โดยเมตตาธรรม พระครูบาอริยชาติ อริยจิตโต รวมปฏิบัติธรรม ทอดกฐินวัดเมตตาพุทธาราม -

วัดพระเจดียศรีมหาโพธ์ิ พุทธคยา ชมมรดกโลก 2 แผนดิน แสวงบุญ ณ แดนพุทธภูม ิอินเดีย-เนปาล

มรดกโลกพุทธคยา มรดกโลกในหุบเขากาฐมัณฑ ุ สัมผัสความงามเอเวอเรสต

พาราณสี- สารนาถ- พุทธคยา- ราชคฤห – นาลันทา- ปตนะ- กุสินารา- ลุมพินี -

นครากอต - พระมหาเจดีย โพธินาถ - กาฐมัณฑุ วันแรก (วันอังคารที ่06 พฤศจิกายน 2555) กรุงเทพฯ 22.00 น. คณะพรอมกัน ณ สนามบินสวุรรณภูมิ อาคารผูโดยสารขาออกระหวางประเทศ ประตู...

เคานเตอรสายการบินอินดิโก โดยมีเจาหนาท่ีของทางบริษัทใหการตอนรับและ อํานวยความสะดวก

วันที่สอง (วันพุธที่ 07 พฤศจิกายน 2555) กรุงเทพฯ-เดลลี - พาราณสี 01.10 น. ออกเดินทางสูเดลลี ประเทศอินเดีย โดยสายการบินอินดิโก 04.10 น. คณะเดินทางถึงสนามบินอินทิรา คานธี ผานพิธกีารตรวจคนเขาเมือง ทุกทานตรวจเช็ค สัมภาระ / จากน้ัน นําทานเดินทางสูสนามบินภายในประเทศ ใหทานทําธุระสวนตัว จากน้ันนําทานไปยังสนามบินภายในประเทศ แลวรับประทานอาหารเชา 09.35 น. ออกเดินทางสูเมืองพาราณสี โดยสายการบินสไปเจ็ท เท่ียวบินท่ี SG 116 11.00 น. คณะถึงสนามบินเมืองพาราณสี / นําทานเขาท่ีพัก เท่ียง รับประทานอาหารกลางวัน ณ หองอาหารภายในโรงแรม บาย อิสระใหทานไดพักผอนตามอัธยาศัย ค่ํา รับประทานอาหารค่ํา ณ หองอาหารของทางโรงแรม อิสระใหทุกทานพักผอนตามอัธยาศัย วันที่สาม (วันพฤหัสบดีที่ 8 พฤศจิกายน 2555) พาราณสี–สารนาถ – คยา 05.00 น. นําทานสู แมน้ําคงคา เพื่อลงเรือลองแมน้ําคงคาซึ่งชาวฮินดูเชื่อถือวาเปนแมน้ําศกัด์ิสิทธิ ์

เพราะไหลมาจากมวยผมขององคพระศิวะ ทุกเชาจะมพีอแมชาวฮินดูอุมทารกแรกเกิดมาจุมในแมน้ําศักด์ิสิทธิ ์ ในขณะท่ีใกลๆกันคนอีกกลุมกําลังเผาศพและเข่ียซากท่ีเหลือลงไปลอยในแมน้ําคงคา ซึ่งเชื่อวาจะไดสงผูตายข้ึนสวรรค บางคนก็มาน่ังสวดมนต เพื่อไหวสุริยะเทพ บางกล็ง

อาบน้ําชําระรางกายเพื่อรักษาโรคภัย หลังจากน้ัน นําทานเดนิทางกลับท่ีพัก เพื่อรับประทาน

อาหารเชา ณ หองอาหารภายในโรงแรม 08.00 น. นําทานเดินทางสูเมืองสารนาถ ปาอิสิปตนมฤคทายวัน สังเวชนียสถานแหงท่ี 3 คือเปน

สถานท่ีแสดงปฐมเทศนา ท่ีพระพุทธองคทรงโปรดเหลาปญจวัคคียท้ัง 5 และพระรัตนตรัยไดเกิดข้ึนสมบูรณคร้ังแรกในโลกท่ีน่ี ธัมเมกขสถูปเปนสถานท่ีแสดงธรรมอนันตลกัขณะสูตรจน อัญญาโกณฑัญญะ ไดเกิดดวงตาเห็นธรรม ซึ่งกอนน้ีเคยมี พระบรมสารีริกธาตุ จนกระท่ังราชาเชตสิงหไดสั่งใหชคัตสิงห ผูเปนอํามาตยไปร้ือถอนขนเอาอิฐจากอาคารวิหารไปสรางตึก

