Basketball ตัดสิน
-
Upload
paradorn-pimpan -
Category
Sports
-
view
3.688 -
download
0
Transcript of Basketball ตัดสิน
เข้�าสู่��การเรยนสู่าระเทคน�คการตั�ดสู่�นบาสู่เกตับอลเข้�าสู่��การเรยนสู่าระเทคน�คการตั�ดสู่�นบาสู่เกตับอล
รองศาสู่ตัราจารย�เฉล�ยพิ�มพิ�นธุ์ �
เทคน�คการตั�ดสู่�นบาสู่เกตับอลเทคน�คการตั�ดสู่�นบาสู่เกตับอลเน!"อหาท�น$าเสู่นอประกอบด�วย 1. บทท�� ความสำาค�ญของการตั�ดสำ�นบาสำเกตับอล
2. บทท�� ค�ณล�กษณะท��ด�ของผู้��ตั�ดสำ�น 3. บทท�� อานาจและหน�าท��ของผู้��ตั�ดสำ�นบาสำเกตับอล
4. บทท�� การให�สำ�ญญาณของผู้��ตั�ดสำ�น 5. บทท�� หล�กการตั�ดสำ�นและการควบค�มการเล#น
บทท� 1 : ความสู่$าค�ญข้องการตั�ดสู่�นบาสู่เกตับอลบทท� 1 : ความสู่$าค�ญข้องการตั�ดสู่�นบาสู่เกตับอล
1. การพิ�ฒนาการเกมการเล�นและการตั�ดสู่�น- ดร.เจมสู่� เอ. ไนสู่ม�ท (James A. Naismith)- ถู�กบรรจ ในกฬาโอล�มป1กคร�"งท� 11 พิ.ศ.2479 กร งเบอร�ล�น ประเทศเยอรม�นน
2. หน�วยงานท�ก$าหนดมาตัรฐานการเล�นและกตั�กา- สู่หพิ�นธุ์�บาสู่เกตับอลนานาชาตั� (Federation International De Basketball Amateur)=(FIBA)มสู่มาช�กมากกว�า 157 ประเทศ
3. ผู้��ตั�ดสู่�นเป5นบ คคลสู่$าค�ญท�ท$าให�เกมสู่น กและย ตั�ธุ์รรม
เน!"อหาประกอบด�วย
สู่ร ปท�ายบทท� 1 ความสู่$าค�ญข้องการตั�ดสู่�นบาสู่เกตับอลสู่ร ปท�ายบทท� 1 ความสู่$าค�ญข้องการตั�ดสู่�นบาสู่เกตับอล
กฬาบาสู่เกตับอล เป5นกฬาท�ได�ร�บความน�ยมท��วโลก โดยมสู่หพิ�นธุ์�บาสู่เกตับอลนานาชาตั�สู่น�บสู่น นสู่�งเสู่ร�มและควบค ม
ปั%ญหาและอ�ปัสำรรคสำาค�ญปัระการหน&�งของการดาเน�นงาน ค'อ ค�ณภาพของผู้��ตั�ดสำ�นท��ยั�งไม#ได�มาตัรฐาน ว�ธี�การแก�ปั%ญหาว�ธี�หน&�ง ค'อ
การให�ความร� �เร'�องกฎกตั�กา และเทคน�คการตั�ดสำ�นอยั#างถู�กตั�อง โดยั ว�ธี�การศึ&กษา จ�ดการสำ�มมนาเชิ�งปัฏิ�บ�ตั�การ แล�วนาไปัฝึ5กปัฏิ�บ�ตั�อยั#าง
จร�งจ�ง ภายัใตั�การควบค�มด�แลของหน#วยังานท��ร �บผู้�ดชิอบ ก6จะชิ#วยัลดปั%ญหาด�านค�ณภาพและความขาดแคลนผู้��ตั�ดสำ�นได�
ทดสำอบ
1. ค ณล�กษณะพิ!"นฐานท�ดข้องผู้��ตั�ดสู่�น1. ค ณล�กษณะพิ!"นฐานท�ดข้องผู้��ตั�ดสู่�น
บทท� 2 : ค ณล�กษณะท�ดข้องผู้��ตั�ดสู่�นบทท� 2 : ค ณล�กษณะท�ดข้องผู้��ตั�ดสู่�น
2. ค ณล�กษณะพิ�เศษข้องตั�ดสู่�นผู้��ตั�ดสู่�น2. ค ณล�กษณะพิ�เศษข้องตั�ดสู่�นผู้��ตั�ดสู่�น
สู่ร ปท�ายบทท� 2 ค ณล�กษณะท�ดข้องผู้��ตั�ดสู่�นสู่ร ปท�ายบทท� 2 ค ณล�กษณะท�ดข้องผู้��ตั�ดสู่�น
