Weekly Brief_8 Nov - 16 Nov 11_Issue 41

15
WEEKLY BRIEF TFPA Trade & Technical Vol. 2 issue 41 8 Nov - 16 Nov 2011 www.thaifood.org Thai Food Processors’ Association Pineapple Sweet Corn Tuna Seafood Fruits&Vegetables Food Ingredient&Ready-to-Eat 3 หน่วยงานร่วมตรวจคุณภาพน�้า โรงงานเสียหายจากน�้าท่วมพรุ่งนีสถิติการส่งออกสินค้าอาหารส�าเร็จรูป เดือนมกราคมถึงกันยายน ปี 2554 เปรียบเทียบกับปี 2553 สเตรเลียออกข้อก�าหนดใบรับรอง สุขอนามัยส�าหรับพืชและวัสดุส�าหรับ การเพาะพันธุ์ เร่งระบายน�้าจืดลงทะเลกระทบประมง “ก.เกษตรฯ” แจง “สหรัฐฯ” ยังเชื่อมั่นสินค้าส ่งออกของไทย

description

Weekly Brief_8 Nov - 16 Nov 11_Issue 41

Transcript of Weekly Brief_8 Nov - 16 Nov 11_Issue 41

Page 1: Weekly Brief_8 Nov - 16 Nov 11_Issue 41

WEEKLY BRIEF TFPA Trade & Technical Vol. 2

issue 418 Nov - 16 Nov 2011

www.thaifood.org

Thai Food Processors’ Association

Pineapple

Sweet Corn

Tuna

Seafood

Fruits&Vegetables

Food Ingredient&Ready-to-Eat

3 หน่วยงานร่วมตรวจคุณภาพน�้าโรงงานเสียหายจากน�้าท่วมพรุ ่งนี้

สถิติการส่งออกสินค้าอาหารส�าเร็จรูป เดือนมกราคมถึงกันยายน ปี 2554

เปรียบเทียบกับปี 2553

สเตรเลียออกข ้อก�าหนดใบรับรอง สุขอนามัยส�าหรับพืชและวัสดุส� าหรับ

การเพาะพันธุ ์

เร ่งระบายน�้าจืดลงทะเลกระทบประมง

“ก.เกษตรฯ” แจง “สหรัฐฯ” ยังเชื่อมั่นสินค ้าส ่งออกของไทย

Page 2: Weekly Brief_8 Nov - 16 Nov 11_Issue 41

WEEKLY BRIEFTFPA Trade & Technical

Vol. 2 Issue 418 Nov - 16 Nov 2011

2 3

ContentsContents3

56778

91010

11

1213

14161718

19202122

05

12

19

09

03 สถิติการส่งออกสินค้าอาหารส�าเร็จรูป• สถิติการส่งออกสินค้าอาหารส�าเร็จรูป เดือนมกราคมถึงกันยายน ปี 2554 เปรียบเทียบกับปี 2553 สถานการณ์ด้านมาตรฐานและความปลอดภัยอาหาร • RASFF (Rapid Alert System for Food and Feed) week 45 : 7-13 Nov 2011• EU เอาจริงเรื่อง CSR (Corporate Social Responsibility) • ออสเตรเลียแจ้งค่า MRLsสารเคมีทางสัตวศาสตร์และทางการเกษตร• สเตรเลียออกข้อก�าหนดใบรับรองสุขอนามัยส�าหรับพืชและวัสดุส�าหรับการเพาะพันธุ์ • ญี่ปุ่นแจ้งค่า MRLs สาร Imazapic และ Isoxaflutole

สถานการณ์ด้านประมง • การติดตามโครงการเพาะเลี้ยงปูม้าบริเวณชายฝั่งแบบชุมชนมีส่วนร่วมต�าบลเกาะสาหร่าย จังหวัดสตูล • เร่งระบายน�้าจืดลงทะเลกระทบประมง• FDA สหรัฐ ร่อนจ.ม.ด่วนถึง สมาคมอาหารแช่เยือกแข็ง ตรวจเข้มกุ้ง-ปลาส่งออก 100% หว่ันปนเปื้อนเชื้อโรค-สารเคมีจากน�้าเน่าเสีย !!! • ปลากระป๋อง”ซูเปอร์ ซีเชฟ”เร่งก�าลังการผลิต1ล้านกระป๋องต่อวัน ยันสู้ตาย

สถานการณ์ด้านเกษตร• กอน.ร่นปิดหีบอ้อยหนีน�้าท่วม• “ก.เกษตรฯ” แจง “สหรัฐฯ” ยังเชื่อมั่นสินค้าส่งออกของไทย สถานการณ์นโยบายครม.ชุดใหม่ และประเด็นแรงงาน • “เผดิมชัย” รับน�้าท่วมกระทบแรงงาน 8.3 แสนคน/เร่งเตรียมงาน 1.26 แสนอัตรารับภาวะว่างงานหลังน�้าลด • ก.แรงงาน เริ่มรับค�าร้องมาตรการชะลอการเลิกจ้าง10 พ.ย.นี้• 3 หน่วยงานร่วมตรวจคุณภาพน�้าโรงงานเสียหายจากน�้าท่วมพรุ่งนี้• สรุปมติคณะรัฐมนตรี 15 พฤศจิกายน 2554

สถานการณ์ด้านการค้า• รง.น�้าตาลยื่นมือช่วยเหลือเหยื่อน�้าท่วมประกาศจ้างงานกว่า 1 หม่ืนอัตรา รองรับการเปิดหีบอ้อย• ชูสอท.น�าทีมฟื้นฟูอุตฯ จี้รัฐทุ่มป้อง “บางชัน” • นิคมฯบางชันวิกฤติ!ระดับน�้าเพิ่มสูง เตรียมสั่งหยุดกิจการหากเกิน 1.50 ม.• ยัน’ครัวไทยสู่โลก’ถึงจุดหมายชัวร์

อัตราแลกเปลี่ยน

14

สถิติการส่งออกสินค้าอาหารส�าเร็จรูป

25

สถิติการส่งออกสินค้าอาหารส�าเร็จรูป เดือนมกราคมถึงกันยายน ปี 2554 เปรียบเทียบกับปี 2553

การส่งออกสินค้าอาหารส�าเร็จรูป เฉพาะสินค้าท่ีเกี่ยวข้องกับสมาคมฯ เดือนมกราคม-กันยายน ปี 2554

เปรียบเทียบกับระยะเดียวกันของปี 2553 มีปริมาณ 1,964,779 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 13 มีมูลค่า 123,545 ล้านบาท

หรือ 4,116 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 18 ในเทอมของเงินบาท และเพิ่มขึ้นร้อยละ 27 ในเทอม

ของเงินเหรียญสหรัฐฯ

1) สินค้าประเภทประมงแปรรูป ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ปลาทูน่าแปรรูป ปลาและอาหารทะเลอื่นๆ บรรจุกระป๋อง

ในภาพรวมเพิ่มขึ้น ท้ังปริมาณและมูลค่า ยกเว้นปลาแอนโชวี หอยลาย ปูกระป๋อง

ปริมาณ 570,474 ตัน เพิ่มขึ้น 4 %

มูลค่า 61,966 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14 % หรือ มูลค่า 2,065 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 23%

2) สินค้าประเภทผักและผลไม้แปรรูป ได้แก่ ผลิตภัณฑ์สับปะรด ข้าวโพดหวานกระป๋อง ผักและผลไม้กระป๋อง

น�้าผลไม้ ในภาพรวมเพิ่มขึ้นท้ังปริมาณและมูลค่า ยกเว้น เงาะ ลิ้นจี่ ผลไม้กระป๋องอื่นๆ

ปริมาณ 1,081,232 ตัน เพิ่มขึ้น 21 %

มูลค่า 39,922 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27 % หรือ มูลค่า 1,330 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 37%

3) สินค้าประเภทเครื่องปรุงต่างๆ เช่น ซอส เครื่องแกง บะหมี่พร้อมปรุงในภาพรวมเพ่ิมขึ้นทั้งปริมาณและมูลค่า

ปริมาณ 313,073 ตัน เพิ่มขึ้น 7%

มูลค่า 21,657 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% หรือ มูลค่า 721 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 22%

Page 3: Weekly Brief_8 Nov - 16 Nov 11_Issue 41

WEEKLY BRIEFTFPA Trade & Technical

Vol. 2 Issue 418 Nov - 16 Nov 2011

4 5

ตาราง สถิติการส่งออกสินค้าอาหารส�าเร็จรูปที่เกี่ยวข้องกับสมาคมฯ ไปทั่วโลก แบ่งตามกลุ่มสนิค้า

ท่ีมา: www.moc.go.th/7 October 2011

เรียบเรียงโดย สมาคมผู้ผลิตอาหรส�าเร็จรูป

WEEKLY BRIEF

สถานการณ์ด้านมาตรฐานและความปลอดภัยอาหาร

ที่มา : https://webgate.ec.europa.eu/rasff-window/portal/index.cfm?event=searchResultList

RASFF (Rapid Alert System for Food and Feed) week 45 : 7-13 Nov 2011

จากข้อมูลการแจ้งเตือน RASFF ใน week 45 พบสินค้าท่ีมีปัญหาจากไทย 1 รายการคือ พบเชื้อจุลินทรีย์

Campylobacter ในสินค้าข้าวโพดอ่อนสด นอกจากนี้ยังพบปัญหาในสินค้าที่เกี่ยวข้องกับสมาชิกจากประเทศ

Denmark 1 รายการ คือ พบ yeast ในสินค้า remulade sauce ตามรายละเอียดด้านล่าง

Page 4: Weekly Brief_8 Nov - 16 Nov 11_Issue 41

WEEKLY BRIEFTFPA Trade & Technical

Vol. 2 Issue 418 Nov - 16 Nov 2011

6 7

EU เอาจริงเร่ือง CSR (Corporate Social Responsibility)

