ค ำน ำ - Satree Phuket Schoolเร อง การเคล อนท ช ดท 7 การเคล อนท แบบฮาร มอน กอยางงาย 2. ศ
บทที่ 7€¦ · Web viewบทท 7 การเคล อนท ของส งม ช...
Transcript of บทที่ 7€¦ · Web viewบทท 7 การเคล อนท ของส งม ช...
![Page 1: บทที่ 7€¦ · Web viewบทท 7 การเคล อนท ของส งม ช ว ต-----จงเล อกคำตอบท ถ กต องท ส ดเพ](https://reader033.fdocuments.net/reader033/viewer/2022060512/5f2b4296f9e7653bbf0a4e85/html5/thumbnails/1.jpg)
แบบทดสอบเก็บคะแนนบทท่ี 7 การเคลื่อนท่ีของสิง่มชีวีติ
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
จงเลือกคำาตอบท่ีถกูต้องท่ีสดุเพยีงขอ้เดียว1. จากภาพขา้งล่างแสดงใหเ้หน็ถึงโครงสรา้งของขาอารโ์ทรพอด กล้ามเน้ือที่ทำาหน้าที่งอขา น่าจะเป็นกล้ามเน้ือมดัใด
ก. น 1 และ น 3 ข. น 2 และ น 3 ค. น 2 และ น 4 ง. น 1 และ น 4
จากภาพใชต้อบคำาถามขอ้ 2-4
2. ถ้ามนีำ้าหนักมาวางไวท่ี้หมายเลข 1 จะต้องออกแรงดึงท่ีจุดใดจงึจะยกนำ้าหนักขึ้นมาได้
ก. 2 ข. 4 ค. 5 ง. 63. จากภาพกล้ามเน้ือมดัไหนทำาหน้าที่เหยยีดแขน
ก. 1 ข. 3 ค. 4 ง. 54. ในสตัวเ์ล้ียงลกูด้วยนำ้านม หมายเลข 4 ของขาหน้าควรยดึติดกับอะไร
ก. กระดกูสนัหลัง ข. กระดกูอกค. กระดกูซีโ่ครง ง. กระดกูสะบกั
![Page 2: บทที่ 7€¦ · Web viewบทท 7 การเคล อนท ของส งม ช ว ต-----จงเล อกคำตอบท ถ กต องท ส ดเพ](https://reader033.fdocuments.net/reader033/viewer/2022060512/5f2b4296f9e7653bbf0a4e85/html5/thumbnails/2.jpg)
5. เน้ือเยื่อท่ีทำาหน้าท่ีบงัคับใหก้ระดกูอยูเ่ฉพาะที่ โดยทำาหน้าที่โอบอยูร่อบขอ้ต่อเรยีกวา่
ก. Tendon ข. Ligamentค. cartilage ง. Synovial
membrane6. เหตกุารณ์ใดจะไมเ่กิดขึ้นเมื่อกล้ามเน้ือลายหดตัว
ก. แรงดันในเทนดอนเพิม่ขึ้น ข. มกีารสลาย ATP
ค. มพีลังงานความรอ้นเกิดขึ้น ง. กล้ามเน้ือมีปรมิาตรลดลง7. จากแผนภาพขา้งล่าง แสดงตำาแหน่งกล้ามเน้ือไบเซพที่ต้นแขนคน
จงกล่าวถึงการพฒันาท่ี Tendon จากกล้ามเน้ือไบเซพไปเกาะท่ีจุด B แทนจุด A
ก. สามารถเคล่ือนท่ีต้นแขนได้ โดยการหดตัวกล้ามเนื้อเพยีงเล็กน้อย
ข. ใชก้ำาลังกล้ามเน้ือน้อยลงในการยกแขนอยา่งรวดเรว็ค. ใชแ้รงดึงเทนดอนน้อยลงในการงอแขนง. ทำาใหย้กวตัถหุนัก ๆ ได้ง่ายขึ้น
8. จากแผนภาพขา้งล่างแสดงดารผ่าผ่านขอ้ต่อ ท่ีเครื่องหมาย C คือ
ก. boneข. cartilage
![Page 3: บทที่ 7€¦ · Web viewบทท 7 การเคล อนท ของส งม ช ว ต-----จงเล อกคำตอบท ถ กต องท ส ดเพ](https://reader033.fdocuments.net/reader033/viewer/2022060512/5f2b4296f9e7653bbf0a4e85/html5/thumbnails/3.jpg)
