้ในการัใช้�ก�าล�งหรั�อใช้�คำว่ามรั$นแรังที่�2งหลาย (Max Weber) เช้�น ป็รัะกาศสงคำรัาม

3. กล$�มคำนในอาณาเขตใด้ ๆ รั�ฐหน%�ง ๆ จะม�รั/ป็แบบที่��ม�คำนจ�านว่นหน%�งม�อ�านาจเหน�อกล$�มคำนที่�2งหมด้ อ�านาจน�2อาจมาจากการัใช้�ก�าล�งหรั�อใช้�ว่&ธิ�การัที่างจ&ตว่&ที่ยาก+ได้� (Julius Gould and William Kolb)

สรุ�ป 1. รั�ฐเป็(นองคำกรัที่างการัเม�องที่��ม�สภาพต�างจากส�งคำมธิรัรัมด้า โด้ย

จะเน�นที่��ม&ต&ที่างการัเม�องคำ�อจะกล�าว่ถึ%งเรั��องอ�านาจ อ�านาจหน�าที่�� ม�การัก�าหนด้โคำรังสรั�างของรั�ฐบาล คำว่ามส�มพ�นธิรัะหว่�างผู/�ป็กคำรัองก�บผู/�ถึ/กป็กคำรัอง ฯลฯ

2. องคำกรัที่างการัเม�องที่��เรั�ยกว่�ารั�ฐช้าต&หรั�อรั�ฐป็รัะช้าช้าต& (Nation State)

~ 2 ~

3. ม�คำว่ามหมายเที่�าก�บมลรั�ฐ คำ�อเป็(นส�ว่นหน%�งของสหพ�นธิรั�ฐหรั�อสหรั�ฐ เช้�น ป็รัะเที่ศสหรั�ฐอเมรั&กาป็รัะกอบด้�ว่ยมลรั�ฐต�าง ๆ 50 มลรั�ฐ

องคิ�ปรุะกอบข้องรุ�ฐ1. ปรุะชากรุ (Population) จะมากหรั�อน�อยไม�ส�าคำ�ญ 2. อาณาเข้ตหรุ�อด�นแดน (Territory) ที่�2งแผู�นด้&น ในที่ะเล

อากาศ ไหล�ที่ว่�ป็ 3. รุ�ฐบาล (Government) เป็(นองคำกรัหน%�งของรั�ฐ ที่�าหน�าที่��

ด้�าเน&นก&จการัแที่นรั�ฐในนามป็รัะช้าช้น ในอาณาเขตที่��แน�นอนและเป็(นอ&สรัะจากการัคำว่บคำ$มของรั�ฐอ��น หรั�อหมายถึ%งคำณะบ$คำคำลซึ่%�งได้�รั�บมอบหมายอ�านาจให�ที่�าหน�าที่��บรั&หารัป็รัะเที่ศ

4. อ�านาจอธิ�ปไตย (Sovereignty) เป็(นอ�านาจส/งส$ด้ในการัป็กคำรัองป็รัะเที่ศ แบ�งเป็(นสามอ�านาจคำ�ออ�านาจน&ต&บ�ญญ�ต& อ�านาจบรั&หารั และอ�านาจต$ลาการั

ช้าต& (Nation) เป็(นศ�พที่ที่างส�งคำมว่&ที่ยา หมายถึ%ง 1. กล$�มป็รัะช้ากรัภายในป็รัะเที่ศหน%�งภายใต�รั�ฐบาลที่��เป็(นเอกรัาช้ 2. คำนกล$�มหน%�งที่��ม�สถึาบ�นและขนบธิรัรัมเน�ยมป็รัะเพณ�คำล�ายคำล%งก�น

ม�คำว่ามกลมเกล�ยว่คำ�อเข�าก�นได้�ที่างส�งคำมและม�จ$ด้สนใจคำล�าย ๆ ก�น 3. ส�งคำมซึ่%�งใหญ�ที่��ส$ด้ของมน$ษยที่��ม�ว่�ฒนธิรัรัมและคำว่ามรั/ �ส%กเป็(น

พว่กเด้�ยว่ก�น ใคำรัมาแตะช้าต&ไม�ได้�องคำป็รัะกอบของช้าต&1. ม�คำว่ามผู/กพ�นต�อถึ&�นที่��อย/�อาศ�ย 2. ม�ป็รัะว่�ต&ศาสตรัรั�ว่มก�น3. ม�ว่�ฒนธิรัรัมรั�ว่ม4. ต�องการัที่��จะเป็(นอ&สรัะในการัด้�าเน&นช้�ว่&ตม�ช้าต&อาจไม�ม�รั�ฐก+ได้� เช้�น ช้นช้าต&กะเหรั��ยงม�องคำป็รัะกอบคำว่ามเป็(น

ช้าต&คำรับถึ�ว่น แต�ไม�ม�รั�ฐกะเหรั��ยง แต�ถึ�าม�รั�ฐต�องม�ช้าต& (ป็รัะช้ากรัหลากหลายช้นช้าต&อาศ�ยอย/�ในรั�ฐเด้�ยว่ก�น)

~ 3 ~

ข�อด้�อยของน&ยามที่��ว่�าการัเม�องคำ�อเรั��องของรั�ฐ (น&ยามของแฟรังคำ เจ. ก/;ด้นาว่)

1. การับอกว่�าการัเม�องเป็(นเรั��องรัาว่ของรั�ฐเป็(นแนว่คำ&ด้ที่��ตายต�ว่เก&นไป็ มองแคำ�องคำกรัที่��ม�การัจ�ด้ต�2งจากอ�านาจรั�ฐ ไม�สามารัถึอธิ&บายป็รัากฏการัณบางป็รัากฏการัณที่��เก&ด้ข%2นนอกเขตแด้นรั�ฐได้� เช้�น สงคำรัามป็ฏ&ว่�ต& จ�กรัว่รัรัด้&น&ยม ว่�าป็รัากฏการัณเหล�าน�2เก��ยว่ข�องก�บการัเม�องอย�างไรั

2. เน�นโคำรังสรั�างที่��เป็(นที่างการัเป็(นหล�ก (องคำกรั สถึาบ�นที่��จ�ด้ต�2งข%2นโด้ยใช้�อ�านาจรั�ฐ) เช้�น รั�ฐบาล รั�ฐสภา พรัรัคำการัเม�อง ฯลฯ โด้ยไม�ให�คำว่ามส�าคำ�ญก�บกล$�มอ&ที่ธิ&พล กล$�มผูลป็รัะโยช้นที่��ไม�เป็(นที่างการั เช้�น การัรัว่มต�ว่ก�นของป็รัะช้าช้นในนามของสม�ช้ช้าคำนจน พ�นธิม&ตรัป็รัะช้าช้นเพ��อป็รัะช้าธิ&ป็ไตย นป็ช้. การัที่�าก&จกรัรัมของกล$�มเหล�าน�2ล�ว่นเป็(นเรั��องการัเม�องที่�2งส&2น

2. การุเมื�องคิ�อเรุ��องรุาวท �เก �ยวข้#องก�บอ�านาจ (Power) และอ�ทธิ�พล

ฮารุ�โรุลด� ลาสเวลล� (Lasswell) กล�าว่ถึ%งรั�ฐศาสตรัในฐานะที่��เป็(นการัศ%กษาเช้&งป็รัะจ�กษว่�าคำ�อการัศ%กษากรัะบว่นการัข�ด้เกลาและการัเข�าไป็ม�ส�ว่นรั�ว่มในอ�านาจน��นเอง และให�น&ยามว่�าการัเม�องคำ�อเรั��องของการัที่��ใคำรั ได้�อะไรั เม��อใด้ และได้�อย�างไรั (Politics is who gets what,

when and how)

(การัศ%กษาเช้&งป็รัะจ�กษคำ�อการัศ%กษาที่��ใช้�ข�อม/ลที่��เป็(นจรั&ง สามารัถึว่�ด้ได้� แจงน�บได้�)

ใคำรั ๆ ก+อยากได้�อ�านาจเพรัาะอ�านาจที่�าให�สง�าผู�าเผูย ตอนไม�ม�อ�านาจต�องพยายามเข�าหาคำนที่$กช้นช้�2นที่$กหม/�เหล�าเพ��อขอคำะแนน แต�เม��อได้�มาซึ่%�งอ�านาจบ$คำล&กภาพจะเป็ล��ยนไป็ที่�นที่� จากนอบน�อมถึ�อมตนกลายเป็(นคำนม�มาด้ และหายห�ว่ไป็เลยจนกว่�าจะม�การัเล�อกต�2งใหม� บางคำนรั/ �ด้�ว่�าตนไม�ม�ว่าสนาจะได้�ม�อ�านาจขอแคำ�เป็(นว่อลเป็เป็อรัให�ผู/�ม�อ�านาจก+พอ

~ 4 ~

ลาสเวลล�และแคิพแลน (Lasswell and Kaplan) กล�าว่ว่�า อ�านาจคำ�อคำว่ามสามารัถึที่��จะสรั�างผูลกรัะที่บหรั�อที่��จะคำว่บคำ$มการัต�ด้ส&นใจ พฤต&กรัรัม นโยบาย คำ�าน&ยม หรั�อโช้คำช้ะตาของผู/�อ��นได้� ได้� เช้�น โจรัเอาป็>นมาจ�2แล�ว่บอกให�เรัายกม�อข%2นม�อะไรัในกรัะเป็?าส�งมาให�หมด้ เรัาต�องที่�าตามคำ�าส��งของโจรัแสด้งว่�าโจรัม�อ�านาจในการัก�าก�บคำว่บคำ$มพฤต&กรัรัมของเรัาให�เป็(นไป็ตามที่��โจรัป็รัารัถึนา

ส�าหรั�บคำ�าว่�าอ�านาจม�คำ�าที่��เก��ยว่ข�องคำ�อ-อ�านาจหน#าท � (Authority) คำ�อ อ�านาจ + คำว่ามช้อบธิรัรัม

(Power + Legitimacy) อ�นหมายถึ%งการัที่��ป็รัะช้าช้นให�การัยอมรั�บ เช้��อฟ@ง ยอมป็ฏ&บ�ต&ตามคำ�าส��งโด้ยถึ�อว่�าเป็(นส&�งที่��ถึ/กต�องคำว่รักรัะที่�า กรัณ�โจรัจ�2เรัายอมที่�าตามเพรัาะโจรัม�อ�านาจเหน�อเรัาในช้�ว่งเว่ลาน�2น แต�ม�คำนอ�กกล$�มหน%�งที่��ที่�าให�เรัาต�องเส�ยที่รั�พยมากกว่�าที่��ต�องเส�ยให�โจรัด้�ว่ยซึ่�2าไป็โด้ยที่��เขาไม�ได้�ใช้�อาว่$ธิอะไรัเลย คำนกล$�มน�2คำ�อเจ�าหน�าที่��สรัรัพากรั แม�เรัาไม�อยากให�ก+ต�องให�ด้�ว่ยรั/ �ว่�าสรัรัพากรัม�หน�าที่��ตามกฎหมาย และเรัาผู/�เป็(นรัาษฎรัก+ม�หน�าที่��เส�ยภาษ� คำว่ามแตกต�างรัะหว่�างสรัรัพากรัก�บโจรัอย/�ที่�� Legitimacy โจรัม�แคำ� Power แต�เจ�าหน�าที่��สรัรัพากรัม� Authority (Power +

Legitimacy) ม�อ�านาจอ�นช้อบธิรัรัมที่��จะเก+บภาษ�จากป็รัะช้าช้น และป็รัะช้าช้นเองยอมรั�บเช้��อฟ@งป็ฏ&บ�ต&ตามสรัรัพากรั

แมื3กซ์� เวเบอรุ� (Max Weber) น�กส�งคำมว่&ที่ยาช้าว่เยอรัม�น กล�าว่ถึ%งที่��มาของคำว่ามช้อบธิรัรัมด้�งน�2

1) ปรุะเพณ (Tradition) เป็(นคำว่ามช้อบธิรัรัมที่��ม�กเก&ด้ข%2นในส�งคำมแบบด้�2งเด้&ม เช้�น ส�งคำมช้นเผู�า ล/กเผู�าเช้��อฟ@งห�ว่หน�าเผู�าเพรัาะห�ว่หน�าเผู�าข%2นส/�ต�าแหน�งตามธิรัรัมเน�ยมป็รัะเพณ�ที่��ส�บที่อด้ก�นมาของเผู�า เช้�น ห�ว่หน�าเผู�าผู/�ช้รัาส�งมอบต�าแหน�งให�ที่ายาที่ม�พ�อมด้หมอผู�มาที่�าพ&ธิ� ก�อกองไฟก�นส�กกองหน%�ง หมอผู�รั�ายเว่ที่มนตเช้&ญเที่พยด้าฟBาด้&นมาเป็(นพยานแล�ว่

~ 5 ~

เอามงก$ฎหรั�อคำฑามอบให�ล/กช้าย เป็(นส�ญล�กษณว่�าน��คำ�อผู/�น�าคำนใหม�คำ�าพ/ด้ของผู/�น�าคำ�อกฎหมาย ที่��สมาช้&กในเผู�าต�องเคำารัพเช้��อฟ@ง

2) บารุมื (Charisma) ม�กเก&ด้ในส�งคำมที่��ก�าล�งเป็ล��ยนแป็ลงหรั�อช้�ว่งของการัต�อส/�ด้&2นรันเพ��อเอกรัาช้ จะเก&ด้ผู/�น�าที่��ม&ใช้�ที่ายาที่ของผู/�น�าเก�า เป็(นคำนม�บารัม�คำ�อม�ล�กษณะพ&เศษที่��ที่�าให�คำนในส�งคำมยอมเช้��อฟ@งป็ฏ&บ�ต&ตาม เช้�น มหาตมะ คำานธิ� เป็(นคำนแก�ต�ว่ผูอมถึ�อไม�เที่�าเด้&นย�กแย�ย�กย�น เม��อเก&ด้สงคำรัามศาสนารัะหว่�างคำนฮิ&นด้/ก�บคำนม$สล&มคำานธิ�ป็รัะกาศอด้อาหารัจนกว่�าคำนที่�2งสองศาสนาจะหย$ด้รับก�น ที่�2งสองฝ่Fายเกรังว่�าคำานธิ�จะเส�ยช้�ว่&ตก+หย$ด้รับก�นจรั&ง ๆ ผู/�น�าบารัม�คำนอ��น ๆ เช้�น เหมาเจGอต$ง โฮิจ&ม&นห ซึ่/กาโน

3) กฎหมืายหรุ�อตรุรุกะน�ต�น�ย (Legal) เช้�น เรัาป็ฏ&บ�ต&ตามคำ�าส��งของ เจ�าหน�าที่��สรัรัพากรั เพรัาะคำนเหล�าน�2ม�อ�านาจตามกฎหมาย (กต&กาที่��ส�งคำมใด้ส�งคำมหน%�งตรัาข%2นมาบ�งคำ�บใช้� เพ��อคำว่บคำ$มพฤต&กรัรัมที่��เบ��ยงเบนของคำนในส�งคำมให�เป็(นไป็ตามแนว่ที่างที่��ไม�ก�อให�เก&ด้คำว่ามเด้�อด้รั�อนแก�ส�งคำมโด้ยรัว่ม) กฎหมายเป็(นที่��มาของคำว่ามช้อบธิรัรัมสมาช้&กต�างให�การัเก�2อหน$น ยอมรั�บ และป็ฏ&บ�ต&ตามคำ�าส��ง

-อ�ทธิ�พล (Influence) เป็(นคำ�าที่��ถึ/กต�คำว่ามไป็ในแง�ลบ ที่�2ง ๆ ที่��คำว่ามหมายจรั&ง ๆ แล�ว่หมายถึ%ง คำว่ามสามารัถึในการัโน�มน�าว่ให�บ$คำคำลยอมรั�บหรั�อกรัะที่�าการัใด้ ๆ แม�ว่�าเขาไม�ป็รัารัถึนาที่��จะกรัะที่�าก+ตาม เช้�น พ�อแม�ม�อ&ที่ธิ&พลต�อล/ก ล/กต�องเรั�ยนอย�างที่��พ�อแม�ต�องการั คำรั/บาอาจารัยม�อ&ที่ธิ&พลต�อล/กศ&ษย เช้�น สม�ยเด้+ก ๆ อาจารัยเรั�ยนภาษาอ�งกฤษเก�ง คำรั/สอนภาษาอ�งกฤษเลยแนะน�าว่�าคำว่รัเรั�ยนรั�ฐศาสตรัเผู��ออนาคำตจะได้�เป็(นน�กการัที่/ต

อ&ที่ธิ&พลเก��ยว่ข�องก�บการัเม�องคำ�อ น�กการัเม�องส�ว่นใหญ�ใช้�อ&ที่ธิ&พลเป็(นเคำรั��องม�อส�าคำ�ญในการัสรั�างคำว่ามน�าเช้��อถึ�อแก�ตน ว่�าตนเองม�คำ$ณสมบ�ต&มากพอที่��จะเข�าไป็น��งในต�าแหน�งแห�งอ�านาจ ในช้�ว่งหาเส�ยงหรั�อ

~ 6 ~

ฤด้/น�บญาต&น�กการัเม�องพยายามโน�มน�าว่ให�ป็รัะช้าช้นเล�อกตนเข�าไป็น��งในสภา และต�องใช้�ต�ว่ช้�ว่ย เช้�น ก�าน�น ผู/�ใหญ�บ�าน คำรั/ใหญ� เจ�าอาว่าส เพ��อให�คำนเหล�าน�2โน�มน�าว่ให�ช้าว่บ�านมาเล�อกผู/�สม�คำรัเบอรัน�2นเบอรัน�2 ถึ�าก�าน�น ผู/�ใหญ�บ�าน เจ�าอาว่าส หรั�อคำรั/ใหญ� สามารัถึโน�มน�าว่ให�ช้าว่บ�านเล�อกผู/�สม�คำรัของตนได้�มากที่��ส$ด้โด้ยใช้�ที่รั�พยากรัน�อยที่��ส$ด้ คำน ๆ น�2นก+ถึ�อว่�าม�อ&ที่ธิ&พลมาก

อาจารัยลองถึามน�กศ%กษาด้/ว่�าใคำรัม�อ&ที่ธิ&พลมากที่��ส$ด้แถึว่อ�สาน น�กศ%กษาตอบว่�าเนว่&น แต�อาจารัยคำ&ด้ว่�าหลว่งพ�อคำ/ณเป็(นผู/�ม�อ&ที่ธิ&พลส/งส$ด้ในจ�งหว่�ด้นคำรัรัาช้ส�มาและแถึบภาคำอ�สาน ใช้�ที่รั�พยากรัเพ�ยงเล+กน�อยแคำ�น�าหน�งส�อพ&มพเก�า ๆ มาม�ว่นแล�ว่เคำาะห�ว่ป็รัะช้าช้นพรั�อมพ/ด้ว่�า เล�อกเบอรั “ 1

เด้�อ เล�อกเบอรั 1 เด้�อ คำนก+เล�อกเบอรั ” 1 ก�นหมด้ น��คำ�อการัใช้�ที่รั�พยากรัน�อยที่��ส$ด้ไม�ต�องม�เง&นเป็(นหม��นล�านไม�ต�องโฟนอ&นแต�ได้�ผูลมากที่��ส$ด้ ม�อ�านาจในการัโน�มน�าว่ส/งช้�2ให�เห+นว่�าที่�านม�อ&ที่ธิ&พลมาก น�กศ%กษาอย�าคำ&ด้ว่�าอ&ที่ธิ&พลคำ�อการัใช้�อ�านาจม�ด้ ใช้�ก�าล�งซึ่�องส$ม แต�เป็(นเรั��องของคำว่ามสามารัถึในการัโน�มน�าว่ใจผู/�อ��น การัเม�องไที่ยม�เรั��องของอ&ที่ธิ&พลเข�ามาเก��ยว่ข�องตลอด้เว่ลา

