L09 Building Connection · coped beam web , cope beam flexural strength c.) Angles – bolt bearing...

19
Lecture9 Building Connection Topics Introduction Simple Connection Moment Connection Beam-Splices Four-Bolt End Plate Connection Introduction รอยต่อเป็นส่วนหนึ ่งของโครงสร้างที ่มีความสําคัญอย่างยิ่ง จะพบเห็นว่าบ่อยครั ้งว่ารอยต่ออยู ตําแหน่งที ่มีค่าโมเมนต์และแรงเฉือนสูงสุด ดังนั ้น รอยต่อจําเป็นต้องมีคุณสมบัติที ่สามารถ ถ่ายแรงจากชิ ้นส่วนหนึ ่งไปยังอีกชิ ้นส่วนหนึ ่งโดยปลอดภัย ซึ ่งในการออกแบบรอยต่อจะต้อง คํานึงถึงหลักการต่างๆดังนี a.) ต้องมีกําลังรับแรงได้เพียงพอ b.) ต้องมีสติฟเนสมากพอที ่จะคงตําแหน่งสัมพัทธ์ของชิ ้นส่วนต่างๆของโครงสร้าง c.) ต้องมีความประหยัดและง่ายต่อการประกอบสําหรับก่อสร้าง รอยต่อต่างๆที ่ใช้ในโครงสร้างทั ่วๆไป รอยต่อที ่มุม (Corner connections) รอยต่อระหว่าง คาน-เสา (Beam-to-Column Connections) รอยต่อระหว่างคาน-คาน (Beam to Beam Connections) แผ่นต่อ (Splice) ข้อยึดเสา (Column Anchorage) และ อื ่นๆ Introduction Moment Rotation ยึดแน่น Fully Restrained (FR) ธรรมดา Simple Shear Connection กึ่งยึดแน ่น Partially Restrained กราฟนั ้นได้แสดงความสัมพันธ์ระหว่างโมเมนต์กับการหมุนที ่รอยต่อของรอยต่อคาน-เสา 3 ประเภทที ่นิยมใช้ในการออกแบบได้แกรอยต่อชนิดยึดแน่น กึ ่งยึดแน่น และ ธรรมดา อย่างไรก็ตาม มาตรฐาน AISC ได้แบ่งประเภทของรอยต่อไว้ 2 ประเภท ได้แก่ ประเภท ยึดแน่น (Fully Restrained , FR) และ ประเภทกึ ่งยึดแน่น (Partially Restrained , PR) ซึ ่ง รวมรอยต่อชนิดธรรมดาไว้ในประเภทนี ้ด้วย Introduction

Transcript of L09 Building Connection · coped beam web , cope beam flexural strength c.) Angles – bolt bearing...

Page 1: L09 Building Connection · coped beam web , cope beam flexural strength c.) Angles – bolt bearing on angle , shear rupture , shear yielding , block shear d.) Supporting member –

Lecture9 Building Connection

Topics

• Introduction

• Simple Connection

• Moment Connection

• Beam-Splices

• Four-Bolt End Plate Connection

Introductionรอยต่อเป็นสว่นหนึ่งของโครงสรา้งทีม่คีวามสาํคญัอยา่งยิง่ จะพบเหน็วา่บอ่ยครัง้วา่รอยต่ออยู่ตําแหน่งทีม่คี่าโมเมนต์และแรงเฉือนสูงสุด ดงันัน้ รอยต่อจําเป็นต้องมคีุณสมบตัทิีส่ามารถถ่ายแรงจากชิน้สว่นหนึ่งไปยงัอกีชิน้สว่นหนึ่งโดยปลอดภยั ซึง่ในการออกแบบรอยต่อจะตอ้งคาํนึงถงึหลกัการต่างๆดงันี้

a.) ตอ้งมกีาํลงัรบัแรงไดเ้พยีงพอb.) ตอ้งมสีตฟิเนสมากพอทีจ่ะคงตาํแหน่งสมัพทัธข์องชิน้สว่นต่างๆของโครงสรา้งc.) ตอ้งมคีวามประหยดัและงา่ยต่อการประกอบสาํหรบัก่อสรา้ง

รอยต่อต่างๆทีใ่ชใ้นโครงสรา้งทัว่ๆไป รอยต่อทีม่มุ (Corner connections) รอยต่อระหวา่งคาน-เสา (Beam-to-Column Connections) รอยต่อระหวา่งคาน-คาน (Beam to Beam Connections) แผน่ต่อ (Splice) ขอ้ยดึเสา (Column Anchorage) และ อืน่ๆ

Introduction

Mom

ent

Rotation

ยึดแน่น Fully Restrained (FR)

ธรรมดา Simple Shear Connection

กึ่งยึดแน่น Partially Restrained

กราฟนัน้ไดแ้สดงความสมัพนัธร์ะหว่างโมเมนต์กบัการหมุนทีร่อยต่อของรอยต่อคาน-เสา 3 ประเภทที่นิยมใช้ในการออกแบบได้แก่ รอยต่อชนิดยึดแน่น กึ่งยึดแน่น และ ธรรมดา อย่างไรกต็าม มาตรฐาน AISC ไดแ้บ่งประเภทของรอยต่อไว ้2 ประเภท ไดแ้ก่ ประเภทยดึแน่น (Fully Restrained , FR) และ ประเภทกึง่ยดึแน่น (Partially Restrained , PR) ซึง่รวมรอยต่อชนิดธรรมดาไวใ้นประเภทนี้ดว้ย

Introduction

Page 2: L09 Building Connection · coped beam web , cope beam flexural strength c.) Angles – bolt bearing on angle , shear rupture , shear yielding , block shear d.) Supporting member –

Introduction8LwM2

max Flexible connection

No restraint, R = 0Full rotation

Simple Beam

Full restraint, R = 100%No rotation

Fully Rigid

24Lw 2

12Lw 2

12Lw 2

Introduction

Simple Connections Connections ประเภทนี้ มกัถูกเรยีกวา่ Shear Connections เพราะสามารถส่งถ่ายแต่แรงเฉือนเท่านัน้ แต่ไม่สามารถส่งถ่ายโมเมนต์ ใน Flange connection จะสง่ถ่ายโมเมนต์เนื่องจากแรงคู่ควบจากปีกรบัแรงอดัและปีกรบัแรงดงึ ดงันัน้ ใน Shear Connections จะไมก่ารยดึที่บริเวณปีกและจะออกแบบให้มีมุมหมนุทีร่อยต่อบรเิวณ Web