เน!"อหาประกอบด�วย
1.ค ณล�กษณะพิ!"นฐานท�ดข้องผู้��ตั�ดสู่�น1.ค ณล�กษณะพิ!"นฐานท�ดข้องผู้��ตั�ดสู่�น
11. ความม �งม��นในผู้ลงานข้องตันเอง 12 สู่ามารถูควบค มอารมณ� 13 มความตัรงตั�อเวลา 14 อดทนเม!�อมอ ปสู่รรค 15 มความย ตั�ธุ์รรม 16 มความศร�ทธุ์าในการเป5นผู้��ตั�ดสู่�น 17 มพิฤตั�กรรมท�เป5นประชาธุ์�ปไตัย
18 ซื่!�อสู่�ตัย�ตั�อการปฏิ�บ�ตั�หน�าท� 19 ปฏิ�บ�ตั�ตัามกฎระเบยบ
110 มความประพิฤตั�ด111. มความตั�"งใจในการปฏิ�บ�ตั�หน�าท�
112. มความสู่ ภาพิเรยบร�อย 113. มมน ษย�สู่�มพิ�นธุ์�ด 114. มสู่ ข้ภาพิร�างกายแข้=งแรง
21. มความร��ในกตั�กา และเจตันารมณ�ข้องกตั�กา
22. ตั�องฝึ?กการให�สู่�ญญาณ 23 ฉลาดในการตั�ดสู่�นเพิ!�อให�เกมสู่น ก 24 แตั�งกายด�วยช ดสู่ ภาพิ 25 ตั�องย@ดแนวปฏิ�บ�ตั�ท�เป5นสู่ากล 26 แสู่วงหาความร��กตั�กาท�เปล�ยนแปลงอย��
เสู่มอ
2. ค ณล�กษณะพิ�เศษข้องผู้��ตั�ดสู่�น2. ค ณล�กษณะพิ�เศษข้องผู้��ตั�ดสู่�น
Fairness Firmness
สู่ร ปท�ายบทท� 2 ค ณล�กษณะท�ดข้องผู้��ตั�ดสู่�นสู่ร ปท�ายบทท� 2 ค ณล�กษณะท�ดข้องผู้��ตั�ดสู่�น
Fitness
บทท� 3 อ$านาจและหน�าท�ข้องผู้��ตั�ดสู่�นบาสู่เกตับอล บทท� 3 อ$านาจและหน�าท�ข้องผู้��ตั�ดสู่�นบาสู่เกตับอล
4. สู่ร ปท�ายบทท� 3 อ$านาจหน�าท� ข้องผู้��ตั�ดสู่�นบาสู่เกตับอล
1. ความน$า2. อ$านาจหน�าท�ข้องผู้��ตั�ดสู่�น3. การปฏิ�บ�ตั�ตันข้องผู้��ตั�ดสู่�น
เน!"อหาประกอบด�วย
ผู้��ตั�ดสู่�นบาสู่เกตับอลประกอบด�วย ผู้��ตั�ดสู่�น - 23 คน ค!อ ผู้��ตั�ดสู่�นท�หน@�ง (Referee) 1 คน และผู้��ตั�ดสู่�นท�สู่อง ( Umpire ) -12 คน ท$าหน�าท�อย��ในสู่นามแข้�งข้�น และ
มเจ�าหน�าท�ประจ$าโตัAะการแข้�งข้�นเป5นผู้��ช�วยได�แก� 1. ผู้��บ�นท@กการแข้�งข้�น(Scorer)และผู้��ช�วย
2. ผู้��จ�บเวลา (Timekeeper)3. ผู้��จ�บเวลา 24 ว�นาท(24-second operator)
1. ความน$า
1. แข้�งข้�นให�เป5นไปตัามกตั�กา ไม�มสู่�ทธุ์�ไปเปล�ยนแปลงกตั�กา2. ใช�ความสู่ามารถูสู่�งสู่ ดในการตั�ดสู่�นท กคร�"ง3. ตั�ดสู่�นด�วยความย ตั�ธุ์รรม4. มอ$านาจก�อนการเร��มแข้�งข้�น 20 นาท5. มอ$านาจในการตั�ดสู่�นการกระท$าผู้�ดกตั�กาท�"งในและนอกสู่นาม6. ตั�องเปBานกหวดพิร�อมก�บให�สู่�ญญาณม!อ
A.ท��วไป
2. อ$านาจหน�าท�ข้องผู้��ตั�ดสู่�น
7.ตั�องแสู่ดงสู่�ญญาณม!อ เม!�อมการย�งประตั�ได�คะแนน โดยไม�ตั�องเปBานกหวด