ค. synovial fluidง. synovial membrane
9. จากขอ้ 8 B หมายถึงอะไรก. bone ข. Cartilage ค. synovial fluid ง. synovial membrane
10. จากแผนภาพขา้งล่างแสดงถึงขอ้ต่อของอารโ์ทรพอด 1, 2, 3 และ 4 คือ ท่ีเกาะของกล้ามเน้ือซึ่งทำาใหข้อ้ต่อเคล่ือนท่ี การเคล่ือนที่ของอวยัวะท่อนล่างตามทิศทางของลกูศรจะต้องมกีล้ามเน้ือหดตัว อยากทราบวา่กล้ามเน้ือยดึเกาะระหวา่งหมายเลขใดท่ีหดตัว
ก. 1 กับ 2 ข. 2 กับ 3 ค. 1 กับ 4ง. 3 กับ 4
11. กล้ามเน้ือยดึติดกับกระดกูโดยอาศัยก. Cartilage ข. Ligamentค. tendon ง. Synovial
membraneแผนภาพขา้งล่างแสดงให้เห็นถึงการผ่าผ่านบรเิวณขอ้ต่อท่ีขอ้ศอก ใชภ้าพนี้ตอบคำาถามขอ้ 12-14
![Page 4: บทที่ 7€¦ · Web viewบทท 7 การเคล อนท ของส งม ช ว ต-----จงเล อกคำตอบท ถ กต องท ส ดเพ](https://reader033.fdocuments.net/reader033/viewer/2022060512/5f2b4296f9e7653bbf0a4e85/html5/thumbnails/4.jpg)
12. บรเิวณใดคือ synovial fluidก. A ข. B ค. C ง.
D 13. C หมายถึงสิง่ใด
ก. Cartilage ข. Tendon ค. Ligament ง. Synovial membrane
14. A หมายถึงสิง่ใดก. Cartilage ข. Tendon ค. Ligament
ง. Synovial membrane15. จากแผนภาพขา้งล่างแสดงถึงการจดัตัวของกล้ามเน้ือขาหลังของสตัวเ์ล้ียงลกูด้วยนำ้านมในขณะกำาลังเดิน กล้ามเน้ือแทนด้วยเสน้และเทนดอนซึ่งมขีนาดยาวแทนด้วยเสน้ทึบ ขอ้ใดอธบิายถึงการทำางานของกล้ามเน้ือมดั 1 และมดั 2 เมื่อเหยยีดขา
กล้ามเน้ือมดั 1 กล้ามเน้ือมดั 2ก. หดตัว หดตัวข. คลายตัว คลายตัวค. คลายตัว หดตัวง. หดตัว คลายตัว
16. แผนภาพขา้งล่างน้ีภาพแรกแสดงกล้ามเน้ือบรเิวณแขนและขอ้ศอก ภาพที่สองแสดงถึงขาตัก๊แตน ถามวา่หมายเลขใดเป็นกล้ามเน้ือเอกซเ์ทนเซอร์
![Page 5: บทที่ 7€¦ · Web viewบทท 7 การเคล อนท ของส งม ช ว ต-----จงเล อกคำตอบท ถ กต องท ส ดเพ](https://reader033.fdocuments.net/reader033/viewer/2022060512/5f2b4296f9e7653bbf0a4e85/html5/thumbnails/5.jpg)
ก. 1 และ 3 ข. 1 และ 4 ค. 2 และ 3 ง. 2 และ 4
17. ขอ้ความใดอธบิายถึงลิกาเมนต์ได้อยา่งถกูต้องก. ไมม่กีารยดืหยุน่และยดึกล้ามเน้ือกับกระดกู
ข. มกีารยดืหยุน่ และยดึกล้ามเน้ือกับกระดกู ค. ไมม่กีารยดืหยุน่และยดึกระดกูกับกระดกู ง. มกีารยดืหยุน่และยดึกระดกูกับกระดกู18. แผนภาพ 1 และแผนภาพ 2 แต่ละภาพแสดงครึง่าของสว่นอกท่ีถกูต้องแบบ Transverse section แผนภาพ 1 แสดงถึงปีกตอนตีลง สว่นแผนภาพ 2 แสดงการตีปีกขึ้น
