HT-S3300 Thai Version

55
HT-S3300 AV Receiver (HT-R380) Speaker Package (HTP-380) Front Speakers (SKF-380 L/R) Center Speaker (SKC-380/SKC-380C) Surround Speakers (SKR-380 L/R) Subwoofer (SKW-380) Contents Introduction ................................... 2 Connections................................. 12 Turning On & Basic Operations ...... 20 Advanced Operations ................. 30 Controlling iPod & Other Components ............................ 40 Others ........................................... 47 E n 5.1 Ch Home Theater System รุ่น คู่มือแนะนำการใช้งาน Instruction Manual ขอบคุณที่เลือกซื้อชุดโฮมเธียเตอร์เซอร์ราวนด์ 5.1 แชนเนลของ Onkyo ชุดนีกรุณาอ่านคู่นี้ทั้งหมดก่อนทำการต่อเชื่อมระบบ และเสียบปลั๊กไฟเครื่อง ปฏิบัติตามข้อแนะนำ ในคู่มือนี้อย่างเคร่งครัดจะช่วยให้ได้คุณภาพ เสียงสูงสุด และได้รับความเพลิดเพลินในการ รับฟังเสียงจากชุดโฮมเธียเตอร์เซอร์ราวนด์ 5.1 แชนเนลของ Onkyo ชุดนี้อย่างเต็มที* กรุณาเก็บรักษาคู่มือนี้ไว้สำหรับอ้างอิงในอนาคต *

description

Onkyo HT-S3300 Home Theater in The Box

Transcript of HT-S3300 Thai Version

Page 1: HT-S3300 Thai Version

HT-S3300AV Receiver (HT-R380)Speaker Package (HTP-380)

Front Speakers (SKF-380 L/R)Center Speaker (SKC-380/SKC-380C)Surround Speakers (SKR-380 L/R)Subwoofer (SKW-380)

Contents

Introduction ...................................2

Connections.................................12

Turning On & Basic Operations ......20

Advanced Operations .................30

Controlling iPod & Other Components............................40

Others...........................................47

E n

5.1 Ch Home Theater System

รุ่น

คู่มือแนะนำการใช้งาน

Instruction Manual

ขอบคุณที่เลือกซื้อชุดโฮมเธียเตอร์เซอร์ราวนด์

5.1 แชนเนลของ Onkyo ชุดนี้

กรุณาอ่านคู่นี้ทั้งหมดก่อนทำการต่อเชื่อมระบบ

และเสียบปลั๊กไฟเครื่อง ปฏิบัติตามข้อแนะนำ

ในคู่มือนี้อย่างเคร่งครัดจะช่วยให้ได้คุณภาพ

เสียงสูงสุด และได้รับความเพลิดเพลินในการ

รับฟังเสียงจากชุดโฮมเธียเตอร์เซอร์ราวนด์

5.1 แชนเนลของ Onkyo ชุดนี้อย่างเต็มที่

* กรุณาเก็บรักษาคู่มือนี้ไว้สำหรับอ้างอิงในอนาคต *

Page 2: HT-S3300 Thai Version

2En

The lightning flash with arrowhead symbol, within an equilateral triangle, is intended to alert the user to the presence of uninsulated “dangerous voltage” within the product’s enclosure that may be of sufficient magnitude to constitute a risk of electric shock to persons.

The exclamation point within an equilateral triangle is intended to alert the user to the presence of important operating and maintenance (servicing) instructions in the literature accompanying the appliance.

WARNINGRISK OF ELECTRIC SHOCK

DO NOT OPENRISQUE DE CHOC ELECTRIQUE

NE PAS OUVRIR

AVIS

PORTABLE CART WARNIN G

S3125A

เตือนภัย:

เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุไฟไหม้

หรือไฟฟ้าช็อต ห้ามนำอุปกรณ์นี้ไปใช้งานในที่ที่

ฝนสาดถึง หรือในที่ที่มีปริมาณความชื้นสูง

ข้อควรระวัง:

เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดไฟฟ้าช็อต ห้ามเปิดฝา

ด้านบนหรือฝาด้านล่างของตัวเครื่องออก เนื่องจาก

ไม่มีชิ้นส่วนภายในใดๆ ให้ผู้ใช้ทำการซ่อมแซมเอง

ถ้าเครื่องมีปัญหาให้ส่งให้กับฝ่ายบริการที่ผ่านการอบรมเท่านั้น

คำแนะนำที่สำคัญสำหรับความปลอดภัย

1. อ่านคู่มือเล่มนี้อย่างละเอียด

2. เก็บรักษาคู่มือนี้ไว้ให้ดี

3. เอาใจใส่กับทุกคำเตือนในคู่มือนี้อย่างเคร่งครัด

4. ปฏิบัติตามคำแนะนำในคู่มือนี้อย่างเคร่งครัด

5. อย่านำเครื่องนี้ไปใช้งานใกล้กับน้ำ

6. ทำความสะอาดเครื่องด้วยผ้าแห้งเท่านั้น

7. อย่าปิดกั้นช่องระบายอากาศช่องใดของตัวเครื่อง

ให้ติดตั้งใช้งานตัวเครื่องตามคำแนะนำของผู้ผลิต

ที่ปรากฏในคู่มือ

8. อย่านำเครื่องไปติดตั้งใช้งานใกล้กับแหล่งความร้อนใดๆ

อาทิ ฮีทเตอร์, เตาไฟ รวมถึงอุปกรณ์ที่ทำให้เกิด

ความร้อนทุกชนิด

9. อย่าหักขากราวนด์ของปลั๊กไฟเอซีออก ขากราวนด์ของ

ปลั๊กไฟแบบสองขาก็คือขาที่มีมีลักษณะกว้างกว่าอีก

ขาหนึ่ง ส่วนปลั๊กแบบสามขาจะประกอบด้วยขาไฟ

บวกกับไฟลบที่มีลักษณะแบน ส่วนขากราวนด์จะมี

ลักษณะกลม ซึ่งทั้งขา

กราวนด์แบบแบนหรือ

ขากราวนด์แบบกลมมีไว้

เพื่อความปลอดภัยของคุณ

ถ้าไม่สามารถเสียบปลั๊กไฟ

เอซีตัวผู้ของเครื่องนี้เข้ากับ

ปลั๊กไฟตัวเมียบนผนังบ้านของคุณได้ ให้ปรึกษา

ช่างไฟฟ้าเพื่อทำการเปลี่ยนปลั๊กตัวเมียบนผนังห้อง

ให้เป็นแบบที่สามารถใช้งานกับปลั๊กไฟตัวผู้ของเครื่องได้

10. ปกป้องสายไฟเอซีของตัวเครื่องโดยไม่เดินเหยียบย่ำ

11. ให้ใช้อุปกรณ์เสริมที่ผู้ผลิตเครื่องตัวนี้จัดมาให้เท่านั้น

12. กรณีที่ต้องติดตั้งใช้งานบนโต๊ะที่เข็นได้ หรือบนโต๊ะ

สามขา แขวนผนัง หรือบนโต๊ะที่จัดทำพิเศษ ให้ใช้เฉพาะ

อุปกรณ์เสริมที่ผู้ผลิตเครื่องจัดหามาให้ หรือออกแบบมา

สำหรับขายพร้อมกับตัวเครื่องเท่านั้น

13. ดึงปลั๊กไฟเครื่องออกจากปลั๊กตัวเมียบน

ผนังบ้านเสมอเวลาเกิดฝนฟ้าคะนอง หรือ

ในกรณีที่ไม่ได้ใช้งานเครื่องเป็นเวลาติดต่อ

กันนานๆ

14. ส่งเครื่องที่มีปัญหาเข้ารับบริการซ่อมกับ

ช่างที่ผ่านการอบรมเท่านั้น

15. เครื่องที่ประสบปัญหาเหล่านี้ อาทิ สายไฟ

เอซีของตัวเครื่องเสียหาย, มีของเหลวหรือ

วัตถุโลหะไหลหรือตกหล่นเข้าสู่ตัวเครื่อง,

ตัวเครื่องถูกฝนหรือถูกทิ้งอยู่ท่ามกลางความชื้น,

ไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ หรือตัวเครื่อง

ตกหล่นจากที่สูง ฯลฯ

16. กรณีมีของเหลวไหลเข้าตัวเครื่อง: ห้ามใช้วัตถุ

โลหะสอดเข้าไปในตัวเครื่องโดยเด็ดขาด เพราะ

อาจจะเข้าไปสัมผัสเข้ากับจุดที่มีไฟฟ้าแรงสูงจน

ทำให้เกิดไฟฟ้าช็อตเอาได้ ห้ามวางภาชนะที่บรรจุ

ของเหลวไว้บนตัวเครื่อง ห้ามจุดเทียนหรือวางวัตถุ

ติดไฟบนตัวเครื่อง

17. แบตเตอรี่: ให้คำนึงถึงสภาพแวดล้อมเสมอ และ

ให้ปฏิบัติตามระเบียบข้อกำหนดของท้องถิ่นเมื่อ

ต้องทำลายแบตเตอรี่ที่ใช้แล้ว

18. เมื่อต้องทำการติดตั้งตัวเครื่องเข้ากับเฟอร์นิเจอร์

แบบติดตั้งตายตัว อาทิ ในตู้ใส่หนังสือ หรือในชั้น

วางของ ต้องมั่นใจว่า ภายในชั้นที่ใช้วางเครื่องนั้น

มีช่องระบายอากาศมากพอ คือต้องมีระยะของช่อง

ว่างเหนือตัวเครื่องไม่น้อยกว่า 8 นิ้ว (20 ซ.ม.)

และไม่น้อยกว่า 4 นิ้ว (10 ซ.ม.) บริเวณด้านหลัง

ของตัวเครื่อง และขอบด้านหลังของชั้นวางจะต้องมี

ช่องห่างจากผนังไม่ต่ำกว่า 10 ซ.ม. เพื่อให้อากาศ

ร้อนจากภายในตัวเครื่องสามารถไหลผ่านขึ้นไปได้

Page 3: HT-S3300 Thai Version

3En

ป้องกันไว้ก่อน

1 เกี่ยวกับลิขสิทธิ์ (Recording Copyright) –

นอกจากจะเป็นการทำซ้ำเพื่อใช้ส่วนตัวเท่านั้น

เนื่องจากการทำซ้ำคอนเท้นต์ที่มีการจดลิขสิทธิ์ไว้

ถือเป็นเรื่องผิดกฏหมาย ยกเว้นจะได้รับอนุญาติ

จากเจ้าของสิทธิ์เท่านั้น

2 เกี่ยวกับฟิวส์ของไฟเอซี (AC Fuse) -

ฟิวส์สำหรับไฟเอซีที่ติดตั้งอยู่ภายในตัวเครื่อง

นั้นผู้ใช้ไม่ได้รับอนุญาติให้ทำการเปลี่ยนเอง

ถ้าคุณไม่สามารถเปิดใช้งานเครื่องได้ตามปกติ

ให้ติดต่อตัวแทนจำหน่าย Onkyo เท่านั้น

3 เกี่ยวกับการดูแลรักษา (Care) – ควรจะใช้ผ้า

ที่นุ่มและสะอาดเช็คทำความสะอาดตัวเครื่อง

เป็นครั้งคราว สำหรับรอยเปื้อนที่ฝังตัวแน่น

ให้ใช้ผ้าเนื้อนุ่มชุบผงซักฟอกเพียงเล็กน้อย

ผสมน้ำเช็ดทำความสะอาดรอยเปื้อนนั้น ห้ามใช้

กระดาษทรายขัด, ทินเนอร์, อัลกอฮอร์ รวมถึง

สารละลายทางเคมีใดๆ ในการชำระล้างเป็นอันขาด

เพราะจะทำให้เกิดความเสียหายกับเคลือบผิวบน

ตัวเครื่อง และอาจจะทำให้ตัวหนังสือ+สัญญาลักษณ์

ที่พิมพ์อยู่บนตัวเครื่องหลุดลอกหรือจางเลือนไปได้

4 เกี่ยวกับโวลเตจไฟเอซี (Power)

คำเตือน: ก่อนเริ่มทำการเสียบปลั๊กเอซีของเครื่องเป็น

ครั้งแรก กรุณาอ่านข้อความในแต่ละส่วนของคู่มือนี้อย่าง

ละเอียดครบถ้วน

โวลเตจของไฟเอซีในแต่ละประเทศจะแตกต่าง

กันไป ให้แน่ใจว่า ปริมาณโวลเตจที่ใช้อยู่ในพื้นที่ของคุณ

ตรงกับค่าโวลเตจที่เครื่องตัวนี้ต้องการ ซึ่งมีค่าโวลเตจพิมพ์

อยู่บนแผงหลังของตัวเครื่อง (อาทิ AC 230 V, 50 Hz หรือ

AC 120 V, 60 Hz)

สายไฟเอซีที่ติดมากับตัวเครื่องนี้ใช้สำหรับ

เชื่อมต่อและตัดการเชื่อมต่อไฟเอซีระหว่างตัวเครื่องกับ

ปลั๊กไฟบนผนังบ้านของคุณ ให้แน่ใจว่าปลั๊กไฟของตัวเครื่อง

อยู่ในสถานะการณ์ที่พร้อมสำหรับการเข้าถึงได้ตลอดเวลา

เมื่อจำเป็นต้องแก้ปัญหาปัจจุบันทันด่วนในกรณีฉุกเฉิน

(สามารถถอดออกได้ง่าย)

การกดปุ่ม ON/STANDBY เพื่อเข้าสู่โหมด

สแตนด์บายนั้นจะยังไม่ใช่การปิดเครื่องเต็มทั้งร้อยเปอร์เซ็นต์

เป็นสถานะที่ยังคงมีไฟฟ้าไหลเข้าตัวเครื่องอยู่ ถ้าคุณตั้งใจว่า

จะไม่ใช้งานเครื่องติดต่อกันเป็นเวลานานๆ ให้ดึงสายไฟเอซี

ของเครื่องออกจากปลั๊กบนผนังบ้านจะมีความปลอดภัยมากกว่า

5 ป้องกันหูสูญเสียการได้ยิน

(Preventing Hearing Loss)

คำเตือน: ความดังของเสียงที่มากเกินไปจากหูฟัง

สามารถทำให้ประสาทหูสูญเสียการได้ยินได้

6 เกี่ยวกับแบตเตอรี่

(Batteries and Heat Exposure)

คำเตือน: ไม่ควรนำแบตเตอรี่ไปทิ้งไว้ในพื้นที่ที่มี

ปริมาณความร้อนสูงๆ อาทิ ท่ามกลางแสงแดด,

ใกล้เตาไฟ หรืออุปกรณ์ประเภทใดๆ ที่แผ่รังสี

ความร้อนออกมา

7 ห้ามแตะต้องเครื่องเมื่อมือเปียก:

ห้ามแตะต้องตัวเครื่อง หรือสายไฟเอซีของ

เครื่องในขณะที่ตัวหรือมือเปียกน้ำ หากมีน้ำ

หรือของเหลวใดๆ ไหลลอดเข้าไปในตัวเครื่อง

ให้รีบติดต่อตัวแทนจำหน่าย Onkyo ให้ทำการ

ตรวจเช็คโดยด่วน

8 เกี่ยวกับการขนย้าย:

• ถ้าต้องทำการขนย้ายเครื่องตัวนี้ ให้ใช้บรรจุ

ภัณฑ์ที่มากับตัวเครื่องในการแพ็คเท่านั้น

• ไม่ควรปล่อยทิ้งให้แผ่นพลาสติก โฟม หรือ

แผ่นยางที่มากับบรรจุภัณฑ์ติดคาอยู่บนตัว

เครื่องนานเกินไป เพราะวัสดุเหล่านั้นอาจจะ

ทำให้เกิดร่องรอยขึ้นบนตัวเครื่องได้

• ตัวเครื่องอาจจะมีความร้อนเกิดขึ้นได้ในขณะ

ใช้งานเป็นระยะเวลานาน ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ

• ถ้าไม่ได้ใช้งานเครื่องเป็นเวลานานมากๆ การ

ทำงานของเครื่องอาจจะอยู่ในลักษณะที่ไม่ปกติได้

เมื่อแรกเปิดขึ้นมาใช้งานใหม่ ฉนั้น แนะนำให้เปิด

ใช้งานเครื่องสม่ำเสมอ ไม่ควรจะปล่อยทิ้งไว้

นานมากเ้กินไป

Page 4: HT-S3300 Thai Version

4En

AV Receiver HT-R380

HT-R380 ( 7)

Remote controller and two batteries (AA/R6) ( 5)

Indoor FM antenna ( 18)

AM loop antenna ( 18)

Speaker Package HTP-380

Front speakers (SKF-380 L/R) ( 9)

Center speaker (SKC-380/SKC-380C) ( 9)

Surround speakers (SKR-380 L/R) ( 9)

Subwoofer (SKW-380) ( 9)

Speaker Package Accessories

Speaker cables for front speakers 11 ft. (3.5 m) (White and Red) ( 13)

Speaker cable for center speaker 10 ft. (3.0 m) (Green) ( 13)

Speaker cables for surround speakers 26 ft. (8.0 m) (Blue and Gray) ( 13)

Speaker cable for subwoofer 10 ft. (3.0 m) (Purple) ( 13)

16 thin rubber stoppers, 12 thick rubber stoppers ( 14)

4 floor pads for the subwoofer ( 14)

ข้อควรระวังในการใช้งานลำโพง

(Speaker Precautions)

� การจัดวาง:

• ตัวตู้ของลำโพงซับวูฟเฟอร์ทำมาจากไม้ ซึ่งจะค่อนข้างไวต่อ

อุณหภูมิและความชื้น ฉนั้น ไม่ควรวางลำโพงซับวูฟเฟอร์

ไว้ในตำแหน่งที่โดนแสงแดดโดยตรง หรือในตำแหน่งที่มี

ความชื้นสูง อย่างเช่น ใกล้กับแอร์คอนดิชั่น, เครื่องทำไอน้ำ,

ห้องน้ำ หรือห้องครัว เป็นต้น

• ไม่ควรวางภาชนะบรรจุน้ำ หรือบรรจุของเหลวไว้ ใกล้กับ

ตำแหน่งที่วางลำโพง ถ้าของเหลวหกรดลงบนตู้ลำโพง

อาจจะทำให้ตัวไดเวอร์(ดอกลำโพง) เกิดความเสียหายได้

• ควรวางลำโพงไว้บนพื้นที่ที่มีความเรียบ แข็งแรง มั่นคง

และปลอดจากคลื่นสั่นสะเทือน ซึ่งหากวางบนพื้นที่ที่ไม่

เรียบแน่นและไม่มั่นคง นอกจากจะทำให้เกิดความเสียหาย

กับตัวตู้ของลำโพงอันเนื่องมาจากเกิดการลื่นไถลตกหล่นแล้ว

ยังส่งผลทำให้คุณภาพเสียงแย่ลงด้วย

• ตัวตู้ของลำโพงซับวูฟเฟอร์ถูกออกแบบให้ใช้งาน ในลักษณะ

ตั้งตรงเป็นมุมฉากกับพื้นเท่านั้น ห้ามใช้งานโดยวางตัวตู้

ลงราบขนานกับพื้น หรือเอียงเฉียงเป็นอันขาด

• ถ้าวางตัวตู้ลำโพงซับวูฟเฟอร์ไว้ใกล้กับเครื่องเล่น แผ่นเสียง

เครื่องเล่นแผ่นซีดี หรือเครื่องเล่นแผ่น ดีวีดี/บลู-เรย์ฯ

อาจจะทำให้เกิดเสียงหวีดหอนได้ เพื่อป้องกันปรากฏการณ์นี้

ให้เคลื่อนย้ายลำโพงซับวูฟเฟอร์ให้ห่างออกจากเครื่องเล่น

แผ่นเสียง หรือเครื่องเล่นแผ่น CD/DVD/Blu-ray ถ้าไม่

หาย ให้ลดระดับความดังของลำโพงซับวูฟเฟอร์ลง

� วางไว้ใกล้ตำแหน่งของทีวี หรือมอนิเตอร์ของคอมพิวเตอร์:

ทีวีกับมอนิเตอร์ของคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิคที่ไวต่อคลื่น

แม่เหล็กไฟฟ้า ซึ่งจะส่งผลเสียต่อภาพขึ้นได้เมื่อนำลำโพงไปวางไว้ใกล้ๆ

กับทีวีหรือมอนิเตอร์ของคอมพิวเตอร์ เพื่อป้องกันสิ่งนี้: ภายในตัวตู้ของ

ลำโพงรุ่น SKF-380 กับรุ่น SKC-380/SKC-380C ได้มีการติดตั้งวัสดุ

ป้องกันการรั่วไหลของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเอาไว้ แต่ในบางสถานะการณ์ก็ยัง

อาจจะมีปัญหาสีเหลื่อมขึ้นได้เมื่อนำไปวางไว้ใกล้กับจอทีวีมากๆ ในกรณีนี้

ให้ทำการปิดสวิทช์ของทีวีหรือมอนิเตอร์ ทิ้งไว้ประมาณ 15-30 นาที จาก

นั้นให้กดสวิทช์เปิดทีวีหรือมอนิเตอร์ขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งโดยปกติแล้ว วิธีการนี้

จะเป็นเทคนิคที่เรียกว่า “degaussing function” คือการปรับตัวทีวีให้พ้น

จากการรบกวนของคลื่นสนามแม่เหล็กไฟฟ้าด้วยการทำให้สนามแม่เหล็ก

ไฟฟ้าอยู่ในสถานะที่เป็นกลาง (neutral) ลดการรบกวนลงไปได้แต่ถ้าปัญหา

สีเหลื่อมยังคงปรากฏอยู่ แสดงว่าลำโพงยังอยู่ชิดกับทีวีมากเกินไป ให้ขยับ

ลำโพงห่างออกมาจากทีวีทีละนิดจนกว่าปัญหาสีเหลื่อมจะหายไป

อย่าวางลำโพงรุ่น SKR-380 ไว้ชิดกับทีวี หรือมอนิเตอร์-คอมพิวเตอร์มาก

เกินไป เนื่องจากลำโพงรุ่นนี้ไม่มีระบบป้องกันการแพร่กระจายของคลื่น

แม่เหล็กไฟฟ้าจากภายในตัวตู้เอาไว้

� คำเตือนเกี่ยวกับความแรงของสัญญาณอินพุต:

ตัวลำโพงสามารถรองรับกับสัญญาณอินพุตได้ในระดับมาตรฐานที่ใช้ในการ

สร้างเสียงดนตรีตามปกติ ในกรณีที่มีสัญญาณแทรกซ้อนไหลเข้าไปที่

อินพุตของลำโพง แม้ว่าความแรงของสัญญาณอินพุตจะอยู่ในระดับปกติ

แต่สัญญาณแทรกซ้อนที่เล็ดลอดเข้าไปจะพุ่งตรงไปที่ขดลวด(ว๊อยซ์คอย)

ของตัวไดเวอร์ฯ ซึ่งถ้ามากเกินไป อาจทำให้ขดลวดวอยซ์คอยเกิดความ

ร้อนจนลุกไหม้ หรือเกิดความเสียหายขึ้นได้

ตัวอย่างลักษณะของสัญญาณแทรกซ้อนแบบต่างๆ ที่มีโอกาสที่จะเล็ดลอดเข้าไป

ทางช่องอินพุตของเพาเวอร์แอมป์:

1. สัญญาณรบกวนจากคลื่นสัญญาณ FM ที่ไม่ตรงกับความยาวคลื่นของสถานี

2. เสียงรบกวนจากการทำงานของระบบแมคคานิคของเครื่องเล่นเทปคาสเส็ท

เมื่อใช้ฟังท์ชั่น Fast-Forward

3. แพร่มาจากเครื่องดนตรีไฟฟ้าที่เสียบปลั๊กไฟชุดเดียวกัน และอื่นๆ

4. สัญญาณรบกวนความถี่สูงที่เกิดจากภาคออสซิเลเตอร์ของตัวเครื่องเอง

5. สัญญาณ Test Tone จากแผ่น Test CD

6. เสียงช็อตอันเนื่องจากการถอดสายสัญญาณหรือต่อเชื่อมสายสัญญาณโดยไม่

ปิดเครื่องก่อน

7. สัญญาณย้อนกลับจากไมโครโฟน

� สิ่งที่บรรจุมาในกล่อง (Package Contents):

ให้แน่ใจว่า มีสิ่งของเหล่านี้บรรจุมาในกล่องครบถ้วน

* ในสมุดแคตาล็อกและบนกล่อง ตัวอักษรที่ปรากฏอยู่ตอนท้ายของชื่อ

สินค้าเป็นโค๊ดระบุ “สีของตัวเครื่อง” ส่วนสเปคฯ ของเครื่องกับระบบ

การใช้งานต่างๆ ของแต่ละสีจะเหมือนกันหมด

Page 5: HT-S3300 Thai Version

5En

การใช้งานรีโมทคอนโทรล

Batteries (AA/R6)

Remote control sensor

AV receiver

Approx. 16 ft. (5 m)

วิธีใส่แบตเตอรี่

หมายเหตุ:

� ถ้าฟังท์ชั่นใช้งานของตัวรีโมท

ทำงานตอบสนองไม่คงที่

ให้ลองเปลี่ยนแบตเตอรี่

� ห้ามใช้แบตเตอรี่ต่างรูป

แบบผสมกัน

� ถ้าคิดว่าจะไม่ได้ใช้งานรีโมทติดต่อ

กันเป็นเวลานาน แนะนำให้แกะเอาแบตเตอรี่ออกจากตัวรีโมทเพื่อ

ป้องกันความเสียหายอันเนื่องจากการกัดกร่อนของกรดที่เล็ดรอด

ออกมาจากแบตเตอรี่

� แนะนำให้แกะเอาแบตเตอรี่ที่หมดอายุออกจากตัวรีโมทโดยเร็ว

เพื่อป้องกันความเสียหายอันเนื่องจากการกัดกร่อนของกรดที่

เล็ดรอดออกมาจากแบตเตอรี่

วิธีเล็งใช้งานตัวรีโมท

ในการใช้งานรีโมท ให้ชี้ตรงไปที่ตำแหน่งของตัวรับสัญญาณเซ็นเซอร์

รีโมทของตัวเอวี รีซีฟเวอร์ ตามภาพประกอบ

สารบัญ (Contents)

� แนะนำเบื้องต้น

คำแนะนำที่สำคัญสำหรับความปลอดภัย....................................... 2

คำเตือน .............................................................................. 3

ข้อควรระวังในการใช้งานลำโพง................................................. 4

รายการสิ่งที่บรรจุมาในกล่อง ..................................................... 4

ฟังท์ชั่นการใช้งาน ................................................................. 6

แผงด้านหน้าและแผงด้านหลังของตัวเครื่อง ..................................7

รายการลำโพงที่บรรจุมาในกล่อง ............................................... 9

รีโมท คอนโทรล ................................................................ 10

เกี่ยวกับโฮมเธียเตอร์ ........................................................... 11

� การเชื่อมต่อ

การเชื่อมต่อตัว เอวี รีซีฟเวอร์ .............................................. 12

� เปิดเครื่องใช้งานเบื้องต้น & การปรับตั้งเบื้องต้น

การเปิดใช้งานตัว เอวี รีซีฟเวอร์ ............................................. 20

การปรับตั้งเบื้องต้น ............................................................ 21

ฟังเพลงจากสถานีวิทยุ ............................. ........................... 23

การบันทึก ......................................................................... 26

วิธีการเลือกใช้โหมดเสียงสำหรับการฟัง ................................... 27

� การปรับตั้งชั้นสูง

การปรับตั้งชั้นสูง ................................................................ 30

� การควบคุมอุปกรณ์ iPod และควบคุมอุปกรณ์ตัวอื่นในระบบ

การควบคุมอุปกรณ์ iPod ..................................................... 40

การควบคุมอุปกรณ์ตัวอื่นในระบบ ........................................... 44

� อื่นๆ

ปัญหาการใช้งาน................................................................ 47

สเปคซิฟิเคชั่น .................................................................. 51

เกี่ยวกับ HDMI ................................................................. 53

การใช้งานระบบ RIHD เข้ากับ TV, เครื่องเล่น หรือเครื่องบันทึก... 54

* ถ้าต้องการปรับตั้งให้ค่าต่างๆ ของเอวี รีซีฟเวอร์ตัวนี้กลับไปสู่ค่าที่ถูกตั้งมาจาก

โรงงาน เริ่มด้วยการเปิดเครื่อง (On) กดปุ่ม VCR/DVR ค้างไว้ จากนั้นให้กดปุ่ม

ON/STANDBY (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่หน้่า 47)

Page 6: HT-S3300 Thai Version

6En

*1

*2

*3

*4

*5

*6

ฟังท์ชั่นใช้งาน (Features)

เอวี รีซีฟเวอร์ HT-R380

• 110 วัตต์/แชนเนล ที่ 6 โอห์ม

• 120 วัตต์/แชนเนล ที่ 6 โอห์ม (มาตรฐาน JEITA)

• วงจร Optimum Gain Volume

• ภาคเพาเวอร์ซัพพลายแบบกระแสสูง (High Current Power Supply H.C.P.S.)

โดยใช้ทรานฟอเมอร์ขนาดใหญ่

• ช่องต่อ HDMI (เวอร์ชั่น 1.4 พร้อมฟังท์ชั่น Audio Return Channel และ

สนับสนุนระบบภาพ 3D), Deep Color, x.v.Color*, Lip Sync, DTS*1-HD

Master Audio, DTS-HD High Resolution Audio, Dolby TrueHD*2,

Dolby Digital Plus, DSD และ Multi-CH PCM

• การตั้งค่าแบบไม่ปรับเปลี่ยนอัตราส่วน

• การบันทึกโหมดการรับฟังแบบ A-Form

• โหมดต่อตรง (Direct Mode)

• ระบบเสียง Music Optimizer*3 สำหรับไฟล์เสียงดิจิตัลแบบบีบอัด

• ภาคแปลงสัญญาณดิจิตัลเป็นอะนาลอกระดับ 192khz/24bit

• ชิป DSP Processing ขนาด 32-bit ที่ทรงพลังและให้ความแม่นยำสูง

• ช่องอินพุต HDMI*4 จำนวน 3 ช่อง, กับช่องเอ๊าต์พุตอีก 1 ช่อง

• ระบบ RIHD ลิขสิทธิ์ของ Onkyo สำหรับการควบคุมสั่งงานระบบ

• ช่องต่อสำหรับสัญญาณเสียงดิจิตัล 3 ช่อง (อ๊อปติคัล = 2, โคแอ๊คเชี่ยล 1)

• ช่องต่อสัญญาณคอมโพเน้นต์สำหรับภาพ (อินพุต = 2, เอ๊าต์พุต = 1)

• ขั้วต่อ Universal Port สำหรับ iPod Dock/HD RadioTM*5 จูนเนอร์โมดูล

(สำหรับเวอร์ชั่นที่จำหน่ายในโซนอเมริกาเหนือ)/DAB+ จูนเนอร์โมดูล

(สำหรับเวอร์ชั่นที่จำหน่ายในโซนเอเซีย)

• ขั้วต่อสายลำโพงที่สามารถเสียบขั้วต่อแบบบานาน่า ปลั๊กได้ (เฉพาะลำโพง

คู่หน้าของชุด A เท่านั้น)

• ปรับตั้งสถานีวิทยุ FM/AM ล่วงหน้าได้ 40 สถานี

• ระบบปรับแต่งเสียง Audyssey EQ*6 สำหรับแก้ปัญหาอะคูสติกของห้อง

• ระบบปรับแต่งเสียง Audyssey Dynamic EQ*6 สำหรับแก้ปัญหา Loudness

• ระบบปรับแต่งเสียง Audyssey Dynamic Volume*5 สำหรับปรับระดับความ

ดังกับไดนามิกเร้นจ์ของเสียงให้คงที่อยู่ในระดับที่ตั้งไว้ตลอดเวลา

• ระบบ EX.BASS เพื่อเสียงทุ้มที่นุ่มลึกเป็นธรรมชาติ

• ปรับตั้งจุดตัดความถี่ได้ 8 ตำแหน่ง (40/50/60/80/100/120/150/

200Hz)

• ระบบ A/V Sync Control สำหรับใช้ปรับเสียงให้ตรงกับภาพ ซึ่งสามารถ

ปรับได้มากถึง 100 มิลลิเซคัล

• ฟังท์ชั่นแสดงการสั่งงานขึ้นบนจอ (หรือ On-Screen Display) ผ่านทาง

ช่อง HDMI

ผลิตภายใต้สิทธิ์ที่ได้รับอนุญาติจากทะเบียนสิทธิบัตรหมายเลข U.S. Patents # 5,

451,942; 5,956,674; 5,974,380; 5,978,762; 6,226,616; 6,487,535;

7,212,872; 7,333, 929; 7,392,195; 7,272,567 & สิทธิบัตรอื่นๆ ที่บังคับ

ใช้ได้ทั่วโลก DTS เป็นเครื่องหมายการค้าที่จดทะเบียนไว้ รวมถึงโลโก้ DTS ก็เป็น

เครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของบริืษัท DTS, Inc.

� 1996-2008 DTS, Inc. All Right Reserved.

ผลิตภายใต้สิทธิ์ที่ได้รับอนุญาติโดยบริษัท Dolby Laboratories. “Dolby”, “Pro Logic”

และสัญญาลักษณ์ DD เป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัท โดลบี้ แล็บฯ

Music OptimizerTM เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของบริษัท Onkyo Corporation.

HDMI, และ HDMI โลโก้ กับคำว่า High Definition Multimedia Interface เป็น

เครื่องหมายการค้าจดทะเบียน หรือเครื่องหมายการค้าลงทะเบียนของบริษัท HDMI

Licensing, LLC. ใช้ควบคุมทั้งในประเทศสหรัฐอเมริกา และประเทศอื่นๆ

โลโก้ HD Radio Ready เป็นเครื่องหมายการค้าจดลิขสิทธิ์ของ iBiquity Digital Corp.

ในการรับฟังสัญญาณออกอากาศของ HD Radio คุณจะต้องติดตั้งโมดูลภาครับสัญญาณ

UP-HT1 HD Radio ของ Onkyo ด้วย (แยกขายต่างหาก)

ผลิตภายใต้สิทธิ์ที่ได้รับอนุญาติจากบริษัท Audyssey LaboratoriesTM. U.S. และ

สิทธิบัตรอื่นๆ Audyssey EQTM Audyssey Dynamic VolumeTM และ Audyssey

Dynamic EQTM เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของบริษัท Audyssey

Laboratories.

* Apple และ iPod เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของบริษัท Apple Inc.,

ซึ่งได้จดทะเบียนไว้ใน U.S. และประเทศอื่นๆ

* “x.v.Color” เป็นเครื่องหมายการค้าของ Sony Corporation.

ชุดลำโพง HTP-380 Speaker Package

SKF-380 L/R Full-Range ลำโพงคู่หน้า

SKC-380 (รุ่นที่มีเฉพาะในแถบอเมริกาเหนือ)/SKC-380C (รุ่นที่มีเฉพาะในแถบเอเซีย)

Full-Range ลำโพงเซ็นเตอร์

• ตัวขับเสียงแบบตอบสนองเต็มย่านความถี่เสียง ขนาด 8 ซ.ม. (3-1/4 นิ้ว)

• ตกแต่งผิวนอกแบบมันวาว

• รองรับกำลังขับทางด้านอินพุตสูงสุดได้ 120 วัตต์

• มีชิลด์ป้องกันสนามแม่เหล็กภายในตัวตู้

• มีโค๊ดสีกำกับที่ขั้วต่อสายลำโพง และที่สายลำโพงที่ตรงกัน

• ความต้านทานเท่ากับ 6 โอห์ม

SKR-380 L/R Full-Range ลำโพงเซอร์ราวนด์

• ตัวขับเสียงแบบตอบสนองเต็มย่านความถี่เสียง ขนาด 8 ซ.ม. (3-1/4 นิ้ว)

• ตกแต่งผิวนอกแบบมันวาว

• รองรับกำลังขับทางด้านอินพุตสูงสุดได้ 120 วัตต์

• มีโค๊ดสีกำกับที่ขั้วต่อสายลำโพง และที่สายลำโพงที่ตรงกัน

• ความต้านทานเท่ากับ 6 โอห์ม

SKW-380 Bass Reflex ลำโพงซับวูฟเฟอร์แบบตู้เปิด

• ตัวขับเสียงทรงกรวยขนาด 20 ซ.ม. (8 นิ้ว)

• ยิงความถี่ต่ำลงด้านล่าง (ลงพื้น)

• มีโค๊ดสีกำกับที่ขั้วต่อสายลำโพง และที่สายลำโพงที่ตรงกัน

Page 7: HT-S3300 Thai Version

7En

แผงหน้าปัด

North American models

Asian models

แผงด้านหน้า กับแผงด้านหลังของตัวเครื่อง (Front & Rear panels)

บนแผงหน้าปัดตัวจริงของเครื่องมีโลโก้หลายตัวพิมพ์ประทับอยู่ ที่ไม่นำมาโชว์ที่นี่เพราะต้องการให้มองเห็นรายละเอียดส่วนอื่นๆ ได้อย่างชัดเจนที่สุด

ตัวเลขแสดงเลขที่หน้าที่วงเล็บไว้ด้านหลังเพื่อให้ง่ายต่อการลัดเข้าไปอ่านรายละเอียดแต่ละหัวข้อได้อย่างรวดเร็ว

ปุ่ม ON/STANDBY ( 20)

ใช้กดเลือกให้ เอวี รีซีฟเวอร์ อยู่ในสถานะ “เปิด” (พร้อมทำงาน) กับ

“สแตนด์บาย” (เตรียมพร้อม)

ไฟ STANDBY indicator ( 20)

สว่างขึ้นเมื่อตัว เอวี รีัซีฟเวอร์อยู่ในสถานะ “เตรียมพร้อม” และจะกระพริบ

เมื่อได้รับสัญญาณมาจากรีโมทฯ

ไฟแสดงสถานะ HDMI THRU ( 36)

ปุ่ม SPEAKER A & B ( 11, 22)

ใช้กดเพื่อเลือกใช้ชุดลำโพง A และ/หรือ B

ตัวรับเซ็นเซอร์ Remote control ( 5)

เป็นจุดรับสัญญาณควบคุมสั่งงานที่ส่งมาจากตัวรีโมทฯ

ปุ่ม -, +, และปุ่ม TONE ( 39)

ใช้กดเพื่อปรับเพิ่ม/ลดเสียงทุ้ม (bass) และเสียงแหลม (treble)

จอแสดงผล ( 8)

ปุ่ม Listening Mode ( 27)

ปุ่ม DIMMER (เฉพาะรุ่นที่จำหน่ายในทวีปอเมริกาเหนือ) ( 21)

ปุ่ม MEMORY ( 24)

ปุ่ม TUNING MODE ( 23)

ปุ่ม DISPLAY ( 21)

ปุ่ม SETUP ( 30)

ปุ่ม TUNING, PRESET ( 23 ถึง 24), ปุ่มลูกศรสี่ทิศ,

และปุ่ม ENTER

ปุ่ม RETURN

ปุ่มควบคุม MASTER VOLUME ( 21)

ปุ่ม MUSIC OPTIMIZER ( 21, 38)

รูเสียบ PHONES jack ( 22)

ปุ่มเลือกอินพุต (input selector)( 21)

ช่องรับขั้วต่อ AUX สำหรับสัญญาณ LINE IN ( 17)

ปุ่ม RT/PTY/TP (เฉพาะรุ่นที่จำหน่ายในเอเซีย) ( 24)

Page 8: HT-S3300 Thai Version

8En

จอแสดงผล

แผงด้านหลังเครื่อง

สำหรับข้อมูลโดยละเอียด, ให้ดูจากคู่มือตามหมายเลขหน้าที่ระบุต่อท้าย

A and B speaker indicator (แสดงการเลือกใช้ลำโพง)( 11, 22)

Audio input indicators (แสดงรูปแบบสัญญาณออดิโออินพุต)

Listening mode and format indicators (แสดงรูปแบบสัญญาณออดิโอ

กับโหมดการรับฟัง)( 21, 27)

Audyssey indicator (แสดงรูปแบบของฟังท์ชั่น Audyssey)( 34, 38)

Tuning indicators (แสดงรูปแบบของคลื่นวิทยุ)( 23)

แสดงสถานะการรับสัญญาณวิทยุ RDS (ไม่มีสำหรับรุ่นที่ขาย

ในทวีปอเมริกาเหนือ)( 24)

SLEEP indicator (แสดงการตั้งเวลาปิดเครื่อง)( 22)

MUTING indicator (แสดงสถานะภาพหยุดเสียงชั่วคราว)

( 22)

Message area (พื้นที่สำหรับแสดงผลข้อมูลต่างๆ)

ขั้วต่อ DIGITAL IN COAXIAL และ OPTICAL

ขั้วต่อ COMPONENT VIDEO IN และ OUT

ขั้วต่อ HDMI IN และ OUT

ขั้วต่อสายอากาศวิทยุ FM และ AM

ขั้วต่อสัญญาณวิดีโอสำหรับช่อง MONITOR OUT

ขั้วต่อ UNIVERSAL PORT7

ขั้วต่อสายลำโพงสำหรับคู่หน้า FRONT SPEAKERS A

ขั้วต่อสัญญาณเสียงสำหรับลำโพง SUBWOOFER

ขั้วต่อสายลำโพงสำหรับ SURROUND และ CENTER

ขั้วต่อสายลำโพงสำหรับคู่หน้า FRONT SPEAKERS B

สายไฟเอซี

ช่องรับแจ๊ครีโมท คอนโทรล

ช่องอินพุตสำหรับสัญญาณภาพคอมโพสิต วิดีโอ และสัญญาณเสียงอะนาลอก

(BD/DVD IN, VCR/DVR IN และ OUT, CBL/SAT IN, GAME IN,

TV/CD IN)

ดูหัวข้อ “การเชื่อมต่อ เอวี รีซีฟเวอร์” สำหรับรายละเอียดของการเชื่อมต่อที่หน้า

( 12 ถึงหน้า 19)

Page 9: HT-S3300 Thai Version

9En

คำเตือน

คู่หน้า, เซ็นเตอร์, เซอร์ราวด์ และซับวูฟเฟอร (SKF-380, SKC-380/SKC-380C, SKR-380, SKW-380)

SKF-380 SKR-380

SKW-380SKC-380/SKC-380C

Front Rear

Front Rear

Rear

Front

Front

Rear

ชุดลำโพง (Speaker Package)

ขั้วต่อสายลำโพง (Speaker terminals)