คณะกรรมาธิการยุโรปได้เปิดเผยรายงานเชิงนโยบาย

เรื่องความรับผิดชอบต่อสังคม (corporate social re-

sponsibility - CSR) ฉบับใหม่ ตามค�าร้องขอของประเทศ

สมาชิกอียูและสมาชิกสภายุโรป ซึ่งถือเป็นก้าวแรกในการ

ควบคุมความประพฤติของบริษัท แทนที่จะปล่อยให้เป็น

ไปตามความสมัครใจของบริษัทต่างๆ เช่นที่เคยเป็นมา

เอกสารดังกล่าวเปิดเผยว่า มีบริษัทในยุโรปประมาณ

2,500 บริษัทที่จัดพิมพ์รายงาน CSR และรายงานด้าน

ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งแม้ตัวเลขดังกล่าวจะ

แสดงว่ายุโรปเป็นผู้น�าในเร่ืองดังกล่าว อย่างไรก็ดี ยังถือ

ได้ว่า เป็นสัดส่วนเพียงน้อยนิด หากเทียบกับจ�านวนตัวเลข

ของจ�านวนบริษัทขนาดใหญ่ในยุโรป ซึ่งมีจ�านวน 42,000

บริษัท นอกจากนี้ ปัจจุบัน มีประเทศสมาชิกยุโรปเพียง

15 ประเทศที่มีนโยบายส่งเสริม CSR

ในการนี้ คณะกรรมาธิการยุโรปจึงจะออกข้อเสนอ

ระเบียบ เพื่อปรับปรุงแนวทางการเปิดเผยข้อมูลด้านสังคม

และสิ่งแวดล้อม โดยก�าหนดให้บริษัทต่างๆ จะต้องยึด

ม่ันที่จะส่งเสริม CSR ภายในปีพ.ศ. 2555 และตั้งเป้า

หมายส�าหรับปีพ.ศ. 2558 และ 2563 ต่อไป โดยอียูอาจ

สนับสนุนให้บริษัทขนาดใหญ่ในยุโรปพิจารณารับหนึ่งใน

สามมาตรฐาน CSR ช้ันน�าของโลก ได้เแก่ UN Global

Compact, OECD guidelines for multinational en-

terprises และ the ISO 26000 standard มาใช้ พร้อม

พิจารณาว่าควรจะมีข้อก�าหนดให้สถาบันการเงินซึ่งเป็น

สมาชิกให้ข้อมูล รวมไปถึงมาตรการเพื่อจัดการกับการ

โฆษณาสินค้าที่อวดอ้างความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมท่ีเกิน

จริง หรือที่เรียกว่า “green washing” ด้วย

จะเห็นได้ว ่านอกจากการบริหารจัดการ

เรื่อง CSR ภายในยุโรปกับภาคธุรกิจยุโรปเองแล้ว สหภาพ

ยุโรปยังพยายามผลักดันกระแสแนวคิด CSR แบบของ

ยุโรปให้เป ็นที่ยอมรับและแพร่หลายมากขึ้นในเวทีโลก

โดยCSR ในยุโรป มิได้หมายถึงการรักษาสิ่งแวดล้อม

เท่านั้น แต่รวมประเด็นด้านสังคมอื่นๆ เข้ามาด้วย เมื่อ

ระเบียบใหม่ของสหภาพยุโรปจะท�าให้ธุรกิจยุโรปต้องรับ

ภาระหน้าที่ในการปฏิบัติตามแนวทาง CSR มากขึ้น นั่น

ก็หมายถึงความเข้มงวดที่ธุรกิจยุโรปจะมีต่อซัพพลายเออร์

และผู้ผลิตสินค้าในประเทศที่สามเพื่อส่งมาขายในยุโรป

รวมทั้งไทยด้วย ควรต้องจับตาต่อไปว่าระเบียบใหม่ของ

สหภาพยุโรปเรื่อง CSR จะครอบคลุมประเด็นใดบ้าง และ

จะมีผลกระทบต่อประเทศไทยในด้านไหนอย่างไร

ท่ีมา : http://news.thaieurope.net/content/view/3833/247/

ออสเตรเลียแจ้งค่า MRLsสารเคมีทางสัตวศาสตร์และทางการเกษตร

เมื่อวันท่ี 20 กันยายน 2554 ออสเตรเลียแจ้งเวียน

ต่อประเทศสมาชิกองค์การการค้าโลก (WTO) เรื่องร่าง

Australia New Zealand Food Standards Code

โดยก�าหนดค่า MRLs ส�าหรับสารเคมีท่ีใช้ทางสัตวศาสตร์

แลทางการเกษตรต่างๆ เพื่อให้สอดคล้องกับกฎระเบียบ

แห่งชาติที่เกี่ยวกับความปลอดภัยและเกิด ประสิทธิภาพ

ในการใช ้สารเคมีต ่างๆ เปิดรับฟังข ้อคิดเห็นถึงวนที่

17 พฤศจิกายน 2554 และคาดว่ามีผลบังคับใช้ก่อน

ธันวาคม 2554 สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

http://www.apvma.gov.au/publ icat ions/gazette/2011/18/ga-

zette_2011_09_13_page_22.pdf

ที่มา : มกอช. วันที่ 12 / 11 / 2554

ออสเตรเลียออกข้อก�าหนดใบรับรองสุขอนามัยส�าหรับพืชและวัสดุส�าหรับการเพาะพันธุ์

เ ม่ือวันท่ี 20 กันยายน 2554 ออสเตรเลียแจ ้ง

เวียนต ่อประเทศสมาชิกองค ์การการค ้าโลก (WTO)

เรื่ องประกาศข ้อก�าหนดใบรับรองสุขอนามัยส� าหรับ

พืชและวัสดุส�าหรับการเพาะ พันธุ ์ (จากทุกประเทศ)

มาตรการนี้ เป ็นข ้อก�าหนดเพื่อป ้องกันการขยายการ

ขยายของโรคพืชและโรคระบาด มีผลบั งคับใช ้ วัน

ที่ 17 ตุลาคม 2554 ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

http://www.aqis.gov.au/icon32/asp/ex_topiccontent.asp?TopicType=Q

uarantine+Alert&TopicID=24220

ที่มา มกอช. วันที่ 12 / 11 / 2554

Page 5: Weekly Brief_8 Nov - 16 Nov 11_Issue 41

WEEKLY BRIEFTFPA Trade & Technical

Vol. 2 Issue 418 Nov - 16 Nov 2011

8 9

ญี่ปุ่นแจ้งค่า MRLs สาร Imazapic และ Isoxaflutole

เม่ือวันที่ 16 กันยายน 2554 ญี่ปุ่น

แจ้งเวียนต่อประเทศสมาชิกองค์การการค้าโลก (WTO)

เรื่องเสนอค่า MRLs ของสาร Imazapic และ Isoxa-

flutole ในเนื้อและเครื่องในสัตว์ ปลา และครัสตาเชียน

ผลิตภัณฑ์นม ไข่นกและน�้าผึ้ง ผักประเภทรากและหัว

ผลไม้และถั่ว ผลไม้ประเภทส้ม/แตงปลอกเปลือก กาแฟ

ชา ครีมเทียม และเครื่องเทศ ธัญพืช และพืชให้น�้ามัน

เมล็ดประเภทต่างๆ และผลไม้ สัตว์หรือไขมันจากพืชและ

น�้ามัน เปิดให้แสดงความคิดเห็นได้ถึง 15 พฤศจิกายน

2554 สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

http://members.wto.org/crnattachments/2011/sps/

JPN/11_2993_00_e.pdf

ท่ีมา : มกอช.วันท่ี 12 / 11 / 2554

สถานการณ์ด้านประมง

การติดตามโครงการเพาะเลี้ยงปูม้า บริเวณชายฝั่งแบบชุมชนมีส่วนร่วม ต�าบลเกาะสาหร่าย จังหวัดสตูล

เมื่อวันท่ี 4 – 5 สิงหาคม 2554 อุปนายก

และประธานกลุ่มผู้ผลิตอาหารทะเล สมาคมผู้ผลิตอาหาร

ส�าเร็จรูป ร่วมกับ ส�านักงานวิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่ง

กรมประมง ได้ร่วมส�ารวจพื้นท่ีเพื่อต่อยอดโครงการเพาะ

เลี้ยงปูม้า บริเวณชายฝั่งแบบชุมชนมีส่วนร่วม ท่ีหมู่ 2

บ้านบากันใหญ่ ต�าบลเกาะสาหร่าย จังหวัดสตูล

โดยคุณธรรศ ทังสมบัติ อุปนายกและประธาน

กลุ่มผู้ผลิตอาหารทะเล และเจ้าหน้าท่ีสมาคมผู้ผลิตอาหาร

ส�าเร็จรูป ร่วมกับ ผอ.วารินทร์ ธนาสมหวัง ผู้อ�านวย

การส�านักวิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งทะเล และคณะเจ้า

หน้าท่ีของกรมประมง เดินทางลงส�ารวจพื้นท่ีหมู่ 2 ชุมชน

บ้านบากันใหญ่ ต�าบลเกาะสาหร่าย จ.สตูล ในการ

ติดตามผลการด�าเนินโครงการเพาะเล้ียงปูม้าของสมาคม

ผู้ผลิตอาหารส�าเร็จรูป ท่ีเริ่มด�าเนินการตั้งแต่ปี พ.ศ.