Moment Connections รอยต่อประเภทนี้จะสามารถถ่ายแรงเฉือนและโมเมนตไ์ด ้โดยแรงเฉือนจะถ่ายผา่นที่รอยต่อบริเวณ Web และ โมเมนตจ์ะถ่ายแรงผา่นปีกของชิ้นส่วน เหมือนเป็น Rigid Connections

Simple Connections

Page 3: L09 Building Connection · coped beam web , cope beam flexural strength c.) Angles – bolt bearing on angle , shear rupture , shear yielding , block shear d.) Supporting member –

Simple Connections

Simple Shear Connection

WF250x250x9x14 (72.4kg/m.)

Shear ConnectionDouble Angle Connections (bolted – bolted)

a.) สามารถใชร้ว่มกบั Moment Connection ได้ b.) ประกอบโดยการตดิตัง้เหลก็ฉากกบัคาน c.) สามารถรบัแรงปฏกิริยิาทีจ่ดุรองรบัไดด้ี

รอยต่อแบบ Double Angle Connections (bolted- bolted) ตอ้งมกีารตรวจสอบชิน้สว่นต่อไปนี้ a.) bolt – shear ruptureb.) beam – bolt bearing on beam web , shear yielding of the web , block shear on the coped beam web , cope beam flexural strengthc.) Angles – bolt bearing on angle , shear rupture , shear yielding , block sheard.) Supporting member – bolt bearing

Simple Connections

Simple Connections

Shear ConnectionDouble Angle Connections (bolted – welded)a.)bolt – shear rupture b.)Weld- rupture c.)beam – shear yielding of the web , block shear on the cope beam web , cope beam flexural strength , web strength at the weld d.) Angles-bolt bearing on angle , shear rupture , shear yield , block shear

Shear ConnectionDouble Angle Connections (welded – welded)

Simple Connections

Page 4: L09 Building Connection · coped beam web , cope beam flexural strength c.) Angles – bolt bearing on angle , shear rupture , shear yielding , block shear d.) Supporting member –

Example 1

จงออกแบบรอยต่อระหวา่งคาน-เสา ดว้ยการเชือ่มแบบพอก ลวดเชื่อมชนิด E70 เหลก็ชนิด Fy = 2,450 ksc. และ Fu = 4,000 ksc. ภายใตแ้รงเฉือนใชง้านเนื่องจากนํ้าหนกับรรทุกคงที ่5 ตนั และ นํ้าหนกับรรทุกจร 10 ตนั รอยต่อประกอบดว้ยเหลก็ฉากเชือ่มกบัเอวคานทัง้สองขา้ง ใหอ้อกแบบรอยต่อนี้ดว้ยวธิ ีASD และ LRFD

W400x66 (kg/m)

W250x66 (kg/m)

12

y

x

X(c.g.)

6

756

P

Example 1 cont’d

ASD ; หาขนาดและความหนาของเหลก็ฉากสมมตุใิชค้วามยาวเหลก็ฉาก 225 มม. (Vn / = 0.6FyAw / 1.67) = 0.6x2450x(2x22.5xt) / (1.67x1000) = 39.6t 15 ton ดงันัน้ t 15/39.6 = 0.38 ซม. ใช ้ 6 มม.ดงันัน้ใชเ้หลก็ฉาก 2L 75x75x6x225 mm.หาขนาดขาเชือ่มทีเ่อวคาน จะได้X(c.g.) = (75-12)2 / (2x63 + 225) =11.30 มม. แรง P กระทาํผา่นจุดศนูยถ์่วงของรอยเชือ่มนี้ ดงันัน้จะไดก้าํลงัรบัแรงเฉือนทีต่อ้งการในรอยเชือ่มนี้ Rv = P / L = 15x1000 / [2x((2x6.3) + 22.5))] = 213.67 กก./ซม.กาํลงัแรงเฉือนทีร่อยเชือ่มสามารถรบัไดม้คีา่ = (0.6/2)x4900x0.707x0.6 = 623.57 > 214 ใชไ้ด้ดงันัน้รอยเชือ่มทีเ่อวใชล้วดเชือ่ม E70 ขาเชือ่มขนาด 6 มม.

Example 1 cont’d

3.) หาขนาดขาเชือ่มทีป่ีกเสา โดยเลอืกใชข้นาดขาเชือ่ม 6 มม. มคีวามยาวตลอดความสงู 225 มม. และความยาวออ้มปลาย (end return) = 2x6 = 12 มม. รอยเชือ่มนี้ตอ้งออกแบบภายใตแ้รงใชง้านตอ้งการ 15 ตนั และ โมเมนต ์= 15x(7.5 – 1.13) = 95.55 ตนั-ซม.

L75x75x6 mm. L75x75x6 mm.225 mm.

12 mm.

Example 1 cont’d

S = 2 ( 4x1.2x22.5 + 22.52)/6 = 204.75ซม2.กาํลงัแรงเฉือนในรอยเชือ่ม Rv = P / L = 15x1000 / (2x[1.2+22.5]) = 316.45 กก./ซม.กาํลงัรบัแรงดงึในรอยเชือ่ม Rt = M / S = 95.55 x 1000 / 204.75 = 467 กก./ซม.R = (316.452+4672)0.5 = 564 < 623.57 กก./ซม.รอยเชือ่มทีป่ีกเสาใชล้วด E70 ขาเชือ่มขนาด 6 มม.