ขอ้ความใดที่ถกูต้องสำาหรบัการทำางานของกล้ามเน้ือ A และกล้ามเน้ือ B เมื่อปีกถกูยกขึ้น
กล้ามเน้ือ A กล้ามเน้ือ Bก. หดตัว หดตัวข. คลายตัว คลายตัวค. หดตัว คลายตัวง. คลายตัว หดตัว
![Page 6: บทที่ 7€¦ · Web viewบทท 7 การเคล อนท ของส งม ช ว ต-----จงเล อกคำตอบท ถ กต องท ส ดเพ](https://reader033.fdocuments.net/reader033/viewer/2022060512/5f2b4296f9e7653bbf0a4e85/html5/thumbnails/6.jpg)
19. แผนภาพขา้งล่างแสดงถึงด้านหลังของกระดกูบางชิน้ และกล้ามเน้ือแขนและต้นแขนของคน ลักษณะของขอ้ต่อหมายเลข 1 และ 2 มลัีกษณะใด
ขอ้ต่อ 1 ขอ้ต่อ 2ก. บานพบั บานพบัข. บานพบั ลกูบอลกับเบา้ค. ลกูบอลกับเบา้ ลกูบอลกับเบา้ง. ลกูบอลกับเบา้ บานพบั
20. ขอ้ต่อแบบหมายเลข 1 ยงัพบได้ท่ีใดอีกก. หวัของกระดกูต้นขากับกระดกูเชงิกรานข. ขอ้ต่อท่ีหวัเขา่ค. ขอ้ต่อท่ีนิ้วมอืง. ขอ้ต่อท่ีนิ้วเท้า
21. แผนภาพขา้งล่างแสดงถึงกล้ามเน้ือ 4 มดั ของขาคน กล้ามเน้ือคู่ใดหดตัวในเวลาเดียวกันเพื่อยกและเหยยีดขา
ก. A และ B ข. A และ D ค. C และ D ง. C และ B
22. แผนภาพขา้งล่างน้ีเป็นกระดกูคน 3 ชิน้ บรเิวณใดของกระดกูท่ีจะต่อกันแบบลกูบอลกับเบา้ ก. 1 กับ 3 ข. 2 กับ 3 ค. 2 กับ 4 ง. 3 กับ 5
![Page 7: บทที่ 7€¦ · Web viewบทท 7 การเคล อนท ของส งม ช ว ต-----จงเล อกคำตอบท ถ กต องท ส ดเพ](https://reader033.fdocuments.net/reader033/viewer/2022060512/5f2b4296f9e7653bbf0a4e85/html5/thumbnails/7.jpg)
23. กล้ามเน้ือของสตัวช์ัน้สงูและคนอาจจะแบง่ได้เป็น 3 ชนิด คือกล้ามเน้ือลายชนิด skeletal muscle กล้ามเน้ือกัวใจและกล้ามเน้ือเรยีบ ซึ่งโดยปกติแล้วมกีารทำางานท่ีควบคมุโดยระบบประสาทดังน้ี
ก. การทำางานชอง skeletal muscle ไมอ่ยูภ่ายใต้การควบคมุของอำานาจจติใจ
ข. การทำางานของกล้ามเน้ือหวัใจ ไมอ่ยูภ่ายใต้การควบคมุของอำานาจจติใจ
ค. การทำางานของกล้ามเน้ือเรยีบ อยูภ่ายใต้อำานาจการควบคมุของจติใจ
ง. การทำางานของกล้ามเน้ือทัง้ 3 ชนิด อยูภ่ายใต้การควบคมุของอำานาจจติใจ24. ในระหวา่งการวิง่ของสนัุข สนัุขเคล่ือนท่ีไปได้โดยอาศัยการทำางานของระบบอวยัวะอะไรบา้ง
ก. ระบบกล้ามเน้ือเรยีบ ข. ระบบกล้ามเน้ือลายค. ระบบกล้ามเน้ือท่ียดึกับกระดกู ง. ระบบกล้ามเน้ือท่ีอยูน่อกการควบคมุของจติใจ
25. การเคล่ือนท่ีของไสเ้ดือนดินมทิีศทางที่แน่นอน ต่างกับพยาธิตัวกลมซึ่งได้แต่งอตัวไปมาเป็นเพราะ
ก. ไสเ้ดือนดินมขีนแขง็ ๆ สัน้ ๆ ชว่ยยดึดินข. ไสเ้ดือนดินมกีล้ามเน้ือทัง้ตามยาวและตามขวาง