2553-2554 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อที่จะศึกษาผลตอบแทน

การเลี้ยงปูม้าขนาดต่างๆ ที่ผลิตในคอกจากไข่ถึงขนาด

ตลาดในเชิงพาณิชย์ เพื่อสนองความขาดแคลนปูม้าที่ใช้

ในอุตสาหกรรมแปรรูปผลิตภัณฑ์ปูม้า

และจากการส�ารวจพื้นที่ในครั้งนี้ เพื่อดูคอกปูม้าเดิม

สภาพแวดล้อมในการเลี้ยงปูม้า เพ่ือที่จะด�าเนินโครงการ

ใหม่

โดยสมาคมฯ ได้ขอให้กรมประมงเป็นผู้ดูแลโครงการ

เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่ตั้งไว้ กล่าวคือ ท�าให้ทราบ

ถึงระยะเวลาที่ใช้ในการเพาะเลี้ยงปูม้าให้ได้ตามขนาดที่

โรงงานต้องการ และความเป็นไปได้ในวิธีการเลี้ยงปูม้า

ในคอก โดยท�าการศึกษาถึงชนิดของอาหาร การเจริญ

เติบโต ต้นทุน ผลผลิตและผลตอบแทน แล้วจึงพัฒนา

ในรูปเชิงพาณิชย์ต่อไป

ที่มา : สมาคมผู้ผลิตอาหารส�าเร็จรูป

Page 6: Weekly Brief_8 Nov - 16 Nov 11_Issue 41

WEEKLY BRIEFTFPA Trade & Technical

Vol. 2 Issue 418 Nov - 16 Nov 2011

10 11

เร่งระบายน�้าจืดลงทะเลกระทบประมง

เผยระบายน�้าจืดจ�านวนมากลงทะเลไม่ถูกต้องตาม

ฤดูกาล ส่งผลต่อการปรับตัวของปลา

ดร.ธรณ์ ธ�ารงนาวาสวัสดิ์ คณบดีคณะประมง

มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ให้สัมภาษณ์ไทยพีบีเอสว่า

จากการเร่งระบายน�้าจืดจ�านวนมหาศาลลงสู่ทะเลในช่วง

2 เดือน มากเกินไป และมาไม่ถูกต้องตามฤดูกาล ท�าให้

มีผลกระทบต่อการปรับตัวของปลา ซึ่งภาครัฐควรมอง

ประมงพ้ืนบ้านและประมงชายฝั่งแถบอ่าวไทยตอนบนคือ

ผู้ที่ได้ รับผลกระทบจากวกฤติคร้ีงนี้เช่นเดียวกัน เพราะ

ไม่สามารถประกอบอาชีพได้ตามปกติ

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ วันที่ 5 พฤศจิกายน 2554

FDA สหรัฐ ร่อนจ.ม.ด่วนถึง สมาคมอาหารแช่เยือกแข็ง ตรวจเข้มกุ ้ง-ปลาส่งออก 100% หวั่นปนเปื้อนเชื้อโรค-สารเคมีจากน�้าเน่าเสีย !!!

ดร.ผณิศวร ช�านาญเวช นายกสมาคมอาหาร

แช่เยือกแข็งไทย เป ิดเผยว ่า กรณีป ัญหาน�้าท ่วมใน

ประเทศไทยที่เกิดข้ึน ส่งผลให้ทางองค์การอาหารและยา

แห่งสหรัฐอเมริกา(FDA) ท�าหนังสือมายังผู ้ประกอบการ

ขอตรวจสอบอาหารทะเลที่ส ่งออกไปยังสหรัฐทุกตู ้คอน

เทรนเนอร์ หรือตรวจสอบ 100% เนื่องจากเกรงปัญหา

การปนเปื้อนของเช้ือโรค และสารเคมีต่าง ๆ จากปกติ

จะเพียงการสุ่มตรวจเพียงบางตู้คอนเทรนเนอร์เท่านั้น

ส�าหรับการตรวจสอบอย่างเข้มงวดกับกุ้งที่ส่งออก

ของ FDA นั้น ผู้น�าเข้าแสดงความกังวลมา แต่ไม่ได้

สร้างความวิตกกังวลหรือส่งผลกระทบต่อการส่งออกมาก

นัก เพราะวัตถุดิบส่วนใหญ่มาจากทางภาคตะวันออก และ

ภาคใต้ ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะน�้าท่วม แต่จะส่ง

ผลกระทบต่อความล่าช้าในการน�าเข้า และต้นทุนด้าน

ค่าใช้จ่าย แต่หากเกิดน�้าท่วมหนักปิดถนน ถนนขาดจะ

กระทบหนัก

นอกจากนี้ทางผู ้ส ่งออกกังวลว่า หากรัฐบาลมี

ระบายน�้าลงแม่น�้าท่าจีนได้ล่าช้า ระดับน�้าท่วมสูง จนถึง

ขั้นต้องปิดถนนหลายสาย โดยเฉพาะถนนธนบุรี-ปากท่อที่

เป็นถนนเส้นหลักในขณะนี้ จะส่งผลกระทบใหญ่ต่อผู้ส่ง

ออกในจังหวัดสมุทรสาครเกือบท้ังหมด เพราะไม่สามารถ

ขนส่งสินค้าไปยังท่าเรือกรุงเทพ และท่าเรือแหลมฉบัง

ขณะเดียวกันวัตถุดิบต่าง ๆ ไม่สามารถวิ่งเข้ามาส่งท่ี

โรงงานได้ โดยเฉพาะ CO2 ซึ่งถือว่าเป็นสารเคมีส�าคัญท่ี

ผู้ประกอบการส่งออกอาหารแช่เยือกแข็งท้ังหมดใช้ในการ

แช่แข็งกุ้ง และ เก็บสต็อกได้ล�าบาก

ร วม ถึ ง ค ว าม กั ง ว ลห ากน�้ า ท ่ ว ม เ ข ้ า สู ่ นิ ค ม

อุตสาหกรรมสินสาคร ซึ่งท�าหน้าท่ีในการผลิตบรรจุภัณฑ์

ถุง กล่องท่ีระบุยี่ห้อสินค้าให้กับผู้ส่งออกจะได้รับผลกระ

ทบเป็นลูกโซ่ไปด้วย เพราะไม่สามารถสั่งโรงพิมพ์ผลิต

บรรจุภัณฑ์ ล่วงหน้าได้ เพราะสินค้าส่วนใหญ่ผู้ส่งออกรับ

จ้างผลิตให้กับแบรนด์ต่าง ๆ ตามแบบท่ีลูกค้าก�าหนด

(Origianl Equipment Manufacturer-OEM) ลูกค้าสั่ง

ซื้อถึงจะผลิต(Made to order ) ดังนั้น จึงไม่สามารถ

สั่งท�าล่วงหน้าได้นาน

“ปัญหาน�้าท่วมท่ีเกิดขึ้นตอนนี้ส ่งผลกระทบเป็น

ลูกโซ่ไม่ใช่เฉพาะผู้ส่งออก แต่รวมไปถึงผู้ท�าธุรกิจท่ีเกี่ยว

โยงกับการส่งออกในหลายภาคส่วน อย่างน�้าท่วมกรม

ประมงตั้งแต่ช่วงเดือนที่ผ่านมา ส่งกระทบด้านความล่าช้า

ในออกเอกสารอนุญาตส่งออกอาหารทะเล เพราะต้อง

รอข้าราชการย้ายออฟฟิศ นอกจากนี้ หากเกิดน�้าท่วม

บริเวณสถานีบรรจุและแยกสินค้าที่ลาดกระบัง (Inland

Container Depot) หรือ ICD ด้วยจะยิ่งส่งผลกระทบ

ต่อการส่งออก ดังนั้น ทางรัฐบาลควรจะต้องเร่งระบายน�้า

ออกสู่ทะเลให้เร็วท่ีสุด

ที่มา : มติชนออนไลน์ วันที่ 9 พฤศจิกายน 2554

ปลากระป๋อง”ซูเปอร์ ซีเชฟ”เร่งก�าลังการผลิต1ล้านกระป๋องต่อวัน ยันสู้ตาย

นายพจน์ อร่ามวัฒนา ประธานบริหารบริษัท

ซีแวลู จ�ากัด ผู้ผลิตและส่งออกอาหารทะเลแช่แข็ง และ

บรรจุกระป๋อง เช่น ปลาทูน่า ปลาซาร์ดีน ปลาแมคเคอ

แรล ซึ่งเป็นที่รู ้จักกันดีส�าหรับแบรนด์ที่ขายภายในประเทศ

คือ ”ซูเปอร์ ซีเชฟ” กล่าวกับ”มติชนออนไลน์”ว่า น�้าท่วม

ได้ส่งผลกระทบต่อบริษัท ไอ เอส เอ แวลู จ�ากัด ซึ่งเป็น

บริษัทในเครือท่ีท�าโรงงานผลิตปลาทูน่าที่จังหวัดนครปฐม

ต้องปิดตัวไป เพราะคนงาน และวัตถุดิบไม่สามารถขนส่ง

เข้าไปได้ ส่งผลให้ก�าลังการผลิตปลาทูน่าประมาณ 200

ตันต่อวันหายไป

ขณ ะ ที่ โ ร ง ง า น ผ ลิ ต ป ล า ซ า ร ์ ดี น ก ร ะ ป ๋ อ ง

แบรนด์ซูเปอร์ซีเชฟ ซึ่งตั้งอยู่ในเขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ

และมีก�าลังการผลิตประมาณ 1 ล้านกระป๋องต่อวัน ป้อน

ตลาดภายในประเทศไทยทั้งหมด อยู่ระหว่างการต่อสู้กับน�้า

โดยขณะนี้น�้าท่วมหน้าโรงงานสูงประมาณ 80 ซม.แล้ว

“ตอนนี้เราเร่งก�าลังการผลิตเต็มที่เพ่ือป้อนตลาด

ในประเทศ จากเดิมโรงงานแห่งนี้จะแบ่งเป็นป้อนตลาด

ภายในประเทศครึ่งหนึ่ง ส่งออกครึ่งหนึ่ง แต่ตอนนี้ความ

ต้องการในประเทศมีสูงมาก เราตัดออเดอร์ต่างประเทศทิ้ง

ทั้งหมด เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน�้าท่วมที่มีความต้องการ

