เอกสารประกอบการสอน วิ�ชา 427-302 Methods of Social Sciences Research

เร��อง สมมติ�ฐานการวิ�จั�ย

ปั�ญหาการวิจั�ยสมมติฐานการวิจั�ยติ�วิแปัร/ปัระเด็�นการ

วิจั�ย

ปั�ญหาการวิจั�ยคื�ออะไร

ป�ญหาการวิ�จั�ย ป�ญหาน�าการวิ�จั�ย คำ�าถามการวิ�จั�ยคำ�าถามน�าการวิ�จั�ย• หมายถ�ง ประเด็�นคำ�าถามหลั�กที่"�ม"การระบ#อย$างเป%น

ที่างการ แลัะใช(เป%นแนวิที่างหลั�กในการช")น�าที่�ศที่างแลัะแนวิที่างในการด็�าเน�นการวิ�จั�ย

• a clear unambiguous question able to be answered through your research project (Albert et al, 2003)

การสร�างปั�ญหาการวิจั�ยที่��ด็�ติ�องคื าน!งถึ!งอะไรบ้�าง

FINER criteria for a good question: Feasible: Adequate numbers of subjectAdequate technical supportAffordable in time and moneyManageable in scope

Interesting – to the investigator

Novel: Confirms or refutes previous findingsExtends previous findingsProvides new findings

EthicalRelevant: To a field of tourism study

องคื$ปัระกอบ้ที่��ส าคื�ญของคื าถึามการวิจั�ย คำ�าถามการวิ�จั�ย ม�กประกอบไปด็(วิยองคำ,ประกอบส�าคำ�ญ 3

ประการ1. ประเด็�นในการวิ�จั�ย หร�อติ�วิแปร• กลั#$มบ#คำคำ#ลัเป-าหมายในการวิ�จั�ย• บร�บที่การวิ�จั�ย องคำ,ประกอบที่�)งสามน") สามารถส�งเกติเห�นได็(จัากข้(อคำวิามซึ่��งน�กวิ�จั�ยได็(เร"ยบเร"ยงออกมาในร0ปข้องประโยคำเช�งคื าถึามโด็ยประโยคำเช�งคื าถึาม ด็�งกลั$าวิ จัะระบ#ให(เห�นถ�ง

ประเด็�นที่"�น�กวิ�จั�ยสนใจั ติ(องการศ�กษา แลัะสะที่(อนให(เห�นแนวิที่างในการที่�าวิ�จั�ย

องคื$ปัระกอบ้ที่��ส าคื�ญของปั�ญหาการวิจั�ย(ติ�วิอย&าง)แนวิที่างในการส$งเสร�มแลัะพั�ฒนาการที่$องเที่"�ยวิที่าง

ธรรมชาติ�บนเกาะช(าง ให(ติรงติามคำวิามติ(องการข้องน�กที่$องเที่"�ยวิชาวิไที่ยแลัะชาวิติ$างชาติ�เป%นอย$างไร

1. ประเด็�นในการวิ�จั�ย หร�อติ�วิแปร คำ�อแนวิที่างในการส$งเสร�มแลัะพั�ฒนาการที่$องเที่"�ยวิที่างธรรมชาติ�บนเกาะช(าง

2.กลั#$มบ#คำคำลัเป-าหมายในการวิ�จั�ย คำ�อน�กที่$องเที่"�ยวิชาวิไที่ยแลัะชาวิติ$างชาติ�

3.บร�บที่การวิ�จั�ย คำ�อ เฉพัาะเร��องแนวิที่างในการส$งเสร�มแลัะพั�ฒนาการที่$องเที่"�ยวิที่างธรรมชาติ�บนเกาะช(างเที่$าน�)น

4.แนวิที่างในการที่�าวิ�จั�ย คำ�อ การวิ�จั�ยเช�งคำ#ณภาพัเพัราะน�กวิ�จั�ยม"โอกาสส�มผั�สก�บกลั#$มเป-าหมาย

โด็ยติรง แลัะพั0ด็คำ#ยก�นในรายลัะเอ"ยด็ติ$าง ๆ อย$างเจัาะลั�ก

องคื$ปัระกอบ้ที่��ส าคื�ญของปั�ญหาการวิจั�ย

(ติ�วิอย&าง)

1. ประเด็�นในการวิ�จั�ย หร�อติ�วิแปร คำ�อ..........2. กลั#$มบ#คำคำลัเป-าหมายในการวิ�จั�ย คำ�อ..........3. บร�บที่การวิ�จั�ย คำ�อ..........4. แนวิที่างในการที่�าวิ�จั�ย คำ�อ..........