ในตลาดเมืองพาราณสี จึงขุดคนพบแลวนึกวาเปนกระดูกมนุษยจึงสั่งใหคนนําไปลอยท่ีแมนํ้า คงคา

11.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ หองอาหารของทางโรงแรม หลังจากน้ัน ออกเดินทางไปคยา ( ระยะทาง 230 กม. ใชเวลาเดินทาง 5-6 ชม.)

คยา ต้ังอยู 100 กิโลเมตรทางใตของเมืองปฏนา ตัวเมืองทอดยาวไปตามชายฝงของแมนํ้าเนรัญชรา เมืองแหงน้ีเปนเมืองสําคัญท้ังของศาสนาพุทธและศาสนาฮินดู เพราะเปนท้ังท่ีต้ังของสถานท่ีเกิดเหตุการณสําคัญ ๆ ของพระพุทธศาสนา และสถานท่ี ๆ ถูกกลาวถึงในตํานานปรัมปราในคัมภีรรามายณะของศาสนาฮินดู โดยภูมิประเทศของคยาเต็มไปดวยภูเขาหินขนาดเล็ก คยาเปนเมืองท่ีเปนท้ังท่ีต้ังของคยาสีสะ สถานท่ีพระพุทธองคทรงแสดงอาทิตตปริยายสูตรเพื่อโปรดแกเหลาชฏิล 1,003 รูป และ วัดวษิณุบาท วัดฮินดูท่ีเปนท่ีประดิษฐานของหิน ท่ีชาวฮินดูนับถือวาเปนรอยบาทของพระวิษณ ุสถานท่ีศกัด์ิสิทธิ์สําคัญ 1 ใน 7 แหงของศาสนาฮินดู นําทานเขาสูท่ีพัก LOTUS NIKKO หรือเทียบเทา

เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ หองอาหารของทางโรงแรม วันที่ส่ี (วันศุกรที ่9 พฤศจิกายน 2555) คยา-รวมทอดกฐิน ณ วัดเมตตาพุทธาราม- กรุงราชคฤห-มหาวิทยาลัยนาลันทา- หลวงพอพระองคดํา-เขาคิชกูฎ-คยา 07.00 น. รับประทานอาหารเชา ณ หองอาหารของทางโรงแรม

09.00 น. นําคณะเดินทางสูวัดพระเจดียศรีมหาโพธิ์ รวมงานยกฉัตรทองคําพระเจดียและทอดกฐิน วัด พระเจดียศรีมหาโพธิ์ จากน้ัน นําทานสูมหาเจดียพุทธคยาอนุสรณสถานแหงการตรัสรูโดย มีลําดับสถานท่ีแหงการคารวะดังน้ี ตนพระศรีมหาโพธิ์สถานท่ีตรัสรูของพระพุทธองค คน โบราณเชื่อกันวาสถานท่ีน้ีเปนแผนดินท่ีศักด์ิสิทธิ์ ท่ีสุดในโลกเพราะเปนท่ีท่ีพระพุทธเจา ทุก พระองคจะตองมาทรงตรัสรูท่ีน่ี ดังน้ันตนโพธิ์น้ีจึงเปนเสมือนขวัญใจของชาวพุทธท่ัวโลก ท่ี ตองมาประกอบกิจกรรมบําเพ็ญภาวนาท่ีน่ี

• พระมหาเจดียพุทธคยาสรางอยูใกลกับตนโพธิ์ภายในวิหารมี พระพุทธเมตตา พระพุทธรูปองคน้ีเปนท่ีนับถือวาศักด์ิสิทธิ์ย่ิง ท้ังชาวพุทธและฮินดู ใครไดมาอธิษฐานจิต ขอพรสิ่งใดมักจะไดสมความปรารถนา และชมสุตตมหาสถาน ซึ่งเปนท่ีท่ีพระพุทธองค ไดพิจารณาหลังจากทรงตรัสรูแลว อันไดแก รัตนจงกรมเจดีย รัตนฆรเจดีย อนิมิสสเจดีย และสระมุจรินทร