ในขณะนี้ แต่ยอมรับว่า น�้าหน้าโรงงานค่อนข้างสูง แต่

เราก็ยันกันเต็มท่ีได้ 1.50 เมตร ผมสู้ตาย ป้องกันกัน

เต็มก�าลัง”นายพจน์กล่าว

ที่มา : มติชนออนไลน์ วันที่ 9 พฤศจิกายน 2554

Page 7: Weekly Brief_8 Nov - 16 Nov 11_Issue 41

WEEKLY BRIEFTFPA Trade & Technical

Vol. 2 Issue 418 Nov - 16 Nov 2011

12 13

สถานการณ์ด้านเกษตร

กอน.ร่นปิดหีบอ้อยหนีน�้าท่วม

นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม

เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการอ้อยและน�้าตาล

ทราย (กอน.) ว่าที่ประชุมเห็นชอบก�าหนดวันเปิดหีบอ้อย

ฤดูกาลผลิต 2554/55 ของโรงงานน�้าตาลทั่วประเทศ

พร้อมกันในวันที่ 15 พ.ย. และเป็นคร้ังแรกที่มีการเปิด

หีบอ้อยพร้อมกัน ซึ่งมีการเปิดหีบอ้อยเร็วขึ้นจากฤดูกาล

ผลิต 2553/54 ท่ีเปิดในเดือน ธ.ค.2553 เนื่องจากผลผลิต

อ้อยมีแนวโน้มสูงจึงต้องรีบเปิดเพื่อไม่ให้การปิดหีบล่าช้า

เหมือนฤดูกาลที่แล้ว โดยฤดูกาลใหม่คาดจะมีอ้อยไม่เกิน

100 ล้านตันผลิตน�้าตาลได้ประมาณ 10.3 ล้านตัน

นายประเสริฐ ตปนียางกูร เลขาธิการคณะกรรมการ

อ้อยและน�้าตาลทราย (สอน.) กล่าวว่า ปัจจุบันมีโรงงาน

น�้าตาลท่ีอยู่ในพื้นที่น�้าท่วม เช่น สุโขทัย อุตรดิตถ์ ซึ่งอาจ

ได้รับผลกระทบกับการเปิดหีบอ้อยเพราะการขนส่งและ

การตัดอ้อยที่ต้องรอ ให้ดินแห้ง โดยถ้าโรงงานใดเปิดหีบ

อ้อยตามก�าหนดไม่ได้ต้องแจ้งให้ สอน.ทราบภายใน 7 วัน

ทั้ งนี้ป ัจจุบันมีพื้นที่ปลูกอ ้อยที่ถูกน�้าท ่วมประมาณ

200,000 ไร่ มีอ้อยที่ถูกน�้าท่วม 1 ล้านตัน ซึ่งชาวไร่ท่ี

เก็บเกี่ยวอ้อยไม่ได้ สามารถไปขึ้นทะเบียนกับกระทรวง

เกษตรและสหกรณ์เพื่อขอเงินชดเชยไร่ละ 3,150 บาท

โดย สอน.ได้เตรียมแผนการช่วยเหลือชาวไร่อ้อยท่ีถูกน�้า

ท่วม โดยได้ของบช่วยเหลือพันธุ์อ้อยปี 2555 วงเงิน 80

ล้านบาท ซึ่งจะจัดสรรอ้อยพันธุ์ดีให้กับชาวไร่ได้ประมาณ

20,000 ราย รวมพันธุ์อ้อย 55,000 ตัน โดยจะจัดสรร

ให้พันธุ์อ้อยให้ชาวไร่ที่ถูกน�้าท่วมก่อน รวมทั้งจะประสาน

ธ.ก.ส.เพื่อช่วยผ่อนปรนการช�าระเงินกู้ให้

ผู ้สื่อข่าวรายงานว่า สอน.ประเมินเบื้องต้นว่า ฤดูกาล

ผลิต 2554/2555 จะมีผลผลิตอ้อย 99.5 ล้านตัน มีค่า

ความหวานเฉลี่ย 11.8 ซี.ซี.เอส. ผลิตน�้าตาลได้ 103.3

กิโลกรัมต่อตันอ้อย มีผลผลิตกากน�้าตาล 4.3 ล้านตัน

โดยคณะกรรมการน�้าตาลทราย (กน.) เตรียมพิจารณา

น�้าตาลโควตา ก.เพื่อบริโภคในประเทศที่ 2.4 ล้านตัน.

ท่ีมา : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ วันท่ี 9 พฤศจิกายน 2554

“ก.เกษตรฯ” แจง “สหรัฐฯ” ยังเช่ือมั่นสินค้าส่งออกของไทย

นายนิวัติ สุธีมีชัยกุล รองปลัดกระทรวงเกษตรและ

สหกรณ์ เปิดเผยว่า จากกรณีเสนอข่าว นายผณิศวร

ช�านาญเวช นายกสมาคมอาหารแช ่ เยือกแข็ งไทย

ได้ให้สัมภาษณ์ว่า จากปัญหาน�้าท่วมในประเทศไทยท่ี

เกิดขึ้นในขณะนี้ รวมถึงมีปัญหาน�้าเน่าเสียกระจายใน

ทุกพื้นที่ที่น�้าท่วมขัง ส่งผลให้ทางองค์การอาหารและ

ยาแห่งสหรัฐอเมริกา หรือ US-FDA ท�าหนังสือมายังผู้

ประกอบการ ขอตรวจสอบอาหารทะเลที่ส ่งออกไปยัง

ประเทศสหรัฐอเมริกาทุกตู้คอนเทนเนอร์ หรือตรวจสอบ

100% เนื่องจากเกรงปัญหาการปนเปื้อนของเชื้อโรค และ

สารเคมีต่างๆ จากปกติจะมีการสุ่มตรวจเพียงบางตู้คอน

เทรนเนอร์เท่านั้น

โดยจากการตรวจสอบพบว ่ า เ รื่ อ งการ เพิ่ ม

Sampling rate หรือจ�านวนตัวอย่างที่สุ ่มเอาไปตรวจ

วิเคราะห์ เป็นการด�าเนินการตรวจสอบตามปกติ ตามกฏ

หมาย Food Modernisation Act ฉบับใหม่ ที่ประเทศ

สหรัฐอเมริกา เริ่มท�าแล้วกับทุกประเทศ ซึ่งได้มีการ

ประกาศให้ทางผู้ส่งออกทุกประเทศทราบล่วงหน้าไปแล้ว

จึงไม่มีการแจ้งไปยังประเทศผู้ส่งออกหรือผู้ส่งออกรายใด

ท้ังนี้ สหรัฐอเมริกายังคงเชื่อมั่นกับระบบและกระบวนการ

ควบคุมการผลิตของไทย ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและ

สหกรณ์ ได้แจ้งให้ทางส�านักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่าง

ประเทศ ประจ�ากรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ประเทศสหรัฐอเมริกา

ท�าหนังสือชี้แจงไปถึง US-FDA แล้วว่า การเกิดปัญหา

น�้าท่วมในประเทศไทยยังไม่ส่งผลกระทบถึงที่ตั้งโรงงาน

แปรรูป ขณะนี้ผู ้ส่งออกสินค้าของไทยยังคงส่งออกสินค้า

ไปประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ตามปกติ

วันที่ 10/11/2011

Page 8: Weekly Brief_8 Nov - 16 Nov 11_Issue 41

WEEKLY BRIEFTFPA Trade & Technical

Vol. 2 Issue 418 Nov - 16 Nov 2011

14 1514

สถานการณ์นโยบายครม.ใหม่และประเด็นแรงงาน

“เผดิมชัย” รับน�้าท่วมกระทบแรงงาน 8.3 แสนคน/เร่งเตรียมงาน 1.26 แสนอัตรารับภาวะว่างงานหลังน�้าลด

“เผดิมชัย” รับน�้าท่วมกระทบแรงงานแล้วกว่า 8.3

แสนคน ยัน ก.แรงงานดูแลเต็มที่ เบื้องต้นประสาน

นายจ้างดูแลได้ไม่ต�่ากว่า 8.2 แสนคน เตรียมงาน 1.26

แสนอัตรารับภาวะว่างงานหลังน�้าลด ส่ัง “ประกันสังคม”

ออกเงินกู้ช่วยซ่อมบ้าน ชงลดเก็บเงินเข้ากองทุนฯลดภาระ

ลูกจ้าง

ที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย

(ศปภ.) อาคารเอนเนอร์ยี คอมเพล็กซ์ กระทรวงพลังงาน

นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว ่าการกระทรวง

แรงงาน เปิดเผยถึงสถานการณ์น�้าท่วมที่กระทบต่อผู้ใช้

แรงงานล่าสุดว่า ภาพรวมสถานการณ์นับตั้งแต่วันที่ 1

ต.ค.จนถึงขณะนี้พบว่า สถานประกอบการทั่วประเทศได้

รับผลกระทบแล้ว 21,257 แห่งใน 32 จังหวัด มีผลกระ

ทบต่อลูกจ้างหรือผู้ใช้แรงงาน 834,995 คน ซึ่งพื้นที่ที่ได้

รับผลกระทบมากที่สุดคือ จ.ปทุมธานี ที่มีสถานประกอบ

การถึง 10,982 แห่ง และลูกจ้างอีกจ�านวน 406,940 คน

ที่ได้รับความเดือดร้อน โดยเฉพาะที่นิคมอุตสาหกรรมนว

นครที่มีลูกจ้างรวม 270,000 คน จากโรงงาน 227 แห่ง

นายเผดิมชัย กล่าวอีกว่า จากสถานการณ์ดัง

กล่าวที่ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง นอกจากการสนับสนุน

มอบสิ่งของบรรเทาความเดือดร้อน และโครงการหน่วย

แพทย์เคลื่อนที่ประกันสังคมแล้ว ทางกระทรวงยังได้มี

การออกมาตรการช่วยเหลือเยียวยาลูกจ้าง ยกตัวอย่างท่ี

จ.พระนครศรีอยุธยา ได้ขอความร่วมมือสถานประกอบ

กิจการร ่วมรับผิดชอบในการดูแลลูกจ ้าง ซึ่ ง มีสถาน

ประกอบการจ�านวนมากได้แสดงความพร้อมในการจ่ายค่า

จ้างให้ลูกจ้าง ทั้งในอัตราเต็มจ�านวนหรือ 75 เปอร์เซ็นต์

ของค่าจ้าง และได้ขอความร่วมมือในการผ่อนปรนให้

ลูกจ้างมาท�างานสาย หยุดงานโดยไม่ถือเป็นวันลา ทั้ง

ยังให้ค�าปรึกษากฎหมายแรงงานแก่ลูกจ้างที่ได้รับผลกระ

ทบจากการหยุดกิจการ อีกด้วย ซึ่งได้พยายามผลักดัน

มาตรการทั้งหมดให้มีการปฏิบัติในทุกพื้นที่ โดยล่าสุดมี

สถานประกอบการให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี จ�านวน

20,901 แห่ง มีลูกจ้างได้รับการดูแล 827,618 คน

ส่วนกรณีที่มีความเป็นห่วงว่า ในขณะที่

สถานการณ์ก�าลังคลี่คลาย หรือกลับคืนสู่ภาวะปกติ จะมี

ปัญหาการว่างงานตามมานั่น นายเผดิมชัย ชี้แจงว่า ท่ี

ผ่านมาได้ก�าชับเจ้าหน้าท่ีในการออกหน่วยเคลื่อนท่ีเพื่อ

ให้บริการรับขึ้น ทะเบียนขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่าง