ขั้วต่อสายลำโพงแบบกดหนีบเหล่านี้มีไว้สำหรับใช้ต่อเชื่อมกับสาย

ลำโพงที่ให้มากับเอวี รีซีฟเวอร์ HT-R380 ซึ่งสายลำโพงทั้งหมด

ที่ให้มานั้นจะมีโค๊ดสีกำกับไว้แต่ละเส้นให้ง่ายต่อการแยกแยะ

เพียงแค่ต่อเชื่อมสายลำโพงแต่ละเส้นเข้ากับขั้วต่อสายลำโพงแบบ

กดหนีบที่อยู่บนตัวลำโพงให้ตรงขั้วบวก (สีแดง) และลบ (สีดำ)

รูคล้อง (Keyhole slots)

รูคล้องเหล่านี้มีไว้ให้ใช้สำหรับการติดตั้งลำโพงแขวนติดอยู่บนผนัง

(ให้ดูรายละเอียดการใช้งานแบบติดบนผนัง “Wall Mounting”

เพิ่มเติมที่หน้า 14)

แผงหน้ากากของตัวลำโพงมิได้ออกแบบมาให้สามารถถอดได้ ซึ่งหากพยายาม

ที่จะถอดหน้ากากลำโพงออกอาจจะทำให้เกิดความเสียหายกับตัวลำโพงและ

หน้ากากลำโพงได้

Page 10: HT-S3300 Thai Version

10En

การควบคุมการสั่งงานตัว เอวี รีซีฟเวอร์ ด้วยรีโมทคอนโทรล

รีโมท คอนโทรล (Remote Controller)

ก่อนควบคุมสั่งงานตัว เอวี รีซีฟเวอร์ ให้กดปุ่ม RECIEVER บนตัวรีโมท

ซะก่อน เพื่อเป็นการเลือกโหมดสั่งงานของตัวเอวี รีซีฟเวอร์ขึ้นมาเตรียม

พร้อม คุณสามารถใช้รีโมทฯ ในการควบคุมสั่งงานเครื่องเล่น Blu-ray

Disc/เครื่องเล่น DVD, เครื่องเล่น CD รวมถึงอุปกรณ์ตัวอื่นๆ ของ

Onkyo ได้ (ดูรายละเอียดการเพิ่มเติมโค๊ดของรีโมท “Entering Remote

Conttrol” เพิ่มเติมที่หน้า 44)

สำหรับข้อมูลโดยละเอียด ให้พลิกไปดูในสมุดคู่มือตามเลขหน้าที่กำกับไว้

ตอนท้าย

ปุ่ม ON/STANDBY ( 20)

ปุ่ม REMOTE MODE/INPUT SELECTOR ( 21, 44–45)

ปุ่มเพิ่มและลดทุ้ม-แหลม (TONE + และ –)( 39)

ปุ่มเลือกใช้ชุดลำโพงระหว่างชุด A กับชุด B (SP A/B)( 11, 22)

ปุ่มลูกศรสี่ทิศ / / / และปุ่ม ENTER

ปุ่ม SETUP ( 30)

ปุ่มเลือกโหมดการรับฟัง (LISTENING MODE)( 27)

ปุ่มหรี่ไฟหน้าปัด (DIMMER)( 21)

ปุ่ม DISPLAY ( 21)

ปุ่มลดเสียงชั่วคราว (MUTING)( 22)

ปุ่มวอลลุ่ม (VOL / )( 21)

ปุ่ม RETURN

ปุ่ม AUDIO ( 37)

ปุ่มตั้งเวลาปิดเครื่อง (SLEEP)( 22)

การควบคุมภาคจูนเนอร์ (Controlling the tuner)

เมื่อต้องการควบคุมการทำงานของภาคจูนเนอร์ (วิทยุ)

ให้กดปุ่ม TUNER (หรือปุ่ม RECEIVER) และคุณ

สามารถเลือกคลื่น AM กับ FM ได้ด้วยการกดปุ่ม TUNER

ซ้ำๆ ไป

ปุ่มลูกศร / ( 23)

ปุ่ม D.TUN ( 23)

ปุ่ม DISPLAY ( 24)

ปุ่ม TUN MODE ( 23)

ปุ่ม CH +/– ( 24)

ปุ่ม Number ( 23)

Page 11: HT-S3300 Thai Version

11En

ลำโพงชุด A และชุด B

Speakers A Speakers B Indicator Output

slennahc 1.2 :A srekaepSnOnOSpeakers B: 2 channels

slennahc 1.5 :A srekaepSffO

slennahc 2 :B srekaepSnOffO

dnuos oNffO

เพลิดเพลินกับระบบโฮมเธียเตอร์

A B

A

B

Corner position

1/3 of wall position

Speakers A: Main Room

Speakers B: Sub Room

เกี่ยวกับระบบโฮม เธียเตอร์ (About Home Theater)

คุณสามารถใช้งานลำโพงกับตัวเอวี รีซีฟเวอร์ได้พร้อมกัน 2 ชุด: คือ speaker set A กับ speaker set B ซึ่ง speaker set A นี้ควรเป็นชุดลำโพงที่ใช้งานภายในห้อง

หลัก ด้วยระบบเสียง 5.1 Ch. (* ในขณะที่เปิดใช้ speaker set B พร้อมกัน, speaker set A จะลดลงเหลือแค่ 2.1 Ch.) ส่วน speaker set B สามารถนำไปใช้

กระจายเสียงในห้องอื่นได้ ซึ่งให้จำนวนแชนเนลเท่ากับ 2 Ch. ในระบบสเตริโอ

ต้องขอบคุณประสิทธิภาพอันล้นเหลือของ เอวี รีซีฟเวอร์ตัวนี้ที่ทำให้คุณสามารถมีความสุขกับการรับฟังระบบเสียงเซอร์ราวนด์ที่ให้บรรยากาศสมจริงได้ในบ้านของ

คุณเอง เสมือนกับได้เข้าไปนั่งชมอยู่ภายในโรงภาพยนตร์ หรือคอนเสิร์ต ฮอลล์ และด้วยเครื่องเล่นแผ่นบลู-เรย์ฯ จะทำให้คุณสามารถรับฟังระบบเสียง DTS และ

Dolby Digital ได้ และด้วยภาครับสัญญาณทีวีอะนาลอก หรือดิจิตัล-ทีวี จะทำให้คุณสามารถรับฟังระบบเสียงเซอร์ราวนด์ Dolby Pro Logic II, DTS Neo:6, หรือ

ระบบเสียงจากโหมด DSP Listening Modes ของ Onkyo เองด้วย ลำโพงคู่หน้า Front speakers (SKF-380)

สัญญาณเสียงจากลำโพงคู่นี้จะครอบคลุมสนามเสียงโดยรวมทั้งหมด เป็นแชนเนลที่ถูกกำหนด

ให้แสดงบทบาทในการสร้างอิมเมจเสียง ควรจะติดตั้งในลักษระหันหน้ายิงตรงเข้าหาตำแหน่งนั่งฟัง

ด้วยความสูงระดับหูของผู้ฟัง และ (แต่ละข้าง) ควรจะวางห่างออกมาจากทีวีด้วยระยะทางที่เท่ากัน

ควรปรับเอียงหน้าลำโพงทั้งสองข้างยิงเข้าหาตำแหน่งนั่งฟังทำมุมสามเหลี่ยมด้านเท่าโดยมีตำแหน่ง

นั่งฟังอยู่ตรงจุดยอดของสามเหลี่ยม

ลำโพงเซ็นเตอร์ (SKC-380/SKC-380C)

สัญญาณเสียงจากแชนเนลนี้จะช่วยเสริมความสมบูรณ์ให้กับลำโพงคู่หน้า ทำให้การเคลื่อนตัวของ

เสียงมีความต่อเนื่องและช่วยเสริมภาพของสนามเสียงให้กว้างเต็มมากขึ้น ในระบบเสียงของ

ภาพยนตร์ แชนเนลนี้มักจะถูกใช้บันทึกสัญญาณเสียงสนทนาของตัวละครในเรื่อง ให้ติดตั้งไว้ใกล้กับ

ทีวี หันแผงหน้าของตัวลำโพงชี้ตรงไปหาตำแหน่งนั่งฟังด้วยความสูงระดับหู หรือด้วยระดับความสูง

เท่ากันกับลำโพงคู่หน้า

* ในขณะที่ลำโพงชุด B ถูกเปิดใช้งาน ลำโพงตัวนี้จะไม่มีเสียงออก

ลำโพงเซอร์ราวนด์ (SKR-380)

ลำโพงคู่นี้จะช่วยเพิ่มความคมชัดของตำแหน่งเสียงและช่วยเพิ่มความสมจริงของบรรยากาศไป

พร้อมกัน ให้ติดตั้งไว้ด้านข้างของตำแหน่งนั่งฟัง หรือเยื้องไปด้านหลังเล็กน้อย ด้วยความสูงเหนือ

ระดับหูขึ้นไปประมาณ 2-3 ฟุต (60-100 ซ.ม.) ซึ่งในอุดมคติแล้ว ลำโพงเซอร์ราวนด์ทั้งสองข้าง

ควรจะมีระยะห่างจากตำแหน่งนั่งฟังเท่าๆ กัน

* ในขณะที่ลำโพงชุด B ถูกเปิดใช้งาน ลำโพงคู่นี้จะไม่มีเสียงออก

ลำโพงซับวูฟเฟอร์ (SKW-380)

ลำโพงซับวูฟเฟอร์เป็นลำโพงที่ถูกกำหนดมาให้ถ่ายทอดเสียงทุ้มจากร่องเสียง LFE

(Low-Frequency Effects) ที่บันทึกมาบนแผ่น ซึ่งระดับความดังและคุณภาพเสียงทุ้มของลำโพง

ซับวูฟเฟอร์ของคุณจะขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่คุณติดตั้ง และขึ้นอยู่กับรูปทรงกับขนาดของห้อง และ

ขึ้นอยู่กับตำแหน่งนั่งฟังด้วย โดยปกติแล้ว ลำโพงซับวูฟเฟอร์จะให้เสียงทุ้มได้ดีเมื่อถูกติดตั้งไว้ที่

มุมห้องด้านหน้า หรือที่ตำแหน่งระยะหนึ่งในสามของความกว้างของผนังห้อง

(ด้านที่วางซับวูฟเฟอร์ตัวนั้น)

เคล็ดลับ

ในการค้นหาตำแหน่งที่ดีที่สุดสำหรับติดตั้งลำโพงซับวูฟเฟอร์ ให้ทำการเปิดภาพยนตร์หรือ

ดนตรีที่มีเสียงทุ้มคุณภาพดีและค่อนข้างเด่น จากนั้นให้ทดลองขยับเลื่อนหาตำแหน่งวางซับ

วูฟเฟอร์วนไปเรื่อยๆ ภายในห้องนั้น และเลือกใช้ตำแหน่งที่ให้เสียงดีที่สุด

Page 12: HT-S3300 Thai Version

12En

การติดตั้งลำโพง

Connecting the AV Receiver

กำหนดจำนวนลำโพงที่ใช้

ในตารางด้านล่างนี้จะแสดงจำนวนแชนเนลของสัญญาณที่คุณสามารถใช้ได้ ซึ่ง

ขึ้นอยู่กับจำนวนลำโพงที่คุณมีอยู่ทั้งหมดสำหรับการรับฟังระบบเสียงเซอร์ราวนด์

5.1 แชนเนลนั้นคุณจำเป็นต้องใช้ลำโพงบริวารจำนวน 5 ตัวบวกกับลำโพงแอ๊คทีฟ

ซับวูฟเฟอร์อีก 1 ตัว

จำนวนแชนเนลของสัญญาณ 2 3 4 5

ลำโพงคู่หน้า

ลำโพงเซ็นเตอร์ลำโพงเซอร์ราวนด์

ไม่ว่าคุณจะใช้ลำโพงจำนวนกี่ตัว แนะนำให้ใช้ลำโพงแอ๊คทีฟ ซับวูฟเฟอร์ที่มี

กำลังสูงพอและให้เสียงทุ้มที่ดีพอ

เพื่อให้ได้คุณภาพเสียงที่ดีที่สุดจากระบบเซอร์ราวนด์ของคุณ คุณจะต้องเข้าไป

ทำการปรับตั้งค่าของฟังท์ชั่น Speaker Settings (ในเอวี รีซีฟเวอร์) ซึ่งคุณ

สามารถดูวิธีปรับตั้งด้วยวิธีแมนน่วลได้ที่หน้า 32

การต่อเชื่อมสายลำโพง

ตรงขั้วบวก (+) ของขั้วต่อสายลำโพงของตัวเอวี รีซีฟเวอร์จะถูกย้อมสีต่างๆ

เอาไว้โดยแยกตามลักษณะตำแหน่งของแชนเนลเสียงเพื่อให้ง่ายต่อการสังเกต

แยกแยะ (ขั้วต่อที่เป็นขั้วลบ (-) นั้นจะใช้สีดำทั้งหมด)

ลำโพง โค๊ดสี

คู่หน้า ซ้าย ขาว

คู่หน้า ขวา แดง

เซ็นเตอร์ เขียว

เซอร์ราวนด์ ซ้าย ฟ้า

เซอร์ราวนด์ ขวา เทา

ซับวูฟเฟอร์ ม่วง

ข้อควรระวังในการต่อเชื่อมลำโพง

อ่านข้อมูลต่อไปนี้ให้ละเอียด ก่อนทำการต่อเชื่อมลำโพงของคุณ:

• คุณสามารถต่อเชื่อมลำโพงที่มีความต้านทาน (impedance) เท่ากับ 6 โอห์ม

หรือสูงกว่า ถ้าคุณใช้ลำโพงที่มีความต้านทานต่ำกว่า 6 โอห์ม และเร่งเสียงของ

แอมป์ไปที่ระดับวอลลุ่มสูงๆ เป็นระยะเวลานานติดต่อกัน อาจจะทำให้วงจร

ป้องกันความเสียหายภายในตัวแอมป์เริ่มทำงาน (ตัดการทำงานของแอมป์

ไม่ให้มีเสียงออกลำโพง)

• อย่าเพิ่งเสียบสายไฟเอซีของแอมป์เข้ากับเต้ารับบนผนัง ถ้าเสียบไว้ให้ถอดออก

ก่อนทำการต่อเชื่อมใดๆ

• อ่านข้อมูลการใช้งานที่มากับลำโพงให้ละเอียด

• ใช้ความละเอียดอย่างเต็มที่ในการต่อเชื่อมขั้วสัญญาณ (wiring polarity)

ให้ถูกต้อง โดยขั้วบวก (+) จะ “ต้อง” ต่อเชื่อมเข้ากับขั้วบวก (+) เท่านั้น

และขั้วลบ (-) ก็จะ “ต้อง” ถูกต่อเชื่อมเข้ากับขั้วลบ (-) เท่านั้น ถ้าคุณต่อเชื่อม

ผิดขั้ว (สลับขั้ว) เสียงที่ได้จะสลับเฟส ให้น้ำเสียงที่ไม่เป็นธรรมชาติ

• สายลำโพงที่ยาวเกินไป หรือสายลำโพงที่มีขนาดเส้นลวดตัวนำที่เล็กมากๆ

จะส่งผลเสียต่อคุณภาพของเสียงซึ่งควรจะหลีกเลี่ยง

• ระวังอย่าให้สายลำโพงขั้วบวกกับขั้วลบแตะกัน จะทำให้เอวี รีซีฟเวอร์

เกิดความเสียหายได้

• ให้มั่นใจว่า แกนตัวนำที่เป็นโลหะของตัวสายไม่ไปแตะโดนตัวถังด้านหลัง

ของตัวเอวี รีซีฟเวอร์ มิฉนั้น จะทำให้เอวี รีซีฟเวอร์เกิดความเสียหายได้

• อย่าต่อสายลำโพงมากกว่าหนึ่งเส้นเข้าไปที่ขั้วต่อลำโพงของแอมป์ ซึ่ง

จะทำให้เกิดความเสียหายต่อตัวเอวี รีซีฟเวอร์ได้

• อย่าต่อเชื่อมลำโพงจากหลายๆ ขั้วต่อของแอมป์พร้อมๆ กัน

Page 13: HT-S3300 Thai Version

13En

1/2" to 5/8" (12 to 15 mm)

3/8" to 1/2" (10 to 12 mm)

Surround right

speaker

Surround left

speaker

Front right speaker A

Front left speaker A

Center speaker

Subwoofer

Blue

Red

Gray

PurpleWhite

Green

Front right speaker B

Front left speaker B

Speakers BSpeakers A

วิธีต่อเชื่อมสายลำโพง

การต่อสายลำโพงเข้ากับขั้วต่อสายลำโพงแบบขันยึด

ปอกพลาสติกหุ้มสายลำโพงตรงส่วนปลายสายออกประมาณ

15 มิลลิเมตร (5/8 นิ้ว) แล้วใช้นิ้วบิดเส้นลวดตัวนำของ

สายให้แน่น (สายลำโพงที่แถมมาให้ได้ปอกพลาสติกหุ้ม

ให้แล้ว) จากนั้นให้คลายล็อคตัวยึดสายลำโพงของขั้วต่อ

สายลำโพงออก เอาปลายสายส่วนที่เป็นเส้นลวดตัวนำที่

ปอกเอาไว้สอดเข้าไปในช่องว่างเล็กๆ ของขั้วต่อสายลำโพงจากนั้นให้ขันตัวยึดให้ล็อคกลับเข้าไปจนแน่น

ในกรณีที่ใช้แจ๊คเสียบสายลำโพงแบบบานาน่า (เฉพาะรุ่นที่จำหน่ายในทวีปอเมริกาเหนือ)

� ถ้าใช้แจ๊คบานาน่าเป็นตัวกลางในการต่อเชื่อม ให้ขันตัวยึดสายลำโพงของขั้วต่อสายลำโพงเข้าไปให้แน่นซะก่อน

� อย่าเสียบปลายสายลำโพงเปลือยๆ เข้าไปตรงแกนในของขั้วต่อสายลำโพง

การต่อสายลำโพงเข้ากับขั้วต่อสายลำโพงแบบกดหนีบ

ปอกพลาสติกหุ้มสายลำโพงตรงส่วนปลายสายออกประมาณ 10-12 มิลลิเมตร

(3/8 นิ้วถึง � นิ้ว) แล้วใช้นิ้วบิดเส้นลวดตัวนำของสายให้แน่น

(สายลำโพงที่แถมมาให้ได้ปอกพลาสติกหุ้มให้แล้ว) จากนั้นให้แยงปลายสาย

ลำโพงเข้าไปในรูตรงกลาง แล้วปล่อยตัวลีอคของขั้วต่อเพื่อให้สปริงดีดตัวขึ้นไป

กดหนีบปลายสายเอาไว้

Page 14: HT-S3300 Thai Version

14En

ข้อควรระวัง

การยึดลำโพงเข้ากับอุปกรณ์ติดผนัง (Wall Mounting)

Keyhole slot for wall mounting

Thick rubber stoppers

Keyhole slot for wall mounting

Thick rubber stoppers

8-9/16" (217 mm)

Keyhole slot for wall mounting

Thick rubber stoppers

ใช้แผ่นยางรองใต้ลำโพง เพื่อความหนาแน่น มั่นคง

ใช้แผ่นรองพื้นสำหรัรบลำโพงซับวูฟเฟอร์

Wall

3/16" to 7/16 "(5 mm to 10 mm)

2-3/16"(55 mm)

1/2" (12 mm)

Thin rubber stoppers

Bottom of the SKF-380

Bottom of the SKR-380

Thick rubber stoppers

Bottom of the SKC-380/SKC-380C

Pad

ตัวลำโพงสามารถแขวนขึ้นไปบนผนังห้องได้อย่างง่ายดายด้วยรูคล้องที่ให้มา

เพื่อป้องกันตัวลำโพงสั่นกระแทกกับผนังห้อง ให้ใช้แผ่นยางหนาสองแผ่น

ที่ให้มาในกล่องติดเข้ากับผนังด้านหลังของตัวลำโพงแต่ละตัว

ติดตั้งลำโพงคู่หน้า หรือลำโพงเซอร์ราวนด์ให้อยู่ในแนวตั้ง โดยใช้รูคล้อง

ด้านหลังลำโพงเป็นตัวยึดเข้ากับหัวน็อตที่เจาะลงไปในผนังอย่างแน่นหนา

ลำโพงคู่หน้า (SKF-380)

ลำโพงเซอร์ราวนด์ (SKR-380)

ติดตั้งลำโพงเซ็นเตอร์ให้อยู่ในแนวนอน โดยใช้รูคล้องด้านหลังลำโพง 2 รู

เป็นตัวยึดเข้ากับหัวน็อตที่เจาะลงไปในผนังอย่างแน่นหนา

ลำโพงเซ็นเตอร์ (SKC-380/SKC-380C)

� ความสามารถในการรับน้ำหนักลำโพงของน็อตที่เจาะลงไปในผนังนั้น

จะขึ้นอยู่กับลักษณะการเจาะยึดของตัวน็อตเองว่าเจาะลงไปได้แน่นหนา

มากแค่ไหน กับลักษณะของผนังด้วย คือถ้าเป็นผนังที่ก่อด้วยอิฐมวลเบา

หรืออิฐที่มีเนื้อพรุนอย่างเช่นอิฐบล็อก แนะนำให้ใช้พุกพลาสติกร่วมกับน็อต

ที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของส่วนหัวน็อตประมาณ 9 มิลลิเมตร

(5/16 นิ้ว) และมีขนาดหน้าตัดของช่วงเกลียวประมาณ 4 มิลลิเมตร

(1/8 นิ้ว) และก่อน ทำการเจาะลงไปบนผนังให้ตรวจสอบตำแหน่งของท่อน้ำ

หรือท่อสายเคเบิ้ลรวมถึงสายไฟซะก่อน

� หลังจากขันน็อตเข้าไปแล้ว ให้เว้นช่องว่าง

ของตัวเกลียวห่างจากผนังออกมาประมาณ

5 มิลลิเมตร (3/16 นิ้ว) ถึง 10 มิลลิเมตร

(7/16 นิ้ว) แนะนำให้ปรึกษา

ช่างติดตั้งถ้าไม่มั่นใจในการติดตั้ง

แนะนำให้ใช้แผ่นยางที่ให้มาเพื่อให้ได้คุณภาพเสียงที่ดีที่สุดเท่าที่ควรจะเป็น

ซึ่งแผ่นยางดังกล่าวจะช่วยทำให้ส่วนฐานของตัวลำโพงมีความแน่นหนามากขึ้น

ป้องกันไม่ให้ตัวลำโพงเคลื่อนไปจากตำแหน่งที่ตั้ง ให้ใช้แผ่นยางหนาสำหรับ

ลำโพงเซ็นเตอร์ ส่วนแผ่นยางที่บางกว่าให้ใช้กับลำโพงคู่อื่นๆ

ถ้าลำโพงซับวูฟเฟอร์ถูกวางอยู่บนพื้นที่มีความแข็ง อย่างเช่น พื้นไม้, ไวนิล,

กระเบื้องเคลือบ ฯลฯ เมื่อเร่งวอลลุ่มดังมากๆ ขาตั้งของตัวลำโพงซับวูฟเฟอร์

จะกระแทกทำให้พื้นเป็นรอยได้ เพื่อป้องกันปัญหานี้ ให้วางแผ่นรองพื้นที่ให้มา

ไว้ใต้ส่วนปลายของขาตั้งลำโพงซับวูฟเฟอร์ทั้ง 4 ขา ซึ่งนอกจากจะช่วยไม่ให้เกิด

ความเสียหายต่อพื้นห้องแล้ว แผ่นรองพื้นที่ว่้านี้จะทำให้ลำโพงซับวูฟเฟอร์ตั้ง

อยู่บนพื้นด้วยความมั่นคง ไม่เลื่อนไถลเวลาเร่งเสียงดังๆ ซึ่งจะเป็นผลดีต่อ

คุณภาพเสียงอีกด้วย

Page 15: HT-S3300 Thai Version

15En

หมายเหตุ

ข้อควรระวัง

เกี่ยวกับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ AV

1/8" (3.5 mm)

HDMI cable Other cables: Video & Audio : Video

: Audio

Game console

Blu-ray Disc/DVD playerTV, projector, etc. Game console

Blu-ray Disc/DVD playerTV, projector, etc.

AV receiverAV receiver

Right!

Wrong!

HDMI

Y

P B /CB

P R /CR

V

OPTICAL

L

R

Connected image with AV components

• ก่อนทำการต่อเชื่อมอุปกรณ์ AV ให้อ่านคู่มือที่ให้มากับอุปกรณ์ตัวนั้นๆ ซะก่อน

• อย่าเพิ่งต่อสายไฟเอซีเข้าเครื่องจนกว่าคุณจะทำการต่อเชื่อมอุปกรณ์ AV ทั้งหมดจนเสร็จ

• ดันหัวปลั๊กตัวผู้ของสายสัญญาณให้แนบเข้ากับรูเสียบตัวเมียของเครื่องจนมิด เพื่อการส่งผ่านสัญญาณที่ดีที่สุด (หากขั้วต่อหลุดหลวม

อาจจะเป็นต้นเหตุทำให้เกิดเสียงรบกวน หรือทำให้การทำงานของเครื่องเกิดความผิดปกติขึ้นมาได้)

• เพื่อป้องกันการรบกวน พยายามจัดวางสายสัญญาณภาพและสายสัญญาณเสียงให้ห่างออกจากสายไฟเอซีและสายลำโพงให้มากที่สุด

สาย AV และหัวปลั๊ก

สาย หัวแจ๊ค จำกัดความ

HDMI การเชื่อมต่อด้วย HDMI สามารถถ่ายทอดสัญญาณดิจิตัลทั้งภาพ และ

เสียงได้พร้อมกัน ซึ่งตัวเอวี รีซีฟเวอร์จะต้องติดตั้งขั้วต่อ HDMI มาให้ด้วย

วิดีโอ & ออดิโอ

สัญญาณ

เขียว

น้ำเงิน

แดง

Component Video Cable คอมโพเน้นต์ วิดีโอแยกสัญญาณส่วนที่เป็นแสง (luminance = Y) และ

สัญญาณสีอีกสองสี (Pr, Pb) ออกจากกัน ทำให้ได้ภาพสีที่มีคุณภาพสูง

(ผู้ผลิตทีวีบางยี่ห้ออาจจะใช้ตัวอักษรกำกับความหมายของขั้วต่อ

คอมโพเน้นต์ วิดีโอที่แตกต่างออกไปจากนี้เล็กน้อย)

Composite Video Cable เหลือง

คอมโพสิต วิดีโอเป็นสายเชื่อมต่อสัญญาณภาพแบบสามัญที่ใช้กับทีวี,

เครื่องเล่น-บันทึก วิดีโอเทป รวมถึงอุปกรณ์วิดีโออีกหลายประเภท

Video

Audio Optical digital audio

cable

เป็นการเชื่อมต่อที่ทำให้คุณสามารถรับฟังระบบเสียงดิจิตัล อาทิ PCM*

Dolby Digital และ DTS ได้ ด้วยระดับคุณภาพเสียงที่เทียบเท่ากับการ

ต่่อเชื่อมด้วย Coaxial

Coaxial digital audio

cableส้ม

เป็นการเชื่อมต่อที่ทำให้คุณสามารถรับฟังระบบเสียงดิจิตัล อาทิ PCM*

Dolby Digital และ DTS ได้ ด้วยระดับคุณภาพเสียงที่เทียบเท่ากับการ

ต่่อเชื่อมด้วย Optical

Analog audio cable สายสัญญาณแบบนี้ถ่ายทอดสัญญาณเสียงสเตริโอแบบอะนาลอก ขาว

แดง

สายสัญญาณแบบนี้ถ่ายทอดสัญญาณเสียงแบบอะนาลอกมินิปลั๊ก

* ตอบรับกับสัญญาณ PCM ที่มีอัตราแซมปลิ้งเท่ากับ 32/44.1/48/88.2/96kHz เท่านั้น ส่วนสัญญาณ PCM ที่มีค่าแซมปลิ้งที่ระดับ 176.4/192kHz จะ

สามารถส่งผ่านได้เมื่อใช้การเชื่อมต่อด้วย HDMI

• เอวี รีซีฟเวอร์รุ่นนี้ไม่สนับสนุนการใช้งานร่วมกับหัวแจ๊ค SCART

• ช่องอ๊อฟติคัลของเอวี รีซีฟเวอร์ตัวนี้มีลิ้นพลาสติกปิดเอาไว้ ซึ่งจะเปิดออกเมื่อหัวแจ๊คอ๊อฟติคัลถูกสวมเข้าไป และจะปิดอีกครั้งเมื่อถอดหัวแจ๊คอ๊อฟติคัลออก

• เพื่อป้องกันลิ้นพลาสติกเกิดความเสียหาย ในขณะเสียบหัวแจ๊คอ๊อฟติคัลเข้าหรือดึงหัวแจ๊คออกจากรูเสียบ ให้จับตัวหัวแจ๊คตรงๆ

Page 16: HT-S3300 Thai Version

16En

หมายเหตุ

การเชื่อมต่ออุปกรณ์ AV ด้วย HDMI

Game consoleTV, projector, etc.

reyalp DVD/csiD yar-ulB.cte ,xob pot-tes ,elbac ,etilletaS

ต่อเชื่อมอุปกรณ์ต่างๆ เข้ากับตัวเอวี รีซีฟเวอร์ด้วยขั้วต่อที่เหมาะสมกับอุปกรณ์นั้นๆ โดยพิจารณาจากรายชื่อที่กำหนดจับคู่ไว้กับอินพุตมาจากโรงงาน

: รายชื่อที่กำหนดมานั้นสามารถเปลี่ยนแปลงได้ ( 31)

ขั้วต่อ สัญญาณ อุปกรณ์ รายชื่อที่กำหนดจับคู่มา

เครื่องเล่นบลู-เรย์ฯ/เครื่องเล่นดีวีดี

HDMI IN2 จานดาวเทียม, เคเบิ้ล, กล่องรับสัญญาณ ฯลฯ

อินพุต HDMI IN1 ออดิโอ/วิดีโอ

HDMI IN3 เครื่องเล่นวิดีโอ เกมส์

เอ๊าต์พุต HDMI OUT ทีวี, โปรเจ็กเตอร์ ฯลฯ

อ้างอิงถึงข้อมูลในหัวข้อ “เกี่ยวกับ HDMI” ( 53) และหัวข้อ “การใช้งานทีวีที่สนับสนุนฟังท์ชั่น RIHD, เครื่องเล่น หรือเครื่องบันทึก” ( 54)

เคล็ดลับ

วิธีการฟังเสียงที่รับเข้ามาทางขั้วต่อ HDMI IN ผ่านออกทางลำโพงของทีวีของคุณ:

• เข้าไปปรับตั้งค่าในหัวข้อเมนู “TV Control” ไว้ที่ตำแหน่ง “On” ( 37) สำหรับทีวีที่ตอบรับการทำงานของฟังท์ชั่น RIHD

• เข้าไปปรับตั้งค่าในหัวข้อเมนู “Audio TV OUT” ไว้ที่ตำแหน่ง “On” ( 36) สำหรับทีวีที่ไม่ตอบรับกับการทำงานของฟังท์ชั่น RIHD หรือเข้าไปปรับตั้งที่หัวข้อ

“TV Control” ไว้ที่ตำแหน่ง “Off”

• เข้าไปปรับตั้งค่าในหัวข้อเมนู “HDMI Audio Output” ของเครื่องเล่นบลู-เรย์ฯ/เครื่องเล่นดีวีดี ไว้ที่ตำแหน่ง “PCM”

• ถ้าต้องการฟังเสียงของทีวีผ่านทางเอวี รีซีฟเวอร์ ให้เข้าไปดูรายละเอียดในหัวข้อ “Connecting External Components” ( 17)

• ในการรับฟังเสียงจากอุปกรณ์ใดๆ ด้วยการเชื่อมต่อ HDMI ผ่านทางเอวี รีซีฟเวอร์ตัวนี้ ให้เข้าไปปรับตั้งที่ตัวอุปกรณ์นั้นๆ ให้สัญญาณภาพจากอุปกรณ์

ตัวนั้นสามารถขึ้นไปแสดงผลบนจอทีวีให้ได้ (ที่ตัวทีวี ต้องเลือกอินพุตที่ตรงกับช่อง HDMI ที่ต่อเชื่อมอยู่กับตัวเอวี รีซีฟเวอร์ด้วย) ถ้าสวิทช์ power ของ

ทีวีตั้งอยู่ที่ตำแหน่ง off หรืออินพุต ซีเล็กเตอร์ของตัวทีวีถูกปรับเลือกไว้ที่อินพุตอื่น จะมีผลทำให้ไม่มีเสียงของทีวีไปออกที่ตัวเอวี รีซีฟเวอร์ หรือเสียงจะ

ถูกตัดออกไป

• เมื่อฟังท์ชั่น “Audio TV OUT” ถูกปรับตั้งไว้ที่ตำแหน่ง “On” ( 36) เมื่อทำการเร่งวอลลุ่มที่เอวี รีซีฟเวอร์เพื่อฟังเสียงของทีวี เสียงของทีวีก็จะไปดัง

ออกทางลำโพงของเอวี รีซีฟเวอร์ด้วย แต่ถ้าฟังท์ชั่น “TV Control” ถูกปรับตั้งไว้ที่ตำแหน่ง “On” ( 37) เมื่อต้องการเร่งเสียงจากทีวีที่ตอบรับกับการ

ทำงานของฟังท์ชั่น RIHD ด้วยการเร่งวอลลุ่มของตัวเอวี รีซีฟเวอร์ เสียงของทีวีก็จะไปดังเฉพาะที่ลำโพงของตัวเอวี รีซีฟเวอร์ ส่วนลำโพงของทีวีจะไม่มี

เสียงออก (muted) ถ้าไม่ต้องการให้มีเสียงจากทีวีไปออกทางลำโพงของเอวี รีซีฟเวอร์ก็ให้เข้าไปเปลี่ยนแปลงการปรับตั้งในเอวี รีซีฟเวอร์ และเข้าไป

เปลี่ยนการปรับตั้งที่ทีวี หรือลดวอลลุ่มของตัวเอวี รีซีฟเวอร์ลง

ฟังท์ชั่น Audio Return Channel (ARC)

ฟังท์ชั่น Audio Return Channel นี้ ทำให้ HDMI สามารถดึงสัญญาณเสียงจากทีวีออกมาทางช่อง HDMI OUT ของตัวเอวี รีซีฟเวอร์ได้ ในการใช้งาน

ฟังท์ชั่นนี้ คุณจะต้องทำการปรับตั้งอินพุต ซีเล็กเตอร์ไปที่ตำแหน่งอินพุต TV/CD และตัวทีวีของคุณจะต้องสนับสนุนการใช้งานฟังท์ชั่น ARC นี้ด้วย

ในขณะเดียวกัน ที่หัวข้อเมนู “HDMI Control” จะต้องถูกปรับตั้งไว้ที่ตำแหน่ง “On” ด้วย ( 36)

Page 17: HT-S3300 Thai Version

17En

.

การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์จากภายนอก Connecting External Components

elbangissAstnenopmoClangiSkcaJ.oN

COMPONENT VIDEO

IN 1 (BD/DVD) Component video

Blu-ray Disc/DVD player

.cte ,xob pot-tes ,elbac ,etilletaS)TAS/LBC( 2 NI

.cte ,rotcejorp ,VTTUO

DIGITAL IN OPTICAL IN 1 (GAME) Digital audio Game console

IN 2 (TV/CD) TV, CD player

reyalp DVD/csiD yar-ulB)DVD/DB( LAIXAOC

etisopmoCTUO ROTINOMvideo

TV, projector, etc.

oidua golanANI DVD/DBand composite video

Blu-ray Disc/DVD player

latigiD/redrocer DVD ro RCVNI RVD/RCVVideo Recorder

.cte ,xob pot-tes ,elbac ,etilletaSNI TAS/LBC

elosnoc emaGNI EMAG

oidua golanANI DC/VT TV, CD player, Turntable *1

Cassette tape deck, MD, CD-R

/oidua golanATROP LASREVINUVideo

Universal port optional dock (UP-A1 etc.)

การใช้งานรูเสียบช่องอินพุต AUX ที่อยู่บนแผงหน้าปัดเครื่อง

Portable audio player

Analog audio line output ( 15 )

รายละเอียดเซ็ตอัพเมนูจะปรากฏขึ้นบนจอทีวีได้เฉพาะเมื่อทำการเชื่อมต่อทีวีเข้ากับเอวี รีซีฟเวอร์ทางช่อง HDMI OUT ของเอวี รีซีฟเวอร์เท่านั้น

คุณเชื่อมต่อสัญญาณภาพจากเอวี รีซีฟเวอร์ทางช่อง MONITOR OUT V หรือ

ทางช่อง COMPONENT VIDEO OUT ให้ใช้จอแสดงผลของตัวเอวี รีซีฟเวอร์

เมื่อต้องการเปลี่ยนแปลงการปรับตั้งค่า ( 31)

จะบันทึกสัญญาณภาพวิดีโอได้อย่างไร.?

ด้วยการเชื่อมต่อระหว่างเอวี รีซีฟเวอร์กับทีวีลักษณะข้างต้นนี้จะไม่สามารถ

บันทึกสัญญาณภาพวิดีโอผ่านตัวเอวี รีซีฟเวอร์ได้ ให้ไปดูการต่อเชื่อมระบบ

เพื่อบันทึกภาพวิดีโอได้ที่หน้า ( 26)

*1 ถ้าหัวเข็มของเครื่องเล่นแผ่นเสียงของคุณเป็นแบบ moving coil (MC) คุณต้องใช้ MC headamp หรือ MC transformer มาช่วยในการขยายสัญญาณอีกขั้นหนึ่ง

ให้ครวจเช็ครายละเอียดเพิ่มเติมจากคู่มือของเครื่องเล่นแผ่นเสียง

• ด้วยวิธีการเชื่อมต่อแบบที่ 2 (ตามตาราง) คุณจะสามารถรับฟังระบบเสียง Dolby Digital และ DTS ได้

• ถ้าเครื่องเล่นบลู-เรย์ฯ หรือเครื่องเล่นดีวีดีของคุณมีทั้งขั้วต่อสัญญาณเสียงขาออกแบบเมน สเตริโอและมัลติแชนเนล ให้มั่นใจว่าได้ทำการเชื่อมต่อสัญญาณขาออก

จากช่องเมน สเตริโอสำหรับการเชื่อมต่อใช้งานแบบที่ ตามตาราง

ใช้สาย stereo mini jack 3.5mm ( 15) เชื่อมต่อระหว่างรูเสียบอินพุต AUX บนหน้าปัดของเอวี รีซีฟเวอร์กับรูเสียบหูฟังของอุปกรณ์ออดิโอ

เพลเยอร์แบบพกพา

Page 18: HT-S3300 Thai Version

18En

การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ของ Onkyo เพื่อใช้งานฟังก์ชั่น RI

LR

IN

BD/DVD

L

R

IN

TV/CD

L

R

REMOTE CONTROL

ANALOGAUDIO OUT

LR

ANALOGAUDIO OUT

e.g., CD player

e.g., DVD player

ขั้นตอนที่ 1:

ให้แน่ใจว่า อุปกรณ์ของ Onkyo ทุกชิ้นถูกต่อเชื่อมกันด้วยสายอะนาลอก

ออดิโอ (การเชื่อมต่อรูปแบบที่ ในภาพประกอบหน้า 17)

ขั้นตอนที่ 2:

ทำการต่อเชื่อม RI (ดูภาพประกอบด้านล่าง)

ขั้นตอนที่ 3:

ถ้าคุณใช้ RI Dock หรือเครื่องเล่น/บันทึกเทปคาสเส็ท ให้ทำการเปลี่ยน

input display ( 22)

ด้วยความสามารถของ RI (Remote Interactive) จะทำให้คุณใช้งานฟังท์ชั่น

พิเศษเหล่านี้ได้:

System On/Auto Power On

เมื่อคุณเริ่มต้นใช้คำสั่ง “เล่น” (playback) กับอุปกรณ์ที่ต่อพ่วงผ่านระบบ RI,

ถ้าตัวเอวี รีซีฟเวอร์อยู่สถาวะเตรียมพร้อม (Standby) ตัวเอวี รีซีฟเวอร์จะถูก

กระตุ้นให้เปลี่ยนไปอยู่ในสภาวะ “เปิดทำงาน” (On) โดยอัตโนมัติ และตัว

เอวี รีซีฟเวอร์จะเลือกอุปกรณ์ตัวนั้นสำหรับช่องอินพุตของมันทันที

Direct Change

เมื่ออุปกรณ์ที่ต่อพ่วงผ่าน RI เริ่มต้น playback ตัวเอวี รีซีฟเวอร์จะทำการเลือก

อุปกรณ์ตัวนั้นเข้ามาอยู่ในโหมดอินพุต ซีแลคเตอร์โดยอัตโนมัติทันที

Remote Control

คุณสามารถใช้รีโมทไร้สายของตัวเอวี รีซีฟเวอร์ควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ของ

Onkyo ตัวอื่นๆ ที่ต่อพ่วงอยู่กับระบบ RI ได้ แต่ต้องจำไว้ว่า เวลาจะสั่งงานอุปกรณ์

ตัวนั้น โดยชี้ตัวรีโมทไปที่เซ็นเซอร์รับสัญญาณรีโมทของตัวเอวี รีซีฟเวอร์แทนท่ีจะชี้

ไปที่รีโมท เซ็นเซอร์ของตัวอุปกรณ์นั้นๆ แต่คุณต้องใส่รหัสควบคุมรีโมทของอุปกรณ์

ตัวนั้นๆ เข้าไปในรีโมทของตัวเอวี รีซีฟเวอร์ก่อน ( 44)

หมายเหตุ:

• ใช้สาย RI Cable เท่านั้นในการต่อเชื่อมระบบ RI ซึ่งสาย RI Cable จะแถม

มาให้พร้อมกับอุปกรณ์เครื่องเล่นดีวีดี, เครื่องเล่นซีดี ฯลฯ ของ Onkyo

• อุปกรณ์บางตัวอาจจะมีแจ๊คเสียบ RI มาให้ถึง 2 ช่อง ให้ใช้ช่องใดช่องหนึ่ง

ก็ได้ในการต่อเชื่อมกับเอวี รีซีฟเวอร์ ส่วนอีกช่องที่เหลือมีไว้สำหรับต่อพ่วง

อุปกรณ์ตัวอื่นที่มีฟังท์ชั่น RI

• ให้ต่อพ่วงเฉพาะอุปกรณ์ของ Onkyo ที่มีฟังท์ชั่น RI เท่านั้น การเอาอุปกรณ์

ยี่ห้ออื่นที่มีระบบ RI ที่ออกแบบไม่เหมือนกันมาต่อพ่วงกับช่อง RI ของ

เอวี รีซีฟเวอร์ตัวนี้อาจจะทำให้เกิดการทำงานที่ผิดพลาดขึ้นได้

• อุปกรณ์บางตัวอาจจะไม่สามารถรองรับฟังท์ชั่นของระบบ RI ครบทุกฟังท์ชั่น

ให้ตรวจสอบจากสมุดคู่มือของอุปกรณ์ตัวนั้นๆ

Page 19: HT-S3300 Thai Version

19En

หมายเหตุ

การเลือกใช้วิธีการเชื่อมต่ออย่างไร

IN

MONITOR OUT

Blu-ray Disc, DVD player, etc.