3. การุเมื�องเป�นเรุ��องการุใช#อ�านาจในการุแจกแจงแบ6งสรุรุส��งท �มื คิ�ณคิ6าข้องส�งคิมื

เดว�ด อ สต�น (David Easton) มองว่�า การัเม�องเป็(นเรั��องของการัใช้�อ�านาจอ�นช้อบธิรัรัมในการัแจกแจงส&�งที่��ม�คำ$ณคำ�าของส�งคำม โด้ยที่��ผูลที่��ออกมาจากการัต�ด้ส&นใจจะผู/กม�ด้ก�บที่$กคำนในส�งคำม เช้�น พรัรัคำการัเม�องเสนอนโยบายเพ��อหว่�งจะสรั�างการัก&นด้�อย/�ด้� น�างบป็รัะมาณ ก�าล�งคำนภาคำรั�ฐ และเคำรั��องไม�เคำรั��องม�อที่��ม�มาบ�าบ�ด้ที่$กขบ�ารั$งส$ขให�ก�บป็รัะช้าช้น

สรั$ป็ เรัาจะเข�าใจการัเม�องได้�ด้�ก+ต�อเม��อเรัามองการัเม�องจากสามม$มองหล�กด้�งต�อไป็น�2

~ 7 ~

มื�มืมืองแรุก เรัาอาจจะเข�าใจการัเม�องได้�จากป็รัะโยคำที่��เช้��อว่�าเป็(นก&จกรัรัมที่��เป็(นการัเม�องโด้ยธิรัรัมช้าต& ได้�แก�

1. การัเม�องเป็(นเรั��องของพฤต&กรัรัมที่��เก��ยว่ข�องก�บสถึาบ�นและการัป็ฏ&บ�ต&หน�าที่��ของรั�ฐบาล สถึาบ�นส�าคำ�ญที่างการัเม�อง เช้�น พรัรัคำการัเม�อง รั�ฐสภา รั�ฐบาล พฤต&กรัรัมต�าง ๆ ของสมาช้&กสถึาบ�นเหล�าน�2ล�ว่นเป็(นเรั��องการัเม�องที่�2งส&2น ไม�ว่�าจะเป็(นการัป็รัะช้$มสภา การัป็รัะช้$ม คำรัม. และอ��น ๆ

2. การัเม�องเป็(นเรั��องของการัแจกแจงที่รั�พยากรัที่��ม�อย/�อย�างจ�าก�ด้ งบป็รัะมาณแต�ละป็Hม�อย/�อย�างจ�าก�ด้ ที่�าอย�างไรัจ%งจะน�างบป็รัะมาณที่��ม�อย/�อย�างจ�าก�ด้น�2นมาแก�ไขป็@ญหาให�ก�บป็รัะช้าช้นได้�

3. การัเม�องเป็(นป็ฏ&ก&รั&ยาของมน$ษยที่��เก��ยว่ข�องก�บอ�านาจ การัเม�องเป็(นเรั��องของการัต�อส/�เพ��อให�ได้�มาซึ่%�งอ�านาจ

มื�มืมืองท � 2 มองการัเม�องจากคำ�าถึามคำ�าตอบที่��คำว่รัต�2งเพ��อที่��จะเข�าใจการัเม�อง ได้�แก�

1. ที่�าไมกล$�ม/องคำกรั พรัรัคำการัเม�องใด้ ๆ สามารัถึด้�ารังอย/�ได้�ที่�ามกลางอ$ป็สรัรัคำและกรัะแสของการัเป็ล��ยนแป็ลงที่��เก&ด้ข%2น เช้�น พรัรัคำป็รัะช้าธิ&ป็@ตย สามารัถึด้�าเน&นงานที่างการัเม�องอย�างต�อเน��องได้�หกส&บกว่�าป็H ที่�าไมบางพรัรัคำอย/�ไม�นานก+หายไป็ คำ�าตอบก+เป็(นเรั��องของการัเม�องน��นเอง

2. ที่�าไมคำนบางคำนบางกล$�มจ%งสามารัถึข%2นส/�อ�านาจและรั�กษาอ�านาจเอาไว่�ได้� ในขณะที่��บางคำนไม�สามารัถึรั�กษาอ�านาจไว่�ได้�ในเว่ลาอ�นสมคำว่รัอย/�ได้�แคำ�ในรัะยะส�2น ๆ เที่�าน�2น แถึมบางคำนไม�สามารัถึข%2นส/�อ�านาจได้�เลยไม�ว่�าจะพยายามมาก��คำรั�2งแล�ว่ก+ตาม คำ�าตอบเป็(นเรั��องของการัเม�อง

3. สภาพที่างเศรัษฐก&จและส�งคำมในแบบใด้ที่��น�าไป็ส/�การัป็กคำรัองในรั/ป็แบบที่��แตกต�างก�น เช้�น ป็รัะเที่ศที่��ใช้�อ$ด้มการัณส�งคำมน&ยมเป็(นแนว่ที่างในการัด้�าเน&นช้�ว่&ต รั�ฐเข�าไป็ก�าก�บคำว่บคำ$มป็@จจ�ยการัผูล&ตของส�งคำมน�าไป็ส/�การัแจกแจงแบ�งสรัรัที่รั�พยากรับนพ�2นฐานของคำว่ามเป็(นธิรัรัมเน�นคำว่ามก&นด้�อย/�ด้�ของส�งคำมโด้ยรัว่ม (Well-being) เพ��อลด้ช้�องว่�างรัะหว่�างช้นช้�2นให�

~ 8 ~

แคำบลงโด้ยใช้�นโยบายรั�ฐสว่�สด้&การั (Welfare State) เช้�น เรั�ยนฟรั� รั�กษาพยาบาลฟรั� เรั�ยนจบแล�ว่ม�งานที่�า ตกงานรั�ฐม�เง&นช้�ว่ยเหล�อให� รัะหว่�างน�2นรั�ฐก+ต�องหางานใหม�ให�ด้�ว่ย ถึ�าไม�ม�คำว่ามรั/ �ในงานใหม�แต�เป็(นงานที่��อยากที่�า รั�ฐก+จะจ�ด้โคำรังการัต�นกล�าอาช้�พให� น�ามาอบรัมจนที่�างานเป็(นแล�ว่ให�ที่�างาน ส�งคำมแบบน�2ม�กม�รั/ป็แบบการัป็กคำรัองเป็(นเผูด้+จการั (Dictatorship) รั�ฐต�องม�อ�านาจมากในการัด้�าเน&นการัเพ��อให�เป็(นไป็ตามอ$ด้มการัณส�งคำมน&ยม ในที่างตรังข�ามส�งคำมที่��ย%ด้ม��นอ$ด้มการัณเศรัษฐก&จแบบเสรั�น&ยมที่��ให�เสรั�ภาพในการัป็รัะกอบการับนพ�2นฐานคำว่ามเช้��อว่�า คำนเรัาเก&ด้มาม�คำว่ามรั/ �คำว่ามสามารัถึแตกต�างก�น ใคำรัม�คำว่ามสามารัถึมากกว่�าม�ส&ที่ธิ&ที่��จะใช้�ส&�งที่��ตนเองม�ด้�าเน&นการัเพ��อสรั�างคำว่ามม��งคำ��งให�ก�บตนเอง ล�ที่ธิ&ที่างเศรัษฐก&จแบบน�2ม�กเอ�2อต�อการัป็กคำรัองในรัะบอบป็รัะช้าธิ&ป็ไตย ล�ที่ธิ&เศรัษฐก&จแบบหน%�งจะเอ�2อต�อรั/ป็แบบการัเม�องการัป็กคำรัองแบบหน%�ง

มื�มืมืองท �สามื จะมองการัเม�องจากก&จกรัรัมหรั�อพฤต&กรัรัมที่��ส�าคำ�ญๆ ได้�แก�

1. การัเม�องเป็(นเรั��องของคำว่ามข�ด้แย�ง อาจเป็(นคำว่ามข�ด้แย�งรัะหว่�างกล$�มต�าง ๆ หรั�อ คำว่ามข�ด้แย�งรัะหว่�างผู/�น�าที่างการัเม�องด้�ว่ยก�น

2. การัเม�องเป็(นเรั��องการัต�อส/�เพ��อแย�งช้&งอ�านาจ 3. การัเม�องเป็(นเรั��องของก&จกรัรัมของผู/�น�า 4. การัเม�องเป็(นเรั��องของการัต�ด้ส&นใจของผู/�ม�อ�านาจหน�าที่��ที่างการั

เม�อง คำ�าตอบเก��ยว่ก�บการัเม�องม�หลายคำ�าตอบข%2นอย/�ก�บม$มมองของน�ก

ว่&ช้าการัแต�ละคำนว่�าจะเน�นศ%กษาการัเม�องในแง�ใด้ แต�ละม$มมองที่�าให�น�กว่&ช้าการัก�าหนด้ย$ที่ธิว่&ธิ�ในการัศ%กษาที่�าคำว่ามเข�าใจการัเม�องแตกต�างก�น ย$ที่ธิว่&ธิ�ในการัศ%กษาการัเม�องหรั�อ Approach จ%งม�อย/�มากมาย โด้ยแต�ละ Approach ม�พ�2นฐานคำว่ามเช้��อว่�าการัเม�องคำ�ออะไรัแตกต�างก�นไป็ เช้�น

-Power Approach มองว่�า การัเม�องคำ�อการัต�อส/�เพ��ออ�านาจ

~ 9 ~

-Interest Group Approach มองว่�า การัเม�องเป็(นคำว่ามข�ด้แย�งในผูลป็รัะโยช้น

-System Approach มองว่�า การัเม�องเป็(นเรั��องของการัใช้�อ�านาจอ�นช้อบธิรัรัมในการัแจกแจงแบ�งสรัรัที่รั�พยากรัและส&�งม�คำ$ณคำ�าในส�งคำม ผูลที่��ได้�จาการัต�ด้ส&นใจของผู/�ม�อ�านาจจะบ�งคำ�บใช้�ก�บคำนที่$กคำน

-Elite Approach มองว่�า การัเม�องเป็(นก&จกรัรัมของช้นช้�2นน�า-Decision Making Approach มองว่�า การัเม�องเป็(นการัต�ด้ส&น

ใจของผู/�ม�อ�านาจเห+นได้�ว่�าแต�ละ Approach มองการัเม�องในม$มมองที่��แตกต�างก�นไป็

เพรัาะน�กว่&ช้าการัแต�ละคำนพยายามสรั�างเคำรั��องม�อในการัที่�าคำว่ามเข�าใจการัเม�องจากม$มมองของตนเอง ที่�าให�ม� Approach มากมายในการัศ%กษา

(อาจารัยเคำยออกข�อสอบว่�า จากม$มมองการัเม�องที่��แตกต�างก�นไป็ย�งผูลให�เก&ด้ Approach ต�าง ๆ ตามมามากมาย จงยกต�ว่อย�างให�เห+นอย�างช้�ด้เจน)

พ�7นฐานคิวามืเช��อรุ6วมืก�นข้องคิ�าว6าการุเมื�องน�กว่&ช้าการัแต�ละคำนอาจจะมองการัเม�องแตกต�างก�น แต�น�กว่&ช้าการั

เหล�าน�2ม�พ�2นฐานคำว่ามเช้��อเก��ยว่ก�บการัเม�องรั�ว่มก�นคำ�อ1. ที่$กส�งคำมม�ป็@ญหาหล�กเหม�อนก�นคำ�อการัขาด้แคำลนที่รั�พยากรั

อ$ป็สงคำ (Demand) จะม�มากกว่�าอ$ป็ที่าน (Supply) อย/�ตลอด้เว่ลา งบป็รัะมาณ ก�าล�งคำน เคำรั��องไม�เคำรั��องม�อของรั�ฐม�อย/�อย�างจ�าก�ด้ แต�คำว่ามต�องการัของป็รัะช้าช้นม�มากมายเก&นกว่�าที่��งบป็รัะมาณของรั�ฐจะสนองได้�

2. คำว่ามจ�าเป็(นที่��ต�องม�รั�ฐบาล เม��อที่รั�พยากรัม�น�อยคำว่ามต�องการัม�มากเพ��อป็กป็Bองไม�ให�เก&ด้คำว่ามโกลาหลในส�งคำมอ�นเน��องมาจากกล$�มคำนที่��แข+งแรังกว่�าเข�ามาแก�งแย�งที่รั�พยากรัของส�งคำมเพ��อเอาป็รัะโยช้นให�แก�กล$�มของตน ที่$กส�งคำมจ%งจ�าเป็(นต�องจ�ด้ต�2งองคำกรัข%2นมาที่�าหน�าที่��แจกแจง

~ 10 ~

แบ�งสรัรัที่รั�พยากรัของส�งคำมคำ�อรั�ฐบาล รั�ฐบาลจะที่�าหน�าที่��แจกแจงที่รั�พยากรับนพ�2นฐานการัยอมรั�บของสมาช้&กในส�งคำม

3. ในกรัะบว่นการัของการัแจกแจงที่รั�พยากรัของรั�ฐจะม�ที่�2งคำนที่��ได้�ป็รัะโยช้นและเส�ยป็รัะโยช้นเพรัาะงบป็รัะมาณม�จ�าก�ด้

4. ในที่$กส�งคำมคำนที่��ได้�ป็รัะโยช้น (Haves อ�านว่�าแฮิฟส ไม�ใช้�ฮิาเว่ส)

เป็(นคำนจ�านว่นไม�มาก กล$�มที่��เส�ยป็รัะโยช้น (Have - nots) ม�จ�านว่นมากกว่�าและมองว่�าตนเองไม�ได้�รั�บคำว่ามเป็(นธิรัรัม

5. กล$�มที่��เส�ยป็รัะโยช้นพยายามรัว่มต�ว่ก�นเข�าไป็ม�ส�ว่นรั�ว่มที่างการัเม�อง รั$กเรั�าขอให�รั�ฐด้�าเน&นการัเอ�2อป็รัะโยช้นให�กล$�มตนเองบ�าง อาจด้�าเน&นการัตามกฎหมาย ส�นต&ว่&ธิ� หรั�อใช้�ก�าล�งรั$นแรัง

6. ในขณะเด้�ยว่ก�นกล$�มที่��ได้�ป็รัะโยช้นอย/�แล�ว่ก+พยายามต�อต�านกล$�มที่��เรั�ยกรั�องโด้ยอ�างว่�ารั�ฐบาลที่�าด้�อย/�แล�ว่

7. กล$�มที่��ได้�ป็รัะโยช้นอย/�ในฐานะที่��ได้�เป็รั�ยบอย/�แล�ว่ม�โอกาสเหน�อกล$�มอ��น ๆ จะใช้�ว่&ธิ�การัที่$กอย�างเพ��อรั�กษาสถึานภาพที่��ได้�เป็รั�ยบของตนเองเอาไว่� โด้ยส�ว่นใหญ�กล$�ม Haves จะเป็(นผู/�ป็กคำรัอง ช้นช้�2นส/ง นายที่$นซึ่%�งได้�ป็รัะโยช้นจากการัด้�าเน&นการัของรั�ฐ ออกกฎเกณฑกต&กาป็Bองก�นไม�ให�คำนอ��นเข�ามาแย�งช้&งผูลป็รัะโยช้นของตน เช้�น สรั�างคำว่ามเช้��อว่�าที่��ป็รัะช้าช้นเก&ด้มาอด้อยากยากแคำ�นเพรัาะช้าต&ที่��แล�ว่ที่�ากรัรัมไว่�มาก ผู/�ป็กคำรัองที่��ม�อ�านาจว่าสนาบารัม�เพรัาะช้าต&ที่��แล�ว่ที่�าบ$ญ เพรัาะฉะน�2นคำนจนก+คำว่รัก�มหน�ารั�บกรัรัมแล�ว่ที่�าสมาธิ&อย�าไป็คำ&ด้อะไรัให�มาก

สรั$ป็ การัเม�องจ%งเป็(นเรั��องของป็ฏ&กรั&ยารัะหว่�างผู/�ป็กคำรัองก�บผู/�ถึ/กป็กคำรัอง และเป็(นการัแก�งแย�งส&ที่ธิ&ที่��จะม�อ�านาจในการัป็กคำรัองรัะหว่�างผู/�ป็กคำรัองด้�ว่ยก�นเองอ�กด้�ว่ย การัรั�ฐป็รัะหารัก+คำ�อการัแย�งอ�านาจรัะหว่�างผู/�ป็กคำรัองด้�ว่ยก�นน��นเอง

อ�ดมืการุณ�ทางการุเมื�อง (Political Ideology)

~ 11 ~

อ$ด้มการัณ คำ�อ รัะบบคำ�าน&ยมหรั�อคำว่ามเช้��อที่��บ$คำคำลใด้ ๆ ยอมรั�บเสม�อนว่�าเป็(นข�อเที่+จจรั&งหรั�อคำว่ามจรั&ง เช้�น

-อ$ด้มการัณป็รัะช้าธิ&ป็ไตย คำนที่��ย%ด้ม��นในอ$ด้มการัณน�2ต�างยอมรั�บว่�าอ�านาจอธิ&ป็ไตยอ�นเป็(นอ�านาจส/งส$ด้เป็(นของป็ว่งช้น ไม�ใช้�ของใคำรัคำนใด้คำนหน%�ง คำนเรัาต�างม�ส&ที่ธิ&เสรั�ภาพม�เหต$ม�ผูลด้�ว่ยก�นที่$กคำน ม�คำว่ามสามารัถึในการัป็กคำรัองตนเองได้�

-อ$ด้มการัณฟาสซึ่&สต คำนที่��เช้��อม��นในอ$ด้มการัณน�2ต�างยอมรั�บรั�ว่มก�นว่�าผู/�น�าส/งส$ด้เป็(นคำนเด้�ยว่เที่�าน�2นที่��จะน�าพาป็รัะเที่ศช้าต&ไป็ส/�เป็Bาหมายคำว่ามเป็(นเอกภาพ คำนเรัาเก&ด้มาไม�เที่�าเที่�ยมก�น ผู/�น�าเป็(นบ$คำคำลพ&เศษในหม/�ช้นช้�2นน�า ไม�ใช้�ใคำรัก+เป็(นผู/�น�าได้�

ฯลฯ อย�างไรัก+ตามไม�ได้�หมายคำว่ามว่�าที่$กคำว่ามเช้��อจะจ�ด้เป็(นอ$ด้มการัณ

เช้�น เช้��อว่�าว่&ญญาณล/กช้ายที่��เส�ยช้�ว่&ตไป็มาส&งในรั�างต�ว่เง&นต�ว่ที่อง เลยจ�บม�นมาอาบน�2าอาบที่�าเล�2ยงด้/ เหม�อนเป็(นคำน คำว่ามเช้��อแบบน�2ไม�ถึ�อเป็(นอ$ด้มการัณ คำว่ามเช้��อที่��อาจจ�ด้ได้�ว่�าเป็(นอ$ด้มการัณ ได้�แก� คำว่ามเช้��อที่��ม�ล�กษณะส�าคำ�ญด้�งต�อไป็น�2

1. คำว่ามเช้��อน�2นต�องเป็(นที่��ยอมรั�บรั�ว่มก�นของคำนในส�งคำม 2. เป็(นคำว่ามเช้��อที่��ส�มพ�นธิก�บเรั��องรัาว่ที่��ส�าคำ�ญของส�งคำม ถึ�าเป็(น