8 . ตั�องเปล�ยนตั$าแหน�งท กคร�"งหล�งจากข้านฟาวล�ในแดนหน�า หร!อตัามความจ$าเป5น
9 . ไม�มอ$านาจในการโตั�แย�งการตั�ดสู่�นข้องผู้��ตั�ดสู่�นอกคน10.การแข้�งข้�นระด�บนานาชาตั�ตั�องสู่!�อสู่ารด�วยภาษาอ�งกฤษ
2. อ$านาจหน�าท�ข้องผู้��ตั�ดสู่�น
B.เฉพิาะผู้��ตั�ดสู่�นท�หน@�งเท�าน�"น1. ตัรวจสู่อบอ ปกรณ�การแข้�งข้�นว�าถู�กตั�องตัามกตั�กาหร!อไม�2. ประสู่านงานก�บเจ�าหน�าท�ประจ$าโตัAะการแข้�งข้�น3. ไม�อน ญาตัให�ผู้��เล�นสู่วมใสู่�อ ปกรณ�ท�อาจก�ออ�นตัรายก�บ ผู้��เล�น4 . เป5นผู้��ด$าเน�นการเล�นล�กกระโดดเร��มเล�นข้องท กช�วงเวลา5 . เป5นผู้��ช"ข้าดการได�ประตั�หร!อไม�ในกรณท�มความเห=นข้�ด แย�งก�น
2. อ$านาจหน�าท�ข้องผู้��ตั�ดสู่�น
6 . ให�หย ดการแข้�งข้�น หร!อปร�บทมให�แพิ�7. ช"ข้าดเม!�อผู้��บ�นท@กก�บผู้��จ�บเวลาข้�ดแย�งก�น8. ตัรวจสู่อบความถู�กตั�องข้องการบ�นท@กการแข้�งข้�นอย�าง รอบคอบ ร�บรองคะแนนและเวลาท�เหล!อ ในกรณข้�ด แย�งก�น
2. อ$านาจหน�าท�ข้องผู้��ตั�ดสู่�น
9. ลงนามร�บรองผู้ลการแข้�งข้�นในใบบ�นท@กการแข้�งข้�นเม!�อ การแข้�งข้�นเสู่ร=จสู่�"นลง10. บ�นท@กเหตั การณ�ลงในใบบ�นท@กการแข้�งข้�น ถู�าผู้��เล�นผู้�� ฝึ?กสู่อนผู้��ตั�ดตัามทมแสู่ดงออกไม�มน$"าใจน�กกฬา11. มอ$านาจตั�ดสู่�นสู่��งตั�าง ๆ ท�ไม�ได�ระบ ไว�ในกตั�กา
2. อ$านาจหน�าท�ข้องผู้��ตั�ดสู่�น
แตั�ตั�องอย��ในเง!�อนไข้เวลาและเหตั การณ�ด�งน"
C.การแก�ไข้ข้�อผู้�ดพิลาดผู้��ตั�ดสู่�นสู่ามารถูแก�ไข้ข้�อผู้�ดพิลาดได� เช�น จ$านวนฟาวล�บ คคล หร!อจ$านวนฟาวล�ทมข้องท�ผู้�ด การแจ�งฟาวล�ท�ผู้�ดพิลาด ให�คะแนนผู้�ดข้�าง ผู้�ดตั�วผู้��ท�ได�โยนโทษ ผู้�ดฝึBายท�ได�ครอบครองบอล หร!อเวลาเด�นไม�ตัรง เป5นตั�น
2. อ$านาจหน�าท�ข้องผู้��ตั�ดสู่�น
START
แก�ไข้ได�แก�ไข้ไม�ได�
บอลตัายนาฬิ�กาหย ดเด�น
มข้�อผู้�ดพิลาดเก�ดข้@"น บอลเข้�าสู่��การเล�น
บอลดนาฬิ�กาเด�นบอลเข้�าสู่��การเล�น
บอลตัายนาฬิ�กาหย ดเด�น
บอลดนาฬิ�กาเด�น
2. อ$านาจหน�าท�ข้องผู้��ตั�ดสู่�น
ก�อนฤด�กาลแข้�งข้�น
1. ตัรวจสู่ ข้ภาพิ และเสู่ร�มสู่ร�างสู่มรรถูภาพิอย��เสู่มอ2. ทบทวนกตั�กาอย�างละเอยด3. ฝึ?กการให�สู่�ญญาณนกหว / สู่�ญญาณม!อให�คล�อง4. ฝึ?กตั�ดสู่�นเป5นประจ$าก�บเกมท�ไม�เป5นทางการก�อนแล�ว ค�อย ๆ เล!�อนช�"น
3. การปฏิ�บ�ตั�ตันข้องผู้��ตั�ดสู่�น
