•x(t) = A x(t) cos w t • X(f) = (Ac/2)[X(f-fc)+X(f+fc)] · 2008-11-18 · ssb เป...

31
Double sideband suppressed carrier Double sideband suppressed carrier หร หร ( ( DSB DSB - - SC) SC) •x c (t) = A c x(t) cos w c t X(f) = (Ac/2)[X(f-fc)+X(f+fc)] 0 0.1 0.2 0.3 0.4 0.5 0.6 25/ π f

Transcript of •x(t) = A x(t) cos w t • X(f) = (Ac/2)[X(f-fc)+X(f+fc)] · 2008-11-18 · ssb เป...

Page 1: •x(t) = A x(t) cos w t • X(f) = (Ac/2)[X(f-fc)+X(f+fc)] · 2008-11-18 · ssb เป นการน ํําสััญญาณท ีี่ทํําการมอด

Double sideband suppressed carrier Double sideband suppressed carrier หรหร((DSBDSB--SC)SC)

• xc(t) = A c x(t) cos wct• X(f) = (Ac/2)[X(f-fc)+X(f+fc)]

0

0.1

0.2

0.3

0.4

0.5

0.6

25/πf

Page 2: •x(t) = A x(t) cos w t • X(f) = (Ac/2)[X(f-fc)+X(f+fc)] · 2008-11-18 · ssb เป นการน ํําสััญญาณท ีี่ทํําการมอด

Single sideband modulation (SSB)Single sideband modulation (SSB)

USSB

LSSB

f

f

SSBSSB เปนการนําสัญญาณที่ทําการมอดูเลตแบบเปนการนําสัญญาณที่ทําการมอดูเลตแบบ DSB DSB มาผานวงจรกรองผานแถบมาผานวงจรกรองผานแถบซึง่กรองเอาสัญญาณเพียงครึ่งบนซึง่กรองเอาสัญญาณเพียงครึ่งบน(Upper single side band (Upper single side band หรือหรือ USSB)USSB)หรือครึ่งลางหรือครึ่งลาง (Lower single side band (Lower single side band หรือหรือ LSSB)LSSB)

Page 3: •x(t) = A x(t) cos w t • X(f) = (Ac/2)[X(f-fc)+X(f+fc)] · 2008-11-18 · ssb เป นการน ํําสััญญาณท ีี่ทํําการมอด

SwitchingSwitching

• รับรูวามคีวามตองการใช โ ทรศัพท• สรางสัญญาณเตือนตางๆ เชน ใหกดเลขหมายปลายทาง หรือ สัญญาณควบคุมให กระดิ่งที่ ปลายทางดัง (Ringing signal)

• รับเลขหมายปลายทาง• ตรวจสอบวาปลายทางสายวางหรือไม (Busy test)• สวนเชื่อมตอวงจร เชน โ อเปอเรเตอรเสียบสายตอจากเลขหมายหนึ่งไ ปยังอีกเลขหมายหนึ่ง

• ในกรณีที่ ตองสงผานชุมสายอื่นตองสงขอมูลไปยังชุมสายอื่นไ ด• รับขอมูลจากชุมสายอื่นเพื่อชวยตอโ ทรศัพท ในกรณีทางไ กล• สวนตรวจสอบวาสิ้นสุดการสนทนาแลวยัง(Supervisory) • สวนควบคุมใหทุกสวนยอยทําหนาที่ ไ ดถูกตองและเหมาะสม

Page 4: •x(t) = A x(t) cos w t • X(f) = (Ac/2)[X(f-fc)+X(f+fc)] · 2008-11-18 · ssb เป นการน ํําสััญญาณท ีี่ทํําการมอด

• ค.ศ. 1889 Almon B. Strowgerจดสิทธิบัตรในปค.ศ. 1891 เรียกวา Strowger หรือ Step-By-Step Switch

• ค.ศ. 1918 ไดมีการพัฒนามาเปน Crossbar switch

• ระบบ Stored-Program control (SPC)

Page 5: •x(t) = A x(t) cos w t • X(f) = (Ac/2)[X(f-fc)+X(f+fc)] · 2008-11-18 · ssb เป นการน ํําสััญญาณท ีี่ทํําการมอด