![Page 8: บทที่ 7€¦ · Web viewบทท 7 การเคล อนท ของส งม ช ว ต-----จงเล อกคำตอบท ถ กต องท ส ดเพ](https://reader033.fdocuments.net/reader033/viewer/2022060512/5f2b4296f9e7653bbf0a4e85/html5/thumbnails/8.jpg)
ค. ไสเ้ดือนดินมอีวยัวะรบัความรูส้กึเจรญิดีง. ไสเ้ดือนดินมลีำาตัวที่เปียกชื้นอยูเ่สมอ
26. สตัวก์ลุ่มที่อาศัยระบบนำ้าชว่ยในการเคล่ือนท่ี ได้แก่ก. พารามเีซยีม ไฮดรา หววุีน้ ข. ยูกลีนา ฟองนำ้า
พลานาเรยีค. แมงกะพรุน ปลาดาว หอยสองฝา ง. ปลาหมกึ ปลา
ฉลาม ปลาดาว27. สตัวพ์วกแรกท่ีมกีารทำางานของระบบกล้ามเน้ือเป็นแบบแอนตาโกนิซมึคือ
ก. พลานาเรยี ข. แมงกระพรุน ค. ไสเ้ดือนดิน ง. ตัก๊แตน28. จากภาพวาดท่ีกำาหนดให ้ แสดงถึงโครงสรา้งของ
ก. เซนทรโิอลและซเิลียข. ซเิลียและแฟลกเจลลัมค. แฟลเจลลัมและเซนทรโิอลง. ขอ้ ก, ข และ ค
29. โครงสรา้งคู่ใดทำาหน้าที่เหมอืนกันก. เดือยของไสเ้ดือนกับทิวบฟ์ดีของดาวทะเล ข. เซลล์คอ
ลลาของฟองนำ้ากับเฟลมเซลล์ค. เฟลมเซลล์กับนีมาโตซสิต์ ง. เซลล์คอล
ลากับนีมาโตซสิต์30. สตัวช์นิดใดที่มอีวยัวะเฉพาะทำาหน้าท่ีควบคมุการเคล่ือนที่โดยอาศัยแรงดันไฮโดรสแตติก
ก. ปลาหมกึ ข. ไสเ้ดือนดิน ค. แมงกะพรุน ง. ปลาดาว31. การเคล่ือนท่ีของสตัวส์ว่นมากจะอาศัยการทำางานของกล้ามเน้ือแบบแอนตาโกนีซมึยกเวน้สตัวช์นิดใด
![Page 9: บทที่ 7€¦ · Web viewบทท 7 การเคล อนท ของส งม ช ว ต-----จงเล อกคำตอบท ถ กต องท ส ดเพ](https://reader033.fdocuments.net/reader033/viewer/2022060512/5f2b4296f9e7653bbf0a4e85/html5/thumbnails/9.jpg)
ก. ปลาดาว ข. ปลา ค. แมลง ง. ไสเ้ดือนดิน32. ขณะท่ีอมบีาเคล่ือนท่ี โครงสรา้งภายในจะมลัีกษณะของการทำางานเชน่เดียวกับสิง่ใด
ก. ไมโครฟลิาเมนต์ของกล้ามเน้ือข. ไมโครทบููลของเซลล์ทัว่ไปค. เซลล์ท่ีเคล่ือนไหวโดยอาศัยแรงดันไฮโดรสแตติกง. ไมโครฟลิาเมนต์และไมโครทบููล
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เฉลยแบบทดสอบเก็บคะแนนบทท่ี 7 การเคลื่อนท่ีของสิง่มชีวีติ
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
1. เฉลยขอ้ งเหตผุล เมื่อกล้ามเน้ือ น 1 และ น 2 หดตัว ขาจะงอ
(กล้ามเน้ือทัง้สองมดัอาจเรยีก ได้วา่ Flexor )-----------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------2. เฉลยขอ้ ก
เหตผุล จากภาพจะเป็นลักษณะของคานท่ีมจุีดฟนัครมัอยูท่ี่เลข 6 นำ้าหนักอยูท่ี่ เลข 1 แรงพยายามจะดึงเลข 2 ขึ้น ซึ่งเปรยีบเทียบได้กับภาพขา้งล่าง