5. เข้�าประช มสู่�มมนากตั�กาให�ท�นสู่ม�ยอย��เสู่มอ6. จ�ดเตัรยมอ ปกรณ�สู่�วนตั�วให�พิร�อมด�งน" 61. เสู่!"อเช�"ตัสู่เทาอย�างน�อย 2 ตั�ว 62. กางเกงข้ายาวสู่ด$า เข้=มข้�ดสู่ด$า 63. รองเท�าหน�งพิ!"นยางหร!อรองเท�ากฬาสู่ด$า 64. ถู งเท�าชน�ดหนาและอ�อนน �ม
3. การปฏิ�บ�ตั�ตันข้องผู้��ตั�ดสู่�น
65. ผู้�าเช=ดหน�า อย�างน�อย 2 ผู้!น 66. นกหวด ควรมอย�างน�อย 2 ตั�ว มสู่ายคล�องคอสู่ด$า
1. บ�นท@กเตั!อนความจ$า ว�นเวลา และสู่ถูานแข้�งข้�น2. ร�กษาสู่ ข้ภาพิ ไม�นอนด@ก ไม�ด!�มข้องม@นเมา3 . ทบทวนกตั�กา
ก�อนว�นตั�ดสู่�น
3. การปฏิ�บ�ตั�ตันข้องผู้��ตั�ดสู่�น
4. จ�ดเตัรยมอ ปกรณ�การตั�ดสู่�นให�พิร�อม ล�วงหน�า ถู�าไม� ครบจะได�จ�ดหาได�ท�น โดยเฉพิาะนกหวด5 . จะด�วยเหตั ผู้ลใดก=ตัาม ถู�าไม�สู่ามารถูไปตั�ดสู่�นได�ตั�องแจ�ง กรรมการจ�ดการแข้�งข้�นหร!อเจ�าภาพิทราบล�วงหน�าถู@งเวลา การแข้�งข้�นในสู่�จ�บ�ตัร ไม�น�อยกว�า 48 ช��วโมง
3. การปฏิ�บ�ตั�ตันข้องผู้��ตั�ดสู่�น
ก�อนว�นตั�ดสู่�น
1. ก�อนการเด�นทางไปสู่นามแข้�งข้�นตัรวจอ ปกรณ� และเคร!�องแตั�งตั�วอกคร�"งหน@�ง 2. ควรถู@งสู่นามก�อนเวลาแข้�งข้�นอย�างน�อย 1 ช��วโมง และแจ�งให�ฝึBายจ�ดการแข้�งข้�นทราบด�วย
ว�นท$าการแข้�งข้�น
ก�อนถู@งเวลาการแข้�งข้�น
3. การปฏิ�บ�ตั�ตันข้องผู้��ตั�ดสู่�น
3. เปล�ยนเคร!�องแตั�งตั�วท�นท
3. การปฏิ�บ�ตั�ตันข้องผู้��ตั�ดสู่�น
4. ผู้��ตั�ดสู่�นควรซื่�กซื่�อมหร!อทบทวนแนวปฏิ�บ�ตั�ร�วมก�น
3. การปฏิ�บ�ตั�ตันข้องผู้��ตั�ดสู่�น
5. ท$าการอบอ �นร�างกาย ย!ดเสู่�นย!ดสู่าย
3. การปฏิ�บ�ตั�ตันข้องผู้��ตั�ดสู่�น
6. ผู้��ตั�ดสู่�นควรลงสู่นามพิร�อมก�นก�อนถู@งเวลาการแข้�งข้�น อย�างน�อย 20 นาท
3. การปฏิ�บ�ตั�ตันข้องผู้��ตั�ดสู่�น
7. สู่$ารวจสู่นามและอ ปกรณ�
8. ท$าความร��จ�ก และสู่นทนาก�บเจ�าหน�าท�ประจ$าโตัAะการแข้�งข้�น
3. การปฏิ�บ�ตั�ตันข้องผู้��ตั�ดสู่�น
( ปล�อยล�กบอลสู่�ง 1.80 เมตัร ตั�องเด�งข้@"นมาไม� น�อยกว�า 1.20-1.40 เมตัร)
9. ทดสู่อบความแข้=งข้องล�กบอลว�าได�มาตัรฐานหร!อไม�
3. การปฏิ�บ�ตั�ตันข้องผู้��ตั�ดสู่�น
10. ข้ณะท�น�กกฬาอบอ �นร�างกายตั�องคอยสู่�งเกตัพิฤตั�กรรม ข้อง ผู้��เล�น ผู้��ฝึ?กสู่อนหร!อผู้��ตั�ดตัามทม โดยเฉพิาะการโน�มห�วง
3. การปฏิ�บ�ตั�ตันข้องผู้��ตั�ดสู่�น
11. ก�อนถู@งเวลาการแข้�งข้�น 20 นาท ตั�องให�เสู่�ยงเล!อกแดน (ยกเว�นทมเยยน-เหย�า ) ผู้��ฝึ?กสู่อนสู่�งรายช!�อน�กกฬาและ 10 นาทก�อนแข้�งข้�น ตั�องให�ผู้��ฝึ?ก ย!นย�นรายช!�อผู้��เล�น 5 คนแรกข้องทม
3. การปฏิ�บ�ตั�ตันข้องผู้��ตั�ดสู่�น