Page 5: L09 Building Connection · coped beam web , cope beam flexural strength c.) Angles – bolt bearing on angle , shear rupture , shear yielding , block shear d.) Supporting member –

Example 1 cont’d

LRFD ; หาขนาดและความหนาของเหลก็ฉากสมมตุใิชค้วามยาวเหลก็ฉาก 225 มม. (Vn / = 0.9x0.6FyAw ) = 0.9x0.6x2450x(2x22.5xt) / (1000) = 59.535t (1.2x5)+(1.6x10) = 22 ton ดงันัน้ t 22/59.535 = 0.369 ซม. ใช ้ 6 มม.ดงันัน้ใชเ้หลก็ฉาก 2L 75x75x6x225 mm.หาขนาดขาเชือ่มทีเ่อวคาน จะได้X(c.g.) = (75-12)2 / (2x63 + 225) =11.30 มม. แรง Pu กระทาํผา่นจดุศนูยถ์่วงของรอยเชือ่มนี้ ดงันัน้จะไดก้าํลงัรบัแรงเฉือนทีต่อ้งการในรอยเชือ่มนี้ Rv = Pu / L = 22x1000 / [2x((2x6.3) + 22.5))] = 313.39 กก./ซม.กาํลงัแรงเฉือนทีร่อยเชื่อมสามารถรบัไดม้คีา่ = (0.75)x0.6x4900x0.707x0.6 = 935 >313.39 ใชไ้ด้ดงันัน้รอยเชือ่มทีเ่อวใชล้วดเชือ่ม E70 ขาเชือ่มขนาด 6 มม.

Example 1 cont’d

หาขนาดขาเชือ่มทีป่ีกเสา โดยเลอืกใชข้นาดขาเชือ่ม 6 มม. มคีวามยาวตลอดความสงู 225 มม. และความยาวออ้มปลาย (end return) = 2x6 = 12 มม. รอยเชือ่มนี้ตอ้งออกแบบภายใต้แรงใชง้านตอ้งการ 22 ตนั และ โมเมนต ์= 22x(7.5 – 1.13) = 140.14 ตนั-ซม.

L75x75x6 mm. L75x75x6 mm.225 mm.

12 mm.

Example 1 cont’d

S = 2 ( 4x1.2x22.5 + 22.52)/6 = 204.75ซม2.กาํลงัแรงเฉือนในรอยเชือ่ม Ruv = Pu / L = 22x1000 / (2x[1.2+22.5]) = 464.13 กก./ซม.กาํลงัรบัแรงดงึในรอยเชือ่ม Rut = Mu / S = 140.14 x 1000 / 204.75 = 684.44 กก./ซม.R = (464.132+684.442)0.5 = 826.97 < 935 กก./ซม.รอยเชือ่มทีป่ีกเสาใชล้วด E70 ขาเชือ่มขนาด 6 มม.

Moment ConnectionsMoment Connection

a.)Flange Plate Boltb.)Flange Plate Weld

Page 6: L09 Building Connection · coped beam web , cope beam flexural strength c.) Angles – bolt bearing on angle , shear rupture , shear yielding , block shear d.) Supporting member –

Moment Connections

รอยต่อคาน-เสาในโครงชนิดยดึแน่น

รอยต่อคาน-เสาชนิดยดึแน่นเป็นรอยต่อชนิดทีต่อ้งสามารถถ่ายโมเมนตแ์ละแรงเฉือนระหวา่งคาน-เสาได้อย่างปลอดภัย โดยที่ไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงของที่ข้อต่อหรือเกิดขึ้นเพียงเลก็น้อย โมเมนต์จากคานจะเปลีย่นเป็นแรงคู่ควบกระทําทีป่ีกซึง่ถ่ายผ่านต่อไปยงัเสา อนัมีผลทาํใหป้ีกและเอวของเสาอาจเกดิการวบิตัเินื่องจากการครากเฉพาะทีข่องเอว (local web yielding) การโก่งของเอว (web crippling) และการโก่งเดาะดา้นขา้ง (sidesway web buckling) ทีบ่รเิวณรบัแรงอดัจากปีกคาน รวมทัง้ปีกเสาอาจเกดิการดดัเฉพาะที ่(local flange yielding) ทีบ่รเิวณรบัแรงดงึจากปีกคาน ดงันัน้ในบางกรณีอาจจาํเป็นตอ้งใชแ้ผน่เหลก็เสรมิในแนวนอนในชว่งปีกเสาเพือ่ชว่ยรบัแรงอดัและแรงดงึจากปีกคานดงักลา่ว

Moment Connections

Moment Connections Moment Connections

Page 7: L09 Building Connection · coped beam web , cope beam flexural strength c.) Angles – bolt bearing on angle , shear rupture , shear yielding , block shear d.) Supporting member –

Moment Connections

จากผลการศึกษาและทดลองพบว่า การวิบตัิเนื่องจากการดดัเฉพาะที่ในปีกเสาภายใตแ้รงดึงไม่เกิดขึ้นถา้ l < 0.15bfc (l คือ ความยาวของแรงที่กระทาํบนปีกเสา ,ซม.) และเมื่อ l> 0.15bfc กาํลงัการเดาะเฉพาะที่ในปีกเสาภายใตแ้รงดึงจะเป็นไปตาม AISC Equation J10-1 ดงันั้นเมื่อกาํลงัแรงดึงที่ตอ้งการในปีกมีค่านอ้ยกวา่กาํลงัแรงดึงที่สามารถรับได ้จะตอ้งใชแ้ผน่เหลก็เสริมคู่

Moment Connections

Moment Connections Moment Connections

Page 8: L09 Building Connection · coped beam web , cope beam flexural strength c.) Angles – bolt bearing on angle , shear rupture , shear yielding , block shear d.) Supporting member –

Moment Connections Moment Connections

Moment Connections Moment Connections

Page 9: L09 Building Connection · coped beam web , cope beam flexural strength c.) Angles – bolt bearing on angle , shear rupture , shear yielding , block shear d.) Supporting member –

ใหอ้อกแบบรอยต่อคาน-เสาชนิดภายในภายใตแ้รงกระทําใชง้าน สมมุตแิรงเฉือนในเสาเป็นศนูย ์ใชเ้หลก็ Fy = 2,450 ksc. Fu = 4,000 ksc. ใหอ้อกแบบดว้ยวธิ ีASD และ LRFD และ สมมตุใิห ้Pr / Pc < 0.4 ใชล้วดเชือ่ม E70 เชือ่มแบบพอกดว้ยวธิ ีSMAW

Example 2

W200x100x5.5x8 (21.3kg/m) W200x100x5.5x8 (21.3kg/m)W1

75x175

x7.5x1

1 (40.