![Page 10: บทที่ 7€¦ · Web viewบทท 7 การเคล อนท ของส งม ช ว ต-----จงเล อกคำตอบท ถ กต องท ส ดเพ](https://reader033.fdocuments.net/reader033/viewer/2022060512/5f2b4296f9e7653bbf0a4e85/html5/thumbnails/10.jpg)
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
3. เฉลยขอ้ งเหตผุล เมื่อกล้ามเน้ือหมายเลข 5 หดตัว ทำาให้
แขนยดืออก-----------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------4. เฉลยขอ้ ง
เหตผุล หมายเลข 4 ควรเป็นสว่นต้นแขนหรอืขาหน้า จงึยดึติดต่อกับกระดกู สะบกั-----------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------5. เฉลยขอ้ ข
เหตผุล ligament มคีวามเหนียวมาก นอกจากเป็นตัวเชื่อมกระดกูใหติ้ดกันแล้วยงั ชว่ยใหก้ระดกูเคล่ือนไหวอยูใ่นวงจำากัดอีกด้วย-----------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------6. เฉลยขอ้ ง
เหตผุล เมื่อกล้ามเน้ือลายหดตัวปรมิาตรจะเพิม่ขึ้นไมใ่ชล่ดลง-----------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------7. เฉลยขอ้ ก
เหตผุล การท่ีปลายหน่ึงของกล้ามเน้ือไบเซพเกาะที่จุด B แทนที่จะเกาะท่ีจุด A ทำาใหก้ล้ามเน้ือหดตัวเพยีงเล็กน้อยก็สามารถเคล่ือนท่ีต้นแขนได้-----------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------8. เฉลยขอ้ ข
เหตผุล C คือ cartiage หรอืกระดกูอ่อน
![Page 11: บทที่ 7€¦ · Web viewบทท 7 การเคล อนท ของส งม ช ว ต-----จงเล อกคำตอบท ถ กต องท ส ดเพ](https://reader033.fdocuments.net/reader033/viewer/2022060512/5f2b4296f9e7653bbf0a4e85/html5/thumbnails/11.jpg)
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
9. เฉลยขอ้ คเหตผุล นำ้าไขขอ้ (synovial fluid) เป็นของเหลว
หล่อล่ืนอยูร่ะหวา่งกระดกูอ่อน-----------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------10. เฉลยขอ้ ง
เหตผุล กล้ามเน้ือที่ยดึเกาะระหวา่งหมายเลข 3 กับ 4 หดตัวจะทำาใหท่้อนล่าง เคล่ือนที่ไปตามศร-----------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------11. เฉลยขอ้ ค
เหตผุล สว่นที่ยดึติดระหวา่งกล้ามเน้ือและกระดกูคือ tendon]-----------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------12. เฉลยขอ้ ง
เหตผุล บรเิวณ D คือ synovial fluid -----------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------13. เฉลยขอ้ ก
เหตผุล cartilage หรอืกระดกูอ่อนคือ สว่นท่ีคลมุอยูป่ลายกระดกูเพื่อลดความ เสยีดทาน-----------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------14. เฉลยขอ้ ค
