การใช งานฐานขู Web of Scienceลอม · 2016-05-23 · Web of Science ....
Transcript of การใช งานฐานขู Web of Scienceลอม · 2016-05-23 · Web of Science ....
การใชงานฐานขอมูล Web of Science
โครงการพฒันาเครือขายระบบหองสมุดในประเทศไทย (ThaiLIS)
ปรับปรุงครั้งลาสุด 06/01/54
โดย จิรวัฒน พรหมพร
แผนกสนับสนุนฝายทรัพยากร
อิเล็กทรอนิกสทางการศึกษา
บริษัท บุค โปรโมชั่น แอนด เซอรวิส จํากัด
● Web of Science คืออะไร
● การลงทะเบียน (Register)
● การเขาใช Web of Science
● หนาจอหลักของ Web of Science
● วิธีการสืบคนเอกสาร
Search
Cited Reference Search
● หนาแสดงผลลัพธ (Search Results)
● Marked List
● พิมพ/อีเมล/บันทึก/ดาวนโหลดรายการบรรณานุกรม
● Search History
● Log Out
สารบัญ
เ ป น ฐ านข อ มู ลบ ร รณา นุ ก รมแล ะ
สาระสังเขปพรอมการอางอิงและอางถึง ที่
ครอบคลุมสาขาวิชาหลักทั้ง วิทยาศาสตร
สังคมศาสตร และ มนุษยศาสตร จากวารสาร
มากกวา 10,000 รายชื่อ ใหขอมูลตั้งแตป
2001 - ปจจุบัน
Content
คลิกปุม Register
Sign In/Register
ระบุ E-mail Address ที่จะใชงาน แลวคลิก Continue
Register/Sign In
พิมพขอมูลสําหรับการลงทะเบียน และคลิกปุม Submit Registration
Register
แสดงสถานะการ Log in เฉพาะบุคคล
สามารถเลือกวิธีการสืบคนขอมูลภายใน Web of Science ไดโดย1. Search เปนการสืบคนบทความวารสารจากชนิดขอมูลตางๆ ไดแก Topic (ขอมูลบรรณานุกรมและบทคัดยอ) Author (ชือ่ผูแตง) Source Title (ชื่อวารสาร) Publication Year (ปที่พิมพ) และ Address (ที่อยูชื่อหนวยงานที่ผูแตงสังกัด) เปนตน2. Cited Reference Search เปนการคนหาขอมูลที่บทความนํามาอางอิง ซึ่งอาจเปนบทความ หนังสือ หรือ สิทธิบัตร เปนตน หรือ ตองการคนหาวามีใครนาํผลงานนี้ไปอางอิงในบทความ
1 2
หนาจอหลักของ Web of Science
1. พิมพคําหรือวลี 2. ระบุเขตขอมูลที่ตองการสืบคน เชน Topic, Title, Author, Publication Name, Address เปนตน3. ระบุตัวเชื่อม AND OR หรือ NOT เพื่อสรางเงื่อนไขความสัมพันธระหวางคําในการสืบคน4. ระบุชวงเวลาของปที่พิมพ และจํากัดขอมูลในการสืบคน5. คลิกที่ Search เพื่อสืบคน
5
1
การสืบคนโดยแถบเมนู Search
2
4
3
1. แสดงจํานวน
ผลลัพธที่พบ
2. สืบคนเฉพาะ
ภายในรายการ
ผลลัพธปจจุบัน
จากสวน Search
within results
for เพื่อจํากัด
ผลลัพธใหแคบลง
โดยพิมพคําหรือ
วลี และคลิกที่ปุม
Search
1
หนาแสดงผลลัพธของ Search
2
3. ผลลัพธที่ไดจากการสืบคนเดิม สามารถทําการปรับปรุง หรือกรองรายการผลลัพธใหแคบลงไดจากสวน Refine Results โดยเลือกกรองผลลัพธจาก Subject Areas, Document Types, Authors, Source Titles, Publication Years, Institutions, Funding Agencies, Languages, Countries/Territories โดยคลิกเครื่องหมายถูกหนาหัวเรื่องที่ตองการ หรือ คลิกที่ more options/values เพื่อแสดงหัวเรื่องทั้งหมด จากนั้นคลิกที่ Refine เพื่อแสดงผล
3
หนาแสดงผลลัพธของ Search (ตอ)
Analyze Results เปนการวิเคราะหจากผลลัพธที่ไดปจจุบัน ซึ่งจะเปนประโยชนในการจําแนกผลลัพธที่มีจํานวนมากตามกลุมขอมูลที่สนใจ เชน จําแนกตามหัวเรื่อง (Subject) ชื่อสิ่งพิมพ หรือชื่อวารสาร (Source Title) เปนตน