2kg/m

)r =

12 มม

. k = 2

3 มม.

M(DL)=1.0 ton-m.M(LL)=2.0 ton-m.

M(DL)=1.0 ton-m.M(LL)=0.0 ton-m.

ASD ; กาํลงัรบัแรงดดัทีต่อ้งการ = (1.0+2.0) – (1.0) = 2 ตนั-ม. กาํลงัรบัแรงอดัจากปีกคาน = 2.0x100/(20 – 0.8) = 10.41 ตนักาํลงัรบัแรงอดัทีร่บัไดข้องเอวเสา คอื L>d ; Rn / = (5x2.3 + 0.8)(2450x0.75)/(1.67x1000) = 13.5 ตนั > 10.41 ตนัไมต่อ้งใชแ้ผน่เหลก็เสรมินอนตรวจสอบการโก่งเดาะของเอวเสา (L > d/2)Rn / = [24x0.753 (2x106x2450)0.5]/[1.67x(17.5-(2x2.3))x1000] = 32.9 ตนั > 10.4 ตนัไมต่อ้งเสรมิแผน่เหลก็นอนตรวจสอบการดดัเฉพาะทีใ่นปีกเสาl = bfb = 100 มม. > 0.15 bfc = 26.25 มม.Rn / = 6.25x1.12x2450 / (1.67x1000) = 11.1 ตนั >10.4 ตนัตรวจสอบการบดิเนื่องจากแรงเฉือนทีเ่อวเสา Vn = 0.6x2450x17.5x0.75 / 1000 = 19.3 ตนัHa = 2x100 / (20-0.8) = 10.4 < 19.3/ 1.67 = 11.6 ดงันัน้ไมต่อ้งใชแ้ผน่เหลก็เสรมิทแยง

Example 2 cont’d

Example 2 cont’d

LRFD ; กาํลงัรบัแรงดดัทีต่อ้งการ = (1.2x1.0+1.6x2.0) – (1.2x1.0) = 3.2 ตนั-ม. กาํลงัรบัแรงอดัจากปีกคาน = 3.2x100/(20 – 0.8) = 16.7 ตนักาํลงัรบัแรงอดัทีร่บัไดข้องเอวเสา คอื L>d ; Rn = 1x(5x2.3 + 0.8)(2450x0.75)/(1000) = 22.6 ตนั > 16.7 ตนัไมต่อ้งใชแ้ผน่เหลก็เสรมินอนตรวจสอบการโก่งเดาะของเอวเสา (L > d/2)Rn = [0.9x24x0.753 (2x106x2450)0.5]/[(17.5-(2x2.3))x1000] = 49.4 ตนั > 16.7 ตนัไมต่อ้งเสรมิแผน่เหลก็นอนตรวจสอบการดดัเฉพาะทีใ่นปีกเสาl = bfb = 100 มม. > 0.15 bfc = 26.25 มม.Rn = 0.9x6.25x1.12x2450 / (1000) = 11.1 ตนั >10.4 ตนัตรวจสอบการบดิเนื่องจากแรงเฉือนทีเ่อวเสา Vn = 0.6x2450x17.5x0.75 / 1000 = 19.3 ตนัHa = 3.2x100 / (20 - 0.8) =16.7 < 19.3x0.9 = 17.4 ดงันัน้ไมต่อ้งใชแ้ผน่เหลก็เสรมิทแยง

Beam-Splicesแผน่ต่อคานมคีวามจาํเป็นตอ้งใช ้เนื่องมาจากหลายสาเหตุ เชน่ a.) เพือ่ความสะดวกในการประกอบทีห่น้างานb.) เมือ่มกีารเปลีย่นแปลงของขนาดหน้าตดัคานc.) เพือ่ความยาวกบัคานจากความยาวมาตรฐานของคานd.) เพือ่ชว่ยในการยกระดบัหลงัคานเผือ่การแอน่ตวัในภายหลงั เป็นตน้

โดยปกต ิแผ่นต่อคานควรมกีําลงัสามารถถ่ายแรงไดไ้มน่้อยกว่า รอ้ยละ 50 ของกําลงัของคานทีต่วัเลก็กวา่ และ สาํหรบัรอยชนิดการเชือ่มแบบรอ่ง มาตรฐาน AISC กาํหนดใหแ้ผน่ต่อคานตอ้งมกีาํลงัเทา่กบักาํลงัของคานตวัทีเ่ลก็กวา่

Page 10: L09 Building Connection · coped beam web , cope beam flexural strength c.) Angles – bolt bearing on angle , shear rupture , shear yielding , block shear d.) Supporting member –

Beam-Splices

V

M MV

M - M = M - Ve

VV

e e

M - M = M + Ve

V

M MV

Example 3 ใหอ้อกแบบแผน่ต่อคาน โดยคานมขีนาด WF 600x200x11x17 (106kg/m.) รอยต่อใชส้ลกัเกลยีว A325-X ชนิดแรงแบกทาน และ รูเจาะเป็นแบบมาตรฐาน คํานึงถงึผลการเปลีย่นแปลงรปูรา่งรอบๆรเูจาะ รเูจาะใชส้ลกัเกลยีวขนาดเสน้ผา่ศนูยก์ลาง 20 มม. ใชเ้หลก็Fy = 2,450 ksc. และ Fu = 4,000 ksc. ดว้ยวธิ ีLRFD ภายใตแ้รงกระทาํใชง้าน ดงัต่อไปนี้M(DL) = 6 ตนั-เมตร , M(LL) = 18 ตนั-เมตร , V(DL) = 10 ตนั และ V(LL) = 30 ตนัWF 600x200x11x17 , Zx = 2,863 ซม3.

Example 3 cont’d

20 มม. A325-X

2 PL 280x270x9 มม.

35

5 มม.