12.00 น. รวมรับประทานอาหารกลางวัน จากน้ันนําทานเดินทางสูเมืองราชคฤห เมืองหลวงในสมัยพุทธกาล (ระยะทางราว 73 กม.) กรุงราชคฤห เปนชื่อเมืองหลวงของแควนมคธสมัยพุทธกาล เปนเมืองในหุบเขา

มีภูเขาลอมรอบ 5 ลูก จึงมีชื่อเรียกอีกอยางหน่ึงวา เบญจคีรี นครราชคฤห เปนเมืองต้ังหลัก พระพุทธศาสนาของพระพุทธเจา โดยพระพุทธเจาเสด็จไปโปรดพระเจาพิมพสิารผูครองนคร

เปนเมืองท่ีมีประวัติความเกี่ยวของกับพระพุทธศาสนามากท่ีสุด สถานท่ีท่ีเกี่ยวของกับ พระพุทธเจาและพระสาวกยังปรากฏอยูมากมาย นําทานชม มหาวิทยาลยันาลนัทา ซึ่งเปน

มหาวิทยาลัยสงฆท่ีย่ิงใหญเกรียงไกรในอดีตของพระพุทธศาสนา ซึง่เปนที่เกิด และนิพพานของพระสารีบุตร พระอัครสาวกเบ้ืองขวาซึ่งเปนผูเลศิท่ีสุด ทางดาน ปญญา ชมซากเจดียนาลันทาซึ่งถูกเผาทําลายโดยชาวเตอรกมุสลิม จากน้ันไป นมัสการหลวงพอพระองคดํา ซึ่งสรางจากหินดํา ประดิษฐานอยูหลังมหาวิทยาลัยนาลันทา เลาขานกันวาศักด์ิสิทธิ์มาก ทางการเคยพยายามจะยายไปรักษาไวท่ีพิพธิภัณฑแตทุกคร้ังท่ีดําเนินการมักจะเกิดเหตุอาเพศเสมอ นําทานข้ึน เขาคิชกูฎ เพื่อนมัสการ ถํ้าพระมหาโมคคัลลานะ ถํ้าสุกรขาตา ท่ีพระสารีบุตรบรรลุพระอรหันต และกุฏิพระอานนท สวดมนตเจริญสมาธิภาวนา ณ คันธกุฎีของพระพุทธเจา บนยอดเขาคิชกูฎทานจะไดสัมผัสบรรยากาศท่ีสงบและววิท่ีสวยงาม พรอมชมจุดท่ีพระเจาเทวทัตกลิ้งหินลงมาใส พระพุทธองคจนพระโลหิตหอพระบาท

หากทานใดตองการไปเจริญสมาธิภาวนาแบบขามคืนและนอนคางใตตนโพธิ ์ กรุณาแจงหัวหนาทัวรลวงหนา เพ่ือจัดเตรียมเอกสารยื่นตอเจาหนาที ่

ทานจะไมสามารถเปลีย่นใจออกมาไดจนกระทั่งเวลาตีส่ี เย็น นําทานเดินทางกลับสูท่ีพัก LOTUS NIKKO หรือเทียบเทา รับประทานอาหารค่ํา ณ หองอาหารของทางโรงแรม

วันที่หา (วันเสารที่ 10 พฤศจิกายน 2555) คยา – ปตนะ 07.00 น. รับประทานอาหารเชา ณ หองอาหารของทางโรงแรม หลังจากรับประทานอาหาร นําคณะเดินทางสูวัดเมตตาพุทธาราม 09.00 น. รวมงานทอดกฐิน ณ วัดเมตตาพุทธาราม ซึ่งมพีระอาจารยกฤษดา(เก)เปนเจาอาวาส 11.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ หองอาหารของทางโรงแรม บาย นําทานขาม แมนํ้าเนรัญชรา สูหมูบานอุรุเวลา เสนานิคม ซึ่งเคยเปนท่ีต้ังของ อนุสรณสถาน บานนางสุชาดา ชมสถานที่ที่พระพุทธองคทรงอธิษฐานจิตลอยถาดกอนตรัสรู อนุตตรสัมโพธิญาน ณ จุดน้ันเราจะสามารถมองเห็นเขาดงคสิริ สถานท่ีท่ีพระพุทธองคทรง บําเพ็ญทุกรกิริยาเปนเวลา 6 ป กอนจะทรงตรัสรู อนุตรสัมมาสัมโพธิญาน

