Cold Work Steel
2379
1
2379 คุณลักษณะทั่วไป (General Characteristics)
C Cr Mo V สวนผสมทาง เคมี (%wt.) 1.55 12.0 0.7 1.0
AISI D2
JIS SKD-11
DIN 1.2379 / X155CrVMo12-1
สภาพจําหนาย อบออน ความแข็งสูงสุด 250 HB
สภาพหลังชุบ ชุบแข็งและอบคืนตัว 58-62 HRC
2379 เปนเหล็กกลาเครื่องมือกลุมงานเย็นที่มีสวนผสมของคารบอนและโครเมียมในปริมาณสูง จัดเปนเหล็กกลาในกลุม 12%
เลเดบูไรติกโครเมียมสตีล ซึ่งมีตวามตานทานตอการเสียดสีดีมาก
นอกจากนี้ยังมีการผสมธาตุโมลิบดินัมเพ่ือชวยเพ่ิมความสามารถในการชุบแข็ง ใหความเหนียวแกรงดี และยังมีการผสมธาตุวาเนเดียมใหสูงถึง 1% เพ่ือชวยรักษาคมตัดใหมีความแข็งคมและมีอายุการใชงานที่ยาวนาน ชวยใหทนตอการเสียดสีและตานทานตอการสึกหรอไดสูงมากข้ึน 2379 น้ียังมีคุณสมบัติเดนทางดานการตานทานตอการออนตัวที่อุณหภูมิสูง ซึ่งเหนือกวาเหล็กกลาในกลุม
12% เลเดบูไรติกโครเมียมสตีลเกรดอื่น จึงสามารถทําไนไตรดิ้งไดดี นิยมใชทําแมพิมพสําหรับงานปม งานตัด งานเพรส งานอัดข้ึนรูปเย็น ลูกรีด ใบมีดตัดโลหะ และงานที่ตองทนกับการเสียดสีสูง ๆ
และแมพิมพพลาสติกที่ตองการความตานทานตอการสึกหรอมาก ๆ
เชนแมพิมพข้ึนรูปไฟเบอรกลาส
คุณลักษณะเดน (Significant Characteristics)
• มีความตานทานตอการสึกหรอสูงมาก
• มีความเหนียวแกรงพอใช • ชุบแข็งไดลึกมาก
• มีความสามารถในการชุบแข็งสูงมาก
• สามารถชุบแข็งในเตาสูญญากาศได • รักษาคมตัดใหมีอายุการใชงานยาวนาน
• ตานทานการออนตัวที่อุณหภูมิสูงไดดี
• เกิดการบิดงอนอยมากหลังการชุบแข็ง • ตานทานการสูญเสียคารบอนที่ผิวไดต่ํา • สามารถทําไนไตรดิ้งหลังการชุบแข็งได • สามารถเคลือบผิวดวยเทคนิคพีวีดีได
คุณสมบัติทางกายภาพ (Physical Properties)
คุณสมบัติ อุณหภูมิทดสอบ
20°C 350°C 700°C การนําความรอน / Thermal
Conductivity (W/m⋅K) 16.7 20.5 24.2
100°C 200°C
10.5 11.5
300°C 400°C
สัมประสิทธิ์การขยายตัวทางความรอนระหวาง 20°C ถึง Coefficient of thermal
expansion between 20°C
(10-6/°C) 11.9 12.2
โมดูลัสของการยืดหยุน
Modulus of elasticity (GPa) at 20°C 210
ความจุความรอนจําเพาะที่ 20°C
Specific heat at 20°C (J/g⋅°C) 0.46
ความหนาแนน
Density (g/cm3) 7.85
สภาพทางแมเหล็ก
Magnetizability ซึมซับ
การใชงาน (Applications)
2379 นิยมใชทําแมพิมพสําหรับงานเย็นอยางกวางขวาง ทั้งแมพิมพแบลงกิ้ง (Blanking) แมพิมพปม (Pressing) แมพิมพดัด (Bending) แมพิมพดึงข้ึนรูป (Drawing) แมพิมพสําหรับงานอัดข้ึนรูปเย็น (Cold extrusion) แมพิมพสําหรับงานทริมม่ิง (Trimming) งานปมเหรียญ (Coining) เปนตน และยังสามารถใชทําลูกรีด และแมพิมพสําหรับงานรีดเกลียว ใบมีดตัดเฉือนโลหะและพลาสติก และแมพิมพพลาสติกที่ตองการความตานทานตอการสึกหรอสูง ตัวอยางของการนําไป ใชงานเปนดังในตารางที่ 1 และ 2
ตารางที่ 1 งานตัดเฉือน (Manufacture of Hot Shear Blades)
ชนิดใบตัด ความหนาวัสดุ (มม.) ความแข็ง (HRC)
ใบตัดหนาตัดยาว และกลม
หนาไมเกิน 2
หนาไมเกิน 4
58-62 58-60
ใบตัดกระดาษ ไมจํากัดความหนา 58-62
ใบตัดพลาสติก ไมจํากัดความหนา 58-62
หมายเหตุ คาความแข็งสามารถเปลี่ยนแปลงไดข้ึนอยูกับสภาพการนําไปใชงาน
2
2379 ตารางที่ 2 แมพิมพแบลงกิ้ง ไดสและพันซและสวนประกอบ (Blanking dies and punches & Accessory tooling)
ชนิดวัสดุ ความหนาวัสดุ
(มม.)