AV receiver

TV, projector, etc.

Composite

Composite

Component

Component

Video Signal Flow Chart

HDMI

HDMI

IN

OUT

*1 *2

*1*1

*1

Blu-ray Disc, DVD player, etc.

AV receiver

TV, projector, etc.

HDMICoaxial Analog

Audio Signal Flow Chart

HDMI Analog

Optical

เอวี รีซีฟเวอร์ตัวนี้รองรับรูปแบบการต่อเชื่อมที่เหมาะสมกับอุปกรณ์ AV ได้หลากหลายรูปแบบ ซึ่งรูปแบบที่คุณเลือกนั้นจะขึ้นอยู่กับลักษณะการรองรับของอุปกรณ์

AV ที่คุณจะนำมาใช้กับเอวี รีซีฟเวอร์ตัวนี้ ให้ใช้ข้อมูลในส่วนที่ต่อจากนี้เป็นแนวทาง

รายละเอียดเซ็ตอัพเมนูจะปรากฏขึ้นบนจอทีวีได้เฉพาะเมื่อทำการเชื่อมต่อทีวีเข้ากับเอวี รีซีฟเวอร์ทางช่อง HDMI OUT ของเอวี รีซีฟเวอร์เท่านั้น ถ้าคุณเชื่อมต่อ

สัญญาณภาพจากเอวี รีซีฟเวอร์ทางช่อง MONITOR OUT V หรือทางช่อง COMPONENT VIDEO OUT ให้ใช้จอแสดงผลของตัวเอวี รีซีฟเวอร์เมื่อต้องการ

เปลี่ยนแปลงการปรับตั้งค่า

ข้อมูลเมนูเซ็ตอัพจะปรากฏขึ้นบนจอทีวีก็ต่อเมื่อ:

� ไม่มีสัญญาณวิดีโออินพุต หรือ

� สัญญาณวิดีโออินพุตเป็นสัญญาณ 480p, 576p, 720p, 1080i หรือ 1080p

การเชื่อมต่อสัญญาณวิดีโอ

อุปกรณ์เครื่องเล่นสัญญาณวิดีโอสามารถต่อเชื่อมเข้ากับเอวี รีซีฟเวอร์ตัวนี้ได้ด้วยการใช้รูปแบบการต่อเชื่อมแบบใดแบบหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นคอมโพสิต วิดีโอ,

คอมโพเน้นต์ วิดีโอ หรือ HDMI ซึ่งวิธีต่อเชื่อมแบบหลังสุดจะให้คุณภาพของภาพดีที่สุด

ทุกครั้งเมื่อจะเลือกรูปแบบการเชื่อมต่อ ขอให้จำไว้เสมอว่า เอวี รีซีฟเวอร์ตัวนี้ไม่มีฟังท์ชั่น

video convertion มาให้ ฉนั้น สัญญาณภาพเอ๊าต์พุตจากเอวี รีซีฟเวอร์ตัวนี้จะส่งออกได้

เฉพาะฟอร์แม็ตที่ตรงกับที่ได้รับเข้ามาทางช่องอินพุตเท่านั้น

การเชื่อมต่อสัญญาณออดิโอ

อุปกรณ์เครื่องเล่นสัญญาณออดิโอสามารถต่อเชื่อมกับเอวี รีซีฟเวอร์ตัวนี้ได้ด้วยการใช้

รูปแบบการต่อเชื่อมแบบใดแบบหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นอะนาลอก, อ๊อปติคัล ดิจิตัล,

โคแอ๊กเชี่ยล ดิจิตัล หรือ HDMI

ทุกครั้งเมื่อจะเลือกรูปแบบการเชื่อมต่อ ขอให้จำไว้เสมอว่า เอวี รีซีฟเวอร์ตัวนี้

จะไม่ทำการแปลงสัญญาณดิจิตัล ออดิโอ อินพุตไปออกทางช่องอะนาลอกให้

และในทางกลับกันด้วย ตัวอย่างเช่น สัญญาณเสียงที่ต่อเชื่อมทางช่องอ๊อฟติคัล

หรือโคแอ๊กเชี่ยล อินพุต จะไม่ถูกปล่อยออกทางช่องอะนาลอก VCR/DVR OUT

ถ้าสัญญาณเสียงถูกป้อนเข้ามาพร้อมกันมากกว่า 1 อินพุต สัญญาณอินพุตจะถูก

เลือกโดยอัตโนมัติเรียงตามลำดับดังนี้: HDMI, Digital, Analog

*1 ขึ้นอยู่กับการปรับตั้งในเมนู “Audio TV OUT” ( 36)

*2 การปรับตั้งนี้จะสามารถทำได้ก็ต่อเมื่อฟังท์ชั่น “Audio Return Ch”

ถูกปรับตั้งไว้ที่ตำแหน่ง “Auto” ( 36) คุณต้องทำการปรับตั้ง

อินพุต ซีเล็กเตอร์ไว้ที่ตำแหน่ง TV/CD และทีวีของคุณจะต้อง

สนับสนุนการใช้งานฟังท์ชั่น ARC ด้วย

Page 20: HT-S3300 Thai Version

20En

เปิดเคร่ืองทำงาน (On)

ปิดการทำงานเคร่ือง �(Off)

ON/STANDBY

ON/STANDBY

RECEIVER

STANDBY indicator

Front panel Remote controller

เปิดและปิดการใช้งานตัว เอวี รีซีฟเวอร์ (Turning On/Off the AV receiver)

• กดปุ่ม ON/STANDBY บนหน้าปัดของตัวเอวี รีซีฟเวอร์ หรือ

• กดปุ่ม [RECEIVER] แล้วตามด้วยการกดปุ่ม [ON/STANDBY] ที่รีโมท

ตัวเอวี รีซีฟเวอร์จะเข้าสู่โหมด On พร้อมทำงานทันที, หน้าจอแสดงผลของตัวเครื่องจะสว่างขึ้น, ไฟแอลอีดีตรงตำแหน่ง Standby จะดับลง

กดปุ่ม ON/STANDBY บนตัวเครื่อง หรือบนรีโมทไร้สายก็ได้

ตัวเอวี รีซีฟเวอร์จะเข้าสู่สภาวะเตรียมพร้อม (Standby) เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเสียงดังกระโชกขึ้นมาขณะทำการเปิดเครื่องครั้งต่อไป ให้ลดวอลลุ่มลงให้สุด

ก่อนที่จะกดปุ่มปิดเครื่อง

Page 21: HT-S3300 Thai Version

21En

หมายเหตุ

การใช้งานอุปกรณ์เชื่อมต่อ AV รีซีฟเวอร์

1

2

3

4

1

2

3

4

แสดงรายละเอียดข้อมูลของแหล่งโปรแกรม

การใช้ฟังก์ชั่น Music Optimizer

การตั้งต่าความสว่างขอจอแสดงผล

Input source & volume*1

Signal format *2 or sampling fre-quency

Input source & listening mode *3

การใช้งานเบื้องต้น (Basic Operations)

คู่มือนี้จะแสดงขั้นตอนการใช้ผ่านทางรีโมท คอนโทรลเป็นหลัก นอกจากที่มี

การแจ้งไว้เฉพาะ

สั่งงานด้วยเอวี รีซีฟเวอร์

ใช้ปุ่ม “Input Selector” ของตัวเอวี รีซีฟเวอร์ในการเลือกอินพุต

เริ่มฟังท์ชั่น Play บนตัวอุปกรณ์นั้นๆ ให้ดูข้อมูลเพิ่มเติมจาก:

� “Controlling Other Components” ( 44)

� “Controlling iPod” ( 40)

� “Listening to the Radio” ( 23)

ในการปรับตั้งระดับความดังของเสียง ให้ใช้ฟังท์ชั่น MASTER

VOLUME เป็นตัวควบคุม

ปรับเลือกโหมดการฟัง ให้ดูข้อมูลเพิ่มเติมจาก:

� “Using the Listening Modes” ( 27)

สั่งงานด้วยรีโมท คอนโทรล

กดปุ่ม RECEIVER แล้วตามด้วยปุ่ม INPUT SELECTOR

เริ่มฟังท์ชั่น Play บนตัวอุปกรณ์นั้นๆ ให้ดูข้อมูลเพิ่มเติมจาก:

� “Controlling Other Components” ( 44)

� “Controlling iPod” ( 40)

� “Listening to the Radio” ( 23)

ในการปรับตั้งระดับความดังของเสียง ให้ใช้ฟังท์ชั่น VOL / เป็น

ตัวควบคุม

ปรับเลือกโหมดการฟัง ให้ดูข้อมูลเพิ่มเติมจาก:

� “Using the Listening Modes” ( 27)

การปรับมาสเตอร์ วอลลุ่มไปที่ระดับมากสุด (maximum) จะส่งผลต่อระดับ

วอลลุ่มของลำโพงซับวูฟเฟอร์ด้วย

การปรับมาสเตอร์ วอลลุ่มไปที่ระดับมากสุด (maximum) จะส่งผลต่อระดับ

วอลลุ่มของลำโพงซับวูฟเฟอร์ด้วย

กดปุ่ม RECEIVER แล้วตามด้วยกดปุ่ม DISPLAY ซ้ำๆ ซึ่งรายละเอียด

ข้อมูลจะถูกแสดงขึ้นบนจอวนเป็นลู๊ปต่อเนื่องไปเรื่อยๆ

เคล็ดลับ

� เพื่อเป็นทางเลือก, คุณสามารถใช้ฟังท์ชั่น DISPLAY ของตัวเอวี รีซีฟเวอร์

เพื่อแสดงข้อมูลของแหล่งโปรแกรมได้อีกทางหนึ่ง

*1 เมื่อใช้งานภาครับสัญญาณวิทยุ AM หรือ FM ข้อมูลตัวเลขของคลื่นความถี่,

ตัวเลขลำดับของสถานีที่ตั้งล่วงหน้าไว้ และตัวเลขความถี่ของคลื่นจะถูกแสดง

ขึ้นบนจอ

*2 ถ้าสัญญาณอินพุตอยู่ในรูปของสัญญาณอะนาลอก จะไม่มีข้อมูลรูปแบบของ

สัญญาณแสดงขึ้นมาบนจอ แต่ถ้าสัญญาณอินพุตเป็นสัญญาณ PCM ค่า

ความถี่แซมปลิ้งของสัญญาณนั้นจะถูกแสดงขึ้นบนจอ ถ้าสัญญาณอินพุตเป็น

สัญญาณดิจิตัล แต่ไม่ใช่ PCM รูปแบบฟอร์แม็ตของสัญญาณนั้นจะถูกแสดง

ขึ้นบนจอ ข้อมูลรายละเอียดจะถูกแสดงขึ้นบนจอประมาณ 3 วินาที จากนั้น

ข้อมูลที่แสดงอยู่บนจอเดิมจะถูกเปลี่ยนเข้ามาแทนที่

*3 แหล่งอินพุตจะถูกนำขึ้นแสดงบนจอด้วยชื่อเดิม ยกเว้นว่าคุณจะทำการตั้งชื่อ

ใหม่ในเมนู “Name Edit” ( 35)

ฟังท์ชั่น “มิวสิค อ๊อปติไมเซอร์” คือฟังท์ชั่นที่ออกแบบมาเพื่อยกระดับคุณภาพ

ของเสียงดนตรีที่ผ่านการบีีบอัด (compressed) มา

� กดปุ่ม MUSIC OPTIMIZER บนหน้าปัดของตัวเอวี รีซีฟเวอร์

� ไฟแสดง M.Opt จะสว่างขึ้นบนหน้าจอ

เคล็ดลับ:

� ขั้นตอนนี้สามารถสั่งงานผ่านรีโมทไร้สายได้ โดยผ่านทางปุ่มที่ชื่อว่า AUDIO

และปุ่มลูกศรสี่ทิศ

� ให้ดูใน “Music Optimizer” สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ( 38)

คุณสามารถปรับตั้งความสว่างของจอแสดงผล

ด้วยการกดปุ่ม RECEIVER แล้วตามด้วยกดปุ่ม DIMMER ซ้ำๆ เพื่อ

เลือกระดับความสว่างของจอที่มีเลือกอยู่ 3 ระดับคือ: dim, dimmer

และ normal brightness

เคล็ดลับ

� คุณสามารถใช้ปุ่ม DIMMER บนตัวเอวี รีซีฟเวอร์ทำหน้าที่แทนได้

(เฉพาะรุ่นที่จำหน่ายในทวีปอเมริกาเหนือ)

Page 22: HT-S3300 Thai Version

22En

หมายเหตุ

หมายเหตุ

หมายเหตุ

ปรับลดเสียงชั่วคราว

การใช้ฟังก์ชั่นตั้งเวลาปิด

การใช้งานหูฟัง

การเปลี่ยนชื่อของอินพุตบนจอแสดงผล

1

2

เลือกใช้ชุดลำโพง A และ B

Speakers A � Speakers A&B � Speakers B

� Off �

คุณสามารถปิดเสียงของตัวเอวี รีซีฟเวอร์แบบชั่วคราวได้ (โดยไม่ต้องปรับลด

ระดับเสียงที่ปุ่มวอลลุ่ม)

� กดปุ่ม RECEIVER แล้วตามด้วยกดปุ่ม MUTING บนตัวรีโมท

สัญญาณเสียงทางด้านเอ๊าต์พุตถูกปิดในขณะที่ฟังท์ชั่น mute ถูกใช้งาน

และจะปรากฏคำว่า “MUTING” กระพริบอยู่บนหน้าจอแสดงผล

เคล็ดลับ

� เมื่อต้องการยกเลิกฟังท์ชั่น Mute: กดปุ่ม MUTING บนตัวรีโมทอีกครั้ง

หรือทำการปรับระดับความดังที่ปุ่มวอลลุ่ม

� ฟังท์ชั่น Mute จะถูกยกเลิกโดยอัตโนมัติถ้าตัวเอวี รีซีฟเวอร์เข้าสู่โหมด

เตรียมพร้อม (standby)

คุณสามารถปรับตั้งเวลาให้ตัวเอวี รีซีฟเวอร์ปิดตัวเองลงตามเวลาที่กำหนดได้

โดยใช้ฟังท์ชั่น Sleep Timer

� กดปุ่ม RECEIVER แล้วตามด้วยกดปุ่ม SLEEP บนตัวรีโมทซ้ำๆ

เพื่อวนหาระยะเวลาตั้งปิดที่ต้องการ

คุณสามารถเลือกตั้งเวลาปิดเครื่องอัตโนมัติได้ตั้งแต่ 10 นาทีขึ้นไปจนถึง

90 นาที โดยมีระดับขั้นให้ทบเวลาขั้นละ 10 นาทีตัวอักษรคำว่า“SLEEP”

ตัวเล็กๆ จะปรากฏขึ้นบนจอแสดงผลเมื่อเวลาตั้งปิดอัตโนมัติถูกเลือกใช้

ส่วนตัวเลขที่แสดงเวลาตั้งปิดอัตโนมัติจะปรากฏบนจอแสดงผลเป็นเวลา

ประมาณ 5 วินาที ก่อนที่หน้าจอจะเปลี่ยนกลับไปแสดงผลเหมือนก่อน

หน้าที่คุณจะทำการปรับตั้งเวลาปิดอัตโนมัตินี้

เคล็ดลับ

� เมื่อต้องการยกเลิกฟังท์ชั่น Sleep Timer ให้กดปุ่ม SLEEP บนตัวรีโมท

ซ้ำๆ จนกว่าตัวอักษรคำว่า “SLEEP” บนจอแสดงผลจะหายไป

� เมื่อต้องการตรวจสอบเวลาที่เหลืออยู่หลังจากทำการปรับตั้งไปแล้ว ให้

กดปุ่ม SLEEP หนึ่งครั้ง ตัวเลขเวลาที่เหลือจะปรากฏขึ้นบนจอแสดงผล

หมายเหตุ: ถ้าคุณกดปุ่ม SLEEP ในขณะที่เวลาที่ตั้งปิดปรากฏอยู่บนจอ เวลา

ที่ตั้งปิดจะถูกตัดให้เร็วขึ้น 10 นาทีต่อทุกครั้งที่คุณกด

• ต่อเชื่อมหูฟังสเตริโอเข้ากับเอวี รีซีฟเวอร์ตัวนี้ได้โดยใช้แจ๊คหูฟังขนาด

� นิ้ว (หรือ 6.3 ม.ม.) เสียบเข้าที่รูเสียบ PHONES ของ

เอวี รีซีฟเวอร์ตัวนี้

• ให้ปรับวอลลุ่มลดระดับความดังของเสียงลงให้สุดก่อนที่จะทำการต่อเชื่อม

หูฟังเสมอ

• ในขณะที่แจ๊คเสียบของหูฟังถูกเสียบใช้งานอยู่ในรูเสียบ PHONES เอ๊าต์พุต

ของลำโพงจะถูกปิดการใช้งาน (ไม่มีเสียงออกลำโพง)

• เมื่อคุณเสียบใช้หูฟัง โหมดการฟัง (Listening Mode) ของตัวเอวี รีซีฟเวอร์

จะถูกปรับไปอยู่ที่ระบบ Stereo โดยอัตโนมัติ เว้นแต่ว่า คุณได้ปรับตั้งไว้ที่

โหมดโมโน (Mono),สเตริโอ (Stereo) หรือโหมดไดเร็กต์ (Direct) อยู่แล้ว

• โหมดการฟังจะไม่สามารถเลือกได้ ขณะที่หูฟังถูกเสียบใช้งานอยู่ในรูเสียบ

PHONES

ถ้าคุณต่อเชื่อมอุปกรณ์ของ Onkyo ที่รองรับฟังท์ชั่น RI คุณต้องทำการปรับตั้ง

“Input Display” เพื่อให้ RI ทำงานอย่างถูกต้อง การปรับตั้งตรงจุดนี้ต้องทำที่

ตัวเอวี รีซีฟเวอร์เท่านั้น (ไม่มีให้ปรับที่รีโมท)

กดปุ่ม TV/CD, GAME หรือปุ่ม VCR/DVR ที่อยู่บนหน้าปัดเอวี

รีซีฟเวอร์ ซึ่งหลังจากกดปุ่มลงไปแล้ว ตัวอักษรซึ่งเป็นชื่อย่อของช่อง

อินพุตที่คุณกดลงไปจะปรากฏขึ้นบนจอแสดงผล

กดปุ่ม TV/CD, GAME หรือปุ่ม VCR/DVR ค้างไว้ 3 วินาที

หน้าจอแสดงผลจะเปลี่ยนชื่อย่อของอินพุตวนไป ให้หยุดกดตรงชื่อ

ของอินพุตที่ต้องการเปลี่ยน ซึ่งปุ่มอินพุต ซีเล็กเตอร์แต่ละปุ่ม

จะแสดงชื่ออินพุตวนไปดังนี้:

• อินพุต ซีเล็กเตอร์ TV/CD = TV/CD > MD > CDR > DOCK > TAPE

• อินพุต ซีเล็กเตอร์ GAME = GAME <> DOCK

• อินพุต ซีเล็กเตอร์ VCR/DVR = VCR/DVR <> DOCK

• อินพุต Dock สามารถเลือกใช้สำหรับอินพุต TV/CD, GAME หรือ VCR/DVR แต่ไม่

สามารถเลือกใช้ในสามช่องนั้นในเวลาเดียวกันได้

• ใส่โค๊ดรหัสรีโมทที่ถูกต้อง ก่อนที่จะเริ่มต้นใช้งานรีโมท คอนโทรล ( --> 44)

คุณสามารถใช้งานลำโพงคู่หน้ากับเอวี รีซีฟเวอร์ตัวนี้ได้พร้อมกัน 2 ชุด: คือ

Speaker A สำหรับห้องหลัก ด้วยระบบเสียง 5.1 Ch. กับ Speaker B สำหรับ

ระบบเสียงสเตริโอ 2 Ch. ในอีกห้องหนึ่ง

• กดปุ่ม RECEIVER แล้วตามด้วยกดปุ่ม SP A/B ซ้ำๆ วนไปตาม

ตัวเลือก

เมื่อกดเลือก A, B หรือ A&B จะปรากฏตัวอักษรเรืองแสงปรากฏ

สว่างขึ้นบนจอ

• ขณะที่ Speakers B ถูกเลือกใช้งาน ระบบเสียงในห้องหลักจะถูกลดจำนวน

ลำโพงลงเหลือแค่ 2.1 ch ( 11)

เคล็ดลับ

• คุณสามารถใช้ปุ่ม SPEAKERS A และ B ที่อยู่บนตัวเอวี รีซีฟเวอร์ในการ

เลือกใช้งานชุดลำโพงได้อีกทางหนึ่ง

Page 23: HT-S3300 Thai Version

23En

การใช้งานภาครับจูนเนอร์

1

2

Band Frequency

FM STEREO

AUTOTUNED

1

2

1

2

ฟังรายการวิทยุ (Listening to the Radio

คู่มือส่วนนี้จะแสดงขั้นตอนการใช้ผ่านทางปุ่มกดบนหน้าปัดเครื่องเอวี

รีซีฟเวอร์เป็นหลัก นอกจากที่มีการแจ้งไว้เฉพาะ

ด้วยภาครับวิทยุที่ติดตั้งมาในตัวเครื่อง จะทำให้คุณรับฟังรายการจากสถานีวิทยุ

AM และ FM ได้ และคุณยังสามารถบันทึกคลื่นสถานีที่ชื่นชอบไว้เป็น presets

สำหรับการเลือกใช้อย่างเร่งด่วนได้ด้วย

ฟังรายการวิทยุ

� กดปุ่ม TUNER เพื่อเลือก AM หรือ FM

ในตัวอย่างนี้เลือกไปที่สถานี FM แต่ละครั้งที่คุณกดปุ่ม TUNER ลงไป

คลื่นความถี่จะสลับเปลี่ยนไปมาระหว่าง AM กับ FM

(ภาพบนจอแสดงผลของแต่ละประเทศอาจแตกต่างกันไป)

กวาดหาคลื่นของสถานีวิทยุ

ระบบกวาดหาคลื่นอัตโนมัติ

กดปุ่ม TUNING MODE จะมีคำว่า AUTO สว่างขึ้นบนจอ

กดปุ่ม TUNING /

การค้นหาจะสิ้นสุดลงเมื่อสถานีถูกค้นพบ

เมื่อทำการกวาดหาคลื่น สัญญาลักษณ์ TUNED จะสว่างขึ้นบนจอ เมื่อกวาดเจอ

คลื่นสเตริโอจากสถานี FM สัญญาลักษณ์ FM STEREO จะสว่างขึ้นบนจอ ตาม

ตัวอย่างด้านล่าง

เคล็ดลับ

� คุณสามารถใช้ปุ่ม TUN MODE บนรีโมท คอนโทรลกับปุ่มลูกศรในการ

กวาดหาคลื่นวิทยุได้อีกทางหนึ่ง

ระบบกวาดหาคลื่นแบบแมนน่วล

กดปุ่ม TUNING MODE จะมีคำว่า AUTO บนจอจะหายไปจากจอ

แสดงผล

กดปุ่ม TUNING / ค้างไว้

ตัวเลขคลื่นความถี่ของสถานีจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ อย่างรวดเร็ว และจะหยุด

เปลี่ยนเมื่อคุณหยุดกดลงไปบนปุ่ม TUNING การกดปุ่ม TUNING ซ้ำๆ

แบบกดๆ ปล่อยๆ จะทำให้คลื่นความถี่เปลี่ยนๆ หยุดๆ ไปทีละขั้น

เอวี รีซีฟเวอร์รุ่นนี้จะเปลี่ยนคลื่นวิทยุ FM ขั้นละ 200kHz และขั้นละ 10kHz

สำหรับคลื่น AM การค้นหาคลื่นในโหมดแมนน่วล, สัญญาณเสียงของสถานี

FM จะถูกปรับเป็นระบบโมโน

การปรับจูนหาคลื่นสถานี FM ที่มีสัญญาณอ่อน:

ถ้าสัญญาณจากสถานี FM ที่เป็นสเตริโอออกมาอ่อนมาก ให้ปรับเปลี่ยนโหมด

การค้นหาเป็น Manual Tuning จะรับสัญญาณได้ดีขึ้น และฟังในโหมดเสียง

โมโนแทน

เคล็ดลับ

� คุณสามารถใช้ปุ่ม TUN MODE กับปุ่มลูกศรบนรีโมท คอนโทรลในการ

กวาดหาคลื่นวิทยุได้อีกทางหนึ่ง

จูนหาคลื่นสถานีโดยตรง

คุณสามารถจูนหาคลื่นวิทยุของสถานี AM หรือ FM ได้โดยตรง ด้วยการพิมพ์

ตัวเลขความถี่ของสถานีที่ต้องการลงไป

กดปุ่ม TUNER บนรีโมท คอนโทรลเพื่อเลือกคลื่นวิทยุ AM หรือ FM

ที่ต้องการค้นหาสถานี หลังจากนั้นให้กดปุ่ม D.TUN หนึ่งครั้ง

(ในตัวอย่างนี้จะทำการค้นหาสถานี FM ซึ่งรูปแบบรายละเอียดที่ปรากฏ

บนหน้าจอจะแตกต่างกันไปตามแต่พื้นที่)

ในช่วงเวลาประมาณ 8 วินาทีที่สัญญาณลักษณ์บนหน้าจอกำลังกระพริบ

ให้กดปุ่มตัวเลขตามตัวเลขคลื่นของสถานีที่ต้องการค้นหา

ตัวอย่าง สมมุติว่าจะค้นหาสถานี FM ที่คลื่น “87.50” ก็กดเลข 8, 7, 5, 0

Page 24: HT-S3300 Thai Version

24En

หมายเหตุ

หมายเหตุ

บันทึกสถานี

1

2

3

4

1

2

การใช้ RDS (ยกเว้นรุ่นที่จำหน่ายในทวีปอเมริการ)

คุณสามารถเก็บคลื่นวิทยุที่คุณชอบรวมกันไว้ใน presets ได้มากถึง 40 สถานี

ทำการจูนหาคลื่นสถานีที่ต้องการทำการจัดเก็บไว้ในเมมโมรี่

ดูวิธีการในหัวข้อก่อนหน้า

กดปุ่ม MEMORY

ตัวเลขที่แสดงลำดับของการจัดเก็บจะกระพริบขึ้นที่จอแสดงผล

ในขณะที่ตัวเลขลำดับการจัดเก็บกำลังกระพริบอยู่บนจอแสดงผลนั้น

(จะกระพริบอยู่ประมาณ 8 วินาที) ให้ใช้ปุ่ม / ทำการเลื่อนหา

ลำดับที่ต้องการจัดเก็บสถานีดังกล่าว (เลือกได้ระหว่างลำดับที่ 1 ถึง

ลำดับที่ 40)

กดปุ่ม MEMORY อีกครั้งเพื่อยืนยันการบันทึกสถานีนั้นลงไปใน

เมมโมรี่ของเครื่อง สถานีที่คุณเลือกไว้ได้ถูกบันทึกลงบนเมมโมรี่ของ

เครื่องตามลำดับที่คุณเลือก จากนั้น ตัวเลขลำดับที่คุณใช้บันทึกสถานีนั้น

จะหยุดกระพริบ ทวนขั้นตอนทั้ง 4 ขั้นตอนนี้สำหรับการบันทึกคลื่น

ความถี่ของสถานีอื่นๆ ต่อไป

การเลือกคลื่นวิทยุที่บันทึกไว้ในเมมโมรี่

ใช้ปุ่ม PRESET / บนตัวเอวี รีซีฟเวอร์หรือปุ่ม CH +/-

บนรีโมท

� คุณสามารถใช้ปุ่มตัวเลขบนตัวรีโมทในการเจาะเลือกไปที่สถานีนั้นโดยตรง

(ในกรณีที่จำลำดับที่บันทึกไว้ได้)

เคล็ดลับ

การลบคลื่นวิทยุที่บันทึกไว้ในเมมโมรี่

เลือกคลื่นสถานีที่ต้องการลบขึ้นมา

ดูวิธีการจากหัวข้อก่อนหน้านี้

ในขณะที่กดปุ่ม MEMORY ค้างอยู่ ให้ใช้นิ้วอื่นกดปุ่ม TUNING MODE

สถานีที่ตั้งไว้จะถูกลบทิ้งไป และเลขลำดับที่จัดเก็บสถานี้นั้นไว้จะหายไป

จากจอแสดงผล

RDS จะทำงานเฉพาะในพื้นที่ที่มีการออกอากาศสัญญาณ RDS เท่านั้น

เมื่อกวาดหาคลื่นสถานี RDS สัญญาลักษณ์ RDS บนจอแสดงผลจะสว่างขึ้น

RDS คืออะไร.?

RDS มาจากคำว่า Radio Data System ซึ่งหมายถึงกรรมวิธีในการฝังข้อมูลลงไป

บนสัญญาณ FM เพื่อส่งผ่านไปทางอากาศ พัฒนาขึ้นมาโดยสมาพันธ์การกระจาย

สัญญาณวิทยุของยุโรป (EBU) ซึ่งมีให้บริการอยู่ในประเทศทางฝั่งยุโรปส่วนใหญ่

ปัจจุบันมีสถานีวิทยุ FM จำนวนมากที่ใช้เทคโนโลยี่นี้ ด้วยความสามารถของระบบ

RDS ในการแสดงข้อมูลตัวหนังสือออกมาบนจอทำให้คุณสามารถจัดเก็บสถานีวิทยุ

ที่คุณเลือกไว้ทั้งหมดด้วยวิธีแยกเป็นกลุ่มๆ ได้ อาทิ news, sport, rock ฯลฯ แล้ว

ใช้วิธีค้นหาสถานีวิทยุเหล่านั้นด้วยการพิมพ์กลุ่มประเภทของสถานีเข้าไปก็ได้แทนที่

จะค้นหาด้วยวิธีกวาดคลื่นความถี่เหมือนก่อน

เอวี รีซีฟเวอร์ตัวนี้สามารถตอบรับกับระบบ RDS ได้ 4 ประเภท:

PS (Program Service)

เมื่อหมุนเลือกไปที่สถานี RDS ที่ออกอากาศโดยมีข้อมูล PS มาด้วย จะปรากฏ

ชื่อของสถานีนั้นขึ้นแสดงบนจอ เมื่อกดปุ่ม DISPLAY บนจอจะแสดงตัวเลขคลื่น

ความถี่ของสถานีนั้นขึ้นมาประมาณ 3 วินาที

RT (Radio Text)

เมื่อหมุนเลือกไปที่สถานี RDS ที่ออกอากาศโดยมีข้อมูลตัวหนังสือมาด้วย

จะปรากฏตัวหนังสือกับตัวเลขเหล่านั้นขึ้นบนจอ ซึ่งจะแจกแจงรายละเอีย

ดเพิ่มเติมในบทถัดไป

PTY (Program Type)

จะทำให้คุณสามารถค้นหาสถานี RDS ด้วยวิธีจัดกลุ่มประเภทได้ ( 25)

TP (Traffic Program)

จะทำให้คุณสามารถค้นหาสถานี RDS ที่ออกอากาศข้อมูลจราจร

ได้ ( 25)

� ในบางกรณี รูปแบบของตัวอักษรที่แสดงขึ้นมาบนจอของตัว

เอวี รีซีฟเวอร์อาจจะไม่ตรงกับรูปแบบตัวอักษรที่ส่งออกอากาศมาจากสถานี

ในขณะเดียวกัน อาจจะปรากฏตัวอักษรแปลกๆ ขึ้นมาบนจอได้เช่นกันในกรณีที่

ตัวเอวี รีซีฟเวอร์ได้รับตัวอักษรที่ไม่มีรูปแบบฟร้อนต์อยู่ในตัวเครื่อง ซึ่งกรณีนี้

ถือว่าไม่ใช่ความผิดปกติของตัวเครื่องเอวี รีซีฟเวอร์

� ในกรณีที่สัญญาณจากสถานี RDS อ่อน ข้อมูล RDS ที่ปรากฏบนจออาจจะมี

อาการสะดุด หรืออาจจะไม่มีข้อมูลแสดงขึ้นมาเลยก็ได้

การแสดงข้อมูลตัวอักษร (RT)

กดปุ่ม RT/PTY/TP หนึ่งครั้ง

ข้อมูล RT จะแสดงขึ้นบนจอในลักษณะที่พาดยาวไปตามความกว้าง

ของจอ (แนวนอน)

� อาจมีข้อความ “Waiting” ปรากฏขึ้นบนจอในขณะที่ภาครับของตัว

เอวี รีซีฟเวอร์กำลังรอข้อมูล RT จากทางสถานี

� ถ้าปรากฏข้อความ “No Text Data” ขึ้นบนจอแสดงว่าไม่มีข้อมูล RT ส่งมา

Page 25: HT-S3300 Thai Version

25En

1

2

3

4

1

2

yalpsiDepyT

enoNenoN

News reports News

Current affairs Affairs

Information Info

tropStropS

Education Educate

amarDamarD

erutluCerutluC

Science and technology Science

deiraVdeiraV

Pop music Pop M

Rock music Rock M

Middle of the road music Easy M

Light classics Light M

Serious classics Classics

Other music Other M

Weather Weather

Finance Finance

Children’s programmes Children

Social affairs Social

Religion Religion

Phone in Phone In

levarTlevarT

erusieLerusieL

Jazz music Jazz

Country music Country

National music Nation M

Oldies music Oldies

Folk music Folk M

Documentary Document

Alarm test TEST

!mralAmralA

การค้นหาสถานีด้วยวิธีระบุประเภท (PTY)

คุณสามารถค้นหาสถานีด้วยวิธีระบุประเภทของสถานีได้โดย

กดปุ่ม RT/PTY/TP สองครั้ง

ประเภทของสถานีที่กำลังออกอากาศจะปรากฏขึ้นบนจอ

ใช้ปุ่ม PRESET / เพื่อเลือกประเภทของโปรแกรมที่ต้องการ

ดูรายละเอียดในตารางที่จะโชว์ในส่วนถัดไป

เริ่มต้นค้นหาโดยกดปุ่ม ENTER

เอวี รีซีฟเวอร์จะเริ่มค้นหาจนกว่าจะพบสถานีประเภทที่คุณระบุ เมื่อพบ

จะหยุดโชว์ให้ดูนิดหนึ่ง ก่อนที่จะเริ่มค้นหาสถานีต่อไป

เมื่อพบสถานีที่คุณต้องการแล้วให้กดปุ่ม ENTER

ถ้าไม่เจอสถานี จะปรากฏข้อความ “Not Found” ขึ้นบนจอ

รับฟังข่าวจราจร (TP)

คุณสามารถค้นหาสถานีที่ออกอากาศข้อมูลข่าวจราจรได้โดย

กดปุ่ม RT/PTY/TP สามครั้ง

ถ้ามีสถานีใดที่กำลังออกอากาศด้วยสัญญาณ TP (Traffic Program)

อยู่ในขณะนั้นจะปรากฏสัญญาลักษณ์ “[TP]” ขึ้นบนจอ และข่าวจราจร

จะดังออกมาให้ได้ยิน แต่ถ้ามีแต่ตัวอักษร TP ปรากฏขึ้นบนจอแต่ไม่มี

สัญญาลักษณ์ [ ] ครอบอยู่แสดงว่าสถานีนั้นไม่ได้ออกอากาศในขณะนั้น

ในขณะที่เอวี รีซีฟเวอร์กำลังค้นหาสถานีนั้น หากต้องการเลือกสถานี

ที่จะฟังให้กดปุ่ม ENTER

เอวี รีซีฟเวอร์จะทำการค้นหาเฉพาะสถานีที่ที่ออกอากาศสัญญาณ TP

ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะพบ ถ้าไม่มีสถานีที่ออกอากาศด้วยสัญญาณ TP

จะปรากฏข้อความ “Not Found” ขึ้นบนจอ

ตารางรายชื่อรายการวิทยุ RDS ที่แบ่งเป็นประเภท (PTY)

Page 26: HT-S3300 Thai Version

26En

หมายเหตุ

1

23

AUDIOIN

L R

VIDEOIN

Cassette, CDR, MD, etc.

VCR, DVD recorder

1

234

5

::

Camcorder

VCRCD player

Video signalAudio signal

การบันทึก (Recording)

ส่วนนี้จะอธิบายวิธีการบันทึกสัญญาณจากแหล่งต้นทางอินพุตใดอินพุตหนึ่ง และวิธีการบันทึกสัญญาณออดิโอ (เสียง) และสัญญาณวิดีโอ (ภาพเคลื่อนไหว) จาก

แหล่งต้นทางที่อยู่ต่างอินพุตกัน

การติดตั้งอุปกรณ์ที่ใช้ในการบันทึก

• ต้องทำการเปิดเครื่องเอวี รีซีฟเวอร์ขึ้นมาก่อน เนื่องจากตัวเอวี รีซีฟเวอร์

จะไม่สามารถทำการบันทึกได้ถ้าอยู่ในโหมดสแตนด์บาย

• ถ้าต้องการบันทึกตรงจากทีวีหรือจากเครื่องเล่นวิดีโอเทปไปยังเครื่องบันทึกโดย

ไม่ผ่านตัวเอวี รีซีฟเวอร์ ให้ต่อเชื่อมสัญญาณภาพและเสียงจากช่อง TV/VCR

ตรงไปเข้าที่ช่องออดิโอ/วิดีโอ อินพุตของอุปกรณ์ที่ใช้บันทึก โดยดูวิธีการต่อเชื่อม

จากคู่มือของอุปกรณ์ตัวนั้นๆ

• สัญญาณวิดีโอที่ต่อเชื่อมทางช่องคอมโพสิต วิดีโอจะสามารถส่งออกไปบันทึกบน

อุปกรณ์บันทึกทางช่องคอมโพสิต วิดีโอเท่านั้น เช่น ถ้าคุณเชื่อมต่อ TV/VCR

เข้าทางช่องคอมโพสิต วิดีโออินพุต คุณก็ต้องต่อเชื่อมตัว VCR ที่ใช้บันทึกเข้า

ที่ช่องคอมโพสิต วิดีโอ เอ๊าต์พุต

• ระบบเสียงเซอร์ราวนด์ต่างๆ กับระบบเสียงที่อยู่ในโหมดการฟังที่ผ่านการทำ

งานของวงจร DSP จะไม่สามารถบันทึกได้

• แผ่นดีวีดีกับแผ่นบลู-เรย์ฯ ที่มีระบบป้องกันการบันทึก (มีสัญญาณ Copy-

protection) จะไม่สามารถบันทึกได้

• แหล่งต้นทางที่ต่อเชื่อมอยู่ที่ช่องอินพุต digital ทั้งหมดไม่สามารถบันทึกได้

จะบันทึกได้เฉพาะแหล่งต้นทางที่ต่อเชื่อมอยู่ที่ช่องอินพุตแบบอะนาลอกเท่านั้น

• แม้ว่าจะต่อเชื่อมสัญญาณทางช่องอะนาลอกเอาไว้ด้วย แต่สัญญาณ DTS

ที่อยู่บนแผ่น DTS CD และแผ่น LD (เลเซอร์ดิสก์) ที่บันทึกมาได้จะมีแต่

สัญญาณรบกวนเท่านั้น

บันทึกสัญญาณออดิโอและวิดีโอ

แหล่งต้นทางออดิโอสามารถบันทึกเข้าสู่อุปกรณ์บันทึก (อย่างเช่น เครื่อง

บันทึกเทปคาสเส็ท, CDR หรือ MD) ที่ต่อเชื่อมอยู่ที่ช่อง VCR/DVR OUT

ได้ ส่วนสัญญาณภาพวิดีโอจากแหล่งต้นทางก็สามารถบันทึกเข้าสู่อุปกรณ์บันทึก

ภาพ (อาทิ VCR, DVR) ที่ต่อเชื่อมอยู่ที่ช่อง VCR/DVR OUT ได้

ใช้ปุ่ม Input Selector เลือกแหล่งต้นทางที่คุณต้องการบันทึกขึ้นมา

คุณสามารถชมรายการที่กำลังบันทึกอยู่ได้ การปรับระดับความดังผ่าน

ปุ่ม MASTER VOLUME จะไม่ส่งผลต่อระดับเสียงของโปรแกรมที่กำลัง

บันทึก

กดปุ่ม “Record” บนอุปกรณ์ที่คุณใช้บันทึกเพื่อเริ่มทำการบันทึก

กดปุ่ม “Play” บนอุปกรณ์ต้นทางที่คุณเลือกไว้

ถ้าคุณเลือกอินพุตอื่นจากฟังท์ชั่น input selector ขึ้นมา อินพุตใหม่นั้น

จะถูกบันทึกแทนอินพุตเดิม

การบันทึกจากแหล่งต้นทางที่อยู่ต่างอินพุตกัน

คุณสามารถบันทึกสัญญาณออดิโอ “ควบทับ” (Overdub) ลงไปบนสัญญาณ

วิดีโอได้ ด้วยการบันทึกทั้งสัญญาณออดิโอและสัญญาณวิดีโอจากแหล่งต้นทาง

2 แหล่งอินพุตพร้อมๆ กัน เหตุที่คุณสามารถทำอย่างนี้ได้ก็เพราะว่า มีเพียง

แหล่งต้นทางออดิโอเท่านั้นที่ถูกสวิทช์เปลี่ยน เพราะอินพุตนั้นมีเฉพาะสัญญาณ

ออดิโออย่างเดียว อย่างเช่น ช่อง TV/CD ในขณะที่แหล่งต้นทางที่เป็นสัญญาณ

วิดีโอยังคงถูกบันทึกเหมือนเดิม

ในภาพตัวอย่างด้านล่าง, สัญญาณเสียง (ออดิโอ) จากเครื่องเล่นซีดีต่อผ่านเข้า

มาทางช่อง TV/CD IN ส่วนสัญญาณวิดีโอ (ภาพ) จากกล้องแคมคอร์ดเดอร์

ต่อผ่านเข้ามาทางช่อง BD/DVD IN และถูกส่งไปบันทึกลงบน VCR (วิดีโอ

คาสเส็ท เร็คคอร์ดเดอร์) ซึ่งต่อรอรับสัญญาณอยู่ที่ช่อง VCR/DVR OUT

เตรียมกล้องแคมคอร์ดเดอร์และเครื่องเล่นซีดีให้พร้อมสำหรับการ

เพลย์แบ็ค

เตรียมพร้อมเครื่อง VCR สำหรับการบันทึก

กดปุ่มอินพุต BD/DVD

กดปุ่มอินพุต TV/CD

เป็นการเลือกให้เครื่องเล่นซีดีทำหน้าที่เป็นต้นทางสัญญาณออดิโอสำหรับ

บันทึก และปล่อยหน้าที่ในการเป็นต้นทางสัญญาณวิดีโอให้กับกล้อง

แคมคอร์ดเดอร์

เริ่มต้นฟังท์ชั่นบันทึก (Record) เครื่อง VCR จากนั้นให้เริ่มต้นเล่น

(Play) ที่เครื่องเล่นซีดีและกล้องแคมคอร์ดเดอร์

สัญญาณวิดีโอจากกล้องแคมคอร์ดเดอร์ และสัญญาณออดิโอจากเครื่อง

เล่นซีดีถูกบันทึกลงบนเครื่อง VCR พร้อมกัน

Page 27: HT-S3300 Thai Version

27En

ปรับเลือกโหมดการฟัง

GAME

STEREO MOVIE/TV

MUSIC

Press RECEIVER first.