โปรแกรมที่$องเที่"�ยวิส�าเร�จัร0ปใน 15 จั�งหวิ�ด็ภาคำเหน�อ ที่"� สอด็คำลั(องก�บคำวิามติ(องการข้องน�กที่$องเที่"�ยวิชาวิไที่ย

จั�าแนกติามลั�กษณะข้องน�กที่$องเที่"�ยวิแบบเด็�นที่าง ด็(วิยติ�วิเองแลัะแบบกลั#$ม โด็ยแบ$งย$อยติามร0ปแบบ

การที่$องเที่"�ยวิเช�งธรรมชาติ� เช�งวิ�ฒนธรรม แลัะเช�ง ผัสม ม"อะไรบ(าง

ปัระเภที่ของปั�ญหาการวิจั�ย

1.การจั�ด็ประเภที่ป�ญหาการวิ�จั�ยติามลั�กษณะข�อม(ลที่��คืาด็หวิ�ง

2.การจั�ด็ประเภที่ป�ญหาการวิ�จั�ยติามแนวิที่างในการน าเสนอข�อม(ล

3.การจั�ด็ประเภที่ป�ญหาการวิ�จั�ยติามแนวิที่างในการติ�+งคื าถึาม

ปัระเภที่ของปั�ญหาการวิจั�ย

1.การจั�ด็ประเภที่ป�ญหาการวิ�จั�ยติามลั�กษณะข�อม(ลที่��คืาด็หวิ�ง

1.1 โจัที่ย,เก"�ยวิก�บคืวิามจัรง (Questions of Fact)

เป%นโจัที่ย,ที่"�ม#$งเน(นการ บรรยายสรรพัส��งติ$าง ๆ ติามสภาพัคำวิามเป%นจัร�งที่"�สามารถส�งเกติได็(

สะที่(อนปร�ชญาคำวิามเช��อที่"�วิ$า สรรพัส��งติ$าง ๆ ม"คำวิามส�มพั�นธ,ก�นในเช�งเหติ#- ผัลั การเปลั"�ยนแปลังที่"�เก�ด็ข้�)น

ก�บส��งหน��งจัะน�าไปส0$การเปลั"�ยนแปลังข้องส��งอ��น ๆ

ติ�วิอย&างของปั�ญหาการวิจั�ยเก��ยวิก�บ้คืวิามจัรง

ร0ปแบบ เน�)อหา แลัะที่�ศที่างข้องการที่�าการติลัาด็ ที่างการที่$องเที่"�ยวิด็(วิยเคำร�อข้$ายส�งคำมออนไลัน, คำวิร

เป%นอย$างไร

แผันการส��อสารด็(านการประชาส�มพั�นธ,ในภาวิะวิ�กฤติข้ององคำ,กรจัะแติกติ$างก�นติามประสบการณ,ด็(านการเก�ด็วิ�กฤติการณ,หร�อ

ไม$ อย$างไร

ปัระเภที่ของคื าถึามการวิจั�ย

1.การจั�ด็ประเภที่โจัที่ย,การวิ�จั�ยติามลั�กษณะข้(อม0ลัที่"�คำาด็หวิ�ง

1.2 โจัที่ย,เก"�ยวิก�บคื,ณคื&า (Questions of Values)

ม#$งเน(นการคำ(นหาคำ�าติอบผั$านที่างอ�ติวิ�ส�ย(Subjective) ข้องบ#คำคำลั โด็ยให(บ#คำคำลัน�าเสนอม#ม

มองข้องติน หร�อประเม�น หร�อติ�ด็ส�นเก"�ยวิก�บคำวิาม ถ0กติ(อง คำวิามเหมาะสม ข้องปรากฏการณ,หน��ง ๆ

ติย : ม�คำคำ#เที่ศก,ไที่ยม"คำวิามคำ�ด็เห�นอย$างไรติ$อศ�กยภาพัข้องน�กที่$องเที่"�ยวิชาวิอ�หร$านอย$างไร