ความแข็ง (HRC)
แผนเหล็กกลา แผนอะลูมิเนียม
แผนทองแดง หนาไมเกิน 6 56-60
โลหะสําหรับทําหมอแปลงและไดนาโม
หนาไมเกิน 6 58-62
แผนเหล็กกลาไรสนิมออสเตนนิติก
หนาไมเกิน 4
หนาไมเกิน 6
60-62
58-62
แผนโลหะ (สําหรับพันซและดายส แมพิมพพรีซิช่ัน)
หนาไมเกิน 4
หนาไมเกิน 6
60-62
58-62
พลาสติก ไม ยาง หนัง ผา และกระดาษ
ไมจํากัด 58-62
hold down fixture - 58-62 หมายเหตุ คาความแข็งสามารถเปลี่ยนแปลงไดข้ึนอยูกับสภาพการนําไปใช
กระบวนการอบชุบความรอน (Heat Treatments)
ตารางที่ 3 กระบวนการอบชุบทางความรอน อุณหภูมิ (°C) การเย็นตัว ความแข็ง การอบออน
830–860 ในเตา ≤ 250 HB
อุณหภูมิ (°C) การเย็นตัว การอบคลายความเคน 675-705 ในอากาศ
ขั้นที่ อุณหภูมิ (°C) เวลา/ความหนา 1 400 30 วินาท/ีมม.
2 650 30 วินาท/ีมม.
การเผาอุน
ชิ้นงาน
3 850 1 นาที/มม.
อุณหภูมิ (°C) สารชุบ ความแข็ง การชุบแข็ง (วิธีปกติ) 1000–1050
นํ้ามัน, อากาศ
/อางเกลือ ที ่500-550°C
63 HRC
การอบคืนตัว Temp (°C) 100 200 300 400
HRC 63 61 58 58
Temp (°C) 500 525 550 600
HRC 58 60 56 50
µ ข้ันตอนการชุบแข็ง (Hardening Processes) µ การอบคลายความเคน (Stress-Relief Annealing)
การเสียรูปของชิ้นงานภายหลังการชุบแข็ง อาจมีสาเหตุมาจากการมีความเคนตกคาง ที่เกิดขึ้นจากการตัดกลึงแปรรูปซ่ึงความเคนนี้สามารถกําจัดใหลดลงหรือหมดไปได โดยการอบคลายความเคนที่อุณหภูมิ 600-650°C ภายหลังจากการกลึงหยาบ โดยใชเวลาคงไวอยางนอย 2 ชม. และเพิ่มขึ้นอีก 1 ชม. ตอความหนาชิ้นงาน 50 มม. จากน้ัน ปลอยใหเย็นตวลงภายในเตา แลวจึงนําไปตกแตงผิวขึ้นสุดทาย µ การปองกันผิวสูญเสียคารบอน (Protection Against
Decarburization)
การชุบแข็งเหล็กกลาเครื่องมือน้ัน จําเปนตองปองกันการสูญเสียปริมาณคารบอนที่ผิวในระหวางการชุบแข็ง ซ่ึงมักเปนผลใหความแข็งที่ผิวหนาของชิ้นงานลดต่ําลงกวาปกติที่ควรจะไดรับ ดังนั้นวิธีการปองกันผิวสูญเสียคารบอนจะสามารถเลือกใชวิธีการชุบแข็งไดดังนี้ • ชุบแข็งในเตาสูญญากาศ • ชุบแข็งในอางเกลือ • ชุบแข็งในเตาควบคุมบรรยากาศ • หอหุมเหล็กกลาเครื่องมือดวย เศษเหล็กหลอ ผงถานโคก
หรือผงถานไม µ การเผาอุนชิ้นงาน (Preheating)