คำว่ามเช้��อเก��ยว่ก�บเรั��องรัาว่ของรั�ฐ เช้�น อ�านาจรั�ฐ การัใช้�อ�านาจรั�ฐ รั/ป็แบบการัป็กคำรัอง ก+เป็(นอ$ด้มการัณที่างการัเม�อง ถึ�าคำว่ามเช้��อน�2นเก��ยว่ข�องก�บเรั��องรัาว่ที่างเศรัษฐก&จก+จ�ด้เป็(นอ$ด้มการัณที่างเศรัษฐก&จ

3. เป็(นคำว่ามเช้��อที่��คำนในส�งคำมต�างย%ด้เป็(นแนว่ที่างการัป็ฏ&บ�ต&ในช้�ว่&ตอย�างสม��าเสมอ เช้�น อ$ด้มการัณป็รัะช้าธิ&ป็ไตยเช้��อว่�าที่$กคำนม�เหต$ผูล เพรัาะฉะน�2นว่&ถึ�ช้�ว่&ตของคำนในส�งคำมป็รัะช้าธิ&ป็ไตยจ%งให�เสรั�ภาพในการัแสด้งออก ยอมรั�บในเส�ยงข�างมาก เหต$ผูลใด้ที่��สามารัถึจ/งใจให�คำนส�ว่นใหญ�เห+นว่�าเป็(น

~ 12 ~

เหต$ผูลที่��ด้�ที่��ถึ/กต�องจะได้�รั�บการัสน�บสน$นโด้ยเส�ยงข�างมาก เป็(นมต&ที่��ป็รัะช้$มน�าไป็ส/�การัป็ฏ&บ�ต&ต�อไป็

4. เป็(นเคำรั��องม�อส�าคำ�ญในการัย%ด้เหน��ยว่กล$�มคำนให�เป็(นอ�นหน%�งอ�นเด้�ยว่ก�นได้� เช้�น คำว่ามรั�กใคำรั�ในหม/�ช้าว่คำ�ายอาสาพ�ฒนาช้นบที่ ที่��ย%ด้ม��นในอ$ด้มการัณเด้�ยว่ก�นรั/ �ส%กว่�าพว่กตนล�ว่นเป็(นพ��เป็(นน�องก�น เว่ลาได้�ย&นเพลงของช้าว่คำ�ายแล�ว่น�2าตาพาลจะไหลคำ&ด้ถึ%งบรัรัยากาศสม�ยออกคำ�าย

สม�ยอาจารัยเรั�ยนอย/�ธิรัรัมศาสตรัช้�ว่ง พ.ศ. 2512 – 2515 เคำยไป็ออกคำ�ายที่��โรังเรั�ยนบ�านเก&2ง อ�าเภอบ�านไผู� จ�งหว่�ด้ขอนแก�น เพ��อป็ล/กฝ่@งแนว่คำ&ด้ป็รัะช้าธิ&ป็ไตยแก�เยาว่ช้น (ไม�อ�อนด้�ด้ง�าย) เด้+กรั$ �นน�2นบางคำนป็@จจ$บ�นเป็(นนายอ�าเภออาว่$โสไป็แล�ว่ อาจารัยเป็(นห�ว่หน�าคำ�ายมา 4 ป็H รั/ �ด้�ว่�ายามที่$กขก+ที่$กขด้�ว่ยก�น ส$ขก+ส$ขด้�ว่ยก�น ในการัออกคำ�ายม�ป็@ญหามาให�แก�มากมาย เช้�น อย/�ไป็ไม�ก��ว่�นข�าว่สารัหมด้ ล/กคำ�ายไม�ม�ข�าว่ก&นต�องว่&�งหาก�นให�ว่$ �นว่ายแต�น��นคำ�อคำว่ามสาม�คำคำ�ของที่$กคำนที่��ต�องฝ่Fาฟ@นแก�ป็@ญหารั�ว่มก�น ถึ%งว่�นป็Jด้คำ�ายที่�าก&จกรัรัมรัอบกองไฟรั�องเพลงป็รัะจ�าคำ�าย เรัาอาสาและพ�ฒนา“ ใจเรั&งรั�าและสาม�คำคำ� สมาช้&กก+น�2าห/น�2าตาไหลก�นไป็ อาจารัยย�งจ�าภาพว่�น…”

น�2นได้�ด้� ผู�านไป็สามส&บป็Hป็รัะมาณ พ.ศ. 2545 หน�าตาแต�ละคำนเป็ล��ยนแป็ลงไป็มาก อาจารัยได้�รั�บเช้&ญไป็บรัรัยายในโคำรังการัรั�ว่มม�อก�บสถึาบ�นที่หารัช้�2นส/ง ล/กศ&ษยเป็(นที่หารัน��งก�นหน�าสลอน อาจารัยก+สอนเรั��องอ$ด้มการัณที่างการัเม�องเหม�อนอย�างที่��ก�าล�งสอนให�น�กศ%กษาฟ@งอย/�ขณะน�2 พอพ�กเบรักม�นายที่หารัคำนหน%�งเด้&นเข�ามาหาแล�ว่ตบป็Bาบเข�าไป็ที่��ไหล�อาจารัยบอก ม%งจ�าก/ได้�ม� 2ย ป็รัากฏว่�าเป็(นพรัรัคำพว่กที่��เคำยออกคำ�ายที่��บ�านเก&2งด้�ว่ย“ ”

ก�น พอรั/ �ว่�าเป็(นช้าว่คำ�ายรั�ว่มก�นมาก�อนที่�2งอาจารัยและเพ��อนก+กอด้ก�นกลม เก&ด้คำว่ามรั/ �ส%กของคำว่ามเป็(นพว่กเด้�ยว่ก�น เคำยตกที่$กขได้�ยากก&นข�าว่หม�อเด้�ยว่ก�นมาก�อน เป็(นคำนรั�ว่มอ$ด้มการัณเด้�ยว่ก�น

หน�าที่��ของอ$ด้มการัณ

~ 13 ~

1. เป็(นเคำรั��องม�อช้�ว่ยสรั�างคำว่ามช้อบธิรัรัมให�ก�บรัะบบการัป็กคำรัองและสถึาบ�นที่างการัเม�องในขณะน�2น เช้�น ป็รัะเที่ศไที่ยใช้�อ$ด้มการัณป็รัะช้าธิ&ป็ไตยเป็(นอ$ด้มการัณที่างการัเม�อง กรัะบว่นการัที่างการัเม�องภายในเป็(นไป็ภายใต�อ$ด้มการัณป็รัะช้าธิ&ป็ไตย

2. ช้�ว่ยสรั�างคำว่ามเป็(นอ�นหน%�งอ�นเด้�ยว่ก�นและรัะด้มสรัรัพก�าล�งของคำนในช้าต& เช้�น เม��อเก&ด้ว่&กฤตรั�ฐบาลจะใช้�อ$ด้มการัณช้าต&น&ยมป็ล$กจ&ตส�าน%กป็รัะช้าช้นให�สาม�คำคำ�เป็(นหน%�งเด้�ยว่ก�น รั�องเพลงช้าต&ว่นก�นที่$กจ�งหว่�ด้มาจบลงที่��กรั$งเที่พฯ เพลงป็ล$กใจถึ/กเป็Jด้ที่$กว่�นเพ��อให�คำนไที่ยสาม�คำคำ�ก�น

3. ช้�ว่ยป็ล$กเรั�ามว่ลช้นโด้ยเฉพาะในยามที่��บ�านเม�องม�ป็@ญหา เช้�น ในยามสงคำรัาม ยามเก&ด้ว่&กฤตเศรัษฐก&จ ป็รัะช้าช้นถึ/กป็ล$กเรั�าให�รั�กช้าต& ช้�ว่ยก�นรั�ด้เข+มข�ด้

4. ช้�ว่ยในการัส��อสารัรัะหว่�างก�น โด้ยใช้�ส��อภาษาที่��เข�าใจก�นรัะหว่�างผู/�ม�อ$ด้มการัณเด้�ยว่ก�น

5. ช้�ว่ยให�เรัาสามารัถึแสด้งออกถึ%งคำว่ามต�องการั เป็(นการัช้�ว่ยป็ลด้ป็ล�อยแรังผูล�กด้�นจากภายในได้� เช้�น ถึ�าเรัาม�คำว่ามอ�ด้อ�2นต�นใจในเรั��องใด้เรั��องหน%�งแต�ถึ�าม�เพ��อนรั�ว่มอ$ด้มการัณที่��เข�าอกเข�าใจเรัา จะช้�ว่ยให�เรัารัะบายคำว่ามอ�ด้อ�2นต�นใจน�2นออกมาได้� เพ��อนจะรั�บฟ@งอย�างเข�าอกเข�าใจและส��อสารัต�อเน��องก�น แต�ถึ�าไป็คำ$ยก�บคำนต�างอ$ด้มการัณจะคำ$ยก�นไม�รั/ �เรั��อง

6. เป็(นป็@จจ�ยที่��จะช้�ว่ยว่&พากษว่&จารัณส�งคำมในต�ว่เอง ช้�ว่ยให�เก&ด้คำว่ามเช้��อใหม�ที่��ที่นต�อการัว่&พากษ อ$ด้มการัณที่��ต� 2งอย/�บนพ�2นฐานคำว่ามเช้��อที่��ไม�อาจตอบคำ�าถึามของส�งคำมได้�ผู/�คำนจะเส��อมศรั�ที่ธิา ไม�ยอมรั�บอ$ด้มการัณน�2น ๆ อ�กต�อไป็แต�จะห�นไป็ยอมรั�บอ$ด้มการัณหรั�อคำว่ามเช้��อใหม�

7. ช้�ว่ยให�คำนออกมาเคำล��อนไหว่หรั�อกรัะที่�าการัที่างการัเม�องในรั/ป็แบบใด้ ๆ ก+ได้� เช้�น คำนก�มพ/ช้าออกมาเผูาสถึานที่/ตไที่ย

อ�ดมืการุณ�ทางการุเมื�องก�บเศึรุษฐก�จ

~ 14 ~

ในที่$กส�งคำมจะม�อ$ด้มการัณใหญ� ๆ สองอ$ด้มการัณคำ�ออ$ด้มการัณที่างเศรัษฐก&จและอ$ด้มการัณที่างการัเม�อง

เข�ยนกรัาฟสองแกนให�แกนนอนเป็(นอ$ด้มการัณเศรัษฐก&จ แกนต�2งเป็(นอ$ด้มการัณที่างการัเม�อง ป็รัะช้าธิ&ป็ไตย

A B

ส�งคำมน&ยม ที่$นน&ยม

C Dเผูด้+จการัเบ+ด้เสรั+จ

ถึ�าคำนในส�งคำมเช้��อว่�าอ�านาจอธิ&ป็ไตยซึ่%�งเป็(นอ�านาจส/งส$ด้ในที่างการัเม�องคำว่รัตกอย/�ในม�อของคำนส�ว่นใหญ�เรั�ยกอ$ด้มการัณที่างการัเม�องน�2ว่�า ป็รัะช้าธิ&ป็ไตย ในที่างตรังข�ามถึ�าอ�านาจอธิ&ป็ไตยตกอย/�ในม�อคำน ๆ เด้�ยว่ ม�ส&ที่ธิ&ใช้�อ�านาจอธิ&ป็ไตยเพ�ยงล�าพ�งเรั�ยกอ$ด้มการัณที่างการัเม�องน�2ว่�าเผูด้+จการัเบ+ด้เสรั+จ (Totalitarianism) เช้�น นาซึ่� ฟาสซึ่&สม (อ�านาจส/งส$ด้อย/�ในม�อผู/�ป็กคำรัองเพ�ยงคำนเด้�ยว่)

แกนนอนเป็(นคำว่ามคำ&ด้คำว่ามเช้��อเรั��องการัจ�ด้การัที่างเศรัษฐก&จ (อ$ด้มการัณที่างเศรัษฐก&จ) ถึ�าเช้��อว่�าอ�านาจในการัก�าหนด้ว่&ถึ�ช้�ว่&ตที่างเศรัษฐก&จของป็รัะช้าช้นอย/�ในม�อของคำนบางคำนบางกล$�ม เรั�ยกอ$ด้มการัณเศรัษฐก&จน�2ว่�าที่$นน&ยม ในที่างตรังข�ามถึ�าเช้��อว่�าอ�านาจในการัก�าหนด้ว่&ถึ�ช้�ว่&ตที่างเศรัษฐก&จของป็รัะช้าช้นอย/�ในม�อของส�งคำมโด้ยรัว่ม เรั�ยกอ$ด้มการัณเศรัษฐก&จน�2ว่�า ส�งคำมน&ยม ส�งคำมเป็(นเจ�าของป็@จจ�ยการัผูล&ต

ในแต�ละป็รัะเที่ศย�อมย%ด้ถึ�ออ$ด้มการัณที่างการัเม�องและอ$ด้มการัณที่างเศรัษฐก&จอย�างใด้อย�างหน%�งในส��กล$�ม

~ 15 ~

กล$�ม A คำ�อป็รัะเที่ศที่��ป็กคำรัองในรัะบอบป็รัะช้าธิ&ป็ไตยใช้�รัะบบเศรัษฐก&จแบบส�งคำมน&ยม เช้�น กล$�มป็รัะเที่ศสแกนด้&เนเว่�ย อาที่& นอรัเว่ย สว่�เด้น ฟJนแลนด้ เด้นมารัคำ ม�การัเล�อกต�2ง พรัรัคำการัเม�องแข�งข�นก�น เป็(นป็รัะช้าธิ&ป็ไตยในรัะบบรั�ฐสภา แต�รั�ฐบาลช้/นโยบายส�งคำมน&ยมเป็(นรั�ฐสว่�สด้&การั

กล$�ม B การัเม�องเป็(นป็รัะช้าธิ&ป็ไตย เศรัษฐก&จที่$นน&ยม เช้�น สหรั�ฐอเมรั&กา อ�งกฤษ ไที่ย ส&งคำโป็รั ญ��ป็$Fน ออสเตรัเล�ย

กล$�ม C เผูด้+จการัที่างการัเม�อง เศรัษฐก&จส�งคำมน&ยม เช้�น พม�า จ�น เว่�ยด้นาม ลาว่

กล$�ม D เผูด้+จการัที่างการัเม�อง เศรัษฐก&จที่$นน&ยม เช้�น ป็รัะเที่ศในตะว่�นออกกลางหลายป็รัะเที่ศที่��อ�านาจที่างการัเม�องตกอย/�ในม�อของผู/�ป็กคำรัอง หรั�อป็รัะเที่ศไที่ยสม�ยจอมพลสฤษด้&K ธินะรั�ช้ต เป็(นเผูด้+จการัที่างการัเม�องแต�รัะบบเศรัษฐก&จเป็(นแบบที่$นน&ยม นายที่$นย�งคำงที่�ามาหาก&นได้�ตามป็กต&

แต�ละกล$�มป็รัะเที่ศย�งม�คำว่ามเข�มข�นของอ$ด้มการัณที่างการัเม�องและเศรัษฐก&จแตกต�างก�น เช้�น ในกล$�ม B สหรั�ฐอเมรั&กาป็รัะช้าธิ&ป็ไตยและที่$นน&ยมเก�อบเต+มรั�อย ป็รัะเที่ศไที่ยม�คำว่ามเป็(นป็รัะช้าธิ&ป็ไตยและที่$นน&ยมต��ากว่�าสหรั�ฐฯ การัม�รั�ฐว่&สาหก&จคำ�อแนว่คำ&ด้ส�งคำมน&ยม รั�ฐเป็(นเจ�าของป็@จจ�ยการัผูล&ตเพ��อเป็(นหล�กป็รัะก�นให�คำนในส�งคำมว่�าอย�างน�อยคำนที่��ม�ฐานะยากจนที่��ส$ด้ย�งม�โอกาสได้�บรั&โภคำก&จการัสาธิารัณ/ป็โภคำ ไม�ว่�าจะเป็(นป็รัะป็า ไฟฟBา รัถึเมล รัถึไฟ สม�ยอาจารัยเรั�ยนธิรัรัมศาสตรัรัถึเมลเป็(นของบรั&ษ�ที่เอกช้นม�ให�เล�อกมากมายไป็หมด้ที่�2งรัถึเมลเข�ยว่ รัถึเมลขาว่ รัถึนายเล&ศ พอถึ%งสม�ยรั�ฐบาล ม.รั.ว่.คำ%กฤที่ธิ&K ป็รัาโมช้ ป็รัะกาศย%ด้รัถึเมลมาเป็(นของรั�ฐต�2ง ข.ส.ม.ก.ข%2นมาด้/แล เพ��อสรั�างหล�กป็รัะก�นให�ก�บป็รัะช้าช้นว่�า คำนในกรั$งเที่พฯ ที่��ยากจนที่��ส$ด้ย�งม�เง&นพอที่��จะจ�ายคำ�ารัถึเมลโด้ยสารัได้� ถึ�าป็ล�อย

~ 16 ~

ให�เอกช้นด้�าเน&นการัต�อไป็อาจรัว่มห�ว่ก�นข%2นคำ�าโด้ยสารัเพรัาะเป็(นช้�ว่งเก&ด้ว่&กฤตการัณน�2าม�น

ท�ศึนคิต�ทางการุเมื�อง (Political Attitude)

น�กศ%กษาคำงจะเคำยได้�ย&นว่�า พว่กน&ส&ตน�กศ%กษาเป็(นพว่กห�ว่เอ�ยงซึ่�าย ที่หารั ต�ารัว่จ กองก�าล�งจ�ด้ต�2ง ล/กเส�อช้าว่บ�าน นว่พลเป็(นพว่กห�ว่เอ�ยงขว่า เหต$การัณ 6 ต$ลาคำม 2519 ที่��เข�นฆ่�าก�นจนน�กศ%กษาป็รัะช้าช้นกล$�มหน%�งต�องหน�เข�าป็Fา น�กหน�งส�อพ&มพเรั�ยกเหต$การัณน�2ว่�า ขว่าพ&ฆ่าตซึ่�าย การั“ ”

เอ�ยงซึ่�ายเอ�ยงขว่าเป็(นเรั��องของที่�ศนคำต&ที่างการัเม�อง ที่�ศนคำต&ที่างการัเม�อง หมายถึ%ง แบบแผูนของคำ�าน&ยม คำว่ามเช้��อของ

บ$คำคำลที่��พ%งม�ต�อสรัรัพส&�งในที่างการัเม�อง น�กว่&ช้าการัได้�แบ�งที่�ศคำต&ที่างการัเม�องเป็(น 5 กล$�มตามแกนซึ่�าย ขว่า ด้�งน�2

Radical Liberal Moderate ConservativeReactionary

ซึ่�าย กลาง ขว่า

1. กล$�มที่��อย/�ซึ่�ายส$ด้ของแกนเรั�ยกว่�าพว่กที่��ม�ที่�ศนคำต&ที่างการัเม�องแบบ Radical หรั�อ พว่กห�ว่ก�าว่หน�า บางคำรั�2งเรั�ยกว่�า พว่กห�ว่รั$นแรัง ซึ่�ายจ�ด้ ซึ่�ายก�าว่หน�า หรั�อซึ่�ายตกขอบ

2. พว่กเสรั�น&ยม (Liberal) ม�คำว่ามคำ&ด้แบบเสรั� เป็(นพว่กซึ่�ายแต�ไม�รั$นแรังแบบ Radical

3. พว่กสายกลาง (Moderate) เป็(นพว่กที่��ม�ที่�ศนคำต&ที่��เป็(นกลาง 4. พว่กอน$รั�กษน&ยม (Conservative) ม�ที่�ศนคำต&ที่างการัเม�องที่��

เป็(นขว่า 5. พว่กป็ฏ&ก&รั&ยา (Reactionary) เป็(นพว่กขว่าจ�ด้หรั�อขว่าตกขอบ มืาตรุการุท �ใช#ในการุว�ดท�ศึนคิต�ทางการุเมื�อง

~ 17 ~

1. คิวามืคิ�ดเห3นในเรุ��องข้องการุเปล �ยนแปลง (Change)