ปัระเภที่ของปั�ญหาการวิจั�ย

1.การจั�ด็ประเภที่โจัที่ย,การวิ�จั�ยติามแนวิที่างในการน าเสนอข�อม(ล

2.1 โจัที่ย,ในเช�งบ้รรยายม#$งเน(นการ คำ(นหาคำ�าติอบ เพั��อบอกเลั$า หร�อพัรรณนา

เก"�ยวิก�บติ�วิแปรด็(านที่$องเที่"�ยวิ เพั��อที่�าคำวิามเข้(าใจัเก"�ยวิก�บติ�วิแปรด็�งกลั$าวิอย$างลั�กซึ่�)งติย: ป�ญหาแลัะคำวิามติ(องการข้องน�กที่$องเที่"�ยวิชาวิติ$างชาติ�ภายหลั�งเหติ#การณ,การจัราจัรที่างการเม�องเป%นอย$างไร

ปัระเภที่ของปั�ญหาการวิจั�ย

1.การจั�ด็ประเภที่โจัที่ย,การวิ�จั�ยติามแนวิที่างในการน�าเสนอข้(อม0ลั

2.2 โจัที่ย,ในเช�งการที่ านายม#$งเน(น การคำ(นหาคำ�าติอบ เพั��ออธ�บายองคำ,ประกอบ

แวิด็ลั(อมติ$าง ๆ ที่"�ม"อ�ที่ธ�พัลัติ$อติ�วิแปร ติลัอด็จันการ คำ(นหาคำวิามส�มพั�นธ,ระหวิ$างติ�วิแปร แลัะองคำ,ประกอบ

อ��น ๆ ติย : สถานภาพัที่างเศรษฐก�จัแลัะส�งคำมที่"�แติกติ$าง ก�น ม"ผัลัติ$อพัฤติ�กรรมการซึ่�)อส�นคำ(าแลัะบร�การ

ที่างการที่$องเที่"�ยวิหร�อไม$

ปัระเภที่ของปั�ญหาการวิจั�ย

1.การจั�ด็ประเภที่โจัที่ย,การวิ�จั�ยติามแนวิที่างในการติ�)งคำ�าถาม

3.1 โจัที่ย,การวิ�จั�ยในร0ปข้องคำ�าถามปัลายเปั.ด็ (open-end question)

เป%นโจัที่ย,ที่"�ผั0(วิ�จั�ยติ�)งข้�)นโด็ยไม$คำาด็เด็าที่�ศที่างข้องคำ�า ติอบไวิ(ลั$วิงหน(า โด็ยคำ�าถามที่"�น�ยมติ�)งอาจัปรากฏอย0$ใน

ร0ปข้องคำ�าถาม 5 Ws + 1H แลัะไม$ม"การระบ#คำ�าติอบให( เลั�อก แติ$เป=ด็กวิ(างส�าหร�บผั0(ให(ข้(อม0ลัในการติอบ

คำ�าถาม

ติ�วิอย&างของปั�ญหาการวิจั�ยในร(ปัของคื าถึามปัลายเปั.ด็

การประย#กติ,ใช(หลั�กคำ�าสอนข้องพัระพั#ที่ธเจั(าส$งผัลัอย$างไรติ$อการปฏ�บ�ติ�หน(าที่"�ข้องม�คำคำ#เที่ศก,

กระบวินการร�บร0 (คำ#ณคำ$า ข้อง แบรนด็,เม�องใน

ฐานะแหลั$งที่$องเที่"�ยวิ ส$งผัลัอย$างไรติ$อภาพัลั�กษณ,ข้องกร#งเที่พั

ปัระเภที่ของปั�ญหาการวิจั�ย

1.การจั�ด็ประเภที่โจัที่ย,การวิ�จั�ยติามแนวิที่างในการติ�)งคำ�าถาม

3.2 โจัที่ย,การวิ�จั�ยในร0ปข้องคำ�าถาม ปัลายปั.ด็ (closed -end question)

เป%นโจัที่ย,ที่"�ผั0(วิ�จั�ยติ�)งข้�)นโด็ย คำาด็เด็าคำ�าติอบไวิ(ลั$วิงหน(า “ม�กเป%นคำ�าติอบที่"�ติ(องการเพั"ยงแคำ$การย�นย�นวิ$า ใช$หร�อ

” ไม$ (yes-no) เป%นประการส�าคำ�ญที่�)งน")ผั0(วิ�จั�ยกลั(าคำาด็เด็าคำ�าติอบเพัราะ ผั0(วิ�จั�ยได็(ด็�าเน�นการศ�กษาคำ(นคำวิ(าอย$างลัะเอ"ยด็ จันกลั(าที่�านายที่�ศที่างข้องคำ�าติอบ

ติย : การม"ส$วินร$วิมข้องคำนในช#มชนม"ผัลัติ$อการพั�ฒนาแหลั$งที่$องเที่"�ยวิหร�อไม$