MOVIE/TV, MUSIC, GAME

เกี่ยวกับโหมกการฟัง

*1

การใช้โหมดการฟัง (Using the Listening Modes)

สำหรับการแจกแจงลักษณะรูปแบบการฟังในแต่ละโหมดนั้น ให้ดูที่หัวข้อ “About the Listening Modes” ที่หน้า ( 27)

ปุ่มเลือกโหมดการฟัง

ปุ่ม MOVIE/TV

ปุ่มนี้ใช้เลือกโหมดการฟังที่เหมาะกับภาพยนตร์และทีวี

ปุ่ม MUSIC

ปุ่มนี้ใช้เลือกโหมดการฟังที่เหมาะใช้คู่กับการฟังเพลงโดยเฉพาะ

ปุ่ม GAME

ปุ่มนี้ใช้เลือกโหมดการฟังที่เหมาะใช้คู่กับการเล่นวิดีโอ เกมส์

ปุ่ม STEREO

ปุ่มนี้ใช้เลือกโหมดการฟังด้วยระบบเสียงสเตริโอ ซึ่งลำโพงทั้งหมดจะให้เสียง

ออกมาเป็นระบบสเตริโอ

• โหมดเสียงของ Dolby Digital กับ DTS จะสามารถเลือกฟังได้ก็ต่อเมื่อ

คุณได้ทำการต่อเชื่อมช่องสัญญาณออดิโอ เอ๊าต์พุตของเครื่องเล่น

BD/DVD เข้ากับตัวเอวี รีซีฟเวอร์ทางช่องดิจิตัล ออดิโอ อินพุต

(ช่อง OPTICAL, COAXIALหรือช่อง HDMI)

• โหมดเสียงที่คุณสามารถเลือกฟังได้นั้นจะขึ้นอยู่กับรูปแบบ (Format)

ของสัญญาณอินพุตด้วย ถ้าต้องการตรวจสอบรูปแบบของสัญญาณ ดูที่

หัวข้อ “Displaying Source Information” ที่หน้า ( 21)

• ถ้ามีหูฟังเสียบใช้งานคาอยู่ที่รูเสียบหูฟังบนหน้าปัดเอวี รีซีฟเวอร์ คุณจะ

สามารถเลือกฟังได้เฉพาะโหมดเสียงโมโน, ไดเร็กต์ หรือสเตริโอเท่านั้น

• ถ้ามีหูฟังเสียบใช้งานคาอยู่ที่รูเสียบหูฟังบนหน้าปัดเอวี รีซีฟเวอร์ คุณจะ

ไม่สามารถใช้งานฟังท์ชั่น Listening Modes ได้

• ขณะที่ชุดลำโพง Speakers A กับ Speakers B ถูกใช้งาน คุณจะสามารถ

เลือกฟังได้เฉพาะโหมดเสียงโมโน, ไดเร็กต์, สเตริโอ หรือ T-D (Theater

-Dimensional) เท่านั้น

โหมดการฟัง (Listening Modes) ของตัวเอวี รีซีฟเวอร์จะเปลี่ยนแปลงห้องฟังของคุณให้กลายเป็นโรงภาพยนตร์หรือคอนเสิร์ต ฮอลล์ ที่มีคุณภาพเสียงเยี่ยมยอด

กับสนามเสียงเซอร์ราวนด์ที่น่าตื่นเต้น

ความหมายของระบบเสียงแบบต่างๆ

แหล่งต้นทาง

ระบบเสียงต่างๆ ที่ปรากฏด้านล่างนี้สามารถใช้งานกับฟังท์ชั่นโหมดการรับฟังของเอวี รีซีฟเวอร์ตัวนี้ได้

ระบบเสียงโมโน ระบบนี้ให้เสียงออกมาแค่แชนเนลเดียว

ระบบเสียงสเตริโอ เป็นระบบที่ให้เสียงออกมา 2 แชนเนลที่แตกต่างกันผ่านทางลำโพง 2 ตัว

ระบบเซอร์ราวนด์ 5.1 แชนเนล ซึ่งระบบนี้จะให้เสียงที่ต่างกันออกมา 5 แชนเนลหลัก บวกกับแชนเนลที่ 6 สำหรับซับวูฟเฟอร์ ซึ่งก็คือ

แชนเนล .1 ในระบบ 5.1ch นั่นเอง

ระบบเซอร์ราวนด์ 7.1 แชนเนล ซึ่งเป็นระบบที่ขยายความสามารถของระบบเสียงเซอร์ราวนด์ 5.1 ch ออกไปอีกขั้น ด้วยการเพิ่มลำโพงด้านหลัง

เข้ามาอีก 2 แชนเนล ซึ่งทำให้ได้บรรยากาศของเสียงที่โอบล้อมดีขึ้น กับทำให้รับรู้ถึงตำแหน่งของเสียงที่เด่นชัดมากขึ้นด้วย

*1 เอวี รีซีฟเวอร์ตัวนี้จะให้สัญญาณออกไปทางช่องเอ๊าต์พุตเพียงแค่ 5.1ch เท่านั้น สำหรับอินพุตที่ป้อนเข้ามาเป็น 7.1ch

Page 28: HT-S3300 Thai Version

28En

Input Source

Speaker Layout

Direct

Stereo

Mono

Multichannel

Dolby Pro Logic II

Dolby Digital

Dolby Digital Plus *1

Dolby TrueHD

DTS

DTS-HD High Resolution Audio

DTS-HD Master Audio

Front speakers

Subwoofer

Center speaker

Surround speakers

D i r e c t

S t e r e o

M o n o

M u l t i c h

P L M o v i e

P L M u s i c

P L G a m e

D o l b y D

D o l b y D +

T e H Dr u

D T S

D T S – H D H R

D T S – H D M S T R

รูปแบบการจัดวางลำโพง (Speaker Layout)

ภาพประกอบด้านล่างจะแสดงให้เห็นว่ามีลำโพงตัวใดบ้างที่ถูกใช้งานเมื่อโหมดการฟังแบบต่างๆ ถูกเลือกใช้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับการปรับตั้งลำโพง

จากหัวข้อ “Sp Config (Speaker Configuration)” ที่หน้า ( 32)

โหมดการรับฟัง

ชื่อโหมดการรับฟัง ความหมาย

ในโหมดนี้ สัญญาณเสียงที่ส่งออกมาจากอุปกรณ์อินพุตจะไม่มีสัญญาณเซอร์ราวนด์ติดมา เมนู

“Sp Config” (แสดงจำนวนลำโพงที่ใช้), เมนู “Sp Distance” และเมนู “A/V Sync” สามารถใช้งาน

ได้ ในขณะที่ระบบโปรเซสเซอร์ส่วนใหญ่ในเมนู “AUDIO” จะไม่สามารถใช้งานได้ ดูรายละเอียดใน

หัวข้อ “Advanced Setup” เพิ่มเติมที่หน้า ( 30)

เสียงจะดังออกมาทางลำโพงคู่หน้าทั้งข้างซ้ายและข้างขวา รวมถึงลำโพงซับวูฟเฟอร์ด้วย

เลือกใช้โหมดนี้เมื่อรับชมภาพยนตร์เก่าที่บันทึกเสียงมาเป็นโมโน ซาวนด์แทรค หรือเลือกใช้กับ

สัญญาณเสียงในฟิล์มที่เป็นภาษาต่างชาติของหนังบางเรื่อง ซึ่งมักจะบันทึกมาเป็น 2 ภาษาโดยแยก

เสียงออกทางลำโพงซ้ายและขวา นอกจากนั้น โหมดนี้ยังสามารถเลือกใช้ได้กับเครื่องเล่น/แผ่น DVD

หรือแหล่งต้นทางบางอย่างที่บันทึกสัญญาณเสียงหลายแทรคมาพร้อมกัน อย่างเช่นแผ่นดีวีดีคาราโอเกะ

เป็นต้น

โหมดนี้ใช้กับแหล่งอินพุตที่ใช้สัญญาณเสียงมัลติแชนเนล PCM

Dolby Pro Logic II ทำการขยายประสิทธิภาพของระบบเสียง 2ch ทุกชนิดเพื่อนำไปเล่นบนระบบเสียง

เซอร์ราวนด์ 5.1ch ซึ่งจะให้เสียงที่เป็นธรรมชาติมากพร้อมกับสนามเสียงที่โอบล้อมรอบตัวผู้ฟังแบบ

ไร้รอยต่อ ทั้งกับโปรแกรมที่เป็นดนตรีและภาพยนตร์ รวมถึงวิดีโอเกมส์ก็จะได้ประโยชน์จากระบบเสียง

แบบนี้ในแง่ของเอ็ฟเฟ็กต์ที่กว้างขวาง และภาพที่สดใสด้วย

• Dolby Pro Logic II Movie ใช้โหมดนี้กับ DVD หรือวิดีโอที่มีโลโก้ Dolby Surround หรือรายการ

ทีวีที่ออกอากาศสัญญาณเสียงด้วยระบบ Dolby Surround อีกทั้งคุณยังสามารถเลือกใช้โหมดนี้กับ

ภาพยนตร์ที่บันทึกเสียงมาด้วยระบบเสียงสเตริโอ รวมถึงรายการทีวีที่ออกอากาศด้วยระบบเสียง

สเตริโอด้วย ซึ่งตัวเอวี รีซีฟเวอร์จะนำสัญญาณอินพุต 2 แชนเนลเหล่านี้ไปทำการสร้างเป็นสัญญาณ

เสียงเซอร์ราวนด์ 5.1 แชนเนลออกมาให้

• Dolby Pro Logic II Music ใช้โหมดนี้สำหรับเพิ่มจำนวนแชนเนลของเสียงสเตริโอจากแหล่งต้นทาง

บางแหล่ง อาทิ เครื่องเล่นซีดี และเครื่องเล่นดีวีดี ให้ออกมาเป็นสัญญาณเสียงเซอร์ราวนด์ 5.1

แชนเนล

• Dolby Pro Logic II Game ใช้โหมดนี้เมื่อเล่นวิดีโอ เกมส์

Page 29: HT-S3300 Thai Version

29En

หมายเหตุ

DTS Express

DSD *2

DTS 96/24 *3

DTS Neo:6

Input Source

Speaker Layout

Orchestra

Unplugged

Studio-Mix

TV Logic

Game-RPG

Game-Action

Game-Rock

Game-Sports

All Ch Stereo

Full Mono

T-D (Theater-Dimensional)

Input Source

Speaker Layout

D T S E x p r e s s

D S D

D T S 9 6 / 2 4

N e o : 6N e o : 6 C i n e m a

N e o : 6 M u s i c

O r c h e s t r a

U n p l u g g e d

S t u d i o – M i x

T V L o g i c

G a m e – R P G

G a m e – A c t i o n

G a m e – R o c k

G a m e – S p o r t s

A l l C h S t

F u l l M o n o

T – D

ชื่อโหมดการรับฟัง ความหมาย

สำหรับโหมดนี้ สัญญาณเสียงจากแหล่งอินพุตจะถูกส่งออกโดยไม่มีการปรับแต่งด้วยวงจรโปรเซสเซอร์

ใดๆ เมนู “Sp Config” (แสดงจำนวนลำโพงที่ใช้), เมนู “Sp Distance” และเมนู “A/V Sync”

สามารถใช้งานได้ ในขณะที่ระบบโปรเซสเซอร์ส่วนใหญ่ในเมนู “AUDIO” จะสามารถใช้งานได้ ดู

รายละเอียดในหัวข้อ “Advanced Setup” เพิ่มเติมที่หน้า (-->30)

โหมดนี้มีไว้ใช้กับแหล่งต้นทางที่บันทึกด้วยระบบเสียง DTS 96/24 เท่านั้น เป็นระบบเสียงแบบที่ให้

ความละเอียดสูงของ DTS โดยใช้อัตราแซมปลิ้งของสัญญาณที่ระดับ 96kHz และใช้จำนวนบิตเรตที่สูง

ถึง 24bit ในการแสดงไดนามิกเร้นจ์ของเสียงซึ่งเป็นระดับคุณภาพของเสียงที่ให้ความเป็นธรรมชาติสูง

มาก ใช้โหมดนี้กับแผ่นดีวีดีที่บันทึกเสียงมาด้วยระบบเสียง DTS 96/24

โหมดนี้จะทำการขยายจำนวนแชนเนลของสัญญาณอินพุต 2 แชนเนลทุกชนิดให้เล่นออกมาเป็นสัญญาณ

เสียงเซอร์ราวนด์ 5.1 แชนเนล มันใช้แชนเนลเสียงจำนวน 5.1 แชนเนลที่มีความถี่เต็มแบนวิดธ์ในการ

ถอดรหัสแบบ matrix จากสัญญาณเสียงที่เข้ารหัสมาด้วยระบบ matrix เช่นเดียวกัน ให้เสียงที่มีคุณภาพ

เหมือนจริง มีความเป็นธรรมชาติสูง พร้อมทั้งให้ความรู้สึกของสนามเสียงที่โอบล้อมผู้ฟังและผู้ชมอย่าง

เต็มที่

• DTS Neo:6 Cinema ใช้โหมดนี้กับภาพยนตร์จากทุกแหล่งต้นทางที่บันทึกเสียงมาด้วยระบบสเตริโอ

ยกตัวอย่างเช่นจากทีวี, ดีัวีดี หรือแม้แต่วิดีโอ เทป (VHS)

• DTS Neo:6 Music ใช้โหมดนี้กับสัญญาณเสียงจากทุกแหล่งต้นทางที่บันทึกเสียงมาด้วยระบบสเตริโอ

ยกตัวอย่างเช่นจากซีดี, วิทยุ, เครื่องเล่นเทปคลาสเส็ท, ทีวี, วิดีโอ เทป (VHS) รวมถึงดีวีดีด้วย

ชื่อโหมดการรับฟัง ความหมาย

โหมดเสียง DSP ที่คิดค้นโดยวิศวกรของ Onkyo เอง

เหมาะกับดนตรีคลาสสิก หรือโอเปร่า ซึ่งโหมดนี้จะทำการเน้นเสียงที่แชนเนลเซอร์ราวนด์ขึ้นมาเพื่อ

ขยายมิติเสียงของระบบสเตริโอให้กว้างขึ้น และในขณะเดียวกัน ระบบนี้ได้ทำการเสริมสัญญาณเสียง

กังวานรายรอบซึ่งเป็นบรรยากาศที่เกิดขึ้นในฮอลล์แสดงดนตรีขนาดใหญ่เข้าไปด้วยเหมาะกับเสียงของดนตรีอะคูสติก เสียงร้อง และดนตรีแจ๊ส ซึ่งโหมดนี้จะทำการเสริมความชัดเจนของตัว

เสียงของสองแชนเนลด้านหน้าขึ้นมาเป็นการให้ความสำคัญกับเสียงที่เกิดขึ้นบริเวณด้านหน้าของเวทีเสียง

เหมาะกับการฟังเพลงร็อค หรือดนตรีพ๊อพ ซึ่งโหมดเสียงนี้จะทำให้เกิดบรรยากาศของเสียงที่สดใส

เต็มไปด้วยพลังเสียง ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในคลับหรือร็อค คอนเสิร์ต

โหมดนี้ช่วยเพิ่มบรรยกาศของความจริงเข้าไปกับแหล่งโปรแกรมทีวีที่บันทึก หรือออกอากาศมาจาก

สตูดิโอของสถานี ด้วยวิธีการเพิ่มส่วนที่เป็นบรรยากาศรายรอบ (surround) เข้าไปกับเสียงทั้งหมด ใน

ขณะเดียวกันก็เน้นให้ความสำคัญกับเสียงพูดที่เหมือนจริงไปด้วย

ใช้โหมดนี้เมื่อเล่นแผ่นเกมส์ประเภท role playing game

ใช้โหมดนี้เมื่อเล่นแผ่นเกมส์ประเภทแอ๊คชั่น

ใช้โหมดนี้เมื่อเล่นแผ่นเกมส์ประเภทร็อคเกมส์

ใช้โหมดนี้เมื่อเล่นแผ่นเกมส์ที่เกี่ยวกับกีฬา

เป็นโหมดที่เหมาะมากสำหรับเปิดดนตรีคลอเบาๆ เป็นแบ็คกราวนด์ มิวสิค ซึ่งโหมดนี้จะทำการกระจาย

เสียงดนตรีออกไปรอบๆ บริเวณด้วยระบบเสียงสเตริโอ จากแชนเนลหน้าและแชนเนลที่เป็นเซอร์ราวนด์

ในโหมดนี้ ทุกแชนเนลจะกระจายเสียงออกมาด้วยสัญญาณเสียงโมโนแบบเดียวกัน ดังนั้นเสียงที่คุณได้ยิน

จึงเป็นเสียงเดียวกันทุกๆ พื้นที่ในบริเวณที่เสียงจากลำโพงที่ติดตั้งไว้สามารถกระจายไปถึง

ด้วยโหมดนี้ คุณจะสามารถเพลิดเพลินกับระบบเสียงเซอร์ราวนด์ 5.1 แชนเนลเทียมที่เกิดขึ้นแม้จะใช้

ลำโพงเพียงแค่ 2 หรือ 3 ตัว (ไม่ถึง 6 ตัว) ซึ่งวิธีการทำงานของโหมดนี้ก็คือ จะอาศัยวิธีการควบคุมวิธี

ที่สัญญาณเสียงเดินทางมาถึงหูข้างซ้ายและข้างขวาของผู้ฟัง ซึ่งผลลัพธ์อาจจะออกมาไม่ดีนักถ้าสภาพ

แวดล้อมมีลักษณะการก้องสะท้อนของเสียงมากเกินไป เราจึงขอแนะนำให้เลือกใช้โหมดเสียงนี้ในสภาพ

ห้องที่มีเสียงสะท้อนค่อนข้างน้อย หรือไม่มีเลยก็จะยิ่งดี (ในห้องที่มีสภาพอะคูสติกที่ดูดซับพลังงานของ

เสียงมากๆ จะออกมาดี)

*1 เมื่อเล่นแผ่นบลู-เรย์ฯ ระบบเสียง Dolby Digital จะถูกเลือกใช้

*2 เอวี รีซีฟเวอร์ตัวนี้สามารถรับสัญญาณ DSD จากช่อง HDMI IN ถ้าปรับตั้งสัญญาณเอ๊าต์พุตของตัวเพลเยอร์ไว้ที่ตำแหน่ง PCM อาจจะทำให้ได้คุณภาพเสียง

ที่ดีกว่า ขึ้นอยู่กับตัวเครื่องเล่น ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น ให้ปรับตั้งสัญญาณเอ๊าต์พุตของตัวเครื่องเล่นไว้ที่ PCM

*3 ขึ้นอยู่กับสัญญาณอินพุตจากอุปกรณ์ต้นทาง ซึ่งระบบเสียง DTS จะถูกเลือกใช้

Page 30: HT-S3300 Thai Version

30En

หมายเหตุ

หมายเหตุ

เมนูเซ็ทอัพที่แสดงบนหน้าจอ

Setup Menu

1. HDMI Input 2. Component 3. Digital Audio 4. Sp Config 5. Sp Distance 6. Level Cal 7. Audio Adjust 8. Name Edit 9. Hardware10. HDMI Setup

BD/DVDVCR/DVRCBL/SATGAMEAUXTV/CDPORT

BD/DVDVCR/DVRCBL/SATGAMEAUXTV/CDPORT

Remote IDFM/AM Freq Step

Input Ch(Mux)Input Ch(Mono)PanoramaDimensionCenter WidthCenter ImageAudysseyDynamic EQReferenceLevelDynamic VolumeListening Angle

LeftCenterRightSurround RightSurround LeftSubwoofer

BD/DVDVCR/DVRCBL/SATGAMEAUXTV/CDPORT

BD/DVDVCR/DVRCBL/SATGAMEAUXTV/CDPORT

SubwooferFrontCenterSurroundCrossoverDouble Bass

UnitLeftCenterRightSurround RightSurround LeftSubwoofer

Name

Audio TV OUTLipSyncHDMI Control

Audio Return ChPower Control

TV Control

HDMI Input ( 31)

Component ( 31)

Digital Audio ( 31)

Sp Config ( 32 )

Sp Distance ( 32)

Level Cal ( 33)

Name Edit ( 35)

Hardware ( 35 )

Audio Adjust ( 33)

HDMI Setup ( 36)

ขั้นตอนการปรับตั้งแบบพื้นฐานในเมนูเซ็ทอัพ

1

2

3

RETURNSETUP

RECEIVER

ENTER/ / /

Remote indicator

Setup Menu

1. HDMI Input 2. Component 3. Digital Audio 4. Sp Config 5. Sp Distance 6. Level Cal 7. Audio Adjust 8. Name Edit 9. Hardware10. HDMI Setup

BD/DVDVCR/DVRCBL/SATGAMEAUXTV/CDPORT

HDMI1- - - - -

HDMI2HDMI3

- - - - -- - - - -- - - - -

กากรปรับตั้งระดับสูง (Advanced Setup)

เมนูเซ็ตอัพที่แสดงขึ้นบนจอนี้จะปรากฏให้เห็นบนจอทีวีเฉพาะการเชื่อมต่อด้วย

HDMI OUT เท่านั้น ถ้าทีวีของคุณต่อเชื่อมสัญญาณภาพจากเอวี รีซีฟเวอร์ตัว

นี้ทางช่อง MONITOR OUT หรือช่อง COMPONENT VIDEO OUT ให้ใช้จอ

แสดงผลของเอวี รีซีฟเวอร์ในการปรับตั้ง

เมนูเซ็ตอัพที่แสดงขึ้นจอจะปรากฏให้เห็นต่อเมื่อ:

� ไม่มีสัญญาณวิดีโอ อินพุต หรือ

� สัญญาณวิดีโอ อินพุต เป็น 480p, 576p, 720p, 1080i หรือ 1080p

เมนูเซ็ตอัพจะปรากฏขึ้นบนจอทีวีที่ต่อเชื่อมเอาไว้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับ

การปรับตั้งต่างๆ ของเอวี รีซีฟเวอร์ได้มาก การปรับตั้งทั้งหมดได้ถูกจัดแยกไว้เป็น

10 กลุ่ม ทั้งหมดนั้นถูกบรรจุอยู่ใน main menu ซึ่งคุณสามารถเข้าไปใช้งานผ่านทาง

เมนูเซ็ตอัพที่ปรากฏบนจอ

กดปุ่ม RECEIVER แล้วตามด้วยปุ่ม SETUP

ใช้ปุ่มลูกศรขึ้น-ลง / ในการเลือกหัวข้อเมนู เมื่อได้แล้วก็กดปุ่ม

ENTER

ใช้ปุ่มลูกศรขึ้น-ลง / ในการเลือกหัวข้อฟังท์ชั่น เมื่อได้แล้วก็ใช้ปุ่ม

/ ในการปรับตั้งหัวข้อนั้น

กดปุ่ม SETUP เพื่อปิดเมนู

กดปุ่ม RETURN เพื่อกลับไปที่หน้าเมนูหลัก

� ขั้นตอนเหล่านี้สามารถปรับตั้งผ่านตัวเอวี รีซีฟเวอร์ก็ได้ โดยอาศัยปุ่ม SETUP,

ปุ่มลูกศรสี่ทิศ ร่วมกับปุ่ม ENTER

Page 31: HT-S3300 Thai Version

31En

Menu HDMI Input

หมายเหตุ

Menu Component

หมายเหตุ

Menu Digital Audio

การปรับตั้ง HDMI

SubwooferYes :

No:

Menu Sp Config

Menu selection

Setting target

Setting options (default setting underlined)

Select if a subwoofer is connected.

Select if no subwoofer is connected.

การปรับตั้งช่องคอมโพเน้นท์ วีดีโอ อินพุต

ปรับตั้งช่องดิจิตอล ออดิโอ อินพุต

ถ้าคุณต่อเชื่อมอุปกรณ์เล่นภาพวิดีโอเข้าที่ช่องอินพุต HDMI คุณจะต้องทำการ

กำหนดอินพุตนั้นเข้ากับฟังท์ชั่น อินพุต ซีเล็กเตอร์ด้วย ตัวอย่าง ถ้าคุณต่อเชื่อม

เครื่องเล่นบลู-เรย์ฯ หรือเครื่องเล่นดีวีดี เข้ากับช่องต่อ HDMI IN2 คุณจะต้อง

ทำการกำหนดโค๊ด “HDMI2” ไปไว้ให้ตรงกับตำแหน่ง “BD/DVD” ของ

ฟังท์ชั่นอินพุต ซีเล็กเตอร์

นี่คือค่ากำหนดที่ถูกปรับตั้งมาจากโรงงาน

อินพุต ซีเล็กเตอร์ ค่าที่กำหนดมาจากโรงงานBD/DVD HDMI1

VCR/DVR -----

CBL/SAT HDMI2

GAME HDMI3

AUX -----

TV/CD -----

PORT -----

BD/DVD, VCR/DVR, CBL/SAT, GAME, AUX, TV/CD, PORT

HDMI1, HDMI2, HDMI3

เลือกช่องอินพุต HDMI ที่ตรงกับประเภทของอุปกรณ์ที่นำสัญญาณ

เอ๊าต์พุตวิดีโอมาต่อเชื่อมไว้

-----

เลือกตำแหน่งนี้ถ้าคุณไม่ได้ใช้ช่อง HDMI OUT

ช่องอินพุต HDMI แต่ละช่องไม่สามารถกำหนดให้กับฟังท์ชั่น input

selector ได้มากกว่าหนึ่งช่อง เมื่อ HDMI1 ถึง HDMI3 ถูกกำหนดให้กับ

ฟังท์ชั่นอินพุต ซีเล็กเตอร์หมดแล้ว หากต้องการเพิ่มเติม คุณต้องทำการ

เปลี่ยนให้อินพุตใดอินพุตหนึ่งที่ใช้ HDMI อยู่ไปใช้ ----- แทน มิฉนั้น

คุณจะไม่สามารถเพิ่มการกำหนดอุปกรณ์ใหม่เข้าไปในอินพุต HDMI ได้อีก

� เมื่อ HDMI IN ถูกกำหนดให้กับฟังท์ชั่นอินพุต ซีเล็กเตอร์ตามที่กล่าวมา

แล้ว สัญญาณดิจิตัล ออดิโอ อินพุตของอินพุต ซีเล็กเตอร์นั้นก็จะถูกย้าย

ไปรวมกับสัญญาณภาพที่ช่อง HDMI IN ช่องเดียวกันโดยอัตโนมัติ

( 31, Digital Audio (Digital Audio Input)

� ถ้าคุณต่อเชื่อมอุปกรณ์ (อย่างเช่น UP-A1 Dock ที่ใช้กับ iPod) เข้ากับ

ช่อง UNIVERSAL PORT คุณจะไม่สามารถกำหนดอินพุตใดให้กับอินพุต

ซีเล็กเตอร์ที่ตำแหน่ง PORT ได้

� อย่าทำการกำหนดอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อด้วย HDMI เข้าที่ตำแหน่ง TV/CD

selector เมื่อคุณปรับตั้งฟังท์ชั่น “TV Control” ไว้ที่ “On” ( 37)

มิฉนั้น จะไม่รับประกันว่าฟังท์ชั่น CEC จะทำงานได้ปกติ

ถ้าคุณเชื่อมต่ออุปกรณ์เล่นภาพวิดีโอไว้ที่ช่องคอมโพเน้นต์ อินพุต คุณต้อง

ทำการกำหนดอินพุตนั้นไว้ที่ฟังท์ชั่นอินพุต ซีเล็กเตอร์ด้วย ยกตัวอย่าง ถ้าคุณ

ต่อเชื่อมเครื่องเล่นบลู-เรย์ฯ หรือเครื่องเล่นดีวีดีเข้าที่ช่อง COMPONENT

VIDEO IN 2 คุณต้องกำหนด “IN2” เข้าที่ตำแหน่ง “BD/DVD” ของอินพุต

ซีเล็กเตอร์

นี่คือค่ากำหนดที่ถูกปรับตั้งมาจากโรงงาน

อินพุต ซีเล็กเตอร์ ค่าที่กำหนดมาจากโรงงาน

BD/DVD IN1

VCR/DVR -----

CBL/SAT IN2

GAME -----

AUX -----

TV/CD -----

PORT -----

BD/DVD, VCR/DVR, CBL/SAT, GAME, AUX, TV/CD, PORT

IN1, IN2:

เลือกช่องคอมโพเน้นต์ อินพุตที่ตรงกับประเภทของอุปกรณ์ที่นำ

สัญญาณเอ๊าต์พุตวิดีโอมาต่อเชื่อมไว้

-----

เลือกตำแหน่งนี้ถ้าคุณไม่ได้ใช้ช่อง COMPONENT VIDEO OUT

� ถ้าคุณต่อเชื่อมอุปกรณ์ (อย่างเช่น UP-A1 Dock ที่ใช้กับ iPod)

เข้ากับช่อง UNIVERSAL PORT คุณจะไม่สามารถกำหนดอินพุตใดให้กับ

อินพุต ซีเล็กเตอร์ที่ตำแหน่ง PORT ได้

ถ้าคุณต่อเชื่อมอุปกรณ์เข้าทางช่องดิจิตัล ออดิโอ อินพุต คุณจะต้องทำการ

กำหนดอินพุตนั้นให้กับฟังท์ชั่นอินพุต ซีเล็กเตอร์ด้วย ยกตัวอย่าง ถ้าคุณต่อ

เชื่อมเครื่องเล่นซีดีเข้าที่ช่อง OPTICAL IN 1 คุณต้องกำหนด “OPT1” เข้าที่

ตำแหน่ง “TV/CD” ของอินพุต ซีเล็กเตอร์

นี่คือค่ากำหนดที่ถูกปรับตั้งมาจากโรงงาน

BD/DVD, VCR/DVR, CBL/SAT, GAME, AUX, TV/CD, PORT

COAX, OPT1, OPT2:

เลือกช่องดิจิตัล ออดิโอ อินพุตที่ตรงกับประเภทของอุปกรณ์ที่นำ

สัญญาณเอ๊าต์พุตดิจิตัล ออดิโอมาต่อเชื่อมไว้

-----

เลือกตำแหน่งนี้ถ้าคุณต่อเชื่อมอุปกรณ์ตัวนั้นทางช่องอะนาลอก อินพุต

อินพุต ซีเล็กเตอร์ ค่าที่กำหนดมาจากโรงงาน

BD/DVD COAXVCR/DVR -----CBL/SAT -----

GAME OPT1

AUX -----

TV/CD OPT2

PORT -----

Page 32: HT-S3300 Thai Version

32En

หมายเหตุ

Menu Sp Config

Large

Note

หมายเหตุ

หมายเหตุ

หมายเหตุ

หมายเหตุ

Menu Sp Distance

ระบุคุณสมบัติของลำโพงแต่ละตัว

Cone diameter

Over 8 in. (20 cm) 40/50/60 Hz*

6-1/2 to 8 in. (16 to 20 cm) 80 Hz

5-1/4 to 6-1/2 in. (13 to 16 cm) 100 Hz

3-1/2 to 5-1/4 in. (9 to 13 cm) 120 Hz

Under 3-1/2 in. (9 cm) 150/200 Hz*

การปรับตั้งระยะห่างของลำโพง

� เมื่อช่องอินพุต HDMI IN ถูกกำหนดให้กับฟังท์ชั่นอินพุต ซีเล็กเตอร์ที่

ตำแหน่ง HDMI Input ( 31) การกำหนดอินพุตนี้ก็จะเข้าไปอยู่ในตำแหน่ง

HDMI IN โดยอัตโนมัติ รวมถึงอินพุตปกติ (เช่น COAX เป็นต้น) ด้วย

� อัตราความถี่แซมปลิ้งของสัญญาณ PCM ที่สามารถรองรับได้สำหรับดิจิตัล

อินพุต (อ๊อฟติคัล และ โคแอ๊กเชี่ยล) คือ 32/44.1/48/88.2/96 kHz ที่

ระดับบิตเรต 16, 20, 24bit

� ถ้าคุณต่อเชื่อมอุปกรณ์ (อย่างเช่น UP-A1 Dock ที่ใช้กับ iPod) เข้ากับช่อง

UNIVERSAL PORT คุณจะไม่สามารถกำหนดอินพุตใดให้กับอินพุตซีเล็กเตอร์

ที่ตำแหน่ง PORT ได้

คู่มือส่วนนี้อธิบายวิธีการระบุเจาะจงว่าลำโพงใดที่ถูก

ต่อเชื่อมใช้งานรวมถึงขนาดของลำโพงด้วย

สำหรับลำโพงที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของ

กรวยใหญ่กว่า 6 1/2 นิ้ว (16 ซ.ม.) จะถูก

ระบุว่าเป็นลำโพงขนาดใหญ่ (Large)

(มีช่วงการตอบสนองความถี่ตลอดย่าน หรือ Full Range)

ส่วนลำโพงที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางของกรวยเล็กกว่านั้นจะถูกระบุให้เป็นลำโพง

ขนาดเล็ก (Small) (จุดตัดความถี่ที่ปรับตั้งมาจากโรงงานจะอยู่ที่ 120Hz)

จุดตัดความถี่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ที่หัวข้อเมนู “Crossover

(Crossover Frequency)” ( 32)

� ฟังท์ชั่น Speaker Configuration, Crossover Frequency และฟังท์ชั่น

Double Bass Setting จะไม่สามารถใช้งานได้ในขณะที่มีหูฟังเสียบใช้งาน

อยู่บนตัวเอวี รีซีฟเวอร์ หรือถ้าฟังท์ชั่น “Audio TV OUT” ถูกปรับตั้งไว้

ที่ตำแหน่ง “On” ( 36) หรือถ้าชุดลำโพง B ถูกใช้งาน

ลำโพงซับวูฟเฟอร์

YES:

เลือกตั้งไว้ที่ตำแหน่งนี้ ถ้ามีลำโพงซับวูฟเฟอร์ต่อเชื่อมอยู่ในระบบเสียง

No:

เลือกตั้งไว้ที่ตำแหน่งนี้ ถ้าไม่มีลำโพงซับวูฟเฟอร์ต่อเชื่อมอยู่ในระบบเสียง

ลำโพงคู่หน้า

Small:

Large:

เลือกโดยอิงกับขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของกรวยลำโพงที่ใช้

� ถ้าหัวข้อ “Subwoofer” ถูกตั้งไว้ที่ตำแหน่ง “No” ที่หัวข้อนี้จะถูกตั้ง

ตายตัวไว้ที่ตำแหน่ง “Large” และจะไม่ปรากฏขึ้นมา

ลำโพงเซ็นเตอร์*1*2, ลำโพงเซอร์ราวนด์*1*2

Small:

Large:

เลือกโดยอิงกับขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของกรวยลำโพงที่ใช้

None:

เลือกตำแหน่งนี้ถ้าไม่มีลำโพงเหล่านี้ติดตั้งอยู่ในระบบ

*1 ถ้าหัวข้อ “Front” ถูกตั้งไว้ที่ตำแหน่ง “Small” ที่หัวข้อ “Large”

จะไม่สามารถเลือกใช้ได้

*2 ขณะที่ลำโพงชุด B ถูกเลือกใช้งาน จะไม่มีเสียงออกที่ลำโพงเหล่านี้

( 11)

ปรับตั้งจุดตัดความถี่ Crossover (Crossover Frequency)

การปรับตั้งนี้จะทำให้ลำโพงที่ถูกระบุในหัวข้อปรับตั้ง“Sp Config”( 32)

ให้เป็น “Small” สามารถให้เสียงทุ้มออกมาได้ดีที่สุด ซึ่งคุณต้องทำการ

ปรับตั้งจุดตัดแบ่งความถี่โดยอ้างอิงกับขนาดของลำโพง และความ

สามารถในการตอบสนองความถี่ของลำโพง

40Hz, 50Hz, 60Hz, 80Hz, 100Hz, 120Hz, 150Hz, 200Hz

ให้ใช้ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของลำโพงตัวที่เล็กที่สุดในระบบเสียงของ

คุณเป็นตัวอ้างอิงในการเลือกใช้จุดตัดความถี่ตามตารางด้านล่าง

ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของกรวยลำโพง จุดตัดความถี่

* เลือกค่าที่เหมาะสมกับสเปคฯ ของลำโพง

� สำหรับการปรับตั้งที่ถูกต้องแม่นยำมากขึ้น ให้ดูค่าตอบสนองความถี่

ของลำโพงในสมุดคู่มือของลำโพงนั้นๆ แล้วทำการเลือกค่าจุดตัดที่เหมาะสมกัน

� เลือกความถี่ของจุดตัดที่สูงขึ้น ถ้าคุณต้องการปริมาณเสียงทุ้มจากลำโพง

ซับวูฟเฟอร์มากขึ้น

ฟังท์ชั่นดับเบิ้ล เบส (Double Bass)

� ฟังท์ชั่นนี้จะสามารถใช้งานได้ก็เฉพาะเมื่อหัวข้อ “Subwoofer” ถูกปรับตั้งไว้ที่

ตำแหน่ง “Yes” และลำโพงคู่หน้าหรือ “Front” ถูกปรับตั้งไว้ที่ตำแหน่ง “Large”

( 32)

ฟังท์ชั่น Double Bass จะทำให้คุณสามารถเพิ่มปริมาณเสียงทุ้มออกมาจากลำโพง

ซับวูฟเฟอร์ได้มากขึ้น ด้วยการย้ายเสียงทุ้มที่ตัดจากลำโพงคู่หน้าซ้าย-ขวา และ

จากลำโพงเซ็นเตอร์ไปออกทางลำโพงซับวูฟเฟอร์

On:

ฟังท์ชั่น Double Bass อยู่ในสถานะภาพ “On”

Off:

ฟังท์ชั่น Double Bass อยู่ในสถานะภาพ “Off”

คุณสามารถระบุระยะห่างระหว่างลำโพงแต่ละตัวกับจุดนั่งฟังได้ที่ฟังท์ชั่นนี้

เพื่อทำให้เสียงจากลำโพงแต่ละตัวเดินทางไปถึงหูของผู้ฟังที่ตำแหน่งนั่งฟังด้วย

ระยะเวลาที่ตรงกับที่ผู้สร้างโปรแกรมนั้นตั้งใจสร้างสรรมันขึ้นมา

หน่วยวัด

feet:

วัดระยะเป็นฟุต ด้วยช่วงความกว้างทั้งหมดตั้งแต่ 1 ฟุต ถึง 30 ฟุต

ด้วยความละเอียดในการปรับตั้ง 1 ฟุตต่อขั้น

meters:

วัดระยะเป็นเมตร ด้วยช่วงความกว้างทั้งหมดตั้งแต่ 0.3 เมตร ถึง 9.0 เมตร

ด้วยความละเอียดในการปรับตั้ง 0.3 เมตรต่อขั้น (ค่าปรับตั้งมาจากโรงงาน

ของแต่ละประเทศจะแตกต่างกัน)

Page 33: HT-S3300 Thai Version

33En

หมายเหตุ

Menu Level Cal

หมายเหตุ

Menu Audio Adjust

ปรับตั้งระดับความดัง

การปรับต้ังค่าออดิโอ

ลำโพงซ้าย, เซ็นเตอร์, ขวา, เซอร์ราวนด์ ขวา, เซอร์ราวนด์ ซ้าย, ซับวูฟเฟอร์

กำหนดระยะห่างจากลำโพงแต่ละตัวไปถึงตำแหน่งนั่งฟัง

� ระยะห่างระหว่างลำโพงกับจุดนั่งฟังจะไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้ถ้ามีหูฟัง

เสียบคาอยู่ที่รูเสียบหูฟังของเอวี รีซีฟเวอร์ หรือถ้าเมนู “Audio TV OUT”

ถูกปรับตั้งอยู่ที่ตำแหน่ง “On” ( 36) หรือในขณะที่ลำโพงชุด B กำลัง

ถูกใช้งาน

� ลำโพงตัวที่คุณปรับตั้งไว้ที่ตำแหน่ง “No” หรือ “None” ในเมนู “Sp Config”

( 32) จะไม่สามารถปรับเลือกฟังท์ชั่นนี้ได้

� ลำโพงเซ็นเตอร์, คู่หน้าด้านขวา รวมถึงลำโพงซับวูฟเฟอร์ สามารถปรับตั้ง

ระยะห่างได้มากกว่าระยะห่างของลำโพงคู่หน้าด้านซ้ายถึง 5 ฟุต (1.5 เมตร)

ตัวอย่าง สมมุติวัดระยะห่างจากลำโพงคู่หน้าด้านซ้ายไปถึงจุดนั่งฟังออกมาได้

20 ฟุต (6 เมตร) คุณจะสามารถปรับตั้งระยะห่างของลำโพงเซ็นเตอร์, คู่หน้า

ด้านขวา และลำโพงซับวูฟเฟอร์ได้ตั้งแต่ 15 ถึง 25 ฟุต (4.5 ถึง 7.5 เมตร)

� ระยะห่างของลำโพงเซอร์ราวนด์สามารถปรับตั้งได้มากกว่า หรือน้อยกว่าระยะ

ห่างของลำโพงคู่หน้าด้านซ้ายได้ถึง 5 ฟุต (1.5 เมตร) ตัวอย่าง สมมุติว่าคุณ

วัดระยะห่างระหว่างลำโพงคู่หน้าด้านซ้ายกับจุดนั่งฟังได้เท่ากับ 20 ฟุต

(6 เมตร) คุณสามารถปรับตั้งระยะห่างของลำโพงเซ็นเตอร์, คู่หน้าด้านขวา

และลำโพงซับวูฟเฟอร์ได้ตั้งแต่ 5 ถึง 25 ฟุต (1.5 ถึง 7.5 เมตร)