35 100

100 35

270

35 3@70

280

600

1

2

3

3@70 35 35

PL 560x170x20

PL 560x170x20

Example 3 cont’dการออกแบบดว้ยวธิ ีLRFD กาํลงัแรงทีป่รบัคา่ Mu = 1.2(6) + 1.6(18) = 36 ตนั-ม. , Vu = 1.2(10) + 1.6(30) = 60 ตนัตรวจสอบกาํลงัรบัแรงสงูสดุทีส่ามารถรบัไดข้องคาน WF 600x200x11x17 bMn = 0.90x2,450x2,863 / 1,000 = 63.13 ตนั-ม.bVn = 1.0x0.6x2450x60x1.1 /1000 = 97.02 ตนั (h/tw = 47.45 < 2.24(E/Fy)0.5 = 64.63จะพบวา่ Mu และ Vu มคีา่เทา่กบั (36/63.13)x100% = 57.02% และ (60 / 97.02)x100% = 61.84% ของกาํลงัรบัโมเมนตแ์ละแรงเฉือนตามลาํดบั ซึง่มคีา่มากกวา่ 50% จงึสามารถนําไปออกแบบต่อได้a.) ออกแบบแผน่ต่อทีW่eb (Vu = 60 ตนั) พืน้ทีห่น้าตดัของสลกัเกลยีว Ab = 3.14x22 / 4 = 3.14 ตร.ซม. กาํลงัรบัแรงเฉือนทีส่ามารถรบัได ้Rn = 0.75x(2 ระนาบ)x4140x3.14 / 1000 = 19.5 ตนั/ตวั จาํนวนสลกัเกลยีวเทา่กบั 60 / 19.5 = 3.076 ตวั ใช ้6 ตวั

Page 11: L09 Building Connection · coped beam web , cope beam flexural strength c.) Angles – bolt bearing on angle , shear rupture , shear yielding , block shear d.) Supporting member –

Example 3 cont’d Example 3 cont’dการออกแบบดว้ยวธิ ีLRFD b.) ตรวจสอบความหนาทีแ่ผน่ต่อb.1) Rupture vVn = 0.75x(0.6FuAnv) ดงันัน้จะได ้Anv = vVn/(0.75x0.60Fu)Anv คอื พืน้ทีห่น้าตดัสทุธขิองแผน่ต่อ (60 / (0.75x0.60x4) ) = 33.33 ตร.ซม.ใชแ้ผน่ต่อ 2 แผน่ จาํนวนสลกัเกลยีวขา้งละ 6 ตวัจะได้Anv = bt = 2x(27-3(2.0+0.2+0.2))t = 39.6t ตร.ซม.t 33.33 / 39.6 = 0.84 ซม. ใชค้วามหนา 9 มม.b.2) YieldingvRn = 1.0x(0.6FyAg) = 1.0x0.60x2,450x2x27x0.9 /1000 = 71.4 ตนั > (Vu = 60 ตนั) ใชไ้ด้

Example 3 cont’dการออกแบบดว้ยวธิ ีLRFD c.) ตรวจสอบการรบัแรงเฉือนของสลกัเกลยีว

Mu

Vu

e= 14-3.5-3.5=7 ซม.

Vu /6

Vu /6

Vu /6

Vu /6

Vu /6

Vu /6

Ruy

Ruy

Ruy

RuxRuyRux

RuxRux

3.5ซม. 3.5ซม.

10ซม.

10ซม.

Example 3 cont’dการออกแบบดว้ยวธิ ีLRFD c.) กาํลงัรบัแรงปรบัคา่ทีก่ระทาํต่อสลกัเกลยีวประกอบดว้ย Vu = 60 ตนั และ Mu =60x0.07= 4.20 ตนั-เมตร. ดงันัน้ กาํลงัแรงทีก่ระทาํบนสลกัเกลยีวตวัเกลยีวตวัไกลสดุd2 = 6(3.5)2 + 4(10)2 = 473.5 ตร.ซม.Rux = 4.20x100x10 / 473.5 = 8.87 ตนั Ruy = 4.20x100x3.5 / 473.5 = 3.10 ตนั Ruv = 60 / 6 = 10 ตนั Ru = ((10+3.10)2+8.872)0.5 = 15.82 ตนั/ตวั < 19.5ตนั/ตวั ใชไ้ด้

Page 12: L09 Building Connection · coped beam web , cope beam flexural strength c.) Angles – bolt bearing on angle , shear rupture , shear yielding , block shear d.) Supporting member –

Example 3 cont’dการออกแบบดว้ยวธิ ีLRFD d.) ตรวจสอบการรบัแรงแบกทานสมมุติให้กําลงัรบัแรงแบกทานของแผ่นต่อคิดจากแรงเฉือนที่กระทําในแนวดิ่ง สามารถ คาํนวณไดด้งันี้ d.1) กาํลงัแรงแบกทานระบุของสลกัเกลยีวแถวที1่ 1.2lctFu = 1.2(3.5-1.2)(2x0.9)(4000)/1000 = 19.872 ตนั/ตวั2.4Fudt = 2.4(4000)(2)(2x0.9)/1000 = 34.56 ตนั/ตวัดงันัน้สลกัเกลยีวแถวที ่1 ; Rn = 19.872 ตนั/ตวัd.2) กาํลงัแรงแบกทานระบุของสลกัเกลยีวแถวที2่และแถวที3่1.2lctFu = 1.2(10-2.4)(2x0.9)(4000)/1000 = 65.664 ตนั/ตวั

2.4Fudt = 2.4(4000)(2)(2x0.9)/1000 = 34.56 ตนั/ตวัดงันัน้สลกัเกลยีวแถวที ่2 และ แถวที่ 3 ; Rn = 34.56 ตนั/ตวั

Example 3 cont’dการออกแบบดว้ยวธิ ีLRFD รวมกาํลงัรบัแรงแบกทานระบุ เทา่กบั 2x19.872 + 4x34.56 = 177.98 ตนั/ตวัจะได ้ Rn = 0.75x177.98 = 133.48 ตนั/ตวั > Vu = 60 ตนั ใชไ้ด้d.3) กาํลงัรบัแรงแบกทานทีส่ามารถรบัไดข้อง Web beam กาํลงัของสลกัเกลยีวตวัไกลทีส่ดุจาก Rn = 1.2lctFu 2.4Fudt = 2.4x4000x2x1.1/1000 = 21.12 ตนั/ตวัจะได ้Rn = 0.75x21.12 = 15.84 ตนั/ตวั > 15.82 ตนั ใชไ้ด้ดงันัน้ใชแ้ผน่ต่อทีเ่อวขนาด 2 PL280x270x9 มม.