รอยแตกราวและการบิดงอของเหล็กกลาเครื่องมือที่เกิดข้ึนในขณะทําการอบชุบความรอน มีสาเหตุมาจากในระหวางที่ทําการเพ่ิมอุณหภูมิใหกับช้ินงาน จะเกิดความแตกตางทางดานอุณหภูมิระหวางผิวหนากับภายในของชิ้นงาน จึงเปนสาเหตุใหเกิดความเคนดึงข้ึนที่ผิวหนาและนําไปสูการแตกราวหรือบิดงอ ทั้งนี้มีสาเหตุมาจากคาการนําความรอนของเหล็กกลาเครื่องมือโดยทั่วไปมักมีคาต่ํา และในบางกรณีพ้ืนทีหนาตัดของช้ินงานมีขนาดแตกตางกันมาก เพ่ือหลีกเล่ียงปญหาเหลาน้ีจึงควรเพ่ิมอุณหภูมิใหแกช้ินงานอยางชา ๆ หรือ เปนข้ัน ๆ โดยในแตละข้ัน ควรเผาแชไวเปนระยะเวลา อยางนอย 30 วินาทีตอความหนา 1 มม. เพ่ือใหอุณหภูมิของช้ินงานเทากันตลอดทั้งพ้ืนที่หนาตัด แลวจึงเพ่ิมอุณหภูมิทํางานในขั้นตอไปจนเขาสูอุณหภูมิชุบแข็ง
3
2379 รูปที่ 1 แผนภาพการชุบแข็ง 2379 วิธีปกติ µ การอบออสเตนไนต (Austenitizing)
ภายหลังจากทําการเผาอุนช้ินงานในขั้นสุดทาย จากนั้นจึงทําการเพ่ิมอุณหภูมิตอไปจนถึงชวงอุณหภูมิของชุบแข็ง (Hardening Temperature) และตองทําการเผาแชที่อุณหภูมิชุบแข็งตามระยะเวลาที่กําหนด ซึ่งข้ึนอยูกับความหนาของชิ้นงาน เพ่ือใหอุณหภูมิที่ผิวหนาและภายในมีความสม่ําเสมอเทากัน และเพ่ือใหโครงสรางจุลภาคไดเปล่ียนเปนออสเตนไนตอยางสมบูรณ อีกทั้งไมควรเกิดการขยายตัวของเกรนออสเตนไนตมากจนเกินไป
รูปที่ 2 เวลาการเผาแชกับความหนาของ 2379
µ การจุมชุบ (Quenching)
2379 สามารถชุบไดทั้งในสารชุบที่เปนอากาศหรือนํ้ามัน หรือสามารถจุมชุบในอางเกลือ (มารเทมเปอรริงค) สําหรับการชุบในอางเกลือจะนําช้ินงานจุมชุบที่อุณหภูมิ 500-
550°C และคงไวที่อุณหภูมิน้ีจนกวาช้ินงานจะมีอุณหภูมิเทากันตลอดทั้งพ้ืนที่หนาตัด จากนั้นปลอยใหเย็นตัวในอากาศ การจุมชุบทั้งสองแบบนี้จะตองทําการอบสม่ําเสมอกอนทําการอบคืนตัว
รูปที่ 3 CCT diagram ของ 2379 วิธีปกติ
4
2379 µ การอบสม่ําเสมอ (Equalization)
การอบสม่ําเสมอ เปนการลดความเสี่ยงจากการเกิดรอ แตกราว ขณะที่ทําการจุมชุบงานจนเย็นตัวลงถึงอุณหภูมิหอง ซึ่งจะสามารถทําไดโดยขณะที่จุมช้ินงานลงในสารชุบเมื่ออุณหภูมิของช้ินงานลดลงมาจนมีอุณหภูมิเหลือประมาณ 80°C (ไมควรต่ํากวาน้ี) ใหรีบนําช้ินงานเขาเตาอบที่มีอุณหภูมิ 100-150°C แลวคงไวจนกวาช้ินงานจะมีอุณหภูมิเทากันตลอดทั้งพ้ืนที่หนาตัด หลังจากนั้นใหรีบทําการอบคืนตัวตอไปโดยทันที µ การอบคืนตัว (Tempering)