คุณสามารถปรับตั้งระดับความดังของลำโพงแต่ละตัวได้ด้วยเมนูนี้ โดยอาศัย

สัญญาณเทสต์ โทนที่ติดตั้งอยู่ภายในตัวเอวี รีซีฟเวอร์ ซึ่งจะทำให้เสียงของ

ลำโพงแต่ละตัวที่มาถึงจุดนั่งฟังมีความดังที่เท่าเทียมกัน

ลำโพงคู่หน้าด้านซ้าย, ลำโพงเซ็นเตอร์, ลำโพงคู่หน้าด้านขวา, ลำโพง

เซอร์ราวนด์ด้านขวา, ลำโพงเซอร์ราวนด์ด้านซ้าย

-12dB > 0dB > +12dB ด้วยความละเอียด 1dB ต่อขั้น

ลำโพงซับวูฟเฟอร์*1

-15dB > 0dB > +12dB ด้วยความละเอียด 1dB ต่อขั้น

� ลำโพงตัวที่คุณปรับตั้งไว้ที่ตำแหน่ง “No” หรือ “None” ในเมนู

“Sp Config” ( 32) จะไม่สามารถปรับเลือกฟังท์ชั่นนี้ได้

� จะไม่สามารถปรับระดับความดังของลำโพงได้ในขณะที่มีหูฟังเสียบ

ใช้งานอยู่บนตัวเอวี รีซีฟเวอร์ถ้าชุดลำโพง B ถูกใช้งาน หรือถ้าฟังท์ชั่น

“Audio TV OUT”ถูกปรับตั้งไว้ที่ตำแหน่ง“On” ( 36) หรือในกรณีที่

เอวี รีซีฟเวอร์อยู่ในสถานะปิดเสียงชั่วคราว

*1 สำหรับลำโพงเซ็นเตอร์และซับวูฟเฟอร์ ระดับความดังที่ปรับตั้งไว้ในเมนู

AUDIO จะถูกเก็บบันทึกไว้

เคล็ดลับ

� ถ้าคุณใช้อุปกรณ์วัดความดังของเสียง (SPL meter) ในการตรวจวัดระดับ

ความดังของลำโพงแต่ละตัว ให้ตั้งค่าวัดบนอุปกรณ์ไว้ที่ 75 dB SPL ณ

ตำแหน่งนั่งฟัง และให้ตั้งวิธีวัดมาตรฐานแบบ C-weighting และ slow reading

ด้วยฟังท์ชั่นปรับตั้งค่าออดิโอนี้ จะทำให้คุณสามารถปรับตั้งเสียงและโหมดการ

รับฟังได้ตามใจชอบ

Multiplex/Mono Settings

Multiplex

การปรับตั้งนี้เป็นการกำหนดว่าแชนเนลไหนบ้างของแหล่งสัญญาณสเตริโอ

มัลติเพล็กต์ที่จะถูกส่งออกไป ใช้ฟังท์ชั่นนี้ในการระบุช่องสัญญาณเสียง หรือช่อง

ภาษาไหน (มีหลายภาษาให้เลือก อย่างเช่น สัญญาณเสียงจากทีวีที่เป็นระบบ 2

ภาษา เป็นต้น) ที่จะส่งออกทางช่องเอ๊าต์พุต

Input Ch(Mux)

Main: ช่องเอ๊าต์พุตของแชนเนลหลักจะมีสัญญาณเสียงออก

Sub: ช่องเอ๊าต์พุต ซับวูฟเฟอร์ จะมีสัญญาณเสียงออก

M/S: ทั้งช่องเอ๊าต์พุตของแชนเนลหลักและช่องเอ๊าต์พุตของ

ซับวูฟเฟอร์ จะมีสัญญาณเสียงออก

Mono

การปรับตั้งนี้เป็นการกำหนดว่าแชนเนลไหนจะถูกใช้สำหรับเล่นเสียง

ดิจิตัลสเตริโอ 2ch อาทิ Dolby Digital, หรือแหล่งต้นทาง 2 แชนเนล

อะนาลอก/PCM ในโหมดการรับฟังแบบโมโน

Input Ch(Mono)

L+R:

มีสัญญาณเสียงออกทั้งช่องซ้ายและขวา

L:

จะมีสัญญาณเสียงออกเฉพาะทางช่องซ้าย

R:

จะมีสัญญาณเสียงออกเฉพาะทางช่องขวา

Dolby Settings

PLII Music (2ch Input)

การปรับตั้งนี้จะใช้งานได้เฉพาะกับต้นทางที่เข้ามาเป็นสัญญาณ 2ch stereo

Panorama

On: ฟังท์ชั่น “พาโนราม่า” ถูกเปิดใช้งาน

Off: ปิดการใช้งานฟังท์ชั่น “พาโนราม่า”

ด้วยการปรับตั้งนี้, คุณจะสามารถกำหนดขอบเขตความกว้างของสนาม

เสียงของระบบเสียงสเตริโอที่เกิดจากการกระจายเสียงของลำโพงคู่หน้า

เมื่อเลือกใช้โหมดการฟังแบบ Dolby Pro-Logic II Music ได้Dimension

-3 > 0 > +3

ด้วยการปรับตั้งนี้, เมื่อเลือกโหมดการฟังแบบ Dolby Pro-Logic II

Music จะทำให้คุณสามารถ “เคลื่อนย้าย” สนามเสียงให้เดินหน้าขึ้นมา

หรือถอยลงไปข้างหลังได้ตามใจชอบ การปรับตั้งค่าให้ “สูงขึ้น” จะเป็น

การผลักสนามเสียงให้ถอยร่นลงไปด้านหลัง และในทางกลับกัน ถ้าปรับ

ตั้งค่าให้ “ต่ำลง” จะเป็นการดึงสนามเสียงให้เขยิืบขึ้นมาทางด้านหน้า

ถ้ารู้สึกว่า ภาพของสนามเสียงในระบบสเตริโอกว้างเกินไป หรือมีเสียง

เซอร์ราวนด์มากเกินไป ให้ปรับดึงเสียงขึ้นมาทางด้านหน้าเพื่อทำให้รูป

วงของสนามเสียงมีความสมดุลมากขึ้น และในทางตรงข้าม ถ้ารู้สึกว่า

ภาพของสนามเสียงออกมาแคบเบียดกันอยู่บริเวณตรงกลางจนคล้าย

ระบบเสียงโมโน หรือรู้สึกเสียงเซอร์ราวนด์น้อยเกินไป ให้ปรับดันเสียง

ไปทางด้านหลัง

Center Width

3 > 0 > 7

ด้วยการปรับตั้งนี้, เมื่อเลือกโหมดการฟังแบบ Dolby Pro-Logic II

Music จะทำให้คุณสามารถ “ปรับขยาย” ความกว้างของเวทีเสียงของ

แชนเนลเซ็นเตอร์ได้ ซึ่งโดยปกติแล้ว ถ้าในซิสเต็มของคุณติดตั้งลำโพง

เซ็นเตอร์ไว้ สัญญาณเสียงของแชนเนลเซ็นเตอร์ก็จะถูกส่งออกมาทาง

ลำโพงเซ็นเตอร์เท่านั้น แต่ถ้าในซิสเต็มของคุณไม่ได้ติดตั้งลำโพงเซ็นเตอร์

เอาไว้ สัญญานเสียงจากแชนเนลเซ็นเตอร์ก็จะถูกจ่ายไปให้กับลำโพงคู่หน้า

ทั้งสองข้าง (ซ้ายกับขวา) เพื่อสร้างเป็นเสียงเซ็นเตอร์แบบเทียมๆ

(phantom center) ขึ้นมาให้ ซึ่งฟังท์ชั่นการปรับตั้งนี้จะเข้าไปควบคุมลักษณะ

การมิกซ์ของสัญญาณเสียงระหว่างแชนเนลเซ็นเตอร์ กับแชนเนลหน้าซ้าย

และหน้าขวา เพื่อให้คุณสามารถปรับแต่งน้ำหนักเสียงของแชนเนลเซ็นเตอร์ได้

Page 34: HT-S3300 Thai Version

34En

Neo:6 Music

หมายเหตุ

หมายเหตุ

หมายเหตุ

DTS Setting

Center Image

0 > 2 > 5

ด้วยการปรับตั้งในโหมดนี้ คุณสามารถกำหนดได้ว่าจะให้ลำโพงหน้าซ้าย

กับลำโพงหน้าขวาช่วยกระจายเสียงของแชนเนลเซ็นเตอร์มาก-น้อยแค่ไหน

ถ้ากำหนดค่าไว้ที่ตำแหน่ง “0” เฉพาะลำโพงเซ็นเตอร์เท่านั้นที่จะได้ยินเสียง

ที่มาจากแชนเนลเซ็นเตอร์ และเสียงของสัญญาณจากแชนเนลเซ็นเตอร์จะแยก

ออกไปที่ลำโพงหน้าซ้ายและหน้าขวาในปริมาณที่มากขึ้นเมื่อทำการปรับตั้งไป

ที่ค่าสูงขึ้น คุณสามารถเลือกปรับได้ตามใจชอบ

Audyssey Settings

ฟังท์ชั่น Audyssey EQTM ออกแบบมาจากพื้นฐานเดียวกับเทคโนโลยี่ที่ใช้กับ

ฟังท์ชั่น Audyssey MultEQTM ซึ่งออกแบบมาเพื่อใช้เป็นวงจรปรับแต่งอะคูสติก

ของห้องแบบอัตโนมัติ วงจร Audyssey EQ อาศัยวงจรฟิลเตอร์ประเภทที่เรียกว่า

“time-domain filters” ในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจากตัวไดเวอร์และตัวตู้ของลำโพง

ซึ่งจะถูกวัดค่าออกมาเป็นข้อมูลที่ผสมกับปัญหาอะคูสติกในบริเวณนั่งฟังเข้าไปด้วย

จากนั้น วงจร Audyssey EQ Filter ในตัวเอวี รีซีฟเวอร์ HT-R380 ก็จะทำการ

กำหนดค่าที่เหมาะสมกับชุดลำโพง Onkyo HTP-380 ในการสร้างสัญญาณเสียง

ที่ชดเชยกับปัญหาอะคูสติกของห้องออกมา (ถ้านำค่าที่วงจร Audyssey EQ filter

กำหนดออกมาใช้กับชุดลำโพงนี้ไปใช้กับชุดลำโพงอื่นผลที่ได้จะออกมาไม่เหมือนกัน)

ฟังท์ชั่นนี้จะไม่สามารถปรับตั้งได้ในขณะที่ลำโพงชุด B ถูกเลือกใช้งาน

Audyssey

Off:

ฟังท์ชั่น “Audyssey EQ” ไม่ได้ถูกใช้งาน

On:

ฟังท์ชั่น “Dynamic EQ” และฟังท์ชั่น “Dynamic Volume” ใช้งานได้

ตัวอักษรคำว่า “Audyssey” สว่างขึ้นบนจอ (--> 8)

Dynamic EQ

Off:

ฟังท์ชั่น “Audyssey Dynamic EQ” ไม่ได้ถูกใช้งาน

On:

ฟังท์ชั่น “Dynamic EQ” เปิดใช้งานได้

ตัวอักษรคำว่า “Dynamic EQ” สว่างขึ้นบนจอ ( 8)

ด้วยประสิทธิภาพของวงจร Audyssey Dynamic EQTM คุณจะได้

อรรถรสของการฟังเสียงที่เท่าเทียมกันแม้ในระดับวอลลุ่มที่ต่ำ

(เสียงเบา) เนื่องจากวงจร Audyssey Dynamic EQTM จะขจัด

ปัญหาอะคูสติกที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อคุณภาพของเสียงออกไป

ในขณะที่วอลลุ่มถูกลดระดับความดังลง ด้วยวิธีการปรับเลือกรูปแบบ

การตอบสนองความถี่ที่ถูกต้อง พร้อมทั้งทำการปรับระดับเสียงที่เป็น

บรรยากาศรายรอบ (แชนเนลเซอร์ราวนด์) ตลอดเวลาทุกๆ ขณะ ฉนั้น

เสียงที่ได้ออกมาจะเป็นไปตามลักษณะที่ป้อนเข้ามาทางอินพุตในทุกๆ

ระดับความดัง ไม่ใช่ดีเฉพาะระดับความดังที่อ้างอิงในการปรับตั้งครั้งแรก

เท่านั้น

• ค่าการปรับตั้งในเมนูนี้จะถูกบันทึกเก็บแยกกันไว้ในแต่ละอินพุต ซีเล็กเตอร์

Reference Level

ระดับค่าชดเชยที่ใช้อ้างอิงสำหรับระบบเสียง Audyssey Dynamic EQ

0 dB

ควรใช้ในขณะรับชมภาพยนตร์

5 dB

เลือกใช้ค่านี้กับแหล่งโปรแกรมที่ประกอบด้วยเสียงที่มีไดนามิกเร้นจ์

ที่กว้างมากๆ อย่างเช่น เสียงเพลงของดนตรีแนวคลาสสิก

10 dB

เลือกใช้ค่านี้กับเพลงแนวแจ๊ส หรือแนวเพลงอื่นที่มีไดนามิกเร้นจ์

กว้างๆ และสามารถใช้กับรายการทีวีได้ด้วย เนื่องจากปกติแล้ว

โปรแกรมทีวีมักจะมิกซ์เสียงเบากว่าเสียงจากภาพยนตร์อยู่ประมาณ

10 ดีบี

15 dB

เลือกใช้ค่านี้กับเพลงแนวพ๊อพ/ร็อค หรือโปรแกรมอื่นที่มิกซ์มาด้วย

เสียงที่มีระดับความดังสูงๆ รวมถึงมีการบีบอัดไดนามิกเร้นจ์ด้วย

เสียงของภาพยนตร์จะถูกมิกซ์ภายในห้องที่ปรับอะคูสติกอ้างอิงกับ

โรงภาพยนตร์ เพื่อให้ได้ระดับเสียงอ้างอิงระดับเดียวกันจากชุดโฮมเธียเตอร์

ลำโพงแต่ละตัวจะต้องถูกปรับตั้งที่ระดับ -30dBFS ในช่วงความถี่ตั้งแต่ 500Hz

ถึง 2000Hz โดยใช้สัญญาณเทสต์โทน (pink noise) ร่วมกับอุปกรณ์วัดความดัง

SPL meter เป็นเครื่องมือในการปรับตั้งให้ได้ความดังอยู่ที่ 75 dB ตรงจุดนั่งฟัง

ชุดโฮมเธียเตอร์จะทำการปรับตั้งเสียงโดยอัตโนมัติด้วย Audyssey EQ ซึ่งจะปล่อย

สัญญาณเสียงอ้างอิงออกมาในขณะที่ปุ่ม master volume ของเอวี รีซีฟเวอร์อยู่ที่

ตำแหน่ง 0 dB ที่ระดับเสียงตรงจุดนั้น คุณจะได้ยินเสียงออกมาเหมือนกับเสียงที่

มิกซ์ดาวน์เอ็นจิเนียร์ได้ยิน

Audyssey Dynamic EQ อ้างอิงกับระดับเสียงมาตรฐานเดียวกันกับที่วงการมิกซ์

เสียงของภาพยนตร์ใช้ ซึ่งจะสามารถรักษามาตรฐานของการตอบสนองความถี่ และ

ความโอบล้อมของบรรยากาศไว้ได้ตลอดเวลาเมื่อความดังถูกลดระดับลงจาก 0 dB

อย่างไรก็ดี มาตรฐานระดับเสียงที่ใช้ในวงการภาพยนตร์มักจะมิได้ถูกใช้ในวงการ

เพลง หรือวงการอื่นๆ ที่นอกเหนือจากวงการภาพยนตร์ ระบบเสียง Audyssey

Dynamic EQ จึงได้ออกแบบตัวชดเชยระดับความดังที่ใช้อ้างอิงในสถานะการณ์ต่างๆ

มา 3 ระดับ (5 dB, 10 dB และ 15 dB) โดยเทียบจากมาตรฐานที่ใช้อยู่ในวงการ

ภาพยนตร์ ให้เลือกใช้ในกรณีที่โปรแกรมนั้นทำการมิกซ์เสียงมาโดยไมได้ใช้มาตรฐาน

ของวงการภาพยนตร์อ้างอิง

• ถ้า “Dynamic EQ” ถูกปรับตั้งไว้ที่ตำแหน่ง “Off” เมนูนี้ก็จะไม่สามารถปรับตั้งได้

• ค่าที่ปรับตั้งด้วยเมนูนี้ จะถูกบันทึกเก็บแยกอิสระระหว่างแต่ละอินพุต ซีเล็กเตอร์

Dynamic Volume

Off: ฟังท์ชั่น Audyssey Dynamic VolumeTM อยู่ในสถานะ “ปิด” การใช้งาน

Light: โหมดการบีบอัดสัญญาณเล็กน้อยอยู่ในสถานะ “เปิด” การทำงาน

Medium: โหมดการบีบอัดสัญญาณระดับปานกลางอยู่ในสถานะ “เปิด” การทำงาน

Heavy: โหมดการบีบอัดสัญญาณระดับรุนแรงอยู่ในสถานะ “เปิด” การทำงาน

ซึ่งการปรับตั้งนี้จะส่งผลต่อระดับความดังมากที่สุด มีผลทำให้เสียงทั้งหมด

ถูกบีบให้มีไดนามิกที่เท่ากัน

• ถ้าคุณทำให้ฟังท์ชั่น Dynamic Volume ทำงาน เมนู “Audyssey” กับเมนู “Dynamic EQ”

จะถุกปรับตั้งไว้ที่ตำแหน่ง “On” โดยอัตโนมัติ และตัวอักษรคำว่า “Dynamic Vol” จะ

สว่างขึ้นบนจอ ( 8)

• ฟังท์ชั่น “Dynamic Volume” จะไม่สามารถปรับตั้งได้ในขณะที่ชุดลำโพง B กำลังถูก

ใช้งาน

• ค่าที่ปรับตั้งด้วยเมนูนี้ จะถูกบันทึกเก็บแยกอิสระระหว่างแต่ละอินพุต ซีเล็กเตอร์

Page 35: HT-S3300 Thai Version

35En

Menu Name Edit

หมายเหตุ

Menu Hardware

Remote Control Settings

หมายเหตุ

FM/AM Frequency Setup Settings

20°/40°

Front left speaker

Front right speaker

Name Edit

Hardware

1

2

เกี่ยวกับ Audyssey Dynamic EQ

Audyssey Dynamic EQTM จะช่วยขจัดปัญหาอะคูสติกที่ทำให้เกิดความ

เสียหายต่อคุณภาพของเสียงออกไปในขณะที่วอลลุ่มถูกลดระดับความดังลง

ด้วยวิธีการปรับเลือกรูปแบบการตอบสนองความถี่ที่ถูกต้องไปตามลักษณะ

ของเสียงที่ป้อนเข้ามาทางอินพุตตลอดเวลาในทุกระดับวอลลุ่มที่ผู้ใช้ปรับไป

ผลที่เกิดขึ้นก็คือการตอบสนองต่อเสียงทุ้มและโทนัลบาลานซ์ของเสียงจะคง

ที่ตลอดเวลา ไม่ว่าระดับเสียงของวอลลุ่มจะถูกปรับเปลี่ยนไปอย่างไรก็ตาม

หลักการทำงานของฟังท์ชั่น Dynamic EQ ก็คือทำการนำเอาสัญญาณเสียง

จากช่องสัญญาณอินพุตเข้ามาผสมกับสัญญาณ loudness ที่ปรับตั้งด้วยวงจร

อีคิวฯ ที่ใช้ชดเชยกับสภาพอะคูสติกในห้องนั้นๆ เข้าไปรวมกันก่อนที่จะ

ปล่อยกลับออกมาทางลำโพง โดยที่วงจร Audyssey Dynamic EQ กับวงจร

Audyssey EQ จะทำงานประสานกันเพื่อทำให้สัญญาณเอ๊าต์พุตมีความสมดุล

ไปตลอดเวลา ไม่ว่าผู้ใช้จะทำการปรับตั้งระดับความดังของเสียง (ระดับ

วอลลุ่ม) ไปอย่างไรก็ตาม

เกี่ยวกับ Audyssey Dynamic Volume

Audyssey Dynamic Volume จะช่วยขจัดปัญหาความเหลื่อมล้ำกันอย่างมาก

ของระดับความดังของเสียงระหว่างแหล่งอินพุตที่ต่างกัน อาทิ สัญญาณเสียง

จากสถานีโทรทัศน์,จากสถานีวิทยุ หรือแม้แต่ความดังของเสียงจากภาพยนตร์

ระหว่างช่วงแอ๊คชั่นตูมตามกับช่วงที่เป็นดราม่า หรือเลิฟซีน ฯ ซึ่งวงจร

Audyssey Dynamic Volume จะมองไปที่ระัดับความดังที่ถูกปรับตั้งไว้โดย

ผู้ใช้เป็นเกณฑ์ จากนั้น ตัววงจรก็จะทำการตรวจสอบ (monitor) ลักษณะของ

สัญญาณอินพุตที่ผู้ฟังได้รับแบบ real time เพื่อดูความจำเป็นว่าจะต้องทำการ

ปรับแต่งเสียงอย่างไรบ้าง เมื่อถึงช่วงที่พบว่ามีความจำเป็นต้องทำการปรับ

แต่งเสียง วงจร Dynamic Volume ก็จะทำการปรับแต่งอย่างรวดเร็ว หรือ

ค่อยๆ ปรับเพื่อที่จะรักษาระดับวอลลุ่มที่ผู้ใช้ปรับตั้งเอาไว้ ในขณะเดียวกันก็

พยายามรักษาระดับไดนามิกเร้นจ์ของเสียงเอาไว้ด้วย วงจร Audyssey

Dynamic EQ จะถูกผสานเข้ากับการทำงานของวงจร Dynamic Volume ทำ

ให้ระดับของวอลลุ่มในขณะเล่น (playback) สามารถปรับเปลี่ยนขึ้น-ลงได้

อย่างอัตโนมัติ ส่งผลให้ผู้ฟังสามารถซึมซับคุณภาพของเสียงที่ดีไปโดยตลอด

ไม่ว่าจะเป็นทางด้านเสียงทุ้ม(ความสามารถในการตอบสนองความถี่ย่านต่ำ),

ทางด้านโทนัล บาลานซ์, เสียงเซอร์ราวนด์ที่แผ่กระจายอยู่รายรอบ รวมถึง

บทสนทนาที่ชัดเจน และคุณภาพเสียงในประเด็นเหล่านี้จะคงที่ไปตลอดแม้

ในขณะที่ผู้ใช้เปลี่ยนอินพุตจากการรับชมทีวีจากช่องหนึ่งไปอีกช่องหนึ่ง หรือ

แม้แต่การเปลี่ยนจากระบบเสียงสเตริโอไปสู่แหล่งอินพุตที่เป็นระบบเสียง

เซอร์ราวนด์เช่นกัน

Theater-Dimensional Setting

Listening Angle

Wide: ให้เลือกที่ตำแหน่งนี้ ถ้าลำโพงตั้งทำมุมอยู่กับตำแหน่งนั่งฟัง

เท่ากับ 40 องศา

Narrow: ให้เลือกที่ตำแหน่งนี้ ถ้าลำโพงตั้งทำมุมอยู่กับตำแหน่งนั่งฟัง

เท่ากับ 20 องศา

ด้วยฟังท์ชั่นการปรับตั้งนี้, ทำให้คุณสามารถปรับจูนการฟังในโหมด

Theater-Dimension ให้ได้คุณภาพสูงสุด ด้วยการกำหนดมุมของลำโพง

คู่หน้าซ้าย-ขวาที่อ้างอิงกับตำแหน่งนั่งฟังลงไป ซึ่งในอุดมคติแล้ว ลำโพง

หน้าซ้าย-ขวาควรจะตั้งอยู่ในระยะห่างจากตำแหน่งนั่งฟังที่เท่ากัน และเอียง

ทำมุมใกล้เคียงกับองศาทั้งสองค่าที่ตัวฟังท์ชั่นกำหนดไว้ (คือใกล้เคียงกับ

20องศา หรือ 40องศา)

คุณสามารถใส่ชื่ออินพุตที่มีอยู่ในเครื่องลงไปในแต่ละอินพุตได้ เพื่อให้ง่ายต่อ

การแยกแยะและจดจำ เมื่อกด ENTER ชื่อของอินพุตที่คุณใส่ไว้เป็น preset

ก็จะปรากฏขึ้นมาบนจอแสดงผล

เตรียมการ

กดปุ่ม input selector เพื่อเลือกอินพุต

Name

---, Blu-ray, DVD, HD DVD, VCR, DVR, Tivo, CableSTB,

SAT STB, PS3, Wii, Xbox, PC, TV, CD, TAPE, iPod:

ถ้าต้องการเปลี่ยนกลับไปที่ค่าที่ต้องมาจากโรงงาน ให้เลือกไปที่ “---”

• ไม่สามารถตั้งชื่ออินพุตในฟังท์ชั่น input selector ซ้ำกันได้

• เมนูนี้ไม่สามารถใช้สำหรับ TUNER ในอินพุต ซีเล็กเตอร์

Remote ID

1, 2, 3

เมื่อมีอุปกรณ์เครื่องเสียงของ Onkyo จำนวนหลายเครื่องถูกใช้งานอยู่ภาย

ในห้องเดียวกัน โค๊ดของรีโมทของเครื่องเหล่านั้นอาจจะเกิดการกวนกันได้

เพื่อแยกตัวเอวี รีซีฟเวอร์ออกมาจากกลุ่มของเครื่องเหล่านั้น สามารถทำได้

ด้วยการเปลี่ยนโค๊ดประจำตัว (ID) ของรีโมทตัวนั้นจาก 1, ค่าจากโรงงาน,

เป็น 2 หรือเป็น 3

• ถ้าคุณทำการเปลี่ยนแปลงโค๊ด ID ที่ใช้รับสัญญาณรีโมทของตัวเอวี รีซีฟเวอร์

ให้แน่ใจว่า คุณได้ทำการเปลี่ยนโค๊ด ID ของตัวรีโมทเองให้มีโค๊ด ID เดียวกันด้วย

มิฉนั้น คุณจะไม่สามารถใช้รีโมทตัวนั้นควบคุมสั่งงานตัวเอวี รีัซีฟเวอร์ได้

วิธีเปลี่ยนโค๊ดรีโมท ID ของตัวรีโมท

ขณะกำลังกดปุ่ม RECEIVER ค้างไว้นั้น ให้กดปุ่ม SETUP ค้างไว้

จนกระทั่งสัญญาลักษณ์คำว่า “Remote” สว่างขึ้นบนหน้าจอ

(ประมาณ 3 วินาที)( 30)

ใส่โค๊ด ID ลงไปด้วยการกดปุ่มตัวเลข 1, 2 หรือ 3

สัญญาลักษณ์ของรีโมทบนหน้าจอจะกระพริบสองครั้ง

เพื่อให้การจูนหาคลื่น FM/AM ทำงานอย่างถูกต้อง คุณต้องทำการปรับตั้งช่วง

การแบ่งคลื่นความถี่ของภาครับสัญญาณวิทยุในตัวเอวี รีซีฟเวอร์ให้ตรงกับ

จำนวนช่วงการแบ่งคลื่นวิทยุในประเทศของคุณซะก่อน และเมื่อฟังท์ชั่นนี้ถูก

ปรับตั้งใหม่ทุกครั้ง สถานีที่ตั้งไว้ในเมมโมรี่จะถูกลบทิ้งไป

FM/AM Freq Step (เฉพาะรุ่นที่จำหน่ายในทวีปอเมริกาเหนือ)

200k/10kHz: เลือกที่นี่ ถ้า 200k/10kHz เป็นลักษณะการแบ่งความ

ถี่วิทยุที่ใช้ในประเทศของคุณ

50k/9kHz: เลือกที่นี่ ถ้า 50k/9kHz เป็นลักษณะการแบ่งความถี่

วิทยุที่ใช้ในประเทศของคุณ

Page 36: HT-S3300 Thai Version

36En

Menu HDMI Setup

หมายเหตุ

หมายเหตุ

หมาายเหตุ

หมายเหตุ

HDMI Setup

FM/AM Freq Step (เฉพาะรุ่นที่จำหน่ายในทวีปเอเซีย)

10kHz: เลือกที่นี่ ถ้า 10kHz เป็นลักษณะการแบ่งความถี่วิทยุที่ใช้

ในประเทศของคุณ

9kHz: เลือกที่นี่ ถ้า 9kHz เป็นลักษณะการแบ่งความถี่วิทยุที่ใช้ใน

ประเทศของคุณ

Audio TV OUT

Off: จะไม่มีสัญญาณออดิโอถูกส่งออกจากช่อง HDMI

On: มีสัญญาณออดิโอออกจากช่อง HDMI

การปรับตั้งนี้เป็นตัวกำหนดว่าเมื่อไรจะยอมให้สัญญาณออดิโอที่รับมาจาก

ช่อง HDMI IN ถูกส่งออกไปทางช่อง HDMI OUT คุณอาจจะต้องการปรับ

ตั้งให้เมนูนี้อยู่ในตำแหน่ง “On” ถ้าทีวีของคุณต่อเชื่อมอยู่กับช่อง HDMI

OUT และคุณต้องการรับฟังเสียงจากอุปกรณ์ที่ต่อเชื่อมกับทีวีผ่านทางลำโพง

ของทีวี แต่โดยปกติแล้ว เมนูนี้จะถูกตั้งไว้ที่ตำแหน่ง “Off”

• ถ้าปรับตั้งไว้ที่ตำแหน่ง “On” และสัญญาณเสียงไปออกทางลำโพงของทีวี

ที่ชุดลำโพงของเอวี รีซีฟเวอร์จะไม่มีเสียงออก

• ถ้าปรับตั้งไว้ที่ตำแหน่ง “On” เมื่อกดปุ่ม DISPLAY จะมีสัญญาลักษณ์

คำว่า “TV Sp On” ปรากฏขึ้นบนจอแสดงผลของตัวเอวี รีซีฟเวอร์

• เมื่อเมนู “TV Control” ถูกตั้งไว้ที่ “On” เมนูนี้จะถูกปรับไปอยู่ที่ตำแหน่ง

“Auto” เสมอและเปลี่ยนแปลงไม่ได้

• กับทีวีบางตัว รวมถึงสัญญาณอินพุตบางชนิด บางทีอาจจะไม่มีเสียงออกทาง

เอ๊าต์พุตก็ได้ แม้ว่าเมนูนี้จะถูกปรับตั้งไว้ที่ตำแหน่ง “On” แล้วก็ตาม

• เมื่อฟังท์ชั่น “Audio TV OUT” ถูกตั้งไว้ที่ตำแหน่ง “On” หรือฟังท์ชั่น

“TV Control” ถูกปรับตั้งไว้ที่ตำแหน่ง “On” และคุณกำลังฟังเสียงจากลำโพง

ของทีวี ( 16) ถ้าคุณเร่งวอลลุ่มที่เอวี รีซีฟเวอร์จะมีเสียงออกทางลำโพงคู่

หน้าของชุดเอวี รีซีฟเวอร์ ถ้าไม่ต้องการให้ลำโพงของเอวี รีซีฟเวอร์มีเสียงออก

ให้เปลี่ยนการปรับตั้งที่เมนูนี้ หรือเปลี่ยนการปรับตั้งที่ทีวี หรือลดเสียงของ

เอวี รีซีฟเวอร์ลง

LipSync

Disable: ฟังท์ชั่น LipSync จะไม่ทำงาน

Enable: เปิดการทำงานของฟังท์ชั่นนี้

เอวี รีซีฟเวอร์ตัวนี้สามารถปรับแก้ปัญหาหน่วงเวลาระหว่างสัญญาณภาพ

และเสียงอัตโนมัติ โดยอาศัยข้อมูลจากการเชื่อมต่อทางช่องมอนิเตอร์

• ฟังท์ชั่นจะทำงานก็เฉพาะเมื่อช่อง HDMI ที่ทีวีของคุณรองรับฟังท์ชั่น

HDMI LipSync เท่านั้น

• คุณสามารถตรวจเช็คระยะเวลาที่จะชดเชยในการหน่วงเวลาได้จาก

ฟังท์ชั่นเมนู HDMI LipSync ที่อยู่ในเอวี รีซีฟเวอร์ผ่านหน้าจอแสดงผล

ของเอวี รีซีฟเวอร์

HDMI Control (RIHD)

Off: ฟังท์ชั่น RIHD ไม่ทำงาน

On: RIHD ทำงาน

ฟังท์ชั่นนี้อนุญาติให้สามารถควบคุมอุปกรณ์ที่รองรับการใช้งาน RIHD

ที่ต่อเชื่อมผ่านช่อง HDMI ผ่านทางเอวี รีซีฟเวอร์ได้ ( 53-55)

• เมื่อปรับตั้งฟังท์ชั่นนี้ไว้ที่ตำแหน่ง “On” แล้วปิดเมนู ชื่อของอุปกรณ์ที่

รองรับฟังท์ชั่น RIHD กับตัวอักษรคำว่า “RIHD On” จะปรากฏสว่างขึ้น

บนจอแสดงผลของเอวี รีซีฟเวอร์ลักษณะนี้:

“Search...” “(name)” “RIHD On” ถ้าเอวี รีซีฟเวอร์ไม่พบชื่อของ

อุปกรณ์ตัวนั้น มันจะแสดงคำว่า “Player*” หรือ “Recorder*” ซึ่ง (*)

หมายถึงตัวเลขสองหรือมากกว่าสองชิ้น

เมื่อปรับตั้งฟังท์ชั่นนี้ไว้ที่ตำแหน่ง “Off” แล้วปิดเมนู จะมีตัวอักษรคำว่า

“RIHD Off” ปรากฏขึ้นบนจอแสดงผลของเอวี รีซีฟเวอร์ลักษณะนี้:

“Disconnect” “RIHD Off”

• เมื่ออุปกรณ์ที่รองรับฟังท์ชั่น RIHD ต่อเชื่อมเข้ากับเอวี รีซีฟเวอร์ทางช่อง

HDMI ชื่อของอุปกรณ์ตัวนั้นจะปรากฏขึ้นบนจอแสดงผลของเอวี รีซีฟเวอร์

ตัวอย่าง ในขณะที่คุณกำลังรับชมรายการจากทีวี ถ้าคุณสั่งงานเครื่องเล่นบลู-เรย์ฯ

หรือเครื่องเล่นดีวีดีด้วยรีโมท คอนโทรลของตัวเอวี รีซีฟเวอร์ซึ่งทำให้อุปกรณ์ตัวนั้น

ถูกกระตุ้นให้เปิดทำงาน ชื่อของเครื่องเล่นบลู-เรย์ฯ หรือเครื่องเล่นดีวีดีตัวนั้นจะ

ปรากฏขึ้นบนจอของเอวี รีซีฟเวอร์

• ให้ปรับตั้งฟังท์ชั่นนี้ไว้ที่ตำแหน่ง “Off” ถ้าอุปกรณ์ที่ต่อเชื่อมกับเอวี รีซีฟเวอร์ไม่

รองรับฟังท์ชั่น RIHD หรือไม่แน่ใจว่าจะรองรับหรือไม่

• ถ้าลักษณะการเคลื่อนไหวไม่เป็นธรรมชาติเมื่อปรับตั้งฟังท์ชั่น RIHD ไว้ที่ตำแหน่ง

“On” ให้เปลี่ยนเป็นปรับตั้งไว้ที่ตำแหน่ง “Off”

• ให้ดูรายละเอียดเพิ่มเติมจากคู่มือของอุปกรณ์ที่นำมาต่อเชื่อม

Audio Return Ch (ARC)

Off: ให้ปรับ “Off” ถ้าคุณไม่ต้องการใช้ฟังท์ชั่นนี้

Auto: สัญญาณออดิโอจากทีวีของคุณจะถูกส่งไปที่ช่อง

HDMI OUT ของตัวเอวี รีซีฟเวอร์

ฟังท์ชั่นออดิโอ รีเทิร์น แชนเนล (ARC) นี้จะทำให้ทีวีที่ติดตั้ง

ช่องต่อ HDMI เวอร์ชั่น 1.4 ส่งสัญญาณเสียงไปที่ช่อง HDMI

OUT ของเอวี รีซีฟเวอร์ ต้องการใช้งานฟังท์ชั่นนี้ คุณต้องปรับ

เลือกฟังท์ชั่นอินพุต ซีเล็กเตอร์ไปที่ตำแหน่ง TV/CD และทีวีของ

คุณต้องรองรับฟังท์ชั่น ARC ด้วย

• การปรับตั้งฟังท์ชั่น ARC ทำได้เฉพาะเมื่อฟังท์ชั่น “HDMI Control”

ถูกปรับตั้งไว้ที่ตำแหน่ง “On” เท่านั้น

• สถานะของฟังท์ชั่นนี้จะถูกเลือกตั้งไว้ที่ตำแหน่ง “Auto” โดยอัตโนมัติ

เมื่อฟังท์ชั่น “HDMI Control” ถูกปรับตั้งไว้ที่ตำแหน่ง “On” ตั้งแต่แรก

Power Control

Off: ปิดการใช้งานฟังท์ชั่น Power Control

On: เปิดใช้งานฟังท์ชั่น Power Control

การเชื่อมโยงฟังท์ชั่น Power Control ของอุปกรณ์ที่รองรับการทำงานระบบ RIHD

ผ่านทางช่อง HDMI ให้ปรับตั้งฟังท์ชั่นนี้ไว้ที่ตำแหน่ง “On” ซึ่งฟังท์ชั่นนี้จะถูกปรับ

ตั้งไว้ที่ตำแหน่ง “On” โดยอัตโนมัติเมื่อฟังท์ชั่น “HDMI Control” ถูกตั้งไว้ที่

ตำแหน่ง “On” ตั้งแต่ต้น

Page 37: HT-S3300 Thai Version

37En

หมายเหตุ

หมายเหตุ

หมายเหตุ

Tone Control Settings

หมายเหตุ

Speaker Levels

Note

Using the Audio Settings

12

• การปรับตั้งฟังท์ชั่น Power Control ทำได้เฉพาะเมื่อฟังท์ชั่น

“HDMI Control” ถูกปรับตั้งไว้ที่ตำแหน่ง “On” เท่านั้น

• ฟังท์ชั่น HDMI Power Control นี้จะทำงานได้เฉพาะกับอุปกรณ์

ที่รองรับ RIHD เท่านั้น และอาจจะทำงานได้ไม่ราบรื่นกับอุปกรณ์

บางชิ้นอันเนื่องมาจากการปรับตั้ง และความเข้ากันได้ของอุปกรณ์

ตัวนั้น

• เมื่อปรับตั้งการทำงานของฟังท์ชั่นนี้ไว้ที่ตำแหน่ง “On” อัตรา

บริโภคไฟฟ้าของตัวเครื่องจะเพิ่มขึ้น

• เมื่อปรับตั้งไว้ที่ตำแหน่ง “On” โดยไม่สนใจว่าตัวเอวี รีซีฟเวอร์จะ

อยู่ในสถานะ On หรือสแตนด์บาย ทั้งสัญญาณออดิโอและสัญญาณ

วิดีโอจากช่องอินพุต HDMI จะถูกส่งออกไปให้ทีวี หรืออุปกรณ์ตัว

อื่นทางช่อง HDMI (ด้วยฟังท์ชั่น HDMI pass through) และเมื่อ

ฟังท์ชั่น HDMI pass through ถูกกระตุ้นขึ้นมาทำงานในโหมด

สแตนด์บาย ตัวอักษร HDMI THRU จะปรากฏขึ้นบนจอแสดงผล

• อัตราบริโภคไฟฟ้าของตัวเครื่องจะเพิ่มสูงขึ้นระหว่างที่อยู่ในโหมด

สแตนด์บายเมื่อฟังท์ชั่น HDMI pass through ถูกใช้งาน อย่างไรก็ตาม

ในกรณีต่อไปนี้อาจจะช่วยประหยัดปริมาณไฟฟ้าลงได้:

1. ตัวทีวีอยู่ที่สแตนด์บายโหมด

2. คุณรับชมทีวีไปด้วย

• ดูรายละเอียดเพิ่มเติมในคู่มือของอุปกรณ์ที่มาต่อเชื่อมด้วย

TV Control

Off: ปิดการใช้งานฟังท์ชั่น TV Control

On: เปิดใช้งานฟังท์ชั่น TV Control

ปรับตั้งไว้ที่ตำแหน่ง “On” เมื่อคุณต้องการควบคุมการทำงานของตัว

เอวี รีซีฟเวอร์จากทีวีที่รองรับระบบ RIHD ซึ่งต่อเชื่อมกับเอวี รีซีฟเวอร์

ทางช่อง HDMI

• เมื่อคุณปรับตั้งฟังท์ชั่น “TV Control” ไว้ที่ตำแหน่ง “On” ห้ามกำหนด

อุปกรณ์ที่ต่อเชื่อมกับเอวี รีซีฟเวอร์ทางช่อง HDMI ไว้ที่ TV/CD ของฟังท์ชั่น

อินพุต ซีเล็กเตอร์ มิฉนั้น การทำงานของฟังท์ชั่น CEC (Consumer Electronic

Control) จะไม่รับรองว่าใช้งานได้ราบรื่น

• ให้ปรับตั้งไว้ที่ตำแหน่ง “Off” ถ้าทีวีไม่รองรับระบบ RIHD หรือไม่มั่นใจว่า

จะรองรับหรือไม่

• ฟังท์ชั่น “TV Control” จะสามารถปรับตั้งได้ก็ต่อเมื่อ ฟังท์ชั่น “HDMI

Control” กับฟังท์ชั่น “Power Control” ถูกปรับตั้งไว้ที่ตำแหน่ง “On”