เหตผุล เอ็นยดึระหวา่งกระดกูกับ-----------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------15. เฉลยขอ้ ค
![Page 12: บทที่ 7€¦ · Web viewบทท 7 การเคล อนท ของส งม ช ว ต-----จงเล อกคำตอบท ถ กต องท ส ดเพ](https://reader033.fdocuments.net/reader033/viewer/2022060512/5f2b4296f9e7653bbf0a4e85/html5/thumbnails/12.jpg)
เหตผุล ในการเหยยีดขา กล้ามเน้ือมดั 1 จะคลายตัวในขณะท่ีกล้ามเน้ือมดั 2 จะหดตัว-----------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------16. เฉลยขอ้ ค
เหตผุล กล้ามเน้ือเอกซเ์ทนเซอรข์องคนคือหมายเลข 2 สว่นกล้ามเน้ือเอกซเ์ทน เซอรข์องตัก๊แตนคือหมายเลข 3-----------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------17. เฉลยขอ้ ง
เหตผุล ลิกาเมนต์มกีารยดืหยุน่ และยดึระหวา่งกระดกูกับกระดกู-----------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------18. เฉลยขอ้ ง
เหตผุล กล้ามเน้ือ A คลายตัว กล้ามเน้ือ B หดตัว ทำาใหป้ีกยกขึ้น-----------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------19. เฉลยขอ้ ง
เหตผุล ขอ้ต่อหมายเลข 1 มลัีกษณะเหมอืนลกูบอลกับเบา้ กระดกูสว่นน้ีจะ หมุนได้ สว่นหมายเลข 2 เป็นบานพบั เคล่ือนที่ขึ้นลงได้แต่หมุนไมไ่ด้-----------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------20. เฉลยขอ้ ก
เหตผุล ขอ้ต่อหมายเลข 1 เป็นแบบลกูบอลกับเบา้ พบท่ีระหวา่งกระดกูต้นแขน กับกระดกูสะบกั และพบท่ีหวักระดกูต้นขากับกระดกูเชงิกราน จงึ เคล่ือนได้หลายทิศทาง
![Page 13: บทที่ 7€¦ · Web viewบทท 7 การเคล อนท ของส งม ช ว ต-----จงเล อกคำตอบท ถ กต องท ส ดเพ](https://reader033.fdocuments.net/reader033/viewer/2022060512/5f2b4296f9e7653bbf0a4e85/html5/thumbnails/13.jpg)
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
21. เฉลยขอ้ กเหตผุล เมื่อกล้ามเน้ือ A และกล้ามเน้ือ B หดตัว
พรอ้ม ๆ กัน จะทำาใหเ้กิดการยก ขาและเหยยีดขา-----------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------22. เฉลยขอ้ ก
เหตผุล บรเิวณหมายเลข 1 คือ สว่นหวัของต้นแขน บรเิวณหมายเลข 3 คือ เบา้ของกระดกูสะบกั ซึ่งเขา้กันในลักษณะของลกูบอลกับเบา้-----------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------23. เฉลยขอ้ ก