การอบคืนตัวมีวัตถุประสงค เพ่ือชวยลดระดับความเคนสะสมในชิ้นงานที่เกิดข้ึนจากการชุบแข็ง และยังชวยปรับความแข็งและความเหนียวแกรงใหเหมาะสมสําหรับการนําไปใชงานตอไป เหล็กกลาเครื่องมือที่ผานการชุบแข็งแลว ตองรีบนําไปทําการอบคืนตัวทันที โดยตองผานกระบวนการอบสม่ําเสมอกอน การอบคืนตัวจะเริ่มทําโดยการเพิ่มอุณหภูมิอยางชา ๆ จนถึงอุณหภูมิตามที่ไดกําหนดไวจากคาความแข็งที่ตองการใชงาน ซึ่งดูไดจากแผนภูมิการอบคืนตัว จากนั้นคงไวที่อุณหภูมิน้ัน ประมาณ 1 ชม. ตอความหนา 20 มม. และใชเวลาคงไวอยางนอยที่สุด 2 ชม. จากนั้นปลอยใหเย็นตัวในอากาศแลวทําการตรวจสอบคาความแข็งที่ได และบางกรณีอาจตองทําการอบคืนตัวมากกวา 1 ครั้งเพ่ือใหมีปริมาณออสเตนไนตตกคางหลงเหลืออยูนอยที่สุด รูปที่ 4 แผนภูมิการอบคืนตัว 2379 วิธีปกติ
µ การชุบที่อุณหภูมิต่ํากวาศูนยองศา (Subzero Cooling)
โดยปกติภายหลังการอบชุบทางความรอนเหล็กเครี่องมือมักมีปริมาณของออสเตนไนตหลงเหลือจํานวนหนึ่งเสมอ ซึ่งสามารถเป ล่ียนโครงสร า ง เปนมาร เทนไซต ได ในภายหลั งและการเปล่ียนแปลงโครงสรางที่เกิดข้ึนน้ี จะสงผลใหเกิดการเปล่ียนแปลงทางขนาดอีกเล็กนอย ซึ่งโดยทั่วไปมักยอมรับการเปลี่ยนแปลงนี้ได แตในงานบางลักษณะก็อาจประสบปญหาจากการเปลี่ยนแปลงทางขนาดในภายหลัง เชน ในงานอุปกรณเครื่องมือวัดละเอียด หรืองานที่ตองการความแมนยําสูง วิธีการในการปองกันปญหาที่ดีที่สุดคือตองกําจัดปริมาณของออสเตนไนตหลงเหลือใหหมดไปหรือใหคงเหลืออยูนอยที่สุดเทาที่จะเปนไปได ซึ่งอาจสามารถทําไดโดยการแชแข็งเหล็กเครื่องมือที่อุณหภูมิประมาณ 80°C ภายหลังจากการจุมชุบ หลังจากนั้นตองทําการอบคลายความเคนที่อุณหภูมิในชวงประมาณ 120-150°C วิธีการนี้ควรทําซ้ํากันหลาย ๆ ครั้งเพ่ือใหเกิดผลดีที่สุด
การชุบแข็งวิธีพิเศษ (Special Hardening
Process) 2379 จะสามารถทําการอบชุบดวยวิธีพิเศษเพ่ือเพ่ิมความแข็งใหสูงข้ึนในชวงอุณหภูมิอบคืนตัว โดยการอบออสเตนไนตในชวงอุณหภูมิที่สูงกวาวิธีปกติ คือเพ่ิมข้ึนเปน 1050-1080°C ซึ่งจะทําใหมีการสลายตัวของคารไบดเพ่ิมข้ึนกวาวิธีปกติ ดังนั้นเม่ือทําการอบคืนตัวในชวงอุณหภูมิประมาณ 530°C (ควรกระทําอยางนอย
2 ครั้ง) จะใหคาความแข็งที่สูงมากกวา 60 HRC ได (ประมาณ 62 HRC) ซึ่งจะทําใหเครื่องมือมีประสิทธิภาพสูงสุด
ตารางที่ 4 การชุบแข็ง 2379 ดวยวิธีพิเศษ
อุณหภูมิ (°C) สารชุบ ความแข็ง การชุบแข็ง (วิธีพิเศษ) 1050–1080
นํ้ามัน, อากาศ
/ อางเกลือ
500-550°C
61 HRC
การอบคืนตัว Temp (°C) 100 200 300 400
HRC 61 60 58 59
Temp (°C) 500 525 550 600
HRC 62 62 57 50
5
2379 รูปที่ 5 แผนภาพการชุบแข็ง 2379 วิธีพิเศษ
รูปที่ 6 CCT diagram ของ 2379 วิธีพิเศษ