ทั้งสองฟังท์ชั่น

• ดูรายละเอียดเพิ่มเติมในคู่มือของอุปกรณ์ที่มาต่อเชื่อมด้วย

หลังจากเปลี่ยนการปรับตั้งในฟังท์ชั่น “HDMI Control”, “Audio Return

Ch”, “Power Control” หรือฟังท์ชั่น “TV Control” เสร็จแล้ว ให้ทำการปิด

เครื่องทุกตัวที่เชื่อมโยงอยู่ในกลุ่มเดียวกันให้หมด จากนั้น ค่อยเปิดเครื่อง

เหล่านั้นขึ้นมาใหม่ ให้ดูรายละเอียดเพิ่มเติมในคู่มือของอุปกรณ์ที่มาต่อเชื่อม

ด้วย

คุณสามารถปรับตั้งค่าต่างๆ ในเมนู Audio Settings ได้ด้วยการกดปุ่ม AUDIO

• เมื่อฟังท์ชั่น “Audio TV OUT” ถูกตั้งไว้ที่ตำแหน่ง “On” ( 36) ฟังท์ชั่น

AUDIO จะไม่สามารถใช้ได้

กดปุ่ม RECEIVER แล้วตามด้วยกดปุ่ม AUDIO

ใช้ปุ่มลูกศรบน-ล่าง / ในการเลือกหัวข้อ แล้วใช้ปุ่มลูกศรซ้าย-ขวา

/ ในการปรับตั้งค่า

ซ้ำขั้นตอนนี้สำหรับการปรับตั้งจุดอื่น

คุณสามารถปรับแต่งเสียงทุ้มและเสียงแหลมสำหรับลำโพงคู่หน้าของชุดลำโพง

A และ B ได้ ยกเว้นในขณะใช้โหมดการฟังแบบไดเร็กต์ โหมด

Bass

-10 dB --> 0 dB --> +10 dB ความละเอียดขั้นละ 2 dB:

คุณสามารถปรับเพิ่มหรือลดปริมาณเสียงความถี่ต่ำที่ส่งออกทางลำโพง

คู่หน้าได้

Treble

-10 dB --> 0 dB --> +10 dB ความละเอียดขั้นละ 2 dB:

คุณสามารถปรับเพิ่มหรือลดปริมาณเสียงความถี่สูงที่ส่งออกทางลำโพง

คู่หน้าได้

• สามารถบายพาสการทำงานของวงจรปรับทุ้ม-แหลมได้โดยการเลือกโหมด

การฟังไปที่ตำแหน่ง Direct Listening Mode

• ขั้นตอนปรับแต่งนี้สามารถทำบนตัวเอวี รีซีฟเวอร์ได้ ด้วยการใช้ปุ่ม TONE,

ปุ่ม – และปุ่ม + (-->39

คุณสามารถปรับแต่งระดับความดังของเสียงจากลำโพงแต่ละตัวในขณะรับฟัง

จากอินพุตต่างๆ ได้การปรับแต่งนี้จะถูกยกเลิกเมื่อเอวี รีซีฟเวอร์ถูกปรับไปอยู่

ในโหมดสแตนด์บาย ถ้าต้องการบันทึกเก็บค่าที่ปรับตั้งไว้ ให้ไปที่หัวข้อเมนู

“Level Cal (Level Calibration)” ( 33) ก่อนที่จะปรับตั้งตัวเอวี รีซีฟเวอร์

ไปอยู่ในโหมดสแตนด์บาย

Subwoofer

-15 dB --> 0 dB --> +12 dB ความละเอียดขั้นละ 1 dB

Center

-12 dB --> 0 dB --> +12 dB ความละเอียดขั้นละ 1 dB

• คุณไม่สามารถใช้งานฟังท์ชั่นนี้ได้ในขณะที่เอวี รีซีฟเวอร์อยู่ในโหมด

หยุดเสียงชั่วคราว (muted)

• ลำโพงที่ถูกปรับตั้งในเมนู “Sp Config” ไว้ที่ตำแหน่ง “No” หรือ

“None” ( 32) จะไม่สามารถปรับแต่งได้

Page 38: HT-S3300 Thai Version

38En

Audyssey Settings

Dynamic EQ

Dynamic Volume

EX.BASS

หมายเหตุ

Late Night Function

Note

Music Optimizer

Note

CinemaFILTER

Note

ดูการปรับตั้งฟังท์ชั่น “Dynamic EQ” และฟังท์ชั่น “Dynamic Volume”

ของเมนู “Audio Adjust” ได้ที่หน้า ( 34)

EX.BASS เป็นเทคโนโลยี่ที่พัฒนาขึ้นมาจากการทดลองฟังด้วยหู ในความ

พยายามที่จะสร้างเสียงทุ้มที่ลึกสมจริงขึ้นมา เมื่อคุณเลือกเปิดใช้งาน คุณจะ

ได้เสียงทุ้มที่ลึกแน่นและมีไดนามิกจากหนังและเพลงที่ฟัง

EX.BASS

Off:

ปิดการใช้งานฟังท์ชั่น EX.BASS

On:

เปิดใช้งานฟังท์ชั่น EX.BASS

• ฟังท์ชั่น EX.BASS จะไม่สามารถใช้ได้ในขณะที่โหมดการฟังอยู่ที่ตำแหน่ง

Direct Listening Mode

ด้วยฟังท์ชั่นนี้, คุณสามารถปรับลดไดนามิกเร้นจ์ของต้นทางที่เป็นระบบเสียง

Dolby Digital ลงได้ในขณะที่ยังคงได้ยินรายละเอียดของเสียงเบาๆ ที่ชัดเจน

แม้ในขณะที่คุณปรับระดับวอลลุ่มไว้ค่อนข้างต่ำ เป็นฟังท์ชั่นที่เหมาะกับใช้ดูหนัง

ในตอนกลางคืนที่ไม่ต้องการให้เสียงของหนังไปรบกวนคนอื่นLate Night

Off:

ฟังท์ชั่น Late Night อยู่ในสถานะ “ปิด” การใช้งาน

Low:

มีการลดระดับไดนามิกเร้นจ์ของเสียงลงนิดหน่อย

High:

มีการลดระดับไดนามิกเร้นจ์ของเสียงลงมาก

สำหรับแหล่งอินพุตที่ใช้ระบบเสียง Dolby TrueHD จะมีอ๊อปชั่นดังนี้:

Auto:

ฟังท์ชั่น Late Night จะถูกปรับตั้งให้อยู่ในสถานะ “เปิด”

และ “ปิด” การใช้งานโดยอัตโนมัติ

Off:

ปิดการใช้งานฟังท์ชั่น Late Night

On:

เปิดใช้งานฟังท์ชั่น Late Night

• ผลลัพธ์ของฟังท์ชั่นนี้ จะขึ้นอยู่กับแหล่งต้นทางที่คุณเล่น รวมถึงความตั้งใจ

ของผู้บันทึก ซึ่งกับแหล่งต้นทางบางชนิด ฟังท์ชั่นนี้อาจจะส่งผลเพียงเล็กน้อย

หรืออาจจะไม่ส่งผลอะไรเลยเมื่อคุณปรับเลือกใช้อ๊อปชั่นต่างๆ ของมัน

• ฟังท์ชั่น “Late Night” นี้สามารถใช้ได้เฉพาะกับแหล่งต้นทางสัญญาณที่บันทึก

เสียงมาเป็นระบบเสียง Dolby Digital, Dolby Digital Plus หรือ Dolby TrueHD

เท่านั้น

• ฟังท์ชั่น “Late Night” จะถูกปรับตั้งไว้ที่ตำแหน่ง “Off” ในขณะที่ตัวเอวีรีซีฟเวอร์

ถูกปรับตั้งไว้ที่โหมดสแตนด์บาย แต่สำหรับระบบเสียง Dolby TrueHD ฟังท์ชั่นนี้

จะถูกปรับตั้งไว้ที่ตำแหน่ง “Auto”

ฟังท์ชั่น Music Optimizer นี้จะเพิ่มเติมคุณภาพของไฟล์เสียงที่ผ่านการบีบอัด

(compressed) มาโดยเฉพาะ เลือกใช้ฟังท์ชั่นนี้กับไฟล์เสียงที่ใช้วิธีบีบอัดแบบ

“สูญเสีย” อย่างเช่นไฟล์ MP3

M.Optimizer

Off:

ฟังท์ชั่น Music Optimizer อยู่ในสถานะ “ปิด” การใช้งาน

On:

ฟังท์ชั่น Music Optimizer อยู่ในสถานะ “เปิด” การใช้งาน

• ฟังท์ชั่น Music Optimizer นี้ใช้ได้เฉพาะกับสัญญาณเสียงดิจิตัล PCM อินพุต

ที่มีอัตราแซมปลิ้งเรตต่ำกว่า 48kHz กับสัญญาณเสียงอะนาลอก อินพุตเท่านั้น

ฟังท์ชั่นนี้จะไม่สามารถใช้ได้เมื่อโหมดการฟังแบบไดเร็กต์ถูกเลือกใช้

• ค่าการปรับตั้งสามารถบันทึกเก็บแยกแต่ละอินพุต ซีเล็กเตอร์ได้

• สัญญาลักษณ์ตัวอักษร “M.Opt” สว่างขึ้นบนจอ ( 8)

ด้วยฟังท์ชั่น CinemaFILTER นี้, คุณจะัสามารถปรับโทนเสียงที่จ้าจัดของเสียง

ซาวนด์แทรคของหนังให้นุ่มนวลลงได้ ให้คล้ายกับลักษณะของเสียงซาวนด์แทรค

ที่ได้ยินในโรงภาพยนตร์

ฟังท์ชั่น CinemaFILTER สามารถใช้ได้กับโหมดฟังเสียงเหล่านี้: Dolby Digital,

Dolby Digital Plus, Dolby TrueHD, Dolby Pro Logic II Movie, Multichannel,

DTS, DTS Neo:6 Cinema, DTS 96/24, DTS-HD High Resolution, DTS-HD

Master Audio และ DTS Express

Cinema Fltr

Off:

ฟังท์ชั่น CinemaFILTER อยู่ในสถานะ “ปิด” การใช้งาน

On:

ฟังท์ชั่น CinemaFILTER อยู่ในสถานะ “เปิด” ใช้งาน

• ฟังท์ชั่น CinemaFILTER อาจจะใช้ไม่ได้กับแหล่งต้นทางบางชนิด

Page 39: HT-S3300 Thai Version

39En

Audio Selector

หมายเหตุ

A/V Sync

หมายเหตุ

หมายเหตุ

Bass

Treble

หมาายเหตุ

Digital Input Signal Formats

1

2

Adjusting the Bass & Treble

1

2

คุณสามารถปรับตั้งลำดับความสำคัญของสัญญาณออดิโอ เอ๊าต์พุตได้ เมื่อมี

อินพุตเข้ามาพร้อมกันทั้งดิจิตัลและอะนาลอก

AudioSel

ARC:

สัญญาณเสียงจากภาครับสัญญาณทีวีของคุณสามารถส่งไปที่ช่อง

HDMI OUT ของเอวี รีซีฟเวอร์*1 ด้วยการปรับตั้งแบบนี้ สัญญาณ

เสียงของทีวีจะถูกตั้งความสำคัญเป็นอันดับแรกโดยอัตโนมัติเหนือ

การปรับตั้งอื่นๆ

HDMI:

คุณสามารถเลือกตั้งไว้แบบนี้ได้เมื่อมีอินพุต HDMI ถูกกำหนดไว้ที่

อินพุต ซีเล็กเตอร์ ถ้ามีทั้ง HDMI (HDMI IN) และดิจิตัล ออดิโอ

อินพุตอื่นๆ (COAXIAL IN หรือ OPTICAL IN) ถูกกำหนดไว้ใน

อินพุต ซีเล็กเตอร์ด้วยกัน อินพุต HDMI จะถูกเลือกเป็นลำดับแรก

โดยอัตโนมัติ

COAX:

คุณสามารถเลือกตั้งไว้แบบนี้ได้เมื่อมีอินพุต COAXIAL IN

ถูกกำหนดไว้ที่อินพุต ซีเล็กเตอร์ แต่ถ้ามีทั้ง coaxial และ optical

ในอินพุต ซีเล็กเตอร์ด้วยกัน coaxial input จะถูกเลือกเป็นอันดับแรก

OPT:

คณสามารถเลือกตั้งไว้แบบนี้ได้เมื่อมีอินพุต OPTICAL IN ถูก

กำหนดไว้ที่อินพุต ซีเล็กเตอร์

Analog:

เอวี รีซีฟเวอร์จะปล่อยสัญญาณอะนาลอก ออดิโอออกทางเอ๊าต์พุตเสมอ

• การปรับตั้งนี้สามารถบันทึกเก็บแยกอิสระแต่ละอินพุตได้

• การปรับตั้งนี้สามารถทำได้เฉพาะเมื่ออุปกรณ์ต้นทางถูกกำหนดระบุไว้ใน

ฟังท์ชั่นอินพุต ซีเล็กเตอร์ดังนี้ HDMI IN, COAXIAL IN หรือ OPTICAL

IN แต่ถ้ามีทั้ง HDMI (HDMI IN) และดิจิตัล ออดิโอ อินพุตอื่นๆ

(COAXIAL IN หรือ OPTICAL IN) ถูกกำหนดไว้ในอินพุต ซีเล็กเตอร์

ด้วยกัน อินพุต HDMI จะถูกเลือกเป็นลำดับแรกด้วยการปรับตั้งค่าในหัวข้อ

“ARC” ( 36) ถ้าต้องการเลือกอินพุตดิจิตัล ออดิโอให้ดูที่หัวข้อ “Digital

Audio (Digital Audio Input)” ( 31)

*1 คุณสามารถเลือก “ARC” ได้ถ้าคุณกำหนด TV/CD ไว้ในอินพุต

ซีเล็กเตอร์ แต่คุณไม่สามารถเลือกได้ถ้าคุณปรับตั้งค่าในหัวข้อ “Audio

Return Ch” ไว้ที่ตำแหน่ง “Off” ( 36)

เมื่อปรับใช้โปรเกรสซีฟ สแกนบนเครื่องเล่นดีวีดี คุณอาจจะพบว่า “เวลา”

ที่ภาพปรากฏขึ้นบนจอกับ “เวลา” ที่เสียงพุ่งออกมาจากลำโพงไม่สอดคล้องกัน

A/V Sync

0 ms ถึง 100ms ด้วยอัตรา 10ms ต่อขั้น

• การปรับตั้งฟังท์ชั่นนี้จะไม่สามารถทำได้เมื่อโหมดการฟังแบบ “Direct”

ถูกเลือกใช้กับสัญญาณเสียงอะนาลอก อินพุต

• การปรับตั้งนี้สามารถบันทึกเก็บแยกอิสระแต่ละอินพุตได้

รูปแบบของสัญญาณดิจิตัล ออดิโอจะใช้งานได้เฉพาะอุปกรณ์อินพุตที่ถูกระบุ

กำหนดไว้ที่ช่องดิจิตัล อินพุตเท่านั้น ( 31)

โดยปกติแล้ว ตัวเอวี รีซีฟเวอร์จะตรวจจับสัญญาณรูปแบบของสัญญาณอินพุต

โดยอัตโนมัติ อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณพบว่ามีปัญหาในการเล่นกับสัญญาณ PCM

หรือ DTS คุณสามารถปรับตั้งรูปแบบของสัญญาณด้วยวิธีแมนน่วลให้เป็น PCM

หรือ DTS

• ถ้าตอนขึ้นต้นแทรคของแหล่งต้นทางที่เป็น PCM ถูกตัดหายไป ให้ปรับตั้ง

รูปแบบของสัญญาณไว้ที่ PCM

• ถ้ามีเสียงรบกวนเกิดขึ้นเมื่อทำการเดินหน้า-ถอยหลังแผ่น CD ที่บันทึก

สัญญาณ DTS เร็วๆ ให้ปรับตั้งรูปแบบของสัญญาณไว้ที่ DTS

• การปรับตั้งนี้สามารถบันทึกเก็บแยกอิสระแต่ละอินพุตได้

• การปรับตั้งฟังท์ชั่นนี้จะถูกเปลี่ยนไปอยู่ที่ตำแหน่ง “Auto” เมื่อคุณเปลี่ยนการ

ปรับตั้งในหัวข้อ “Audio Selector” ( 39)

กดปุ่ม RECEIVER จากนั้นกดปุ่ม AUDIO ค้างไว้ประมาณ 8 วินาที

ขณะที่มีสัญญาณลักษณ์ “Auto” สว่างขึ้นบนจอ (ประมาณ 3 วินาที)

ให้กดปุ่มลูกศรซ้าย-ขวา / เพื่อเลือก:

Auto: รูปแบบของสัญญาณจะถูกตรวจจับอัตโนมัติ ถ้าไม่มี

สัญญาณดิจิตัล อินพุตเข้ามา สัญญาณอะนาลอกที่เกี่ยวข้อง

กับอินพุตเดียวกันก็จะถูกเลือกใช้แทน

PCM: เฉพาะสัญญาณอินพุต PCM สองแชนเนลเท่านั้นที่จะมีเสียง

ออกมาให้ได้ยิน ถ้าสัญญาณอินพุตไม่ใช่รูปแบบ PCM

สัญญลักษณ์ PCM บนหน้าปัดจะกระพริบ และอาจจะได้ยิน

เสียงรบกวนดังออกทางลำโพง

DTS: เฉพาะสัญญาณอินพุต DTS (แต่ไม่ใช่ DTS-HD) เท่านั้น

ที่จะมีเสียงออกมาให้ได้ยิน ถ้าสัญญาณอินพุตไม่ใช่รูปแบบ

DTS สัญญาลักษณ์ DTS บนหน้าปัดจะกระพริบ และอาจจะ

ไม่มีเสียงใดๆ ดังออกมา

คุณสามารถปรับแต่งเสียงทุ้มและเสียงแหลมของลำโพงคู่หน้าชุด A และ B

ได้ ยกเว้นกรณีที่คุณเลือกโหมดการฟังเป็นแบบ Direct Listening Mode

กดปุ่ม TONE บนตัวเอวี รีซีฟเวอร์ซ้ำๆ เพื่อเลือกหาเมนู “Bass” หรือ

“Treble”

ใช้ปุ่ม TONE -/+ บนเอวี รีซีฟเวอร์ในการปรับแต่ง

ดูที่หัวข้อ “Bass” กับ “Treble” ของเมนู “Tone Control Settings” ( 37)

• ต้องการบายพาสฟังท์ชั่นปรับแต่งทุ้ม-แหลมนี้ให้เลือกโหมดการฟังแบบ

Direct Listening Mode

• ขั้นตอนการปรับแต่งนี้สามารถกระทำได้ด้วยรีโมทคอน โทรลโดยอาศัย

ปุ่ม TONE, -, และปุ่ม + ( 10)

Page 40: HT-S3300 Thai Version

40En

Controlling iPod

Connecting an Onkyo Dock

No. Onkyo Dock Cable Note Page

UP-A1 Dock(Universal Port Option Dock)

— ( 41 )

RI Dock Analog audio (RCA) ( 41 )

Component video

Composite video

cable

*1

Y

P B /CB

P R /CR

*1

* เมื่อ UP-A1 ที่มี iPod Dcok ในตัวถูกเชื่อมต่อ

จะทำให้อัตราบริโภคไฟฟ้าของเอวี รีซีฟเวอร์ใน

โหมดสแตนด์บายเพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อย

* คุณสามารถควบคุมสั่งงาน iPod ได้เมื่ออินพุต

“PORT” ถูกเลือกจากอินพุต ซีเล็กเตอร์ให้เป็น

แหล่งอินพุต

* ดูรายละเอียดการติดตั้งของ UP-A1 Dock จาก

สมุดคู่มือของอุปกรณ์ตัวนี้สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

* ดูข้อมูลในคู่มือของ RI Dock สำหรับราย

ละเอียดการใช้งาน

*1 การใช้งาน RI (Remote Interactive) คุณต้อง

ทำการต่อเชื่อมสัญญาณอะนาลอก ออดิโอ

(RCA) ระหว่างตัวเอวี รีซีฟเวอร์กับ RI Dock

ไว้ด้วย

Page 41: HT-S3300 Thai Version

41En

Basic Operation

Auto Power On

Direct Change

Using the AV receiver’s Remote Controller

Using Your iPod models Alarm Clock

Note

Charging Your iPod models Battery

หมายเหตุ

หมายเหตุ

RI Dock

Using the Onkyo Dock

ตัวฐานแยก หรือ Dock ขายแยกต่างหาก ให้ดูข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับตัวฐาน

แยกของออนเกียวนี้ได้จากเว็บไซต์ www.onkyo.com ก่อนจะเริ่มต้นใช้งาน

ตัวฐานแยกของออนเกียว ให้ทำการอัพเดต iPod ของคุณให้เป็นซอฟท์แวร์

เวอร์ชั่นล่าสุดซะก่อน ซึ่งมีให้อัพเดตได้ที่เว็บไซต์ของบริษัท Apple Inc.

สำหรับรุ่นของ iPod ที่สามารถใช้งานด้วยกันได้ ให้ตรวจสอบจากสมุดคู่มือ

ของตัวฐานแยกนั้นๆ

UP-A1 Dock

ด้วยความสามารถของตัวฐานแยกรุ่น UP-A1 ของออนเกียวตัวนี้ ทำให้คุณ

สามารถเล่นไฟล์เพลง, ไฟล์รูปภาพ หรือไฟล์วิดีโอ ที่เก็บอยู่บนตัว iPod ได้

อย่างง่ายดาย โดยส่งผ่านตัวเอวี รีซีฟเวอร์เพื่ออัพเกรดให้ได้คุณภาพเสียงที่ดีขึ้น

คุณสามารถใช้รีโมท คอนโทรลของเอวี รีซีฟเวอร์ในการควบคุมสั่งงานตัว

iPod ได้

ตัวเอวี รีซีฟเวอร์จะใช้เวลาชั่วครู่ในการเริ่มต้น ซึ่งทำให้อาจจะไม่ได้ยินเสียง

ของเพลงแรกประมาณสอง-สามวินาที

ถ้าคุณเริ่มต้นเล่น iPod ในขณะที่ตัวเอวี รีซีฟเวอร์อยู่ในโหมดสแตนด์บาย ตัว

เอวี รีซีฟเวอร์จะเปิด “On” โดยอัตโนมัติ และปรับเลือก iPod เป็นอินพุตทันที

ถ้าคุณเริ่มต้นเล่น iPod ในขณะกำลังฟังเสียงของอินพุตอื่นอยู่ ตัวเอวี รีซีฟเวอร์

จะปรับเลือก iPod ขึ้นมาเป็นอินพุตใหม่ทันที

คุณสามารถใช้รีโมท คอนโทรลของตัวเอวี รีซีฟเวอร์ในการควบคุมฟังท์ชั่น

พื้นฐาน iPod ได้ ( 42)

� สำหรับฟังท์ชั่นที่ใช้งานได้จะขึ้นอยู่กับรุ่นของตัว iPod ของคุณกับ

เจนเนอเรชั่นด้วย

� ก่อนจะปรับเลือกอินพุตอื่นบนตัวเอวี รีซีฟเวอร์ ให้ทำการหยุดฟังท์ชั่น

playback (เล่น) ของ iPod ซะก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเอวี รีซีฟเวอร์

เผลอไปเลือก iPod เป็นอินพุตโดยไม่ตั้งใจ

� ถ้ามีการเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริมใดๆ ของตัว iPod เข้าไป อาจจะทำให้ตัว

เอวี รีซีฟเวอร์ไม่สามารถใช้งานตัว iPod ได้อย่างที่ควรจะเป็น

� เมื่อทำการต่อเชื่อมตัวฐานแยก UP-A1 เข้ากับตัวจูเนอร์วิทยุ UP-HT1

(รุ่นที่ใช้ในอเมริกาเหนือ) หรือ UP-DT1 (รุ่นที่ใช้ในเอเซีย) โดยการ

เลือก AUTO ด้วยสวิทช์ Mode Selector ของตัวจูนเนอร์ คุณจะ

สามารถสลับเลือกระหว่างตัวฐานแยกที่เป็นจูนเนอร์ UP-HT1 กับฐาน

แยกไอพ๊อด UP-A1 ได้ด้วยวิธีกดปุ่ม PORT บนหน้าปัดของเอวี

รีซีฟเวอร์ซ้ำๆ

� เมื่อเสียบ iPod ไว้บนฐานแยก UP-A1 ฟังท์ชั่นปรับวอลลุ่ม (ความดัง)

ของ iPod ขะไม่ทำงาน ถ้าคุณปรับตั้งระดับความดังของตัว iPod ไว้ใน

ขณะที่มันถูกติดตั้งอยู่บนฐานแยก ให้มั่นใจว่าคุีณได้ปรับตั้งระดับความ

ดังของตัว iPod ไม่สูงเกินไปสำหรับการฟังด้วยหูฟังหลังจากคุณดึงตัว

iPod ออกมาจากฐานแยกแล้ว

� ฟังท์ชั่น Auto Power On จะไม่ทำงานถ้าคุณปรับตั้งตัว iPod ในขณะที่

มันกำลังเล่นเพลงอยู่บนฐานแยก UP-A1

� อย่าปิดเครื่อง iPod ในขณะที่มันยังคงเชื่อมต่ออยู่บนฐานแยก UP-A1

� ให้ทำการปรับตั้งตัว iPod ของคุณซึ่งอยู่บนฐานแยก UP-A1 หลังจาก

ได้ทำการเปิด “On” ตัวเอวี รีซีฟเวอร์แล้ว

หมายเหตุสำหรับการใช้งาน iPod

คุณสามารถอาศัยฟังท์ชั่น Alarm Clock หรือนาฬิกาปลุกของตัว iPod ในการ

เปิดใช้งานตัว iPod อัตโนมัติ และเปิดใช้งานตัวเอวี รีซีฟเวอร์อัตโนมัติตาม

เวลาที่ปรับตั้งไว้ได้ และฟังท์ชั่นอินพุต ซีเล็กเตอร์ของตัวเอวี รีซีฟเวอร์จะปรับ

เลือกไปที่อินพุต PORT โดยอัตโนมัติ

� เพื่อใช้งานฟังท์ชั่นนี้ ตัว iPod ของคุณจะต้องถูกเสียบอยู่บนตัวฐานแยก และ

ตัวฐานแยกก็จะต้องต่อเชื่อมเข้ากับตัวเอวี รีซีฟเวอร์เท่านั้น

� ฟังท์ชั่นนี้จะทำงานเฉพาะเมื่อโหมดสแตนดาร์ดถูกปรับตั้งไว้ที่ตำแหน่ง “On”

เท่านั้น

� เมื่อใช้งานฟังท์ชั่นนี้ ให้แน่ใจว่าได้ทำการปรับตั้งความดังของเสียงไว้ในระดับ

ที่เหมาะสมแล้ว

� คุณจะไม่สามารถใช้งานฟังท์ชั่นนี้กับซาวนด์เอ็ฟเฟ็กต์บนตัว iPod ของคุณ

ตัวฐานแยก UP-A1 จะสามารถชาร์จไฟให้กับแบตเตอรี่ของ iPod ได้ในขณะที่

iPod เสียบอยู่บนฐานแยก UP-A1 ซึ่งต่อเชื่อมอยู่ที่ช่อง UNIVERSAL PORT

ของตัวเอวี รีซีฟเวอร์ ขณะเสียบอยู่บนฐานแยก UP-A1 แบตเตอรี่ที่ตัว iPod

ของคุณจะถูกชาร์จเมื่อตัวเอวี รีซีฟเวอร์ถูกปรับตั้งไว้ในสถานะเปิดใช้งาน (“On”)

หรือในโหมดสแตนด์บาย

� เมื่อฐานแยก UP-A1 ซึ่งมี iPod ติดตั้งอยู่ถูกต่อเชื่อมเข้ากับตัวเอวี รีซีฟเวอร์

อัตราบริโภคไฟฟ้าในโหมดสแตนด์บายของตัวเอวี รีซีฟเวอร์จะเพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อย

ข้อความแจงสถานะ (Status Messages)

� PORT Reading

ตัวเอวี รีซีฟเวอร์กำลังตรวจเช็คสถานะการเชื่อมต่อกับตัวฐานแยก

� PORT Not Support

ตัวเอวี รีซีฟเวอร์ไม่รองรับการใช้งานร่วมกับตัวฐานแยก

� PORT UP-A1

ตัวฐานแยก UP-A1 ถูกเชื่อมต่อเรียบร้อยแล้ว

� ตัวเอวี รีซีฟเวอร์จะแสดงข้อความ “UP-A1” ประมาณสอง-สามวินาที

หลังจากตรวจพบและทำความรู้จักกับตัวฐานแยก UP-A1 แล้ว

� ถ้าไม่มีข้อความแสดงสถานะปรากฏขึ้นบนจอของตัวเอวี รีซีฟเวอร์

ให้ตรวจสอบลักษณะการเชื่อมต่อของตัว iPod

ด้วยความสามารถของตัวฐานแยกสำหรับตัวรีโมท อินเตอร์แอ๊คทีฟ หรือ RI Dock

จะทำให้คุณสามารถเล่นไฟล์เพลงที่เก็บอยู่บน iPod ผ่านตัวเอวี รีซีฟเวอร์เพื่อ

อัพเกรดคุณภาพเสียงได้ ทำให้คุณสามารถชมภาพนิ่งในรูปแบบของสไลด์โชว์ได้

และทำให้คุณสามารถรับชมภาพวิดีโอบน iPod ผ่านขึ้นบนทีวีได้ นอกเหนือไปกว่านั้น

ฟังท์ชั่น OSD (On Screen Display) ของตัวเอวี รีซีฟเวอร์ยังทำให้คุณสามารถครวจดู

สั่งงาน และปรับตั้งคอนเท็นต์ต่างๆ ในตัว iPod ผ่านทางจอทีวีได้ด้วย และด้วยรีโมท ไ

ร้สายของตัวเอวี รีซีฟเวอร์ ทำให้คุณสามารถควบคุมการทำงานของตัว iPod ของคุณ

ได้อย่างสะดวกสบายบนโซฟาของคุณ คุณยังสามารถอาศัยรีโมท คอนโทรลของคุณ

ในการเปิด/ปิดการทำงานของตัว iPod ได้ด้วย

Page 42: HT-S3300 Thai Version

41En

Basic Operation

Auto Power On

Direct Change

Using the AV receiver’s Remote Controller

Using Your iPod models Alarm Clock

Note

Charging Your iPod models Battery

หมายเหตุ

หมายเหตุ

RI Dock

Using the Onkyo Dock

ตัวฐานแยก หรือ Dock ขายแยกต่างหาก ให้ดูข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับตัวฐาน

แยกของออนเกียวนี้ได้จากเว็บไซต์ www.onkyo.com ก่อนจะเริ่มต้นใช้งาน

ตัวฐานแยกของออนเกียว ให้ทำการอัพเดต iPod ของคุณให้เป็นซอฟท์แวร์

เวอร์ชั่นล่าสุดซะก่อน ซึ่งมีให้อัพเดตได้ที่เว็บไซต์ของบริษัท Apple Inc.

สำหรับรุ่นของ iPod ที่สามารถใช้งานด้วยกันได้ ให้ตรวจสอบจากสมุดคู่มือ

ของตัวฐานแยกนั้นๆ

UP-A1 Dock

ด้วยความสามารถของตัวฐานแยกรุ่น UP-A1 ของออนเกียวตัวนี้ ทำให้คุณ

สามารถเล่นไฟล์เพลง, ไฟล์รูปภาพ หรือไฟล์วิดีโอ ที่เก็บอยู่บนตัว iPod ได้

อย่างง่ายดาย โดยส่งผ่านตัวเอวี รีซีฟเวอร์เพื่ออัพเกรดให้ได้คุณภาพเสียงที่ดีขึ้น

คุณสามารถใช้รีโมท คอนโทรลของเอวี รีซีฟเวอร์ในการควบคุมสั่งงานตัว

iPod ได้

ตัวเอวี รีซีฟเวอร์จะใช้เวลาชั่วครู่ในการเริ่มต้น ซึ่งทำให้อาจจะไม่ได้ยินเสียง

ของเพลงแรกประมาณสอง-สามวินาที

ถ้าคุณเริ่มต้นเล่น iPod ในขณะที่ตัวเอวี รีซีฟเวอร์อยู่ในโหมดสแตนด์บาย ตัว

เอวี รีซีฟเวอร์จะเปิด “On” โดยอัตโนมัติ และปรับเลือก iPod เป็นอินพุตทันที

ถ้าคุณเริ่มต้นเล่น iPod ในขณะกำลังฟังเสียงของอินพุตอื่นอยู่ ตัวเอวี รีซีฟเวอร์

จะปรับเลือก iPod ขึ้นมาเป็นอินพุตใหม่ทันที

คุณสามารถใช้รีโมท คอนโทรลของตัวเอวี รีซีฟเวอร์ในการควบคุมฟังท์ชั่น

พื้นฐาน iPod ได้ ( 42)

� สำหรับฟังท์ชั่นที่ใช้งานได้จะขึ้นอยู่กับรุ่นของตัว iPod ของคุณกับ

เจนเนอเรชั่นด้วย

� ก่อนจะปรับเลือกอินพุตอื่นบนตัวเอวี รีซีฟเวอร์ ให้ทำการหยุดฟังท์ชั่น

playback (เล่น) ของ iPod ซะก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเอวี รีซีฟเวอร์

เผลอไปเลือก iPod เป็นอินพุตโดยไม่ตั้งใจ

� ถ้ามีการเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริมใดๆ ของตัว iPod เข้าไป อาจจะทำให้ตัว

เอวี รีซีฟเวอร์ไม่สามารถใช้งานตัว iPod ได้อย่างที่ควรจะเป็น

� เมื่อทำการต่อเชื่อมตัวฐานแยก UP-A1 เข้ากับตัวจูเนอร์วิทยุ UP-HT1

(รุ่นที่ใช้ในอเมริกาเหนือ) หรือ UP-DT1 (รุ่นที่ใช้ในเอเซีย) โดยการ

เลือก AUTO ด้วยสวิทช์ Mode Selector ของตัวจูนเนอร์ คุณจะ

สามารถสลับเลือกระหว่างตัวฐานแยกที่เป็นจูนเนอร์ UP-HT1 กับฐาน

แยกไอพ๊อด UP-A1 ได้ด้วยวิธีกดปุ่ม PORT บนหน้าปัดของเอวี

รีซีฟเวอร์ซ้ำๆ

� เมื่อเสียบ iPod ไว้บนฐานแยก UP-A1 ฟังท์ชั่นปรับวอลลุ่ม (ความดัง)

ของ iPod ขะไม่ทำงาน ถ้าคุณปรับตั้งระดับความดังของตัว iPod ไว้ใน

ขณะที่มันถูกติดตั้งอยู่บนฐานแยก ให้มั่นใจว่าคุีณได้ปรับตั้งระดับความ

ดังของตัว iPod ไม่สูงเกินไปสำหรับการฟังด้วยหูฟังหลังจากคุณดึงตัว

iPod ออกมาจากฐานแยกแล้ว

� ฟังท์ชั่น Auto Power On จะไม่ทำงานถ้าคุณปรับตั้งตัว iPod ในขณะที่

มันกำลังเล่นเพลงอยู่บนฐานแยก UP-A1

� อย่าปิดเครื่อง iPod ในขณะที่มันยังคงเชื่อมต่ออยู่บนฐานแยก UP-A1

� ให้ทำการปรับตั้งตัว iPod ของคุณซึ่งอยู่บนฐานแยก UP-A1 หลังจาก

ได้ทำการเปิด “On” ตัวเอวี รีซีฟเวอร์แล้ว

หมายเหตุสำหรับการใช้งาน iPod

คุณสามารถอาศัยฟังท์ชั่น Alarm Clock หรือนาฬิกาปลุกของตัว iPod ในการ

เปิดใช้งานตัว iPod อัตโนมัติ และเปิดใช้งานตัวเอวี รีซีฟเวอร์อัตโนมัติตาม

เวลาที่ปรับตั้งไว้ได้ และฟังท์ชั่นอินพุต ซีเล็กเตอร์ของตัวเอวี รีซีฟเวอร์จะปรับ

เลือกไปที่อินพุต PORT โดยอัตโนมัติ

� เพื่อใช้งานฟังท์ชั่นนี้ ตัว iPod ของคุณจะต้องถูกเสียบอยู่บนตัวฐานแยก และ

ตัวฐานแยกก็จะต้องต่อเชื่อมเข้ากับตัวเอวี รีซีฟเวอร์เท่านั้น

� ฟังท์ชั่นนี้จะทำงานเฉพาะเมื่อโหมดสแตนดาร์ดถูกปรับตั้งไว้ที่ตำแหน่ง “On”

เท่านั้น

� เมื่อใช้งานฟังท์ชั่นนี้ ให้แน่ใจว่าได้ทำการปรับตั้งความดังของเสียงไว้ในระดับ

ที่เหมาะสมแล้ว

� คุณจะไม่สามารถใช้งานฟังท์ชั่นนี้กับซาวนด์เอ็ฟเฟ็กต์บนตัว iPod ของคุณ

ตัวฐานแยก UP-A1 จะสามารถชาร์จไฟให้กับแบตเตอรี่ของ iPod ได้ในขณะที่

iPod เสียบอยู่บนฐานแยก UP-A1 ซึ่งต่อเชื่อมอยู่ที่ช่อง UNIVERSAL PORT

ของตัวเอวี รีซีฟเวอร์ ขณะเสียบอยู่บนฐานแยก UP-A1 แบตเตอรี่ที่ตัว iPod

ของคุณจะถูกชาร์จเมื่อตัวเอวี รีซีฟเวอร์ถูกปรับตั้งไว้ในสถานะเปิดใช้งาน (“On”)

หรือในโหมดสแตนด์บาย

� เมื่อฐานแยก UP-A1 ซึ่งมี iPod ติดตั้งอยู่ถูกต่อเชื่อมเข้ากับตัวเอวี รีซีฟเวอร์

อัตราบริโภคไฟฟ้าในโหมดสแตนด์บายของตัวเอวี รีซีฟเวอร์จะเพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อย

ข้อความแจงสถานะ (Status Messages)

� PORT Reading

ตัวเอวี รีซีฟเวอร์กำลังตรวจเช็คสถานะการเชื่อมต่อกับตัวฐานแยก

� PORT Not Support

ตัวเอวี รีซีฟเวอร์ไม่รองรับการใช้งานร่วมกับตัวฐานแยก

� PORT UP-A1

ตัวฐานแยก UP-A1 ถูกเชื่อมต่อเรียบร้อยแล้ว

� ตัวเอวี รีซีฟเวอร์จะแสดงข้อความ “UP-A1” ประมาณสอง-สามวินาที

หลังจากตรวจพบและทำความรู้จักกับตัวฐานแยก UP-A1 แล้ว

� ถ้าไม่มีข้อความแสดงสถานะปรากฏขึ้นบนจอของตัวเอวี รีซีฟเวอร์

ให้ตรวจสอบลักษณะการเชื่อมต่อของตัว iPod

ด้วยความสามารถของตัวฐานแยกสำหรับตัวรีโมท อินเตอร์แอ๊คทีฟ หรือ RI Dock

จะทำให้คุณสามารถเล่นไฟล์เพลงที่เก็บอยู่บน iPod ผ่านตัวเอวี รีซีฟเวอร์เพื่อ

อัพเกรดคุณภาพเสียงได้ ทำให้คุณสามารถชมภาพนิ่งในรูปแบบของสไลด์โชว์ได้

และทำให้คุณสามารถรับชมภาพวิดีโอบน iPod ผ่านขึ้นบนทีวีได้ นอกเหนือไปกว่านั้น

ฟังท์ชั่น OSD (On Screen Display) ของตัวเอวี รีซีฟเวอร์ยังทำให้คุณสามารถครวจดู

สั่งงาน และปรับตั้งคอนเท็นต์ต่างๆ ในตัว iPod ผ่านทางจอทีวีได้ด้วย และด้วยรีโมท ไ

ร้สายของตัวเอวี รีซีฟเวอร์ ทำให้คุณสามารถควบคุมการทำงานของตัว iPod ของคุณ

ได้อย่างสะดวกสบายบนโซฟาของคุณ คุณยังสามารถอาศัยรีโมท คอนโทรลของคุณ

ในการเปิด/ปิดการทำงานของตัว iPod ได้ด้วย

Page 43: HT-S3300 Thai Version

43En

: Available buttons

หมายเหตุ

หมายเหตุ

Press the appropriate REMOTE MODE first.