“Well-crafted questions guide the systematic planning of research. Formulating your questions precisely enables you to design a study with a good chance of answering them”

(Light, Singer, & Willertt, 1990, p. 13)

สมมติฐานการวิจั�ยResearch Hypothesis

• การติ�+งสมมติฐานการวิจั�ย เป%น การคำ(นคำวิ(า เอกสารติ$าง ๆ ที่"�เก"�ยวิข้(อง เพั��อก�าหนด็เป%นคำ�า

ติอบที่"�คำาด็หวิ�งข้องป�ญหาการวิ�จั�ย• สมมติฐานการวิจั�ย คำ�อ ข้(อส�นน�ษฐานข้องผั0(วิ�จั�ย

เก"�ยวิก�บคำ�าติอบ ที่"�จัะได็(ร�บจัากการด็�าเน�นการวิ�จั�ย(คำ�าติอบส�าหร�บคำ�าถามการวิ�จั�ย)

องคื$ปัระกอบ้ของสมมติฐานการวิจั�ย

สมมติ�ฐานการวิ�จั�ย ม�กประกอบไปด็(วิยองคำ,ประกอบ ส�าคำ�ญ 3 ประการ

1.ติ�วิแปร• กลั#$มบ#คำคำ#ลัเป-าหมายในการวิ�จั�ย• บร�บที่การวิ�จั�ย

องคำ,ประกอบที่�)งสามน") สามารถส�งเกติเห�นได็(จัากข้(อคำวิามซึ่��งน�กวิ�จั�ยได็(เร"ยบเร"ยงออกมาในร0ปข้องประโยคำเช�ง บ้อกเล&า ที่"�สะที่(อนคำวิามส�มพั�นธ,ข้อง

ติ�วิแปรในเช�งเหติ#แลัะผัลั หร�อในเช�งคำวิามส�มพั�นธ,ซึ่��งก�นแลัะก�น

องคื$ปัระกอบ้ที่��ส าคื�ญของสมมติฐาน การวิจั�ย (ติ�วิอย&าง)

การส$งเสร�มการติลัาด็ที่างด็(านราคำา ม"คำวิามส�มพั�นธ, ก�บ การติ�ด็ส�นใจัในการเลั�อกที่"�พั�กข้องน�กที่$องเที่"�ยวิ

1.ติ�วิแปร คำ�อการส$งเสร�มการติลัาด็ที่างด็(านราคำา แลัะการติ�ด็ส�นใจัในการเลั�อกที่"�พั�ก

2.กลั#$มบ#คำคำ#ลัเป-าหมายในการวิ�จั�ย คำ�อน�กที่$องเที่"�ยวิ3.บร�บที่การวิ�จั�ย คำ�อ ศ�กษาเฉพัาะคำวิามส�มพั�นธ,

ระหวิ$าง การส$งเสร�มการติลัาด็ที่างด็(านราคำา แลัะการติ�ด็ส�นใจัในการเลั�อกที่"�พั�กเที่$าน�)น

องคื$ปัระกอบ้ที่��ส าคื�ญของสมมติฐาน การวิจั�ย (ติ�วิอย&าง)

คำวิามพั�งพัอใจัข้องน�กที่$องเที่"�ยวิ ม"คำวิามส�มพั�นธ,ก�บการเด็�นที่างกลั�บมาที่$องเที่"�ยวิภ0กระด็�งอ"กคำร�)ง

1.ติ�วิแปร …………………คำ�อ ..2.กลั#$มบ#คำคำ#ลัเป-าหมายในการวิ�จั�ย คำ�อ

……………3.บร�บที่การวิ�จั�ย ………………คำ�อ ..

แหล&งที่��มาของสมมติฐานการวิจั�ย

1. ที่ฤษฎี" หร�อแนวิคำ�ด็ที่"�ได็(ร�บการยอมร�บอย$างกวิ(างข้วิาง

2. ข้(อสร#ป หร�อ คำ�าติอบ หร�อผัลังานวิ�จั�ย3. ประสบการณ,ติ$าง ๆ ข้องผั0(วิ�จั�ย หร�อ ข้(อส�งเกติข้องผั0(วิ�จั�ย