นําทานชม วัดของชาวพุทธนานาชาต ิมวีัดศรีลังกา วัดสงฆอินเดีย วัดพมา วัดจีน วัดทิเบต วัดภูฎาน วัดเกาหลี และวัดญ่ีปุน ซึ่งวัดญ่ีปุนแหงน้ีม ี พระพุทธรูปองคไดบุสึ จําลองสราง ดวยหินทรายแดงสูง 60 ฟุต สวยงามและย่ิงใหญมาก ใหทานไดมีเวลาเก็บภาพถายกับ สถาปตยกรรมของพุทธสถาน จากน้ัน นําทานสูเมืองปตนะ หรือเมืองปาฏลีบุตร ใชเวลาเดินทาง 5 ชม. เมืองน้ีเปนเมืองหลวงในสมัยพระเจาอโศกมหาราช ปจจุบันเปนเมืองหลวงของรัฐพิหาร

เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ หองอาหารของทางโรงแรม นําทานเขาสูท่ีพัก CHANKYA หรือเทียบเทา วันที่หก (วันอาทติยที ่11 พฤศจิกายน 2555) ปตนะ–วัดอโศการาม –เวสาลี – ปาวาลเจดีย –

กุสินารา 07.00 น. รับประทานอาหารเชา ณ หองอาหารของทางโรงแรม

นําทานชมวัดซากวัดอโศการาม กรุงปาฎลีบุตร ในอดีตเมืองน้ีเคยเปนสถานท่ีทําสังคายนาพระธรรมวินัย คร้ังท่ี 3 ณ อโศการาม และท่ีน้ียังเปนสถานท่ีท่ีเผยแพรพระพุทธศาสนา ไปท่ัวอินเดีย ในสมัยพระเจาอโศกมหาราช นําทานนมัสการ ปาวาลเจดีย ณ เมืองเวสาลี ท่ีบรรจุ พระบรมสารีริกธาตุ และเปนสถานท่ีสุดทายพระพุทธองคทรงปลงสังขารกอนท่ีจะเสด็จดับขันธปรินิพพาน ซึ่งอยูในสวนมะมวงของนางอัมพปาล ีนางคณิกาประจําเมืองเวสาลี

เท่ียง รับประทานอาหาร ณ รานอาหารระหวางทาง บาย จากน้ัน นําทานเดินทางสูเมืองกุสินารา ( ระยะทางประมาณ 256 กม. ใชเวลา ในการเดินทาง

ประมาณ 8 ชม. ) ผานชมเจดียเกสรียา ระหวางทางกอนเขาเมือง ค่ํา นําทานเขาสูท่ีพัก LOTUS NIKKO หรือเทียบเทา

วันที่เจ็ด (วันจันทรที่ 12 พฤศจิกายน 2555) กุสินารา – มหาปรินิพพานสถูป – มกุฏพันธเจดยี

– วัดไทย 960 – ลุมพินี เนปาล เชา รับประทานอาหารเชา ณ หองอาหารของทางโรงแรม

นําทาน สู มหาปรินิพพานสถูป สถานท่ีพระพุทธเจาเสด็จดับขันธปรินิพพาน ภายใตตนสาละคูเปนสถานท่ีรองรับหมูพระอรหันตคร้ังใหญสุด เปนพทุธสถานท่ีๆ พระพุทธองคประทานการบวชใหสาวกองคสุดทาย เปนท่ีทรงแสดงพระธรรมเทศนา ปจฉิมโอวาทคือ “ทานท้ังหลายจงอยูโดยความไมประมาทเถิด” จากน้ันเขาสูพุทธวิหารปรินิพพาน ซึ่งภายในประดิษฐาน พระพุทธไสยาสนปางปรินิพพาน ชาวพุทธผูท่ีไดมีโอกาสเขาไป กราบไหวราวกับวาไดมานมัสการพระบรมศพของพระศาสดาจริงๆ และทําใหหวนนึกถึงความเปน อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา แมแตพระพุทธองคยังตองจากไป เราจึงควรดํารงชีวติอยูดวย ความไมประมาทตามพระปจฉิมโอวาทของพระพุทธองค (ทานใดจะนําผามาหมองคพระปฏมิากรน้ีเพื่อเปนสิริมงคลกับชวีิต กรุณาเตรียมผาขนาดกวาง 2 เมตร ยาว 5 เมตรคร่ึง จะหมไดพอดี) ใหทานไดมีเวลาเจริญสมาธิภาวนา จนไดเวลาพอสมควร นําทานสู มกุฏพันธนเจดีย สถานท่ีถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระ และ พราหมณเจดีย ซึ่งเปนสถานท่ีแจกพระบรมสารีริกธาตุของมัลละกษัตริยเพื่อนําไปประดิษฐานในท่ีตางๆหลังจากเสร็จพิธีถวายพระเพลิงพระสรีระของพระพุทธองค