Example 3 cont’dการออกแบบดว้ยวธิ ีLRFD แผน่ต่อทีป่ีก สมมตุใิชแ้ผน่เหลก็ทีป่ีกหนา 20 มม. และใชส้ลกัเกลยีว 2 แถว

กาํลงัรบัแรงดงึปรบัคา่ไดใ้นแผน่ต่อทีF่lange หาไดจ้าก Tu = 36 / 0.62 = 58.06 ตนั

35 35 3@70

280

600

1

2

3

Mu =36 t-m.

P P

P P

600+20 = 620

Example 3 cont’dการออกแบบดว้ยวธิ ีLRFD e.) พจิารณากาํลงัรบัแรงดงึของรอยต่อTu AgFyจะได ้Ag 58.06x1000 / (0.9x2,450) = 26.33 ตร.ซม.Tu A\eFuจะได ้Ae 58.06x1000 / (0.75x4,000) = 19.35 ตร.ซม.เนื่องจากแรงดงึสง่ผา่นโดยตรงไปยงัทุกชิน้สว่นของหน้าตดัผา่นตวัยดึ U = 1.0 จะได ้An = Ae = 19.35ตร.ซม. ดงันัน้ใชแ้ผน่เหลก็ขนาด PL 560 x 170 x20 มม. จะได ้Ag = (17x2) = 34 ตร.ซม. > 26.33 ตร.ซม. ใชไ้ด้และ Ae = (17 – 2x2.4)x2 = 24.4 ตร.ซม. > 19.35 ใชไ้ด้สรปุ ใชแ้ผน่เหลก็ขนาด PL 560 x 170 x20 มม.

Page 13: L09 Building Connection · coped beam web , cope beam flexural strength c.) Angles – bolt bearing on angle , shear rupture , shear yielding , block shear d.) Supporting member –

การออกแบบดว้ยวธิ ีLRFD f.) หาจาํนวนสลกัเกลยีวกาํลงัรบัแรงเฉือนทีส่ามารถรบัได ้Rn = 0.75x(1 ระนาบ)x4140x3.14 / 1000 = 9.75 ตนั/ตวั จาํนวนสลกัเกลยีวเทา่กบั 58.1 / 9.75 = 5.95 ตวั ใช ้8 ตวัดงันัน้ใชส้ลกัเกลยีวเสน้ผา่ศนูยก์ลาง 20 มม. ชนิด A325-X 2 แถว แถวละ 4 ตวั

Example 3 cont’d Example 3 cont’d

352.5

353@70

35

35

100200

Block Shear at Flange BeamBlock Shear at Plate

g.)พจิารณาการวบิตัเินื่องจาก Block Shear at Flange Beam

Ant = 2x(5-(2.4x0.5))(1.7) = 12.92 ตร.ซม. , Anv = 2x(24.25-(3.5x2.4))x1.7 = 53.89 ตร.

ซม. Agv = (24.25x2x1.7) = 82.45ตร.ซม. และ Ubs = 1.0

0.6FuAnv = (0.6x4000x53.89/1000) = 129.336 ตนั

0.6FyAgv = (0.6x2450x82.45/1000) = 121.20 ตนั

UbsFuAnt = (1x4000x12.92/1000) = 51.68 ตนั

จะได ้Tn = 129.336+51.68 = 181.02 ตนั

LRFD : Tn = 0.75x181.02 = 135.76 ตนั > 58.06 ตนั

Example 3 cont’dh.)พจิารณาการวบิตัเินื่องจาก Block Shear at Plate

Ant = 2x(3.5-(2.4x0.5))(2.0) = 9.2 ตร.ซม. , Anv = 2x(24.25-(3.5x2.4))x2.0 = 63.40 ตร.

ซม. Agv = (24.25x2x2) = 97ตร.ซม. และ Ubs = 1.0

0.6FuAnv = (0.6x4000x63.40/1000) = 152.16 ตนั

0.6FyAgv = (0.6x2450x97/1000) = 142.59 ตนั

UbsFuAnt = (1x4000x9.2/1000) = 36.8 ตนั

จะได ้Tn = 142.59+36.8 = 179.39 ตนั

LRFD : Tn = 0.75x179.39 = 134.54 ตนั > 58.06 ตนั ใชไ้ด้

Example 3 cont’d

Page 14: L09 Building Connection · coped beam web , cope beam flexural strength c.) Angles – bolt bearing on angle , shear rupture , shear yielding , block shear d.) Supporting member –

การออกแบบดว้ยวธิ ีLRFD i.) ตรวจสอบการรบัแรงแบกทานi.1) กาํลงัแรงแบกทานระบุของสลกัเกลยีวแถวปลาย1.2lctFu = 1.2(3.5-1.2)(2)(4000)/1000 = 22.08 ตนั/ตวั2.4Fudt = 2.4(4000)(2)(2)/1000 = 38.40 ตนั/ตวัดงันัน้สลกัเกลยีวแถวที ่1 ; Rn = 22.08 ตนั/ตวัd.2) กาํลงัแรงแบกทานระบุของสลกัเกลยีวแถวภายใน1.2lctFu = 1.2(7-2.4)(2)(4000)/1000 = 44.16 ตนั/ตวั

2.4Fudt = 2.4(4000)(2)(2)/1000 = 38.40 ตนั/ตวัดงันัน้สลกัเกลยีวแถวภายใน ; Rn = 38.40 ตนั/ตวั

Example 3 cont’d Example 3 cont’dการออกแบบดว้ยวธิ ีLRFD รวมกาํลงัรบัแรงแบกทานระบุ เทา่กบั 2x22.08 + 6x38.40 = 274.56 ตนั/ตวัจะได ้ Rn = 0.75x274.56 = 205.92 ตนั/ตวั > Tu = 58.1 ตนั ใชไ้ด้สรปุ ดงันัน้ใชแ้ผน่ต่อที ่Flange ขนาด PL 560 x170x20 มม. (บนและลา่ง) สลกัเกลยีว 20 มม. A325-X จาํนวน 8 ตวั/ขา้ง และ แผน่ต่อที่ Web ขนาด PL 280 x 270 x9 มม. (ดา้นหน้าและดา้นหลงั) ) สลกัเกลยีว 20 มม. A325-X จาํนวน 6 ตวั/ขา้ง