(Progression – Regression: ก�าว่หน�า ถึด้ถึอย– ) พว่กที่��เป็(นซึ่�ายจะเห+นด้�ว่ยก�บการัเป็ล��ยนแป็ลงแบบก�าว่หน�า ส�ว่นพว่กที่��เป็(นขว่าจะเห+นด้�ว่ยก�บการัเป็ล��ยนแป็ลงแบบถึด้ถึอย

-พว่กซึ่�ายที่�2ง Radical และ Liberal จะเห+นด้�ว่ยก�บการัเป็ล��ยนแป็ลงแบบก�าว่หน�า (Progression) เช้��อว่�า ในที่$กส�งคำมคำว่ามสามารัถึในการัอย/�รัอด้ข%2นอย/�ก�บคำว่ามสามารัถึในการัป็รั�บต�ว่ให�เข�าก�บการัเป็ล��ยนแป็ลงที่��ก�าว่หน�าตลอด้เว่ลา ไม�ม�ส�งคำมใด้รัอด้พ�นอ&ที่ธิ&พลของกรัะแสโลกาภ&ว่�ตนได้� พว่ก Radical เป็(นพว่กไว่ต�อคำว่ามรั/ �ส%ก อะไรัเป็(นอ$ป็สรัรัคำที่��ข�ด้ขว่างไม�ให�ส�งคำมก�าว่หน�าต�อไป็ต�องเสนอให�ผู/�ม�อ�านาจหาที่างเย�ยว่ยาแก�ไข โด้ยใช้�ว่&ธิ�ย��นคำ�าขาด้ให�ด้�าเน&นการัภายในเว่ลาที่��ก�าหนด้ ไม�สนใจกต&กาบ�านเม�อง อะไรัที่��เป็(นอ$ป็สรัรัคำข�ด้ขว่างการัเจรั&ญก�าว่หน�าก+พรั�อมที่��จะละเม&ด้ที่�นที่�

พว่ก Liberal เห+นด้�ว่ยก�บการัเป็ล��ยนแป็ลงแบบก�าว่หน�า เช้��อว่�าอนาคำตต�องด้�กว่�าป็@จจ$บ�น แต�ไม�เห+นด้�ว่ยก�บการัไม�เคำารัพกต&กาบ�านเม�องอย�างพว่ก Radical พว่ก Liberal ย�งคำงเคำารัพกฎกต&กาบ�านเม�องอย/� น&ยมใช้�ช้�องที่างที่��ม�แก�ไขป็@ญหารั�ว่มก�น ใช้�ว่&ธิ�การัที่��กฎหมายก�าหนด้ เช้�น ย��นข�อเรั�ยกรั�องผู�านต/� ป็ณ.111 อาสาคำลายที่$กข ส�าน�กงานรั�ฐสภา ฯลฯ ไม�น&ยมการัใช้�ก�าล�ง เน�นส�นต&ว่&ธิ�ป็รัะน�ป็รัะนอม เจรัจาหารั�อก�นตามแผูนป็รัองด้องแห�งช้าต&

-พว่กสายกลาง เป็(นพว่กอะไรัก+ได้�ยกเว่�นการัใช้�ก�าล�งรั$นแรัง น&ยมการัเป็ล��ยนแป็ลงเล+ก ๆ น�อย ๆ

-พว่กขว่าที่�2ง Conservative และ Reactionary เช้��อในที่างตรังข�าม ไม�ยอมรั�บการัเป็ล��ยนแป็ลงแบบก�าว่หน�า (Regression) ไม�อยากเห+นการัเป็ล��ยนแป็ลงด้�ว่ยเกรังว่�าการัเป็ล��ยนแป็ลงที่��เก&ด้ข%2นจะส�งผูลต�อ

~ 18 ~

สถึานภาพเด้&ม (Status Quo) ที่��พว่กตนอย/�ในฐานะได้�เป็รั�ยบ เป็(น The

Haves ที่��ม�สถึานะด้�กว่�าคำนที่��ว่ไป็ในส�งคำม ถึ�าเก&ด้การัเป็ล��ยนแป็ลงผูลป็รัะโยช้นที่��พว่กตนม�อย/�ในขณะน�2นอาจส/ญเส�ยไป็ก+ได้� พว่กน�2จ%งไม�อยากเห+นการัเป็ล��ยนแป็ลง ส�งเกตด้/ว่�าผู/�ม�อ�านาจม�กม�ที่�ศนคำต&ที่างการัเม�องเป็(นแบบ Conservative

ส�ว่นพว่ก Reactionary ไม�เห+นด้�ว่ยก�บการัเป็ล��ยนแป็ลงอย�างแน�นอน เพรัาะไม�รั/ �ว่�าเป็ล��ยนไป็แล�ว่อะไรัจะเก&ด้ข%2น ถึ�าเป็ล��ยนแล�ว่ส�งคำมเลว่รั�ายไป็กว่�าเด้&มใคำรัจะรั�บผู&ด้ช้อบ เรัาคำว่รัศ%กษาบรัรัพบ$รั$ษของเรัาที่��บ�านเม�องสงบเรั�ยบรั�อยเขาใช้�ว่&ธิ�การัใด้ และคำว่รัหว่นกล�บไป็น�าว่&ธิ�การัแบบน�2นมาใช้�อ�ก น�กการัเม�องไที่ยหลายคำนย�งคำ&ด้ถึ%งการับรั&หารับ�านเม�องแบบจอมพลสฤษด้&K ที่��บ�านเม�องสงบไม�ม�ขโมยขโจรั เพรัาะจอมพลสฤษด้&Kม�มาตรัา 17 จ�ด้การัก�บภ�ยส�งคำมได้�ที่�นที่�

2. คิ6าน�ยมื (Humanism – Private Property: มน$ษยน&ยม – ที่รั�พยส&นเอกช้น)

-พว่กที่��เป็(นซึ่�าย จะให�คำว่ามส�าคำ�ญก�บแนว่คำ&ด้มน$ษยน&ยม (Humanism) มองว่�าที่$กคำนในส�งคำมต�างม�ศ�กด้&Kศรั�คำว่ามเป็(นคำนเหม�อน ๆ ก�น ต�องการัป็@จจ�ยส�� ต�องการัการัใส�ใจด้/แลเหม�อน ๆ ก�น อยากอย/�อย�างม�ศ�กด้&Kศรั�คำว่ามเป็(นมน$ษยไม�ใช้�ถึ/กป็ล�อยป็ละเลยเป็(นส�ตว่ รั�ฐม�หน�าที่��ลด้ช้�องว่�างที่�าให�คำนในส�งคำมอย/�อย�างม�ศ�กด้&Kศรั�คำว่ามเป็(นมน$ษยให�ที่�ด้เที่�ยมก�นมากที่��ส$ด้

-พว่กขว่า จะมองตรังก�นข�าม เช้��อว่�าคำนเรัาเก&ด้มาไม�เที่�าเที่�ยมก�น บางคำนฉลาด้ บางคำนโง� มน$ษยม�ส&ที่ธิ&ที่��จะใช้�ส&�งที่��ตนเองได้�มาแสว่งหาคำว่ามส$ขคำว่ามสบายหรั�อที่รั�พยส&น พว่กขว่าจะให�คำว่ามส�าคำ�ญก�บแนว่คำ&ด้เรั��องที่รั�พยส&นเอกช้น (Private Property) อ�นหมายถึ%ง ที่รั�พยส&นที่��ได้�จากการัใช้�สถึานะที่��เหน�อกว่�าไป็แสว่งหาป็รัะโยช้นเพ��อต�ว่ของต�ว่เองเป็(นส�าคำ�ญ ในส�งคำมที่��เป็(นขว่าคำนย%ด้ม��นถึ�อม��นในแนว่คำ&ด้เรั��องที่รั�พยส&นเอกช้น จะเป็(น

~ 19 ~

ส�งคำมที่��ม�ช้�องว่�างรัะหว่�างช้นช้�2นกว่�างมาก ในส�งคำมแบบน�2คำ�ารั�าพ%งรั�าพ�นที่��ว่�า ม�อหน�าไม�รั/ �จะหาอะไรัก&นด้� ถึ�าออกจากป็ากคำนรัว่ยก+หมายคำว่ามว่�าก&นมา“ ”

หมด้แล�ว่ที่$กอย�างจนเบ��ออยากจะหาอะไรัแป็ลก ๆ มาก&นบ�าง แต�ถึ�าเป็(นคำนจนก+หมายคำว่ามว่�าไม�ม�อะไรัจะก&นจรั&ง ๆ ไม�รั/ �จะคำ$�ยจากกองขยะไหนมาก&น

3. คิวามืเช��อเก �ยวก�บคิวามืเสมือภาคิ (Equalitarianism)

และคิวามืเป�นชนช�7นน�า (Elitism)

-พว่กที่��เป็(นซึ่�ายจะให�ย%ด้ม��นถึ�อม��นก�บหล�กคำว่ามเสมอภาคำของคำนในส�งคำม (Equalitarianism) เช้��อว่�าคำนในส�งคำมต�างม�คำว่ามเที่�าเที่�ยมเสมอภาคำก�นในฐานะที่��เป็(นสมาช้&กของส�งคำม ม�ส&ที่ธิ&เที่�าเที่�ยมก�นในการัเข�าไป็ม�ส�ว่นรั�ว่มที่างการัเม�องและเศรัษฐก&จ ม�โอกาสข%2นเป็(นผู/�น�าของส�งคำมได้�เหม�อน ๆ ก�น

-พว่กขว่าจะให�คำว่ามส�าคำ�ญก�บหล�กผู/�น�าน&ยม (Elitism) เช้��อว่�า คำนเรัาไม�ได้�ม�คำว่ามเที่�าเที่�ยมก�น บางคำนฉลาด้ บางคำนอ�อนแอ เรัาจ%งคำว่รัเล�อกคำนที่��ฉลาด้ แข+งแรังมาเป็(นผู/�ป็กคำรัอง

4. มืาตรุการุในเรุ��องหล�กการุแห6งเหต�ผล (Rationalism)

และไมื6มื เหต�ผล (Irrationalism)

-พว่กซึ่�ายเช้��อม��นในหล�กการัแห�งเหต$ผูล (เหต$ผูลน&ยม) เช้��อว่�ามน$ษยที่$กคำนต�างม�เหต$ผูลด้�ว่ยก�นที่�2งส&2น เหต$ผูลจะน�าพาส�งคำมไป็ส/�ที่&ศที่างที่��ถึ/กต�อง จ%งคำว่รัให�ส&ที่ธิ&แก�ป็รัะช้าช้นในการัน�าเสนอเหต$ผูล เหต$ผูลใด้ได้�รั�บการัยอมรั�บจากเส�ยงข�างมากจะน�าไป็ส/�การัป็ฏ&บ�ต&

-พว่กขว่า ไม�เช้��อว่�าคำนเรัาจะม�เหต$ผูล (Irrationalism) โด้ยเฉพาะเหต$ผูลเพ��อส�ว่นรัว่ม ส�ว่นใหญ�เหต$ผูลที่��คำนยกมาอ�างเป็(นเหต$ผูลที่��เป็(นผูลป็รัะโยช้นส�าหรั�บตนเองที่�2งส&2น เพ��อไม�ให�ส�งคำมแตกแยกที่$กคำนไม�ต�องอ�างเหต$อ�างผูลป็ฏ&บ�ต&การัตามคำ�าส��งของผู/�น�าแคำ�น�2นเป็(นพอ

~ 20 ~

5. หล�กการุท �เป�นสากล (Internationalism) และหล�กการุชาต�น�ยมื (Nationalism)

-พว่กซึ่�าย จะเช้��อม��นในหล�กสากลน&ยม (Internationalism) เป็(นหล�กการัอ�นเป็(นที่��ยอมรั�บของคำนที่��ว่โลก เช้�น หล�กการัที่��ป็รัากฏอย/�ในป็ฏ&ญญาสากลว่�าด้�ว่ยส&ที่ธิ&มน$ษยช้นแห�งสหป็รัะช้าช้าต& เป็(นหล�กการัสากลที่��มน$ษยที่$กคำนต�องการัไม�ว่�าจะเป็(นคำนช้าต&ใด้ (Beyond Boundary)

-พว่กขว่าเช้��อม��นในหล�กการัช้าต&น&ยม (Nationalism) ม�คำว่ามคำ&ด้อย/�ในกรัอบพรัมแด้นของตนเอง มองว่�าช้าต&เป็(นส&�งส�าคำ�ญอย�างย&�งยว่ด้ที่��ที่$กคำนต�องให�คำว่ามสนใจ ย&�งขว่าจ�ด้ย&�งเรั�ยกรั�องให�ที่$กคำนเส�ยสละเพ��อช้าต& ฟาสซึ่&สตน�2นเรั�ยกรั�องให�ที่$กคำนเส�ยสละแม�กรัะที่��งช้�ว่&ตเพ��อคำว่ามย&�งใหญ�ของรั�ฐ

แนวการุศึ�กษา (Approaches) ทางรุ�ฐศึาสตรุ� คิวามืหมืายข้อง Approaches

1. อล�น ซ์ . ไอแซ์คิ (Alan C. Isaak) ให�คำว่ามหมายของ Approach ไว่�ว่�า

-An approach is a general strategy for studying

political phenomena. หรั�อ Approach หมายถึ%ง ย$ที่ธิว่&ธิ�โด้ยที่��ว่ ๆ ไป็ที่��ใช้�ส�าหรั�บศ%กษาหรั�อที่�าคำว่ามเข�าใจในเรั��องรัาว่หรั�อป็รัากฏการัณที่างการัเม�องที่��เก&ด้ข%2น หน%�ง Approach คำ�อหน%�งย$ที่ธิว่&ธิ�ที่��น�กรั�ฐศาสตรัใช้�ศ%กษาที่�าคำว่ามเข�าใจก�บเรั��องรัาว่ที่างการัเม�อง

-An Approach might provide framework for, or even take form of, a model or conceptual scheme or it might serve as the impetus for the development of a theory of

politics. หมายคำว่ามว่�า Approach หน%�ง ๆ จะให�กรัอบคำว่ามคำ&ด้ในการัศ%กษา อาจจะอย/�ในรั/ป็ของต�ว่แบบที่��ใช้�ในการัศ%กษาหรั�ออย/�ในรั/ป็ของแนว่คำ&ด้

~ 21 ~

สามารัถึใช้�เป็(นเคำรั��องม�อในการัพ�ฒนาเป็(นที่ฤษฎ�ที่างการัเม�องได้� แต�ละ Approach จ%งเป็(นกรัอบหรั�อต�ว่แบบหน%�งที่��น�าไป็ใช้�ในการัศ%กษา

-An approach is designed to include as wide a range of political phenomena as possible within a single

set of concepts. หมายถึ%ง Approach หน%�ง ๆ น�2นจะได้�รั�บการัออกแบบให�คำรัอบคำล$มป็รัากฏการัณที่างการัเม�องได้�หลากหลายป็รัากฏการัณ โด้ยอาศ�ยแนว่คำ&ด้หล�กเพ�ยงแนว่คำ&ด้เด้�ยว่ หรั�อช้$ด้คำอนเซึ่+ป็ตเพ�ยงช้$ด้เด้�ยว่เป็(นเคำรั��องม�อในการัที่�าคำว่ามเข�าใจป็รัากฏการัณที่างการัเม�อง เช้�น Power Approach น�าไป็ใช้�ศ%กษาป็รัากฏการัณที่างการัเม�องได้�ที่�2งสม�ยกรั$งศรั�อย$ธิยา การัเป็ล��ยนแป็ลงการัป็กคำรัอง พ.ศ.2475 การัรั�ฐป็รัะหารั พ.ศ.2490 รั�ฐป็รัะหารั 19 ก�นยายน พ.ศ.2549 ที่�2งหมด้เป็(นคำว่ามพยายามแย�งช้&งและรั�กษาไว่�ซึ่%�งอ�านาจ

2. William A. Welsh (ว�ลเล �ยมื เอ. เวลช�) ให�คำว่ามหมายไว่�ว่�า Approach หมายถึ%งช้$ด้หรั�อกล$�มของ Concept ที่��ม$�งเน�นหรั�อให�คำว่ามส�าคำ�ญก�บป็รัะเด้+นที่างการัเม�องด้�านใด้ด้�านหน%�ง โด้ยป็กต&แล�ว่ Approach หน%�ง ๆ จะป็รัะกอบด้�ว่ย Concept หล�กแต�เพ�ยงแนว่คำ&ด้

เด้�ยว่ Concept คำ�อคำว่ามคำ&ด้รัว่บยอด้ ภาษาไที่ยใช้�คำ�าว่�า ส�งก�ป็ หมายถึ%ง แนว่คำ&ด้หล�กหรั�อแนว่คำ&ด้ที่��ส�าคำ�ญ Concept ของ Approach จะบอกให�ที่รัาบว่�าเรัาก�าล�งศ%กษาป็รัะเด้+นที่างการัเม�องในด้�านใด้ เช้�น

-System Approach แนว่คำ&ด้หล�กส�าคำ�ญคำ�อ Inputs เข�าส/�รัะบบการัเม�องออกมาเป็(น Outputs ม� Feedback เป็(น Inputs กล�บเข�าส/�รัะบบการัเม�องอ�กคำรั�2งหน%�ง

-Interest Group Approach การัเม�องเป็(นการัต�อส/�แย�งช้&งผูลป็รัะโยช้นรัะหว่�างกล$�มต�าง ๆ

3. Vernon Van Dyke (เวอรุ�นอน แวน ไดคิ�) กล�าว่ว่�า Approach หน%�ง ๆ จะป็รัะกอบด้�ว่ยมาตรัการัในการัเล�อกสรัรัป็@ญหาหรั�อ

~ 22 ~

คำ�าถึามที่��จะน�ามาพ&จารัณาและเล�อกข�อม/ลที่��จะน�ามาใช้� และย�งบอกให�ที่รัาบว่�าข�อม/ลช้น&ด้ใด้ใช้�ได้�หรั�อใช้�ไม�ได้�อ�กด้�ว่ย การัที่��เรัาจะเล�อก Approach ใด้ Approach หน%�งมาเป็(นเคำรั��องม�อศ%กษาที่�าคำว่ามเข�าใจป็รัากฏการัณที่างการัเม�อง เช้�น เล�อก System Approach มาศ%กษาเหต$การัณพฤษภาที่ม&ฬ คำ�อการัต�2งคำ�าถึามเพ��อให�ได้�ข�อม/ลเก��ยว่ก�บ Concept หล�กของ Approach น�2น ได้�แก�

-ข�อเรั�ยกรั�องของป็รัะช้าช้นต�อรั�ฐบาลในขณะน�2นคำ�ออะไรั -เม��อรั�ฐบาลรั�บข�อเรั�ยกรั�องไป็แล�ว่ด้�าเน&นการัตอบโต�อย�างไรั -ม� Outputs ออกมาอย�างไรั-Outputs ที่��ออกมาสามารัถึลด้คำว่ามต%งเคำรั�ยด้ที่างการัเม�องได้�มาก

น�อยแคำ�ไหน -Feedback เป็(นอย�างไรัข�อม/ลที่��ไม�เก��ยว่ข�องก�บ Concept หล�ก ไม�สามารัถึน�ามาใช้�ใน

Approach น�2ได้� Approach จ%งเหม�อนพ&มพกด้ว่$ �น ใช้�พ&มพรั/ป็ใด้ก+ได้�ว่$ �นรั/ป็น�2น ข�อม/ลที่��จะใช้�ได้�ก+คำ�อเน�2อว่$ �นที่��อย/�ในพ&มพ เน�2อว่$ �นนอกแบบใช้�ไม�ได้�

Approaches เป็รั�ยบเสม�อนม$มมองต�อเหต$การัณที่างการัเม�องที่��เรัาสนใจซึ่%�งม�อย/�หลายม$มมอง บางคำนใช้�คำ�าว่�าแนว่พ&น&จ แต�ละ Approaches ม�ม$มมองของตนเองต�อเหต$การัณที่��สนใจจะศ%กษาและอาจจะแตกต�างก�นไป็ ภาพที่��เห+นก+อาจจะแตกต�างก�น เช้�น เก&ด้เหต$การัณ A ข%2นมา

A

~ 23 ~

แต�ละจ$ด้รัอบ ๆ เหต$การัณ A เป็รั�ยบเสม�อนเป็(น Approach หน%�ง ๆ ที่��จะใช้�ศ%กษาเหต$การัณ A แต�ละ Approach ม� Concept หล�กของตนเอง เป็(นเคำรั��องม�อช้�ว่ยให�เข�าใจเหต$การัณน�2นได้�กรัะจ�างข%2น

Vernon Van Dyke แบ�ง Approaches ตามสาขาว่&ช้าต�าง ๆ ใช้�แนว่คำ&ด้หล�กของสาขาว่&ช้าต�าง ๆ เป็(นเคำรั��องม�อในการัศ%กษาที่�าคำว่ามเข�าใจการัเม�อง ด้�งน�2

1. Historical Approach หมายถึ%ง Approach ที่��ใช้� Concept ที่างด้�านป็รัะว่�ต&ศาสตรัเป็(นเคำรั��องม�อในการัศ%กษาที่�าคำว่ามเข�าใจก�บเรั��องรัาว่ที่างการัเม�อง เช้�น ศ%กษาว่&ว่�ฒนาการัของการัเม�องไที่ย รั�ายยาว่มาต�2งแต�ป็รัะว่�ต&ศาสตรัการัเม�องไที่ยสม�ยกรั$งศรั�อย$ธิยา รั�ตนโกส&นที่รัตอนต�น จนถึ%งป็@จจ$บ�น

2. Economic Approach หมายถึ%ง Approach ที่��ใช้� Concept ที่างด้�านเศรัษฐศาสตรัเป็(นเคำรั��องม�อในการัศ%กษาการัเม�อง (สองศาสตรัรัว่มก�นเป็(นเศรัษฐศาสตรัการัเม�องหรั�อ Political

Economy) มองว่�าป็รัากฏการัณที่างการัเม�องได้�รั�บอ&ที่ธิ&พลมาจากว่&ถึ�ช้�ว่&ตที่างเศรัษฐก&จของคำนในส�งคำม เช้�น มารักซึ่ศ%กษาการัป็ฏ&ว่�ต&ในส�งคำมอ�นเป็(นผูลมาจากคำว่ามข�ด้แย�งที่างเศรัษฐก&จรัะหว่�างเจ�าของป็@จจ�ยการัผูล&ตก�บผู/�ใช้�แรังงาน

3. Sociological Approach หมายถึ%ง Approach ที่��ใช้� Concept ที่างด้�านส�งคำมว่&ที่ยา เช้�น โคำรังสรั�าง กล$�ม อ&ที่ธิ&พลของกล$�ม บที่บาที่หน�าที่��ของคำนในส�งคำม สถึานภาพ ช้นช้�2น มาเป็(นเคำรั��องม�อในการัศ%กษาที่�าคำว่ามเข�าใจเรั��องรัาว่ที่างการัเม�อง (สองสาขาว่&ช้ารัว่มก�นเป็(นส�งคำมว่&ที่ยาการัเม�องหรั�อ Political Sociology)

4. Psychological Approach หมายถึ%ง Approach ที่��ใช้� Concept ที่างด้�านจ&ตว่&ที่ยามาศ%กษาการัเม�อง จ&ตว่&ที่ยาเช้��อว่�าพฤต&กรัรัม

~ 24 ~

ใด้ ๆ ของมน$ษยน�2นเก&ด้จากแรังผูล�กภายใน (Internal Drive) ของต�ว่มน$ษยเอง เช้�น คำว่ามคำ&ด้ คำว่ามเช้��อ ป็มเด้�น ป็มด้�อย คำว่ามเกล�ยด้ คำว่ามรั�ก คำว่ามกล�ว่ เป็(นต�น เคำยม�การัศ%กษาพฤต&กรัรัมของฮิ&ตเลอรัโด้ยใช้� Concept ที่างด้�านจ&ตว่&ที่ยา พบว่�า แม�ของฮิ&ตเลอรัเคำยถึ/กเศรัษฐ�ช้าว่ย&ว่ข�มข�นสรั�างคำว่ามคำ�บแคำ�นใจให�เขาอย�างมาก เม��อม�อ�านาจจ%งแก�แคำ�นช้าว่ย&ว่อย�างรั$นแรัง พฤต&กรัรัมที่างการัเม�องของเขาเป็(นแรังผูล�กจากคำว่ามเกล�ยด้ช้�งช้าว่ย&ว่

5. Philosophical Approach หมายถึ%ง Approach ที่��ใช้� Concept ที่างด้�านป็รั�ช้ญาเป็(นเคำรั��องม�อในการัศ%กษาการัเม�อง เช้�น รั�ฐที่��ด้�ผู/�ป็กคำรัองที่��ด้�คำว่รัม�คำ$ณล�กษณะอย�างไรั

6. Geographical Approach หมายถึ%ง Approach ที่��ใช้� Concept ที่างด้�านภ/ม&ศาสตรัและที่��ต� 2งป็รัะเที่ศเป็(นเคำรั��องม�อในการัศ%กษา ป็รัะเที่ศที่��ต� 2งอย/�ในสภาพภ/ม&ศาสตรัที่��แตกต�างก�นที่�าให�พฤต&กรัรัมที่างการัเม�องของป็รัะช้าช้นแตกต�างก�นไป็ด้�ว่ย

Systems Approach

Systems Approach ได้�รั�บอ&ที่ธิ&พลมาจากสาขาว่&ช้าด้�านว่&ที่ยาศาสตรั 2 สาขาคำ�อ

Concept หล�กของ Approach น�2อย/�ที่��คำ�าว่�า รัะบบ หมายถึ%ง “ ”

ป็ฏ&ส�มพ�นธิรัะหว่�างองคำป็รัะกอบต�าง ๆ จ�านว่นหน%�ง ถึ�าองคำป็รัะกอบแต�ละส�ว่นต�างที่�าหน�าที่��ของตนอย�างด้�จะส�งผูลให�รัะบบเก&ด้การัพ�ฒนา สามารัถึด้�ารังอย/�อย�างม�เสถึ�ยรัภาพได้�

Systems Approach ได้�รั�บอ&ที่ธิ&พลมาจากสาขาว่&ช้าด้�านว่&ที่ยาศาสตรั 2 สาขาคำ�อ

1. อ�ทธิ�พลจากว�ชาฟ:ส�กส� ได้�แก� แนว่คำ&ด้ที่��เช้��อว่�าที่$กส�งคำมม�แนว่โน�มที่��จะรั�กษาเสถึ�ยรัภาพของตนเอง เม��อม�แรังผูล�กต�อรัะบบ ๆ น�2นก+จะม�

~ 25 ~

ป็ฏ&ก&รั&ยาตอบโต�เพ��อรั�กษาด้$ลยภาพของรัะบบให�เหม�อนเด้&มตลอด้เว่ลาเหม�อนต$;กตาล�มล$ก ที่��เรัาผูล�กไป็ม�นก+จะเอนกล�บมาอย/�ที่��เด้&ม Systems

Approach เช้��อว่�า เม��อรัะบบการัเม�องใด้ ๆ ได้�รั�บผูลกรัะที่บจากแรังผูล�กต�าง ๆ เช้�น ม�การัเด้&นขบว่นป็รัะที่�ว่ง เก&ด้การัจลาจลว่$ �นว่าย รั�ฐบาลต�องหาแนว่ที่างแก�ไขเย�ยว่ยาโด้ยการัขอคำ�นพ�2นที่��เพ��อให�ส�งคำมเก&ด้คำว่ามสงบส$ขอ�กคำรั�2งหน%�ง

2. อ�ทธิ�พลจากว�ชาช วว�ทยา แนว่คำ&ด้ของช้�ว่ว่&ที่ยาที่��ม�อ&ที่ธิ&พลต�อ Systems Approach ได้�แก�แนว่คำ&ด้ที่��ว่�าส�ตว่โลกที่$กป็รัะเภที่ม�คำว่ามเหม�อนก�นป็รัะการัหน%�งคำ�ออว่�ยว่ะที่$กส�ว่นจะแสด้งออกซึ่%�งคำว่ามรั�ว่มม�อต�างที่�าหน�าที่��ในส�ว่นของตนเพ��อป็รัะโยช้นของส�ว่นรัว่มเป็(นส�าคำ�ญ เช้�น เม��อที่�องห&ว่สายตาก+สอด้ส�ายหาอาหารั ม�อคำว่�าเข�าป็าก เคำ�2ยว่กล�นลงส/�กรัะเพาะ รัะบบการัเม�องใด้ ๆ ก+ไม�ได้�แตกต�างจากไป็จากรัะบบของส&�งม�ช้�ว่&ต รัะบบของส&�งม�ช้�ว่&ต ม�ล�กษณะส�าคำ�ญด้�งต�อไป็น�2

1. เป็(นรัะบบ เป็Jด้“ ” ม$�งรั�กษาสถึานภาพเด้&มโด้ยผู�านกรัะบว่นการัแป็รัเป็ล��ยนก�บส&�งแว่ด้ล�อม รัะบบเป็Jด้คำ�อรัะบบที่��ไม�สามารัถึป็Jด้ก�2นต�ว่เองออกจากสภาพแว่ด้ล�อมภายนอกได้�อย�างเด้+ด้ขาด้ สภาพแว่ด้ล�อมจะม�อ&ที่ธิ&พลต�อรัะบบตลอด้เว่ลา รัะบบการัเม�องก+เช้�นเด้�ยว่ก�นไม�สามารัถึอย/�ได้�อย�างโด้ด้เด้��ยว่ หากม�การัเป็ล��ยนแป็ลงที่างเศรัษฐก&จ ส�งคำม การัเม�องต�องได้�รั�บผูลกรัะที่บ เช้�น การัเป็ล��ยนแป็ลงที่างเศรัษฐก&จส�งผูลต�อรัะบบการัเม�อง การัเป็ล��ยนแป็ลงที่างส�งคำมป็รัะช้าช้นรัว่มต�ว่ก�นเป็(นกล$�ม องคำกรั สหภาพก+ส�งผูลกรัะที่บต�อการัเม�อง เม��อกล$�มเรั�ยกรั�องที่างการัเม�องส/งข%2น

2. ม�กลไกในการัรั�กษาตนเอง (Self Regulating System) ให�อย/�รัอด้ เป็(นกลไกอ�ตโนม�ต& เช้�น เม��อม�ส&�งแป็ลกป็ลอมเข�าตา หน�งตาจะป็Jด้อ�ตโนม�ต& เพ��อป็Bองก�นไม�ให�ส&�งแป็ลกป็ลอมเข�ามาส/�ด้ว่งตาได้� ถึ�าป็Jด้ไม�ที่�นกลไกอ�ตโนม�ต&จะที่�าให�น�2าตาไหลเพ��อช้ะล�างส&�งแป็ลกป็ลอมที่��เข�ามาได้�แล�ว่น�2น

~ 26 ~

ออกจากด้ว่งตาไป็ หรั�อเม��อม�ส&�งแป็ลกป็ลอมเข�าที่างจม/กกลไกอ�ตโนม�ต&จะที่�าให�รั�างกายจามเพ��อข�บส&�งแป็ลกป็ลอมน�2นออกไป็

รัะบบการัเม�องก+เช้�นก�นเม��อม�ป็@ญหาเก&ด้ข%2นในบ�านเม�อง เช้�น ม�ผู/�ก�อการัรั�ายลอบน�า RPG ไป็ย&งใส�ถึ�งน�2าม�นเป็ล�า ไม�ม�รั�ฐบาลใด้จะป็ล�อยให�เศษขยะเข�าตาโด้ยไม�ที่�าอะไรัเลย ต�องส$มห�ว่ก�นโด้ยอ�ตโนม�ต&หาที่างเย�ยว่ยาแก�ไขป็@ญหา เพ��อเสถึ�ยรัภาพของรั�ฐบาล

3. รัะบบของส&�งที่��ม�ช้�ว่&ตสามารัถึศ%กษาแยกแยะโคำรังสรั�างออกจากหน�าที่��ได้� เช้�น ศ%กษารั�างกายของมน$ษยโด้ยแยกออกเป็(นรัะบบย�อย เช้�น รัะบบสมอง รัะบบป็รัะสาที่ รัะบบหายใจ ฯลฯ แล�ว่ด้/ว่�าอว่�ยว่ะแต�ละส�ว่นที่�าหน�าที่��อะไรับ�าง เม��อน�าการัที่�าหน�าที่��ของอว่�ยว่ะที่�2งหมด้มารัว่มก�นก+จะได้�โคำรังสรั�างของมน$ษยหน%�งคำน

เช้�นเด้�ยว่ก�นเรัาสามารัถึศ%กษารัะบบการัเม�องไที่ยได้�โด้ยแยกออกมาเป็(นโคำรังสรั�าง (สถึาบ�น) ย�อย ๆ ได้�แก� สภาผู/�แที่นรัาษฎรั ว่$ฒ&สภา รั�ฐบาล พรัรัคำการัเม�อง องคำกรัอ&สรัะ กล$�มป็รัะช้าช้นที่��รัว่มต�ว่ก�นที่างการัเม�อง ฯลฯ แล�ว่พ&จารัณาว่�าแต�ละสถึาบ�นที่างการัเม�องเหล�าน�2นที่�าหน�าที่��ใด้ เม��อรัว่มเข�าด้�ว่ยก�นจะเห+นภาพของรัะบบการัเม�องไที่ย

4. รัะบบของส&�งที่��ม�ช้�ว่&ตจะม�รัะบบย�อยที่��เป็(นอ&สรัะ แต�ต�องพ%�งพาอาศ�ยซึ่%�งก�นและก�นและที่�างานเพ��อคำว่ามม��นคำงของรัะบบใหญ� เช้�น รัะบบรั�างกายมน$ษยม�โคำรังสรั�างซึ่�บซึ่�อนม�รัะบบย�อยภายในมากมาย แต�ละรัะบบที่�าหน�าที่��ของตนเองอย�างเป็(นอ&สรัะ ป็อด้ก+ที่�าหน�าที่��ฟอกโลห&ต ห�ว่ใจที่�าหน�าที่��ส/บฉ�ด้โลห&ต ที่$กรัะบบย�อยต�างที่�าหน�าที่��ของตนไป็ ถึ�ารัะบบย�อยที่$กรัะบบที่�าหน�าที่��ของตนได้�อย�างม�ป็รัะส&ที่ธิ&ภาพรั�างกายก+ย�อมแข+งแรัง เช้�นเด้�ยว่ก�นในรัะบบการัเม�องที่$กรัะบบถึ�าสถึาบ�นที่างการัเม�องอ�นเป็(นรัะบบย�อยภายในที่�าหน�าที่��อย�างด้�ม�ป็รัะส&ที่ธิ&ภาพ รัะบบการัเม�องจะไม�ว่$ �นว่ายไม�ข�ด้แย�ง ไม�ต�องมารั�องเพลงช้าต&หาคำว่ามสาม�คำคำ�ให�ว่$ �นว่ายก�นเหม�อนที่$กว่�นน�2

~ 27 ~

5. รัะบบของส&�งที่��ม�ช้�ว่&ตจะม�ล�าด้�บช้�2น (Hierarchy) ซึ่%�งศ%กษาได้�จากคำว่ามซึ่�บซึ่�อนของโคำรังสรั�าง มน$ษยเป็(นส�ตว่ช้�2นส/งม�โคำรังสรั�างรั�างกายที่��ซึ่�บซึ่�อนป็รัะกอบไป็ด้�ว่ยอว่�ยว่ะภายในมากมาย แพที่ยที่��เรั�ยนแคำ� 6 ป็Hเป็(นได้�แคำ�แพที่ยที่��ว่ไป็เที่�าน�2นถึ�าอยากจะเช้��ยว่ช้าญด้�านใด้ด้�านหน%�งโด้ยเฉพาะก+ต�องไป็เรั�ยนต�อให�ล%กซึ่%2งลงไป็ แต�อะม�บา โป็รัโตซึ่�ว่ ไส�เด้�อนเป็(นส�ตว่ช้�2นต��าโคำรังสรั�างรั�างกายไม�ซึ่�บซึ่�อน

รัะบบการัเม�องไม�แตกต�างจากรัะบบส&�งม�ช้�ว่&ต รัะบบการัเม�องที่��ม�คำว่ามซึ่�บซึ่�อนส/งคำ�อรัะบบการัเม�องที่��ป็รัะกอบไป็ด้�ว่ยองคำกรั สถึาบ�น กล$�มที่างการัเม�องเก&ด้ข%2นมากมาย ถึ�อเป็(นรัะบบการัเม�องที่��ที่�นสม�ย ส�ว่นรัะบบการัเม�องที่��ม�คำว่ามซึ่�บซึ่�อนต��าเรั�ยกว่�ารัะบบการัเม�องแบบด้�2งเด้&ม เช้�น รัะบบการัเม�องในส�งคำมช้นเผู�า ไม�ม�กรัะที่รัว่งที่บว่งกรัม ไม�ม�สภา ไม�ม�การัเล�อกต�2ง ไม�ม�การัรัว่มกล$�มที่างการัเม�องใด้ ๆ

ล�กษณะที่��ว่ไป็ของรัะบบ1. รัะบบของส&�งม�ช้�ว่&ตและรัะบบการัเม�องม�การัเป็ล��ยนแป็ลงตลอด้

เว่ลา เช้�น กรัะที่รัว่งที่บว่งกรัมเด้�Nยว่เพ&�มเด้�Nยว่ลด้เด้�Nยว่ย$บรัว่ม 2. ที่$กรัะบบจะม�ขอบเขตเส�นแบ�ง (Boundary) ในรัะหว่�างรัะบบก�บ

สภาพแว่ด้ล�อมภายนอก ขณะเด้�ยว่ก�นอาจจะม�รัะบบย�อยภายในต�ว่ของม�นเอง บางรัะบบม�รัะบบย�อยมาก บางรัะบบม�รัะบบย�อยภายในน�อย

3. ม�ป็@จจ�ยน�าเข�า (Input) ป็@จจ�ยส�งออก (Output) และส�ว่นที่��ย�อนกล�บ (Feedback) ป็รัากฏอย/� สามต�ว่น�2เป็(น Concept ส�าคำ�ญของ System Approach

4. ที่$กรัะบบม�คำว่ามส�มพ�นธิเช้��อมโยงก�บรัะบบอ��น ๆ ที่��อย/�ในสภาพแว่ด้ล�อมตลอด้เว่ลา ต�างฝ่ายต�างม�อ&ที่ธิ&พลซึ่%�งก�นและก�น

5. ที่$กรัะบบอาจจะม�คำว่ามม��นคำงหรั�อไม�ม��นคำงก+ได้�6. ที่$กรัะบบพยายามแสว่งหาด้$ลภาพให�เก&ด้ข%2นก�บตนเองตลอด้เว่ลา

ผู�านกลไกอ�ตโนม�ต&เพ��อรั�กษาคำว่ามอย/�รัอด้ของรัะบบ

~ 28 ~

7. รัะบบใด้ที่��ไม�สามารัถึแก�ไขป็@ญหาหรั�อตอบโต�อ&ที่ธิ&พลของส&�งแว่ด้ล�อมได้�ก+จะน�ามาส/�คำว่ามล�มสลายและแป็รัสภาพไป็ส/�รัะบบใหม�ได้�

8. ที่$กรัะบบม�เคำรั�อข�ายในการัส��อสารัคำอยส�งข�อม/ลป็Bอนกล�บ (Feedback) เพ��อน�าไป็ส/�การัแก�ไขป็รั�บป็รั$งต�ว่เองตลอด้เว่ลา ให�สามารัถึเย�ยว่ยาป็@ญหาที่��เก&ด้ข%2นได้�อย�างม�ป็รัะส&ที่ธิ&ภาพ

ต�วแบบแนวการุว� เคิรุาะห�รุ ะบบข้องเดว�ด อ สต�น (David

Easton)

จากต�ว่แบบม� Concept ส�าคำ�ญอย/� 4 ต�ว่ใช้�ในการัศ%กษาที่�าคำว่ามเข�าใจป็รัากฏการัณที่างการัเม�อง ได้�แก�

1. Political System 2. Input3. Output4. Feedback

1. รุะบบการุเมื�อง (Political System หรุ�อ Black Box)

-เดว�ด อ สต�น (David Easton) เจ�าของที่ฤษฎ�รัะบบอธิ&บายว่�า รัะบบการัเม�อง หมายถึ%ง รัะบบการัใช้�อ�านาจในการัแจกแจงแบ�งสรัรัที่รั�พยากรัของส�งคำมโด้ยผูลที่��ได้�จากการัต�ด้ส&นใจของผู/�ม�อ�านาจจะบ�งคำ�บใช้�ก�บสมาช้&กที่$กคำนในส�งคำม

องคิ�ปรุะกอบข้องรุะบบการุเมื�อง ที่$กรัะบบการัเม�องม�องคำป็รัะกอบที่��ส�าคำ�ญด้�งต�อไป็น�2

Inputs

Political System

Outputs

Feed

Environ

~ 29 ~

1.1 Political Community คิวามืเป�นปรุะชาคิมืในทางการุเมื�อง หมายถึ%ง คำว่ามรั/ �ส%กของคำนในรัะบบการัเม�องน�2น ๆ ที่��รั/ �ส%กว่�าตนเป็(นส�ว่นหน%�งของรัะบบการัเม�อง ม�คำว่ามจงรั�กภ�กด้�ในคำว่ามเป็(นหน�ว่ยการัเม�องเด้�ยว่ก�น ย&นด้�จะเข�าไป็ม�ส�ว่นรั�ว่มสรั�างสรัรัคำภายในรัะบบการัเม�องด้�ว่ยคำว่ามเต+มใจ เช้�น ย&นด้�ที่��จะเส�ยภาษ� เช้��อฟ@งป็ฏ&บ�ต&ตามกฎหมาย ถึ�าคำว่ามรั/ �ส%กแบบน�2ม�มากคำว่ามม��นคำงในช้าต&จะมากตามไป็ด้�ว่ย

1.2 Political Regime รุะบอบการุปกคิรุอง หมายถึ%ง รั/ป็แบบหรั�อว่&ธิ�การัในการับรั&หารับ�านเม�อง อาจจะเป็(นป็รัะช้าธิ&ป็ไตยรัะบบป็รัะธิานาธิ&บด้� รัะบบรั�ฐสภา เผูด้+จการัที่หารั เผูด้+จการัพลเรั�อน อ�านาจน&ยม แต�ที่$กรัะบบการัเม�องจะม�รั/ป็แบบการัป็กคำรัองอย�างใด้อย�างหน%�งป็รัากฏอย/�

1.3. Political Authorities ผ)#มื อ�านาจทางการุเมื�อง หมายถึ%ง รั�ฐบาลผู/�ที่�าหน�าที่��บ�าบ�ด้ที่$กข บ�ารั$งส$ข แจกแจงแบ�งสรัรัส&�งที่��ม�คำ$ณคำ�าในส�งคำม แก�ป็@ญหาให�ก�บป็รัะช้าช้น

2. Input หมายถึ%ง ป็@จจ�ยที่��อย/�ในรั/ป็ของข�อม/ลหรั�อข�าว่สารัที่��น�าเข�าส/�รัะบบการัเม�อง แบ�งได้� 2 รั/ป็แบบใหญ�ๆ คำ�อ ข�อเรั�ยกรั�อง (Demand)

และการัสน�บสน$น (Support)

2.1 Demand (ข้#อเรุ ยกรุ#อง) คำ�อ ข�อม/ลข�าว่สารัที่��ส�งเข�าส/�รัะบบการัเม�อง โด้ยม�จ$ด้ม$�งหมายให�รัะบบการัเม�องด้�าเน&นการัหรั�อไม�ด้�าเน&นการัในเรั��องใด้ ๆ เช้�น ในว่�นแรังงานแห�งช้าต&สมาพ�นธิผู/�ใช้�แรังงานเรั�ยกรั�องให�รั�ฐบาลข%2นคำ�าแรังข�2นต��าอ�ก 20 บาที่ หรั�อช้าว่บ�านอ�าเภอจะนะ เรั�ยกรั�องไม�ให�สรั�างโรังแยกก;าซึ่ในพ�2นที่��ตน

สาเหต$ที่��ก�อให�เก&ด้ Demand

2.1.1 สาเหต$ภายใน เช้�น -ว่�ฒนธิรัรัม คำว่ามคำ&ด้ คำว่ามเช้��อของคำนในส�งคำมแป็รัเป็ล��ยนไป็

ม�รัะด้�บของ Secularization (คำว่ามเช้��อแบบม�เหต$ม�ผูล) ส/งข%2น

~ 30 ~

ป็รัะช้าช้นไม�เช้��ออ�กต�อไป็ว่�าผู/�ป็กคำรัองคำ�อต�ว่แที่นที่��สว่รัรัคำส�งมาป็กคำรัองเรัา เป็(นผู/�ม�บ$ญญาว่าสนาที่��ป็รัะช้าช้นต�องเช้��อฟ@ง จรั&ง ๆ แล�ว่ผู/�ป็กคำรัองก+คำ�อคำนธิรัรัมด้า ๆ เหม�อนเรัา ไม�ใช้�เที่ว่ด้ามาจากไหน เม��อเรัาเล�อกต�ว่แที่นไป็แล�ว่เขาไม�ที่�าตามส�ญญาป็รัะช้าช้นก+ม�ส&ที่ธิ&รัว่มต�ว่ก�นเรั�ยกรั�องต�อต�ว่แที่นได้� ในส�งคำมแบบน�2 Demand จะเพ&�มส/งข%2น

-รัะด้�บการัพ�ฒนาอ$ตสาหกรัรัม (Industrialization) ส/งข%2น ในส�งคำมที่�นสม�ยคำนเข�ามาอาศ�ยอย/�ในเม�องเพ��อที่�างานในโรังงานอ$ตสาหกรัรัมม�โอกาสรั�บส��อมากข%2น ที่�าให�คำว่ามคำ&ด้คำว่ามเช้��อของคำนเป็ล��ยนไป็และม� Demand ต�อรัะบบการัเม�องมากข%2น

2.1.2 สาเหต$ภายนอก คำ�อ อ&ที่ธิ&พลจากต�างป็รัะเที่ศ การัส��อสารัที่��ที่�นสม�ยที่�าให�ป็รัะช้าช้นม�โอกาสเห+นภาพข�าว่จากต�างป็รัะเที่ศ ได้�เห+นคำว่ามเจรั&ญของบ�านเม�องที่��ป็กคำรัองในรัะบอบป็รัะช้าธิ&ป็ไตย เป็Jด้โอกาสให�ป็รัะช้าช้นเข�าไป็ม�ส�ว่นรั�ว่มก�าหนด้ช้ะตาช้�ว่&ตตนเองได้�อย�างเสรั�ก+น�ามาเป็รั�ยบเที่�ยบก�บบ�านเม�องของตน น�าไป็ส/�การัเก&ด้ Demand เพ&�มข%2น

ป็@จจ�ยที่��ที่�าให� Demand ส�มฤที่ธิ&ผูล1. ล�กษณะของกล$�ม ที่�2งในแง�ของขนาด้ การัจ�ด้องคำกรั และ

ที่รั�พยากรัของกล$�ม กล�าว่คำ�อถึ�ากล$�มม�ขนาด้ใหญ�โอกาสที่��ข�อเรั�ยกรั�องของกล$�มจะได้�รั�บการัสนองตอบย�อม�มากกว่�าข�อเรั�ยกรั�องของกล$�มที่��ม�ขนาด้เล+ก

-กล$�มใด้ม�การัจ�ด้องคำกรัด้� ม�การัแบ�งงานก�นที่�าและป็รัะสานสอด้คำล�องก�นได้�เป็(นอย�างด้�ข�อเรั�ยกรั�องย�อมได้�รั�บการัตอบสนองได้�เรั+ว่กว่�า

-กล$�มที่��ม�เง&นหนาหน$นอย/�ข�างหล�งได้�รั�บการัสน�บสน$นจาก NGOs

กล$�มน�2นกล$�มน�2 ข�อเรั�ยกรั�องย�อมม�โอกาสที่��จะได้�รั�บการัสนองตอบจากรั�ฐบาลมากกว่�ากล$�มที่��ม�ที่รั�พยากรัน�อย เพรัาะกล$�มที่��ยากไรั�เรั�ยกรั�องได้�ไม�นานก+ต�องกล�บไป็เพรัาะขาด้ที่รั�พยากรัในการัช้$มน$มเรั�ยกรั�อง แต�กล$�มที่��ม�เง&นหนาสามารัถึป็รัะที่�ว่งได้�นานน�บเด้�อนที่�าให�รั�ฐบาลต�องลงมารั�บฟ@งป็@ญหา

~ 31 ~

-กล$�มใด้ที่��ผู/�น�าม�ภาว่ะผู/�น�าส/ง พ/ด้จ/งใจคำนเก�ง สามารัถึที่�าให�น�กหน�งส�อพ&มพสนใจมาที่�าข�าว่ตลอด้เว่ลา คำว่ามต�องการัของกล$�มน�2นย�อมม�โอกาสที่��จะได้�รั�บการัสนองตอบจากรั�ฐบาลมากกว่�า

-เป็Bาหมายของกล$�ม ถึ�าช้�ด้เจนและเป็(นไป็ในที่&ศที่างเด้�ยว่ก�บนโยบายของรั�ฐบาลพอด้�โอกาสในการัได้�รั�บการัตอบสนองก+จะม�ส/ง

2. นโยบาย ถึ�าส&�งที่��กล$�มเรั�ยกรั�องตรังก�บที่��รั �ฐบาลได้�ว่างนโยบายเอาไว่�แล�ว่ ย�อมได้�รั�บการัสนองตอบอย�างรัว่ด้เรั+ว่

3. โคำรังสรั�างของรั�ฐบาล ถึ�าข�อเรั�ยกรั�องน�2นเป็(นข�อเรั�ยกรั�องที่��ม�หน�ว่ยงานของรั�ฐบาลรัองรั�บโอกาสที่��จะรั�บการัตอบสนองจะม�ส/ง

2.2 Support (การุสน�บสน�น) หมายถึ%ง ข�อม/ลหรั�อข�าว่สารัที่��เข�าส/�รัะบบการัเม�อง โด้ยม�ที่&ศที่างที่��เป็(นไป็ในแง�บว่กหรั�อสน�บสน$นต�อรัะบบการัเม�องที่��เป็(นอย/�ในขณะน�2น Demand เป็(นต�ว่สรั�าง Political Stress

ให�รั�ฐบาลต�องหาที่างเย�ยว่ยาแก�ไข แต� Support ที่�าให�รั�ฐบาลย&2มได้� เช้�น ป็รัะช้าช้นมาช้/ป็Bายสน�บสน$นหรั�อมอบด้อกไม�ให�นายกรั�ฐมนตรั� หรั�อการัที่��ป็รัะช้าช้นย&นด้�ป็ฏ&บ�ต&ตามกฎหมายและเส�ยภาษ�ถึ�อว่�าเป็(นส�ว่นหน%�งของ Support

Demand ม�ที่&ศที่างเด้�ยว่คำ�อเรั�ยกรั�องต�อรั�ฐบาลหรั�อผู/�ม�อ�านาจที่างการัเม�อง (Political Authority) แต� Support ม�ถึ%ง 3 ที่&ศที่าง ได้�แก�

2.2.1 การุสน�บสน�นต6อคิวามืเป�นปรุะชาคิมืทางการุเมื�อง (Political Community) หมายคำว่ามว่�า คำนในส�งคำมม�คำว่ามรั/ �ส%กเป็(นเอกภาพกลมเกล�ยว่ก�นในช้าต&ส/ง ม�คำว่ามรั/ �ส%กเป็(นอ�นหน%�งอ�นเด้�ยว่ก�น เต+มใจเคำารัพกฎกต&กา ป็รัะเที่ศช้าต&น�2นก+จะม�คำว่ามม��นคำงในช้าต&ส/ง ในที่างตรังก�นข�ามถึ�าคำนไม�ให�การัสน�บสน$นไม�ยอมรั�บว่�าตนเองเป็(นส�ว่นหน%�งของป็รัะเที่ศช้าต& ไม�ยอมรั�บในส�ญล�กษณของคำว่ามเป็(นช้าต& ส&�งที่��จะตามมาคำ�อสงคำรัามแบ�งแยกด้&นแด้น เช้�น กรัะเหรั��ยง KNU ที่��พยายามแบ�งแยกด้&น

~ 32 ~

แด้นเพรัาะไม�เคำยยอมรั�บว่�าตนเองเป็(นส�ว่นหน%�งของช้าต&พม�า ส�าหรั�บสามจ�งหว่�ด้ช้ายแด้นภาคำใต�ของไที่ยอาจม�คำนบางกล$�มเป็(นกล$�มเล+ก ๆ คำ&ด้ถึ%งการัแบ�งแยกด้&นแด้น แต�ไม�ม�ใคำรัออกมาป็รัะกาศอย�างช้�ด้เจน ม�แต�การักล�าว่อ�างต�อ ๆ ก�นมา

2.2.2 การุสน�บสน�บสน�นต6อรุะบบการุปกคิรุอง (Political

Regime) ถึ�าป็รัะช้าช้นยอมรั�บในรัะบอบการัป็กคำรัองที่��ใช้�อย/�รัะบอบการัป็กคำรัองน�2นก+จะม�เสถึ�ยรัภาพ แต�ถึ�าป็รัะช้าช้นไม�ให�การัสน�บสน$นรัะบอบการัป็กคำรัองก+จะล�มล�างรัะบอบน�2นน�ารัะบอบใหม�มาแที่นที่��เรั�ยกว่�าป็ฏ&ว่�ต&

2.2.3 การุสน�บสน�นต6อผ)#มื อ�านาจทางการุเมื�อง (Political

Authorities) หรั�อรั�ฐบาล ถึ�าป็รัะช้าช้นให�การัสน�บสน$นรั�ฐบาล ๆ ก+จะม�เสถึ�ยรัภาพ แต�ถึ�าป็รัะช้าช้นไม�เอาด้�ว่ยไม�ให�การัสน�บสน$นรั�ฐบาลอ�กต�อไป็ ส&�งที่��จะเก&ด้ข%2นตามมาก+คำ�อการัรั�ฐป็รัะหารัเพ��อล�มรั�ฐบาล เหต$การัณน�2ม�กเก&ด้ข%2นบ�อยคำรั�2งในป็รัะเที่ศก�าล�งพ�ฒนา เรั�ยนมาถึ%งตรังน�2น�กศ%กษาคำงถึ%งบางอ�อแล�ว่ว่�าป็ฏ&ว่�ต&ก�บรั�ฐป็รัะหารัน�2นไม�ใช้�เรั��องเด้�ยว่ก�น อย�าเรั�ยกม��ว่ ๆ อ�กต�อไป็อาจารัยขอรั�อง ส��อมว่ลช้นม�กเรั�ยกผู&ด้อย/�เสมอ แม�แต�พว่กที่�ารั�ฐป็รัะหารัเองย�งเรั�ยกต�ว่เองว่�าคำณะป็ฏ&ว่�ต&เลย เม�องไที่ยม�ป็ฏ&ว่�ต&คำรั�2งเด้�ยว่คำ�อ 24

ม&ถึ$นายน 2475

3. Output หมายถึ%ง ผูลของการัต�ด้ส&นใจของผู/�ม�อ�านาจหน�าที่��ที่างการัเม�อง (รั�ฐบาล) ซึ่%�งเก��ยว่ข�องก�บการัแจกแจงแบ�งสรัรัส&�งที่��ม�คำ$ณคำ�าของส�งคำม สรั�างคำว่ามก&นด้�อย/�ด้�ให�ก�บป็รัะช้าช้น อาจออกมาในรั/ป็ มต& คำรัม.

กฎหมาย กฎกรัะที่รัว่ง ซึ่%�งผูลจากการัต�ด้ส&นใจจะม�ผูลผู/กพ�นก�บสมาช้&กที่$กคำนของรัะบบการัเม�อง เช้�น กรัรัมกรัเรั�ยกรั�องให�รั�ฐบาลเพ&�มคำ�าแรังข�2นต��า อ�ก 20 บาที่ คำรัม.ต�ด้ส&นใจเป็(นมต& คำรัม.ออกมาให�เพ&�มคำ�าแรังข�2นต��าอ�ก 5

บาที่ โด้ยเช้��อว่�า 5 บาที่น�2จะที่�าให�กรัรัมกรัพอใจ 4. Feedback หมายถึ%ง กรัะบว่นการัในการัส�งข�าว่สารัเก��ยว่ก�บ

สภาพและผูลที่��ตามมาของการัต�ด้ส&นใจและการัด้�าเน&นการัด้�านต�างๆของ

~ 33 ~

รัะบบการัเม�องกล�บส/�ผู/�ม�อ�านาจที่างการัเม�องอ�กคำรั�2งหน%�ง Feedback จะเป็(นต�ว่ป็รัะเม&นให�ที่รัาบว่�าการัต�ด้ส&นใจของรั�ฐบาลสามารัถึแก�ไขเย�ยว่ยาป็@ญหาคำว่ามต�องการัที่��ป็รัะช้าช้นเรั�ยกรั�องได้�จรั&งหรั�อไม� มากน�อยเพ�ยงใด้ ย�งม�กล$�มใด้ที่��ย�งยอมรั�บไม�ได้� กล$�มใด้ที่��ย�งม�ข�อแม�หรั�อข�อเรั�ยกรั�องอย/� ส�าหรั�บกล$�มที่��ย�งไม�ยอมรั�บเป็(นเพรัาะอะไรั จ�าเป็(นหรั�อไม�ที่��จะต�องออกมาตรัการัเสรั&ม เช้�น ให�รั�ฐเพ&�มสว่�สด้&การัให�แก�กรัรัมกรั ม�ป็รัะก�นส$ขภาพ ป็รัะก�นการัว่�างงาน เป็(นต�น

*************************************************************

คำ�าศ�พที่รั�ฐศาสตรั1.domination [N] ; การัม�อ�านาจเหน�อกว่�า ,การัป็กคำรัอง2.colonial [ADJ] ; เก��ยว่ก�บอาณาน&คำม

3.independent [ADJ] ; ซึ่%�งเป็(นอ&สรัะSyn. autonomous; self-governing; freeAnt. dependent

~ 34 ~

Relate. ซึ่%�งป็กคำรัองตนเอง, ซึ่%�งไม�อย/�ในบ�งคำ�บ, ซึ่%�งไม�เป็(นเม�องข%2น, ซึ่%�งเป็(นเอกรัาช้

independent [N] ; คำนที่��พ%�งตนเองAnt. dependentRelate. ผู/�เป็(นอ&สรัะ, ผู/�เป็(นเอกรัาช้, ผู/�ไม�อย/�ใต�บ�งคำ�บบ�ญช้าของใคำรั

independence [N] ; คำว่ามเป็(นอ&สรัะAnt. dependenceRelate. อ&สรัภาพ

4. participation [N] ; การัม�ส�ว่นรั�ว่มSyn. cooperation; sharingRelate. การัเข�ารั�ว่ม, การัรั�ว่มม�อ