รูปที่ 7 แผนภูมิการอบคืนตัว 2379 วิธีพิเศษ
การขึ้นรูปและการแปรรูป (Processing)
การออกแบบ (Design) การออกแบบมีความสําคัญมากตออายุการใชงานของเหล็กเครื่องมือ ช้ินงานสวนใหญมักเกิดความเสียหายไดภายในระยะเวลาอันส้ันถามีการออกแบบผิดพลาด โดยทั่วไปมีปจจัยบางประการที่มีสวนสนับสนุนใหเกิดรอยแตกราวหรือความเสียหายแกช้ินงาน ไดแก • การออกแบบที่มีผนังบางมากเกินไป • การเปลี่ยนแปลงพื้นที่หนาตัดอยางฉับพลัน • การมีรอยบากที่มีมุมแหลมคม รวมทั้งการมีริ้วรอยที่เกิดจาก
การขัด การกลึง และการตอกรหัสรวมทั้งหมายเลขตาง ๆ บนผิวช้ินงาน ในการออกแบบ ควรทําใหช้ินงานมีรูปรางที่สมมาตรที่สุด
เทาที่จะเปนไปได การทําใหช้ินงานมีความแข็งแรงสูง มีผิวที่แข็ง สะอาด เรียบและมันเงา ปราศจากรอยขีดขวน รวมทั้งการกําหนดคามุมรัศมีในบริเวณที่มีการเปลี่ยนแปลงพื้นที่หนาตัดใหมากที่สุด จะมีสวนชวยใหช้ินงานมีอายุการใชงานยาวนานขึ้น นอกจากนี้ในการออกแบบแมพิมพยังตองคํานึงถึงผลกระทบที่จะเกิดข้ึนจากกระบวนการอบชุบทางความรอนอีกดวย ซึ่งถาหากไมสามารถหลีกเล่ียงการเกิดความแตกตางทางอุณหภูมิที่เกิดข้ึนเปนปริมาณมากไดในบริ เวณที่ มี พ้ืนที่หนาตัดแตกตางกัน ควรพิจารณาถึงความเปนไปไดที่จะทําการ แบงแมพิมพออกเปนสวนยอยหลาย ๆ สวน
6
2379 การทุบขึ้นรูป (Forging)
ตารางที่ 5 การทุบข้ึนรูป THYRODUR 2379
อุณหภูมิ (°C) เย็นตัว การทุบขึ้นรูป 1095–1010 ชา (ในเตา)
การทุบข้ึนรูป 2379 จําเปนตองเพ่ิมอุณหภูมิข้ึนอยางชา ๆ
โดยทําการเผาอุนช้ินงานที่อุณหภูมิ 650-705°C เริ่มทุบในชวงอุณหภูมิ 1095-1010°C และไมควรทุบเมื่ออุณหภูมิลดลงมาต่ํากวา 925°C ภายหลังการทุบเสร็จส้ิน ควรปลอยใหเย็นตัวลงอยางชา ๆ ในเตา
การกลึงแปรรูป (Machining)
ภายหลังการกลึงหยาบชิ้นงาน ควรทําการอบคลายความเคนที่อุณหภูมิ 600-650°C และทําการชุบแข็งและอบคืนตัว กอนทําการกลึงละเอียด (finish machining) ตารางที่ 6 แนะนําคาพารามิเตอรสําหรับการกลึงแปรรูป
Machining HSS tools Carbide tools
Turning Cutting S.
m/min
Feed R.
mm/rev
Cutting S.
m/min
Feed R.
mm/rev
Rough-mach. 10-20 0.2-0.4 115-
175 0.4-1.0
Finish-mach. 20-30 0.1-0.2 235-
350 0.1-0.4
Drilling Cutting S
m/min Feed rate mm/rev
Drill diameter
mm
3343, 3243 6-10 0.04-0.16 8-16
3343, 3243 + TiN 15-20 0.12-0.20 8-16
HM K 10 30-50 0.06-0.20 20-47
Machining Rough-mach. Finish-mach.