StepStep--byby--stepstep

• selector ทํางานตอบสนองตอจํานวนพัลสที่ผู เรียกหมนุเลขหมาย โ ดยแบงไ ดเปนสองชนิดคือ สวทิชที่ ทําการเลือกเชื่อมวงจรไดแนวนอนแนวเดียวเรียกวา Uniselector

• เชน เมือ่ผู เรียกหมนุเลข 3 แกนหมนุที่ มกีานเชื่อมอยูก็จะหมนุไปที่ output ตําแหนงที่ 3

Page 6: •x(t) = A x(t) cos w t • X(f) = (Ac/2)[X(f-fc)+X(f+fc)] · 2008-11-18 · ssb เป นการน ํําสััญญาณท ีี่ทํําการมอด

TwoTwo--motion selector motion selector

ทําการเลือกเชื่อมวงจรไดสองแนว

เมื่อรับเลขหมายแรกกานเชื่อมจะเลื่อนขึน้ไปตามจํานวนพัลส

เมื่อรับเลขหมายที่สองกานเชื่อมจะหมุนในแนวระดับ

เชน เมื่อไดรับเลขหมาย 25

กานเชื่อมจะเลื่อนขึน้ 2 ขัน้

และหมุนไปหยุดอยูที่ตําแหนงที่ 5

Page 7: •x(t) = A x(t) cos w t • X(f) = (Ac/2)[X(f-fc)+X(f+fc)] · 2008-11-18 · ssb เป นการน ํําสััญญาณท ีี่ทํําการมอด

ชุมสายขนาดชุมสายขนาด 100 100 เลขหมายเลขหมาย Uniselector มี output 10 ชอง แบงเปนสองชวง

Uniselector 100 ตัวสําหรับแตละเลขหมาย ทํางานตอบสนองตอเลขหมายตัวแรก

Uniselector 10 ตัว ทํางานตอบสนองตอเลขหมายที่หมุนตัวทีส่อง

Page 8: •x(t) = A x(t) cos w t • X(f) = (Ac/2)[X(f-fc)+X(f+fc)] · 2008-11-18 · ssb เป นการน ํําสััญญาณท ีี่ทํําการมอด

• การออกแบบลักษณะนี้จะเห็นไดวากลุมเลขหมายที่ขึ้นตนดวยเลขเดียวกันไมสามารถคุยโทรศัพทพรอมกันไดแมวาจะมี Uniselector ตัวอื่นอีก 9 ตัววางอยู การที่คูสายวางแตไมสามารถโทรติดตอไดเราเรียกวาเกิดการ Blocking

• ระบบที่ Input มากกวา output เชน กรณีนี้เปน 10 ตอ 1 เราเรียกวา Concentrator

• ระบบที่ input สามารถตอไปยัง output ไดมากกวาจํานวน input เราเรียกวา Expander

• ตองเลือก Concentrator ในสัดสวนที่เหมาะสม โดยใหเกิดการ Blocking ในระดับที่ผูใชไมรูสึกรําคาญ และตนทนุไมสงูมาก

Page 9: •x(t) = A x(t) cos w t • X(f) = (Ac/2)[X(f-fc)+X(f+fc)] · 2008-11-18 · ssb เป นการน ํําสััญญาณท ีี่ทํําการมอด

TwoTwo--motion selector motion selector จํานวนจํานวน 100 100 ตัวตัว

Page 10: •x(t) = A x(t) cos w t • X(f) = (Ac/2)[X(f-fc)+X(f+fc)] · 2008-11-18 · ssb เป นการน ํําสััญญาณท ีี่ทํําการมอด

Uniselector Uniselector ที่ มีที่ มี 24 output 24 output จํานวนจํานวน 100 100 ตัวตัวตอเขากับเครื่องโ ทรศัพทตอเขากับเครื่องโ ทรศัพท ชวงที่ สองใชชวงที่ สองใช TwoTwo--motion selector motion selector จํานวนจํานวน 24 24 ตัวตัว

Page 11: •x(t) = A x(t) cos w t • X(f) = (Ac/2)[X(f-fc)+X(f+fc)] · 2008-11-18 · ssb เป นการน ํําสััญญาณท ีี่ทํําการมอด

สวิทชิ่งแบบสวิทชิ่งแบบ CrossbarCrossbar

Page 12: •x(t) = A x(t) cos w t • X(f) = (Ac/2)[X(f-fc)+X(f+fc)] · 2008-11-18 · ssb เป นการน ํําสััญญาณท ีี่ทํําการมอด