5. familiar [ADJ] ; คำ$�นเคำยSyn. customary; well-knownAnt. strange; unfamiliarRelate. เคำยช้&น, ซึ่%�งเป็(นที่��รั/ �จ�ก

familiar [N] ; เพ��อนสน&ที่Syn. comrade; friend; intimateAnt. enemy; foeRelate. คำนคำ$�นเคำย, คำนสน&ที่สนม

6. democratic [ADJ] ; เก��ยว่ก�บป็รัะช้าธิ&ป็ไตยSyn. egilitarianRelate. เก�ยว่ก�บคำว่ามเสมอภาคำ

7. democracy [N] ; การัป็กคำรัองแบบป็รัะช้าธิ&ป็ไตยSyn. republic commonwealthRelate. รัะบอบป็รัะช้าธิ&ป็ไตย, ป็รัะเที่ศที่��ป็กคำรัองด้�ว่ยรัะบอบป็รัะช้าธิป็

~ 35 ~

ไตย

democracy [N] ; ป็รัะช้าธิ&ป็ไตยSyn. citizentry egalitarianismRelate. คำว่ามเป็(นป็รัะช้าธิ&ป็ไตย

8. youthful [ADJ] ; หน$�ม,สาว่,อ�อนอาย$,เยาว่,อาย$น�อย,ด้รั$ณ , S. youthfulness n. , S. young,juvenile

9. progressive [ADJ] ; ที่��ด้�าเน&นต�อเน��องไป็ (ที่างไว่ยากรัณ)Syn. continuous

progressive [ADJ] ; ที่��เคำล��อนที่��ไป็ข�างหน�าSyn. movingAnt. immovable

progressive [ADJ] ; ที่��ก�าว่หน�าข%2นSyn. successive; growingAnt. retrogressiveRelate. ที่��พ�ฒนาข%2น

10. appreciate [VT] ; ส�าน%กบ$ญคำ$ณSyn. thank; welcome; be appreciativeRelate. เห+นคำ$ณคำ�า, ส�าน%กคำ$ณคำ�า

appreciate [VT] ; ยกย�องSyn. value; esteem; cherishAnt. despise; disdainRelate. ช้��นช้ม

appreciate [VI] ; (รัาคำา) ข%2น

appreciate [VT] ; ข%2นรัาคำา

~ 36 ~

atmosphere [N] ; อากาศSyn. air

11. atmosphere [N] ; ช้�2นบรัรัยากาศSyn. layer of air; gaseous envelope

atmosphere [N] ; บรัรัยากาศที่��น�าสนใจของสถึานที่��

atmosphere [N] ; ภ/ม&อากาศSyn. climateRelate. สภาว่ะอากาศ

atmosphere [N] ; อารัมณหรั�อการัให�ส�ของงานศ&ลป็Omonarchy [N] ; ป็รัะเที่ศที่��ม�พรัะมหากษ�ตรั&ยเป็(นป็รัะม$ข

12. monarchy [N] ; การัป็กคำรัองโด้ยม�พรัะมหากษ�ตรั&ยเป็(นป็รัะม$ขSyn. kingship; sovereigntyRelate. รัาช้าธิ&ป็ไตย, รัะบอบกษ�ตรั&ย

13. revolution [N] ; การัหม$นหน%�งรัอบSyn. circle; rotation

14. revolution [N] ; ว่�ฏจ�กรัSyn. cycle

revolution [N] ; การัเป็ล��ยนแป็ลงอย�างส&2นเช้&งSyn. innovation; transformation

revolution [N] ; การัป็ฏ&ว่�ต&Syn. mutiny; rebellion; revoltregime [N] ; รัะบอบการัป็กคำรัองSyn. management; system

~ 37 ~

15. southeast asia [N] ; ภ/ม&ภาคำเอเช้�ยตะว่�นออกเฉ�ยงใต�

16. desire [VT] ; ป็รัารัถึนาSyn. demand; ask for; requireAnt. hate; dislike; loatheRelate. อยาก, ต�องการั, ป็รัะสงคำ

desire [N] ; คำว่ามป็รัารัถึนาSyn. will; wish; dun; hopeAnt. distaste; dislikeRelate. คำว่ามอยาก, คำว่ามป็รัะสงคำ, คำว่ามต�องการั16. demonstrate [VT] ; อธิ&บายSyn. explain; describe; expressRelate. ให�เหต$ผูล

demonstrate [VI] ; ป็รัะที่�ว่งSyn. protest

demonstrate [VT] ; พ&ส/จนSyn. show; prove; confirmRelate. ที่ด้ลองให�เห+น

demonstrate [VT] ; สาธิ&ตSyn. show; prove; exibitRelate. แสด้ง, แสด้งให�เห+น

17. promote [VT] ; ช้�ว่ยเหล�อให�ด้�ข%2นSyn. push; boost; nourish; nurtureAnt. discourage; weakenRelate. ส�งเสรั&ม, โฆ่ษณา

promote [VT] ; เล��อนต�าแหน�งSyn. advance; raise

~ 38 ~

Ant. humble; demote

18. equality [N] ; คำว่ามเที่�าเที่�ยมSyn. balance; parity; uniformityRelate. คำว่ามเสมอภาคำ

19. parliamentary democracy การัป็กคำรัองแบบป็รัะช้าธิ&ป็ไตย(1) รั�ฐสภาการัป็กคำรัองแบบป็รัะช้าธิ&ป็ไตยรั�ฐสภา

20. duplicate [N] ; ส�าเนาSyn. copy; replica; photocopyAnt. originalRelate. ส&�งที่��เหม�อนก�น

duplicate [VT] ; เพ&�มเป็(น 2 เที่�าSyn. redouble; repeat; reproduce; doubleAnt. halveRelate. ที่�าเป็(น 2 เที่�า

duplicate [ADJ] ; เหม�อนก�นSyn. identical; like; sameAnt. different; opposed

duplicate [VT] ; จ�าลองSyn. reproduce; copy counterfeit

21. president [N] ; ป็รัะธิานSyn. director; chairman; VIPAnt. laborerRelate. อธิ&การับด้�, ผู/�ม�อ�านาจในการับรั&หารั, บ$คำคำลส�าคำ�ญขององคำกรั

president [N] ; ป็รัะธิานาธิ&บด้�

~ 39 ~

Relate. ที่�าซึ่�2า, ถึ�ายส�า

22. exception [N] ; คำนที่��ได้�รั�บการัยกเว่�นRelate. คำนที่��ถึ/กยกเว่�น

exception [N] ; ข�อยกเว่�นSyn. irregularityRelate. การัยกเว่�น

region [N] ; ภ/ม&ภาคำSyn. country; districtRelate. แคำว่�น

region [N] ; ขอบเขตSyn. area; landRelate. แถึบ, บรั&เว่ณ

23. political [ADJ] ; เก��ยว่ก�บพรัรัคำการัเม�อง

political [ADJ] ; เก��ยว่ก�บรั�ฐบาลRelate. เก��ยว่ก�บรั�ฐ

political [ADJ] ; เก��ยว่ก�บการัป็กคำรัองSyn. legislativeRelate. เก��ยว่ก�บการัเม�อง

political [ADJ] ; เก��ยว่ก�บพลเม�อ

24.firmly [ADV] ; อย�างหน�กแน�นRelate. อย�างม��นคำง, อย�างเหน�ยว่แน�น

sultanate [N] ; อ�านาจหรั�ออาณาจ�กรัของส$ลต�าน

~ 40 ~

25.abundance [N] ; คำว่ามอ$ด้มสมบ/รัณSyn. bounty; profusionRelate. คำว่ามอ$ด้ม, คำว่ามสมบ/รัณ, คำว่ามมากมาย

26. resource [N] ; ที่รั�พยากรัSyn. reserved supply

resource [N] ; แหล�งที่��มาSyn. means; deviceRelate. ว่&ธิ�การั

resource [N] ; ป็ฏ&ภานSyn. ability; cleverness; initiativeRelate. ไหว่พรั&บ

27.peaceful [ADJ] ; ซึ่%�งยอมตามRelate. ซึ่%�งโอนอ�อน, ซึ่%�งผู�อนตาม

peaceful [ADJ] ; สงบSyn. calm; even; impassiveAnt. disturbedRelate. ซึ่%�งม�รัะเบ�ยบ, เง�ยบสงบ

28.absolute monarchy [N] ; รัาช้าธิ&ป็ไตยแบบสมบ/รัณาญาส&ที่ธิ&รัาช้ (not limited by laws)

29.population [N] ; ป็รัะช้ากรัSyn. inhabitants; dwellers; citizenry; groupRelate. พลเม�อง, รัาษฎรั

population [N] ; กล$�มพ�ช้และส�ตว่ที่��อาศ�ยอย/�ในบรั&เว่ณหน%�ง

~ 41 ~

30. facility [N] ; ส&�งอ�านว่ยคำว่ามสะด้ว่ก

facility [N] ; คำ$ณสมบ�ต&พ&เศษของเคำรั��องจ�กรัหรั�อการับรั&การัต�างๆSyn. extra feature

31. ivelihood [N] ; คำว่ามเป็(นอย/�Syn. sustenance; subsistenceRelate. การัด้�ารังช้�ว่&ต, การัคำรัองช้�พ

32. gain [N] ; จ�านว่นที่��เพ&�มข%2นSyn. increase; enlargementAnt. decrease; reductionRelate. ป็รั&มาณที่��ขยายออก

gain [VT] ; ได้�รั�บSyn. earn; obtain; procure; receiveAnt. loseRelate. ส�าเรั+จ, บรัรัล$, ได้�ก�าไรั, ได้�ป็รัะโยช้น, เอาช้นะจนได้�บางส&�งมา

gain [VT] ; เพ&�มSyn. increase; enlarge; expandAnt. decrease; lessenRelate. ที่�าให�มากข%2น

gain [N] ; ผูลป็รัะโยช้นSyn. benefit; advantage; profitRelate. ผูลก�าไรั

gain [VT] ; ไป็ถึ%งSyn. reachRelate. มาถึ%ง

33. instability [N] ; คำว่ามไม�ม��นคำง

~ 42 ~

Relate. คำว่ามไม�แน�นอน, การัไม�ม�เสถึ�ยรัภาพ, คำว่ามล�งเลใจ

34. struggle [N] ; การัต�อส/�Syn. battle; combat; fightRelate. การัแข�งข�น

struggle [N] ; คำว่ามพยายามSyn. effort; exertion; strainRelate. การัฝ่Fาฟ@น, การัด้&2นรัน

struggle [VI] ; ต�อส/�Syn. battle; combat; fightRelate. แข�งข�น

struggle [VI] ; ด้&2นรันSyn. exert; strain; striveRelate. พยายาม

35. insurgence [N] ; การัจลาจลSyn. rebellion; revoltAnt. obedience; complianceRelate. การัก�อจลาจล, การัป็รัะที่�ว่ง

36. led เป็(นผู/�น�า(1)

เป็(นผู/�น�า37. minority [N] ; คำว่ามเป็(นผู/�เยาว่ (ที่างกฎหมาย)Syn. childhood; immaturity

minority [N] ; คำนกล$�มน�อยSyn. small quantityAnt. majority

~ 43 ~

Relate. ช้นกล$�มน�อย, เส�ยงข�างน�อย, ส�ว่นน�อย

38. caretaker [ADJ] ; ที่��เข�ามาด้/แลช้��ว่คำรัาว่

caretaker [N] ; ผู/�ที่��รั �บจ�างด้/แลSyn. keeper; custodian

39. barrack [VT] ; จ�ด้ที่หารัเข�าคำ�ายพ�ก

barrack [N] ; คำ�ายที่หารัSyn. billetRelate. โรังที่หารั

40. attempt [N] ; คำว่ามพยายามSyn. try; endeavorRelate. คำว่ามมานะ, คำว่ามอ$ตสาหะ

attempt [VT] ; พยายามSyn. try; endeavorRelate. หาที่าง, ขว่นขว่าย

41. election [N] ; การัเล�อกRelate. การัคำ�ด้สรัรั

42. risk [N] ; ภ�ยอ�นตรัายSyn. danger; hazard; insecurityRelate. อ�นตรัาย, การัเส��ยงภ�ย

risk [N] ; การัเส��ยงSyn. chance; gamble

risk [VT] ; เส��ยงที่�าSyn. gamble; venture

~ 44 ~

Relate. เส��ยง, ลอง

risk [VT] ; เส��ยงภ�ยSyn. endanger; hazardRelate. เส��ยงอ�นตรัาย

43. coup d'etat [N] ; การัรั�ฐป็รัะหารัSyn. putsch; takeoverRelate. การัช้&งอ�านาจ, การัป็ฏ&ว่�ต&

44. dictatorial [ADJ] ; เก��ยว่ก�บเผูด้+จการัSyn. tyrannical; autocraticAnt. democraticRelate. ซึ่%�งใช้�อ�านาจส��งให�คำนอ��นที่�าตามใจต�ว่เองโด้ยไม�ม�เหต$ผูล, เก��ยว่ก�บการักด้ข��ข�มเหง45. state peace คำว่ามสงบเรั�ยบรั�อย(1) สภาพคำว่ามสงบเรั�ยบรั�อยสภาพpeace [N] ; คำว่ามสงบเรั�ยบรั�อยSyn. concord; conformity; harmonyAnt. discord; conflictRelate. ส�นต&ภาพ, คำว่ามสงบ, ส�นต&

peace [N] ; สนธิ&ส�ญญาส�นต&ภาพ

46. council [N] ; สภาRelate. สภาที่�องถึ&�น, สภาเที่ศบาล

council [N] ; การัป็รัะช้$มเพ��อป็รั%กษาหารั�อ

council [N] ; คำณะกรัรัมการัSyn. committee

~ 45 ~

47. maintain [VT] ; รั�กษาSyn. sustain; keep up; preserveRelate. ด้/แลต�อไป็, คำงอย/�, ด้�ารัง, คำงเอาไว่�, ที่รังไว่�, รั�กษาไว่�

48. opposition [N] ; ฝ่Fายคำ�านAnt. GovernmentRelate. พรัรัคำฝ่Fายคำ�าน

opposition [N] ; การัคำ�ด้คำ�านSyn. resistance; obstructionAnt. compliance; agreementRelate. การัต�อต�าน, การัเป็(นป็รัป็@กษ, การัเป็(นศ�ตรั/

opposition [N] ; ผู/�ต�อต�านSyn. antagonist; opponentAnt. ally; friendRelate. ผู/�คำ�ด้คำ�าน, คำ/�ต�อส/�

opposition [N] ; ฝ่Fายคำ�านAnt. GovernmentRelate. พรัรัคำฝ่Fายคำ�าน

49. democratic movement กรัะบว่นการั(1) ป็รัะช้าธิ&ป็ไตยกรัะบว่นการัป็รัะช้าธิ&ป็ไตย

50. national league สหพ�นธิ(1) ป็รัะช้าช้นสหพ�นธิป็รัะช้าช้น

51. ethnic [ADJ] ; เก��ยว่ก�บช้าต&พ�นธิ$Relate. เก��ยว่ก�บเช้�2อช้าต&, เก��ยว่ก�บเผู�าพ�นธิ$

~ 46 ~

52. maltreatment [N] ; การัที่ารั$ณSyn. injustice; injury; abuse; violationRelate. การักรัะที่�าผู&ด้, การัป็รัะที่$ษรั�าย, การัป็ฏ&บ�ต&ไม�ด้�

53. the american presidential democracy การัป็กคำรัองแบบป็รัะช้าธิ&ป็ไตย(1) ป็รัะธิานาธิ&บด้�อเมรั&กาการัป็กคำรัองแบบป็รัะช้าธิ&ป็ไตยป็รัะธิานาธิ&บด้�อเมรั&กา

54. implement [VT] ; ที่�าให�ม�ผูลSyn. achieve; carry out; execute; fulfillRelate. ที่�าให�บรัรัล$ผูล, ที่�าให�ส�าเรั+จ, ที่�าให�เก&ด้ป็รัะโยช้น

implement [VT] ; จ�ด้เตรั�ยมเคำรั��องม�อหรั�อว่&ธิ�การัไว่�ให�

implement [N] ; อ$ป็กรัณเคำรั��องใช้�Syn. instrument; toolRelate. เคำรั��องม�อ

55. apparent [ADJ] ; ช้�ด้เจนSyn. obvious; evidentRelate. เด้�นช้�ด้

apparent [ADJ] ; ซึ่%�งเห+นได้�Syn. visible

56. competition [N] ; การัแข�งข�นSyn. rivalry; contest; contention

57. civilian [N] ; พลเรั�อน,น�กศ%กษากฎหมายแพ�ง

58. politician [N] ; ผู/�แสว่งต�าแหน�งอ�านาจเพ��อป็รัะโยช้นส�ว่นตน

politician [N] ; ผู/�ด้�ารังต�าแหน�งหน�าที่��ที่างการัเม�อง

~ 47 ~

politician [N] ; น�กการัเม�องSyn. party man; partisan; demagogue; congressmanRelate. ผู/�เล�นการัเม�อง

59. tumultuously [ADV] ; อย�างอ%กที่%กคำรั%กโคำรัม

60. declare [VT] ; ป็รัะกาศSyn. adjudge; announce; proclaim; pronounceRelate. ก�าหนด้, แถึลง, แจ�ง

declare [VI] ; ออกคำ�าส��งSyn. adjudge; announce; proclaim; pronounceRelate. ก�าหนด้, ป็รัะกาศ, แถึลงการัณ, แจ�ง

declare [VT] ; ส�าแด้งSyn. make a declarationRelate. แสด้งรัายการัตามข�อก�าหนด้ เช้�น ภาษ�, ส&นคำ�า

declare [VT] ; ย�นย�นSyn. affirm; express; give evidence of; reveal; show; state firmlyRelate. รั�บรัอง, แสด้งหล�กฐาน

declare [VT] ; เป็Jด้เผูยSyn. break; bring out; disclose; discover; divulge; expose; give away; impart; let on; reveal; showAnt. close; coverRelate. เผูย (คำว่ามล�บ), เป็Jด้โป็

61. martial law [N] ; กฎอ�ยการัศ%ก

62. dictatorial [ADJ] ; เก��ยว่ก�บเผูด้+จการั

~ 48 ~

Syn. tyrannical; autocraticAnt. democraticRelate. ซึ่%�งใช้�อ�านาจส��งให�คำนอ��นที่�าตามใจต�ว่เองโด้ยไม�ม�เหต$ผูล, เก��ยว่ก�บการักด้ข��ข�มเหง

63. against [PREP] ; ฝ่>นRelate. ฝ่Fาฝ่>น, ข�ด้, ตรังก�นข�ามก�บ

against [PREP] ; ป็กป็Bองจาก

against [PREP] ; ป็ะที่ะก�บRelate. กรัะที่บก�บ

against [PREP] ; เป็รั�ยบเที่�ยบก�บ

against [PREP] ; เพ��อใช้�คำ�นให�ก�บ

against [PREP] ; ต�อต�านSyn. opposite toRelate. ส/�ก�บ

against [PREP] ; ที่าบRelate. พ&ง, พาด้, แนบ

against [PREP] ; ต�านRelate. ที่ว่น, ที่ว่นน�2า

against [PREP] ; เก��ยว่ข�องก�บเหต$การัณ

against [PREP] ; ด้/ข�ด้แย�งก�บRelate. ด้/ข�ด้ก�บ

~ 49 ~

against [PREP] ; เป็(นข�อเส�ยของ

64. dutch troop ช้าว่เนเธิอรัแลนด้(1) เด้&นขบว่น(2)