UP-

A1

Do

ck

Do

ck

ON/STANDBY *1

TOP MENU *5

/ / / ENTER

PLAYLIST / *3

, , , , , ,

REPEAT

RANDOM

PLAY MODE *4 *4

DISPLAY *6 *2

MUTING

ALBUM +/–

VOL /

MENU

RETURN

Onkyo Dock

Buttons

� สำหรับ iPod บางรุ่นและบางเจนเนอเรชั่น บางปุ่มอาจจะไม่สามารถใช้งานได้ตามคาด

� สำหรับรายละเอียดในการใช้งาน iPod กรุณาตรวจสอบจากคู่มือของ iPod

*1 ปุ่มนี้ไม่ได้ใช้ในการควบคุมการเิปิด (On) หรือปิด (Off) ตัว DS-A2 หรือตัว DS-A2X RI Dock และตัว iPod อาจจะไม่ตอบสนองกับการสั่งงานด้วยปุ่มนี้ใน

ครั้งแรกที่คุณกด ในกรณีนี้ให้กดซ้ำอีกครั้ง

เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่า ตัวรีโมทจะทำการส่งคำสั่ง On กับ Standby สลับกันไป ดังนั้น ถ้าตัว iPod ของคุณอยู่ในสถานะ “On” อยู่แล้ว มันก็จะยังคง “On” เมื่อตัว

รีโมท คอนโทรลส่งคำสั่ง “On” ไปให้ เช่นเดียวกัน ในกรณีที่ตัว “IPod” อยู่ในสถานะ “Off” มันก็จะยังคงอยู่สถานะ “Off” เช่นเดิม ถ้าตัวรีโมท คอนโทรลส่ง

คำสั่ง “Off” ไปให้

*2 กดปุ่ม DISPLAY เพื่อเปลี่ยนแปลงโหมดต่างๆ ต่อไปนี้:

Standard Mode

จะไม่มีอะไรปรากฏออกไปที่จอทีวีของคุณ ซึ่งคุณต้องใช้จอแสดงผลของตัว iPod ในการค้นเข้าไปในรายละเอียดของเมนูสั่งงาน ซึ่งโหมดนี้จะสามารถใช้เล่นสัญญาณ

วิดีโอจากตัว iPod ของคุณได้

Extended Mode

รายชื่อของฟังท์ชั่นเพลย์แบ็ค อาทิ รายชื่อศิลปิน, ชื่ออัลบั้ม, ชื่อเพลง และ .. จะปรากฏขึ้นบนจอทีวี และคุณก็สามารถเจาะลึกลงไปในรายละเอียดของเมนูและเลือก

เพลงได้ด้วยการใช้ทีวีเป็นจอแสดงผล

*3 ในโหมด Extended Mode (ดูที่ *2) ปุ่ม PLAYLIST จะถูกกำหนดให้ใช้สำหรับการข้ามไปสู่หน้าเมนูหน้าถัดไป และด้วยคุณสมบัตินี้ จะทำให้คุณเข้าถึงเพลง

ที่ต้องการได้เร็วขึ้น ซึ่งช่วยได้มากในกรณีที่รายชื่อเพลง หรือรายชื่อศิลปินที่คุณมีอยู่นั้นยาวมาก

*4 Resume Mode ด้วยฟังท์ชั่นของโหมด resume ทำให้คุณสามารถกำหนดให้เครื่องจดจำเพลงสุดท้ายที่เล่นก่อนที่คุณจะดึง iPod ออกไปจากตัวฐานแยก RI Dock

หรือก่อนที่คุณจะทำการปิด OSD mode

*5 ปุ่ม Top Menu จะทำงานเหมือนปุ่ม Mode เมื่อใช้กับตัวฐานแยกรุ่น DS-A2 RI Dock

*6 ปุ่ม Display จะทำการเปิดไฟแบ็คไล้ท์ของจอขึ้นมาประมาณ 30 วินาที

� ในโหมด Extended Mode (ดูที่ *2) การเล่นจะยังคงต่อเนื่องแม้ว่าตัวเอวี รีซีฟเวอร์จะถูกปิดลง (Off)

� ในโหมด Extended Mode (ดูที่ *2) คุณจะไม่สามารถควบคุมสั่งงานตัว iPod ได้โดยตรง

� ในโหมด Extended Mode (ดูที่ *2) อาจจะต้องใช้เวลาชั่วครู่ในการดึงข้อมูลจากตัว iPod

� ในโหมด Extended Mode (ดูที่ *2) ข้อมูลที่เป็นวิดีโอจะไม่สามารถแสดงขึ้นบนจอทีวีของคุณ

Page 44: HT-S3300 Thai Version

44En

Controlling Other Components

• BD/DVD30627:

• TV/CD71817:

11807:

Preprogrammed Remote Control Codes

BD/DVD Onkyo Blu-ray Disc player ( 45 )TV/CD Onkyo CD player ( 45)PORT Onkyo Universal Port Option Dock ( 42 )

Entering Remote Control Codes

1

2

หมายเหตุ

3

โค๊ดรีโมทคอนโทรล สำหรับอุปกรณ์ของ Onkyo ที่ต่อเชื่อมผ่าน RI

1

2

หมายเหตุ

3

คุณสามารถใช้รีโมท คอนโทรลของตัวเอวี รีซีฟเวอร์ (RC-762M) ในการ

ควบคุมอุปกรณ์เอวี ตัวอื่นได้ ซึ่งพื้นที่ส่วนนี้จะอธิบายวิธีการใส่โค๊ดรีโมทสำหรับ

อุปกรณ์ต่างๆ ที่คุณต้องการควบคุมการสั่งงาน อาทิ DVD, TV, CD ฯลฯ

ฟังท์ชั่น REMOTE MODE ต่อไปนี้ได้ถูกโปรแกรมไว้ด้วยโค๊ดรหัสสำหรับ

ควบคุมสั่งงานอุปกรณ์ตามรายการ คุณไม่จำเป็นต้องใส่โค๊ดให่กับตัวรีโมท

สำหรับคอนโทรลอุปกรณ์เหล่านี้อีก

สำหรับรายละเอียดในการคอนโทรลอุปกรณ์เหล่านี้่ ให้ดูจากคู่มือจากหน้าที่

ระบุไว้

คุณจำเป็นต้องใส่โค๊ดสำหรับอุปกรณ์แต่ละชิ้นที่คุณต้องการควบคุมสั่งงาน

มองหาโค๊ดของรีโมท คอนโทรลที่เกี่ยวข้องกันจากหัวข้อ “Remote

Control Codes for Onkyo Components Connected via RI”

ขณะกดปุ่ม REMOTE MODE ที่คุณต้องการใส่โค๊ดรหัสค้างไว้ ให้กดปุ่ม

DISPLAY ค้างไว้ด้วยประมาณ 3 วินาที

� ไม่สามารถใส่โค๊ดรีโมท คอนโทรลให้กับ RECEIVER ได้

� นอกเหนือจาก RECEIVER แล้ว โค๊ดรีโมท คอนโทรลจากอุปกรณ์

ประเภทใดก็สามารถนำไปใส่ใน REMOTE MODE ได้ อย่างไรก็ตาม

ปุ่มเหล่านี้จะทำงานเหมือนปุ่มอินพุต ซีเล็กเตอร์ ( 21) ดังนั้น

ให้เลือก REMOTE MODE ที่ตรงกันกับอินพุตที่คุณทำการต่อเชื่อม

อุปกรณ์ที่ต้องการควบคุมการสั่งงานเอาไว้ ยกตัวอย่าง ถ้าคุณต่อเชื่อม

เครื่องเล่นซีดีของคุณเอาไว้ที่ช่องอินพุต CD ให้เลือก TV/CD เมื่อ

เข้าไปในฟังท์ชั่นรีโมท คอนโทรลโค๊ดของเครื่องเล่นซีดีตัวนั้น

ในระหว่างเวลา 30 วินาที ให้ใช้ปุ่มตัวเลขในการเข้ารหัสโค๊ดของรีโมท

สัญญาณลักษณ์รีโมทบนหน้าจอจะกระพริบสองครั้ง ถ้าการใส่โค๊ดรีโมท

ไม่สมบูรณ์ สัญญาณลักษณ์รีโมทบนหน้าจอจะกระพริบช้าๆ หนึ่งครั้ง

การควบคุมสั่งงานอุปกรณ์ของ Onkyo ที่ต่อเชื่อมผ่านระบบ RI ทำได้โดยการ

ชี้ตัวรีโมทไปที่ตัวเอวี รีซีฟเวอร์ ไม่ใช่ชี้ไปที่ตัวอุปกรณ์ ซึ่งจะทำให้คุณสามารถ

ควบคุมอุปกรณ์ที่วางตำแหน่งอยู่นอกรัศมีการควบคุมของตัวรีโมทได้ อย่างเช่น

อุปกรณ์ที่ติดตั้งอยู่ในชั้นที่มิดชิดเป็นต้น

ให้มั่นใจว่า อุปกรณ์ Onkyo ถูกติดตั้งด้วยสาย RI และสายอะนาลอก

ออดิโอ (RCA) เป็นที่เรียบร้อย

ดูรายละเอียดในหัวข้อ “Connecting Onkyo RI Components” ที่หน้า

( 18)

ใส่โค๊ดรหัสที่ตรงกันกับอุปกรณ์เข้าไปที่ REMOTE MODE

� BD/DVD

31612 ควบคุมเครื่องเล่นดีวีดี Onkyo ผ่าน RI

� TV/CD

71323 ควบคุมเครื่องเล่นซีดี Onkyo ผ่าน RI

42157 ควบคุมเครื่องเล่นเทปคาสเส็ท Onkyo ผ่าน RI

� PORT

82351 ควบคุม Universal Port (อ๊อปชั่น) ของ Onkyo

� TUNER

51805 ควบคุมจูนเนอร์บนเอวี รีซีฟเวอร์ของ Onkyo

� เมื่อต้องการใช้งานเครื่องเล่นเทปคาสเส็ทที่ต่อผ่าน RI ให้กดปุ่ม

TV/CD ค้างไว้เพื่อสวิทช์ไปที่ TAPE

กดปุ่ม REMOTE MODE แล้วชี้ตัวรีโมทไปที่ตัวเอวี รีซีฟเวอร์เพื่อ

ควบคุมอุปกรณ์นั้น

ถ้าคุณต้องการควบคุมอุปกรณ์ของ Onkyo ด้วยการชี้ตัวรีโมทไปที่ตัวอุปกรณ์

โดยตรง หรือคุณต้องการที่จะควบคุมอุปกรณ์ของ Onkyo ที่ไม่ได้ต่อเชื่อมผ่าน

RI ให้ใช้โค๊ดรหัสอุปกรณ์ตามนี้:

ควบคุมเครื่องเล่นดีวีดี Onkyo โดยไม่ผ่าน RI

ควบคุมเครื่องเล่นซีดี Onkyo โดยไม่ผ่าน RI

ควบคุมทีวีของ Onkyo

Page 45: HT-S3300 Thai Version

45En

32900: ควบคุมเครื่องเล่นบลู-เรย์ฯ ของ Onkyo

32901:

70868:

71323:

82990: ควบคุม Universal Port (อ๊อปชั่น) ของ Onkyo

หมายเหตุ

Resetting REMOTE MODE Buttons

1

2

Resetting the Remote Controller

1

2

Controlling Other Componentsถ้าคุณต้องการควบคุมอุปกรณ์ของ Onkyo ด้วยการชี้ตัวรีโมทไปที่ตัวอุปกรณ์

โดยตรง ให้ใช้โค๊ดรหัสอุปกรณ์ตามนี้:

ควบคุมเครื่อง HD-DVD ของ Onkyo

ควบคุมเครื่องบันทึก MiniDisc ของ Onkyo

ควบคุมเครื่องบันทึก CD Recorder ของ Onkyo

� ถ้าคุณต่อเชื่อมเครื่องเล่นเทปคาสเส็ทเข้าที่ช่อง TV/CD IN หรือต่อเชื่อม

อุปกรณ์ฐานแยก RI เข้าที่ช่อง TV/CD IN หรือช่อง VCR/DVR IN

หรือช่อง GAME IN เพื่อให้ฟังท์ชั่น RI ทำงานอย่างถูกต้อง คุณต้องทำ

การปรับตั้งจออินพุต (Input Display) ที่เกี่ยวเนื่องกัน ( 22)

คุณสามารถปรับตั้งโค๊ดของรีโมท คอนโทรที่ฟังท์ชั่น REMOTE MODE กลับ

ไปสู่ค่าที่ปรับตั้งมาจากโรงงานได้

ขณะกดปุ่ม REMOTE MODE ที่คุณต้องการปรับตั้งใหม่เอาไว้ ให้กด

ปุ่ม AUDIO ค้างไว้ด้วยจนกระทั่งสัญญาลักษณ์รีโมทสว่างขึ้นประมาณ

3 วินาที

ในช่วงเวลา 30 วินาที ให้กดปุ่ม REMOTE MODE ซ้ำอีกครั้ง

สัญญาลักษณ์รีโมทจะกระพริบสองครั้ง แสดงให้ทราบว่าปุ่ม REMOTE

MODE ได้ถูกปรับตั้งใหม่แล้ว

แต่ละครั้งที่ REMOTE MODE ถูกใส่โปรแกรมรีโมท คอนโทรลลงไป

เมื่อปุ่มถูกปรับตั้งใหม่ โปรแกรมที่เคยมีอยู่ที่ปุ่มนั้นจะถูกโค๊ดใหม่บันทึก

ทับลงไป

คุณสามารถปรับตั้งตัวรีโมท คอนโทรลให้กลับไปสู่โค๊ดเดิมที่มาจากโรงงานได้

ขณะกดปุ่ม REMOTE MODE ที่คุณต้องการปรับตั้งใหม่เอาไว้ ให้กด

ปุ่ม AUDIO ค้างไว้ด้วยจนกระทั่งสัญญาลักษณ์รีโมทสว่างขึ้นประมาณ

3 วินาที

ในช่วงเวลา 30 วินาที ให้กดปุ่ม RECEIVER ซ้ำอีกครั้ง

ตัวสัญญาลักษณ์รีโมทจะกระพริบซ้ำสองครั้ง แสดงให้ทราบว่าตัว

รีโมทคอนโทรลถูกปรับตั้งใหม่เรียบร้อยแล้ว

ด้วยการกดปุ่ม REMOTE MODE ที่ได้ถูกโปรแกรมใหม่ด้วยโค๊ดรีโมทคอนโทรล

สำหรับอุปกรณ์ของคุณ จะทำให้สามารถควบคุมสั่งงานอุปกรณ์ของ Onkyo

ตามที่ปรากฏด้านล่างนี้

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโค๊ดรีโมท คอนโทรล สำหรับอุปกรณ์ต่างๆ

สามารถดูได้ที่หน้า ( 44)

ควบคุมสั่งงานเครื่องเล่น Blu-ray/เครื่องเล่น DVD และเครื่องเล่น

HD-DVD Player หรือเครื่องบันทึก DVD Recorder

BD/DVD ได้ถูกลงโปรแกรมมาด้วยโค๊ดรีโมท คอนโทรลสำหรับควบคุม

อุปกรณ์ที่รองรับระบบ RIHD ซึ่งอุปกรณ์ตัวนั้นจะต้องสามารถตอบรับ

สัญญาณรีโมท คอนโทรลผ่านระบบ RIHD และต้องต่อเชื่อมอยู่กับตัว

เอวี รีซีฟเวอร์ผ่านทางขั้วต่อ HDMI เท่านั้น

Page 46: HT-S3300 Thai Version

46En

หมายเหตุ

: Available buttons

หมายเหตุ

Press the appropriate REMOTE MODE first.

TV DV

D p

laye

r/D

VD

reco

rder

Blu

-ray

Dis

c p

laye

rH

D D

VD

pla

yer

VC

R/PV

R

Sate

llite

rece

iver

Cab

le re

ceiv

erC

D p

laye

r/C

D re

cord

erM

D re

cord

erC

asse

tte

tap

e d

eck

ON/STANDBY

GUIDE

TOP MENU

/ / /ENTER

SETUP

, , , , , ,

*1 *3

SEARCH *1*2 *1 *2 *2

REPEAT *1*2 *2 *2

RANDOM *1*2 *1 *2 *2

PLAY MODE *1*2 *1 *2 *2

Number: 1 to 9, 0

Number: +10 *1 *1

DISPLAY

MUTING

DISC +/–

PREV CH

MENU

RETURN

AUDIO *1 *1

CLR

Components

Buttons

กับอุปกรณ์บางชิ้น อาจจะมีบางปุ่มที่ใช้สั่งงานไม่ได้อย่างที่คาด หรือ

อาจจะใช้สั่งงานไม่ได้เลยก็ได้

*1 ฟังท์ชั่น RIHD ไม่รองรับตรงจุดนี้ ซึ่งฟังท์ชั่น RIHD ที่รองรับโดยตัว

เอวีรีซีฟเวอร์นั้นจะต้องเป็นฟังท์ชั่นที่อยู่ในระบบ CEC ตามมาตรฐาน HDMI

เท่านั้น

*2 ปุ่มฟังท์ชั่นเหล่านี้คือปุ่มที่มีสีกำกับ หรือปุ่ม A, B, C

*3 ฟังท์ชั่น “หยุดชั่วคราว” (Pause) จะเปลี่ยนกลับเป็นฟังท์ชั่นเพลย์แบ็ค (Play)

ให้ดูที่หัวข้อ “Controlling Your iPod” สำหรับการควบคุมสั่งงานตัว iPod ( 42)

Page 47: HT-S3300 Thai Version

47En

Power

AUDIO

RECEIVER

Remote indicator

Audio

ถ้าคุณประสบปัญหาติดขัดในการใช้งานเอวี รีซีฟเวอร์ตัวนี้ ให้ค้นหาวิธีแก้ไขจาก

ส่วนนี้ได้ และถ้ายังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ด้วยตัวเอง ให้ติดต่อตัวแทนจำหน่าย

ของ Onkyo

ปัญหาติดขัดในการใช้งาน (Troubleshooting)

ถ้าคุณไม่สามารถแก้ไขปัญหาด้วยตัวเองได้ ให้ลองทำการรีเซ็ตติ้ง (resetting)

ตัวเอวี รีซีฟเวอร์ใหม่ดูก่อนที่จะติดต่อกับตัวแทนจำหน่าย

วิธีการปรับตั้ง resetting เครื่องให้กลับไปเป็นค่าเริ่มต้นที่ตั้งมาจากโรงงานนั้น

เริ่มด้วยเปิดเครื่องให้อยู่ในสถานะ “เปิด” (On), จากนั้น ให้กดปุ่ม

[VCR/DVR] ค้างไว้ แล้วกดปุ่ม [ON/STANDBY] หนึ่งครั้ง จะปรากฏคำว่า

“Clear” ขึ้นบนจอแสดงผล จากนั้นตัวเอวี รีซีฟเวอร์ก็จะเข้าไปอยู่ในสถานะ

“เตรียมพร้อม” (Standby)

การปรับตั้ง (resetting) ตัวเอวี รีซีฟเวอร์ใหม่จะเป็นการลบสิ่งที่คุณปรับตั้ง

ไว้ทั้งหมด รวมถึงลบความจำคลื่นสถานีที่คุณตั้งไว้ในเมมโมรี่ของเครื่องด้วย

ในการรีเซ็ตตัวรีโมท คอนโทรลให้กลับไปตรงค่าที่ปรับตั้งมาจากโรงงาน ขณะ

กดปุ่ม RECEIVER (บนตัวรีโมท) ค้างไว้ ให้กดปุ่ม AUDIO ลงไปจนกระทั่ง

สัญญาลักษณ์รีโมทสว่างขึ้นบนจอ (ประมาณ 3 วินาที) ในช่วงเวลาประมาณ

30 วินาทีหลังจากนั้น ให้กดปุ่ม RECEIVER อีกครั้ง

เมนูการปรับตั้งที่ขึ้นโชว์บนจอ (On-Screen Setup Menus) จะปรากฏขึ้นมา

เฉพาะบนทีวีที่ต่อเชื่อมกับตัวเอวี รีซีฟเวอร์ทางช่อง HDMI เท่านั้น ถ้าตัวทีวี

ของคุณถูกต่อเชื่อมไว้ที่ช่อง MONITOR OUT V หรือช่อง COMPONENT

VIDEO OUT ให้ใช้จอแสดงผลของตัวเอวี รีซีฟเวอร์ในการเปลี่ยนแปลงการ

ปรับตั้ง

ไม่สามารถเปิด “On” ตัวเอวี รีซีฟเวอร์ได้

ให้แน่ใจว่า สายไฟเอซีที่เสียบเข้าเครื่องได้ถูกเสียบเข้าที่ปลั๊กไฟบนผนังห้อง

แน่นหนาดี

ถ้าสายไฟเอซีของตัวเครื่องเสียบเข้ากับปลั๊กตัวเมียบนผนังห้องเรียบร้อยดี

แต่ยังไม่สามารถเปิดสวิทช์ “On” ได้ ให้ดึงสายไฟเอซีของตัวเอวี รีซีฟเวอร์

ออกจากปลั๊กผนังบ้าน ทิ้งไว้อย่างนั้นประมาณ 5 วินาที จากนั้นให้เสียบ

ปลั๊กไฟเอซีของเครื่องเข้าไปใหม่

ปุ่ม STANDBY กระพริบเป็นสีแดง

แสดงว่าวงจรป้องกันของตัวเอวี รีซีฟเวอร์ทำงาน ให้ทำการดึงสายไฟเอซีของ

ตัวเอวี รีซีฟเวอร์ออกทันที, ปลดสายลำโพงทั้งหมดออกจากตัวเครื่อง

เอวีรีซีฟเวอร์, ปล่อยตัวเอวี รีซีฟเวอร์ทิ้งไว้อย่างนั้นประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้น

ให้ต่อสายไฟเอซีของตัวเอวี รีซีฟเวอร์เข้าไปใหม่ แล้วปรับเร่งปุ่มวอลลุ่มขึ้นไป

จนสุด, กดปุ่ม [ON/STANDBY] เพื่อทำการเปิดเครื่อง ถ้าตัวเอวี รีซีฟเวอร์

ยอมเข้าไปอยู่ในสถานะ “เปิด” (On) ให้หรี่ปุ่มวอลลุ่มลงจนต่ำสุด ปลดสายไฟ

เอซีของตัวเอวี รีซีฟเวอร์ออกอีกครั้ง แล้วทำการต่อเชื่อมสายลำโพงกับสาย

สัญญาณของแหล่งอินพุตทั้งหมดเข้าไปใหม่ จากนั้นก็กดปุ่ม [ON/STANDBY]

เพื่อทำการเปิดเครื่องอีกครั้ง ถ้าตัวเอวี รีซีฟเวอร์กลับไปอยู่ในสถานะ “ปิด” (Off)

ทันทีหลังกดปุ่ม [ON/STANDBY] หรือถ้ายังไม่กลับไปอยู่ในสถานะ “ปิด” (Off)

ทันที ให้ลองปรับปุ่มวอลลุ่มขึ้นไปจนสุด ถ้าเอวี รีซีฟเวอร์เปลี่ยนไปอยู่ในสถานะ

“ปิด” (Off) ทันที ให้ปลดสายไฟเอซีของตัวเอวี รีซีฟเวอร์ออก แล้วติดต่อตัว

แทนจำหน่ายของ Onkyo ทันที

ไม่มีเสียงออกลำโพง หรือมีเสียงแต่เบามาก

กดปุ่ม SPEAKER A หรือ B เพื่อกระตุ้นสัญญาลักษณ์ของชุดลำโพงที่คุณ

ต้องการใช้งานขึ้นมา

ให้แน่ใจว่า ช่องดิจิตัล อินพุตที่คุณต้องการใช้งานนั้นได้ถูกเลือกอย่างถูก

ต้องแล้ว (ดูที่หน้า 31)

ให้แน่ใจว่า สายสัญญาณเสียง (ออดิโอ) ได้ถูกเชื่อมต่อแน่นหนาถูกต้องดี

ทุกจุดแล้ว (ดูที่หน้า 15)

ให้แน่ใจว่า ทั้งสัญญาณอินพุตและเอ๊าต์พุตของอุปกรณ์ทุกตัวได้ถูกต่อเชื่อม

ไว้ถูกต้องดีแล้ว (ดูที่หน้า 16-18)

ให้แน่ใจว่า คุณได้ทำการต่อเชื่อมขั้ว +/- ของสายลำโพงไว้ถูกต้องดีแล้ว

และตัวนำโลหะในตัวสายได้สัมผัสกับจุดโลหะที่ใช้รับสัญญาณของตัวขั้วต่อ

สายลำโพงอย่างถูกต้องแน่นหนาดีทุกแชนเนลแล้ว (ดูที่หน้า 12)

ให้แน่ใจว่า แหล่งต้นทางอินพุตได้ถูกเลือกไว้อย่างถูกต้องแล้ว

ให้แน่ใจว่า สายลำโพงไม่ได้แตะช็อตกัน

ตรวจสอบดูการปรับตั้งระดับเสียงของตัวเอวี รีซีฟเวอร์ว่า ได้ทำการปรับตั้ง

ระดับความดังของเสียงในโหมดที่ใช้กับโฮมเธียเตอร์ไว้กว้างมากพอรึเปล่า.?

ถ้าสัญญาลักษณ์ “MUTING” กระพริบอยู่บนจอแสดงผล ให้กดปุ่ม

MUTING บนรีโมทเพื่อปิดการทำงานของฟังท์ชั่น Mute ออกไป

(ดูที่หน้า 22)

ถ้ามีหูฟังเสียบคาอยู่ที่รูเสียบหูฟังของตัวเอวี รีซีฟเวอร์ จะไม่มีเสียงออก

ทางลำโพง (ดูที่หน้า 22)

ถ้าไม่มีสัญญาณเสียงออกจากเครื่องเล่นดีวีดีที่ต่อเชื่อมกับเอวี รีซีฟเวอร์อยู่

ทางอินพุต HDMI ให้ดูการปรับตั้งที่เอ๊าต์พุตของเครื่องเล่นดีวีดี ให้แน่ใจว่า

ได้ทำการปรับเลือกรูปแบบของสัญญาณดิจิตัล เอ๊าต์พุตออกมาเป็นรูปแบบ

ที่เอวี รีซีฟเวอร์รองรับได้ ตรวจสอบการปรับตั้งโหมด Digital Audio Output ของตัวเครื่องเล่นที่ต้อง

การฟังเสียงว่าได้ปรับตั้งไว้ถูกต้องรึเปล่า? สำหรับเครื่องเล่นวิดีโอเกมส์บาง

รุ่นนั้น โดยเฉพาะรุ่นที่เล่นแผ่น DVD ได้ มักจะปรับตั้งไว้ที่ตำแหน่ง “Off”

มาจากโรงงาน

แผ่น DVD-video บางแผ่นนั้น คุณจะต้องเข้าไปเลือกรูปแบบของสัญญาณ

เสียงจากเมนูของแผ่น

ถ้าเครื่องเล่นแผ่นเสียงของคุณใช้หัวเข็ม MC คุณจะต้องต่อเชื่อมเอ๊าต์พุต

ของหัวเข็มนั้นผ่านภาคขยาย MC head amp หรือผ่าน MC ทรานสฟอ

เมอร์ด้วย

ให้แน่ใจว่า ไม่มีสายต่อเชื่อมสัญญาณเส้นไหนที่งอ บิด หรือเสียหาย

ไม่แน่นอนเสมอไปว่า โหมดการรับฟังทุกโหมดจะต้องมีเสียงออกจาก

ลำโพงทุกตัว

ตรวจสอบการปรับตั้งระยะจัดวางลำโพงและการปรับตั้งระดับความดังของ

ลำโพงแต่ละตัว (ดูที่หน้า 32

ถ้าสัญญาณดิจิตัล-ออดิโอ เอ๊าต์พุตของเครื่องเล่นถูกปรับตั้งไว้เป็น PCM

หรือ DTS, ที่โหมด Audio ของตัวเอวี รีซีฟเวอร์ให้ปรับตั้งไว้ที่ตำแหน่ง

“Auto” (ดูที่หน้าื 39)

Page 48: HT-S3300 Thai Version

48En

Video

มีเสียงออกเฉพาะลำโพงคู่หน้าอย่างเดียว

เมื่อเลือกโหมดการฟังแบบ “Stereo” หรือ “Mono” จะมีเสียงออกมาเฉพาะ

ลำโพงคู่หน้ากับลำโพงซับวูฟเฟอร์เท่านั้น

ตรวจสอบที่ฟังท์ชั่น “กำหนดค่าของลำโพง” (Sp Config) (ดูที่หน้า 32)

มีเสียงออกเฉพาะลำโพงเซ็นเตอร์อย่างเดียว

ถ้าคุณเลือกโหมดการฟังแบบ Dolby Pro Logic II Movie หรือ Dolby Pro

Logic II Music กับสัญญาณอินพุตที่เข้ามาเป็นสัญญาณโมโน อย่างเช่น

สัญญาณเสียงจากสถานีวิทยุ AM หรือเสียงจากสถานีโทรทัศน์ที่เป็นระบบ

เสียงโมโน ซึ่งเสียงที่ออกมาจะเน้นหนักไปอยู่ที่ลำโพงเซ็นเตอร์เป็นหลัก

ให้แน่ใจว่า ได้กำหนดค่าการปรับตั้งลำโพงไว้ถูกต้องแล้ว (ดูที่หน้า 32)

ไม่มีเสียงออกที่แชนเนลเซอร์ราวนด์

ถ้าคุณเลือกโหมดการฟังแบบ T-D (Theater-Dimension), Stereo หรือ

Mono จะไม่มีเสียงออกที่แชนเนลเซอราวนด์

ขึ้นอยู่กับแหล่งต้นทางสัญญาณกับโหมดการฟังที่เลือกใช้ ซึ่งหากพบว่ามี

เสียงออกที่แชนเนลเซอร์ราวนด์ไม่มาก หรือไม่ออกเลย ให้ลองปรับเปลี่ยน

โหมดการฟังแบบอื่นดู

ให้แน่ใจว่า ได้กำหนดค่าการปรับตั้งลำโพงไว้ถูกต้องแล้ว (ดูที่หน้า 32)

ไม่มีเสียงออกที่แชนเนลเซ็นเตอร์

ถ้าคุณเลือกโหมดการฟังแบบ Stereo หรือ Mono จะไม่มีเสียงออกที่แชน

เนลเซ็นเตอร์

ให้แน่ใจว่า ได้กำหนดค่าการปรับตั้งลำโพงไว้ถูกต้องแล้ว (ดูที่หน้า 32)

ไม่มีเสียงออกที่ลำโพงซับวูฟเฟอร์

จะไม่มีเสียงออกที่ลำโพงซับวูฟเฟอร์ถ้าคุณเลือกฟังเสียงจากชุดลำโพง B

อย่างเดียว ให้เปิดชุดลำโพง A ขึ้นมาด้วย (ดูที่หน้า 11)

ถ้าสัญญาณเสียงจากแหล่งต้นทางไม่มีการบันทึกสัญญาณช่อง LFE

(Low Frequency Effect) มาด้วยก็จะไม่มีเสียงออกที่ช่องซับวูฟเฟอร์

ให้แน่ใจว่า ได้กำหนดค่าการปรับตั้งลำโพงไว้ถูกต้องแล้ว (ดูที่หน้า 32)

ไม่มีเสียงออกกับสัญญาณเสียงบางรูปแบบ (บางฟอร์แม็ต)

ให้ตรวจสอบการปรับตั้งฟังท์ชั่น “digital audio output” ของตัวอุปกรณ์ต้น

ทาง กับเครื่องเล่นวิดีโอ เกมส์บางรุ่น โดยเฉพาะรุ่นที่เล่นแผ่นดีวีดีได้ฟังท์ชั่น

ที่ว่านี้มักจะถูกตั้งมาจากโรงงานไว้ที่ตำแหน่ง “Off”

แผ่น DVD-video บางแผ่นนั้น คุณจะต้องเข้าไปเลือกรูปแบบของสัญญาณ

เสียงจากเมนูของแผ่น

แผ่น DVD-video บางแผ่นนั้น คุณจะต้องเข้าไปเลือกรูปแบบของสัญญาณ

เสียงจากเมนูของแผ่น

ไม่สามารถเล่นระบบเสียงเซอร์ราวนด์ 5.1 แชนเนลได้

ในขณะที่ชุดลำโพง B ถูกเลือกใช้งาน จะทำให้ลำโพงชุด A ลดจำนวนแชน

เนลลงเหลือเพียง 2.1 แชนเนลเท่านั้น (คู่หน้า+ซับวูฟเฟอร์) (ดูที่หน้า 11)

คุณไม่สามารถเลือกโหมดการฟังทุกโหมดได้ทุกครั้งเสมอไป ขึ้นอยู่กับ

จำนวนลำโพงที่ติดตั้งเอาไว้ (ดูที่หน้า 27-29)

ไม่สามารถปรับตั้งระดับวอลลุ่มไปถึง 79 ได้

หลังจากที่ระดับวอลลุ่มของลำโพงแต่ละแชนเนลถูกปรับตั้งแล้ว ระดับสูงสุด

ของการปรับระดับเสียงอาจจะถูกลดต่ำลง (ดูที่หน้า 33)

มีเสียงรบกวน (noise) เกิดขึ้น

สายไฟเอซี กับสายลำโพงที่พันรวมอยู่ติดกับสายสัญญาณเสียงจะทำให้คุณ

ภาพเสียงด้อยลง และอาจทำให้เกิดสัญญาณรบกวนขึ้นได้ ให้จับแยกสาย

เหล่านี้ให้ห่างออกจากกัน

สายสัญญาณเสียงอาจจะเป็นตัวเหนี่ยวนำสัญญาณรบกวนเข้ามาในระบบ

ให้ลองเปลี่ยนตำแหน่งการวางสายซะใหม่

ฟังท์ชั่น “Last Night” ไม่ทำงาน

ให้แน่ใจว่าสัญญาณเสียงจากแหล่งต้นทางเป็นระบบเสียง Dolby Digital,

Dolby Digital Plus และ Dolby TrueHD (ดูหน้า 38)

เกี่ยวกับสัญญาณ DTS

เมื่อแหล่งต้นทางที่เป็นสัญญาณเสียง DTS ถูกเล่นจบลง และการส่งสัญญาณ

ดิจิตัลบิตสตรีมของฟอร์แม็ต DTS จากตัวเครื่องเล่นหยุดลงตัวเอวีรีซีฟเวอร์

จะยังคงอยู่ในโหมดการฟัง DTS และไฟแสดงสัญญาลักษณ์ของระบบเสียง

DTS ยังคงติดสว่างอยู่ ทั้งนี้ก็เพื่อช่วยป้องกันเสียงรบกวนที่จะเกิดขึ้นในขณะ

ที่คุณใช้ฟังท์ชั่น หยุดชั่วคราว (pause), เลื่อนไปข้างหน้าอย่างเร็ว (fast forward)

หรือฟังท์ชั่นถอยหลังอย่างเร็ว (fast reverse) ของตัวเครื่องเล่นของคุณ ถ้าคุณ

ทำการปรับเปลี่ยนระบบเสียงของตัวเครื่องเล่นจาก DTS ไปเป็น PCM เนื่อง

จากตัวเอวี รีซีฟเวอร์จะไม่เปลี่ยนฟอร์แม็ตเสีียงตามทันที จึงไม่มีเสียงเกิดขึ้น

ในกรณีนี้ให้คุณกด stop ที่ตัวเครื่องเล่นแล้วทิ้งไว้ประมาณ 3 วินาที ก่อนจะ

กดปุ่ม play ที่ตัวเครื่องเล่นใหม่อีกครั้ง

กับเครื่องเล่นซีดีบางรุ่น คุณอาจจะไม่สามารถเล่นแผ่นซีดีที่บันทึกด้วย

ระบบเสียง DTS ได้แม้ว่าเครื่องเล่นซีดีของคุณจะต่อเชื่อมกับเอวีรีซีฟเวอร์

ทางช่องดิจิตัล-อินพุตแล้วก็ตาม ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติที่อาจจะเกิดขึ้นได้

เนื่องจากสัญญาณ DTS bitstream ได้ถูกประมวลผลมาแตกต่างไปจาก

สัญญาณบิตสตรีมแท้ๆ ของสัญญาณ DTS ที่ใช้กับโฮมเธียเตอร์ (อาจจะ

ต่างกันที่ ระดับความแรงของสัญญาณเอ๊าต์พุต, อัตราแซมปลิ้งเรตที่ใช้

หรือระดับการตอบสนองความถี่ที่ต่างกัน)ทำให้ภาครับของตัวเอวีรีซีฟเวอร

์ไม่สามารถรับรู้กับสัญญาณ DTS ลักษณะนี้ได้ ในกรณีนี้คุณจะได้ยิน

รบกวนแทรกออกมา

เมื่อเล่นแหล่งสัญญาณที่บันทึกด้วยระบบเสียง DTS การใช้ฟังท์ชั่น หยุด

ชั่วคราว (pause), เลื่อนไปข้างหน้าอย่างเร็ว (fast forward) หรือฟังท์ชั่น

ถอยหลังอย่างเร็ว (fast reverse) ของตัวเครื่องเล่นของคุณอาจจะทำให้มีเสียง

รบกวนสั้นๆ เกิดขึ้น ซึ่งไม่ใช่ความผิดปกติของตัวเอวี รีซีฟเวอร์

ไม่ได้ยินเสียงของสัญญาณตอนขึ้นต้นที่รับมาจากช่องอินพุต HDMI IN

เนื่องจากตัวเครื่องต้องใช้เวลาในการตรวจจับรูปแบบของสัญญาณเสียงจาก

ช่อง HDMI นานกว่าช่องสัญญาณดิจิตัล อินพุตอื่นๆ สัญญาณเสียงที่ปรากฏ

ออกมาจึงค่อนข้างกระทันหัน

ไม่มีภาพ

ให้แน่ใจว่าสายสัญญาณภาพถูกต่อเชื่อมแน่นหนาดีทั้งระบบ (ดูที่หน้า 15)

ให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับการถ่ายทอดสัญญาณภาพถูกต่อเชื่อมด้วยกัน

อย่า่งถูกต้องดีแล้ว (ดูที่หน้า 16,17)

ถ้าแหล่งต้นทางวิดีโอถูกต่อเชื่อมไว้ที่ช่องคอมโพเน้นต์ วิดีโอ อินพุต คุณ

ต้องทำการกำหนดอินพุตนั้นให้กับอินพุต ซีเล็กเตอร์ด้วย และทีวีของคุณจะ

ต้องต่อเชื่อมอยู่ที่ช่อง Component Video Monitor Out (ดูที่หน้า 17, 31)

ถ้าแหล่งต้นทางวิดีโอถูกต่อเชื่อมไว้ที่ช่องคอมโพสิต วิดีโอ อินพุต ทีวีของ

คุณก็จะต้องต่อเชื่อมอยู่ที่ช่องคอมโพสิต วิดีโออินพุต เอ๊าต์พุตด้วย

(ดูที่หน้า 17)

ถ้าแหล่งต้นทางวิดีโอถูกต่อเชื่อมไว้ที่ช่อง HDMI อินพุต คุณต้องทำการ

กำหนดอินพุตนั้นให้กับอินพุต ซีเล็กเตอร์ด้วย และทีวีของคุณจะต้องต่อ

เชื่อมอยู่ที่ช่อง HDMI Out ด้วย (ดูที่หน้า 16, 30)

ที่ทีวีของคุณ, ให้แน่ใจว่า คุณได้เลือกอินพุตตรงกับช่องที่ได้ต่อสัญญาณ

ภาพที่ส่งมาจากเอวี รีซีฟเวอร์ไว้

Page 49: HT-S3300 Thai Version

49En

Tuner

Remote Controller

UP-A1 Dock for iPod

ไม่มีสัญญาณภาพจากแหล่งต้นทางที่ต่อเข้ากับเอวี รีซีฟเวอร์ทางช่อง HDMI IN

การถ่ายทอดสัญญาณภาพผ่านอะแด๊ปเตอร์ HDMI-to-DVI อาจจะไม่สมบูรณ์

นอกเหนือจากนั้น สัญญาณวิดีโอที่ต่อเชื่อมมาจาก PC ก็อาจจะทำงานได้ไม่

สมบูรณ์เช่นกัน (ดูหน้า 54)

ฟังท์ชั่น on-screen menus ไม่แสดงขึ้นบนจอ

ที่ทีวีของคุณ, ให้แน่ใจว่า คุณได้เลือกอินพุตตรงกับช่องที่ได้ต่อสัญญาณภาพ

ที่ส่งมาจากเอวี รีซีฟเวอร์ไว้แล้ว

ถ้าทีวีกับตัวเอวี รีซีฟเวอร์ไม่ได้ต่อเชื่อมกันทาง HDMI ฟังท์ชั่น OSD

จะไม่แสดงขึ้นบนจอ

สัญญาณวิทยุมีเสียงรบกวนมาก, สัญญาณเสียง FM สเตริโอถูกรบกวนจาก

เสียงฮีส หรือสัญญาลักษณ์ที่แสดงความเข้มของสัญญาณ FM สเตริโอไม่

สว่างขึ้น

ลองย้ายตำแหน่งที่ติดตั้งสายอากาศ

ย้ายตัวเอวี รีซีฟเวอร์ให้ห่างออกจากทีวี หรือเครื่องคอมพิวเตอร์

เปลี่ยนมารับฟังเสียงของสถานีนั้นด้วยระบบเสียงโมโนแทน (ดูที่หน้า 23)

เมื่อรับฟังเสียงของสถานี AM, การทำงานของตัวรีโมทอาจจะทำให้เกิด

สัญญาณรบกวนแทรกเข้าไปในระบบได้

รถยนต์ที่วิ่งผ่าน หรือเครื่องบินที่บินผ่านเข้ามาในบริเวณใกล้ๆ อาจจะทำ

ให้เกิดสัญญาณรบกวนขึ้นมาได้

ถ้าสายอากาศภายในบ้านที่ให้มาไม่ได้ช่วยเพิ่มคุณภาพการรับสัญญาณ ให้

เปลี่ยนไปใช้เสาอากาศนอกบ้านแทน

ตัวรีโมท คอนโทรลไม่ทำงาน

ก่อนเริ่มต้นใช้งานรีโมทตัวนี้ให้แน่ใจว่าได้กดปุ่ม RECEIVER (บนตัวรีโมท)

ให้แน่ใจว่า ขั้ว +/- ของแบตเตอรี่ในตัวรีโมทถูกติดตั้งไว้อย่างถูกต้องดีแล้ว

(ดูที่หน้า 5)

ให้ทำการเปลี่ยนแบตเตอรี่ก้อนใหม่ทั้งหมด ห้ามเอาแบตเตอรี่ต่างชนิดมา

ผสมกันและห้ามใช้แบตเตอรี่ก้อนใหม่กับก้อนเก่าที่ใช้แล้วผสมกัน(ดูที่หน้า5)

ให้แน่ใจว่า ตัวรีโมทคอนโทรลไม่ได้อยู่ห่างจากตัวเอวี รีซีฟเวอร์มากเกินไป

และให้แน่ใจว่าไม่มีสิ่งกีดขวางระัหว่างลำแสงของตัวรีโมทกับเซ็นเซอร์รับ

แสงของตัวเอวี รีซีฟเวอร์ (ดูที่หน้า 5)

ให้แน่ใจว่า ตัวเอวี รีซีฟเวอร์ ไม่ได้ถูกแสงแดดส่อง หรือถูกแสงไฟจากหลอด

ฟลูออเรสเซ็นต์ส่อง ถ้าจำเป็น ให้ลองย้ายตำแหน่งของตัวเอวี รีซีฟเวอร์ให้

ตำแหน่งเซ็นเซอร์รับแสงรีโมทหลบห่างออกไปจากแสงเหล่านั้น

ถ้าตัวเอวี รีซีฟเวอร์ถูกติดตั้งอยู่ในชั้นวางเครื่องที่มีฝาปิดทำด้วยกระจกสี

แสงจากตัวรีโมทอาจจะส่องเข้าไปไม่ถึงตัวเอวี รีซีฟเวอร์ในกรณีที่ฝาปิดอยู่

ให้แน่ใจว่าคุณได้ปรับเลือกโหมดของรีโมทไว้ถูกต้องแล้ว (ดูที่หน้า 10,45)

ให้แน่ใจว่าคุณบันทึกตัวเลขโค๊ดรหัสของเครื่องอย่างถูกต้องแล้ว

(ดูที่หน้า 44)

ให้แน่ใจว่าได้ทำการปรับตั้ง ID ของทั้งตัวรีโมทกับตัวเอวี รีซีฟเวอร์เป็น ID

เดียวกันแล้ว (ดูที่หน้า 35)

ไม่สามารถควบคุม-สั่งงานอุปกรณ์ตัวอื่นได้

ถ้าอุปกรณ์ตัวอื่นเป็นของยี่ห้อ Onkyo ให้แน่ใจว่า ระหว่างอุปกรณ์ตัวนั้นกับ

เอวี รีซีฟเวอร์ตัวนี้ได้ต่อเชื่อมสายต่อของระบบ RI กับสายสัญญาณเสียง

อะนาลอกระหว่างกันไว้แล้ว เนื่องจากต่อเชื่อมเฉพาะสาย RI อย่างเดียวจะ

ไม่ทำงาน (ดูที่หน้า 18)

ให้แน่ใจว่าคุณได้ปรับเลือกใช้โหมดของตัวรีโมทที่ถูกต้องแล้ว

(ดูที่หน้า 10,45)

