C-MORE MAGAZINE

44
84728939729 first step on October 80 บาท

description

all about movie - first step on October 2011

Transcript of C-MORE MAGAZINE

Page 1: C-MORE MAGAZINE

8 4728939729

first step on October

80 บาท

Page 2: C-MORE MAGAZINE
Page 3: C-MORE MAGAZINE
Page 4: C-MORE MAGAZINE

EDITOR TALKในฉบับนี้เราจะมาเจาะประเด็นเกี่ยวกับเรื่อง

ราวของTHE TWILIGHT SAGA BREAKING

DAWN PART1 ซึ่งเป็นครึ่่งแรกในตอนจบของ

หนังและหนังสือชุดนี้ และได้เปิดตัวตัวอย่าง

หนังไปแล้วในงานMTV Movie Awards 2011ที่

ผ่านมา Breaking Dawn ถือเป็นการส่งต่อภาค

ที่บ้าคลั่งที่สุดในนิยายวัยหนุ่มสาวของ สเตฟีนี่ เมเยอร์ ที่ทำาให้สมบูรณ์ด้วยการมีเซ็กซ์ฉลองฮันนีมูนอย่างเร่าร้อนแบบบราซิล การตั้งครรภ์อันน่าสะ

พรึงกลัว และภัยคุกคามของการฆาตกรรมแวมไพร์หมู่ระดับเดียวกับระเบิดนิวเคลียร์ถล่ม แฟนๆ หลายคน

สนใจว่าเรื่องราวจะต้องถูกสร้างขึ้นสู่จอเงินโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง และ จุดแบ่งภาคระหว่าง The Twilight

Saga: Breaking Dawn - Part 1 และ The Twilight Saga: Breaking Dawn - Part 2 จะอยู่ตรงไหนแน่ นอกจาก

นี้แล้วภาพจากหนังที่ถูกปล่อยออกมาแต่ละภาพก็เป็นประเด็นร้อนแรงไม่แพ้กัน แต่จะเป็นอย่างไรนั้น

ติดตามต่อได้ที่สกู๊ปประจำาเล่มนี้

BY : อุษา แพร่จรรยา E-mail : [email protected]

Page 5: C-MORE MAGAZINE
Page 6: C-MORE MAGAZINE

เจ้าของบริษัท ซีมอร์ จำากัด

บรรณาธิการเล่มอุษา แพร่จรรยา

ผู้ช่วยบรรณาธิการวณิชยา แพร่จรรยา

พิสูจน์อักษรภาคภูมิ จิระทรัพย์อนันต์

บรรณาธิการศิลปกรรม/ศิลปกรรมวิลาสินี สมรรถการ

บรรณาธิการฝ่ายโฆษณาอรุณี เลิศพนานนท์

ฝ่ายบัญชีพาฝัน พิไรแสงจันทร์

CONTRIBUTEIM

PRIN

T

นักเขียนรับเชิญคอลัมน์ C-PLOT - อิสระลายเสือ

ผู้แปลบทความธนัชชา นวลแพ่ง

ผู้ร่วมแต่งหัสยา แสวงดี

อคิราภ์ ไกรนราภาสกร สายถุงแก้ว

ติดต่ออีเมล์ : [email protected]

0871117603

Page 7: C-MORE MAGAZINE
Page 8: C-MORE MAGAZINE

CONTENT

C-SLOW Aura of serenity 8 Suthamon Settaapithan

C-PLOT คำาสอนของพ่อ 16 อิสระ ลายเสือ

C-SLATE “Bill Condon” 20 ผู้กำากับ Twilight saga : Breaking dawn

Page 9: C-MORE MAGAZINE

C-TIME “Twilight saga : 26 Breaking dawn”

C-TREND หนังเก่าน่าดู 33

C-TRUE Horoscope 36

Page 10: C-MORE MAGAZINE

SLOWAURA OF SERENIT

VAMPIREY

Page 11: C-MORE MAGAZINE
Page 12: C-MORE MAGAZINE
Page 13: C-MORE MAGAZINE
Page 14: C-MORE MAGAZINE
Page 15: C-MORE MAGAZINE
Page 16: C-MORE MAGAZINE
Page 17: C-MORE MAGAZINE

Model - Suthamon SettaapithanPhotographer - Usa Phraechanya

Place - Srinakharinwirot University

Page 18: C-MORE MAGAZINE

PLOT ‘มองที่กําแพงแล้วลองบอกพ่อซิว่าเห็นอะไรบ้าง’ พ่อถามหลังจากพาผมมายืนเกือบชิด กําแพงวัด โดยหันหน้าเข้าหากําแพง ‘เห็นแต่กําแพงครับ’ ผมตอบไปตามจริง ‘คราวนี้ ลองดูที่กําแพงอีกทีซิว่าเห็นอะไรบ้าง’ พ่อถามอีกครั้ง หลังจากจูงมือผมมาหยุดยืนห่างจากกําแพงเดิมประมาณสิบเมตร ‘เห็นกําแพง ขอบกําแพงด้านบนมุม กําแพงสองข้างครับ’ ผมบอกถึงสิ่งที่เห็นเกี่ยวกับกําแพง เพราะพ่อบอกให้ดูที่กําแพง ‘ถ้าอยู่ใกล้กําแพงเกินไป เราจะเห็นแต่กําแพงที่ขวางหน้า เจอแต่ทางตัน แต่ถ้าเราถอยห่างออกมาให้พอเหมาะ มุมมองจะกว้างขึ้นเราจะเห็นขอบกําแพงแต่ละด้าน ทางที่เห็นว่าตัน จะไม่ตันอีกต่อไป ขึ้นอยู่กับเราว่าจะปีนข้าม หรือเดินเลาะกําแพงออกไปจะซ้ายหรือขวาแล้วแต่เราเลือก...’ พ่อหยุดพูดนิดหนึ่ง เหมือนเจตนารอให้ผมคิดตามได้ทัน ‘กําแพงก็เหมือนกับปัญหาที่เรากําลังเผชิญอยู่ ถ้าขลุกอยู่กับมันมากเกินไป จะเห็นแต่ปัญหา มีแต่ทางตัน ออกมาตั้งสติให้ห่างจากปัญหาสักหน่อย แล้วเราจะเห็นทางออกเอง’ ทุกครั้งที่มีปัญหา ภาพของพ่อที่กําลังสอนผมในวัยเด็กจะผุดขึ้นมาในหัว เพื่อเตือนสติผมอยู่เสมอ พ่อเรียนจบแค่ระดับชั้นประถม แต่พ่อเป็นนักอ่าน และนักฟังที่ดี พ่อบอกว่าความรู้หาได้จากทุกที่ ถ้ารู้จักไขว่คว้าหามัน ผมเห็นการไขว่คว้าของพ่อตั้งแต่เด็ก ทุกเช้าพ่อจะชอบไปนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ที่ร้านกาแฟหน้าหมู่บ้าน ถกปัญหาสารพัดกับเพื่อนๆในร้าน แรกๆผมเคยตามพ่อไปด้วย แต่หลังๆผมเริ่มเบื่อเรื่องที่ผู้ใหญ่พูดคุยกัน เพราะฟังไม่ค่อยเข้าใจ เรื่องที่คุยก็น่าเบื่อไม่เห็นสนุกตรงไหน ผมเลยไม่คิดจะตามไปอีก พ่อติดตามข่าวสารต่างๆผ่านหน้าจอโทรทัศน์ไม่เคยขาด พ่อว่าเราควรต้องรู้ว่าโลกเราไปถึงไหนกันแล้ว บ้านเมืองเป็นอย่างไร มีอะไรเกิดขึ้นในสังคมเราบ้าง ผมยังเด็กเกินกว่าจะเข้าใจในสิ่งที่พ่อพูดทั้งหมด แต่ผมไม่เคยเถียงเพราะไม่รู้จะเถียงว่าอะไร ผมฟังในสิ่งที่พ่อพูด ผมคิดในสิ่งที่พ่อสอนเท่าที่ สมองน้อยๆในตอนนั้นจะคิดได้ แต่ตอนนี้สมองของผมใหญ่ขึ้นรอยหยักเพิ่มมากขึ้น ผมเริ่มเข้าใจคําสอนของพ่อที่พร่ําสอน เมื่อครั้งที่ผมยังเยาว์วัย หากไม่เจอปัญหาผมคงไม่คิดถึงคําสอนของพ่อ เสียงโทรศัพท์มือถือปลุกผมให้ออกจากภวังค์ หน้าจอโทรศัพท์แสดงหมายเลขที่ทําให้ผมต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่ เพราะเป็นเบอร์ที่ผมคุ้นเคย วันนี้ผมกดตัดสายทิ้งไปสามรอบแล้วแต่คนที่โทรก็ไม่ละความพยายามง่ายๆ

ผมลังเลว่าจะรับสายดีหรือเปล่า “สวัสดีครับ” ผมตัดความรําคาญกรอกเสียงลงไปในโทรศัพท์ “คุณสุจริตใช่มั้ยคะ จากบริษัทผ่อนสบายค่ะ ทําไมคุณยังไม่ชําระค่างวดล่ะคะ มีปัญหาอะไรหรือเปล่า” บอกชื่อบริษัทเสร็จ หล่อนก็ทวงค่างวดเครื่องเสียงที่ผมยังไม่ได้ชําระ สามวันมาแล้วที่หล่อนตามจองล้างจองผลาญผมหลังจากเลยกําหนดชําระ “มี...” ผมกระแทกเสียงก่อนจะพูดต่อ “แค่เกินกําหนดชําระมานิด