ช้าว่เนเธิอรัแลนด้เด้&นขบว่น

65. vigorously [ADV] ; อย�างคำล�องแคำล�ว่Syn. alertly; energetically; eagerly; nimblyAnt. calmly; aimlessly; slowlyRelate. อย�างกรัะฉ�บกรัะเฉง, อย�างม�พล�ง

66. wage [VT] ; เข�ารั�ว่ม (ต�อส/�)

wage [N] ; คำ�าจ�างSyn. emolument; pay; salary; wagesRelate. คำ�าแรัง

67. drag [N] ; การัด้%งSyn. heave; tug; yank; pullAnt. push; shove; prodRelate. การัลาก

drag [N] ; การัอ�ด้คำว่�นบ$หรั��เข�าป็อด้Syn. inhalation; druffAnt. exhalation

drag [N] ; คำนน�าเบ��อ (คำ�าไม�เป็(นที่างการั)

drag [VT] ; ลากSyn. heave; tug; yank; pullAnt. push; shove; prodRelate. ด้%ง, ข$ด้, สาว่, ช้�ก

~ 50 ~

drag [VI] ; พ�นคำว่�นSyn. smoke; suck

68. harsh [ADJ] ; แสบ (แก�ว่ห/)

harsh [ADJ] ; หยาบRelate. สาก, แข+ง

harsh [ADJ] ; กรัะด้�างSyn. aurtere; severe; sternAnt. easygoing; lenient; pleasantRelate. รั$นแรัง, ห�าว่, เกรั�2ยว่กรัาด้, แข+งกรั�าว่

harsh [ADJ] ; ที่��ไม�สามารัถึที่นได้� (ต�อสภาพอากาศหรั�อสภาพคำว่ามเป็(นอย/�)

69. eradication [N] ; การัที่�าลาย,การัถึอนรัากถึอนโคำน,การัก�าจ�ด้

70. establish [VT] ; แสด้งให�เห+นSyn. prove; verifyRelate. พ&ส/จน

establish [VT] ; สรั�างSyn. found; institute; set upRelate. สถึาป็นา, ก�อต�2ง, จ�ด้ต�2ง

71. defeasance [N] ; การัยกเล&กRelate. การัที่�าให�เป็(นโมฆ่ะ, การัเพ&กเฉย

72. defense [N] ; กองที่�พบกRelate. กองที่�พ

~ 51 ~

defense [N] ; ฝ่Fายรั�บ (ที่างก�ฬา)Relate. ฝ่Fายต�2งรั�บ

defense [N] ; ที่นายฝ่Fายจ�าเลย

defense [N] ; ส&�งคำ$�มก�นSyn. barricade; shieldRelate. ว่&ธิ�ป็Bองก�น, เคำรั��องก�2นขว่าง, ด้�าน, ป็รัาการั

defense [N] ; การัคำ$�มคำรัองSyn. protection; safequard; offense; securityRelate. การัป็กป็Bอง, การัคำ$�มก�น, การัอารั�กขา

. defense [N] ; คำ�าให�การัSyn. argument; excuse; justificationRelate. คำ�าแก�ต�ว่, คำ�าอ�างเหต$ผูล, คำ�าแก�ต�าง, การัแสด้งหล�กฐาน, หล�กฐาน, การัเป็(นพยาน defense [N] ; กองที่�พบกRelate. กองที่�พ73. merely [ADV] ; เพ�ยงเที่�าน�2นSyn. only; exclusivelyRelate. เพ�ยงแต�, เที่�าน�2น, อย�างง�ายๆ

defense [N] ; ฝ่Fายรั�บ (ที่างก�ฬา)Relate. ฝ่Fายต�2งรั�บ

defense [N] ; ที่นายฝ่Fายจ�าเลย

defense [N] ; ส&�งคำ$�มก�นSyn. barricade; shieldRelate. ว่&ธิ�ป็Bองก�น, เคำรั��องก�2นขว่าง, ด้�าน, ป็รัาการั

defense [N] ; การัคำ$�มคำรัอง

~ 52 ~

Syn. protection; safequard; offense; securityRelate. การัป็กป็Bอง, การัคำ$�มก�น, การัอารั�กขา

defense [N] ; คำ�าให�การัSyn. argument; excuse; justificationRelate. คำ�าแก�ต�ว่, คำ�าอ�างเหต$ผูล, คำ�าแก�ต�าง, การัแสด้งหล�กฐาน, หล�กฐาน, การัเป็(นพยาน

74. dictatorship [N] ; รัะบบเผูด้+จการัSyn. despotism; autarchyRelate. การัป็กคำรัองแบบเผูด้+จการั

dictatorship [N] ; รั�ฐบาลที่��ป็กคำรัองแบบเผูด้+จการั

75. uprising [N] ; การัป็ฏ&ว่�ต&Syn. revolt; rebellion

76. reintroduce [VT] ; แนะน�าอ�ก

77. maladroit [ADJ] ; ไม�ช้�านาญSyn. clumsy; inept; awkwardAnt. adroitRelate. ไม�คำล�องต�ว่, อ$�ยอ�าย, ง$ �มง�าม

78. impeachment [N] ; การักล�าว่โที่ษเจ�าหน�าที่��รั �ฐว่�าที่�าผู&ด้ศ�ลธิรัรัมหรั�อจรัรัยาบรัรัณRelate. การัฟBองรั�อง

79. compromise [VT] ; ป็รัะน�ป็รัะนอม

compromise [N] ; การัป็รัะน�ป็รัะนอมSyn. give-and-take; accommodation

~ 53 ~

compromise [VI] ; ป็รัะน�ป็รัะนอม

80. violence [N] ; การัใช้�ก�าล�งที่�าลายSyn. force; savageryRelate. การัที่�าลาย

violence [N] ; คำว่ามรั$นแรังSyn. rampage; tumult

violence [N] ; คำว่ามด้$เด้�อด้ (ใช้�ก�บอารัมณหรั�อคำ�าพ/ด้)Syn. Ferver

81.erupt [VI] ; รัะเบ&ด้Syn. burst out; explodeRelate. ป็ะที่$

erupt [VT] ; ที่�าให�รัะเบ&ด้Syn. burst out; explodeRelate.

82. suspension [N] ; การัให�พ�กงานRelate. การัพ�กต�าแหน�ง

suspension [N] ; การัลอยต�ว่ของอน$ภาคำในของเหลว่Syn. dispersion of particles

suspension [N] ; การัหย$ด้ช้�ารัะหน�2Relate. การังด้ช้�ารัะหน�2

suspension [N] ; การัเล��อนคำ�าต�ด้ส&นSyn. postponement; defermentRelate. การัเล��อนการัพ&จารัณาคำด้�

~ 54 ~

suspension [N] ; รัะบบก�นสะเที่�อนของรัถึ

suspension [N] ; การัหย$ด้ช้��ว่คำรัาว่Syn. interruption; abeyance; breakRelate. การัรัะง�บช้��ว่คำรัาว่, การัยกเล&กช้��ว่คำรัาว่

83. enactment [N] ; กฎหมายSyn. law; legislation; regulationRelate. พ.รั.บ., พรัะรัาช้บ�ญญ�ต&, กฎหมาย, พรัะรัาช้กฤษฎ�กา, กฎกรัะที่รัว่ง

enactment [N] ; การัป็รัะกาศใช้�เป็(นกฎหมายRelate. การับ�ญญ�ต&, การัออกกฎหมาย

84.infamous [ADJ] ; น�าอ�บอายSyn. shameful; notorious; disreputable; dishonourableRelate. น�าขายหน�า

85. authorisation [N] ; การัป็รัะพ�นธิ,การัอน$ญาตหรั�ออ�านาจที่��ได้�มอบหมาย (sanction, approval)

86. pervasive [ADJ] ; แพรั�หลาย,ซึ่%�งแผู�ซึ่�าน,ซึ่%�งกรัะจายไป็ที่��ว่

87. consider [VT] ; พ&จารัณาSyn. think; reconsider; studyRelate. คำ&ด้อย�างละเอ�ยด้

consider [VI] ; พ&จารัณาRelate. คำ&ด้อย�างละเอ�ยด้

88. realization [N] ; คำว่ามเข�าใจหรั�อคำว่ามตรัะหน�กSyn. understanding; recognition

~ 55 ~

89. improvement [N] ; การัป็รั�บป็รั$งSyn. amelioration; developmentAnt. decay; deteriorationRelate. การัแก�ไข, การัที่�าให�ด้�ข%2น

90. divergent [ADJ] ; ซึ่%�งแตกต�างก�นSyn. differentRelate. ซึ่%�งไม�สอด้คำล�องก�น

91. deprive [VT] ; ป็ลด้ต�าแหน�ง

deprive [VT] ; ย%ด้ที่รั�พยSyn. bereave; stripAnt. supplyRelate. รั&บที่รั�พย, ต�ด้ที่อน, ย%ด้, ถึอด้ถึอน

92. meaningful [ADJ] ; ซึ่%�งม�คำว่ามหมายSyn. significant; greatAnt. insignificant; unimportantRelate. ส�าคำ�ญ

93. abdicate [VT, V] ; ละเลยหน�าที่��Syn. abandon; surrender

abdicate [VI] ; สละรัาช้สมบ�ต&Syn. renounce; relinguishRelate. สละรัาช้บ�ลล�งก, สละอ�านาจ, ถึอนต�ว่(จากอ�านาจ, ต�าแหน�ง,

ส&ที่ธิ&K)

abdicate [VT] ; ที่�าให�สละรัาช้สมบ�ต&Relate. ที่�าให�สละรัาช้บ�ลล�งก, ที่�าให�สละอ�านาจ, ที่�าให�ถึอนต�ว่(จากอ�านาจ,

ต�าแหน�ง, ส&ที่ธิ&K)

~ 56 ~

94. former monarch พรัะมหากษ�ตรั&ยก�อนพรัะมหากษ�ตรั&ยก�อ

95. arena [N] ; สนามก�ฬาSyn. field; ground; coliseumRelate. ส�งเว่�ยน, เว่ที่�

arena [N] ; สถึานที่��เก&ด้เหต$Relate. สถึานการัณ, ช้�ว่งเว่ลาที่��เก&ด้เหต$

96. dictator [N] ; ผู/�เผูด้+จการัSyn. authoritarian; despot; totalitarianRelate. ผู/�กด้ข��

97. leftist [ADJ] ; น&ยมฝ่Fายซึ่�าย

leftist [N] ; สมาช้&กของพรัรัคำการัเม�องฝ่Fายซึ่�ายSyn. collectivist; left-wingerRelate. พว่กน&ยมฝ่Fายซึ่�าย

98. leftward [ADJ,ADV] ; ไป็ที่างซึ่�าย,ที่างด้�านซึ่�าย

99. impose [VT] ; ก�าหนด้Syn. enforce; inflict; levyRelate. เรั�ยกเก+บ (ภาษ�), บ�งคำ�บให�ม�, ก�าหนด้โที่ษให�

100. military dictatorship รัะบบเผูด้+จการั(1) ที่หารัรัะบบเผูด้+จการัที่หารั

101. brutal [ADJ] ; โหด้รั�าย

~ 57 ~

Syn. cruelAnt. kindlyRelate. รั$นแรัง102. invasion [N] ; การับ$กรั$กSyn. intrusion; encroachmentRelate. การัรั$กล�2า, การัล�ว่งล�2า

invasion [N] ; การัรั$กรัานSyn. attack; assult; inroadAnt. defense; protectionRelate. การัโจมต�

103. civil war [N] ; สงคำรัามกลางเม�อง

104. great power [N] ; มหาอ�านาจ

105. apathetic [ADJ] ; ที่��ไม�กรัะต�อรั�อรั�นSyn. impassiveRelate. เฉ��อยช้า, ไม�แยแส

106. culminate [VT] ; ที่�าให�ถึ%งจ$ด้ส/งส$ด้Syn. cap; climax

culminate [VI] ; ถึ%งจ$ด้ส/งส$ด้

107. prosecution [N] ; การัด้�าเน&นให�ล$ล�ว่ง

prosecution [N] ; การัฟBองรั�องSyn. pursuit; pursuanceRelate. การัด้�าเน&นคำด้�ตามกฎหมาย

108. intermittently [ADV] ; อย�างไม�ต�อเน��องSyn. irregularly; spasmodically; sporadically

~ 58 ~

Ant. regularlyRelate. พลอมแพลม

contest [VT] ; ที่�าที่าย109. Syn. challenge

contest [N] ; การัด้&2นรัน

contest [VT] ; เข�ารั�ว่มการัป็รัะกว่ด้Relate. เข�ารั�ว่มการัแข�งข�น

contest [N] ; การัแข�งข�นSyn. competition; trial; matchRelate. การัป็รัะกว่ด้

110. tend [VI] ; โน�มเอ�ยงSyn. conduce; direct; point; leadRelate. โน�มน�าว่

tend [VI] ; คำอยรั�บใช้�Syn. guard; attend

tend [VT] ; เล�2ยง (ส�ตว่)Syn. care

111. prospective [ADJ] ; ที่��คำาด้หว่�งไว่�Syn. hoped for; promised; plannedRelate. ซึ่%�งหว่�งไว่�

112. conciliate [VT] ; ที่�าให�เป็(นม&ตรัSyn. pacify; make friendly

succumb [VI] ; ตาย

~ 59 ~

Syn. cease; die; expire

113. succumb [VI] ; จ�านนSyn. accede; submit; surrender; yieldRelate. พ�ายแพ�, ยอมจ�านนprolong [VT] ; ที่�าให�ขยายหรั�อยาว่ข%2นSyn. extend; prolongate

114. prolong [VT] ; ย�ด้เว่ลาSyn. extend; prolongate

115. rival [N] ; คำ/�แข�งSyn. competitior; contestantRelate. คำ/�ต�อส/�, คำ/�ป็รั�บ

rival [VT] ; แข�งข�นSyn. compete

rival [VT] ; ม�คำว่ามสามารัถึที่�ด้เที่�ยมก�นSyn. equal; match

rival [N] ; ผู/�ที่��ม�คำว่ามสามารัถึที่�ด้เที่�ยมก�นRelate. ส&�งที่��พอจะที่�ด้เที่�ยมก�นได้�

rival [VI] ; แข�งข�นSyn. compete

rival [ADJ] ; ที่��เป็(นคำ/�แข�งก�นSyn. competing; opposingRelate. ที่��เป็(นคำ/�แข�งข�น116. neutralist [N] ; ผู/�เป็(นกลางSyn. isolationistRelate. ผู/�ไม�ฝ่@กใฝ่Fฝ่Fายใด้ฝ่Fายหน%�ง

~ 60 ~

117. rightist [N] ; ผู/�ถึ�อล�ที่ธิ&อน$รั�กษน&ยมSyn. conservative; right-winger

rightist [ADJ] ; ซึ่%�งย%ด้ถึ�อล�ที่ธิ&อน$รั�กษน&ยมSyn. right-wing

nterference [N] ; ส&�งรับกว่นSyn. hindrance; impediment; obstructionRelate. เหต$ข�ด้ข�อง, อ$ป็สรัรัคำ

118. interference [N] ; การัเข�าแที่รักแซึ่งSyn. intervention; meddlesomenessRelate. การัเข�าไป็ย$�งเรั��องคำนอ��น

119. aspiration [N] ; การัส/ด้ลมหายใจเข�า

aspiration [N] ; คำว่ามที่ะเยอที่ะยานSyn. eagerness; yearning; ambitionRelate. คำว่ามม�กใหญ�ใฝ่Fส/ง, คำว่ามม$�งมาด้ป็รัารัถึนา, คำว่ามที่ะยานอยาก

aspiration [N] ; การัออกเส�ยงพรั�อมก�บป็ล�อยลมหายใจออก

120. field marshal [N] ; ต�าแหน�งที่หารัส/งส$ด้ของกองที่�พอ�งกฤษ (ส�ญล�กษณย�อคำ�อ FM)

121. civilian politician น�กการัเม�อง(1) พลเรั�อน(2)

น�กการัเม�องพลเรั�อน

122. vanish [VI] ; หายไป็Syn. disappear; fade away; pass awayAnt. appear

~ 61 ~

Relate. อ�นตรัธิาน, ล�มหายตายจากไป็, ส/ญหาย

123. unauspicious [ADJ] ; ซึ่%�งโช้คำรั�ายSyn. unpropitious; unfavorableAnt. hopeful; propitious

124. violence [N] ; การัใช้�ก�าล�งที่�าลายSyn. force; savageryRelate. การัที่�าลาย

violence [N] ; คำว่ามรั$นแรังSyn. rampage; tumult

violence [N] ; คำว่ามด้$เด้�อด้ (ใช้�ก�บอารัมณหรั�อคำ�าพ/ด้)Syn. ferver

125. usher [VI] ; ที่�าหน�าที่��เป็(นผู/�น�าที่างSyn. escort

usher [N] ; พน�กงานที่��น�าไป็ย�งที่��น� �งSyn. escort

usher [VT] ; น�าที่างSyn. guide; escort

126. constitutional [ADJ] ; ที่��เป็(นส�ว่นพ�2นฐานSyn. basic; essentialRelate. ที่��เป็(นส�ว่นก�าเน&ด้

constitutional [ADJ] ; ที่��เป็(นส�ว่นหน%�งที่��จ�าเป็(นSyn. component

127. concurrent [ADJ] ; ที่��เก&ด้ข%2นพรั�อมก�นSyn. simultaneous; coexisting

~ 62 ~

concurrent [ADJ] ; ที่��ไป็ย�งจ$ด้เด้�ยว่ก�น

concurrent [ADJ] ; ที่��เห+นพ�องต�องก�นSyn. agreeing; harmonious

concurrent [ADJ] ; ที่��กรัะที่�ารั�ว่มก�นSyn. cooperating; mutual

128. implement [VT] ; ที่�าให�ม�ผูลSyn. achieve; carry out; execute; fulfillRelate. ที่�าให�บรัรัล$ผูล, ที่�าให�ส�าเรั+จ, ที่�าให�เก&ด้ป็รัะโยช้น

implement [VT] ; จ�ด้เตรั�ยมเคำรั��องม�อหรั�อว่&ธิ�การัไว่�ให�

implement [N] ; อ$ป็กรัณเคำรั��องใช้�Syn. instrument; toolRelate. เคำรั��องม�อ

129. intervene [VI] ; เก&ด้ข%2นSyn. happen; occur

intervene [VI] ; สอด้แที่รักSyn. mediate; interfereAnt. ignoreRelate. แที่รัก, ย��นม�อเข�ามาย$�ง, เข�าขว่าง

130. territory [N] ; แนว่คำว่ามคำ&ด้

territory [N] ; อาณาเขตSyn. area; regionRelate. เขต, เขตแด้น

~ 63 ~

territory [N] ; ด้&นแด้นRelate. พ�2นที่��

131. referendum [N] ; ป็รัะช้ามต&Syn. plebiscite; voteRelate. มต&ม

132. autonomy [N] ; การัป็กคำรัองตนเองSyn. self governmentRelate. เอกรัาช้

133. auspice [N] ; ฤกษด้�Syn. favorable omenRelate. มงคำล, ศ$ภมงคำล

134. assembly [N] ; ส�ญญาณรัว่มพล

assembly [N] ; การัป็รัะกอบSyn. construction; piecing togetherRelate. การัที่�า, การัสรั�าง

assembly [N] ; กล$�มคำนRelate. คำนที่��รัว่มต�ว่ก�น

assembly [N] ; การัรัว่มกล$�มSyn. assemblage; meeting; associationRelate. การัช้$มน$ม, การัป็รัะช้$ม

assembly [N] ; ช้&2นส�ว่นRelate. ส�ว่นป็รัะกอบ