หล�กการในการเข�ยนสมมติฐาน

1. ม�กพับในรายงานการวิ�จั�ยใน 2 ลั�กษณะ1.1 อย0$ในบที่ที่"� 1: ผั0(วิ�จั�ยติ(องการให(ผั0(อ$านที่ราบถ�งที่�ศที่างที่"�ติ(องการพั�ส0จัน,ด็(วิยข้(อม0ลัเช�งประจั�กษ,1.2 อย0$ในบที่ที่"� 2 :ผั0(วิ�จั�ยติ(องการแสด็งให(เห�นถ�งผัลัการคำ(นคำวิ(าเอกสารจันเป%นที่"�มาข้องการคำาด็คำะเนคำ�าติอบข้องการวิ�จั�ย2. สมมติ�ฐานการวิ�จั�ยติ�องสอด็คืล�องก�บ้วิ�ติถึ,ปัระสงคื$ของการวิจั�ย3. เข้"ยนในลั�กษณะประโยคำบอกเลั$า

ปัระเภที่และล�กษณะของสมมติฐานที่างสถึติ

1. สมมติ�ฐานศ0นย, (Null Hypothesis)

2. สมมติ�ฐานส�ารอง (Alternative Hypothesis)

• สมมติ�ฐานศ0นย, (Null Hypothesis : Ho) เป%นข้(อคำวิาม หร�อสมการที่"�ร0ปแบบคำวิามเป%นกลัาง หร�อด็(วิย

ข้(อคำวิามที่"�อย0$ในร0ปแบบปฏ�เสธ “ม�กใช(คำ�าวิ$า ไม&แติกติ&างก�น” “เที่&าก�น” หร�อ

“ เที่&าก�บ้ 0”Ho: 1 = 2 or 1 2 = 0

คำ$าเฉลั"�ยข้องประชากร 2 กลั#$มเที่$าก�น

ปัระเภที่และล�กษณะของสมมติฐานที่างสถึติ

1. สมมติ�ฐานส�ารอง (Alternative Hypothesis : H1) เป%น “ข้(อคำวิามหร�อสมการเช�งยอมร�บที่"�ระบ#วิ$า แติก

ติ&างก�น” “ไม&เที่&าก�น” “หร�อ ไม&เที่&าก�บ้ 0” เป%นที่างเลั�อกข้องโอกาสที่"�เก�ด็ข้�)น หากปฏ�เสธ

สมมติ�ฐานศ0นย, ก�จัะยอมร�บ สมมติ�ฐานเลั�อก

สมมติ�ฐานเลั�อก ม"วิ�ธ"การติ�)ง 2 แบบคำ�อ2.1 แบบไม$ม"ที่�ศที่าง H1: 1 ≠ 2 or 1 2 ≠ 0

2.2 แบบม"ที่�ศที่าง H1: 2 > 1 or 1 2 ≠ 0 or

1 2 > 0

ปัระเภที่และล�กษณะของสมมติฐานที่างการวิจั�ย

1. สมมติ�ฐานเช�งเปร"ยบเที่"ยบ (comparative hypothesis) ม#$งเปัร�ยบ้เที่�ยบ้คืวิามแติกติ&าง ในด็(านติ$าง ๆ ข้อง

กลั#$มคำน ติ�)งแติ$ 2 คำนข้�)นไป หร�อแนวิคำ�ด็ติ�)งแติ$ 2 แนวิคำ�ด็ข้�)นไป

“พัฤติ�กรรมการที่$องเที่"�ยวิเช�งอน#ร�กษ,ข้องวิ�ยร,&นชายม"คำวิามแติกติ$างจัากวิ�ยร,&นหญง”

ปัระเภที่และล�กษณะของสมมติฐานที่างการวิจั�ย

1. สมมติ�ฐานเช�งคำวิามส�มพั�นธ, (relational hypothesis)

ม#$งเน(นการศ�กษาสภาพคืวิามส�มพ�นธ์$ ข้องติ�วิแปร ติ�)งแติ$ 2 ติ�วิแปรข้�)นไป

“ การส$งเสร�มการติลัาด็ที่างด็(านราคำา ม"คำวิามส�มพั�นธ,ก�บการติ�ด็ส�นใจัในการเลั�อก

”ที่"�พั�กข้องน�กที่$องเที่"�ยวิ

ข�อแติกติ&างระหวิ&าง สมมติฐานการวิจั�ย และ

สมมติฐานที่างสถึติ

สมมติฐานการวิจั�ย เข�ยนข!+นภายใติ�หล�กการที่��วิ&า“ ติ�วิแปัรติ&าง ๆ ม�คืวิามส�มพ�นธ์$ก�น

สมมติฐานที่างสถึติเข�ยนข!+นภายใติ�หล�กการที่��ติรง ก�นข�ามวิ&า

“ ติ�วิแปัรติ&าง ๆ ม�ไม&คืวิามส�มพ�นธ์$ก�น

Things to remember while working on research hypothesis

As you gather more information and make more progress on your project, the research hypothesis will become more detailed and

refined.