Turning 3207 3207 HSS
Tool Milling 3207 3207
Machining Rough-mach. Finish-mach.
Turning P25/P30+TIALN P10/P15 Carbide
Tool Milling P40+TIALN P25
การกัดสปารค (Electrical Discharge Machining)
หลังจากการทํา EDM ควรทําการอบคลายความเคนที่อุณหภูมิต่ํากวาอุณหภูมิการอบคืนตัวครั้งสุดทาย 30°C เพ่ือลดปญหาที่อาจเกิดจากผิวที่ไดผานการทํา EDM
การเคลือบผิวแข็งโครเมียม (Hard Chromium Plating)
2379 ที่เคลือบผิวแข็งโครเมียมควรอบคืนตัวที่อุณหภูมิ
180-260°C ระยะเวลา 4 ชม. หรือมากกวาน้ีเพ่ือหลีกเล่ียงปญหาการเปราะเนื่องจากไฮโดรเจน
การเจียระไน (Grinding) การเจียระไนผิวช้ินงาน ควรปฏิบัติตามคําแนะนําดังนี้
• ใชลอขัดใหถูกตอง ทั้งชนิด ขนาดและพันธะของเม็ดขัด ผิวช้ินงานที่แข็งกวาควรใชลอขัดที่มีความออนนุมกวา
• ใชแรงกดใหเหมาะสม ผิวที่แข็งควรใชแรงกดนอยลง • ใชสารหลอเย็นชวยระบายความรอนใหมากเพียงพอและ
ควบคุมทิศทางการไหลใหถูกตอง
การเชื่อม (Welding)
การเช่ือม 2379 และเหล็กเครื่องมือชนิดอื่นมีโอกาสเส่ียงตอการเกิดแตกราวไดอยางมาก ดังนั้นควรทําการเช่ือมจะใชในกรณีที่ไมสามารถหลีกเล่ียงไดเทาน้ัน
การเช่ือม 2379 แนะนําใหใชลวดเช่ือมที่หุม ฟลักซเบสิก และใชลวดเชื่อมที่มีสวนผสมของโครเมียมและนิกเกิลเปนปริมาณสูง เชน AWS : E 312-16 เปนตน และควรปฏิบัติตามคําแนะนําดังนี้
สําหรับช้ินงานไดผานกระบวนการอบออน : ทําการเผาอุนช้ินงานที่อุณหภูมิ 350-500°C ทําการเช่ือมที่อุณหภูมิน้ี อบคลายความเครียดทันทีภายหลังจากการเชื่อมเสร็จส้ินลงที่อุณหภูมิ 650-
750°C คงไวเปนเวลา 2 ชม.
สําหรับช้ินงานไดผานกระบวนการชุบแข็งแลว : ทําการเผาอุนช้ินงานที่อุณหภูมิอบคืนตัวแตตองไมต่ํากวา 250°C ทําการเช่ือมที่อุณหภูมิน้ี จากนั้นใหความรอนซ้ําอีกครั้งที่อุณหภูมิ 300°C คงไวเปนเวลา 2-3 ชม. ปลอยใหเย็นตัวในอากาศจนถึงอุณหภูมิ 80-
100°C ทําการอบคืนตัวครั้งที่ 2 ที่ 300°C ปลอยใหเย็นตัวในอากาศ
7
2379 การทําไนไตรดิ้ง (Nitriding)
การทําไนไตรดิ้ง 2379 สามารถทําไดทั้งวิธีไนไตรดิ้งในอางเกลือ (ทัฟฟไทรดิ้ง หรือ เทนนิเฟอร) ไนไตรดิ้งดวยกาซ ไนไตรดิ้งโดยใชผง และพลาสมาไนไตรดิ้ง ดังนี้ • ไนไตรดิ้งในอางเกลือ อุณหภูมิ 520-570°C เวลา 2 ชม.
• แกสไนไตรดิ้ง อุณหภูมิ 450-480°C เวลา 15-30 ชม.