หน่อย ทําไมต้องประจานให้คนในบริษัทรู้ด้วย ว่าผมค้างค่างวดอยู่ ใครรับสายคุณก็บอกเขาไปหมด” ผมถือโอกาสระบายอารมณ์กับหล่อน “โทร.เข้ามือถือตั้งหลายครั้งคุณก็ไม่รับสาย โทร.เข้าบริษัทคนที่รับบอกว่าไม่อยู่ เลยต้องฝากข้อความไว้” น้ําเสียงหล่อนเริ่มแข็งกร้าว หางเสียงที่ฟังดูสุภาพถูกตัดทิ้ง ผมไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับหล่อนให้ฉุนเฉียวไปมากกว่านี้ “แล้วผมจะรีบไปจ่าย” ผมทําเสียงเหมือนไม่พอใจ ละหางเสียงที่สุภาพไว้ แล้วรีบตัดสายทิ้งทันที ความจริงแล้วผมยังไม่รู้ด้วยซ้ําว่าจะหาเงินจากที่ไหนไปจ่ายค่างวดเครื่อง เสียง ผมแกล้งทําเป็นอารมณ์เสียเพื่อเบี่ยงเบนประเด็นเท่านั้นเอง จะหยิบยืมเพื่อนฝูงก็เห็นจะยากเต็มที เพราะของเก่าที่ยืมมายังไม่มีปัญญาใช้คืน ขืนไปรบกวนอีกมีหวังเพื่อนๆคงเลิกคบหาสมาคมด้วยอย่างแน่นอน ถ้าหนี้สินมีเพียงค่าผ่อนส่งเครื่องเสียงอย่างเดียว ผมคงไม่กลุ้มใจมากมายขนาดนี้ แต่มันไม่ใช่แค่นั้น เพราะยังมีหนี้บัตรเครดิตอีกสี่ใบ รวมๆกันแล้วเป็นเงินหลายหมื่นบาท เงินเดือนผมแค่สองหมื่นบาทเท่านั้นเอง ที่ผ่านมาอาศัยหมุนเงินจากบัตรใบโน้นไปจ่ายบัตรใบนั้น จากบัตรใบนั้นมาจ่ายบัตรใบนี้ แรกๆก็ไม่มีปัญหา ทําไปทํามามันกลับยุ่งเป็นงูกินหาง เงินที่เคยหมุนจากบัตรแต่ละใบไม่อาจนํามาหมุนได้อีกต่อไป บัตรใบนั้นก็ถึงกําหนดชําระ ใบนี้ก็ต้องจ่าย ใบโน้นก็ต้องเคลียร์ “ไปทํางานที่กรุงเทพฯต้องระวังเรื่องเงินทองดีๆนะสิ่งล่อตาล่อใจมันเยอะ” พ่อเตือนก่อนผมจะจากบ้าน มาทํางานในเมืองหลวง หลายปีที่เป็นมนุษย์เงินเดือนผมกลายเป็นนักสะสมวัตถุตัวยง เห็นคนอื่นมีอะไรก็อยากจะมีบ้าง โดยไม่คํานึงถึงความจําเป็น ทั้งตู้เย็น โทรทัศน์ เครื่องเสียง โทรศัพท์มือถือ กล้องดิจิทัล และอีกจิปาถะ ของทั้งหมดต้องเป็นของมียี่ห้อราคาแพง นี่ยังไม่รวมรถยนต์ที่เพิ่งโดนยึดไปเพราะขาดส่งมาหลายงวด มันเหมือนเป็นการเติมเต็มสิ่งที่ขาดในวัยเด็ก ผมไม่เคยมีของเล่นดีๆเหมือนที่เพื่อนมี

¤Ó Ê͹¢Í§¾‹Íโดย อิสระ ลายเสือ

16 C-MORE

Page 19: C-MORE MAGAZINE

พอโตขึ้นมาหน่อยเพื่อนๆต่างมีโทรศัพท์มือถือใช้กันแทบทุกคน แต่ผมก็ยังไม่มีเหมือนเพื่อน ผมตั้งประณิธานไว้ว่าเมื่อไหร่ที่มีงานทํามีเงินเดือนใช้ ผมต้องมีเหมือนคนอื่น พอเงินเดือนถึงเกณฑ์ที่จะทําบัตรเครดิตได้ไม่ว่าสถาบันการเงินไหนมาเสนอให้ทําผมสนองตอบทุกครั้งโดยไม่ลังเล มีบัตรเครดิตมันโก้จะตาย ไม่มีเงินสดก็จับจ่ายใช้สอยได้ไม่มีขีดจํากัด กินเหล้าฟังเพลงเที่ยวผับเข้าบาร์เป็นเรื่องปกติ ที่ทําเป็นประจําทุกเดือนเดือนละหลายครั้ง ถึงได้มีเงินก็ใช้บัตรจ่ายแทนเงินสดได้ ยิ่งถ้าไปกับสาวๆด้วยแล้วยิ่งหน้าใหญ่เลี้ยงเขาไปทั่ว มันน่าแปลกที่แต่ก่อนเริ่มทํางานใหม่ๆเงินเดือนยังไม่ถึงหนึ่งหมื่นบาท ผมส่งเงินกลับไปให้พ่อแม่ใช้ทุกเดือนไม่เคยขาด แต่พอเงินเดือนมากขึ้นผมกลับส่งน้อยลง จนกระทั่งไม่ส่งสักบาท ผมเอาเงินมาบํารุงบําเรอกิเลสตัณหาของตัวเองจนเป็นหนี้เป็นสินพะรุงพะรัง เงินเดือนเกือบทั้งหมดต้องใช้ชําระหนี้ แทบจะไม่มีเหลือไว้ใช้จ่ายส่วนตัว หมดปัญญาจะส่งเงินกลับบ้าน ตอนนี้ผมเดินมาถึงทางตันแล้ว โดยมีบรรดาเจ้าหนี้ทั้งหลายไล่ตามมาติดๆ เจ้าหนี้แต่ละรายไม่เคยให้เกียรติกันเลยแม้แต่น้อย โทรศัพท์ไปทวงถาม

ที่บริษัทแทบทุกวัน แถมยังโพนทะนาไปทั่วว่าผมไม่ยอมชําระหนี้ ผมกลายเป็นวัวสันหลังหวะที่หวาดระแวง เดินไปแผนกไหนในบริษัทรู้สึกเหมือนกับว่าทุกคนจะมองผมด้วยสายตาแปลกๆ ที่สนิทหน่อยก็กระเซ้าว่าทีหลังอย่าลืมชําระหนี้ รถทัวร์พาผมมุ่งหน้ากลับบ้านที่ต่างจังหวัด ผมเหม่อมองออกไปนอกรถ เห็นทุ่งนาเขียวขจีสุดลูกหูลูกตา ภาพของพ่อกับแม่กําลังเอาหลังสู้ฟ้าเอาหน้าสู้ดิน ก้มลงปักต้นกล้าบนผืนนาจนเหงื่อไหลไคลย้อย แวบผ่านเข้ามาในสมอง หยาดเหงื่อของพ่อกับแม่ที่เสียไป กลายเป็นใบปริญญาบัตรที่ผมได้มา แต่ผมกลับตอบแทนท่านด้วยหนี้สินก้อนโต ปัญหานี้ผมเป็นคนก่อขึ้นมา ผมต้องแก้ไขด้วยตัวเอง ไม่เคยคิดจะกลับไปรบกวนท่านทั้งสอง ผมแค่อยากถอยห่างจากกําแพงปัญหาที่กําลังเผชิญอยู่ เพื่อมองหาทางออกตามที่พ่อเคยสอนไว้เท่านั้น ผมมาถึงบ้านเมื่อดวงตะวันใกล้ลับขอบฟ้า พ่อกับแม่กําลังตั้งสํารับกับข้าว ทั้งพ่อและแม่ต่างแปลกใจที่เห็นผมกลับมาบ้าน ซึ่งตามปกติผมจะกลับเฉพาะช่วงเทศกาลสงกรานต์ หรือปีใหม่เท่านั้น ในความแปลกใจนั้น แฝงความดีใจไว้เต็มเปี่ยม แม่กุลีกุจอทํากับข้าวที่ผมชอบมาเสริม พ่อแยกไปหุงข้าวมาเพิ่ม เพราะรู้ดีว่าข้าวที่อยู่ในหม้อ ไม่พอยาไส้พวกท้องยุ้งอย่างผมแน่นอน ส่วนผมถูกไล่ไปอาบน้ําให้สดชื่น ก่อนมาร่วมวงกินข้าว สามวันที่อยู่บ้าน เป็นสามวันที่สมองผมปลอดโปร่งโล่งสบาย ไม่ต้องคอยหลบเจ้าหนี้ที่โทรศัพท์ตามรังควานถึงในบริษัท ไม่ต้องกังวลว่าโทรศัพท์มือถือจะเป็นสื่อทวงหนี้ เพราะมันถูกปิดตั้งแต่ออกจากกรุงเทพฯ ผมถอยห่างจากกําแพงปัญหาจนเริ่มจะมองเห็นทางออกบ้างแล้ว “มีปัญหาอะไรหรือเปล่า พ่อว่าลูกดูเครียดๆตั้งแต่กลับมาแล้วนะ” พ่อเปิดประเด็นขณะนั่งรับลมอยู่ที่ชานเรือน“ก็...มีปัญหานิดหน่อยครับ” ผมลังเลที่จะบอก

“มีอะไรก็เล่าให้พ่อกับแม่ฟังได้นะ จะได้ช่วยๆกันคิด” พ่อไม่วายเป็นห่วงส่วนแม่เอียงหูฟังอยู่ข้างๆ ด้วยความอยากรู ้ “เนี่ยเหรอปัญหานิดหน่อยเป็นหนี้เป็นสินตั้งหลายหมื่น ว่าแล้ว ไอ้บัตรพลาสติกนั่นน่ะ มันใช้ง่ายใช้คล่องยิ่งกว่าพิมพ์แบงก์เองซะอีก แล้วเป็นไงล่ะเตือนก็ไม่ฟัง” แม่เสียงดังขึ้นมาทันที หลังจากได้ฟังปัญหาของผม ไอ้บัตรพลาสติกที่แม่ว่า คือบัตรเครดิตที่แม่เคยเห็นผมใช้ เมื่อครั้งที่พาพ่อกับแม่ไปกินอาหารที่ร้านในตัวเมือง ตอนนั้นแม่เตือนว่าให้ระวังเพราะมันใช้ง่ายถ้าใช้เพลินโดยไม่คิดจะลําบาก ทีหลัง “แกก็...ยังจะไปซ้ําเติมอีก แค่นี้ลูกก็กลุ้มใจจะแย่อยู่แล้ว” พ่อปราม จนโดนแม่ค้อนใส่ “แล้วจะทํายังไงต่อไป คิดไว้หรือยัง” พ่อตั้งคําถามขณะที่ผมมีคําตอบอยู่ในใจแล้ว ผมบอกพ่อกับแม่ว่า จะลองเจรจากับเจ้าหนี้ขอผ่อนชําระค่างวดให้น้อยลงหน่อย ถ้าไม่ได้จะหยุดชําระ แล้วรอให้เจ้าหนี้แต่ละรายฟ้องร้อง จากนั้นก็รอศาลเรียกไปไกล่เกลี่ยว่าเราสามารถชําระหนี้ได้เดือนละเท่าไหร่ ระหว่างนั้นผมจะไม่ก่อหนี้เพิ่มของอะไรที่มีอยู่และไม่จําเป็นก็จะเอาไปขาย เก็บเงินไว้ใช้หนี้ เครื่องเสียงที่เพิ่งผ่อนมาสามงวดก็ให้เขามายึดคืนไป