11.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ หองอาหารของทางโรงแรม นําทานออกเดินทางสูเมืองลุมพิน ี สถานท่ีประสูติของพระพุทธองคขณะท่ียังดํารงเปน เจาชายสิทธัตถะ(ใชเวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง) ผานเมืองโครักขปูร ชมวิถีชวีิตของ ชาวอินเดีย เมืองแหงน้ีเปนพรมแดนของอินเดียกอนเขาสูเมืองสิทธารัตถะของเนปาล หยุดพักท่ีวัดไทย 960 ซึ่งชาวพุทธไทยรวมกันบริจาคสรางไวเพื่อเปนท่ีพกักลางทาง กอนจะขามดานเขาสูประเทศเนปาล ถึงพรมแดนอินเดีย-เนปาล ผานพิธกีารตรวจคนเขาเมือง (ใชเวลาประมาณ1ชัว่โมงในการ ตรวจเอกสาร) เดินทางเขาสูเมืองสิทธารัตถะ ประเทศเนปาล เย็น นําทานเขาสูท่ีพัก NIRVANA หรือเทียบเทา รับประทานอาหารค่ํา ณ หองอาหารของทางโรงแรม

วันที่แปด (วันอังคารที ่13 พฤศจิกายน 2555) เนปาล- ลุมพินี – กาฏมัณฑุ - นครากอต เชาตรู รับประทานอาหารเชา ณ หองอาหารของทางโรงแรม 07.00 น. นําทานเดนิทางสู ลุมพินี พุทธสังเวชนียสถานท่ีสําคัญ 1 ใน 4 สังเวชนียสถาน แหงน้ีเปน

สถานท่ีประสูติของเจาชายสิทธัตถะ ผูซึ่งตอมาตรัสรู เปนพระบรมศาสดาสัมมาสมัพุทธเจา ชมมายาเทวีวิหาร ลุมพิน ี ภายในมีรูปพระนางสิริมหามายาเทวี แกะสลกัดวยหินเปนรูป

พระพุทธมารดายืนประทับเหน่ียวกิ่งสาละอยู และขางหนาเปนรูปเจาฟาชายสิทธัตถะกุมารกําลังกาวพระบาทไปบนดอกบัว ชม สระธารโบกขรณี ชมวัตถุสถานเสนาสนะสงฆ และเจดีย สถานท่ีผูเลื่อมใสศรัทธาไดสรางไวเปนพุทธบูชาตลอดมา ไมขาดสายต้ังแตโบราณ ชม เสาอโศก ท่ีจารึกอักษรพรามณโบราณไว

10.30 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ หองอาหารภายในโรงแรม บาย ออกเดินทางสูสนามบิไพราวา ลมุพินี เดินทางสูเมืองกาฎมัณฑุ โดยสารการบิน........................... --.—น. เดินทางถึงทาอากาศยานตรีภูวัน เมืองกาฐมัณฑุ ประเทศเนปาล นําเดินเดินทางสู “นครา

กอต” เดินทางถึง นาการกอต หรือ นครากอต เปนชุมชนท่ีต้ังอยูบนยอดเขาสูง ท่ีสูงกวาระดับนํ้าทะเล 1,985 เมตร อยูหางจากกาฐมาณฑุประมาณ 40 กิโลเมตร ตองผานภักตาปูรและขับรถข้ึนเขาซึ่งมีสภาพคดเคี้ยวไปอีกประมาณ 32 กิโลเมตร