คลิกที่ปุม
เพื่อทําการวิเคราะหผลลัพธ
หนาแสดงผลลัพธของ Search (ตอ)
1. เลือกเขตขอมูลที่ใชเปนเกณฑในการวิเคราะหและจําแนก ไดแกAuthor : ชื่อผูแตง Country/Territory: ประเทศ Funding Agency: ผูใหทุนทําวิจัยGrant Number: หมายเลขของการทําวิจัยที่ออกโดยผูใหทุน Document Type: ประเภทของเอกสารInstitution Name: ชื่อสถาบัน Language: ภาษาตนฉบับ Publication Year: ปที่พิมพSource Title: ชื่อสิ่งพิมพ Subject Area: กลุมหัวเรื่อง2. Analyze: เลือกจํานวนบทความที่จะทําการวิเคราะห3. Set display options: ตั้งคาการแสดงจํานวนผลลัพธ และจํานวน records ขัน้ต่ําที่ใหพบ4. Sort by: การจัดเรียงลําดับผลลัพธ 5. คลิกที่ปุม เพื่อทําการวิเคราะห
หนาแสดงการวิเคราะหผลลัพธ: Analyze Results
1 2 3 4
5
6. ผลลพัธการวเิคราะหจะจําแนกการแสดงขอมูลตามคอลัมนดังนี้
Field: แสดงขอมูลตามเขตขอมูลที่เลือก
Record Count: แสดงเปนจํานวน Records ที่พบ
% of xxx: แสดงสัดสวนการพบจากจํานวน Records โดยคิดเปนเปอรเซน็ต
Bar Chart: แสดงผลลพัธเปนแผนภูมิแทง
7. คลิกที่ชองหนารายการผลลพัธที่ตองการ โดยสามารถเลอืกไดมากกวาหนึ่งรายการ จากนั้น คลกิที่ View Records เพื่อแสดงขอมูลเปนรายการบทความ
8. คลิกที่ปุม Save Analysis Data to File เพื่อจัดเกบ็ขอมูลที่วิเคราะห
หนาผลลัพธจากการวิเคราะหผลลัพธ: Analyze Results (ตอ)
6 8
7
Sort by: การจัดเรียงลําดับรายการผลลัพธตาม Latest Date: วันที่ตีพิมพลาสุด Times Cited : จํานวนครั้งที่ไดรับการอางถึง Relevance: ตามความเกี่ยวของกับคําคน First Author: ชื่อผูแตงลําดับแรก Source Title: ชื่อของสิ่งพิมพPublication Year: ปที่ตีพิมพ
หนาแสดงผลลัพธของ Search (ตอ)
ในหนาการแสดงผลลัพธ จะแสดงขอมูลที่สําคัญดังนี้
1. ขอมูลบรรณานุกรมของแตละบทความ คลิกที่ชื่อเรื่อง เพื่อเขาดูขอมูลของบทความโดยละเอียด ดังตัวอยาง คลิกที่บทความลําดับที่ 4
2. จํานวนครั้งที่บทความนี้ไดรับการอางถึง คลิกที่ตัวเลขของ Times Cited เพื่อดูบทความที่อางถึง ดังเชนตัวอยาง คลิกที่ 47
3. คลิกที่ปุม Full Text เพื่อเชื่อมโยงไปยังฐานขอมูลที่มีการบอกรับ เพื่อเขาดูบทความฉบับเต็ม
3 2
1
หนาแสดงผลลัพธของ Search (ตอ)
ประกอบไปดวยขอมูลที่สําคัญดังนี้1. Title : ชือ่เรื่อง2. Author: ผูแตง ซึ่งสามารถเรียกดูรายการบทความอืน่ๆที่เปนผลงานของผูแตงคนนี้โดยคลกิไปที่ชือ่ผูแตงแตละคน3. Source: ชือ่สิ่งพิมพ4. Time Cited: จํานวนครั้งที่ไดรับการอางถึงจากบทความอืน่ ซึ่งสามารถคลิกเพือ่เรียกดไูด5. References: สามารถคลิกเพื่อดูรายการอางอิงที่ใช6. Abstract: บทคัดยอ7. Document Type: ประเภทสิ่งพิมพ8. Language: ภาษาตนฉบับ9. Author Keywords: คําสําคัญของบทความ10. Keywords Plus: คําสําคัญที่พบบอยจาก Title ของรายการอางอิง11. Addresses: ที่อยูของผูแตง12 Publisher: สํานักพิมพ13. Subject Category: หัวเรื่องของบทความ
หนาแสดงรายละเอียดบทความ
ประกอบไปดวย
สวนตางๆดังนี้
1. บรรณานุกรม
ของบทความ
หลัก คลิกที่ชื่อ
เรื่อง เพื่อ
กลับไปยังหนา
ของบทความ