ตอนแรกแม่จะไม่ยอมเพราะกลัวว่าถ้าโดยฟ้อง ผมจะต้องติดคุกตะราง แม่ว่าจะเอาที่นาไปจํานองธนาคารเอาเงินให้ผมไปใช้หนี้ผมต้องอธิบายให้ แม่ฟังว่า คนอื่นที่เขาเป็นหนี้บัตรพลาสติกที่แม่เรียกมีอยู่หลายรายที่ทําแบบนี้เมื่อ จ่ายไม่ไหว ไม่มีใครต้องติดคุกสักคน เจ้าหนี้เองก็อยากได้เงินคืน เราก็ยินดีจ่ายไม่ได้หลบหนีไปไหน แต่ขอความกรุณาในแต่ละงวด ให้จ่ายน้อยลงหน่อยเท่านั้นเอง “ที่ผมกลับมาบ้านไม่เคยคิดจะรบกวนพ่อกับแม่ให้เดือดเนื้อร้อนใจ แต่ผมคิดถึงคําสอนของพ่อ ที่เคยสอนไว้ว่า อย่าขลุกอยู่กับปัญหา ถอยห่างออกมาตั้งสติเสียหน่อย แล้วเราจะมองเห็นทางออก ผมรู้สึกว่าอยู่ที่กรุงเทพฯปัญหามันรุมเร้ามากเกินไป คิดอะไรไม่ออก” ผมบอกเหตุผลของการกลับบ้านให้พ่อกับแม่ฟัง “ลูกมองออกไปนอกบ้านสิ เห็นต้นข้าวในนานั่นมั้ย เห็นแปลงผักกับบ่อเลี้ยงปลาที่ข้างบ้านหรือเปล่า เห็ดที่เพาะไว้หลังบ้านกับเป็ดไก่ที่พ่อเลี้ยงไว้อีก...” พ่อหันมามองหน้าผมก่อนจะพูดต่อ “พ่อกับแม่มีข้าวและกับข้าวกินทุกวันไม่เคยอด ไม่ต้องเสียเงินไปซื้อหา ส่วนที่เหลือก็เอาไปขายได้เงินอีกต่างหาก พ่อกับแม่ก็ทําตามคําสอนของพ่อเหมือนกัน” “ปู่สอนพ่อเหรอ” ผมพาซื่อ “พ่อของเราทุกคนนั่นแหละ เศรษฐกิจพอเพียงไง ใช้ได้กับทุกคนทุกอาชีพ ลูกคิดถึงคําสอนของพ่อเมื่อมีปัญหา แล้วลูกเคยคิดถึงคําสอนของพ่อหลวงบ้างหรือเปล่า ไม่ว่าจะมีปัญหาหรือไม่มีก็ใช้ได้ตลอด” พ่อยกมือขึ้นโอบไหล่ผม สายตาทอดยาวไปเบื้องหน้า ผมสังเกตเห็นแววตาและรอยยิ้มที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความปลื้มปีติ.

“¾‹Í¢Í§àÃÒ·Ø¡¤¹¹Ñ่¹áËÅÐ àÈÃÉ°¡Ô¨¾Íà¾ÕÂ§ä§ ãªŒä´Œ¡Ñº·Ø¡¤¹·Ø¡ÍÒªÕ¾

äÁ‹Ç‹Ò¨ÐÁÕ»˜ÞËÒËÃ×ÍäÁ‹ÁÕ¡็㪌䴌µÅÍ´”

www.sakulthai.com

Page 20: C-MORE MAGAZINE
Page 21: C-MORE MAGAZINE
Page 22: C-MORE MAGAZINE

SLATE

B i l l C o n d o n

¼ÙŒ¡Ó ¡ÑºÀҾ¹µÃ�àÃ×่ͧ Dreamgirls

¡Ñº¡ÒÃ¡Ó ¡ÑºÀҾ¹µÃ�àÃ×่ͧãËÁ‹

The Twilight saga:Breaking dawn

แปลโดย : ธนัชชา นวลแพ่ง

www.cinemaaudiosociety.org

Page 23: C-MORE MAGAZINE

Q: ในฉากฮันนีมูน ผมรู้สึกได้ว่ามีความขบขันอยู่ในนั้น ทําไมพวกคุณถึงเลือกที่จะทําให้ฉากดังกล่าวออกมาในรูปแบบนี้และอะไรเป็นสาเหตุที่ทําให้ตัดสินใจเช่นนั้นBill: หมายถึงความตลกในฉากที่เบลล่ากําลังเตรียมตัวเองให้พร้อมน่ะเหรอครับ? ก็แค่ทําให้รู้สึกว่าเป็นมนุษย์หน่อยน่ะครับ ทําให้ทุกอย่างดูสมจริงให้มากที่สุด เป็นอะไรที่ทุกคนก็คงรู้สึกแบบเดียวกันในช่วงเวลานั้น แบบ “โอ้ยตายแล้ว, มันกําลังจะเกิดขึ้นแล้วนะ” เรื่องนั้นน่ะ มันกําลังจะเกิดขึ้นคืนนี้แล้ว ให้ตายเถอะ, นั่นเบลล่านะ หลังจากเกิดอะไรขึ้นตั้งมากมาย แถมยังเกิดกับแวมไพร์ซะด้วย พอนึกออกใช่ไหม? เราพยามทําให้ช่วงอารมณ์นั้นเชื่อมโยงกับความจริงให้มากที่สุด “เป็นคุณ คุณจะทํายังไง?” พยายามจัดการมันด้วยทุกวิถีทางเท่าที่จะทําได้ อาจจะแปรงฟันเป็นสิบรอบหรือไม่ก็ทําทุกอย่างเพื่อที่จะหลอกตัวเองว่าพร้อมแล้วซึ่งเป็นอะไรที่คุณทําไม่ได้หรอก ส่วนเรื่องการตัดต่อ มันเป็นการตัดฉากแบบกระโดดไปมาเพื่อสื่อให้เห็นถึงความกระวนกระวายของเบลล่า ตามแบบฉบับของ Kristen น่ะ พอเข้าใจนะ? (Billพูดก่อนจะเคาะโต๊ะรัวจนทุกคนหัวเราะ) จังหวะมันก็คงประมาณนี้แหละ นึกออกนะ? พวกเราก็แค่นําจุดนั้นมาจับคู่กับการนําเสนอในแบบของเรา

Q: คุณเคยมีประการณ์การทํางานร่วมกับนักแสดงเด็กจํานวนมากๆมาก่อนหรือเปล่า แล้วการทํางานกับเด็กๆ Renees-mes เป็นไงบ้าง Bill: อ๋อ เคยซิครับ(หัวเราะ) นั่นมันสําหรับภาค 2 นะ ! ก็เคยทํางานกับเด็กมาบ้างเหมือนกันครับ แต่ไม่เยอะเท่าครั้งนี้ คนแรกก็ Mackenzie เด็กคนนี้เความคิดความอ่านโตกว่าวัยมากครับ ทั้งมีวุฒิภาวะทั้งฉลาดเลยรู้สึกดีที่ได้ทํางานร่วมกันครับ แต่บางครั้งก็ลําบากเหมือนกันเพราะการถ่ายทําบางฉากนั้นมันไม่เกี่ยวข้องกับนักแสดงคนอื่นๆเลย ต้องอาศัยฝีมือการแสดงของ Mackenzie ล้วนๆ ซึ่งจําเป็นต้องใช้เทคนิคเฉพาะอย่างที่แม้แต่ผมก็ต้องเรียนรู้ไปพร้อมๆกับทุกคนที่กําลังถ่ายทํา แต่ต้องบอกเลยนะครับว่าเด็กๆพวกนี้สุดยอดมากเลยล่ะ

Q: พวกเราดีใจมากที่ Stephenie Meyer ได้มีส่วนร่วมในการถ่ายทําเรื่องนี้ด้วย การทํางานกับ Stephenie เป็นไงบ้าง สื่อสารกันแบบตัวต่อตัวเลยหรือเปล่า? รู้สึกยังไงที่ได้ทํางานกับเธอ? Bill: มันเยี่ยมมากเลยครับ คือว่า เธอไมถือตัวเลย เป็นอะไรที่น่าสนใจมาก ผมไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นเพราะความคุ้นเคยจากการทํางานร่วมกันหรือปกติเธอก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว เธอเป็นคอหนังครับ มีความรู้เรื่องการทําหนังพอสมควรแล้วก็รู้ว่าอะไรควรทําอะไรไม่ควรทํา อย่างบางฉากที่อธิบายได้อย่างสวยงามเป็นตัวหนังสือแต่กลับถ่ายทอดออกมาได้ไม่ดีที่เท่าไหร่เมื่อนํามาอธิบายผ่านทางภาพ เห็นใช่ไหมว่าบางฉากมันไม่มีในหนังสือ? จริงๆในหนังสือก็พูดถึงนิดหน่อยนะแต่ส่วนนั้นกลับกลายมาเป็นฉากสําคัญในหนังไป อย่างตอนที่ Jacob ทะเลาะกับ Sam ก็ใช่ว่า Sam จะจู่โจมทันทีแบบในหนังสือ แต่เขาต้องนั่งพักและไตร่ตรองเรื่องราวก่อนสักนิด เข้าใจใช่ไหม? แล้วตอนที่ติดอยู่ในบ้านหลังนั้นเพราะโดนล้อม ออกไปหาอาหารไม่ได้จนร่างกายพวกเขาอ่อนแอลงเรื่อยๆ ในขณะที่พวกหมาป่าก็มีแต่จะแข็งแรงขึ้นและเขยิบเข้าใกล้พวกเขามากขึ้นเรื่อยๆเช่นกัน Jacob เลยต้องหาทางช่วยพวกเขาออกมา ก็เลยต้องทําแบบนั้น จริงๆผมก็ไม่อยากไม่ให้

C-MORE 21

www.zimbio.com

www.zimbio.comwww.zimbio.com

Page 24: C-MORE MAGAZINE

Q: มีอะไรที่คุณคิดว่าเป็นการท้าทายความสามารถของคุณเป็นพิเศษไหม? มีฉากไหนที่พอเห็นในบทแล้วคิดว่า “ต้องทําฉากนี้ให้ได้” แถมยังท้าทายมากด้วย หรือมืฉากไหนบ้างที่รู้สึกตื้นเต้นที่จะได้ถ่ายทํา? Bill:ผมว่ามันก็มีทั้งสองอย่างนะ แต่สิ่งที่น่าตื่นเต้นที่สุด หนึ่งในนั้น ก็คือสิ่งที่ท้าทายที่สุด ผมว่าหนังทุกเรื่องก็มีมุมนี้ทั้งนั้นแหละ อย่างในเรื่องนี้มันพูดถึงหมาป่าใช่ไหม? ในที่สุดผมก็เลยมีโอกาสได้ทําฉากที่เป็นมุมมองของหมาป่า ได้ทําฉากที่มองผ่านสายตาของหมาป่ารวมไปถึงการล่าเหยื่อและการสื่อสารระหว่างหมาป่า ซึ่งเป็นอะไรที่ท้าทายเหมือนกันนะ การผูกวิญญานนี่ก็ท้าทายมากอยู่แล้ว ฉากคลอดลูกก็ท้าทายมากทีเดียว พวกนี้แหละที่เป็นสามฉากยิ่งใหญ่ที่มาจากแนวคิดสําคัญในหนังสือซึ่งจําเป็นที่ต้องถูกทําให้กินใจและน่าตื้นเต้น แถมฉากพวกนี้ยังเป็นฉากที่อาจทําให้เข้าใจผิดได้ง่ายๆ ซึ่งผมหวังว่าพวกเราคงไม่ได้ทําอะไรแบบนั้นลงไปนะ