นําทานเขาสูท่ีพัก FORT RESORT หรือเทียบเทา อิสระให ทานไดชื่นชมกับธรรมชาติ ขุนเขา และวิถชีีวิตของ ชาวเนปาล หรือ สนุกกับกิจกรรมของทางรีสอรท ค่ํา รับประทานอาหารเย็น ณ หองอาหารของทางโรงแรม วันที่เกา (วันพุธที่ 14 พฤศจิกายน 2555) นครากอต-ภัคตะปูร -จัตุรัสราชวังภักตะปูร – ประตูทองคํา-พระราชวังภักตะปูร -ปาตัน- พระราชวังแหงปาตนั-จัตุรัสคะระบาร-ตุชาหิต ี เชา อรุณสวสัด์ิยามเชา อิสระทุกทานชมทัศนียภาพและความงดงามของยอดเขาเอเวอรเรสท ซึ่ง เปนยอดเขาท่ีสูงท่ีสุดในโลกท่ีระดับความสูง 8,848 เมตร ซึ่งเปรียบไดวาเปน “มงกุฎของโลก” ณ ท่ีน้ีทานจะไดสัมผัสกับบรรยากาศท่ีบริสุทธิ์เหนือเทือกเขาหิมาลัย ถายรูปเปนท่ีระลึก 08.00 น. รับประทานอาหารเชา ณ หองอาหารของทางโรงแรม

ไดเวลาสมควร นําทานลงจากเมืองนครากอต เพื่อเขาสูเมืองภัคตะปูร "เมืองแหงอัญมณีทางวัฒนธรรมของเนปาล" เมืองน้ีเคยเปนเมืองหลวงท่ีเกาแกและมีความรุงเรืองทางการคามากอน ทําใหมพีระราชวังท่ีมีความงดงามท่ีสุด ของสถาปตยกรรมเนปาลสมัยศตวรรษท่ี 18

ภัคตะปูร (Bhaktapur) เปนเมืองเดียวท่ียังคงชื่อเดิมไว ภัคตะคือคําเดียวกับภักดี จึงอาจเรียกชื่อแบบไทยๆ วาเมืองภักดิปุระ หรือภัคตะปุระ แปลวานคร แหงความสัตยซื่อความภักดี นําทานชมอาคารบานเรือนท่ีแกะสลกัดวยไมอายุกวา 400 ป เมืองหลวงเกาแกแหงท่ี 2

จากน้ันนําทานชมจัตุรัสราชวังภักตะปูร ชมวัดและเทวรูปท่ีกระจัดกระจายอยูโดยรอบ จุตุรัส ชม ประตูทองคํา (Golden Gate) แลวผานเขาสูพระราชวัง ซึ่งไดรับการยกยองวาเปน ผลงาน ศิลปะท่ีย่ิงใหญท่ีสุดในหบุเขา สรางในปพ.ศ.2296 โดยพระเจาชัย รันจิต มัลละ

(JAYA RANJIT MALLA) กรอบประตูประดับภาพเทพองคตางๆ ตัวประตูทําดวยอิฐเคลือบ ซุมประตูทอง ประดับรูปชางและสิงหงดงามตระการตา ตัวพระราชวัง (ROYAL PALACE) ท่ียังหลงเหลืออยูคือ อาคารอิฐ 55หนาตางไมแกะสลกั เปนท่ีรูจักกันใน 55 Windows Palace ท่ีไดชื่อวาเปนสถาปตยกรรมท่ีงดงามท่ี ไดเคยปรากฏใหเห็น อิสระใหทุกทานไดเลือกซื้อสินคาตามอัธยาศัย สมควรแกเวลาพรอมกัน ณ จุดนัดพบ

เท่ียง รับประทานอาหารกลางวัน ณ รานอาหาร บาย ขามแมน้ําภัคมาตีไปที ่“ปาตัน” นครท่ีถือวาเปนศูนยกลาง แหงงานวิจิตรศิลปและ