หลัก
2. รายการ
อางอิงที่ใชของ
บทความหลัก
2
1
หนารายการอางอิง: Cited References
ประกอบไปดวย
สวนตางๆดังนี้
1. บรรณานุกรม
ของบทความหลัก
ที่ไดอางถึง คลิก
ที่ชื่อเรื่อง เพื่อ
กลับไปยังหนา
ของบทความหลัก
2. จํานวนรายการ
บทความที่อางถึง
บทความหลักใน
ขอ 4
2
1หนารายการบทความที่อางถึง: Citing Articles
ประกอบไปดวยสวนตางๆ ดังนี้
1. บรรณานุกรมของบทความหลัก คลิกที่ชื่อเรื่อง เพื่อกลับไปยังหนาของบทความหลัก
2. จํานวนรายการบทความที่ใชรายการอางอิงเดียวกันกับบทความหลักในขอ 4 โดยแตละบทความจะมีตัวเลขแสดงจํานวนรายการอางอิงเดียวกันในคอลัมน Shared Refs
1
2
หนารายการบทความที่ใชรายการอางอิงเดียวกัน : Related Records
1. Cited Author: ชื่อผูแตงที่ไดรับการอางถึง โดยใชนามสกุล และอักษรแรกของชื่อในการสืบคน2. Cited Work: ชื่อของสิ่งพิมพที่ไดรับการอางถึง เชน ชื่อวารสาร ชื่อหนังสือ เปนตน3. Cited Year(s): ปที่พิมพของเอกสารที่ไดรับการอางถึง4. คลิกที่ปุม Search เพื่อสืบคน
4
3
2
1
Cited Reference Search
ประกอบไปดวยสวนตางๆ ดังนี้
1. Select: คลิกที่ชองหนา Record ที่ตองการเลือกไดมากกวาหนึ่ง และคลิกที่ปุม Finish Search เพื่อเรียกดูรายการบทความที่อางถึง (Citing Article)
2. Cited Author: รายชื่อผูแตงที่ไดรับการอางอิง
3. Cited Work: ชื่อของสิ่งพิมพ ซึ่งสามารถเรียกแสดงชื่อเรื่องไปพรอมกันดวยคลิกที่ Show Expanded Titles
4. Year: ปที่พิมพ
5. Volume : เลข Volume
6. Page: เลขหนา
7. Citing Articles: จํานวนบทความที่อางถึง
8. View Record : คลิกที่ View Record ในรายการที่ปรากฏเพื่อดูขอมูลโดยละเอียด
หนาผลลัพธของ Cited Reference Search
1
23 4 5 6 7 8
Show Expanded Titles
หนาผลลัพธของ Cited Reference Search (ตอ)
บรรณานุกรมของ
แตละบทความใน
รายการผลลัพธ
ผูใชสามารถเลือก
จัดเก็บบทความที่
ตองการได เพื่อ
จัดการบทความ
ภายหลัง โดย
1. คลิกเลือกหนา
รายการที่ตองการ
2. คลิกที่ Add to
Marked List เพื่อ
จัดเก็บเอกสาร
Marked List
1
2
Marked List
3. คลิกที่ Marked List เพื่อดูรายการเอกสารที่จัดเก็บ
3
Marked List
4. เลือกรูปแบบขอมูลที่ตองการ 5. เลือกรูปแบบการจัดการ เชน Print, Email, Save หรือ Save to EndNote
4
5
1
บรรณานุกรมของแต
ละบทความในรายการ
ผลลัพธ ผูใชสามารถ
เลือกจัดการบทความที่
ตองการไดโดย
1. คลิกเลือกหนา
รายการที่ตองการ
2. เลือกรูปแบบการ
จัดการ เชน Print,
Email, Save to
EndNote Web, Save
to EndNote หรือ
คลิกที่ more options
เพื่อเพิ่มทางเลือกใน
การจัดการ
2
Print/ E-mail/ Save/ Export to Reference Software
จากการคลิกที่ More Options สามารถเลือกจัดการผลลัพธไดในสวนชอง Output Records โดย1. กําหนดรายการบทความที่ตองการตามรายละเอียดใน Slide กอน2. กําหนดรูปแบบขอมูลที่ตองการ3. เลือกรปูแบบการจัดการบทความ ไดแก
สั่งพิมพ สงอีเมล
บันทึกขอมูลในรปูแบบตางๆ
ถายโอนไป EndNote Web
ถายโอนไป EndNote, RefMan, Procite
321
Print/ E-mail/ Save/ Export to Reference Software
Save
Search History
เลิกใชงานทุกครั้งใหคลิกที่ปุม Log Out
Log Out