Q:ในฉากคลอดที่คุณพูดถึง มันเป็นฉากที่รุนแรงอันนึงเลยนะ ไหนจะฉากการต่อสู้กับพวก Volturi ที่เขยิบใกล้เข้ามาอีก แล้วก็ยังมีฉากฮันนีมูนกับฉากบนเตียงด้วย จากมุมมองทั้งหมด มันยากไหมที่จะต้องรักษาสมดุลย์ระหว่างเขตแดนของเรท PG-13 กับเรท R? คุณเปิดฉาก R แล้วก็ตัดไปฉากอื่นเฉยๆเลยหรือเปล่า? มีวิธีจัดการกับฉากพวกนี้ยังไง? Bill: ผมว่ามันก็ท้าทายดีนะ ทุกคนคงเข้าใจเรื่องนี้ดีอยู่แล่วล่ะเพราะความเป็นเรท R ในฉากพวกนั้นก็แสดงออกมาชัดเจนผ่านทางหนังสืออยู่แล้ว ผมก็ไม่ได้เน้นฉากพวกนั้นขนาดนั้นหรอก ไม่ได้ทําให้มันออกมาแบบเปลือยให้เห็นจะๆ ไม่มีใครอยากให้เป็นแบบนั้นอยู่แล้ว มันไม่เหมาะสมเท่าไหร่น่ะนะ

แต่ว่าฉากนั้นจะออกมาในลักษณะการจูบที่ดูดดื่มมากกว่า ส่นฉากคลอดลูก เราก็คงไม่นําเสนอฉากที่เลือดสาดกระจายเต็มผนังอะไรแบบนั้นด้วย จะนําเสนอให้เห็นถึงสัญชาตญานภายในมากกว่า จริงๆฉากนี้เป็นความท้าทายที่น่าสนุกนะ ต้องทําให้คนดูได้รับประสบการณ์โดยไม่รู้สึกเหมือนกําลังดูอะไรเกี่ยวกับทางการแพทย์อยู่ ทําออกมาในรูปแบบนี้ดีกว่าเยอะเลย พอนึกออกมั้ยว่าหนังเรท PG-13 ก็มีฉากสวีทหวานซึ้งเหมือนกันน่ะ

Q: วันนี้ผมได้ยินคําถามหนึ่งจากงานเปิดตัวหนังที่ว่า “ภาคไหนที่คุณชอบที่สุดในมหากาพย์เรื่องนี้?” รู้สึกยังไงบ้างที่นักแสดงทุกคนตอบตรงกันหมดเลยว่าชอบภาค Breaking Dawn? Bill: คือ...ก่อนอื่นเลยนะ ตอนที่ตอบว่าผมชอบภาค Break-ing Dawn ผมก็พูดไปแค่ขําๆเท่านั้นแหละ Taylor ยังล้อเลยว่า Kristen ดูระมัดระวังมากเลยนะในการตอบว่าเธอชอบ Twilight ผมเคารพผู้กับกับของภาคก่อนๆทุกคนมากนะ ผมว่าพวกเขาทําออกมาได้เจ๋งมากตามไสตล์ของพวกเขา และนี่แหละก็คือหนึ่งในเหตุผลที่ผมอยากทําภาคต่อจากพวกเขา เพราะผมไม่คิดว่าจะมีคนทําหนังต่อกันได้แนบเนียนแบบนี้ได้หรอก คุณอาจจะแย้งว่ามันก็เหมือนกับเรื่อง Harry Potter ที่แต่ละภาคมีผู้กํากับคนละคนเช่นกันไม่ใช่เหรอ แถมรื่องนี้ยังรักษารูปแบบของแต่ละภาคได้ใกล้เคียงกันมากด้วย แต่วัตถุกิบที่เราใช้ในการทําหนังมันต่างกันนี่ Melissa เป็นคนดูแลเรื่องบทพูดกับการแคสติ้ง แค่นี้ก็ทําให้หนังออกมาในรูปแบบที่แตกต่างกันมากแล้วล่ะ ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ถ้ามีคนบอกว่าผมคิดว่ามันเป็นเรื่องใหญ่มากที่มีเรื่องผลประโยชน์ที่ไม่เป็นธรรมเข้ามาเกี่ยวข้องในการทําหนังเรื่องนี้ ก็คงเป็นหนังภาคก่อนๆน่ะแหละที่ทําให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น และผมว่าถ้ามองในฐานะนักเขียน ส่วนที่ยากที่สุดก็คือการเขียนภาคต่อ และส่วนที่ผมรับผิดชอบก็เป็นการสร้างหนังภาคต่อซะด้วย

Q:คุณรู้สึกยังไงกับการที่เพิ่งเข้ามามีส่วนร่วมในการทําหนังเรื่องนี้ แถมต้องทําภาคจบด้วย ต้องรับมือกับแฟนหนังที่มีอยู่ก่อนแล้วและก็เป็นที่รู้กันด้วยว่าเอาแน่เอาไม่ได้ ต้องจัดการผู้หญิงจํานานมาก (Bill หัวเราะ) ที่ติดตามหนังมาตั้งแต่ต้น รู้สึกยังไงบ้างกับการที่ได้เข้ามาทํางานนี้และต้องรับผิดชอบภาคสุดท้ายถึงสองตอนด้วยกัน?Bill: ก็เพราะแบบนี้แหละมันถึงได้น่าสนใจไง ไม่ใช่แค่ได้ทําภาคต่อ แต่ผมได้ทําภาคสุดท้ายเลยนะ จริงๆก็ไม่ใช่ภาคสุด้ทายหรอกเพราะมันแบ่งเป็น 2 ตอน มันเป็นโอกาสที่ดีมากเลย แบบว่า..ไม่รู้ซิ...(เงียบ) เอาเป็นว่ามันเป็นอะไรที่พิเศษละกัน ถ้าคุณยอมรับในความจริงที่ว่า ถ้าต้องทํางานอะไรบางอย่างต่อเนื่อกันเป็นเวลา 20 ปี ใครๆก็คงแสดงออกอย่างเปิดเผยทั้งนั้นแหละว่า “ขอผ่านดีกว่า” แต่สําหรับผม ผมว่ามันเป็นช่วงเวลาที่ออกจะเร่งรัดเกินไปด้วยซ้ํา และนี่แหละคือเหตุผลของผม

22 C-MORE

www.zimbio.comwww.zimbio.com

Page 25: C-MORE MAGAZINE

Q: แล้วอีกเรื่องนึง นอกจากจะได้ทําหนังภาคสุดท้ายแล้ว แฟนคลับของหนังสือเล่มนี้ส่วนใหญ่คิดว่าภาพยนต์ดําเนินเรื่องได้เป็นขั้นเป็นตอนมากขึ้นเรื่อยๆ คุณรู้สึกกดดันเป็นพิเศษไหมที่รู้ว่าพวกแฟนคลับคาดหวังเอาไว้สูงมากกับภาค Breaking Dawn?Bill:ผมรับรู้ได้ถึงแรงกดดันเป็นอย่างดีเลยล่ะ (หัวเราะ) แล้วก็ได้ลิ้มรสถึงความกดดันนั้นไปแล้วด้วย ตอนที่ปล่อยตัวอย่างหนังออกไป ผมของ Tanya เป็นสีทอง ไม่ใช่สีทองสตอร์เบอรี่แบบในหนังสือ (ติงโดยAmanda จากเว็บไซด์ Twilight-Moms ) มีคนรู้สึกไม่พอใจในจุดนี้เยอะมาก ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกแฟนคลับผู้จงรักภีกดีอย่างไม่น่าเชื่อและยังทรงอิทธิพลเป็นอย่างมากด้วยก็ติเรื่องนี้เช่นกัน ผมรู้อยู่แล้วว่าเรื่องแบบนี้ต้องเกิดขึ้น แต่ว่าก็ต้องเลือกสีผมให้มันเข้ากับหน้าและรูปลักษณ์ของแต่ละคนด้วยนี่นา

Q: เมื่อเช้านี้ที่งานเปิดตัวภาพยนตร์ผมได้ถาม Ashley เรื่องทรงผมของเธอที่เปลี่ยนไปอย่างมากในแต่ละภาคของหนัง อยากรู้ว่าทรงปัจจุบันที่ทําอยู่มีความเป็นมายังไง เธอยังบอกด้วยว่าพวกคุณกังวลว่าพวกแฟนคลับอาจจะมีฏิกิริยาตอบกลับในแง่ลบต่อการเปลี่ยนวิกหรือการตัดทรงผมใหม่ และหวังว่าพวกแฟนคลับจะพอใจกับการทําทรงผมให้ใกล้เคียงกับในหนังสือที่สุดBill:ถ้าเส้นผมของพวกเขาไม่งอกออกมาใหม่อีกแล้ว ผมว่าเรื่องต่อไปทุกคนต้องโกนหัวแน่ๆเลย (หัวเราะ) แต่ผมว่าหนังเรื่องนี้มันตามสมัยนะ แฟชั่นเปลี่ยนไปทุกๆ 4-5 ปี เพราะฉะนั้นสําหรับ Ashley ที่มีเซ้นซ์ด้านแฟชั่น โดยเฉพาะในหนังที่เธอต้องไปร่วมพิธีแต่งงาน มันสื่อให้เห็นถึงการแต่งงานสไตล์ Edwardian แบบที่ Edward อยากให้เป็น และเราก็ได้เผยให้เห็นถึงปฏิกริยาตอบกลับของเธอเมื่อแขกมาร่วมงาน ในพิธีแต่งงานพวกเราให้เธอแต่งตัวในลักษณะ flapper ซึ่งคุณอาจจะได้เห็นบ้างแล้วในตัวอย่างหนัง ซึ่งที่เราทําแบบนี้ก็เพื่อที่จะสื่อให้เห็นว่าใครคือผู้หญิงที่มีสไตล์ที่สุดในโลก? ซึ่งก็คือ Audrey Hepburn ให้เธอดูเป็น Audrey หน่อยละกัน แต่ถ้าเธอไปเปลี่ยนทรงผมอีกล่ะก็ คนนั้นคงเป็น Alicec ไม่ใช่ Audrey แล้วล่ะ ทุกคนคงคิดเหมือนผมนะ ส่วนคําถามอื่น มันก็เหมือนกับถามว่า ทําไม