สวิทชิ่งแบบสวิทชิ่งแบบ CrossbarCrossbar

Page 13: •x(t) = A x(t) cos w t • X(f) = (Ac/2)[X(f-fc)+X(f+fc)] · 2008-11-18 · ssb เป นการน ํําสััญญาณท ีี่ทํําการมอด

StoredStored--Program control (SPC)Program control (SPC)• EWSD10 สามารถใชเปนสวิทชิง่ สําหรับชุมสายทองถิ่นที่มีขนาด 250,000 เลขหมาย

• ชุมสายตอผานทองถิ่นที่รองรับได 60,000 Trunk รวมทัง้ใชเปนชุมสายรวมทองถิน่และตอผานทองถิน่ นอกจากนีส้ามารถใชไดกับระบบโทรศัพทเคลื่อนที่ดวย

• EWSD10 ควบคุมทุก ๆ สวนดวยคอมพิวเตอรซึง่ทํางานดวยความรวดเร็วเพราะไดกระจายหนวยประมวลผลไปอยูตามหนวยยอยตาง ๆ โดยมีสวนประกอบหลัก ๆ 4 สวน

Page 14: •x(t) = A x(t) cos w t • X(f) = (Ac/2)[X(f-fc)+X(f+fc)] · 2008-11-18 · ssb เป นการน ํําสััญญาณท ีี่ทํําการมอด

EWSD10EWSD10

1 Access สวนนี้ทําหนาที่ ติดตอระหวางอุปกรณโ ทรคมนาคมชนิดตางๆ หรือ trunk และสวิทชิ่ ง network (SN) ซึ่ งเปนระบบสวิทชิ่ งแบบดิจิตอล

ทําการแปลงสัญญาณจาก input ตางๆ กัน เชน เครื่องโ ทรศัพทอนาลอกหรือดิจิตอล, ชุมสายที่ เปนอนาลอกหรือดิจิตอลใหเปนสัญญาณที่ ดิจิตอลสวิทชิ่ ง Network ตองการแปลงสัญญาณจากดิจิตอลสวิทชิ่ ง

Network เปน Output ที่ เหมาะสม เชน แปลงเปนอนาลอก เพื่อปอนใหกับเครื่องโ ทรศัพทอนาลอก

Page 15: •x(t) = A x(t) cos w t • X(f) = (Ac/2)[X(f-fc)+X(f+fc)] · 2008-11-18 · ssb เป นการน ํําสััญญาณท ีี่ทํําการมอด

Access ประกอบดวยสวนประกอบตางๆดังนี้• Digital line unit

(DLU) ทําหนาที่อินเตอรเฟสกับอุปกรณโทรคมนาคม เชน เครื่องโทรศัพทอนาลอก ISDN terminal

• ทําหนาทีเ่ปน concentrator โดยที่ DLU แตละหนวยสามารถใหบริการโทรศัพทอนาลอก 944 เครื่อง แตสงสัญญาณเสียงไปที่ Line/Trunk Group(LTG) ไดสงูสุดเพยีง 120 ชอง (PCM30 4เสน)

Page 16: •x(t) = A x(t) cos w t • X(f) = (Ac/2)[X(f-fc)+X(f+fc)] · 2008-11-18 · ssb เป นการน ํําสััญญาณท ีี่ทํําการมอด

-Subscriber line module A (SMLA)ใชอินเตอรเฟสกบัเครื่องโทรศัพทอนาลอกมีหนาที่หลักคือ

ปอนไฟเลี้ยง -48 โวลตใหแกเครื่องโทรศัพท

มีวงจรปองกันตัวเองเมื่อแรงดันเกิน

สรางและปอนสญัญาณกระดิ่งใหแกผูรับและตัดสญัญาณกระดิ่งเมื่อผูรับรับสาย

รับรูการยกหูและวางหูของผูเรียก

แปลงสญัญาณจากเครื่องโทรศัพทอนาลอกเปน PCM30

ทดสอบ Subscriber line

Page 17: •x(t) = A x(t) cos w t • X(f) = (Ac/2)[X(f-fc)+X(f+fc)] · 2008-11-18 · ssb เป นการน ํําสััญญาณท ีี่ทํําการมอด