12. ให�เวลาสู่$าหร�บพิ�ธุ์การ 6นาท ก�อนการแข้�งข้�น
3. การปฏิ�บ�ตั�ตันข้องผู้��ตั�ดสู่�น
13. แจ�งเวลาเหล!อ 3 นาท และ1 นาท ก�อนท$าการแข้�งข้�น
ตั�องระม�ดระว�งบ คล�กภาพิให�ดท�สู่ ด เพิราะเป5นนาทระท@กใจ
3. การปฏิ�บ�ตั�ตันข้องผู้��ตั�ดสู่�น
1. เด=ดข้าดแตั�สู่ ภาพิ2. ไม�ควรเปล�ยนค$าตั�ดสู่�น3. ACTIVE ตัลอดเวลา ให�สู่�ญญาณช�ดเจน4. การน�บเวลาในใจตัามกตั�กา ตั�องแม�น 35( , และ 8 ว�นาท)
5. สู่ามารถูเตั!อนผู้��เล�นได�เท�าท�จ$าเป5น ( ให�พิ�จารณา ระด�บทม)
3. การปฏิ�บ�ตั�ตันข้องผู้��ตั�ดสู่�น
ข้ณะท$าการแข้�งข้�น
6. เคล!�อนตั�วให�อย��ในตั$าแหน�งความร�บผู้�ดชอบ ข้องตันโดยเร=ว
7. อย�าค�ดว�าตั�วเองเป5นพิระเอก ตั�องให�เกยรตั� ผู้��ตั�ดสู่�นอกคน
8. ถู�ามการข้อเวลานอกตั�องแจ�งจ$านวนคร�"งข้อง การข้อเวลานอกให�ทมท�ข้อทราบ ตั�องจ$าฝึBาย ท�จะได�สู่�งบอล หร!อผู้��เล�นคนใดจะตั�องโยนโทษ หร!อเล�นล�กกระโดด
3. การปฏิ�บ�ตั�ตันข้องผู้��ตั�ดสู่�น
9. จ�บล�กบอลไว�ก�อน ก�อนท�จะย!�นให�ผู้��เล�น อย�าแตัะเป5นพิ�ธุ์10. ไม�แน�ใจว�าฝึBายใดได�สู่�งบอลให�มองไปท�ผู้��ตั�ดสู่�นอกคน
11. ตั�องร��ท�นกลโกง หร!อ ช�"นเช�งท�ผู้��เล�นจะน$ามาใช�
12. ข้ณะท�ข้อเวลานอกผู้��ตั�ดสู่�นตั�องย!นให�ถู�กตั$าแหน�งท� ก$าหนด
13. ถู�าตั�ดสู่�นข้�ดแย�งก�น ให�ด�ผู้��ตั�ดสู่�นท�หน@�งก�อน
14. ถู�าระบ โทษตั�างก�นให�เอาโทษท�หน�กกว�า
3. การปฏิ�บ�ตั�ตันข้องผู้��ตั�ดสู่�น
หล�งเสู่ร=จสู่�"นการแข้�งข้�นแล�ว1. ตัรวจสู่อบความถู�กตั�องในใบบ�นท@ก
การแข้�งข้�น2. ลงนามร�บรอง3. ไม�ตั�องรอร�บการข้อบค ณ หร!อสู่นทนา หร!อแสู่ดง ความย�นด4. เม!�อถู�กข้อร�องให�อธุ์�บาย ตั�องอธุ์�บายด�วยสู่ ภาพิ และ เป5นจร�ง5. ไม�เป5นคนให�ข้�าว หร!อว�พิากษ�ว�จารณ�ผู้ลการแข้�งข้�น
3. การปฏิ�บ�ตั�ตันข้องผู้��ตั�ดสู่�น
4. สู่ร ปท�ายบทท� 3 อ$านาจหน�าท�ข้องผู้��ตั�ดสู่�นบาสู่เกตับอล
อ$านาจหน�าท�ข้องผู้��ตั�ดสู่�น ตัามกตั�กาสู่หพิ�นธุ์�บาสู่เกตับอลนานาชาตั�ก$าหนดไว� มความม �งหมายเพิ!�อให�การแข้�งข้�นอย��ภายใตั�กฎการแข้�งข้�น ผู้��ตั�ดสู่�นตั�องร�กษา และด$าเน�นการให�เป5นไปตัามน�"น เพิ!�อความเป5นธุ์รรมแก�ค��แข้�งข้�น ด�งน�"นผู้��ตั�ดสู่�นตั�องปฏิ�บ�ตั�หน�าท�อย�างเตั=มความสู่ามารถู ประสู่านและช�วยเหล!อก�นตัลอดเวลา โดยมอ$านาจในการตั�ดสู่�นก�อนถู@งเวลาแข้�งข้�นจะเร��มข้@"น 20 นาท และสู่�"นสู่ ดเม!�อผู้��ตั�ดสู่�นได�ลงนามในใบบ�นท@กการแข้�งข้�นแล�ว