Four Bolt End Plate Connections Four Bolt End Plate Connections

Page 15: L09 Building Connection · coped beam web , cope beam flexural strength c.) Angles – bolt bearing on angle , shear rupture , shear yielding , block shear d.) Supporting member –

Four Bolt End Plate Connections Four Bolt End Plate Connections

รอยต่อสามารถรับแรงดดัไดไ้ม่นอ้ยกวา่ 60% ของกาํลงัรับแรงดดัของคาน

Four Bolt End Plate Connections Four Bolt End Plate Connections

Page 16: L09 Building Connection · coped beam web , cope beam flexural strength c.) Angles – bolt bearing on angle , shear rupture , shear yielding , block shear d.) Supporting member –

Four Bolt End Plate Connections Four Bolt End Plate Connections

เพื่อไม่ใหเ้กิดแรงงดัขึ้นในแผน่เหลก็เสริมปลาย จึงกาํหนดใหโ้มเมนตท์ี่ใชอ้อกแบบของรอยต่อมีค่าเท่ากบัร้อยละ 90 ของโมเมนตท์ี่รับไดข้องแผน่เหลก็

Four Bolt End Plate Connections Four Bolt End Plate Connections

Page 17: L09 Building Connection · coped beam web , cope beam flexural strength c.) Angles – bolt bearing on angle , shear rupture , shear yielding , block shear d.) Supporting member –

Four Bolt End Plate Connections Four Bolt End Plate Connections

Four Bolt End Plate Connections Example 4ใหอ้อกแบบรอยต่อชนิดแผ่นเหลก็เสรมิปลายมสีลกัเกลยีว 4 ตวั ภายใตโ้มเมนต์ใชง้านเนื่องจากนํ้าหนกับรรทุกคงที ่5 ตนั-ม. นํ้าหนกับรรทุกจร 17 ตนั-ม. และแรงเฉือนใชง้านเนื่องจากนํ้านหนกับรรทุกคงที ่3 ตนั นํ้าหนกับรรทุกจร 9 ตนั ดว้ยวธิ ีASD คานขนาด WF 600x200x11x17 (106kg/m.) และเสาขนาด 400x400x13x21 (Fy=2450 ksc. , Fu = 4000 ksc. ใชส้ลกัเกลยีว A325-X ลวดเชือ่มชนิด E70 เชือ่มแบบพอกดว้ยวธิ ีSMAW

Page 18: L09 Building Connection · coped beam web , cope beam flexural strength c.) Angles – bolt bearing on angle , shear rupture , shear yielding , block shear d.) Supporting member –

Example 4 cont’d Example 4 cont’dกาํลงัใชง้านทีต่อ้งออกแบบ Ma = 5 + 17 = 22 ตนั-ม. , Va = 3+9 = 12 ตนั(มคีา่เกนิ 60% ของกาํลงัรบัแรงดดัทีค่านสามารถรบัได ้, (0.60Mp)หาขนาดแผน่เหลก็เสรมิปลายใหร้ะยะจากศนูยก์ลางสลกัเกลยีวถงึขอบขา้งของแผน่เหลก็เสรมิปลาย = 30 มม.ระยะ g =140 มม. (bf = 200 มม.) จะได ้bp = 30+140+30 = 200 มม. bf + 25 = 225 มม.) ใชไ้ด้ดงันัน้ใช ้bp = 200 มม.หาขนาดของเสน้ผ่าศูนยก์ลางของสลกัเกลยีว(ใหส้ลกัเกลยีว 4 ตวับนรบัแรงดงึเพยีงอย่างเดยีว)h0 = 35+600-(17/2) = 626.5 มม. , h1 = 600 – 17 -35 – (17/2) = 539.5 มม.Fnt = 6,200 ksc. (A325-X )db (2x2x22x1000x100 / 3.14x6200x(62.7+54) )0.5 = 1.97 ซม.ใชส้ลกัเกลยีวขนาด 20 มม.

Example 4 cont’dหาความหนาแผน่เหลก็เสรมิปลายกาํลงัแรงดดัระบุของรอยต่อภายใตก้าํลงัดงึสงูสดุของสลกัเกลยีวMn = 2x6200x3.1415x(62.7+54) / (1000X100) = 45.5 ตนั-ม.S = 0.5x(200x140)0.5 = 83.7 มม.เนื่องจาก 35 มม. < 83.7 มม. ดงันัน้ใช ้35 มม.Yp = [200 / 2][540(1/35)+(1/83.7)+627(1/35)-(1/2)]+[2/140][540(35+83.7)] = 4201 มม.tp = [(1.11x(45.5x1000x100/2)) / (2450x420.1/1.67)]0.5 = 2.02 ซม.ดงันัน้ใชแ้ผน่เหลก็เสรมิปลายหนา 20 มม.ตรวจสอบการรบัแรงเฉือนของแผน่เหลก็เสรมิปลายกาํลงัแรงเฉือนทีต่อ้งการ = 22x1000 / [2x(600-17)] = 18.9 ตนัภายใตก้ารครากบนพืน้ทีห่น้าตดัทัง้หมดกาํลงัแรงเฉือนระบุ Vn = 0.6x2450x2x20 / 1000 = 58.8 ตนักาํลงัแรงเฉือนทีส่ามารถรบัได ้= 58.8 / 1.67 = 35.2 ตนั > 18.9 ตนั

Example 4 cont’dภายใตก้ารขาดบนพืน้ทีห่น้าตดัสทุธิกาํลงัรบัแรงเฉือนระบุ Vn = 0.6x4000x2x(20-(2x2.4))/1000 = 73 ตนักาํลงัรบัแรงเฉือนทีส่ามารถรบัได ้= 73/2 = 36.5 ตนั > 18.9 ตนัตรวจสอบการรบัแรงเฉือนและแรงแบกทานของสลกัเกลยีวใหส้ลกัเกลยีว 2 ตวัลา่งรบัแรงเฉือนและแรงแบกทาน ภายใตแ้รงเฉือน Va = 12 ตนักาํลงัแรงเฉือน Rn = 2FnvAb = 2x4140x3.1415/1000 = 26 ตนักาํลงัรบัแรงเฉือนทีส่ามารถรบัได ้ 26 / 2 =13 ตนั > 12 ตนักาํลงัรบัแรงแบกทานระบุ Rn = 1.2lctFu 2.4dtFuบนแผน่เหลก็เสรมิปลายlc = 35+17+25-11 = 66 มม.1.2lctFu = 1.2x6.6x2x4000/1000 = 63.4 ตนั/ตวั > 2.4x2x2x4000/1000 = 38.4 ตนั/ตวัจะได ้Rn / = 2x38.4 / 2 = 38.4 > 12 ตนั