SMLBSMLB

• แปลงสัญญาณจาก ISDN terminal เปน PCM30

• สําหรับ DLU 1 หนวย สามารถตอ ISDN terminal ไ ด 432 เครื่อง

• มีหนวยประมวลผลของตนเอง

Page 18: •x(t) = A x(t) cos w t • X(f) = (Ac/2)[X(f-fc)+X(f+fc)] · 2008-11-18 · ssb เป นการน ํําสััญญาณท ีี่ทํําการมอด

Remote control unit (RCU)Remote control unit (RCU)

• นอกจากจะติดตั้ง DLU ที่ ชุมสายแลวยังสามารถนําไปติดตั้งนอกชุมสายเราเรียกวา Remote control unit (RCU) RCU 1 หนวยประกอบดวย DLU จํานวนสูงสุด 6 ตัว ทําการเชื่อมวงจรไปยัง Line/Trunk Group (LTG) ที่ อยูที่ ชุมสายโ ดยใชสายสง PCM30 ทําใหไ มตองเดินสาย Subscrber line ในระยะทางไ กลเปนการลดตนทุน

Page 19: •x(t) = A x(t) cos w t • X(f) = (Ac/2)[X(f-fc)+X(f+fc)] · 2008-11-18 · ssb เป นการน ํําสััญญาณท ีี่ทํําการมอด

• Line/Trunk Group (LTG) ทําหนาที่รับสญัญาณ PCM30 จาก DLU หรือ Trunk แลวทําการ Multiplex เปนสญัญาณ PCM 128 ชองสงดวยความเร็ว 8 Mbps

• Data announcement system (DAS) เปนระบบแจงขอความที่จําเปนแกผูเรียกเชนเวลาที่หมุนไปยังเลขหมายที่ยกเลิกไปแลวก็จะไดยินวา " เลขหมายนี้ไดเปลี่ยนไปแลว..."

Page 20: •x(t) = A x(t) cos w t • X(f) = (Ac/2)[X(f-fc)+X(f+fc)] · 2008-11-18 · ssb เป นการน ํําสััญญาณท ีี่ทํําการมอด

Terminal equipment (TE)Terminal equipment (TE)

• ทดสอบ Terminal equipment (TE) สามารถตรวจสอบไดวามีเหตุขัดของเกิดขึ้น และสามารถระบุสาเหตุและตําแหนงที่ขัดของ

Page 21: •x(t) = A x(t) cos w t • X(f) = (Ac/2)[X(f-fc)+X(f+fc)] · 2008-11-18 · ssb เป นการน ํําสััญญาณท ีี่ทํําการมอด
Page 22: •x(t) = A x(t) cos w t • X(f) = (Ac/2)[X(f-fc)+X(f+fc)] · 2008-11-18 · ssb เป นการน ํําสััญญาณท ีี่ทํําการมอด
Page 23: •x(t) = A x(t) cos w t • X(f) = (Ac/2)[X(f-fc)+X(f+fc)] · 2008-11-18 · ssb เป นการน ํําสััญญาณท ีี่ทํําการมอด

สวิทชิ่งสวิทชิ่ง NetworkNetwork

• ทําหนาที่เชื่อมวงจรโดยเปนการสวิชทแบบดิจิตอลโดยมีหนวยประมวลผลของตนเอง

• ดิจิตอลสวิทชแบงเปนสองอยางคือ – Space switch การทํางานเหมือนกรณีของอนาลอกสวทิชทัว่ ๆ ไปคอืทําการ

ตอวงจร Input ไปยงั Output ที่ตองการไดโดยทีส่ัญญาณในแตละ Time Slot ไมเปลี่ยน

– Time switch เปนการยายจากสัญญาณที่อยู Time slot หนึ่ง ๆ ไปยงั Time slot ที่ตองการ

Page 24: •x(t) = A x(t) cos w t • X(f) = (Ac/2)[X(f-fc)+X(f+fc)] · 2008-11-18 · ssb เป นการน ํําสััญญาณท ีี่ทํําการมอด

แสดงการสวิทชจากแสดงการสวิทชจาก Time slot Time slot ที่ที่ 3 3 ของวงจรดิจิตอลที่ของวงจรดิจิตอลที่ 1 1 ไปยังไปยัง Time slot Time slot ที่ที่ 17 17 ของวงจรที่ของวงจรที่ N N จะตองใชจะตองใช Time switch Time switch สวิทชสวิทชจากจาก Time slot Time slot ที่ที่ 3 3 ไปยังไปยัง Time slot Time slot ที่ที่ 17 17 กอนแลวจึงใชกอนแลวจึงใช Space switch Space switch สวิทชจากวงจรที่สวิทชจากวงจรที่ 1 1 ไปยังวงจรที่ไปยังวงจรที่ NN