งาน จัดหาต�าแหน่งงานว่างรองรับ รวมไปถึงการรับลง

ทะเบียนเคลื่อนย้ายแรงงาน รวมท้ังประสานงานให้มีการ

ยืมตัวลูกจ้างจากบริษัทท่ีมีความพร้อมในการรับ ลูกจ้าง

ตามโครงการเพื่อนช่วยเพื่อน ซึ่งขณะนี้มีสถานประกอบ

การเสนอตัวเข้าร่วมโครงการแล้ว 465 แห่ง มีต�าแหน่ง

งานรองรับกว่า 57,692 อัตรา ขณะที่กรณีการถูกเลิก

จ้าง หรือมีแนวโน้มในการเลิกจ้างนั้น กระทรวงแรงงาน

ได้เตรียมความพร้อมจัดเตรียมต�าแหน่งงานว่างไว้รองรับ

ท่ัว ประเทศจ�านวน 126,638 อัตรา ซึ่งจะมีการเข้าไป

เจรจากับสถานประกอบการโดยตรงเพื่อรองรับสถานการณ์

การเลิก จ้าง นอกจากนี้ยังมีต�าแหน่งงานในต่างประเทศ

อาทิ ประเทศอิสราเอล มีต�าแหน่งคนงานภาคเกษตร อีก

จ�านวน 5,000 อัตรา

“เรายังมีกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง ท่ีตั้งวงเงิน

ในปีงบประมาณ 55 ไว้ท่ี 259 ล้านบาท เตรียมพร้อม

รองรับหากลูกจ้างถูกเลิกจ้าง โดยจะจ่ายเงินชดเชยบาง

ส่วนให้ลูกจ้างแทนนายจ้างที่ไม่สามารถจ่ายได้ไปแทน

ก่อน เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนเฉพาะหน้ากรณี

ถูกเลิกจ้าง” นายเผดิมชัย ระบุ

นายเผดิมชัย กล่าวอีกว่า ในส่วนของ

สถานการณ์ภายหลังน�้าลดที่ผู ้ใช้แรงงานมีความจ�าเป็นใน

การซ่อมแซมท่ี อยู่อาศัยน้ัน จนได้สั่งการให้เปิดโครงการ

ประกันสังคมเคียงข้างผู ้ประกันตนต้านอุทกภัย ที่เปิด

ให้ผู ้ประกันตนกู้เงินรายละไม่เกิน 50,000 บาท อัตรา

ดอกเบ้ีย 2.5 เปอร์เซ็นต์ต่อปีคงที่ 2 ปี ให้แก่ผู ้ที่จ�าเป็น

ในการซ่อมแซมบ้าน ส่วนผู ้ประกอบการที่ต้องการฟื้นฟู

กิจการ ก็ได้ก�าหนดวงเงินกู้ไม่เกินรายละ1 ล้านบาท อัตรา

ดอกเบ้ีย 3 เปอร์เซ็นต์ คงที่ 3 ปี รวมทั้งยังได้เตรียม

เสนอมาตรการลดเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมใน

อัตรา 1 - 2 เปอร์เซ็นต์ของค่าจ้าง เพ่ือลดภาระของผู้

ประกอบการและผู้ประกันตนที่ประสบอุทกภัย ซึ่งก�าลังส่ง

เรื่องเข้าสู่การประชุมคณะกรรมการประกันสังคม เพื่อเป็น

มาตรการชั่วคราวมีระยะเวลา 1 - 2 ปี

ท้ังนี้ กระทรวงแรงงานได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการ

ช่วยผู้ประสบอุทกภัย กระทรวงแรงงาน ณ ชั้น 5 อาคาร

กระทรวงแรงงาน เพื่อเป็นศูนย์การการรวบรวมข้อมูลและ

การให้ความช่วยเหลือประชาชน นายจ้าง และลูกจ้าง

สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. 0-2248-2222

หรือสอบถามด้านข้อมูลสิทธิแรงงาน และการบริการของ

กระทรวงแรงงาน ได้ที่ศูนย์ประสานเพ่ือนผู้ใช้แรงงานที่

ประสบอุทกภัย โทร.0-2567-5101-2 ต่อ 14–16 หรือที่

สายด่วน 1506

ที่มา : สยามรัฐ วันที่ 8 พฤศจิกายน 2554

Page 9: Weekly Brief_8 Nov - 16 Nov 11_Issue 41

WEEKLY BRIEFTFPA Trade & Technical

Vol. 2 Issue 418 Nov - 16 Nov 2011

16 17

ก.แรงงาน เร่ิมรับค�าร้องมาตรการชะลอการเลิกจ้าง10 พ.ย.นี้

“สมเกียรติ” เผยมาตรการช่วยนายจ้างจ่าย 2 พัน

ชะลอการเลิกจ้าง เริ่มรับค�าร้อง 10 พ.ย.นี้ พร้อมจ่าย

เช็คเงินสดปลายเดือน พ.ย.54 ขู่นายจ้างอมเงินลูกจ้าง

ถูกฟ้องด�าเนินคดีฉ้อโกงและเรียกเงินคืนทั้งหมด

นาย สมเกียรติ ฉายะศรีวงศ์ ปลัดกระทรวง

แรงงาน เปิดเผยถึงมาตรการชะลอการเลิกจ้าง โดย

รัฐบาลช่วยจ่ายค่าจ้างแทนนายจ้าง 2,000 บาท เป็นเวลา

3 เดือน ใช้งบประมาณกว่า 600 ล้านบาท โดยน�าร่อง

แรงงานท่ีได้รับผลกระทบจากน�้าท่วมประมาณ 1 แสนคน

ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติ เมื่อวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่าน

มา ว่า กระทรวงแรงงานได้เปิดให้ผู้ประกอบการท่ีอยู่ใน

พ้ืนที่ภัยพิบัติน�้าท่วม มายื่นค�าร้องเพื่อขอใช้สิทธิดังกล่าว

ได้ที่สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดที่สถานประกอบ

การตั้งอยู่ ได้ตั้งแต่วันนี้ (10 พ.ย.) เป็นต้นไป

ส�าหรับขั้นตอนในการยื่นขอเงินชดเชย 2,000

บาท ผู้ประกอบการจะต้องแจ้งข้อมูลสภาพที่ตั้งของสถาน

ประกอบการ จ�านวนและรายชื่อของลูกจ้างที่ได้รับผลกระ

ทบ จากนั้นทางสวัสดิการฯ จะเข้าไปตรวจสอบข้อมูล ว่า

เป็นไปตามที่ผู ้ประกอบการได้แจ้งไว้หรือไม่ โดยอ้างอิง

จากฐานข้อมูลของส�านักงานประกันสังคม (สปส.) เป็น

หลัก ซ่ึงจะต้องอยู่ในหลักเกณฑ์คือ 1.อยู่ในพื้นที่ประสบ

ภัยน�้าท่วม 2.มีน�้าท่วมขังเป็นเวลานาน และ 3.หยุดกิจการ

ไม่น้อยกว่า 1 เดือน

ทั้งนี้ หากตรวจสอบข้อมูลและพบว่ามีความถูก

ต้องแล้ว ทางผู้ประกอบการจะต้องมาท�าข้อตกลงเซ็นเอ็ม

โอยู ที่จะไม่เลิกจ้างลูกจ้างเป็นเวลา 3 เดือน และจ่าย

ค่าจ้างไม่น้อยกว่า 75% ของค่าจ้างเดิม ซึ่งในการจ่าย

เงินเดือนนั้น ทางผู้ประกอบการจะต้องส�ารองจ่ายเงินไป

ก่อน จากนั้นน�าหลักฐานการจ่ายเงินเดือน และรายชื่อของ

ลูกจ้าง มายื่นขอรับเช็คเงินสดได้ที่สวัสดิการฯ โดยหากยื่น

เรื่องเร็วก็จะสามารถได้รับเงินตั้งแต่สิ้นเดือน พ.ย.นี้เป็นต้น

ไป อย่างไรก็ตาม มาตรการนี้จะครอบคลุมเฉพาะลูกจ้างที่

อยู่ในระบบประกันสังคม และลูกจ้างที่ไม่อยู่ในระบบ เช่น

ธุรกิจประมง รวมถึงลูกจ้างธุรกิจเหมาช่วง (ซับคอนแทรค)

แต่ไม่ครอบคลุมไปถึงแรงงานต่างด้าว

“กระทรวงฯ จะตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว โดย

อ้างอิงข้อมูลจากระบบของประกันสังคม ซึ่งหากพบว่า

นายจ้างมีการทุจริตน�าหลักฐานปลอมมายื่นเพ่ือขอรับเงิน

ชดเชย ก็จะด�าเนินคดีอาญาในข้อหาฉ้อโกง และเรียกเงิน

คืนทั้งหมด” นายสมเกียรติ กล่าวและว่า ส่วนถ้ากรณี

มีแรงงานที่ได้รับผลกระทบมากกว่า 1 แสนคน กระทร

วงฯ ก็จะเสนอของบประมาณเพิ่มจากรัฐบาล เนื่องจาก

เป็นประโยชน์ต่อแรงงาน ซึ่งเชื่อว่ารัฐบาลก็ไม่น่าจะมี

ปัญหาอะไร

นอกจากนี้ กระทรวงฯ ยังมีมาตรการย่อยเพื่อ

ช่วยเหลือแรงงานที่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากรายได้ขาด

หายไป 25% โดยมีโครงการจ้างงานเร่งด่วน จะมีรายได้

วันละ 150 บาท จ้างงานไม่เกิน 20 วัน, โครงการยก

ระดับฝีมือแรงงาน ได้เบี้ยเลี้ยงวันละ 120 บาท เป็นเวลา

10 วัน ซึ่งรัฐบาลอนุมัติงบประมาณแล้ว 61 ล้านบาท มี

กลุ่มเป้าหมาย 1.5 หม่ืนคน

ท่ีมา : สยามรัฐ วันท่ี 9 พฤศจิกายน 2554

3 หน่วยงานร่วมตรวจคุณภาพน�้าโรงงานเสียหายจากน�้าท่วมพรุ่งนี้

วันพรุ่งนี้ 3 หน่วยงานจาก ก.อุตสาหกรรม,ทรัพยากร

ธรรมชาติฯและสาธารณสุข จะเข้าตรวจคุณภาพน�้าตาม

โรงงานท่ีได้รับผลกระทบจากน�้าท่วมในนิคมฯท่ีจ.อยุธยา

และปทุมธานี

วันพรุ่งนี้ (15 พ.ย.) ทีมงานจาก 3 หน่วยงานประกอบ

ด้วย กรมโรงงาน กระทรวงอุตสาหกรรม , กรมควบคุม

มลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

และ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข จะเข้าตรวจ

คุณภาพน�้าตามโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมที่ได้ผลกระ

ทบจากน�้าท่วม โดยเฉพาะพื้นท่ีจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