ในกรณีที่คุณทำการต่อเชื่อมเครื่องเล่น/บันทึกเทปคาสเส็ท เข้ากับช่อง TV/

CD IN หรือต่อเชื่อมตัว RI Dock เข้ากับช่อง TV/CD IN หรือช่อง GAME

IN หรือช่อง VCR/DVR IN ถ้าต้องการให้รีโมททำงานอย่างถูกต้อง คุณต้อง

ทำการปรับตั้ง “Input Display” ให้ถูกต้องด้วย (ดูที่หน้า 22)

ถ้าไม่สามารถควบคุมสั่งงานได้ คุณอาจจำเป็นต้องเปลี่ยนรหัสโค๊ดของ

รีโมท คอนโทรลใหม่ (ดูที่หน้า 44)

การควบคุม-สั่งงานอุปกรณ์ตัวอื่นของ Onkyo ที่ต่อเชื่อมด้วยระบบ RI ให้ชี้

ตัวรีโมทไปที่เซ็นเซอร์ของตัวเอวี รีซีฟเวอร์ แต่ต้องแน่ใจว่า ได้ทำการบันทึก

โค๊ดรหัสที่ใช้ควบคุม-สั่งงานอุปกรณ์ตัวนั้นเข้าไปที่เซ็นเซอร์ของตัวเอวี

รีซีฟเวอร์แล้ว (ดูที่หน้า 44)

การควบคุม-สั่งงานอุปกรณ์ตัวอื่นของ Onkyo ที่ไม่ได้ต่อเชื่อมด้วยระบบ

RI ให้ชี้ตัวรีโมทไปที่เซ็นเซอร์ของอุปกรณ์ตัวนั้นโดยตรง แต่ต้องแน่ใจว่า

ได้ทำการบันทึกโค๊ดรหัสที่ใช้ควบคุม-สั่งงานอุปกรณ์ตัวนั้นเข้าไปที่ตัวรีโมท

แล้ว (ดูที่หน้า 44)

ไม่มีเสียง

ให้แน่ใจว่า iPod ของคุณกำลังอยู่ในโหมดเพลย์แบ็คจริงๆ

ให้แน่ใจว่า iPod ของคุณได้ติดตั้งอยู่บนฐานแยก UP-A1 อย่างถูกต้อง

แนบแน่นดีแล้ว

ให้แน่ใจว่า ตัวฐานแยก UP-A1 ถูกติดตั้งเข้ากับช่องต่อ UNIVERSAL

PORT ของตัวเอวี รีซีฟเวอร์อย่างถูกต้องแล้ว

ให้แน่ใจว่า ได้ทำการเปิด “On” ตัวเอวี รีซีฟเวอร์แล้ว แหล่งอินพุตจาก

ฟังท์ชั่นอินพุต ซีเล็กเตอร์ได้ถูกเลือกไว้ถูกต้องแล้ว และได้ทำการเร่ง

วอลลุ่มขึ้นมาแล้ว

ให้แน่ใจว่า ขั้วต่อต่างๆ ได้ถูกกดเข้ากับตัวรับจนแน่นหนาดีแล้ว

ให้ลองปรับตั้งตัว iPod ซะใหม่

ไม่มีภาพ

ให้แน่ใจว่า ช่อง TV OUT ของตัว iPod ของคุณ ถูกปรับตั้งไว้ที่ตำแหน่ง

“ON” แล้ว

ให้แน่ใจว่า ที่ตัวทีวีกับตัวเอวี รีซีฟเวอร์ของคุณ ได้ปรับเลือกอินพุตไว้ถูก

ต้องแล้ว

บางเวอร์ชั่นของ iPod ไม่มีสัญญาณวิดีโอปล่อยออกมา

รีโมท คอนโทรลของตัวเอวี รีซีฟเวอร์ไม่สามารถควบคุมสั่งงานตัว iPod ได้

ให้แน่ใจว่า ตัว iPod ของคุณได้ติดตั้งอยู่บนฐานแยก UP-A1 อย่างถูกต้อง

แนบแน่นดีแล้ว ถ้าตัว iPod ของคุณสวมอยู่ในปลอก อาจทำให้การเสียบใช้

งานกับฐานแยกได้ไม่แนบสนิท ให้ถอดปลอกออกก่อนทำการเสียบตัว iPod

เข้ากับจุดเชื่อมต่อบนตัวฐานแยกเสมอ

ตัว iPod จะไม่สามารถใช้งานได้ในขณะที่มีภาพโลโก้รูปแอ๊ปเปิ้ลปรากฏ

อยู่บนจอ

ให้แน่ใจว่า คุณได้ทำการปรับเลือกโหมดใช้งานของตัวรีโมทไว้ถูกต้องแล้ว

เมื่อใช้งานรีโมทของตัวเอวี รีซีฟเวอร์ ให้ชี้ตัวรีโมทไปที่ตัวเอวี รีซีฟเวอร์

เมื่อทำการต่อเชื่อมตัวฐานแยก UP-A1 เข้ากับตัวฐานแยกจูนเนอร์ UP-HT1

(เฉพาะเวอร์ชั่นที่จำหน่ายในทวีปอเมริกาเหนือ)/UP-DT1 (สำหรับเวอร์ชั่น

ที่จำหน่ายในทวีปเอเซีย) และทำการสับสวิทช์ของตัวฐานแยกจูนเนอร์ไปที๋

ตำแหน่ง AUTO จะทำให้คุณสามารถสวิทช์เลือกได้ระหว่างตัวฐานแยก

UP-A1 กับจูนเนอร์ ด้วยการกดปุ่ม PORT บนหน้าปัดเอวี รีซีฟเวอร์ซ้ำๆ

ถ้าคุณยังคงไม่สามารถควบคุมใช้งานตัว iPod ของคุณได้ ให้ลองกดปุ่ม

Play ของตัว iPod เพื่อให้ Ipod เริ่มเล่น อาจทำให้รีโมทใช้งานได้

ให้ทดลองปรับตั้งรีเซ็ตตัว iPod ใหม่

ขึ้นอยู่กับตัว iPod ของคุณซึ่งปุ่มบางปุ่มอาจจะไม่ทำงานอย่างที่คาด

Page 50: HT-S3300 Thai Version

50En

อ่ืนๆ

ตัวเอวี รีซีฟเวอร์ปรับเลือก Ipod เป็นอินพุตโดยไม่ตั้งใจ

ให้กดหยุดชั่วคราว (pause) ตัว iPod ไว้ก่อนที่จะทำการเปลี่ยนไปเลือก

อินพุตอื่นๆ เพราะถ้าไม่กดหยุดชั่วคราวไว้ ช่วงที่เพลงของ iPod มีการเปลี่ยน

แทรค อาจจะกระตุ้นให้ฟังท์ชั่น Direct Change ทำการเลือก iPod ขึ้นมา

เป็นอินพุตโดยไม่ตั้งใจได้

เสียงเปลี่ยนไปเมื่อคุณทำการต่อเชื่อมหูฟังเข้าไป

เมื่อหูฟังถูกเสียบใช้งานเข้าไปที่รูเสียบหูฟัง โหมดการฟังที่เลือกไว้เดิมจะ

ถูกเปลี่ยนไปเป็นโหมด Stereo โดยอัตโนมัติ ยกเว้นแต่ว่าคุณได้ทำการปรับ

เลือกโหมดการฟังไว้ที่ Stereo, Mono หรือโหมด Direct ก่อนแล้ว

ฉันจะเปลี่ยนภาษาพูดของแหล่งต้นทางที่บันทึกเป็นแบบหลายภาษาได้

อย่างไร

ใช้หัวข้อ “Multiplex” ที่อยู่ในเมนูหลัก “Audio Adjust” ในการปรับเปลี่ยน

ไปที่ ตำแหน่ง “Main” หรือ “Sub” (ดูที่หน้า 33)

ฟังท์ชั่น RI ไม่ทำงาน

ในการใช้ฟังท์ชั่น RI คุณต้องทำการต่อเชื่อมสายของระบบ RI กับสาย

สัญญาณอะนาลอก ออดิโอ (สาย RCA) ระหว่างตัวเอวี รีซีฟเวอร์กับอุปกรณ์

ตัวนั้นซะก่อน แม้ว่าระหว่างตัวเอวี รีซีฟเวอร์กับอุปกรณ์ตัวนั้นจะต่อเชื่อมกัน

ด้วยสายดิจิตัล ออดิโออยู่แล้วก็ตาม (ดูที่หน้า 18)

การปรับตั้งเหล่านี้สามารถทำได้กับช่อง คอมโพสิต วิดีโอ อินพุต

คุณต้องใช้ปุ่มกดบนตัวเอวี รีซีฟเวอร์ในการปรับตั้งเหล่านี้

1. ขณะกดปุ่ม “Input Selector” ตรงตำแหน่งของอุปกรณ์ต้นทางที่ต้องการ

ปรับตั้งค้างไว้นั้น ให้กดปุ่ม SETUP หนึ่งครั้ง

2. ใช้ปุ่มลูกศรซ้าย-ขวา / ในการเปลี่ยนแปลงการปรับตั้ง

3. กดปุ่มอินพุต ซีเล็กเตอร์เพื่อเลือกแหล่งอินพุตที่ต้องการจะปรับ

ตั้งหลังจากปรับตั้งเสร็จแล้ว

• ปรับตั้งเกนความแรงของสัญญาณวิดีโอ (Video Attenuation)

การปรับตั้งนี้สามารถทำได้สำหรับอินพุต BD/DVD, VCR/DVR, CBL/SAT,

GAME หรือ AUX

ถ้าคุณทำการต่อเชื่อมสัญญาณภาพจากเครื่องเล่นวิดีโอ เกมส์ทางช่องคอมโพสิต

วิดีโอ อินพุต และปรากฏว่าภาพที่ได้ออกมาไม่ดี ไม่มีความชัดเจน คุณสามารถ

ปรับแต่งเกนขยายของสัญญาณวิดีโอได้

Video ATT:OFF (ค่าเ้ริ่มต้นจากโรงงาน)

Video ATT:ON เกนอินพุตของสัญญาณวิดีโอจะถูกลดลงไป 2dB

ภายในตัวเอวี รีซีฟเวอร์จะมีไมโครคอมพิวเตอร์ที่ทำหน้าที่ในการประมวล

ผลสัญญาณและทำหน้าที่ในกากรควบคุมสั่งงานอยู่ในนั้น ในสถานะการณ์ที่มี

โอกาสเกิดขึ้นได้น้อยมากที่การรบกวนอย่างรุนแรง, สัญญาณรบกวนจาก

แหล่งต้นทางภายนอก หรือไฟฟ้าสถิตย์จะทำให้ไมโครโปรเซสเซอร์เหล่านี้

เกิดอาการล๊อคตัวเองค้างไว้ ไม่ตอบสนองต่อคำสั่งใดๆ ซึ่งหากเกิดเหตุนี้ขึ้น

ให้ปลดสายไฟเอซีของตัวเอวี รีซีฟเวอร์ออกจากปลั๊กบนผนังห้อง ปล่อยทิ้งไว้

อย่างนั้นอย่างน้อย 5 วินาที จากนั้นให้เสียบปลั๊กไฟเอซีกลับไปอีกครั้ง

Onkyo จะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหาย (อย่างเช่นค่าเช่าแผ่นซีดี) ที่เกิด

จากไม่สามารถทำการบันทึกได้อันเนื่องจากการทำงานที่ไม่สมบูรณ์ของ

เอวี รีซีฟเวอร์ตัวนี้ ก่อนที่คุณจะทำการบันทึกข้อมูลที่มีความสำคัญ ให้มั่นใจ

ว่าข้อมูลบนแผ่นสามารถบันทึกได้อย่างถูกต้อง

ก่อนจะทำการปลดปลั๊กไฟเอซีของตัวเอวี รีซีฟเวอร์ออกจากเต้ารับบนผนัง

ห้อง อย่าลืมปรับตั้งการทำงานของตัวเอวี รีซีฟเวอร์ตัวนี้ไปอยู่ในสถานะ

“เตรียมพร้อม” (Standby) ซะก่อน

Page 51: HT-S3300 Thai Version

51En

AV Receiver

สเปคฯ ทางเทคนิค (Specifications)

อัตรากำลังขับทางด้านเอ๊าต์พุต

� ทุกแชนเนลพร้อมกัน: (เวอร์ชั่นทวีปอเมริกาเหนือ)

อย่างต่ำ 110 วัตต์/แชนเนล แบบต่อเนื่อง, โหลดความต้านทาน

6โอม, โดยวัดที่ความถี่ 1kHz ด้วยอัตราความเพี้ยนฮาร์มอนิก

รวมสูงสุด (THD) อยู่ที่ 1% (เวอร์ชั่นอื่น)

1 ch x 100 W ที่ 6 โอห์ม, 1 kHz, ต่อหนึ่งแชนเนล (IEC)

� อัตรากำลังขับสูงสุด: มาตรฐาน Asian

1 แชนเนล x 120 วัตต์ที่ 6 โอม, 1kHz, ขับแค่แชนเนลเดียว

(JEITA)

� กำลังขับที่สวิงไปตามอิมพีแดนซ์ของโหลด:

160 วัตต์ (3 โอม, คู่หน้า)

125 วัตต์ (4 โอม, คู่หน้า)

85 วัตต์ (8 โอม, คู่หน้า)

� ความเพี้ยนฮาร์มอนิกรวม (THD):

0.08% (1kHz, 1 W)

� แด๊มปิ้ง แพ็คเตอร์: 60 (คู่หน้า, 1kHz, 8 โอม)

� ความไวของช่องอินพุต และความต้านทานของช่องอินพุต:

200 mV/47kโอม (LINE)

� ระดับความแรงของสัญญาณเอ๊าต์พุต และความต้านทานของ

ช่องเอ๊าต์พุต: 200 mV/470 โอม (ช่อง REC OUT)

� ความถี่ตอบสนอง: 20Hz-50kHz/+1 dB, -3 dB (DSP bypass)

� ปรับทุ้ม-แหลม: +/-10 dB, 50Hz (BASS)

+/-10 dB, 20kHz (TREBLE)

� อัตราส่วนของสัญญาณเสียงต่อสัญญาณรบกวน (S/N Ratio):

100 dB (LINE, IHF-A)

� โหลดความต้านทานของลำโพง: 6โอม – 16โอม

Video Section

� ความไวของช่องอินพุต/ความแรงของสัญญาณทางช่องเอ๊าต์พุต

และความต้านทานของช่องเอ๊าต์พุต:

1 Vp-p/75 โอม (Component Y)

0.7 Vp-p/75 โอม (Component Pb/Cb, Pr/Cr)

1 Vp-p/75 โอม (Composite)

� การตอบสนองความถี่ของสัญญาณคอมโพเน้นต์ วิดีโอ:

5Hz-50MHz, -3 dB

Tuner Section

� ช่วงปรับคลื่นวิทยุ FM:

(North American) 87.5MHz-107.9MHz

(Others) 87.5MHz-108.0MHz

� ช่วงปรับคลื่นวิทยุ AM:

522/530 kHz – 1611/1710 kHz

� บันทึกสถานีล่วงหน้า: 40

Amplifier Section General

ไฟเอซี: (North American) AC 120 V, 60Hz

(Others) AC 220-240 V, 50/60Hz

อัตราบริโภคไฟฟ้า: (North American) 3.6 A

(Others) 390 W

อัตราบริโภคไฟฟ้าในโหมดสแตนด์บาย:

(North American) 0.2 W

(Others) 0.3 W

ขนาดสัดส่วนของตัวเครื่อง (W x H x D):

435 x 151.5 x 328.5 mm

17-1/8” x 5-15/16” x 12-15/16”

น้ำหนัก: 8.0 kg (17.6 lbs.)

HDMI

Input: IN 1, IN 2, IN 3

Output: OUT

Video Resolution: 1080p

Audio Format: Dolby TruHD, DTS-HD Master Audio,

DVD-Audio, DSD

รองรับฟังท์ชั่น: 3D, Audio Return Channel, Deep Color,

x.v.Color, lipSync, CEC

Video Inputs

Component: IN 1, IN 2

Composite: BD/DVD, VCR/DVR, CBL/SAT, GAME

Video Outputs

Component: OUT

Composite: MONITOR OUT, VCR/DVR OUT

Audio Inputs

Digital: Optical :2

Coaxial :1

Analog: BD/DVD, VCR/DVR, CBL/SAT, GAME,

TV/CD, AUX

Audio Outputs

Analog: VCR/DVR

Speaker outputs: SP-A (L, R), C, SL, SR+ SP-B (L, R), SW

Phones 1 (6.3 โอม)

Others

Universal Port: 1

RI: 1

หมายเหตุ:

รายละเอียดในสเปคฯ เหล่านี้สามารถเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

Page 52: HT-S3300 Thai Version

52En

ชุดลำโพงโฮมเธียเตอร์ 5.1 แชนนอล

พาสซีฟ ซับวูฟเฟอร์ (SKW-380)

ประเภท: ตู้เปิด, ไม่มีภาคขยายในตัว

ความต้านทาน: 6 โอม

รับกำลังอินพุตได้สูงสุด: 130 W

แรงดันอากาศขาออก: 83 dB/W/m

ตอบสนองความถี่: 30Hz-150Hz

ปริมาตรของตัวตู้: 0.88 ลูกบาศฟุต (25 L)

ขนาดสัดส่วนตัวตู้ (WxHxD): 11-5/8” x 13-9/16” x 14-1/2”

(295 x 345 x 368 mm)

น้ำหนัก: 15.2 lbs. (6.9 kg)

ตัวขับเสียง: ทรงกรวย/เส้นผ่าศูนย์กลาง 8” (20 cm)

ขั้วต่อ: สปริงหนีบ/มีโค๊ดสีกำกับ

คู่หน้า (SKF-380)

ประเภท: ฟูลเร้นจ์, ตู้เปิด

ความต้านทาน: 6 โอม

รับกำลังอินพุตได้สูงสุด: 120 W

แรงดันอากาศขาออก: 82 dB/W/m

ตอบสนองความถี่: 80Hz-20kHz

ปริมาตรของตัวตู้: 0.064 ลูกบาศฟุต (1.8 L)

ขนาดสัดส่วนตัวตู้ (WxHxD): 4” x 10-3/4” x 4-3/4”

(101 x 273 x 121 mm)

น้ำหนัก: 2.2 lbs. (1.0 kg)

ตัวขับเสียง: ทรงกรวย/เส้นผ่าศูนย์กลาง 3-1/4” (8 cm)

ขั้วต่อ: สปริงหนีบ/มีโค๊ดสีกำกับ

รูคล้องด้านหลังสำหรับยึดลำโพง: 2

หน้ากาก: ถอดไม่ได้

อื่นๆ: ป้องกันสนามแม่เหล็กแพร่กระจายออกมาภายนอก

เซ็นเตอร์ (SKC-380)(อเมริกาเหนือ)

ประเภท: ฟูลเร้นจ์, ตู้เปิด

ความต้านทาน: 6 โอม

รับกำลังอินพุตได้สูงสุด: 120 W

แรงดันอากาศขาออก: 82 dB/W/m

ตอบสนองความถี่: 80Hz-20kHz

ปริมาตรของตัวตู้: 0.064 ลูกบาศฟุต (1.8 L)

ขนาดสัดส่วนตัวตู้ (WxHxD): 10-3/4” x 4 x 4-3/16”

(273 x 101 x 106 mm)

น้ำหนัก: 2.2 lbs. (1.0 kg)

ตัวขับเสียง: ทรงกรวย/เส้นผ่าศูนย์กลาง 3-1/4” (8 cm)

ขั้วต่อ: สปริงหนีบ/มีโค๊ดสีกำกับ

รูคล้องด้านหลังสำหรับยึดลำโพง: 2

หน้ากาก: ถอดไม่ได้

อื่นๆ: ป้องกันสนามแม่เหล็กแพร่กระจายออกมาภายนอก

เซ็นเตอร์ (SKC-380C)(เอเซีย)

ประเภท: ฟูลเร้นจ์, ตู้เปิด

ความต้านทาน: 6 โอม

รับกำลังอินพุตได้สูงสุด: 120 W

แรงดันอากาศขาออก: 85 dB/W/m

ตอบสนองความถี่: 80Hz-20kHz

ปริมาตรของตัวตู้: 0.064 ลูกบาศฟุต (1.8 L)

ขนาดสัดส่วนตัวตู้ (WxHxD): 10-3/4” x 4 x 4-3/16”

(273 x 101 x 106 mm)

น้ำหนัก: 3.1 lbs. (1.4 kg)

ตัวขับเสียง: ทรงกรวย/เส้นผ่าศูนย์กลาง 3-1/4” (8 cm) x 2

ขั้วต่อ: สปริงหนีบ/มีโค๊ดสีกำกับ

รูคล้องด้านหลังสำหรับยึดลำโพง: 2

หน้ากาก: ถอดไม่ได้

อื่นๆ: ป้องกันสนามแม่เหล็กแพร่กระจายออกมาภายนอก

เซอร์ราวนด์ (SKR-380)

ประเภท: ฟูลเร้นจ์, ตู้เปิด

ความต้านทาน: 6 โอม

รับกำลังอินพุตได้สูงสุด: 120 W

แรงดันอากาศขาออก (ความไว): 81 dB/W/m

ตอบสนองความถี่: 80Hz-20kHz

ปริมาตรของตัวตู้: 0.039 ลูกบาศฟุต (1.1 L)

ขนาดสัดส่วนตัวตู้ (WxHxD): 4” x 6-7/8” x 4-9/16”

(101 x 175 x 116 mm)

น้ำหนัก: 1.5 lbs. (0.7 kg)

ตัวขับเสียง: ทรงกรวย/เส้นผ่าศูนย์กลาง 3-1/4” (8 cm)

ขั้วต่อ: สปริงหนีบ/มีโค๊ดสีกำกับ

รูคล้องด้านหลังสำหรับยึดลำโพง: 1

หน้ากาก: ถอดไม่ได้

หมายเหตุ:

รายละเอียดในสเปคฯ เหล่านี้สามารถเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

Page 53: HT-S3300 Thai Version

53En

หมายเหตุ

เกี่ยวกับ HDMI

ออกแบบมาเพื่อตอบสนองกับปริมาณความต้องการดิจิตัล ทีวีที่พุ่งขึ้นอย่างล้นหลาม HDMI (High Definition Multimedia Interface) คือระบบการเชื่อมต่อ

สัญญาณมาตรฐานใหม่สำหรับใช้เชื่อมต่อทีวี, โปรเจ็กเตอร์, เครื่องเล่นบลู-เรย์ฯ/ดีวีดี, กล่องรับสัญญาณ (set-top box) รวมถึงอุปกรณ์ AV อื่นๆ สมัยก่อน

จำเป็นต้องใช้สายสัญญาณจำนวนหลายเส้นในการต่อเชื่อมทั้งสัญญาณภาพ และสัญญาณเสียงเข้ากับทีวี จนมาถึง HDMI ซึ่งเป็นสายต่อเชื่อมสัญญาณที่ใช้สายเพียง

แค่เส้นเดียวในการถ่ายทอดทั้งสัญญาณภาพดิจิตัล วิดีโอ, สัญญาณเสียงดิจิตัล ออดิโอได้มากถึง 8 แชนเนลพร้อมกัน (2-แชนเนล พีซีเอ็ม, มัลติืแชนเนล ดิจิตัล

ออดิโอ หรือมัลติแชนเนล PCM) รวมถึงสัญญาณอื่นที่อยู่ในรูปของสัญญาณข้อมูลต่างๆ ด้วย

กระแสข้อมูลสัญญาณดิจิตัล วิดีโอที่วิ่งผ่าน HDMI จะสามารถใช้งานร่วมกับ DVI (Digital Visual Interface)*1 ด้วย ดังนั้น ทีวี หรือ มอนิเตอร์ คอมพิวเตอร์บาง

รุ่นที่มีขั้วต่ออินพุต DVI ก็สามารถต่อเชื่อมกับอุปกรณ์ AV ที่ใช้ขั้วต่อสัญญาณ HDMI ได้ผ่านทางอะแด๊ปเตอร์ HDMI-to-DVI แต่ก็เป็นไปได้ที่บางเครื่องอาจจะ

ใช้ไม่ได้ ซึ่งผลก็คือจะไม่มีภาพออกไปปรากฏที่จอ

เอวี รีซีฟเวอร์ตัวนี้มีวงจร HDCP (High-banwidth Digital Content Protection)*2 ดังนั้น เฉพาะอุปกรณ์ AV ที่มาต่อเชื่อมที่มีวงจร HDCP เท่านั้นที่จะสามารถ

ถ่ายทอดสัญญาณภาพซึ่งกันและกันได้

เวอร์ชั่นของช่อง HDMI ของเอวี รีซีฟเวอร์ตัวนี้มีฟังท์ชั่นพิเศษดังนี้:

Audio Return Channel, 3D, x.v.Color, Lip Sync, DTS-HD Master Audio, DTS-HD High Resolution Audio, Dolby TrueHD, Dolby Digital Plus,

DSD และระบบเสียง Multichannel PCM

รูปแบบของระบบเสียงที่รองรับ

� Linear PCM 2 ch. (32-192kHz, 16-20-24bit)

� Multichannel linear PCM (มากถึง 7.1 ch., 32-192kHz, 16-20-24 bit)

� Bitstream (DSD, Dolby Digital Plus, Dolby TrueHD, DTS, DTS-HD High Resolution Audio, DTS-HD Master Audio)

เครื่องเล่นบลู-เรย์ฯ/เครื่องเล่นดีวีดี ของคุณจะต้องรองรับ HDMI ที่ให้เอ๊าต์พุตรุปแบบสัญญาณออดิโอข้างต้นด้วย

เกี่ยวกับการป้องกันการก๊อปปี้

เอวี รีซีฟเวอร์ตัวนี้รองรับมาตรฐานของเทคโนโลยี่การป้องกันการก๊อปปี้สัญญาณดิจิตัล วิดีโอที่ชื่อว่า HDCP (High-banwidth Digital Content Protection)

*2 ซึ่งก็หมายความว่า อุปกรณ์ AV ตัวอื่นที่จะนำมาใช้ต่อเชื่อมกับเอวี รีซีฟเวอร์ตัวนี้จะต้องรองรับ HDCP ด้วย

*1 DVI (Digital Visual Interface): มาตรฐานของระบบเชื่อมต่อของจอภาพดิจิตัลที่ต้ังขึ้นโดย DDWG*3

*2 HDCP (High-bandwith Digital Content Protection): เทคโนโลยี่การเข้ารหัสเพื่อป้องกันการก๊อปปี้สัญญาณภาพวิดีโอ สำหรับ HDMI/DVI พัฒนาโดยบริษัท

Intel ซึ่งอุปกรณ์ที่จะนำมาต่อเชื่อมเพื่อแสดงภาพวิดีโอผ่านระบบเชื่อมต่อ HDMI จะต้องมี HDCP ทุกตัว

*3 DDWG (Digital Display Working Group): นำโดย Intel, Compaq, Fujitsu, Hewlett Packard, IBM, NEC และ Silicon Image ช่วยกันระดมความต้องการ

เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการกำหนดสเปคฯ เพื่อออกแบบมาตรฐานการเชื่อมต่อสัญญาณดิจิตัลสำหรับ PC และจอภาพดิจิตัล

� กระแสข้อมูลสัญญาณวิดีโอของ HDMI จะเข้ากันได้กับ DVI (Digital Visual Interface) ดังนั้น ทีวีกับจอภาพที่มีขั้วต่ออินพุต DVI สามารถต่อเชื่อมกันได้โดย

อาศัยสายอะแด๊ปเตอร์ HDMI-to-DVI เป็นตัวเชื่อม (หมายเหตุ: การเชื่อมต่อด้วย DVI จะส่งผ่านเฉพาะสัญญาณวิดีโอเท่านั้น ดังนั้น คุณต้องทำการต่อเชื่อม

สัญญาณออดิโอแยกออกมาอีกชุดหนึ่งด้วย) อย่างไรก็ดี ความเสถียรในการทำงานของการใช้ตัวอะแด๊ปเตอร์อาจจะไม่คงที่ตลอด ยิ่งไปกว่านั้น สัญญาณวิดีโอจาก

PC จะไม่สามารถส่งผ่านได้

� สัญญาณออดิโอทางช่อง HDMI (ค่าแซมปลิ้งเรต, อัตราบิตเล้นจ์, ฯลฯ) อาจถูกจำกัดโดยอุปกรณ์ที่มาต่อเชื่อมด้วย ถ้าคุณภาพของภาพออกมาไม่ดี หรือไม่มีเสียง

ออกมาจากอุปกรณ์ที่ต่อเชื่อมผ่าน HDMI ให้ตรวจสอบการปรับตั้ง ตรวจสอบรายละเอียดการต่อเชื่อมอุปกรณ์จากคู่มือของอุปกรณ์นั้นๆ

Page 54: HT-S3300 Thai Version

54En

หมายเหตุ

Using an RIHD-compatible TV, Player, หรือ Recorder

RIHD ย่อมาจากคำว่า Remote Interactive over HDMI ซึ่งเป็นชื่อของระบบฟังท์ชั่นควบคุมการสั่งงานที่พบอยู่ในอุปกรณ์ของ Onkyo ตัวเอวี รีซีฟเวอร์สามารถ

รองรับการใช้งานกับฟังท์ชั่น CEC (Consumer Electronics Control) ได้ ซึ่งทำให้สามารถควบคุมการสั่งงานระบบผ่านทางเครือข่าย HDMI ได้และถือว่าเป็นส่วน

หนึ่งของมาตรฐาน HDMI ด้วย CEC จะช่วยทำให้การควบคุมสั่งงานระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ ในซิสเต็มสามารถกระทำได้ อย่างไรก็ดี การสั่งงานอุปกรณ์อื่นที่ไม่รองรับ

RIHD อาจจะไม่สามารถทำได้

เกี่ยวกับอุปกรณ์ที่รองรับระบบ RIHD

อุปกรณ์เหล่านี้รองรับระบบ RIHD (นับถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2010)

ให้ดูข้อมูลล่าสุดได้ที่เว็บไซต์ของ Onkyo

ทีวี

� Panasonic VIERA Link รุ่นที่รองรับ RIHD

� Toshiba REGZA-LINK รุ่นที่รองรับ RIHD

� Sharp TV (ดูข้อมูลรุ่นที่รองรับได้จากเว็บไซต์ของ Onkyo)

เครื่องเล่น/บันทึก

� Onkyo กับยี่ห้อ Integra รุ่นที่รองรับ RIHD

� Panasonic VIERA Link รุ่นที่รองรับ RIHD (และจะใช้ได้เฉพาะเมื่อใช้

ร่วมกับทีวีของ Panasonic VIERA Link ที่รองรับระบบ RIHD)

� Toshiba REGZA-LINK รุ่นที่รองรับ RIHD (และจะใช้ได้เฉพาะเมื่อใช้

ร่วมกับทีวีของ Toshiba REGZA-LINK ที่รองรับระบบ RIHD)

� Sharp (และจะใช้ได้เฉพาะเมื่อใช้ร่วมกับทีวีของ Sharp เท่านั้น)

* รุ่นที่นอกเหนือไปจากที่ระบุไว้นี้อาจจะสามารถควบคุมสั่งงานร่วมกันได้ ถ้ามี

คุณสมบัติที่รองรับฟังท์ชั่น CEC ตามมาตรฐานของ HDMI แต่จะไม่รับรอง

ผลในการใช้งาน

� ห้ามต่อเชื่อมอุปกรณ์ที่รองรับระบบ RIHD มากกว่าจำนวนอินพุตของ HDMI

ซึ่งการสั่งงานในเครือข่ายจึงจะสามารถทำงานได้ผลดี

- เครื่องเล่นบลู-เรย์ฯ/เครื่องเล่นดีวีดีได้ถึง 3 ตัว

- เครื่องบันทึกบลู-เรย์ฯ/เครื่องบันทึกดีวีดี/DVR ได้ถึง 3 ตัว

- กล่องรับสัญญาณจากดาวเทียม ได้ถึง 4 ตัว

� ห้ามต่อเชื่อมเอวี รีซีฟเวอร์ตัวนี้เข้ากับเอวี รีซีฟเวอร์ตัวอื่นผ่าน HDMI

� ถ้ามีการต่อเชื่อมอุปกรณ์ที่รองรับ RIHD มากกว่าจำนวนที่ระบุข้างต้น

จะไม่รับรองการทำงานของระบบ

ความสามารถในการใช้งานเมื่อต่อเชื่อมด้วยระบบ RIHD

สำหรับทีวีที่รองรับ RIHD

เครือข่ายการควบคุมสั่งงานเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ ด้วยการต่อเชื่อมตัว

เอวีรีซีฟเวอร์เข้ากับทีวีที่รองรับ RIHD

� ตัวเอวี รีซีฟเวอร์จะเข้าสู่โหมดสแตนด์บายเมื่อทีวีเปลี่ยนจากโหมดเปิด

“On” เข้าสู่โหมดสแตนด์บาย

� คุณสามารถปรับตั้งด้วยเมนูสั่งงานของตัวทีวีเพื่อเลือกให้สัญญาณเสียง

ออกทางลำโพงของชุดเอวี รีซีฟเวอร์ หรือจะให้ไปออกที่ลำโพงของตัวทีวีเอง

� เป็นไปได้ที่จะปล่อยสัญญาณภาพและเสียงจากเสาอากาศทีวี หรือจากช่อง

อินพุตของทีวี จากลำโพงที่ที่ต่อจากเอวี รีซีฟเวอร์ (การต่อเชื่อมสัญญาณดิจิตัล

อย่างเช่น Optical หรือ ที่คล้ายคลึงกัน นอกเหนือจาก HDMI)

� อินพุตที่จะส่งไปเข้าที่เอวี รีซีฟเวอร์สามารถเลือกได้ด้วยรีโมท คอนโทรลของทีวี

� การสั่งงานบางอย่าง อาทิ การปรับตั้งระดับเสียง หรืออะไรที่คล้ายคลึงกันสำหรับ

ตัวเอวี รีซีฟเวอร์สามารถสั่งงานด้วยตัวรีโมท คอนโทรลของทีวีได้

สำหรับเครื่องเล่น/บันทึกที่รองรับ RIHD

เครือข่ายการควบคุมสั่งงานเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ ด้วยการต่อเชื่อมตัวเอวี รีซีฟเวอร์

เข้ากับเครื่องเล่น/บันทึกที่รองรับ RIHD

� เมื่อเครื่องเล่น/บันทึกเริ่มเล่น ที่อินพุตของตัวเอวี รีซีฟเวอร์จะสวิทช์ไปที่อินพุต

HDMI ที่ตัวเครื่องเล่น/บันทึกนั้นต่อเชื่อมอยู่

� การสั่งงานเครื่องเล่น/บันทึกสามารถทำได้โดยใช้รีโมท คอนโทรลของตัว

เอวีรีซีฟเวอร์

* อาจจะไม่ทั้งหมดของฟังท์ชั่นที่สามารถสั่งงานได้ ขึ้นอยู่กับรุ่นด้วย

Page 55: HT-S3300 Thai Version

55En

1

หมายเหตุ

หมายเหตุ

2

Blu-ray Disc/DVD player, etc.

AV receiver

TV, projector, etc.

DIGITAL AUDIO connection (OPTICAL)

HDMI connection

HDMI connection

3

หมายเหตุ

4หมายเหตุ

วิธีต่อเชื่อมและปรับตั้ง

ยืนยันการเชื่อมต่อและการปรับตั้ง

1 ต่อเชื่อมช่อง HDMI OUT ของตัวเครื่องเล่น/บันทึกเข้ากับช่อง

อินพุต HDMI ของตัวทีวี

2 ต่อเชื่อมสัญญาณเสียงขาออกจากทีวีไปที่ช่อง OPTICAL IN 2

ของเอวี รีซีฟเวอร์โดยใช้สายอ๊อปติคัล ดิจิตัล

มื่อฟังท์ชั่น Audio Return Channel (ARC) ถูกใช้กับทีวีสำหรับ

HDMI เวอร์ชั่น 1.4 จะไม่สามารถต่อเชื่อมแบบนี้ได้ ( 36)

3 ต่อเชื่อมช่องเอ๊าต์พุต HDMI ของเครื่องเล่นบลู-เรย์ฯ/

เครื่องเล่นดีวีดี ไปที่ช่อง HDMI IN 1 ของตัวเอวี รีซีฟเวอร์

เป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องกำหนดช่องอินพุต HDMI เมื่อต่อเชื่อม

เครื่องเล่น/บันทึก บลู-เรย์ฯ/เครื่องเล่น/บันทึก ดีวีดี เข้ากับช่อ

งอินพุตอื่น ( 31) ในขณะเดียวกัน ห้ามกำหนดอุปกรณ์ที่ต่อ

เชื่อมอยู่ที่ช่อง HDMI IN เข้ากับช่องอินพุต TV/CD และไม่รับรอง

ผลการทำงานของฟังท์ชั่น CEC (Consumer Electronic Control)

หัวข้อเมนูย่อยแต่ละข้อในเมนู “HDMI Setup” จะถูกเปลี่ยนไปดังนี้:

� HDMI Control (RIHD): On

� Audio Return Ch (ARC): Auto

� Power Control: On

� TV Control: On

ดูรายละเอียดการปรับตั้งแต่ละแบบได้ที่หน้า ( 36, 37)

ยืนยันการปรับตั้ง

1 กดปุ่มเปิดเครื่องอุปกรณ์ทุกชิ้นที่ต่อเชื่อมอยู่ด้วยกันทั้งหมด

2 กดปุ่มปิดทีวี เพื่อตรวจเช็คให้มั่นใจว่าอุปกรณ์ทุกชิ้นที่ต่อเชื่อม

อยู่กับทีวีในเครือข่ายเดียวกันถูกโยงเข้าสู่โหมด “Off” โดย

อัตโนมัติ

3 กดปุ่มเปิดเครื่องเล่น/บันทึก บลู-เรย์ฯ/ดีวีดี

4 เริ่มต้นเล่นเครื่องเล่น/บันทึก บลู-เรย์ฯ/ดีวีดี และยืนยันสิ่งที่

เกิดขึ้นต่อไปนี้:

� เอวี รีซีฟเวอร์ถูกเปิด “On” ขึ้นมาโดยอันโนมัติ และ

อินพุตที่ต่อเชื่อมอยู่กับเครื่องเล่น/บันทึก บลู-เรย์ฯ/

ดีวีดีถูกเลือกขึ้นมา

� ทีวีถูกเปิด “On” ขึ้นมาโดยอัตโนมัติ และอินพุตที่ต่อ

เชื่อมกับเอวี รีซีฟเวอร์ถูกเลือกขึ้นมา

5 ปฏิบัติตามขั้นตอนการสั่งงานของทีวีโดยเลือกไปที่หัวข้อ

“Use the TV speakers” จากหัวข้อเมนูของทีวี และยืนยันว่าสัญญาณ

เสียงไปออกที่ลำโพงของทีวี ไม่ใช่ไปออกที่ชุดลำโพงที่ต่อเชื่อมอยู่กับ

เอวีรีซีฟเวอร์

6 เลือก “Use the speakers connected from the AV receiver” จาก

เมนูของทีวี และยืนยันว่าสัญญาณเสียงไปออกที่ชุดลำโพงที่ต่อเชื่อม

อยู่กับเอวี รีซีฟเวอร์ ไม่ใช่ลำโพงของตัวทีวี

� ให้ปฏิบัติตามขั้นตอนสั่งงานข้างต้นเมื่อคุณเริ่มใช้งานตัวเอวีรีซีฟเวอร์

ครั้งแรกในสถานะการณ์เหล่านี้ - เมื่อการปรับตั้งสำหรับอุปกรณ์

แต่ละชิ้นถูกเปลี่ยนแปลงไป หรือเมื่อปุ่มเมนพาวเวอร์ของอุปกรณ์

แต่ละชิ้นถูกปิด (Off) หรือเมื่อสายไฟเอซีถูกถอดออก หรือเมื่อ

เกิดไฟฟ้าดับ

การสั่งงานด้วยรีโมท คอนโทรล สำหรับปุ่มที่สามารถสั่งงานได้ ( 44)

� สัญญาณเสียงของ DVD-Audio หรือ Super Audio CD (SACD)

อาจไม่ถูกส่งออกมาทางลำโพงของทีวี คุณจะสามารถส่งสัญญาณเสียง

ออกจากลำโพงของทีวีได้ด้วยการปรับตั้ง audio output ของเครื่องเล่น

ดีวีดีไปที่ 2ch PCM (แต่ก็อาจจะทำไม่ได้ ขึ้นอยู่กับรุ่นของเครื่อง

เล่นด้วย)

� แม้ว่าคุณจะปรับตั้งเอ๊าต์พุตของสัญญาณเสียงไปออกที่ลำโพงของทีวี

แต่สัญญาณออดิโอก็อาจจะเล็ดลอดไปออกที่ลำโพงของเอวี รีซีฟเวอร์

ได้เมื่อคุณปรับตั้งระดับเสียง หรือปรับเปลี่ยนอินพุตของตัวเอวีรีซีฟเวอร์

ถ้าต้องการให้สัญญาณเสียงไปออกที่ลำโพงของทีวีอย่างเดียว ให้ทำการ

ปรับตั้งที่ตัวทีวีใหม่

� อย่าต่อเชื่อมสาย RI เมื่อทำการเชื่อมต่อกับระบบ RI และอุปกรณ์ที่

รองรับการควบคุมสัญญาณออดิโอผ่าน RI

� เมื่อคุณทำการเลือกอินพุตใดๆ ที่นอกเหนือไปจาก HDMI ในขณะที่ตัว

เอวี รีซีฟเวอร์ถูกต่อเชื่อมเป็นอินพุตของตัวทีวี อินพุต ซีเล็กเตอร์บนตัว

เอวีรีซีฟเวอร์จะถูกสวิทช์ไปที่ตำแหน่ง “TV/CD”

� ตัวเอวี รีซีฟเวอร์จะเปิด “On” ตัวเองขึ้นมาอัตโนมัติร่วมไปกับการกำหนด

ที่จำเป็น แม้ว่าตัวเอวี รีซีฟเวอร์ถูกต่อเชื่อมอยู่กับทีวี หรือเครื่องเล่น/บันทึก

ที่รองรับระบบ RIHD มันก็จะไม่เปิด “On” ขึ้นมาถ้าไม่จำเป็น มันจะไม่เปิด

“On” ขึ้นมาพร้อมกัน เมื่อทีวีถูกปรับตั้งให้ปล่อยสัญญาณเสียงจากทีวี

� ฟังท์ชั่นที่ลิ้งค์กับเอวี รีซีฟเวอร์อาจไม่ทำงาน ขึ้นอยู่กับรุ่น ในกรณีนี้ ให้ทำ

การควบคุมสั่งงานที่ตัวเอวี รีซีฟเวอร์โดยตรง