Page 25: •x(t) = A x(t) cos w t • X(f) = (Ac/2)[X(f-fc)+X(f+fc)] · 2008-11-18 · ssb เป นการน ํําสััญญาณท ีี่ทํําการมอด

Coordination• ทําหนาทีป่ระสานใหทุกสวนยอยทํางาน

สอดคลองกัน • Coordination processor (CP) เปนหนวย

ประมวลผลกลางที่ควบคุมสัง่การและประสานการทํางานของหนวยประมวลผลยอยที่ควบคมุแตละหนวย

• External memory (EM) การจัดเก็บขอมูลใช Hard disk และแมกเนติกสเทป

• Operation and maintenance terminal (OMT) คือคอมพิวเตอรที่โอเปอเรเตอรใชอินเตอเฟสกับระบบ

Page 26: •x(t) = A x(t) cos w t • X(f) = (Ac/2)[X(f-fc)+X(f+fc)] · 2008-11-18 · ssb เป นการน ํําสััญญาณท ีี่ทํําการมอด

System panel (SYP) เปนแผงเตือนเมือ่เกิดเหตุขัดของทั้ งในรูปแบบของหลอดไฟและเสียง เพื่อให Operator ดําเนินการแกไ ขMessage Buffer (MB) ทําหนาที่ ควบคุมการแลกเปลี่ยน Message ระหวางหนวยตางๆในระบบใหเปนไปอยางถูกตองCentral clock generator (CCG) เนื่องจากการรับสงขอมูลทั้ งหมดเปนแบบ Synchronous จึงตองมสีัญญาณนาฬิกา สวนนี้ทําหนาที่ สรางสัญญาณนาฬิกา

Page 27: •x(t) = A x(t) cos w t • X(f) = (Ac/2)[X(f-fc)+X(f+fc)] · 2008-11-18 · ssb เป นการน ํําสััญญาณท ีี่ทํําการมอด

• B’s line is checked for busy/idle status• Power ringing is applied to B if it’s found

to be idle• Audible ringing is applied to A’s line• When B answers, a path is provided

through the network via previouselyassigned time slots

• If A disconnects the line module detects the on-hook condition and idles the connection

Page 28: •x(t) = A x(t) cos w t • X(f) = (Ac/2)[X(f-fc)+X(f+fc)] · 2008-11-18 · ssb เป นการน ํําสััญญาณท ีี่ทํําการมอด

SignalingSignaling

ทําการจัดการในสวนของSignaling ซึ่ งเปนไปตาม CCSS NO.7 โ ดยมีหนวยประมวลผลของตนเอง

Page 29: •x(t) = A x(t) cos w t • X(f) = (Ac/2)[X(f-fc)+X(f+fc)] · 2008-11-18 · ssb เป นการน ํําสััญญาณท ีี่ทํําการมอด

EWSD software ArchitectureEWSD software Architecture

• Support– Engineer and plan the EWSD

switch

• Exchange – Call processing– Coordination processing– Peripheral processing

Page 30: •x(t) = A x(t) cos w t • X(f) = (Ac/2)[X(f-fc)+X(f+fc)] · 2008-11-18 · ssb เป นการน ํําสััญญาณท ีี่ทํําการมอด

• OAM&P supports – Operational– Administration– Provisioning Human machine interfaceSystem diagnosticsFault handlingTraffic and other measurement

• Customer premises

Page 31: •x(t) = A x(t) cos w t • X(f) = (Ac/2)[X(f-fc)+X(f+fc)] · 2008-11-18 · ssb เป นการน ํําสััญญาณท ีี่ทํําการมอด

A simple call through the switchA simple call through the switch

• A calls B in the same switch• A goes off-hook to call B• Call originating is detected by DLU• DLU sends a message to CP via the SNand validates customer A’s line

• dial tone is provided to A by LTG• After the first digit is dialed and received by the

line module the dial tone is removed• Dialed digits are passed to the CP for analysis• If the dialed number is valid, time slots are

assigned for a and B