ข้�อผู้�ดพิลาดในการปฏิ�บ�ตั�หน�าท�ข้องผู้��ตั�ดสู่�น หร!อเจ�าหน�าทประจ$าโตัAะการแข้�งข้�น
สู่ามารถูแก�ไข้ให�ถู�กตั�องได� แตั�ตั�องอย��ในเง!�อนไข้เวลาหร!อเหตั การณ�ท�ก$าหนดไว� ถู�าผู้�านพิ�นไปแล�วจะแก�ไข้ไม�ได� ผู้��ตั�ดสู่�นจะตั�องปฏิ�บ�ตั�ตันเองด�งน"
1. ก�อนฤด�กาลแข้�งข้�น ตั�องเตัรยมร�างกาย และฝึ?ก การตั�ดสู่�น
2. ก�อนว�นไปตั�ดสู่�น ตั�องเตัรยมอ ปกรณ�ให�พิร�อม
3. ว�นท$าการแข้�งข้�น ตั�องถู@งสู่นามแข้�งข้�นไม�น�อยกว�า 1 ช��วโมง
4. สู่ร ปท�ายบทท� 3 อ$านาจหน�าท�ข้องผู้��ตั�ดสู่�นบาสู่เกตับอล
บทท� 4. การให�สู่�ญญาณข้องผู้��ตั�ดสู่�น
4. สู่ร ปท�ายบทท� 4 การให�สู่�ญญาณข้องผู้��ตั�ดสู่�น
1. ความน$า2. การให�สู่�ญญาณนกหวด
3. การให�สู่�ญญาณม!อ
การให�สู่�ญญาณข้องผู้��ตั�ดสู่�นแบ�งเป5น 2 ชน�ด ค!อ การให�สู่�ญญาณนกหวด และการให�สู่�ญญาณม!อ ผู้��ตั�ดสู่�นม�กจะกระท$าตั�อเน!�องก�น โดยเร��มจากการให�สู่�ญญาณนกหวดก�อน แล�วตัามด�วยสู่�ญญาณม!อ ผู้��เล�น ผู้��ฝึ?กสู่อนและ เจ�าหน�าท�ประจ$าโตัAะการแข้�งข้�น ตั�องเอาใจใสู่�ก�บสู่�ญญาณเหล�าน" เพิ!�อประโยชน�ตั�อการปฏิ�บ�ตั�หน�าท� และการแข้�งข้�น
1. ความน$า
1. สู่วมสู่ายนกหวดคล�องคอให�เรยบร�อยก�อนเสู่มอ2. คาบนกหวดไว�ก�อนท�บอลเข้�าสู่��การเล�น (Ball goes into play)3. อย�าคาบนกหวดล@กเก�นไป เพิยงใช�ฟFนหน�าและร�มฝึGปากคาบ เท�าน�"น4. ก�อนเปBาให�สู่�ดลมหายใจ แล�วเปBาออกตัามสู่�ญญาณเสู่ยงท� ตั�องการ5. เปBาไปแล�ว ถู�าย�งไม�ใช�ท�นท ให�ปล�อยนกหวดออกก�อน
หล�กปฏิ�บ�ตั�
2. การให�สู่�ญญาณนกหวด
7. ให�สู่�ญญาณนกหวดท กคร�"งตั�องเป5นเสู่ยงเดยว ( เสู่ยงยาว ธุ์รรมดาสู่$าหร�บการผู้�ดระเบยบ การข้อเวลานอก และ การข้อเปล�ยนตั�ว เสู่ยงยาวหน�กแน�นสู่$าหร�บการฟาวล� เสู่ยงสู่�"นหน�กแน�นสู่$าหร�บล�กบอลออกจากสู่นาม8. ตั�องฝึ?กเปBาให�เคยช�น และช$านาญ9. อย�าให�สู่�ญญาณนกหวดโดยไม�จ$าเป5น
2. การให�สู่�ญญาณนกหวด
1. Scoring
3. การให�สู่�ญญาณม!อ
2. Clock - Related
3. การให�สู่�ญญาณม!อ
3. Administrative
3. การให�สู่�ญญาณม!อ
4. Violations
3. การให�สู่�ญญาณม!อ
4. Violations
3. การให�สู่�ญญาณม!อ
4. Violations
3. การให�สู่�ญญาณม!อ
5. Reporting a foul to the Scorer’s table ( 3 step) Step 1 : Number of player
3. การให�สู่�ญญาณม!อ