This means that your original research hypothesis might

change while you are designing your project, but that’s ok.

Things to remember while working on research hypothesis

However, once you begin your project, it is not ethical to change the

hypothesis.

ติ�วิแปร ติ�วิแปัร (Variable) มาจัากคื าวิ&า vary = ผั�นแปัร

เปัล��ยนแปัลง able = สามารถึ Variable = ส�งที่��สามารถึแปัรคื&าได็�ติ�วิแปัร คื�อ คื,ณล�กษณะหร�อสภาวิะการณ$ ติ&างๆซึ่!�งแบ้&งออกเปั6นพวิกหร�อเปั6นระด็�บ้หร�อม�คื&าได็�หลายคื&า

ติ�วิแปัร คื�อ ส�งที่��โด็ยสภาพที่��วิไปัแล�วิสามารถึ แปัรคื&าได็� คื&าที่��แปัรออกมาของติ�วิแปัรย&อมม�

คื,ณสมบ้�ติแติกติ&างก�นออกไปั ติ�วิแปัร คื�อ ส�งที่��ผั(�วิจั�ยสนใจัที่��จัะวิ�ด็เพ��อให�ได็�

ข�อม(ลออกมาในร(ปัใด็ร(ปัหน!�ง

ติ�วิแปร โด็ยสร,ปัแล�วิ

ติ�วิแปัร หมายถึ!ง คื,ณล�กษณะของส�งติ&างๆ ที่�� สามารถึแปัรเปัล��ยนคื&าได็� เช&น

เพศ แปัรคื&าได็�เปั6น เพศชายและเพศหญงระด็�บ้การศ!กษา อาจัแบ้&งเปั6นระด็�บ้ติ �ากวิ&าปัรญญา

ติร� และระด็�บ้ปัรญญา ติร�ข!+นไปั เปั6นติ�น

การจั�าแนกประเภที่ติ�วิแปรติ�วิแปัรติ�น (ติ�วิแปรอ�สระ) เป%นติ�วิแปรเหติ#ที่"�ที่�าให(เก�ด็ผัลั

ติ$างๆ หร�อ ติ�วิแปรที่"�เราติ(องการศ�กษา หร�อ ที่ด็ลัองด็0วิ$าเป%นสาเหติ#ที่"�ที่�าให(เก�ด็ผัลัติามที่"�เราส�งเกติหร�อไม$

ติ�วิแปัรติาม เป%นติ�วิแปรที่"�เก�ด็มาจัากติ�วิแปรติ(น เม��อ ติ�วิแปรติ(นเปลั"�ยนแปลัง ติ�วิแปรติามก�จัะเปลั"�ยนแปลัง

ติามไปด็(วิย ติ�วิแปรอ��นที่"�ม�ได็(ม#$งศ�กษาโด็ยติรง แติ$เป%นติ�วิแปรที่"�อาจัม"

ผัลักระที่บติ$อติ�วิแปรติามติ�วิแปัรคืวิบ้คื,ม เป%นติ�วิแปรที่"�นอกเหน�อจัากติ�วิแปรอ�สระ

แลัะเป%นติ�วิแปรภายนอกที่"�เราสนใจัน�ามาศ�กษา แติ$เราได็(จั�ด็การคำวิบคำ#มม�ให(ม"ผัลัติ$อติ�วิแปรติาม

คำวิามส�มพั�นธ,ระหวิ$างติ�วิแปรอ�สระ ติ�วิแปรติาม

แลัะติ�วิแปรคำวิบคำ#ม

ติ�วิแปรอ�สระ ติ�วิแปรติาม

ติ�วิแปรคำวิบคำ#ม

ป�จัจั�ยที่"�ส$งผัลัติ$อผัลัการเร"ยนข้องน�ส�ติม. นเรศวิร ศ#นยฯกที่ม.

ติ�วิแปรอ�สระ ติ�วิแปรติาม• เพัศ• อาย# ผัลัการเร"ยน GPA • การเข้(าห(องเร"ยน

ติ�วิแปรคำวิบคำ#ม• สภาพัร$างกาย• การรวิมกลั#$มติ�วิก�บเพั��อน