Page 19: L09 Building Connection · coped beam web , cope beam flexural strength c.) Angles – bolt bearing on angle , shear rupture , shear yielding , block shear d.) Supporting member –

Example 4 cont’dบนปีกเสากาํลงัรบัแรงแบกทานระบุ = 2.4x2x2.1x4000/1000 = 40.3 ตนั/ตวัจะได ้Rn / = 2x40.3 / 2 = 40.3 > 12 ตนัสรปุ ใชส้ลกัเกลยีวชนิด A325-X ขนาด 20 มม. 6 ตวัใชแ้ผน่เหลก็เสรมิปลายขนาด 200x700x20 มม.ออกแบบรอยเชือ่มแบบพอกใชล้วดเชือ่ม E70 (Fnw / = 0.3x4900 = 1470 กก./ ตร.ซม.)ขนาดขาเชือ่มระหวา่งปีกคานกบัแผน่เหลก็เสรมิปลายกาํลงัแรงดงึครากบนปีกคาน Ty = 2450x20x1.7/1000 = 83.3 ตนักาํลงัแรงดงึทีต่อ้งการ = 22x1000 / (600 – 17) = 37.7 ตนั < 0.6 Ty = 50 ตนัดงันัน้ออกแบบรอยเชือ่มภายใตแ้รงดงึใชง้าน Ta = 50 ตนัความยาวรอยเชือ่ม = 2(20+1.7) – 1.1 = 42.3 ซม.Tf = 1470x(0.707a)(42.3)/1000 = 43.96a ตนั Ta = 50 ตนัa 50 / 43.96 = 1.137 ซม. (ดงันัน้ใชข้นาดขาเชือ่ม 12 มม.)

Example 4 cont’dขนาดขาเชือ่มระหวา่งเอวคานกบัแผน่เหลก็เสรมิปลายรอยเชื่อมบรเิวณใตป้ีกคาน รอยเชือ่มนี้จะตอ้งสามารถรรบัหน่วยแรงดดัจากเอวคานใกลส้ลกัเกลยีวตวัรบัแรงดงึซึง่มคีา่ 0.6Fy ดงันัน้จะไดว้า่กาํลงัแรงดงึทีต่อ้งการ Ta = 0.6x2450x1.1 = 1617 กก./ซม. < 2(1470x0.707a) ;เนื่องจากมีรอยเชือ่ม 2 ขา้งa 1617 / 2x1470x0.707 = 0.78 ซม. ใช ้8 มม.ระยะรอยเชือ่ม 3.5+2x2 = 7.5 ซม. ใช ้80 มม.ดงันัน้ใชข้นาดขาเชือ่ม 8 มม. ความยาว 80มม./ขา้งรอยเชือ่มรบัแรงเฉือนรอยเชือ่มนี้จะตอ้งสามารถรบัแรงเฉอืน Va =12 ตนั โดยมคีวามยาวรอยเชือ่มเริม่จากกึง่กลางความสงูของคานถงึปีกคานทีร่บัแรงอดั จะได้L = 2((60/2) – 1.7) = 56.6 ซม.ใชข้นาดขาเชอืม a = 8 มม. จะได ้L 12x1000 / (1470x0.707x0.80) = 14.4 ซม. ใช ้80

/ ้

Example 4 cont’dออกแบบรอยต่อในเสาเพือ่หาขนาดของหลก็เสรมิในแนวนอนและแนวทแยงTa = 22x1000 / (600-17) = 37.7 ตนัRn = 2450x1.3x(1.7+2x1.2+2x2+6x4.3)/1000 = 108 ตนัจะได ้Rn / = 108/1.5 = 72 ตนั > 37.7 ตนัดงันัน้ไมต่อ้งการแผน่เหลก็เสรมิตรวจสอบการโก่งเดาะของเอวเสา(เฉพาะรอยต่อภายนอก)Rn = {0.80x1.32x[1+3(1.7/60)(1.3/2.1)1.5](2x106x2450x2.1/1.3)0.5}/1000 = 125 ตนั >37.7 ตนัดงันัน้ไมต่อ้งการแผน่เหลก็เสรมิตรวจสอบการดดัเฉพาะทีข่องปีกเสาเนื่องจากแรงดงึจากปีกคานMn = 45.5 ตนั-ม. S = (400x140)0.5/2 = 118.3 มม. , c = 35+17+35 = 87 มม.Yc={(400/2)[627+540]/118.3}+(2/140)[540(118.3+(3x87/4))+627(118.3+(87/4))+872/2]+140/2 = 4767 มม.

Example 4 cont’dTfc = [(1.1x45.5x1000x100/2) / (2450x476.7/1.67)]0.5 = 1.90 ซม.เนื่องจากเสา W400x400x13x21 มม. มคีวามหนาปีก 21 มม. > 19 มม. ใชไ้ด้ดงันัน้ไมต่อ้งเสรมิแผน่เหลก็เสรมิตรวจสอบการบดิทีเ่อวเสาเนื่องจากแรงเฉือนกาํลงัแรงเฉือนระบุ Vn = 0.6x2450x1.3x40 /1000 = 76.4 ตนักาํลงัแรงเฉือนทีส่ามารถรบัได ้Vn / = 76.4 / 1.67 = 45.7 ตนั เมือ่สมมตุใิหแ้รงเฉือนในเสาเป็นศนูย ์ดงันัน้แรงเฉือนเนื่องโมเมนตใ์นคาน มคีา่Ha = 22x1000 / (600-17) = 37.7 ตนั < 45.7 ตนั ใชไ้ด้ดงันัน้ไมต่อ้งเสรมิแผน่เหลก็ทแยง