Jackson Rathbone ถึงมีหลายลุคนั่นแหละ (ทุกคนหัวเราะ) คุณว่ายังไง? ผมว่ามันดูดีออก

Q: นักแสดงมักถูกถามเกี่ยวกับฉากอารมณ์ที่เล่นยากๆ ในฐานะผู้กํากับ มีฉากไหนมั้ยที่คุณรู้สึกอินไปกับมันมาก แล้วฉากที่ว่าหมายถึงฉากไหนใน Breaking Dawn ที่คุณคิดว่าดูแล้วคงสลัดอารมณ์เหล่านั้นทิ้งไปลําบาก?Bill: ก็จําเป็นต้องมีฉากแบบนั้นอยู่แล้วเพราะเรื่องราวมันต้องดําเนินไปสู่เหตุการณ์ต่อไปเรื่อยๆ อาจจะเป็นหนึ่งชั่วโมงต่อมาหรือหนึ่งวันต่อมา แต่ก็นั่นแหละ ยังไงก็ต้องมีอะไรเกิดขึ้นระหว่างทางอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการหลั่ง adren-aline ออกมาเมื่อในที่สุดเดินทางไปถึงจุดหมายและผ่านพ้นมันไปได้ อย่างฉากคลอดลูก ผมวนกลับไปดูตรวจฉากนั้นบ่อยมาก ฉากนี้บีบคั้นผมอย่างไม่น่าเชื่อเลยล่ะ Taylor ต้องกังวลใจเกี่ยวกับสิ่งที่กําลังเกิดขึ้นจนหัวใจจะหลุดออกมาจากอกอยู่แล้ว ส่วน Rob คุณเห็นใช่ไหมตอนที่เขาพยามยื้อชีวิตเธอไว้ รวมทั้งความรวดร้าวที่เขาแบกรับกับความตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แล้วที่เหลือก็เป็นส่วนของ Kristen ที่เดี๋ยวคุณก็จะเห็นเองในหนัง ความพยายามทั้งหมดที่เธอทําเพื่อคลอดลูกออกมา ผมว่าเธอคือศพที่เจ๋งที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมาเลยนะ (ทุกคนหัวเราะ) ซึ่งฉากนี้มันไม่ง่ายเลยเพราะมันมีฉากนึงที่ยาว 1 นาทีและเธอต้องไม่กระพริบตาเลยและต้องทําเป็นเหมือนหยุดหายใจไปแล้ว ผมไม่รู้เหมือนกันว่าเธอทําได้ยังไง รู้แต่ฉากนั่นมีนบีบคั้นหัวใจได้ดีเลยล่ะ และในการถ่ายทําฉากสุดท้ายที่ Loui-siana ที่ที่พวกเราไปถ่ายทํากันเป็นเวลา 4 เดือนแล้ว ทุกคนกําลังอยุ่ในอารฒณ์เหนื่อยและท้อแท้

C-MORE 23

www.zimbio.comwww.zimbio.com

herocomplex.latimes.com

Page 26: C-MORE MAGAZINE

ไฟขอพวกเรากําลังจะหมด แต่ฉากนั้นได้ทําให้เราตระหนักได้อีกครั้งว่าพวกเรามาทําอะไรกันที่นี่และยังทําให้เรามีกําลัง มันเกิดขึ้นจริงๆ นี่แหละคือสิ่งที่สุดยอดที่เกิดขึ้นระหว่างการถ่ายทํา เมื่อตอนที่เหตุการณ์นั้นมันเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตา มันเป็นตอนที่ทีมงานทุกคนตกอยู่ในความเงียบและพุ่งความสนใจไปที่การถ่ายทํา แบบว่าเหตุการณ์มันเกิดขึ้นข้างหน้าคุณเลยนะ แล้วทุกคนก็ใจจดใจจ่อกับมันมากด้วย

Q: เห็นได้ชัดเลยว่าคุณเป็นผู้กํากับที่มีประสบการณ์โชกโชน และการคัดเลือกนักแสดงก็กระจายสู่ทุกๆคน ไม่ว่าจะเป็นคนที่มาเทสหน้ากล้องครั้งแรก หรือคนที่เคยแสดงหนังมาแล้วเป็นโหลอย่าง Kristen นักแสดงได้ให้ข้อมูลอะไรใหม่ๆที่คุณไม่เคยรู้มาก่อนบ้างไหม?Bill:โอ้ มีอยุ่แล้วครับ ถึงแม้ผมจะมีประการณ์เยอะแต่ถ้าเทียบแล้วก็คงมีปริมาณเพียงแค่ครึ่งนึงของฉากที่ Kristen เคยแสดงมาทั้งหมดน่ะครับ หรือไม่ก็อาจจะแค่ 1 ใน 3 เลยด้วยซ้ํา เข้าใจสิ่งที่ผมต้องการจะสื่อใช่ไหมครับ? ซึ่งคงเทียบไม่ติดเลยครับถ้าเอาไปเทียบกับ Michael Sheen เราต้องเรียนรู้จากหนังอยุ่ตลอดเวลา อยู่แล้ว แต่นักแสดงพวกนี้รู้คาแรคเตอร์ของบทที่ตัวเองได้รับเป็นอย่างดีเลยทีเดียวครับ โดยเฉพาะการได้ร่วม งานกับ Kristen

Q: สถานที่ที่ชวนคลั่งที่สุดในเรื่อง Twilight เป็นหนึ่งในสถานที่ที่น่าหลงไหลที่สุดในโลก ซึ่งก็คือ Brazilคุณจัดการเรื่องการถ่ายทําที่นู่นกับจัดการแฟนคลับที่ไม่เหมือนกันแฟน คลับในอเมริกาแถมยังหลงไหลใน Twilight มากด้วย ได้ยังไง ?Bill: ด้วยความเคารพเลยนะครับ ผมว่ามันน่าสนใจออกนะ คุณจําเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างการถ่ายทําที่ Rob เล่าได้ไหม (หัวเราะ) คือทุกคนกําลังสนุกกับปาร์ตี้กันอยู่บนถนน แล้วจู่ๆก็มีสาวคนนึงมากอดเขา (เอามือมาคล้องคอ Rob เลยทําให้ Rob ตกใจ) ไม่รู้ตอนนี้เธอถูกรุมทึ้งไปหรือยัง (ทุกคนหัวเราะ) เพราะหลังจากเหตุการณ์เกิดขึ้น 2 ชั่วโมง ชั่วโมงผมก็ถามเขาว่า “เกิดอะไรขึ้นกับเธอ?” แล้วทุกคนก็พร้อมใจกันตอบว่า “ใครจะไปรู้ล่ะ !” (หัวเราะ)

เธอรู้ทุกขั้นตอนเกี่ยวกับการทําหนัง ทุกขั้นตอนจริงๆ เธอรู้แม้กระทั่ง ว่า “ตายละ ฉันว่าเทคหน้าฉันควรเหลือบตาขึ้นไปข้างบนอีกสัก ¼ นิ้วนะเนี่ย” เธอเป็นผู้ร่วมงานที่สุดยอดมาก และถ้าคุณอธิบายให้เธอฟังว่า “นี่อาจจะดูผิดธรรมชาติไปหน่อยแต่ก็คุ้มค่าที่จะทํานะ” จุดนี้ผมเข้าใจดีเลยล่ะ พวกเราได้มีโอกาสนั่งคุยกันเรื่องบทพูดกันเป็นอาทิตย์ และเธอก็เข้าใจ ไอเดียต่างๆได้ดี ซึ่งก็ไม่ใช่ว่าผมจะมีแค่เธอคนเดียวหรอกนะ แค่ว่าเธอมีส่วนร่วมเยอะหน่อยแค่นั้นแหละ และเธอก็มักจะตอบกลับมาว่า “เป็นความคิดที่ดีเลยนะ”ตลอดเลย

Q: คุณวางแผนจะทําอะไรพิเศษๆที่ Brazil อีกหรือเปล่า ?

Bill: ก็หวังว่าจะได้ทําอยุ่เหมใอนกันครับ ผมอยากไปร่วมงานเทศกาลภาพยนตร์ที่จัดขึ้นที่นั่นอีกครั้ง ไม่ร็เหมือนกันว่าจะได้ไปปีนี้หรือปีหน้า แต่พวกเราต้องไปอย่างแน่นอนครับ เพราะว่าที่นั่นเป็นฉกที่สําคัญฉากหนึ่งในหนังเลยล่ะ แล้วมันก็เยี่ยมมากด้วย ผมรู้สึกสนุกมากเลยครับตอนยอู่ที่นั่น

24 C-MORE http://www.twilightlexicon.com

www.zimbio.comwww.zimbio.com

www.zimbio.comwww.zimbio.com

Page 27: C-MORE MAGAZINE

movie.siamha.com

Page 28: C-MORE MAGAZINE
Page 29: C-MORE MAGAZINE

THE TWILIGHT SAGA

B R E A K I N G D AW NPART 1

ANONYMOUS.com

Page 30: C-MORE MAGAZINE

ากแฟรนไชส์ที่เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2008 ที่ทํารายไ ด้รวมไปกว่า 1,800 ล้านเหรียญทั่วโลก The Twilight Saga: Breaking Dawn คือบทสรุปของมหากาพย์แวมไพร์ทไวไลท์ ที่จะเปลี่ยนรัตติกาลให้เป็นปรากฏการณ์ครั้งสุดท้าย โดยจะถูกแบ่งเป็นสองภาคคือ The Twilight Saga: Breaking Dawn Part I ที่มีกําหนดฉายในเดือนพฤศจิกายนปีนี้ และ The Twilight Saga: Breaking Dawn Part II ในเดือนพฤศจิกายนปี 2012 เรื่อง ราวของความรักที่เป็นอมตะ การต่อสู้ระหว่างกลุ่มแวมไพร์และเผ่าพันธุ์หมาป่า ทุกอย่างถูกตัดสินในสองภาคสุดท้ายของมหากาพย์แวมไพร์ ทไวไลท์ เมื่อชีวิตคู่ของ เบลล่า (คริสเต็น สจ๊วต) และ เอ็ดเวิร์ด (โรเบิร์ต แพททินสัน) ต้องพบกับอุปสรรคสําคัญอย่าง เจคอบ (เทย์เลอร์ เลาท์เนอร์) ที่ไม่ยอมให้ผู้หญิงที่เขารักถูกเปลี่ยนเป็นแวมไพร์ ในขณะเดียวกันกลุ่มáÇÁไพร์โวลตูรี่ ก็กําลังหาเหตุผลกําจัดครอบครัวคัลเลนให้สิ้นซาก