5. Reporting a foul to the Scorer’s table ( 3 step) Step 1 : Number of player
3. การให�สู่�ญญาณม!อ
3. การให�สู่�ญญาณม!อ
5. Reporting a foul to the Scorer’s table ( 3 step) Step 1 : Number of player
5. Reporting a foul to the Scorer’s table ( 3 step) Step 2 : Type of foul
3. การให�สู่�ญญาณม!อ
5. Reporting a foul to the Scorer’s table ( 3 step) Step 2 : Type of foul
3. การให�สู่�ญญาณม!อ
3. การให�สู่�ญญาณม!อ
5. Reporting a foul to the Scorer’s table ( 3 step) Step 2 : Type of foul
3. การให�สู่�ญญาณม!อ
5. Reporting a foul to the Scorer’s table ( 3 step) Step 3 : Number of Free-throw(s) awarded
หร!อ
6. Free-Throw Administration ( 2 Steps) Step 1 : In Restricted area
3. การให�สู่�ญญาณม!อ
6. Free-Throw Administration ( 2 Steps) Step 2 : Outside the Restricted area
3. การให�สู่�ญญาณม!อ
การให�สู่�ญญาณข้องผู้��ตั�ดสู่�นบาสู่เกตับอล ม 2 ชน�ด ค!อ
1. การให�สู่�ญญาณนกหวด2. การให�สู่�ญญาณม!อท�"งสู่องสู่�ญญาณน"ม�กจะกระท$าควบค��
ก�น โดยเร��มจากสู่�ญญาณนกหวดก�อน แล�วตัามด�วยสู่�ญญาณม!อ
4. สู่ร ปท�ายบทท� 4 การให�สู่�ญญาณข้องผู้��ตั�ดสู่�น
บทท� 5 : หล�กการตั�ดสู่�นและการควบค มการเล�น
เน!"อหาประกอบด�วย
1. ความน$า1. ความน$า2. หล�กการตั�ดสู่�นบาสู่เกตับอล2. หล�กการตั�ดสู่�นบาสู่เกตับอล
3. การควบค มการเล�นบาสู่เกตับอล3. การควบค มการเล�นบาสู่เกตับอล
การท$าหน�าท�เป5นกรรมการผู้��ตั�ดสู่�นบาสู่เกตับอลได�อย�างดเย�ยม น�บเป5นเร!�อง
สู่$าค�ญท�จะช�วยให�คนห�นมาน�ยมกฬาบาสู่เกตับอลย��งข้@"น ข้ณะเดยวก�น ผู้��ตั�ดสู่�นก=จะได�ร�บการยอมร�บจากผู้��เล�น ผู้��ฝึ?กสู่อน คนด�และผู้��ท�เก�ยวข้�องมากย��งข้@"นด�วย ถู!อเป5นความภาคภ�ม�ใจ และเกยรตั�ท�ได�ร�บอย�างสู่�งสู่ ด เพิ!�อให�ผู้��ตั�ดสู่�นได�มโอกาสู่บรรล เปHาหมายด�งกล�าว ผู้��
ตั�ดสู่�นตั�องเข้�าใจหล�กการตั�ดสู่�น และการควบค มการเล�นอย�างถู�องแท�เสู่ยก�อน แล�วน$า
ไปปฏิ�บ�ตั�ให�เก�ดความถู�กตั�อง และช$านาญ
1. ความน$า1. ความน$า
1. ตั�องร�วมม!อและช�วยเหล!อก�นตัลอดเวลา2. ตั�องตั�ดสู่�นด�วยความเฉยบข้าดและแน�นอนไม�ล�งเลใจ3. ตั�องเคล!�อนท�และเปล�ยนตั$าแหน�งตัามท� FIBA ก$าหนด4. ตั�องพิยายามให�การแข้�งข้�นสู่น ก เพิราะคนด�ตั�องการด�เกม แข้�งข้�น มากกว�าด�ผู้��ตั�ดสู่�น5. ตั�ดสู่�นให�ท�นเกม อย�าปล�อยให�เก�ดการเล�นท�ร นแรง