หัตถศิลปชั้นเย่ียม รูจักกันอีกชื่อหน่ึงวา “ลลิตปูร” ซึง่แปลวาเมืองอันงดงาม ปาตันเปนนครพุทธ สรางในสมัยพระเจาอโศกมหาราช เมื่อศตวรรษท่ี 3 นําทานชมพระราชวังแหงปาตัน (ROYAL PALACE) ท่ีม ี จัตุรัสคะระบาร(DURBAR SQUARE) เปนศูนยกลาง ชมงานแกะสลกัหินฝมือเลิศ ณ “ตุชาหิต”ี อดีตเคยเปนท่ีสรงนํ้าของเหลาราชวงศ เมื่อประมาณ พ.ศ. 1670 แลวนําทานสูวัดทอง (GOLDEN TEMPLE) ทางตอนเหนือของ DURBAR SQUARE เปนอารามท่ีพัก ทางจิตวิญญาณอันเกาแก ตัวอาคารเปนรูปสีเ่หลี่ยม หลังคาดานหนาตกแตงดวยทองแดง มีสิงหคูอยูหนาประตูทางเขา จนไดเวลาอันสมควร นําทานเดินทางสูกาฐมัณฑ ุ

เย็น นําทานเขาสูท่ีพัก SOALTEE CROWNE PLAZA หรือเทียบเทา รับประทานอาหารเย็น ณ หองอาหาร อิสระใหทานพกัผอนตามอัธยาศัย

วันที่สิบ (วันพฤหัสบดทีี่ 15 พฤศจิกายน 2555) พระมหาเจดีย โพธินาถ-พระราชวังหนุมานโธกา หรือ จัตุรัสกาฐมาณฑ-ุ หอพสันตปูร- ท่ีพํานัก ของเทพธิดากุมารี-กาฐมณัฑป- หนุมานโธกา- วัดตะเลชุ เชา รับประทานอาหาร ณ หองอาหารของทางโรงแรม นําทานสักการะพระมหาเจดีย โพธินาถ หรือพุทธนาถ (Boudhanath) เปนสถูปท่ีต้ังอยูหาง จากกรุงกาฐมณัฑุไปทางทิศตะวันออกประมาณ 8 กิโลเมตร โดยเปนเจดียท่ีใหญท่ีสุด ในเนปาล บนเจดียมีดวงตาเห็นธรรมของพระพุทธเจา (Wisdom Eyes) ท้ังสี่ทิศบริเวณรอบวัด เปนแหลงชมุชนของชาวพุทธมหายาน จากทิเบต ท่ีอพยพเขามาเมื่อปพ.ศ. 2502 จึงจะ

เห็นพระทิเบตและคนท่ัวไปยืนแกวงลอมนตพรอมกับสวดมนตอยูท่ัวไป องคการยูเนสโกข้ึนได ทะเบียนสถานท่ี แหงน้ีเปนมรดกโลกในปพ.ศ. 2522 11.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ รานอาหาร บาย นําทานชม พระราชวังหนุมานโธกา หรือ จัตุรัสกาฐมาณฑ ุชม หอพสันตปูร เปนอาคาร

แบบยุโรปสีขาว มีหอสูง 9 ใชเปนท่ีประกอบพิธกีรรมอันสําคัญในราชวงศ ชม เทพธิดากุมารี ท่ีพํานักของเทพธิดากุมารี ตัวแทนแหงเทพบริสุทธิ์ท่ีถือกําเนิดในโลกมนุษย มีหนาท่ีทําพิธีบูชาเทพธิดาแหงเตาไฟหรือเทพธิดาแหงการดํารงชีพ ซึ่งถือเปนเทพธิดาในยุคโบราณของศาสนาฮินดูในเนปาล ชม กาฐมณัฑป เปนอาคารไมเกาแกท่ีสุดและเปนตนกําเนิดของชื่อเมืองกาฐมัณฑ ุ ชม หนุมานโธกา รูปปนหนุมานต้ังบนแทนสูง ทําหนาท่ีนายทวารคอยรักษาประตูทางเขาพระราชวัง ชม วัดตะเลชุ เปนวัดประจําองคพระมหากษัตริย เน่ืองจากมีความเชื่อวาเทพตะเลช ุคือเทพท่ีปกปองรักษาองคพระมหากษัตริยและประเทศเนปาล

ค่ํา นําทานรับประทานอาหาร ณ รานอาหาร.................. นําทานกลับเขาสูท่ีพัก วันที่สิบเอ็ด (วันศุกรที่ 16 พฤศจิกายน 2555) เนปาล-กรุงเทพฯ เชา รับประทานอาหาร ณ หองอาหารของทางโรงแรม 08.30 น. ออกเดินทางสูสนามบนินานาชาติสุวรรณภูมิ โดยสายการบิน Royal Nepal Airlines

เที่ยวบนิที่ RA401 13.10 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ

***********************************