The Twilight Saga : Breaking Dawn Part I เริ่ม ต้นหลังพิธีแต่งงานของเบลล่าและเอ็ดเวิร์ด เดินทางไปฮันนีมูนที่กรุงริโอ เดอ จาเนโร ทั้งสองมีช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุด แต่ด้วยแรงปรารถนาของเบลล่าในการเปลี่ยนเป็นแวมไพร์ ก็กลายเป็นจุดแตกหักของครอบครัวคัลเลนและฝูงหมาป่าเผ่าควิลยูต ที่เตือนไว้ว่าถ้าเอ็ดเวิร์ด เปลี่ยนเบลล่าเป็นแวมไพร์ สงครามระหว่างสองเผ่าพันธุ์จะต้องอุบัติขึ้น แต่เหตุก็เกิดขึ้นเมื่อเบลล่าพบว่าตัวเองตั้งท้อง ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นระหว่างมนุษย์และแวมไพร์ การกําเนิดของ เรเนสมี ลูกครึ่งมนุษย์-แวมไพร์ ล่วงรู้ไปถึงกลุ่มแวมไพร์โวลตูรี่ ผู้ปกครองเผ่าพันธุ์แวมไพร์ทั้งหมด พวกเขาต้องการที่จะครอบครองเรเนสมี และทําลายครอบครัวคัลเลน ทําให้ทุกคนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเตรียมตัวรับมือ โดยขอความช่วยเหลือไปยังกลุ่มแวมไพร์พันธมิตรทั่วโลก เพื่อเข้ามาช่วยสนับสนุนในการต่อสู้ครั้งสุดท้าย

“º·ÊÃØ»µÓ ¹Ò¹¤ÇÒÁÃÑ¡¢Í§áÇÁä¾Ã�¡ÑºÁ¹ØÉÂ�

áÅСÒõ‹ÍÊÙŒ¤ÃÑ้§ÊØ´·ŒÒ¢ͧ TWILIGHT”

28 C-MORE

ANONYMOUS.com

ANONYMOUS.com

www.freemeland.com

Page 31: C-MORE MAGAZINE

กระแสตอบรับสําหรับ Breaking dawnBreaking dawnโดยทั่วไปได้รับคําวิจารณ์ในด้านลบ พับบลิสเชอร์ วีกลี่ พูดว่าปัญหาหลักคือ “โดยพื้นฐาน ทุกคนได้อย่างที่ตนเองต้องการ ยิ่งไปกว่านั้นถ้าความปรารถนาของพวกเขาบังคับให้อุปนิสัยเปลี่ยนจากหน้ามือ เป็นหลังมือหรืออารัมภบทอันยุ่งเหยิงของพื้นหลังของเรื่อง ไม่มีใครต้องละทิ้งบางสิ่งหรือทนทุกข์ทรมานไปตลอด--หรือก็คือความสง่างามได้ หายไป” บทความโดยซารา โรส นักหนังสือพิมพ์เดอะ แอสโซซิเอต เพรสส์ ที่โพสบน NewsOK.com เขียนว่าแฟนของนิยามรัก “ตัวละครที่มีเสน่ห์ อารมณ์ขัน หลงใหลความสวยงามอย่างน่ารําคาญ ให้ความสนใจกับอารมณ์เล็กๆน้อยๆ” อย่างไรก็ตาม “ผู้อ่านอาจจะผิดหวังบทสร้างอารมณ์ที่มากมายและฉากตื่นเต้นที่มีน้อยมาก”

เกร็ดภาพยนตร์ Breaking Dawn หนังสือเล่มที่ 4 และเป็นเล่มสุดท้ายของวรรณกรรมชุด Twilight ที่ เล่าถึงเรื่องของการแต่งงานระหว่างสองเผ่าพันธุ์ การเปลี่ยนเป็นแวมไพร์ การให้กําเนิดลูกที่เกือบคร่าชีวิตแม่ จุดแตกหักกับกลุ่มแวมไพร์ราชวงค์โวลตูรี่ รวมถึงฝูงหมาป่าแห่งเผ่าควิลยูต โดยถูกวางจําหน่ายในปี 2008 และขายได้ถึง 1.3 ล้านเล่ม ในเวลาเพียงแค่ 24 ชั่วโมง ซึ่งก็เป็นการเปิดตัวขายหนังสือในวันแรกที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์ ผู้กํากับที่มารับหน้าที่กํากับ Breaking Dawn ทั้งสองตอนก็คือ บิล คอนดอน มีผลงานที่การันตีคุณภาพมาโดยตลอด โดยเขาเคยได้รับรางวัลออสการ์จากการเขียนบทเรื่อง Gods and Monsters และกํากับหนังเพลงอย่าง Dreamgirls ที่เข้าชิงถึง 8 รางวัล ออสการ์ โดยคอนดอนมีความเชี่ยวชาญในการผลักดันความเข้มข้นออกมาจากเรื่องราว ที่เต็มไปด้วยปมขัดแย้งมากมาย เพื่อให้สมกับเป็นบทสรุปของหนังชุดแห่งทศวรรษ ด้วยเรื่องราวในหนังสือ Breaking Dawn มีความยาวถึง 754 หน้า มันจึงถูกแบ่งเป็นสองภาค โดยคําถามของสาวก แวมไพร์ ทไวไลท์ ทั่วโลกก็คือเรื่องราวจะถูกแบ่งตรงไหน โรเบิร์ต แพททินสัน ผู้รับบทเป็นแวมไพร์หนุ่ม เอ็ดเวิร์ด มีคําตอบให้ “ พวกเราต้องการให้ผู้ชมเข้าใจความรู้สึกของ เบลล่า ที่ต้องถูกเปลี่ยนเป็นแวมไพร์ เราจึงไม่ต้องการตัดส่วนไหนออกไปทั้งสิ้น โดยใน Part I จะครอบคลุมพิธีแต่งงาน ฮันนีมูน และการกําเนิดของ เรเนสมี และสิ้นสุดก่อนที่ เบลล่า เริ่มต้นใช้ชีวิตหลังการเปลี่ยนแปลงครั้งสําคัญ คริสเตน สจ๊วต ผู้รับบทเป็น เบลล่า เล่าถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นใน Breaking Dawn ว่า “เรื่องราวใน Breaking Dawn จะ ไม่ใช่การช่วงชิงหัวใจ เบลล่าของเอ็ดเวิร์ด หรือ เจคอบ อีกแล้ว เพราะเธอไม่ใช่เบลล่าคนเดิมที่เรารู้จักในสองภาคแรก

C-MORE 29

ANONYMOUS.com

ANONYMOUS.com ANONYMOUS.com

th.wikipedia.orgth.wikipedia.org

Page 32: C-MORE MAGAZINE

30 C-MORE ANONYMOUS.com

Page 33: C-MORE MAGAZINE

เพราะเธอมีความมุ่งมั่นในการตัดสินใจตั้งแต่ภาคที่แล้ว จนมาถึงสองภาคสุดท้ายที่จะเป็นการเดินทางที่ยิ่งใหญ่และไม่มีทางหันหลังกลับ ได้แล้วของเบลล่า” ถ้าใครได้อ่าน Breaking Dawn ก็ จะรู้ว่าหนังสือถูกแบ่งออกเป็นสามส่วนใหญ่ โดยส่วนแรกและส่วนที่สามจะเป็นมุมมองของ เบลล่า ในขณะที่ส่วนที่สองจะถูกเล่าผ่านมุมมองของหมาป่าหนุ่ม โดย เทยเลอร์ เลาท์เนอร์ ผู้รับบทเป็น เจคอบ เผยว่า “ พวก เราทําเหมือนในหนังสือ โดยหนังจะหยุดเล่าเรื่องจากมุมมองของ เบลล่า และใช้เวลาเฝ้าติดตาม เจคอบ เมื่อเขาต้องดิ้นรนกับสถานะของตัวเอง เกิดขึ้นเพราะเขารู้สึกเป็นห่วง เบลล่า ที่ต้องรับมือกับการตั้งครรภ์ ในขณะที่เขาก็ไม่สามารถให้อภัยได้เมื่อเธอต้องกลายเป็นแวมไพร์”

5 ฉากที่ทุกคนตั้งตารอดูใน The Twilight saga: Breaking dawn

ฉากแต่งงาน (Wedding Scene)คริสเต็น สจ๊วต - มัน เป็นช่วงเวลาที่ฉันประทับใจที่สุด มีตอนหนึ่งที่ฉันอยู่ในกองถ่าย และได้เห็นนักแสดงตั้งแต่ภาคแรกทุกคนนั่งอยู่บนม้านั่งในโบสถ์ เตรียมสวมบทเป็นแต่ละตัวละคร มันเป็นช่วงเวลาที่สมบูรณ์แบบ และทําให้ฉันรู้สึกตื้นตันใจจริง ๆ ฉันแทบอยากขอบคุณพวกเขาสําหรับการมาแทน เบลล่า เลย

ฉากฮันนีมูน (Honeymoon Scene)

บิล คอนดอน์ - นี่ คือช่วงเวลาที่มีความสุขของ เอ็ดเวิร์ด และ

เบลล่า ก่อนที่การกระทําของพวกเขาจะเปลี่ยนแปลงทุกสิ่ง ผม

คิดว่ามันสําคัญที่จะมอบความสุขแบบมนุษย์ให้ เบลล่า เป็นครั้ง

สุดท้าย นี่ยังเป็นประสบการณ์ที่ผมไม่เคยสัมผัสมาก่อน การไป

ถ่ายทําที่บราซิลเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยม เพราะนั้นคือสถานที่ สเตฟานี่

เมเยอร์ ตั้งใจเขียนเป็นฉากฮันนีมูน และการได้ไปถ่ายทําสถาน

ที่จริงก็เป็นเรื่องที่วิเศษ พวกเราค้นพบและไปถ่ายทําในสถานที่ที่

เธอเขียนไว้ในหนังสือ ผมอยากให้แฟน ๆ ทุกคนได้เห็นมันมีชีวิต

ขึ้นมาจริง ฉากเลิฟซีน (Love Scene)โรเบิร์ต แพททินสัน - เชื่อ หรือไม่ว่าก่อนถ่ายทําฉากนี้ ทั้งผมและ คริสเต็น แทบไม่ได้เตรียมตัวเลย พวกเราก็เข้ามาแสดงในฉากนี้ด้วยสมองที่ปลอดโปร่งที่สุด นักแสดงหลายคนพูดว่าฉากร่วมรักมักทําให้พวกเขาประหม่า... ซึ่งมันก็เกิดขึ้นผมและ คริสเต็น ถึงแม้ว่าเราจะคบกันในชีวิตจริง แต่เมื่อสวมบทเป็นตัวละครที่แฟน ๆเชียร์ให้รักกันมานานหลายปี มันก็ทําให้คุณรู้สึกกดดันแบบพูดไม่ถูกเหมือนกัน