2. หล�กการตั�ดสู่�นบาสู่เกตับอล2. หล�กการตั�ดสู่�นบาสู่เกตับอล
1. การเร��มเล�น
3. การควบค มการเล�นบาสู่เกตับอล3. การควบค มการเล�นบาสู่เกตับอล
1 2
3. การควบค มการเล�นบาสู่เกตับอล3. การควบค มการเล�นบาสู่เกตับอล
2. การด$าเน�นการเล�นล�กกระโดด
3 4
2. การด$าเน�นการเล�นล�ก กระโดด (ตั�อ)
3. การควบค มการเล�นบาสู่เกตับอล3. การควบค มการเล�นบาสู่เกตับอล
3. ท�ศทางการว��งข้องผู้��ตั�ดสู่�นภายหล�งการเล�นล�กกระโดด
1. เล�นท�วงกลมกลาง ถู�าบอลร กไปทางข้วาม!อ
3. การควบค มการเล�นบาสู่เกตับอล3. การควบค มการเล�นบาสู่เกตับอล
3. การควบค มการเล�นบาสู่เกตับอล3. การควบค มการเล�นบาสู่เกตับอล
4. ถู�าบอลร กไปทางข้วาม!อ (ตั�อเน!�อง)
3. ท�ศทางการว��งข้องผู้��ตั�ดสู่�นภายหล�งการเล�นล�กกระโดด
3. การควบค มการเล�นบาสู่เกตับอล3. การควบค มการเล�นบาสู่เกตับอล
4. ถู�าบอลร กไปทางซื่�ายม!อ
3. ท�ศทางการว��งข้องผู้��ตั�ดสู่�นภายหล�งการเล�นล�กกระโดด
3. การควบค มการเล�นบาสู่เกตับอล3. การควบค มการเล�นบาสู่เกตับอล
4. ถู�าบอลร กไปทางซื่�ายม!อ (ตั�อเน!�อง)
3. ท�ศทางการว��งข้องผู้��ตั�ดสู่�นภายหล�งการเล�นล�กกระโดด
4. ตั$าแหน�งการย!น และความร�บผู้�ดชอบ
3. การควบค มการเล�นบาสู่เกตับอล3. การควบค มการเล�นบาสู่เกตับอล
5. พิ!"นท�เข้ตัความร�บผู้�ดชอบข้องผู้��ตั�ดสู่�น เม!�อบอลอย��แดนหน�า แบ�งเป5น 6 เข้ตัด�งน"
3. การควบค มการเล�นบาสู่เกตับอล3. การควบค มการเล�นบาสู่เกตับอล
3. การควบค มการเล�นบาสู่เกตับอล3. การควบค มการเล�นบาสู่เกตับอล
6. ตั$าแหน�งการย!น และความ ร�บผู้�ดชอบข้องผู้��ตั�ดสู่�นตัาม (Trail official)
3. การควบค มการเล�นบาสู่เกตับอล3. การควบค มการเล�นบาสู่เกตับอล
6. ตั$าแหน�งการย!น และความ ร�บผู้�ดชอบข้องผู้��ตั�ดสู่�นตัาม (Trail official)(ตั�อ)
7. ตั$าแหน�งการย!นและความร�บผู้�ดชอบข้องผู้��ตั�ดสู่�นตัาม (Trail official)
ผู้��ตั�ดสู่�นตัามร�บผู้�ดชอบร�วมก�บผู้��ตั�ดสู่�นน$าในเข้ตัสู่เทาเข้�ม
3. การควบค มการเล�นบาสู่เกตับอล3. การควบค มการเล�นบาสู่เกตับอล
7. ตั$าแหน�งการย!น และความ ร�บผู้�ดชอบข้องผู้��ตั�ดสู่�นน$า (Lead official)
3. การควบค มการเล�นบาสู่เกตับอล3. การควบค มการเล�นบาสู่เกตับอล
3. การควบค มการเล�นบาสู่เกตับอล3. การควบค มการเล�นบาสู่เกตับอล
7. ตั$าแหน�งการย!น และความ ร�บผู้�ดชอบข้องผู้��ตั�ดสู่�นน$า (Lead official)(ตั�อ)