เหตผุล กล้ามเน้ือหวัใจเป็นกล้ามเน้ือชนิดพเิศษ คือ เป็นกล้ามเน้ือเรยีบที่มลีาย เล็กน้อยและสานกันต่อเน่ือง เมื่อทำางานจะอยูน่อกการบงัคับของจติใจ-----------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------24. เฉลยขอ้ ค
เหตผุล ในขณะที่สนัุขวิง่ กล้ามเน้ือลายและกระดกูจะทำางานพรอ้ม ๆ กันดังภาพ
![Page 14: บทที่ 7€¦ · Web viewบทท 7 การเคล อนท ของส งม ช ว ต-----จงเล อกคำตอบท ถ กต องท ส ดเพ](https://reader033.fdocuments.net/reader033/viewer/2022060512/5f2b4296f9e7653bbf0a4e85/html5/thumbnails/14.jpg)
รูปแสดงการทำางานของกระดกูสนัหลังในสนัุข-----------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------25. เฉลยขอ้ ก
เหตผุล ไสเ้ดือนดินถึงแมจ้ะมกีล้ามเน้ือ 2 ชุด คือ กล้ามเน้ือตามยาว (longitudinal muscle) และกล้ามเน้ือวง (circular muscle) ก็ตามจะไม่
สามารถเคล่ือนท่ีได้ทิศทางท่ีแน่นอน หากไมม่ขีนแขง็ ๆ สัน้ ๆ (setae) ชว่ยยดึดิน แล้วจงึใชก้ล้ามเน้ือสองชุดดังกล่าว ทำางานตรงกันขา้ม การ เคล่ือนที่โดยการบงัคับใหก้ล้ามเน้ือเคล่ือนท่ีไปเป็นคล่ืนนี้พบมากตัง้แต่
ไสเ้ดือนดิน จนถึงพวกหอยด้วย ในไสเ้ดือนดินมกีล้ามเน้ือสองชุดคล้าย planaria และหอย ฯลฯ ในขณะที่ circular muscle หดตัว
longitudinal muscle คลายตัว ทำาใหไ้สเ้ดือนดินมขีนาดลำาตัวเล็กและ ยาวออกไป แต่ถ้า circular muscle คลายตัว longitudinal muscle หดตัว
จะเหน็บรเิวณนัน้ใหญ่ขึ้น ขณะท่ีกล้ามเน้ือทัง้สองทำาหน้าท่ีหดตัว สลับกันเป็นระลอกคล่ืนนัน้ก็ใชเ้ดือยหรอื setae จกิกับพื้นเอาไวเ้พื่อยดึ ใหแ้น่น และสามารถดึงสว่นอ่ืนตามไปด้วยดังรูป
![Page 15: บทที่ 7€¦ · Web viewบทท 7 การเคล อนท ของส งม ช ว ต-----จงเล อกคำตอบท ถ กต องท ส ดเพ](https://reader033.fdocuments.net/reader033/viewer/2022060512/5f2b4296f9e7653bbf0a4e85/html5/thumbnails/15.jpg)
รูปแสดงความสมัพนัธร์ะหวา่งกล้ามเนื้อตามยาว และกล้ามเนื้อวงในขณะไสเ้ดือนเคล่ือนท่ี-----------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------26. เฉลยขอ้ ค
เหตผุล สตัวก์ลุ่มที่อาศัยระบบนำ้าชว่ยในการเคล่ือนท่ี ได้แก่ แมงกะพรุน ใช้ สว่นที่มลัีกษณะคล้ายรม่บบีตัวเขา้หา ไล่นำ้าไปขา้งหลังทำาใหตั้วมนั เคล่ือนไปขา้งหน้า
ปลาดาว ใชน้ำ้าสง่ไปยงัทิวบฟ์ตี (Tube feet) ทำาใหส้ามารถเดินได้จากการ เคล่ือนที่ของทิวปฟ์ตีจำานวนมาก
หอยสองฝาบางพวกสามารถบบีฝาทัง้สองเขา้หากันเรว็ ๆ ทำาใหตั้ว เคล่ือนที่ไปได้คล้ายการวา่ยนำ้า เชน่ ในหอยเซลล์-----------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------27. เฉลยขอ้ ค