และ ปทุมธานี จากท่ีผ่านมาแต่ละหน่วยงาน ท�างานใน

ลักษณะต่างคนต่างท�า

ด้านนายปรีชา เร่งสมบุรณ์สุข รัฐมนตรีว่าการ

กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าว

ว่า ทีมงานชุดนี้ยังตรวจสอบสภาพดินและคุณภาพ

อากาศ รวมถึงขยายพื้นท่ีตรวจนอกเขตอุตสาหกรรมเช่น

เขตจตุจักร โดยผลตรวจจะใช้เวลาไม่เกิน 1 วันของ

แต่ละตัวอย่าง และหากพบพ้ืนที่ใดมีคุณภาพน�้าต�่ากว่า

มาตรฐาน รัฐมนตรีว่าการฯก็จะใช้อ�านาจออกประกาศ

ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาสิ่งแวดล้อมแห่ง

ชาติห้ามสูบน�้าออก เพื่อให้มีการฆ่าเชื้อโรคและก�าจัด

สารเคมีตามกระบวนการเสียก่อน ซึ่งขณะนี้โรงงานบาง

แห่งเริ่มสูบน�้าออกแล้ว แต่ยังไม่พบพ้ืนที่ใดมีคุณภาพน�้า

ต�่ากว่ามาตรฐาน

ที่มา : THAI PBS NEWS วันที่ 14 พ.ย. 2554

Page 10: Weekly Brief_8 Nov - 16 Nov 11_Issue 41

WEEKLY BRIEFTFPA Trade & Technical

Vol. 2 Issue 418 Nov - 16 Nov 2011

18 19ท่ีมา : http:/www.thaigov.go.th/ วันท่ี 15 พฤศจิกายน รายละเอียดดังเอกสารแนบ 1

เรียบเรียงโดย สมาคมผู้ผลิตอาหารส�าเร็จรูป 2554

สรุปการประชุมครม. วันที่ 15 พฤศจิกายน 2554สถานการณ์ด้านการค้า

รง.น�้าตาลยื่นมือช่วยเหลือเหยื่อน�้าท่วมประกาศจ้างงานกว่า 1 หมื่นอัตรารองรับการเปิดหีบอ้อย

กลุ่ม อุตสาหกรรมอ้อยและน�้าตาลทรายย่ืนมือช่วยเหลือ

แรงงานท่ีต้องว่างงานเพราะ ปัญหาน�้าท่วม ยินดีรับเข้าท�างาน

ในไร่อ้อยและโรงงานน�้าตาลในช่วงเปิดหีบอ้อย เผย 47 โรงงาน

ท่ัวประเทศจ้างงานได้มากกว่า 10,000 คน

นายสิริวุทธิ์ เสียมภักดี รองประธานคณะกรรมการ

บริหารและประธานคณะท�างานด้านประชาสัมพันธ์ บริษัทไทย

ชูการ์ มิลเลอร์ จ�ากัด เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์อุทกภัยท่ีส่ง

ผลกระทบต่อนิคมอุตสาหกรรมหลายแห่ง รวมถึงภาคการผลิต

และบริการจ�านวนมากที่ต้องหยุดด�าเนินงาน และต้องใช้เวลาอีก

หลายเดือนในการฟื้นฟูกิจการ ท�าให้มีแรงงานจ�านวนมากท่ีต้อง

ว่างงานและขาดรายได้ ส่งผลต่อการด�ารงชีวิตและคุณภาพชีวิต

ของแรงงานเหล่านี้และครอบครัว

“กลุ่มอุตสาหกรรมอ้อยและน�้าตาลทรายตระหนัก

ถึงปัญหาเหล่านี้ดี และหารือกันว่า เราควรเข้ามามีส่วนร่วมใน

การช่วยเหลือประเทศ โดยการช่วยเหลือแรงงานเหล่านี้ให้มีงาน

ท�า เพื่อให้มีรายได้เลี้ยงปากเลี้ยงท้องตนเองและครอบครัว โดย

โรงงานน�้าตาลต่างๆ ท่ีกระจายอยู่ท่ัวประเทศจะหางานท่ีเหมาะ

สมให้กับผู ้ท่ีว่างงาน บางคนอาจท�างานในไร่อ้อย บางคนท่ีมี

ความรู ้เรื่องเครื่องจักรกลก็จะให้ท�างานในโรงงาน หรือบางคน

อาจช่วยงานในส�านักงาน” นายสิริวุทธิ์กล่าว

ทั้งนี้ อุตสาหกรรมอ้อยและน�้าตาลทรายเป็นหนึ่ง

ในอุตสาหกรรมหลักของประเทศ ประกอบไปด้วยโรงงาน

น�้าตาลทรายท้ังหมด 47 โรงงานที่ตั้งกระจายอยู่ในภาค

เหนือ 10 แห่ง ภาคกลาง 16 แห่ง ภาคตะวันออกเฉียง

เหนือ 16 แห่ง และภาคตะวันออกอีก 5 แห่ง สามารถ

รับแรงงานในช่วงเปิดหีบอ้อยได้มากกว่า 10,000 ต�าแหน่ง

โดยการหีบอ้อยและผลิตน�้าตาลทรายจะเริ่มตั้งแต่เดือน

พฤศจิกายน 2554 จนถึงประมาณเดือนเมษายน 2555

ส�าหรับจังหวัดที่ตั้งโรงงานน�้าตาลทรายมีอยู่

ใน 27 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดก�าแพงเพชร นครสวรรค์

พิษณุโลก เพชรบูรณ์ ล�าปาง อุตรดิตถ์ สุโขทัย อุทัยธานี

กาญจนบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ราชบุรี ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี

สุพรรณบุรี ชลบุรี สระแก้ว กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ

นครราชสีมา บุรีรัมย์ มุกดาหาร มหาสารคาม สุรินทร์

หนองบัวล�าภู และอุดรธานี โดยผู ้ที่สนใจเข ้าท�างาน

สามารถติดต่อไปท่ีโรงงานน�้าตาลทั้ง 47 แห่งได้โดยตรง

ซึ่งสามารถเข้าไปดูรายละเอียดสถานที่ตั้งโรงงานได้จาก

เว็บไซต์ www.thaisugarmillers.com หรือโทรศัพท์

สอบถามท่ี 0-2273-0992 ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

ที่มา : สยามรัฐ วันที่ 8 พฤศจิกายน 2554

Page 11: Weekly Brief_8 Nov - 16 Nov 11_Issue 41

WEEKLY BRIEFTFPA Trade & Technical

Vol. 2 Issue 418 Nov - 16 Nov 2011

20 21

ชูสอท.น�าทีมฟื้นฟูอุตฯ จี้รัฐทุ่มป้อง “บางชัน”

กกร.มอบ สอท.น�าทัพ หามาตรการเยียวยาผู้ประกอบ

การภาคอุตสาหกรรม พร้อมเร่งตั้งกองทุนฟื้นฟู คาดได้ข้อ

สรุปภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ จี้รัฐทุ่มสุดตัวป้อง “บางชัน”

นิคมสุดท้ายที่ยังเหลือ หวั่นจมน�้าอีก ยิ่งกระทบเชื่อมั่น

จากนักลงทุน

นายพงษ ์ศักดิ์ อัสสกุล ประธานกรรมการสภา

หอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยหลังการประชุมคณะ

กรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ว่า ที่ประชุม

ได้หารือในเรื่องของการเยียวยาและฟื้นฟูผู้ประกอบการที่

ประสบอุก ทกภัย

โดยมีมติใน 3 เรื่อง คือ 1.ได้มีการตั้งคณะกรรมการ

เพื่อศึกษาผลกระทบของผู ้ประกอบการ โดยเฉพาะกลุ่ม

ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก (SMEs) ว่า จะ

มีมาตรการในการดูแลอย่างไร เพราะนอกเหนือจากกลุ่ม

อุตสาหกรรมในนิคมอุตสาหกรรมที่ถูกน�้าท่วมแล้ว ยังมี

อุตสาหกรรมนอกนิคมฯ จ�านวนมากได้รับผลกระทบด้วย

ก่อนสรุปออกมาเป็นแนวทางการช่วยเหลือแต่ละประเภท

ซึ่งได ้มอบหมายให้สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย

(สอท.) เป็นเจ้าภาพในการตั้งคณะกรรมการเพื่อศึกษา

คาดว่าภายใน 1-2 สัปดาห์จะได้ข้อสรุป

2. ที่ประชุมได้เห็นชอบที่จะเล่ือนการประชุมระหว่าง

ภาคเอกชนไทยกับสมาพันธ์ ธุรกิจแห่งประเทศญี่ปุ ่นออก

ไปจากเดิมวันที่ 28 พ.ย.นี้ เนื่องจาก นายกิตติรัตน์ ณ

ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ต้องการเข้า

ร่วมประชุมด้วย เพื่อชี้แจงแนวทางการแก้ไขปัญหาและ

เยียวยาผลกระทบที่เกิดขึ้นกับอุตสาหกรรม ญี่ปุ ่นในไทย

3. การจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่

ได้รับผลกระทบจากน�้า ท่วม ซึ่งจะมีการหารือและก�าหนด

วิธีการจัดตั้งกองทุนให้แล้วเสร็จภายใน 1-2 สัปดาห์นี้

“ขณะนี้ทั้งภาคเอกชนของไทยและต่างประเทศก�าลังรอ

ดูว่ารัฐบาลจะมีวิธีการจัดการ อย่างไรกับปัญหาน�้าท่วมท่ี

เกิดข้ึน หลังจากนิคมอุตสาหกรรม 7 แห่งได้รับผลกระ

ทบจมน�้าไปแล้ว และแห่งที่ 8 นิคมอุตสาหกรรมบางชัน

จะเป็นรายต่อไปหรือไม่ เอกชนยังคงเฝ้าระวังอุตสาหกรรม

ของตนเองที่ยังไม่ท่วม ซึ่งภาครัฐต้องหาวิธีการไม่ให้ผลก

ระทบเกิดขึ้นกว่าที่เป็นอยู ่ให้ได้ หากได้รับผลกระทบอีก

จะมีปัญหาถึงการติดต่อสื่อสารทางธุรกิจและความเช่ือม่ัน

จากต่างประเทศได้” นายพงษ์ศักด์ิ กล่าว.

จากหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ ฉบับวันท่ี 8 พฤศจิกายน 2554

นิคมฯบางชันวิกฤติ!ระดับน�้าเพิ่มสูง เตรียมสั่งหยุดกิจการหากเกิน 1.50 ม.

นิคมฯ บางชันเข้าขั้นวิกฤติ!ปริมาณน�้าล้อมแตะระดับ

1 เมตรแล้ว เผยเตรียมสั่งผู ้ประกอบการหยุดกิจการหาก

ระดับน�้าเกิน 1.50 เมตร พร้อมเตรียมแผนสองอพยพ

ด้านโรงงานจิบซานฯเริ่มมีน�้าซึมเข้า

สถานกนิคมฯบางชันเข ้าขั้นวิกฤติ !ปริมาณน�้าล ้อม

แตะระดับ 1 เมตรแล้ว เผยเตรียมสั่งผู ้ประกอบการหยุด

กิจการหากระดับน�้าเกิน 1.50 เมตร พร้อมเตรียมแผน

สองอพยพ ด้านโรงงานจิบซานฯเริ่มมีน�้าซึมเข้าารณ์น�้า

ท่วมในเขตกรุงเทพฯยังคงวิกฤติ หนัก! ระดับน�้าในคลอง

ท่ีก�าลังมุ่งหน้ามายังนิคมอุตสาหกรรมบางชัน ท้ังคลอง

บางชันและคลองแสนแสบเมื่อช่วงเช้าท่ีผ่านมา (8 พ.ย.)

ได้เพิ่มสูงประมาณ 1 เมตรจน มองไม่เห็นมาตรวัดน�้า

ท่ีอยู ่ในคลองแล้ว ซึ่งเป็นปริมาณท่ีจะเข้าสู ่แผนรองรับ

กรณีฉุกเฉินของนิคมอุตสาหกรรมบางชัน โดยทางนิคมฯ

จะแจ้งเตือนผู ้ประกอบการผ่านอีเมล์เอสเอ็มเอส หรือ

โทรศัพท์มือถือ ให้เคลื่อนย้ายทรัพย์สินไปอยู ่ในระดับที่

ปลอดภัย แต่ยังไม่จ�าเป็นจะต้องหยุดประกอบการจนกว่า

ระดับน�้าในคลองจะสูงถึง 1.50 เมตรจึงจะมีค�าเตือนให้ผู ้

ประกอบการหยุดประกอบกิจการ และหากน�้าสูงถึง 1.75

เมตร จะแจ้งให้แต่ละโรงงานอพยพคนงานออกจากพื้นท่ี

อย่างไรก็ตาม นิคมฯบางชัน มีแผนระดมก�าลังทหารกว่า

500 นาย และเครื่องสูบน�้าเกือบ 20 เครื่อง เพื่อป้องกัน

นิคมฯ อย่างเต็มท่ี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น�้าท่วมบริเวณนิคมอุตสาหกรรม

บางชันล ่าสุด ระดับน�้าเ ร่ิมสูง โดยระดับน�้าในคลอง

บางชันและคลองแสนแสบสูงเกิน 1 เมตรแล้ว ท�าให้นิ

คมฯ ต้องเตรียมแผนสองที่จะต้องเคลื่อนย้ายสิ่งของขึ้น

ท่ีสูง และหากน�้าในคลองสูงเกิน 1.50 เมตร จะหยุด

ประกอบการ และถ้าเกิน 1.70 เมตร เตรียมการอพยพ

ขณะท่ีโรงงานจิบซาน อิเล็คทรอนิคส์ มีน�้าเริ่มซึมเข้ามา

แต่ยังไม่หยุดผลิต เพราะยังควบคุมน�้าที่เข้ามาได้ และ

จากการสอบถามพนักงานที่ท�างานในนิคมฯบอกยังมั่นใจ

ว่าจะรับมือน�้าได้

ที่มา : สยามรัฐ วันที่ 8 พฤศจิกายน 2554

Page 12: Weekly Brief_8 Nov - 16 Nov 11_Issue 41

WEEKLY BRIEFTFPA Trade & Technical

Vol. 2 Issue 418 Nov - 16 Nov 2011

22 23

ยัน’ครัวไทยสู่โลก’ถึงจุดหมายชัวร์

เป็นที่ทราบกันดีว่ารัฐบาลได้มีนโยบาย “ครัวไทยสู ่

โลก” มาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากประเทศไทยเป็นแหล่ง

ผลิตอาหารที่อุดมสมบูรณ์ มีสินค้าอาหารที่ไทยเป็นผู้ส่ง

ออกอันดับหนึ่งของโลกเช่น ข้าว ทูน่ากระป๋อง สับปะรด

กระป๋อง กุ้งและผลิตภัณฑ์ และยังเป็นผู้ส่งออกสินค้าอา

หารอื่นๆ อีกมากมาย รวมถึงไข่ไก่ ปลากระป๋อง แต่

ณ วันนี้ประเทศไทยประสบมหาอุทกภัย ต้องกลายเป็น

ประเทศผู้น�าเข้าสินค้าอาหารจ�าเป็น เช่นไข่ไก่ ปลากระ

ป๋อง น�้าดื่ม เป็นครั้งแรกจากประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์

ความจ�าเป็นของประเทศไทยดังกล่าว จะส่งผลต่อนโยบาย

“ครัวไทยสู่โลก” ของไทยหรือไม่ “ฐานเศรษฐกิจ”มีค�า

ตอบจากค�าสัมภาษณ์ ดร.เพ็ชร ชินบุตร ผู้อ�านวยการ

สถาบันอาหาร ดังรายละเอียดต่อไปนี้

- สินค้าไม่ขาดเป็นจิตวิทยา

ดร.เพ็ชร กล่าวว่าการที่รัฐบาลได้น�าเข้าสินค้าน�้าดื่ม

บรรจุขวด ไข่ไก่ ปลากระป๋อง และเครื่องใช้อุปโภคบริโภค

นั้น เป็นจิตวิทยาเพ่ือท�าให้ผู ้บริโภคผ่อนคลายไม่ต้องไป

ซื้อกักตุน เกิดความมั่นใจว่าสินค้ามีเพียงพอบริโภค ขณะ

เดียวกันเป็นการปรามผู้ประกอบการไม่ให้ซ�้าเติมผู้ท่ีก�าลัง

ประสบปัญหาจาก น�้าท่วมมากกว่า จริงๆ แล้วสินค้าใน

ประเทศไม่ได้ขาดแคลน เพียงแต่ระบบขนส่งไม่สะดวก

เพราะถนนถูกตัดขาด โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ เท่านั้น

ส่วนในจังหวัดอื่นๆ นั้นมีการซื้อขายปกติ

“สังเกตสินค้าที่รัฐได้น�าเข้ามานั้นจะไม่ได้กระทบกับ

สินค้าส่งออกอันดับต้นๆ ของไทย อาทิ ไก่ กุ้ง ข้าว

เลยแม้แต่น้อย อย่าไปวิตกกังวล ซึ่งหากน�าเข้าสินค้า

เหล่านี้มาจึงจะกระทบ หรือไม่ก็ผลกระทบจากไข้หวัดนก

อย่างนี้กระทบการส่งออกอย่างแน่นอน แต่สถานการณ์น�้า

ท่วมนั้นเป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติระยะสั้นอาจจะกระทบ

กับเป้า ส่งออกอาหารปี 2554 ที่ได้ตั้งเป้าไว้ จะมีมูลค่า

สูง 900,000 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีมูลค่า 850,000

ล้านบาท และมีแนวโน้มที่จะส่งออกได้ทะลุ 1 ล้านล้าน

บาทในปีนี้ เนื่องจากมูลค่าสินค้าอาหารปรับตัวสูงขึ้นมาก”