• ผงโลหะไนไตรดิ้ง อุณหภูมิ 500-570°C เวลา 3-5 ชม.
• พลาสมาไนไตรดิ้ง อุณหภูมิ 400°C ถึง 600°C
เม่ือผานการทําไนไตรดิ้งผิวเหล็กจะมีความแข็งประมาณ
1100 HV (70 HRC) และมีความลึกผิวแข็งประมาณ 0.5 มม.
แตอยางไรก็ตามข้ึนอยูสวนผสมทางเคมีในเหล็ก และสภาวะการทําไนไตรดิ้ง
การขัดเงา (Polishing)
คุณภาพของผิวขัดเงาจะขึ้นอยูกับปจจัย 3 ประการ คือ
λ คุณภาพของเหล็กทําแมพิมพ ผิวที่ไดจากการขัดเงาจะขึ้นอยูกับการมีสารมลทินปนเปอน
ในเนื้อเหล็ก หรือการมีความแข็งที่ไมสมํ่าเสมอ เหล็กที่ใชทําแมพิมพควรมีความสะอาดและบริสุทธิ์สูง รวมทั้งมีโครงสรางและความแข็งสม่ําเสมอตลอดทั้งช้ิน ซึ่งกระบวนการผลิตเหล็กแบบ
ESR (Electro Slag Remelting) และ VAR (Vacuum Arc
Remelting) จะชวยใหเหล็กมีความบริสุทธิ์สูงและมีโครงสรางที่สมํ่าเสมอไดมากที่สุด
λ สภาวะการอบชุบทางความรอน
ผิวของชิ้นงานที่แข็งกวาจะทําใหขัดเงาไดดีกวา ผิวที่มีความแข็งมากกวา 50 HRC จะสามารถขัดเงาจนใสคลายกระจกได และถาผิวของชิ้นงานมีความแข็งนอยกวาน้ี จะมีโอกาสเส่ียงตอการเกิดผิวเปนคล่ืน (orange peel)
λ วิธีการขัดเงา นอกจากนี้ผิวที่ไดจากขัดเงาจะขึ้นอยูกับประสบการณและ
ความชํานาญของผูขัดอยางมาก การเพ่ิมความละเอียดของเม็ดขัดที่ละนอย จะทําใหไดคุณภาพของผิวขัดเงาดีข้ึน
การปรับปรงุคุณภาพผิว (Surface Treatments)
กระบวนการ อุณหภูม ิ
(°C)
คุณสมบัติของเหล็ก ที่จําเปนตองมี
ความหนา ของชั้นผิว
ความแข็ง (HV)
คารบูไรซิงค 860-900 ปริมาณ C ต่ํา, ไมวองไวตอการเกิดความ
รอนสูงเกินพิกัด จนถึง 2 มม. สูงสุด 900
ไนไตรดิ้ง 470-570 ตานทานตอการออนตัวที่อุณหภูมิอบคนืตัว,
ชุบแข็งและอบคืนตัว, กําจัดพาสสีฟฟลม จนถึง 0.5 มม สูงสุด 1100
โบไรดิ้ง 800-1050 ไมควรม ีSi ผสม, ไมวองไวตอการเกิด ความรอนขึ้นสูง
จนถึง 0.4 มม สูงสุด 2000
ออกซิไดซิ้ง 300-550 ตานทานตอการออนตัวที่อุณหภูมิอบคนืตัว, ผิวสะอาดปราศจากไขมัน
จนถึง 0.01 มม ไมมีผลตอ ความแข็ง
สปารค
ดีโพสิชั่น >> 1000 ไมจําเปน จนถึง 0.1 มม ประมาณ 950
เคลือบ TiC
ดวย CVD > 900
ไมวองไวตอการเกิดความรอนสูงเกินพิกัด,
ผิวโลหะตองสุกใสสวาง 6-9 ไมครอน สูงสุด 4800
เคลือบ TiC
ดวย PVD ประมาณ 500
ตานทานตอการออนตัวที่อุณหภูมิอบคนืตัว, ตองมีความแข็งสูงมากพอ
2-5 ไมครอน 2000-2500
เคลือบ
ฮารดโครม 50-70
มีปริมาณ C ต่ําสุด, กําจัดพาสสีฟฟลม
แลว, ทนตอการ อบชุบในบรรยากาศปกติได จนถึง 1 มม 1000-1200
Top Related