C-MORE 31

ANONYMOUS.com

ANONYMOUS.com

www.movie.kapoog.com

Page 34: C-MORE MAGAZINE

ฉาก เจคอบ ตั้งวูล์ฟแพ็คใหม่ (New Wolf Pack Scene)เทย์เลอร์ เลาท์เนอร์ - ผม คิดว่านี่จะเป็นช่วงเวลาที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้ใหญ่ของ เจคอบ แน่นอนที่เขาต้องดิ้นรนกับสถานะของตัวเอง มันเป็นเรื่องที่ลําบาก เพราะเขาทุ่มเทความรักให้กับ เบลล่า แต่ก็ต้องหัวใจสลายเมื่อเธอไม่ได้เลือกเขา การกระทําของ เจคอบ แสดงให้เห็นว่าเขาเป็นคนที่เติบโตขึ้น และเรียนรู้ที่จะเป็นผู้นําฝูง ถ้านั้นหมายถึงการที่เขาต้องแยกจากพวกเดียวกันเอง

ฉากกําเนิด เรอเนสเม่ (Birth Scene)คริสเต็น สจ๊วต - สําหรับ ฉากเกิดของ เรเนสเม่ พวกเราอยากทําให้คนดูเห็นจากมุมมองของ เบลล่า ในขณะที่เธอกําลังนอนอยู่ตรงนั้น ทุกสิ่้งทุกอย่างที่เกิดขึ้นรอบตัวเธอ เราจะเห็นจากสายตาของ เบลล่า เธอมองขึ้น มองลง หรือส่ายหัวด้วยความเจ็บปวด ฉันคิดว่ามันเป็นการตัดสินใจที่ดี เพราะคุณจะได้สัมผัสประสบการณ์ของการคลอดทุกวินาที ยิ่งถ้าคุณได้อ่านหนังสือ คุณก็จะรู้ว่ามันเป็นช่วงเวลาที่ตื่นเต้นและบีบหัวใจที่สุด เราต้องการทําให้มันเป็นประสบการณ์ที่มีเลือดเนื้อ

ครั้งแรกกับการเปิดตัวลูกสาวของเอ็ดเวิร์ด และเบลล่าในพาร์ทแรกตัวละครสําคัญที่สุดสําหรับภาคนี้คือหนูน้อยเรเนสเม่ คัลเลน ลูกสาวของ เบลล่า และเอ็ดเวิร์ด ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นสงครามระหว่างครอบครัวคัลเลน กับกลุ่มแวมไพร์โวลตูรี ทีมงานได้ทําการคัดเลือกนักแสดงเด็กมากมาย จนมาลงตัวที่แม็คเคนซี่ ฟอย หนูน้อยวัย 10 ปี ซึ่งมีชื่อเสียงมาจากการถ่ายแบบ และโฆษณาให้สินค้ามากมาย ไม่ว่าจะเป็น Gap, Guess Kid, Burger’s King รวมถึงทีวีซีรี่ส์เรื่องดัง Charmed และ Good Day L.A. โดยถือเป็นครั้งแรกของเธอกับการแสดงทางจอเงิน ซึ่งกระแสจากสาวกทไวไลท์ต่างชื่นชมว่าเหมาะสมกับบทนี้

32 C-MORE

ANONYMOUS.com

variety.eduzones.com

spicemoviestv.blogspot.com

www.aimconsulting.co.th

Page 35: C-MORE MAGAZINE

TREND

180 bathC-MORE 33

Page 36: C-MORE MAGAZINE

34 C-MORE

180 bath

Page 37: C-MORE MAGAZINE

C-MORE 35

180 bathmovie.kapook.com

Page 38: C-MORE MAGAZINE

ชาวราศีเมษ (เกิดวันที่ 21 มีนาคม ถึง 20 เมษายน)การงานมีพลัง เต็มไปด้วยการริเริ่ม บุกเบิกการงานใหม่ๆ ชีวิตการงานไม่อับเฉา ต้องทำางานร่วมกันเป็นทีม แต่ระวังความขัดแย้งเพราะมุ่งแต่จะไปข้างหน้า การเงินยังฝืดๆ ต้องประหยัด โชคมักมาจากผลแห่งกรรมดีในอดีต ยามเดือดร้อนมีคน ช่วยเหลือแบบ ลับๆ ควรระวังปัญหา

บ้านช่อง รถราทรุดโทรม ความรักมักพลัดพราก ระวังความแตกแยก ห่างกันบ้างกลับกลายเป็นดี หากเป็นโสดดวงจะสมพงศ์กับคนสูงวัย ระวังปัญหาโรคไต และโรคจากการมีเพศสัมพันฑ์ทั้งหลาย

ชาวราศีพฤษภ (เกิดวันที่ 21 เมษายน ถึง 20 พฤษภาคม)การงานยังไร้ทิศทาง ขาดความชัดเจน งานที่ได้ผลดีมาจากงานทางปัญญา ศาสนา การใช้ความรู้ชั้นสูง งานติดต่อกับชาวต่างชาติ จะมีพัฒนาการที่ดี หุ้นส่วนเป็นที่ปรึกษาได้ดี การเงินควรเน้นหารายได้จากงานเสริม การเงินที่เคยฝืดจะ จะหวือหวาน่าประทับใจ ดวงความ

รักสดใส คู่ครองดี จะศึกษาเรียนรู้ร่วมกันจะหวานแหวว สุขสมอารมณ์หมาย ปีนี้อาจมีการจากไปของพี่ ๆน้องๆ ในครอบครัว ระวังสุขภาพจะป่วยไข้เรื้อรังจากโรคที่เกี่ยวกับเลือดกรรมพันธุ์ ระวังอันตรายจากอาวุธปืน ของร้อน เครื่องจักรกล

ชาวราศีมิถุน (เกิดวันที่ 21 พฤษภาคม ถึง 20 มิถุนายน)ปีนี้เหมาะสำาหรับการรื้อฟื้นงานเก่าๆ มาทำาใหม่ ดีกว่าริเริ่มบุกเบิกงานใหม่ เน้นงานของเก่า ของโบราณ ลูกค้าเก่าทำาให้ธุรกิจหมุนเวียนได้มาก ดวงการเงินขึ้นสูงสุด มีโชคทางการเงิน ผู้ใหญ่ คนดีๆ ให้ความช่วยเหลือ แต่ตนควรเลี่ยงการลงทุนทางการเงิน ระวังเรื่องเงินขาดมือ การช่วยเหลือการช่วยเหลือผู้อื่นบางครั้งกลายเป็นให้โทษ ต้องวางแผนการเงินให้รัดกุม ระวังการป่วยไข้ของคนรัก คู่ครอง มีคนรักใหม่มักมีมารผจญไม่ค่อยจะราบรื่น ใครที่ริรักเด็ก มีกิ๊ก ระวังเดือดร้อน สุขภาพระวังปัญหาจากโรคไต และการมีเพศสัมพันธ์โรคเกี่ยวกับเซลล์เนื้องอก ระวังอุบัติเหตุทางรถ เพราะดวงหากเกิดอุบัติเหตุจะเกิดซ้ำาแล้วซ้ำาอีก

ชาวราศีกรกฏ (เกิดวันที่ 21 มิถุนายน ถึง 20 กรกฏาคม)สภาพแวดล้อมไม่น่ารื่นรมย์ มีแต่เรื่องยุ่งๆ เข้ามา การงานมักพัวพันกับเพศตรงข้าม หุ้นส่วนมีการติดต่อสัมพันธ์มากมาย มักมีทิศทางน่าผิดหวัง งานที่นำาโชคเกี่ยวกับวิชาการ ความรู้ ต่างประเทศ สถานศึกษา ศาสนา ที่ปรึกษา การเงินไม่เด่นนัก ต้องหนักใจเรื่องบ้าน ที่ดินอสังหาริมทรัพย์ ควรระวังอันตรายจากฟื้นไฟ ให้มากกว่าเรื่องอื่น ความรักมีการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ มีความขัดแย้งการใช้ความรุแรงเข้าหากัน ต้องอดทน อดกลั้น ให้อภัย ควรระวังโรคภัยจากการติดเชื้อ โรคภูมิแพ้ มลพิษ และการวิเคราะห์โรคที่ผิดพลาด ทำาให้เป็นอะไรแล้วไม่ค่อยหาย

ชาวราศีสิงห์ (เกิดวันที่ 21 กรกฏาคม ถึง 20 สิงหาคม)ต้องทุ่มเทกับตัวงานที่รับผิดชอบ มีงานเข้ามาให้แก้ไขปัญหามากมาย ระวังความขัดแย้งรุนแรงกับบริวาร หุ้นส่วนมีลับลมคมใน ไม่น่าไว้ใจ ระวังศัตรูลับลอบแทงข้างหลัง การเงินมักมาจากเรื่องเก่าๆ ที่เคยทำาไว้จะกลับมาสนองผล หรือเหมาะที่จะหารายได้จากของเก่า ของโบราณ โหราศาสตร์ สิ่งเร้นลับ เครื่องราง

ของขลัง มีโชคทางการเงินจากมรดก พินัยกรรม การประกันภัยทั้งหลาย ความรักยังคลุมเครือ ต่างฝ่ายมีเรื่องปิดบังซ่อนเร้น แต่คนรักเข้ากับญาติมิตรได้ดี ระวังการป่วยไข้รุนแรง มีดวงอุบัติเหตุ การผ่าตัด ระวังภัยบนถนนให้มาก

ชาวราศีกันย์ (เกิดวันที่ 21 สิงหาคม ถึง 22 กันยายน)การงานต้องพัวพันกับงานรับเหมา การคาดการณ์ เก็งกำาไร หากินกับเด็กวัยรุ่น มีอะไรใหม่ๆ ออกมาตลอดทั้งปี ควรระวังการทุจริตของบริวาร ลูกน้อง งานพิเศษ ต้องเหนื่อยจึงได้มา เน้นทำาของเสียให้เป็นดีจึงจะให้คุณ หากินกับคนรากหญ้สจะดี การเงินมักมาจาก

หุ้นส่วน คนรัก เพศตรงข้าม มีโชคอย่างไม่คาดฝัน ผู้ใหญ่ให้การสนับสนุนเรื่องความรัก ชีวิตค แต่งงานแบบไม่ตั้งตัว สุขภาพระวังโรคติดเชื้อ ภูมิแพ้ อาการข้างเคียงจากยา สารเคมี หมอมักวิเคราะห์โรคผิดพลาด ต้องมีวิจารณญาณของตนเองด้วย