ช่วงต้นปีก่อนที่จะมีน�้าท่วม เคยคาดการณ์ไว้ว ่าใน

ปีนี้ส่งออกอาหารคงจะมีมูลค่าทะลุ 1 ล้านล้านบาทได้

เพราะส่วนใหญ่ไทยส่งออกอาหารทะเล ส่วนกุ้งท่ีประสบ

ปัญหาน�้าท่วมในต้นปี ก็น่าจะฟื ้นตัวได้แล้ว แต่เมื่อมี

สถานการณ์น�้าท่วมเข้ามาการส่งออกจะทะลุ 1 ล้านล้าน

บาทนั้นคงเป็นไปได้ยาก แต่เชื่อว่าจะยังคงส่งออกได้อยู ่

ที่ 950,000 ล้านบาท และ จะต้องประเมินใหม่อีกครั้ง

หลังจากระดับน�้าลด

-น�้าท่วมส่งออกอาหารสะดุด

นอกจากนี้ ดร.เพ็ชร ยังชี้ว่า จากผลกระทบน�้าท่วม

ในนิคมอุตสาหกรรม 7-8 นิคมนั้น ท�าให้โรงงานผลิต

อาหารท่ีอยู่ในนิคมจ�านวน 200 กว่าโรงได้รับผลกระทบ

มีผลท�าให้การส่งออกชะลอ โดยเฉพาะในช่วงนี้ส่วนใหญ่

ลูกค้าจะสั่งน�าเข้าอาหารไปเพื่อฉลองในช่วง คริสต์มาส

ซึ่งมีผลท�าให้การส่งออกสะดุด แต่หลังจากนี้ไปมั่นใจว่า

น�้าจะค่อยๆ ลดระดับลง และต้องพิจารณาอีกว่าผู้ส่งออก

สามารถท่ีจะส่งออกได้ทันหรือไม่ หรือจะต้องฟื้นฟูนานแค่

ไหนกว่าจะส่งออกได้ ต้องลุ้นในไตรมาส 4

“สถาบันอาหารพยายามรวบรวมข้อมูล ได้พยายาม

สอบถามโรงงานแต่ละโรง ยังไม่ได้ค�าตอบที่ชัดเจน เพราะ

ระดับน�้ายังสูงอยู่ และยังไม่สามารถเข้าไปดูได้ว่าวัตถุดิบ

ท่ียังอยู ่ในโรงงานคุณภาพยังดีหรือ ไม่ สามารถส่งออก

ทันทีได้หรือไม่ เครื่องจักรเสียหายไหม หากไม่เสียหาย

วัตถุดิบพร้อมที่จะป้อนโรงงานหรือไม่ ส่วนคู ่ค ้ายังคง

ยืนยันจะให้โรงงานส่งต่อหรือไม่ ค�าถามเหล่านี้ก็คงจะ

ต้องให้ระดับน�้าลดลง และให้เวลารัฐบาลร่วมกับเจ้าของ

โรงงานฟื้นฟูนิคมอุตสาหกรรมให้กลับมาเหมือน เดิมให้

ได้ในเร็ววัน “

ส ่วนผลกระทบน�้ าท ่วมในระยะยาวจะส ่งผลให ้ผู ้

ประกอบการหาวัตถุดิบมาแปรรูป สินค้าได้ล�าบากขึ้น โดย

เฉพาะวัตถุดิบทางการเกษตร เช่น ข้าว มันส�าปะหลัง ซึ่ง

จะส่งผลกระทบต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้าที่ผู ้ประกอบการจะ

เข้าถึงวัตถุดิบ ยากขึ้น และราคาก็จะปรับตัวไปตามสภาพ

ขณะเดียวกันปัญหาทางอ้อมท่ีเกิดข้ึน คือ การขนส่ง ท่ีไม่

สามารถขนส่งวัตถุดิบเข้าโรงงาน หรือส่งสินค้าให้ลูกค้าได้

ตามเวลา ซึ่งก็จะส่งผลกระทบต่อเนื่องต่อการส่งออกได้

รวมถึงปัญหาเศรษฐกิจโลกที่จะกระทบต่อก�าลังซื้อ

ของประเทศคู่ค้า ท�าให้มีการสั่งซื้อสินค้าลดลงบ้าง โดย

ปัจจุบันไทยส่งออกสินค้าอาหารไปยังสหรัฐฯ และยุโรป ใน

สัดส่วน 20% แต่เป็นการส่งออกที่มูลค่าสูง ขณะที่ตลาด

อาเซียนไทยส่งออกสูงถึง 60% รองลงมาเป็นญี่ปุ ่น 15%

ส�าหรับตลาดญี่ปุ ่นที่ไทยคาดว่าจะได้ค�าส่ังซื้อเป็นจ�านวน

มาก จากการที่ญี่ปุ ่นประสบภัยธรรมชาตินั้น ก็ไม่ได้รับมา

มากอย่างท่ีคิดไว้ เพราะญี่ปุ ่นมีทางเลือกที่จะไปสั่งสินค้า

จากท่ีอื่นนอกเหนือจากไทย โดยใช้วิธีเปรียบเทียบราคา

สินค้ากับคู้ค้าประเทศอื่นๆ ท�าให้ไทยไม่ได้รับค�าสั่งซื้อใน

ส่วนนั้นมาอย่างเต็มท่ี

Page 13: Weekly Brief_8 Nov - 16 Nov 11_Issue 41

WEEKLY BRIEFTFPA Trade & Technical

Vol. 2 Issue 418 Nov - 16 Nov 2011

24 25

-ยันครัวไทยสู่ครัวโลก

อย่างไรก็ตาม ดร.เพ็ชร เสนอแนะว่า เพื่อเรียกความ

เช่ือมั่นจากนักลงทุนต่างประเทศ รัฐบาลควรจะก�าหนด

มาตรการเยียวยาผู ้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากน�้า

ท่วม อย่างเร่งด่วน ควรจะก�าหนดระยะเวลาให้ชัดเจน

โดยเฉพาะนักลงทุนจากประเทศญี่ปุ่นที่เสียหายจากน�้าท่วม

นิคมอุตสาหกรรมทั้ง ที่อยุธยา ปทุมธานีและบางกะดีให้

กลับคืนมา เดินเครื่องการผลิตได้ตามปกติ ตามที่ได้ให้

ข่าวไปว่าภายใน 45 วัน เพราะก่อนหน้านี้นักลงทุนต่าง

ชาติไม่พอใจรัฐบาลในเร่ืองการป้องกันน�้าท่วม โรงงานใน

นิคมฯ และการเร่งระบายน�้าในนิคมก็ล่าช้า จนเกิดกระแส

การย้ายฐานการลงทุน และที่ส�าคัญ ไม่อยากให้คนไทย

คิดว่าไปช่วยเหลือนายทุน เพราะนายทุน จะฟื้นตัวได้เร็ว

จะช่วย ท�าให้อุตสาหกรรมอาหารส่งออกฟื้นตัวได้เร็วข้ึน

เพราะปัจจัยเส่ียงส�าคัญครัวไทยสู่โลกนั้น กุญแจส�าคัญก็

คือภัยธรรมชาติ ไม่ใช่ปัจจัยเส่ียงจากเศรษฐกิจโลก เพราะ

อุตสาหกรรมอาหารจะสะดุดก็ต่อเมื่อวัตถุดิบขาดแคลน

เพื่อผลักดันนโยบายครัวไทยสู ่ครัวโลก อย่างเป ็น

รูปธรรม และเป ็นการยกระดับครัวไทยสู ่ครัวอาหาร

ปลอดภัยของโลก โดยจะต้องเชื่อมโยงสู ่อุตสาหกรรม

และธุรกิจบริการ ซึ่งวัตถุดิบจะต้องได้มาตรฐานระดับโลก

และรองรับต่อการเปิดเสรีอาเซียน (AEC) ในปี 2558

จึ ง ไ ด ้ เ ส น อ แ ผ น ผ ่ า น ค ณ ะ รั ฐ ม น ต รี ที่ ม ี

นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้อนุมัติในหลัก

การเรียบร้อยแล้วถึง

แผนการด�าเนินงานโครงการครัวไทยสู ่ครัวมาตรฐาน

ของโลก ระยะเวลาด�าเนินงาน 3 ปี (2555-2557) ใช้งบ

ประมาณด�าเนินการปีละ 200 ล้านบาท ตั้งเป้ายกระดับ

มาตรฐานโรงงานอุตสาหกรรมด้านอาหารขนาดใหญ่ให้

เป็นที่ยอมรับ ในตลาดส่งออก จากปัจจุบันอยู่ท่ี 200 โรง

เพิ่มเป็น 500 โรง รวมถึงพัฒนามาตรฐานและเพิ่มขีด

ความสามารถแข่งขันในระดับโลก

นี่คือค�ายืนยันจากหน่วยงานปฏิบัติ “ครัวไทยสู ่โลก”

ตามเป้าหมายอย่างแน่นอน

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,686

10-12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

อัตราแลกเปลี่ยน

Page 14: Weekly Brief_8 Nov - 16 Nov 11_Issue 41

WEEKLY BRIEFTFPA Trade & Technical

Vol. 2 Issue 418 Nov - 16 Nov 2011

26 27

อัตราแลกเปลี่ยน

33.31 34.2931.69

61.60

53.5748.97

48.93 47.7142.04

32.3436.72

36.12

4.80 5.02 4.68

0.00

10.00

20.00

30.00

40.00

50.00

60.00

70.00

2551 2552 2553

THB

Year

YEARLY MID RATES OF EXCHANGE OF COMMERCIAL BANGKOK IN BANGKOK

THB / 1 USD THB /1 GBP THB / 1 EUR THB / 100 JPY THB/CNY

27

อัตราแลกเปลี่ยน

Page 15: Weekly Brief_8 Nov - 16 Nov 11_Issue 41

WEEKLY BRIEFTFPA Trade & Technical

8 Nov - 16 Nov 2011

28

THAIFOODPROCESSORS’ASSOCIATIONTel : (662) 261-2684-6 Fax : (662) 261-2996-7E-mail: [email protected]

สมาคมผู้ผลิตอาหารส�าเร็จรูป

ขอขอบคุณเว็ปไซต์ ดังต่อไปนี้1. http://www.thannews.th.com 2. http://www.thairath.co.th 3. http://www.bangkokbiznews.com 4. http://www.tnsc.com 5. http://www.prachachat.net6. http://www.dailynews.co.th7. http://www.acfs.go.th8. http://www.posttoday.com9. http://www.matichon.co.th10. http://www.naewna.com

เสนอข้อคิดเห็น/ข้อเสนอแนะ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………......................................................

Executive Director

วิกรานต์ โกมลบุตร E-mail: [email protected]

Administrative Manager

ลินดา เปลี่ยนประเสริฐ E-mail: [email protected]

Trade and Technical Manager

สุพัตรา ริ้วไพโรจน์ E-mail: [email protected]

Division-Fruit and Vegetable Products

E-mail : [email protected]

Head of Trade & Technical

วิภาพร สกุลครู E-mail: [email protected]

Trade and Technical Officer

อัญชลี พรมมา E-mail: [email protected]

ธณัฐยา จันทรศรี E-mail: [email protected]

Division-Fisheries Products

E-mail : [email protected]

Head of Trade & Technical

ชนิกานต์ ธนูพิทักษ์ E-mail: [email protected]

Trade and Technical Officer

รัตนา ชูศรี E-mail: [email protected]

ธนัญญา ตั้งจินตนา E-mail: [email protected]

IT Support Officer

ปวัณรัตน์ ใจกล้า E-mail: [email protected]

Data Management Office

ญดา ชินารักษ์ E-mail: [email protected]

Commercial Relation Executive

กัญญาภัค ชินขุนทด E-mail: [email protected]

Administrator

วสุ กริ่งรู้ธรรม E-mail: [email protected]

ศิริณีย์ ถิ่นประชา E-mail: [email protected]

Accountant

วิมล ดีแท้ E-mail: [email protected]

TFPA TEAM