เหตผุล สตัวพ์วกแรกท่ีมกีารทำางานของกล้ามเน้ือแบบแอนตาโกนีซมึหรอืการ ทำางานของกล้ามเน้ือ 2
![Page 16: บทที่ 7€¦ · Web viewบทท 7 การเคล อนท ของส งม ช ว ต-----จงเล อกคำตอบท ถ กต องท ส ดเพ](https://reader033.fdocuments.net/reader033/viewer/2022060512/5f2b4296f9e7653bbf0a4e85/html5/thumbnails/16.jpg)
ชุด ในทางตรงกันขา้ม คือ ไสเ้ดือนดินซึ่งเริม่มี กล้ามเน้ือตามยาว (longitudinal muscle) และกล้ามเน้ือวง (circular muscle) -----------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------28. เฉลยขอ้ ข
เหตผุล ภาพตัดขวางของซเิลียและแฟลเจลลัม ประกอบด้วยหลอดไมโครทิวบูล 9 กลุ่ม ๆ ละ 2 ท่อ และตรงกลางอีก 2 ท่อ จงึมสีตูร 9+2-----------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------29. เฉลยขอ้ ก
เหตผุล เดือยของไสเ้ดือนดินกับทิวบฟ์ตีของดาวทะเล ทำาหน้าที่ในการเคล่ือนท่ี ของไสเ้ดือนดินและดาวทะเล สว่นเฟลมเซลล์เป็นอวยัวะขบัถ่ายในพยาธิ ตัวแบน
นีมาโตซสิต์เป็นอวยัวะของพวกซเีลนเตอเรตใชเ้ป็นอวยัวะในการต่อสูก้ับ ศัตรู หรอืใชจ้บัอาหาร เซลล์คอลลาเป็นเซลล์ที่มแีฟลเจลลาและปลอก อยูใ่นฟองนำ้า ทำาหน้าที่โบกนำ้าใหไ้หลผ่านชอ่งภายในลำาตัวของฟองนำ้า-----------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------30. เฉลยขอ้ ง
เหตผุล ปลาดาวมอีวยัวะเฉพาะทำาหน้าที่ควบคมุการเคล่ือนที่โดยอาศัยแรงดันนำ้า หรอืแรงดันไฮโดรสแตติก คือ ทิวบฟ์ตี ซึ่งต่อมาจากแอมพูลลาและ
มาดรโีพไรต์-----------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------31. เฉลยขอ้ ก
![Page 17: บทที่ 7€¦ · Web viewบทท 7 การเคล อนท ของส งม ช ว ต-----จงเล อกคำตอบท ถ กต องท ส ดเพ](https://reader033.fdocuments.net/reader033/viewer/2022060512/5f2b4296f9e7653bbf0a4e85/html5/thumbnails/17.jpg)
เหตผุล ปลาดาวเคล่ือนท่ีโดยใชท้ิวบฟ์ตีโดยใชน้ำ้าเป็นตัวขบัดันโดยไมใ่ช้ กล้ามเน้ือที่ทำางานแบบแอนตาโกนีซมึ-----------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------32. เฉลยขอ้ ง
เหตผุล อมบีามไีมโครฟลิาเมนต์มากมาย ทำาใหเ้อนโดพลาซมึไหลไปมาในเซลล์ ได้ และไมโครทบููล ทำาหน้าท่ีเกี่ยวกับการไหลเวยีนและขนสง่สาร โมเลกลุใหญ่ภายในเซลล์ จงึทำาให ้ Pseudopodia ยื่นออกไปได้-----------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------