TRUE

36 C-MORE

Page 39: C-MORE MAGAZINE

ชาวราศีตุลย์ (เกิดวันที่ 23 กันยายน ถึง 20 ตุลาคม)ดวงมักพลัดพรากจากสภาพแวด ล้อม คนใกล้ชิด ของรัก ควรระวังอันตรายจากฟืนไฟ อาวุธ เครื่องจักร เป็นพิเศษ การงานดีสำาหรับงานกงสี งานที่ทำาอยู่บ้าน งานที่ร่วมกับญาติมิตร ยังได้ผลดีจากงานที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ บ้าน ที่ดิน รถยนต์ บริวาร ลูกน้องให้คุณ ด้านการเงินไปได้สวย ได้มาแบบ ง่ายๆใช้ปัญญานำา เครดิตดีจะขอสินเชื่อก็ไม่ยากเย็น ปล่อยกู้ก็ทำากำาไรดี ดวงความรัก คนรัก เพศตรงข้าม หุ้นส่วน ช่วยให้การเงินเป็นไปแบบง่ายๆ สบายๆ ระวังโรคตับ ปอด ก้อนเนื้อในลำาคอ เนื้องอกทั้งหลายโดยเฉพาะบริเวณอวัยวะเพศอวัยวะขับถ่าย

ชาวราศีพิจิก (เกิดวันที่ 21 ตุลาคม ถึง 20 พฤศจิกายน)การงานต้องเดินทางระยะใกล้ๆ ต้องวิ่งเต้นติดต่อ เจรจาอย่างต่อเนื่อง ได้พบผู้คนใหม่ๆ ตลอดเวลา หากมีหุ้นส่วนจะรู้สึกอีดอัดลำาบากใจ ทำาอะไรร่วมกันก็ยังใช้ความถี่ถ้วนลึกซึ้งเป็นพิเศษ การงาน มีการทำาเอกสารหรือเจรจาที่สำาคัญร่วมกับครอบครัวหมู่คณะ การเงินมักได้มา สมปรารถนาไม่คาดฝัน ดวงดีเรื่องการเสี่ยงโชคเก็งกำาไร ซื้อหวย เล่นหุ้น ความรักยังอึดอัด แต่ไม่เลวร้ายนัก คนรักมักเข้ามาพัวพันใกล้ชิด มีอะไรยังปรึกษาหารือได้ดี การเดินทางไกล ธุรกิจเกี่ยวกับต่างประเทศ มักมีปัญหาใหญ่เข้ามาให้แก้ไข ระวังการป่วยไข้เรื้อรังของอวัยวะบริเวณช่องท้อง ระบบเลือด ระบบสืบพันธุ์มีแนวโน้มผิดปกติเรื้อรัง

ชาวราศีธนู (เกิดวันที่ 21 พฤศจิกายน ถึง 20 ธันวาคม)งานคือเงิน เงินคืองาน งานมักมีเรื่องเงิน การลงทุน การหมุนเวียนทางการเงินเกี่ยวข้อง ทำาร่วมกับผู้อื่นถือว่ายังลื่นไหล ยิ่งขยันมาก ผลประโยชน์ รายได้ ก็จะมากเป็นเงาตามตัว แต่เนื้องานที่ต้องลงไปคลุกคลี ถือว่ายังเป็นภาระหนักอึ้ง ดวงมีโชคจากอสังหาริมทรัพย์ อาจได้

บ้าน ได้ที่ดิน รถยนต์ หรือทำาธุรกิจ เกี่ยวข้องกับสิ่งเหล่านี้ แต่รายได้เสริมกับฝืดต้องเหนื่อยกว่าจะได้มา ความรักมักเป็นไปแบบซ่อนเร้น ไม่เปิดเผย คนโสดมักมีรักแบบแอบซ่อน ไม่อยากให้ใครรู้ แต่หากมีครอบครัวแล้ว จะมีปัญหาเรื่องกิ๊ก เคราะห์มักเกิดกับผู้ใหญ่ใกล้ชิดเพศหญิง ตนเองควรระวังอันตรายทั้งหลายเกี่ยวกับน้ำา ล้วนมีอันตรายรุงแรง

ชาวราศีมังกร (เกิดวันที่ 21 ธันวาคมถึง 20 มกราคม)การงานคึกคัก มีแต่การเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ คนรอบข้างมีพลังพร้อมลุยงาน ทุกคนล้วนมุ่งไปข้างหน้าจนขาดการระวังหลัง ควรเพิ่มความถี่ถ้วนรอบคอบให้มากขึ้น ผลงานจะออกมาเป็นที่น่าประทับใจ งานด้านการสื่อสาร นายหน้า ตัวกลาง ตัวแทน การคิด การพูด

การเขียน ให้มากเป็นพิเศษ มิตรสหาย พี่น้องนำาโชค ระวังปัญหาจากเพศตรงข้ามและหุ้นส่วน จะทำาให้ลำาบากใจ งานจะหนักต้องอดทน อาศัยเวลาเป็นเครื่องช่วย จะประสบความสำาเร็จได้ในที่สุด การเงินยังไม่เด่นยังไม่แน่นอน หารายได้เสริมจากปัญญา ความรู้ จะรับทรัพย์แบบง่ายๆ เคราะห์มักเกิดขึ้นกับมิตรสหาย พี่น้องในครอบครัว เป็นเรื่องการป่วยไข้มากกว่าด้านอื่น

ชาวราศีกุมภ์ (เกิดวันที่ 21 มกราคม ถึง 20 กุมภาพันธ์)เหมาะกับงานที่อยู่หลังฉาก งานโรงงาน ห้องทดลอง งานที่ทำาโดดเดี่ยวมักไปได้ดี เพศตรงข้ามมักเข้ามาใกล้ชิดทำาให้ทำางานอย่างมีความสุข ระวังบริวารชอบทำาตัวเป็นนาย จะทำาให้อึดอัด การเงินเด่นเป็นพิเศษ จะเก็บออมมีรายได้ก้อนใหญ่ เข้ามาเป็นกอบเป็นกำา ดวงมักรับทรัพย์แบบฟลุคๆ ระวังอย่าปล่อยเงินกู้ ค้ำาประกันจะเดือดร้อน ความรักไปได้สวย หากยังโสดจะพบรักจากเพื่อนร่วมงาน ชีวิตครอบครัวเต็มไปด้วยการติดต่อและมีโชคจากกัน ระวังอันตรายจากที่สูง หากป่วยไข้อาการเรื้อรังและรุนแรง ระวังปัญหาเกี่ยวกับกระดูก หัวเข่าที่อาการหลบใน จะกลับมาแผลงฤทธิ์

ชาวราศีมีน (เกิดวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ถึง 20 มีนาคม)คนรอบข้างให้การช่วยเหลือดี มีโชคแบบฟลุคๆ ขอพรพระ สิ่งศักดิ์สิทธิ์จะสมหวังทุกประการ งานมุ่งเน้นงานเสริม งานพิเศษที่เข้ามามากมาย และเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา งานประจำายังไปได้ดี ดวงการเงินไม่เดือดร้อน ต้องระวังเรื่องการประกันภัย ที่มักเคลมได้ไม่ทันใจ ต้องรอคอย หากหวังเรื่องมรดกทำาให้ทุกข์ จะพบรักจะพบรักจากการเดินทางไกล ถูกชะตากับชาวต่างชาติ พบรักทางอินเตอร์เน็ต ระวังอันตรายเกี่ยวกับไฟ ความร้อน โรคกรรมพันธุ์ อาวุธปืน โรคเกี่ยวกับโลหิต

C-MORE 37

ดวงตามราศีประจำ�วันที่�1-15�ตุลาคม�2554

horoscope.mthai.com

Page 40: C-MORE MAGAZINE

38 C-MORE

Page 41: C-MORE MAGAZINE

SUPSCRIPTIONชื่อ________________________________________

นามสกลุ____________________________________

วันเกิด_____________________เพศ_____________

ที่อยู่_______________________________________

___________________________________________

___________________________________________

สถานที่จัดส่งนิตยสาร_________________________

___________________________________________

___________________________________________

โทรศัพท์บ้าน________________________________

โทรศัพท์ที่ทำางาน_____________________________

โทรศัพท์มืิอถือ_______________________________

e-mail______________________________________

อายุ ___ต่ำากว่า 20 ปี ___21-25 ปึ ___26-30ปึ

___31-35 ปี ___35 ปีขึ้นไป

การศึกษา___________________________________

อาชีพ______________________________________

ชอบดูหนังประเภทไหน________________________

ปกติดูหนังแบบ ___พากย์ไทย ___ซาวด์แทรค

สมัครสมาชิกประเภท

___6 เดือน 12 ฉบับ ราคา 900 บาท

เริ่มรับนิตยสารตั้งแต่ฉบับที่__________________

___12 เดือน 24 ฉบับ ราคา 1800 บาท

เริ่มรับนิตยสารตั้งแต่ฉบับที่__________________

___ชำาระด้วยเช็คธนาคาร

___ชำาระด้วยการโอนเงินผ่านบัญชีธนาคาร

ธนาคารกสิกรไทย สาขานางเลิ้ง

เลขที่บัญชี 062-2-39845-7

ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาอโศก

เลขที่บัญชี 111-2-34256-5

ธนาคารกรุงเทพ สาขาบางเขน

เลขที่บัญชี 161-2-45267-3

Promotionสมัครสมาชิกใหม่

รับบัตรชมภาพยนตร์จาก

MAJOR CINEPLEX

4 ที่นั่ง

C-MORE 39

Page 42: C-MORE MAGAZINE

STOCKLISTAgain & Again ที่ Market Place ซ.ทองหล่อ โทร.

08-9486-5359

Celine ชั้น G ศูนย์การค้าเกษร โทร. 0-2656-1045

Milin ชั้น 2 ดิ เอ็มโพเรียม โทร. 08-7001-9309

Evisu ชั้น 3 เซ็นทรัลชิดลม โทร. 0-2793-7777

Gap ชั้น 1 เซ็นทรัลเวิลด์ โทร. 0-2646-1849

Jogema ชั้น 2 เซ็นทรัลเวิลด์ โทร. 0-2646-1369

Asava และ ASV ชั้น 1 สยามพารากอน โทร.

0-2129-4366

Paul Smith ชั้น 1 สยามพารากอน โทร. 0-2610-

9700

Miss Sixty ชั้น 1 เซ็นทรัลเวิลด์ โทร. 0-2613-1036-7

J Shoes ชั้น M สยามพารากอน โทร. 0-2690-1000

Issue ชั้น 1 สยามพารากอน โทร. 0-2610-7862 ชั้น

2 ศูนย์การค้าเกษร โทร. 0-2656-1358

Sretsis ชั้น 2 ศูนย์การค้าเกษร โทร. 0-2656-1125

D&G ที่ Blackjack ชั้น 2 เอราวัณแบงค็อก โทร.

0-2250-7750

A|X Armani Exchange ชั้น G สยามดิสคัฟเวอรี่ โทร.

0-2658-0260-1

40 C-MORE

Page 43: C-MORE MAGAZINE
Page 44: C-MORE MAGAZINE